The impossible "รักเธอเกินบรรยาย" - นิยาย The impossible "รักเธอเกินบรรยาย" : Dek-D.com - Writer
×

    The impossible "รักเธอเกินบรรยาย"

    เคยมีประโยคที่ว่า"ตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก"ไอริณก็เชื่อเช่นนั้น แต่เธอจะต้องตื้อเขาอีกนานเท่าไรล่ะกว่าที่คริสชายผู้ที่ใจร้ายกับเธอมาเสมอจะยอมใจอ่อน แล้วกว่าจะถึงวันนั้น...หัวใจเธอจะเปลี่ยนไปหรือป่าว

    ผู้เข้าชมรวม

    197

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    197

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  19 เม.ย. 52 / 21:56 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    การตัดใจหรือหันกลับจากความรักนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย...สำหรับคนที่เขาทำให้เราเจ็บอยู่เรื่อยมา   ความเจ็บนั้นมันไม่ได้ชะล้างใจให้ลบภาพเขาออกไปจากชีวิตแม้ว่าเราจะไม่เคยได้อยู่ในสายตาของเขาก็ตาม

    สามน้อยตาโตทอดสายตาผ่านหน้าต่างลงไปเบื้องล่าง   เขาที่เธอเฝ้ามองมาตลอด...ถ้าจะถามว่าท้อมั้ยที่ได้แต่เป็นฝ่ายที่รักโดยไม่เคยที่จะได้รับความรักตอบ   ก็ไม่อาจจะโกหกได้ว่าไม่ท้อ   เพียงแต่ความรักที่เธอมีให้เขานั้นมันมากพอที่จะรักเขาต่อไปไม่ว่าเขาจะใจร้ายและไม่สนใจความรักของเธอก็เถอะ

    ทุกวันทุกเวลาที่เฝ้ารัก...

    เจ็บทุกวันและเวลา...

    ยากนักที่จะร้องหา...

    คำว่ารักจากใจเธอ...

    ไอริณจับจ้องไปยังเป้าหมายเมื่อครู่และตัดสินใจวิ่งไปหาเขาก่อนที่เขาจะหาไปอีก

    คริส... เธอตะโกนเรียกเขาเสียงดังไม่หวั่นเกรงท่าทางรำคาญใจของชายหนุ่ม

    เขาเห็นไอริณตั้งแต่ที่เธอแอบมองเขาผ่านหน้าต่างลงมาจากบนห้องเรียนแล้ว...จึงพยายามเดินเลี่ยงออกมาจากสายตาเธอเพราะถ้าเธอเกิดตามเขามาทันล่ะก็   เขาต้องทนรำคาญกับลูกตื้อของยัยนี่อีกตลอดทั้งพักกลางวัน   แต่ความคิดไม่เร็วเท่าฝีเท้าของร่างบอบบางอย่างไอริณ

    ไปไหนอะ...รอเราด้วยสิ..ไอริณรีบวิ่งไปคว้าแขนของเขาไว้ก่อนที่เขาจะเดินหนีไปอย่างทุกที

    ปล่อย!!เขาหันมาตวาดใส่เธอและพยายามสลัดมือเธอออก...เขาเพียงแต่หวังว่าเธอจะทำหน้าจ๋อยและเดินจากไปแต่นั่นแหละ...เขาคิดผิด   ไม่ใช่เพียงแค่เธอไม่เดินจากไปแต่เธอกลับฉีกยิ้มกว้างส่งยิ้มหวานรับการกระทำของเขา   เขาน่าจะรู้ว่าการหยาบคายใส่เธอนั้นมันไม่ได้ผล...ก็มันเป็นอย่างนี้แทบจะทุกครั้งนี่นา

    เขาจะรู้มั้ยว่าเธอนั้นไม่เคยชินชากับการกระทำแบบนี้ของเขาหรอก...เธอน้อยใจและเสียใจกับท่าทีรังเกียจเธอของเขาเสมอ   ที่เธอทำน่ะเพียงแค่ยิ้มสู้เท่านั้นล่ะ

    ไปกินข้าวกันเถอะนะเธอยิ้มหวานให้เขาจนตาโตๆของเธอหยีเล็กลงเหลือสองขีด

    อย่าว่าแต่จะไปกินข้าวกับเธอเลย...แต่คุยกับเธออยู่ตอนนี้ฉันก็รำคาญจะแย่แล้ว   เลิกยุ่งกับฉันสักทีเถอะ!!เขาหันกลับมาตะคอกใส่   แต่เธอก็ยังยิ้มกว้างให้เขาอยู่เหมือนตอนแรก...ซึ่งมันทำให้เขาหงุดหงิด

    เมื่อเขาหันหลังกลับไปรอยยิ้มนั้นทั้งจืดและจางเรียกได้ว่าแทบจะหายไปในทันที...กี่ครั้งก็ไม่เคยชินสักทีกับคำพูดแบบนี้ทั้งๆที่ทุกทีที่เธอเข้าใกล้เขามันก็ไอ้คำพูดเดิมๆทั้งนั้น

    รำคาญงั้นหรอ...

    สรุปว่าวันนี้คริสก็อดข้าวกลางวันไปโดยปริยาย   พอคิดที่จะไปโรงอาหารตัวน่ารำคาญสำหรับเขาก็มาทำให้เขาหงุดหงิดจนไม่อยากทำอะไร

    ให้ตายสิ...หิวชะมัด

    เขาเดินตรงกลับห้องเรียนทันทีที่หลบไอริณออกมาได้...เขาสังเกตุเห็นกล่องใบใหญ่สี่เหลี่ยมวางอยู่บนโต๊ะนักเรียนมีโน้ตใบเล็กๆแนบไว้

    ช่วยกินมันหน่อยแล้วกันนะ...คงไม่ฝืนใจนายมากเกินไปหรอกใช่มั้ย

    คริสจำลายมือนี้ได้ดีเชียวล่ะ...เขาหันไปสบตากับไอริณที่แอบมองเขาอยู่ผ่านหลังดิวเพื่อนสนิทของเธอ...เขาเปิดมันออกทำให้ไอริณเริ่มใจชื้นขึ้นมาแต่แทนที่เขาจะกินมันเขากลับเดินไปที่ถังขยะหลังห้องและเทมันทิ้งอย่างไม่ใยดี

    ดิวเห็นเหตุการณต่างๆมาตลอดหนึ่งปี   ตั้งแต่ที่เธอเพิ่งจะย้ายเข้ามาเรียนโรงเรียนนี้ตอนม.ปลายด้วยทุนเรียนดีเพื่อนในห้องก็ต่างรังเกียจที่จะเป็นเพื่อนกับเธอเพราะเธอฐานะยากจนและมาจากบ้านนอก   ก็มีไอริณเนี่ยแหละที่นับเธอเป็นเพื่อนแล้วยังหาเพื่อนใหม่ให้เธอด้วยอีกหนึ่งคนคือโตโต้...เพื่อนรักที่ทำให้เธอรู้จักคำว่ารักเพื่อนในทันทีที่รู้จักเขา   ไอริณเป็นคนที่ป๊อบปูล่าในหมู่เพื่อนเพราะเธอทั้งสวยและรวยถือเป็นดาวโรงเรียนก็ว่าได้แต่ที่มากกว่านั้นก็คือเธอเป็นคนนิสัยดี...ดิวไม่เขาใจว่าทำไมคริสถึงใจร้ายกับไอริณนักทั้งๆที่ไอริณก็เพียบพร้อมถึงเพียงนี้   ดิวลูบมือไอริณเบาๆเพื่อเป็นการปลอบใจ   ไอริณไม่ได้เพิ่งจะเริ่มมารักคริสเมื่อปีที่แล้วเหมือนที่ใครหลายๆคนเข้าใจแต่เธอรักเขามานานแล้วตั้งแต่ม.ต้น   ตั้งแต่พวกเขายังไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันหรือแม้แต่ยังไม่ได้รู้จักชื่อของเขาเลยด้วยซ้ำ   แต่คริสเริ่มเกลียดและก็รำคาญเธอเมื่อไรนั้นดิวก็รู้ดีอีกเช่นกันมันเริ่มตั้งแต่ปีที่แล้วที่ไอริณประกาศก้องว่าจะต้องเป็นแฟนของคริสให้ได้   เพื่อนในห้องหลายคนรวมทั้งคริสต่างลงความเห็นว่ามันเป็นรักแรกพบ   โตโต้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทคริสมาตั้งแต่เด็ก   แอบมากระซิบบอกกับดิวว่า   คริสเกลียดไอริณไม่ใช่เพียงแค่เธอทำให้เขาขายหน้าแต่เขาเกลียดคำว่ารักแรกพบที่สุดเพราะมันดูเสแสร้ง   ไม่มีใครรักใครได้อย่างจริงจังเพียงแค่เพิ่งพบหน้ากันครั้งแรกได้หรอก   โตโต้ไม่เคยรู้หรอกว่าไอริณน่ะมองคริสตั้งแต่ม.1แล้วด้วยซ้ำและแน่นอนคริสก็คงไม่รู้เช่นกัน

     

    หลังจากที่คริสทิ้งข้าวกล่องนั้นไป   เขาก็ต้องมานั่งเสียดายทีหลังไม่ใช่เพราะเขาเกิดเปลี่ยนใจพิสวาสไอริณขึ้นมา   แต่ท้องของเขานี่สิที่มันทรยศประชดการกระทำมันกระหน่ำเสียงร้องชวนให้เจ้าตัวต้องมานั่งอับอายเพื่อนๆ   แต่เขาก็นั่งอยู่ได้ไม่นานโตโต้สะกิดเขาเบาๆจากด้านหลัง   เขาหันไปมองเพื่อนสนิทอย่างสงสัย   โตโต้แอบยื่นขนมปังให้เขาจากทางใต้โต๊ะพร้อมมีโน้ตพ่วงมาด้วย

    ท้องแกดังยังกับระเบิดสงครามโลก   เอาไปกินข้างนอกซะ

    เขาหันไปยิ้มขอบใจเพื่อนโดยที่ไม่รู้เลยว่าเจ้าของไอ้ขนมปังตัวจริงนั้นคือคนที่เขาเกลียดมากที่สุด   ไอริณเพียงแค่ชำเลืองมองคริสอย่างเป็นห่วง   เธอกลัวว่าถ้าเขารู้ว่ามันมาจากเธอแล้วล่ะก็จะไม่ยอมแตะต้องมันแน่นอน   เธอไม่อยากให้เขาต้องท้องร้องไปทั้งชม.หรอกนะ

    ริณไม่เจ็บบ้างหรอดิวที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้น...แต่ตัวเธอเองก็เจ็บไม่แพ้กันเลยถึงแม้จะไม่ได้ถูกโตโต้ผลักไส...แต่เธอก็ทำหน้าที่ได้แค่เป็นเพื่อนที่ดีที่ไม่คิดจะรักเพื่อน

    เจ็บสิ...แล้วจะทำไงได้ล่ะ...ก็เขาไม่รักหนิไอริณฟุบหน้าลงไปกับต๊ะเรียนขณะที่คริสเพิ่งจะขออนุญาตอาจารย์ออกจากห้องไป

    เธอสัญญากับตัวเองตั้งแต่ตัดสินใจที่จะเปิดเผยใจตัวเองให้เขารู้ว่าถึงแม้จะต้องเจอกับอะไร...ต้องเจ็บอีกเท่าไรก่อนที่จะได้รับความรักจากเขา   เธอจะไม่มีวันที่จะร้องไห้เพราะคิดว่าการร้องไห้นั้นมันหมายถึงการพ่ายแพ้   มันหมายความว่าเธอยอมแพ้

    ไม่ว่าจะใจร้ายใส่แค่ไหนเธอก็มักจะยิ้มรับ...เพียงเพื่อหวังว่าสักวันเค้าจะยอมใจอ่อนกับรอยยิ้มนั้น

    ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนเมื่อไรเธอก็จะรอ...เพียงเพื่อหวังว่าจะให้เขาได้เห็นหน้าเธอในทุกๆที่

    ไม่ว่าจะนานแค่ไหน...เพียงเพื่อให้เธอเปลี่ยนใจ...ยังไงฉันก็จะรอ

    เมื่อก่อนจะคิดอย่างนี้เสมอๆ   แต่ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะยังเป็นแบบนั้นอยู่หรือปล่าว   จะยังทนกับคำพูดที่เหมือนน้ำกัดเซาะก้อนหินอยู่ทุกวี่วันได้หรือไม่

     

    วิชาพละศึกษา

    ไอริณไม่รู้ว่าควรจะเสียใจหรือดีใจดีที่ได้เป็นเวรดูแลอุปกรณ์คู่กับคริส   ดูเขาออกจะรำคาญใจในการรับหน้าที่นี้ทั้งๆที่ผู้ชายคนอื่นทั้งเต็มใจและยินดีที่จะรับหน้าที่แทนเขา   เรื่องนี้คริสไม่เคยรู้หรอก   เขาไม่เคยจะสนใจเรื่องที่เกียวกับไอริณ

    ฉันไม่โกรธหรอกนะที่นายทำเมื่อตอนพักเที่ยงน่ะเธอเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบในห้องเก็บอุปกรณ์นั้น

    แล้วมาบอกฉันทำไม...ถ้าฉันกลัวเธอโกรธฉันคงไม่ทำมันหรอกไอริณพยายามมองหาแววตาที่ล้อลเนจากชายหนุ่ม   แต่...มันว่างปล่าว

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น