ความรัก กะ ชีวิต

เนื้อเรื่อง

          

ความรัก กับ ชีวิต

     ความรัก เป็นสิ่งที่มีอนุภาพใหญ่ยิ่งในสากลโลก ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ชายหรือหญิง ทุกคนต่างต้อการความรักด้วยกันทั้งนั้น เพราะความรักเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความสุข ความคิดริเริ่ม สร้างรรค์ มีพลัง มีความมานะพยายาม ความสำเร็จลัอื่น ๆ อีกมากมายหลายอย่างตามมา

       ถ้า ผู้ใดสูญเสียความรักไป ชีวิตของผู้นั้นก็จะหมดความหมายทั้งความคิด จิตใจกับร่างกายจะเสื่อมลง  หน้าที่การงานก้พลอยได้รับความกระทบกระเทือนไปด้วย อนาคตก็ต้องมืดมน เขาจะเกิดความเบื่อหน่ายต่อชีวิตจ บางคนถึงกับฆ่าตัวตาย นี่เป้นผลของการสูญเสียความรัก  ซึ่งเราเห็นบ่อย ๆ ที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ ทางวิทยุ หรือทางโทรทัศน์

       เรา ดีใจที่โลกนี้ยังมีความรักอยู่มาก แต่ถ้าปราศจากความรักเสียแล้ว โลกทั้งโลกก็คงมีแต่ความสับสนวุ่นวาย ไร้ความสุขและความปลอดภัยซึ่งพระครีสตธรรมคัมภัร์ 1       โครินธ์ 13:3 กล่าวว่า " แม้ข้าพเจ้าจะสละของสารพัดหรือยอมให้เอาตัวข้าพเจ้าไปเผาไฟเสีย แต่ไม่มีความรัก จะหาเป็นประโยชน์แก่ข้าพเจ้าไม่ "

     ความรัก บางครั้งเราก็ให้ความหมายที่คลุมเลือไม่ชัดเจน เนื่องจากว่าเรานำไปใช้กับใครหรือกับอะไรก็ได้ หรือแม้แต่กับทรัพย์สมบัติพัสสถานดังนั้นเราจึงไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า  ความรัก  ในภาษาต้นฉบับของพระคัมภีร์ได้ให้ความหมายที่ชัดเจนและน่าสนใจคือความรักแบบ  อากาเป  อากาเป เป็นความรักที่มีความหมายไปในทางเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นต้นการที่จะให้ความช่วย้หลือเกื้อกูลผู้อื่นอยู่เสอมเป็นความรักที่ไม่เห็นแก่ตัวฝ่ายเดียว และม่ต้องการที่จะได้อะไร  เป็นเครื่องตอบแทน และความรักอากาเปนี้ ยังเป็นความรักที่ยอมเสียสละได้แม้กระทั่งชีวิตดังที่พระธรรมโรมบทที่ 5:6-8  ได้บันทึกเรื่องความรักที่เสียสละ " ขณะเมื่อเรายังขาดกำลังพระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อช่วยคนบาปในเวลาที่เหมาะสม  ไม่ใคร่จะมีคนอาจตายเพื่อคนดีก็ได้แต่พระเจ้าทรงสำแดงความรักของพระองค์แก่เราทั้งหลาย คือขณะที่เรายังมีคนบาปอยู่นั้น พระคริสต์ได้ทรงสิ้นพระชนมืเพื่อเรา "

     ท่าน ที่รักความรักที่เสียสละตามที่กล่าวมานี้ไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นเองได้ หรือสามารถเสาะแสวงหามาจากที่หนึ่งที่ใดได้ แต่เป็นความรักที่พระเยซูครัสต์ได้มอบให้แก่มวลมนุษย์ทุกชนชาติทุกภาษาในโลกนี้ และเป็นความรักที่มวลมนุษย์เองก็ต้องการที่จะมีความรักนี้ ตามบันทึกไว้ในพระธรรม  1  โครินธ์ 13:4-8; เยเรมีย์ 31:3

" ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ความรักไม่อิจฉา  ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว  ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด  แต่ชื่นชายินดีเมื่อมีการประพฤติชอบ  ความรักทนได้ทุกอย่าง แม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดี  ของเขาอย่าเสอม  และมีความหวังอยู่เสอม และทนต่อทุกอย่าง ความรักไม่มีวันสูญสิ้น ... เราได้รักเจ้าด้วยความรักนิรันดร์  เพราะฉะนั้นเราจึกมีความรักมั่นคงต่อเจ้าสืบไป "

  ท่านที่รักท่าสามารถที่จะรับความรักเช่นนี้ได้ด้วยการอธิฐานต่อองคพระเยซูดังนี้

       " ข้าแต่พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด พระเจ้าผู้ทรงเต็มเปี่ยมไปความรัก ความเมตตา ข้าพระองค์ยอมรับกับ พระองค์ว่า ข้าพเจ้าเป็นคนบาปขาดความรัก ที่แท้จริงมาจากพระองค์ โปรดยกโทษความผิดบาปและล่วงละเมิดทั้งหมดของเจ้าพระองค์ เวลานี้ ข้าพระองค์ขอเปิดใจออกต้อนรับพระองค์เข้ามาเป็นพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดในชีวิตของข้าพระองค์ ทรงโปรดประทานความรักนิรันดร์ของพระองค์ให้แก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด ข้าพระองค์อธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์เจ้า    อาเมน " 

   ถ้า ท่านได้เปิดใจของท่านอธิษฐานด้วยความจริงใจพระเยซูคริสต์ได้เสด็จเข้าประทับในชีวืตของท่านแล้วตามพระสัญญาของพระองค์ที่ตรัสไว้ในพระธรรมยอห์น 1:12 ว่า

  " แต่ส่วนบรรดาผู้ที่ต้อนรับพระองคื  ผู้ที่เชื่อในพระนาทของพระองค์  พระองค์ก็ประทานสิทธิ  ให้เป็นบุตรของพระเจ้า "