คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : First+ 3 หวง 100%
First 3
"หวง"
ทักทายเน้อออ ครั้งนี้ใจดีอัพต่อให้หนึ่งตอนเต็ม555
ตอนนี้ชานยอลใจร้ายมาก(อยากเตะแล้วตบด้วยปาก)(?)
เกือบแล้วๆ ตอนนี้เกือบเรทแล้ว5555 (ยังๆรอไปก่อน)
และแล้วก็ได้เปิดตัวละครตัวใหม่เอี่ยมอย่างอาเทา
ที่เขาจะมาเดินป้วนเปี้ยนละลายใจอยู่เรื่อยๆ555
ขอบคุณที่ติดตามฟิคเรื่องนี้กันนะคะ
1คอมเม้น มันคือกำลังใจให้ไรเตอร์น้าาาา
-------------------------------------------------------------
“ง่วง@___@” ผมนั่งฟุบโต๊ะเรียนขณะที่อาจารย์กำลังสอนไรอยู่ไม่รู้
“เฮ้ยแบค มึงอย่าพึ่งนอนดิ” คยองซูเพื่อนสนิทของผมสะกิด
“งืม ก็กูง่วงงงงงงงง” ผมบ่นงึมงำแล้วก็นอนต่อ
“มึงไม่สบายป่ะเนี่ย” อีกคนถามด้วยความห่วงใยแล้วเอามือมาแตะที่หน้าผากผมเบาๆ “ตัวมึงร้อนนะแบค”
“อืมม กูปวดหัวนิดหน่อยอ่ะ สงสัยเป็นไข้” ผมตอบพร้อมฟุบหน้านิ่ง ไอ้อาการปวดหัวหนึบๆนี่มันน่ารำคาญจริงๆเล้ยยย
“ตื่นโว้ยยยยยยยย” หนังสือประมาณสามเล่มถูกปล่อยให้ดิ่งลงสู่หัวผมอย่างจัง
และคนที่ทำก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
ไอ้จงอิน- -!!!
“โว้ยยย เจ็บนะเฟร้ยยยย” ผมเงยหน้าขึ้นโวยวายใส่ไอ้ดำนั่นทันทีแล้วก็ก้มลงไปหลับต่อ
“ก็ตื่นดิวะ-0-” จงอินเดินมาตบหัวผมอีกครั้ง “อาจารย์ออกไปตั้งนานแล้วมึงเอ้ยยยย”
“อ้าวหรอ” ผมลืมตาขึ้นมางัวเงีย เออว่ะ ในห้องเหลือแค่ผม คยองซูแล้วก็จงอิน ไม่ต้องสงสัย คลาสนี้ไอ้ยอลมันเรียนอีกห้องนึงน่ะ ผมเลยอยู่กับสองคนนี้- -
“ไปกินข้าวกันเถอะมึงงง” โด้ลากผมให้ลุกขึ้นจากโต๊ะโดยมีไอ้ไคเดินนำไปที่โรงอาหาร
.
.
.
“กรี๊ดดดดด”
เสียงกรี๊ดดังไปทั่วโรงอาหารพร้อมกับกลุ่มคนที่ยืนมุงอะไรกันอยู่ไม่รู้
“อะไรกันวะ” ไคเดินไปดูคนแรกตามด้วยผมกับโด้
“ยอล...พี่ชอบยอลนะครับ” หนุ่มฮอตของคณะนามว่า ‘คริส’ กำลังคุกเข่าอยู่ด้านหน้าใครบางคนพร้อมช่อดอกไม้สีขาวช่อใหญ่เท่าช้าง
“หูยย พี่คริสแม่งให้ใครวะ น่าอิจฉาเว่อร์” โด้ทำตาเหลือก(ทั้งๆที่เหลือกอยู่แล้ว55555)
“นั่นดิ ใครวะ” ผมหายง่วงทันทีเมื่อมีเรื่องให้เจือก สองเท้าพยายามเขย่งดูแต่ไม่เป็นผล คนมุงดูกันเยอะเกินไป (หรือผมเตี้ย- -)
“กูรู้และมึง” ไคหันมาทำหน้าทำตาตื่นเต้นหลังจากยืนกระโดดๆอยู่ซักพัก
“ใครวะๆๆ” โด้วิ่งเข้าไปเกาะแขนไคแล้วถาม
“ไอ้ชานยอลเว้ย! พี่คริสแม่งสารภาพรักกับไอ้ยอล”
ฮะ...ชานยอลอ่ะหรอเหลือเชื่อ!!
อย่างมันเนี่ยนะคู่กับพี่คริส??
แต่ไปๆมาๆ คู่กับพี่คริส...ก็ดีแล้วนี่หว่า...
“เฮ้ยจริงดิO__O!! พี่คริสที่หล่อแล้วฮอตขนาดนั้นแม่งชอบชานยอลอ่อวะ ไอ้หูกางเนี่ยนะ!?” โด้พูดด้วยความเหลือเชื่อ
“นั่นดิ มึงงงเหมือนกูมั้ยโด้ที่รัก55555” ไอ้ไคแกล้งเอามือไปโอบไหล่โด้อย่างฉวยโอกาส
คู่นี้ก็...หวานเกิน555555
“กูงงอยู่เนี่ย55555” โด้หน้าแดงแล้วตีแขนไคเบาๆ “อ่าวแบค มึงเป็นไรวะ ทำไมเงียบๆ”
“ป..ปล่าว กูกำลังอึ้งอยู่อ่ะ55555 เพื่อนกูขายออกแล้วไง อะไรประมาณนั้น” ผมตอบตะกุกตะกัก
นั่นสิ..ผมเป็นอะไรของผมวะ- - ทำไมต้องรู้สึกเหมือนทำอะไรไม่ถูก หัวมันโล่งๆไงไม่รู้
สงสัยจะดีใจเกินไป
“อ่อ55555 ได้ข่าวว่ามึงไม่เคยมีแฟนใช่ป่ะ มึงรีบหาดิแบค555” ไคพูดแซว แหมไอ้ไค ถ้ากูมีได้กูมีไปนานแล้วค่ะ=____=
“ไม่อ่ะ กูชอบอยู่คนเดียวมากกว่า- -“
“ให้จริงเห้ออออ เนอะโด้เนอะ” อีคู่นี้ก็จีบกันอีกละแม่งงงงงง ผมทำท่าจะอ้วกแล้วเดินออกจากวง
ทำไมผมต้องอารมณ์เสียด้วยวะ!!
.
.
.
รู้ตัวอีกที ผมก็มาโผล่อยู่ที่เกมส์เซ็นเตอร์เรียบร้อย...
ความจริงภาคบ่ายผมมีเรียนนะ แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมโดดเรียนเฉย โดยผมบอกโด้กับไคว่า
‘กูไม่สบายว่ะ กลับบ้านก่อนนะ ฝากบอกไอ้ยอลด้วย’
ก็มันจริงนี่หน่า ผมไม่สบายจริงๆ แค่ดีขึ้นแล้วเท่านั้นเอง555555
ตอนนี้ตอนบ่ายๆที่ร้านไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่ผมเลยเล่นได้อย่างสบายใจ เล่นนู่นเล่นนี่อยู่ครึ่งชั่วโมงแล้วผมก็เดินกลับบ้าน
“นี่...พี่แบคฮยอนป่ะ?” ใครซักคนเดินเข้ามาทักผมขณะที่ผมกำลังเดินเหม่ออยู่ข้างถนน ผมหันมองตามเสียงเรียกก็พบชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งอยู่ในชุดเสื้อยืดสบายๆกับกางเกงยีนที่ขาดเล็กน้อยตามแฟชั่น คนๆนั้นค่อยๆเลื่อนแว่นตาดำที่ใส่อยู่ออก นั่นทำให้ผมรู้ทันทีว่าเขาคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือ...
“อาเทาO_O” ผมตกใจแทบหงายหลังเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าคือรุ่นน้องที่เคยเรียนด้วยกันที่อเมริกา เขาเป็นรุ่นน้องผมหนึ่งปีแต่เราก็สนิทกันมากๆเพราะเคยอยู่ชมรมเดียวกัน
“เฮ้ยพี่แบคจริงๆด้วยอ่ะ มาอยู่นี่ได้ไง!?” อาเทาเดินเข้ามากอดผมดังหมับด้วยความคิดถึง ผมเลยกอดน้องเขาตอบ กลายเป็นเรากอดกันกลมอยู่ริมถนนน่ะ5555
“พี่มาเรียนต่อน่ะ แล้วนายอ่ะ มาโผล่เกาหลีได้ไงเนี่ย แล้วไม่มีเรียนหรอ*0*” ผมถามด้วยความตื่นเต้นเมื่อได้เจอคนรู้จัก
“อ๋อ ผมมอยู่ที่นี่ซักพักอ่ะ พ่อดีครอบครัวมีธุระที่นี่ผมก็เลยดร็อปเรียนไว้ก่อน”
“โอ้ งั้นนายก็ว่างไปปีนึงเลยอ่ะดิ”
“ใช่ฮะ5555” อาเทายิ้มเจื่อน “แล้วนี่พี่ไม่มีเรียนหรอ?”
“โดดเรียนมาน่ะ555555555” ผมหัวเราะแก้เขิน(?)
“งั้นดีเลย ผมว่างอยู่พอดี เดี๋ยวไปส่งบ้านเอาป่ะ^[++++]^” เทายิ้มแฉ่งจนเห็นฟันเกือบครบทุกซี่
“จริงอ่ะ เอาดิ>[]<”
และแล้วผมกับอาเทาก็เดินกันมาจนเกือบถึงหน้าบ้านแต่แม่เขาดันเรียกตัวซะก่อนน้องชายตัวสูงก็เลยขอตัวกลับ ผมเลยต้องเดินคนเดียวและตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้ว แต่ใช้เวลาไม่นานผมก็ถึงหน้าบ้าน
เชี่ยละ...
กุญแจบ้านอยู่ที่ชานยอล=_____=;
เอาไงดีล่ะ จะปีนรั้วก็กะไรอยู่เพราะรั้วแม่งโคตรสูงเลยถ้าผมตกลงมานี่ตายได้เลยนะเนี่ย- -
ผมไม่รู้จะทำยังไง จะโทรไปหาไอ้ยอลก็นึกขึ้นได้ว่าผมลืมเอามือถือมาวันนี้เลยต้องจำใจนั่งลงกับพื้นหน้ารั้วบ้าน...น่าอนาถป่ะล่ะ บ้านตัวเองแท้ๆแต่เข้าไม่ได้TT_TT
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆจนผมต้องนั่งกอดเข่าตัวเองเพื่อเพิ่มความอบอุ่น รอบตัวมีแต่ความมืดและลมที่พัดเอื่อยๆ ทำไมไอ้บ้าชานยอลมันไม่กลับบ้านซักทีนะ หรือมันอยู่กับพี่คริส?... เหอะ พอได้แฟนแล้วก็ลืมเพื่อน!
“ไอ้แบค!!!!!” เสียงทุ้มคุ้นหูดังมาจากไหนไม่รู้ ผมยืนขึ้นและพยายามมองผ่านความมืดเพื่อหาว่าไอ้คนที่เรียกนั่นมันอยู่ไหน ไม่นานผมก็เห็นร่างของชานยอลวิ่งเข้ามาเรื่อยๆจนหยุดอยู่ตรงหน้าผม ร่างสูงยืนหอบอยู่นานมากแล้วหันมาจ้องหน้าผมตาเขียวปั้ด
“มึงหายไปไหนมา!!” ไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรชานยอลก็ถลาเข้ามาจับไหล่ผมทั้งสองข้างแล้วกระชากแรงๆจนผมรู้สึกเจ็บ สายตาที่ชานยอลมองผมมามันมีแต่ความโกรธ....มาโกรธอะไรผมล่ะ ผมสิต้องเป็นคนโกรธมันอ่ะ!
“อะไรของมึง!” ผมสะบัดมือมันออกจากไหล่ตัวเอง มันดูตกใจนิดๆแล้วถอนหายใจ
“ก็มึงโดดเรียนคาบบ่ายแล้วมึงหายหัวไปไหน นี่ก็มืดแล้วทำไมมึงอยู่หน้าบ้านฮะ!” ร่างสูงเริ่มดูหัวเสียแล้วตะโกนใส่หน้าผม
“ก็กูไม่สบายก็เลยกลับมาก่อนไง!” ผมเลยตะโกนกลับ เหอะ ไม่มีทางที่มันจะได้ตะโกนใส่หน้าผมคนเดียวหรอก คนอะไรพอมาถึงก็ไม่ฟังซักคำมัวแต่ด่าๆๆ - -
“แล้วทำไมมึงไม่บอกกูฮะ!!” เหมือนว่าเรื่องของเรามันจะไปจบง่ายๆ ชานยอลที่ไม่รู้โกรธอะไรมาขึ้นเสียงใส่ผมเป็นสองเท่า ทำเอาคนอย่างผมสะดุ้งบ้างแหละ ตั้งแต่อยู่กับมันมาเคยเห็นมันโมโหซะที่ไหนล่ะ
“ก็เห็นมึงพลอดรักกับพี่คริสอยู่ กูไม่อยากเข้าไปขัด ชัดป่ะ!!!” ไม่รู้อะไรทำให้ผมพูดไปอย่างนั้น แต่ที่รู้ๆชานยอลเงียบไปเลย เหลือแต่สายแต่ที่มองมาที่ผมอย่างไม่เข้าใจ ผมพูดแบบนั้นไป มันเหมือนคนกำลังน้อยใจรึเปล่าเนี่ย
“ก็ตอนกลางวันกูกะจะบอกมึงอ่ะ มึงหายหัวไปไหนล่ะ!? พอกูไปโรงอาหารก็เห็นมึงพลอดรักกับพี่คริสอยู่ มึงคิดว่ากูอยากเข้าไปขัดจังหวะมึงหรอฮะ!! แล้วมึงก็เล่นกลับซะดึกดื่นแบบเนี้ยไปอยู่กับพี่คริสมาสิท่า” ได้ทีผมก็ใส่เข้าไปเต็มๆ ผมแย่งกุญแจบ้านจากมือชานยอลแล้วรีบเปิดรั้วเดินเข้าไปในบ้านทันที ไอ้ชานยอลที่ยืนเอ๋ออยู่ซักพักก็วิ่งตามเข้ามา
“มึงเข้าใจผิดนะ!” ร่างสูงเดินเข้ามากระชากมือผมไว้ก่อนที่ผมจะเดินเข้าห้องตัวเอง
“แล้วมึงไปไหนมาล่ะ!” ผมหันไปมองชานยอลอย่างไม่สบอารมณ์ จากที่โมโหเฉยๆตอนนี้ผมเริ่มจะโกรธละ
“กูก็ไปตามหามึงไง!!”
“?!”
“พอไอ้ไคมันบอกกูว่ามึงไม่สบายกลับบ้านมาก่อนพอเลิกเรียนกูก็รีบออกมาตามหามึงเลย แต่พอมาถึงหน้าบ้านมึงก็ไม่อยู่ พอกูขับรถไปตามในเมืองกูก็เห็นมึงกอดกับผู้ชายที่ริมถนนไง เหอะ ที่แท้มึงก็โดดเรียนมาหาแฟนมึงนี่เอง!!” ชานยอลยิ้มแบบร้ายกาจมาให้ ผมไม่คิดเลยว่าผมจะได้เห็นชานยอลในอารมณ์แบบนี้ แตกต่างจากคนที่ผมเคยรู้จักมาก สองมือมันกำหมัดแน่นเพื่อระบายอารมณ์
“นั่นมันเพื่อนกู” ผมเริ่มใช้อารมณ์ให้น้อยลงเมื่อรู้สึกว่าเราเริ่มทะเลาะกันแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วมันอาจไม่ใช่เรื่องดีซักเท่าไหร่เพราะยังไงเราก็อยู่บ้านเดียวกัน
“เหรอ เพื่อนที่ได้กันแล้วสินะ” ชานยอลบีบมือผมแรงมากจนต้องร้องโอ้ยออกมา ผมเงยหน้าขึ้นจ้องหน้ามันอย่างไม่วางตา ถ้าทำได้...ผมคงต่อยมันไปแล้ว
“กูบอกว่าเพื่อนก็เพื่อนดิวะ”
“เหอะ...กูว่าไม่” ชานยอลเลื่อนสายตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยิ้มหยั่น
ผลั่วะ!!
ผมจัดการประเคนหมัดใส่หน้ามันทีนึง มันจะหยามกันมากเกินไปแล้ว...
“มึงต่อยกูหรอ??” ชานยอลดูโกรธขึ้นไปอีก เขาใช้นิ้วปาดเลือดที่มุมปากตัวเองเบาๆก่อนจะมองผมอีกครั้ง
“เออ! คิดว่าคนอื่นเป็นเหมือนมึงหรอไง กูกับอาเทาเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็กไม่มีทางทำเรื่องบัดซบอย่างงั้นแน่!” ผมตัดสินใจสะบัดมือข้างนึงที่ถูกพันธนาการจากชานยอลออกแล้วหันหลังเดินเข้าห้อง แต่อีกคนดันคว้าแขนผมไว้ก่อน
“หึ...มึงกล้ามากนะแบคฮยอน” ชานยอลออกแรงดึงให้ผมเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนแล้วออกแรงดันให้ผมติดกำแพงห้อง
“ม..มึงจะทำอะไร!!!” ผมดิ้นไม่หยุดในขณะที่ชานยอลจัดการรวบมือทั้งสองของผมให้ติดกับกำแพง
“ก็ที่เรื่องบัดซบอย่างที่มึงว่าไง!”
“!!?” ผมเบือกตากว้าง ชานยอลมันต้องผีเข้าไปแล้วแน่ๆ
“มึงชอบไม่ใช่เหรอ หึ” ร่างสูงจัดการฝังริมฝีปากตัวเองเข้ากับต้นคอผมทันที ผมพยายามโวยวายและดิ้นจนสุดแรงแต่ก็ไม่เป็นผล แรงของผมสู้แรงของคนตัวใหญ่ไม่ได้เลย..
“ชานยอล มึงปล่อยกูนะ หยุด!! ไอ้เหี้ยย กูบอกให้หยุด!!!!” ผมพยายามขัดขืนมันแต่กลับได้มาซึ่งความเงียบงัน ชานยอลเหมือนโดนผีเข้า ผมไม่รู้มันโกรธอะไรผมนักหนาถึงต้องทำขนาดนี้ ทั้งๆที่มันเลือกจะอยู่กับพี่คริสเอง!
“ชานยอล มึงบ้าไปแล้วหรอ ปล่อยกูเดี๋ยวนี้!!!” ผมร้องลั่นอีกครั้งเมื่อลิ้นร้อนค่อยๆระดมเลียไปทั่วคอผม ชานยอลรวบมือสองข้างของผมไว้ด้วยมือหนาๆของมันแค่ข้างเดียวแล้วมืออีกข้างนึงของมันก็ค่อยลูบไปตามเอวบาง
“ฮือ ชานยอล ปล่อยกูเถอะ” ผมเริ่มน้ำตาคลอเบ้าด้วยความกลัว ผมทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ ได้แต่ปล่อยให้น้ำตามันไหลไปตามแก้ม
“หุบปาก!” ร่างสูงตะคอกโดยไม่มองหน้าอีกคนแต่กลับเริ่มขบเม้มที่คอขาวจนเป็นรอยแดงไปทั่ว ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นริมฝีปากบางแทน ร่างใหญ่บดเบียดร่างเล็กอย่างไม่ปราณีแม้จะได้ยินเสียงร้องขออ้อนวอนเขามากเท่าไหร่ มันไม่สามารถดึงเขาให้กลับมาจากห้วงนี้ได้อีกแล้ว ชานยอละครอบครองริมฝีปากของผมอย่างเอาแต่ใจผมพยายามปิดปากแน่นไม่ให้มันล่วงล้ำเข้ามาได้แต่มันดันกัดปากผมแรงจนเผลอเผยอริมฝีปาก และนั่นก็เป็นการเปิดทางให้ไอ้สารเลวนั่นสอดลิ้นเข้ามากอบโกยสิ่งที่มันต้องการ มืออีกข้างนึงของมันอยู่ๆก็เลื่อนเข้ามาในเสื้อของผมแล้วลูบไปตามแผ่นหลังทำเอาผมสะดุ้ง
กูเกลียดมึง...ชานยอล!!
ด้วยความที่ผมไม่สบายแล้วพึ่งนั่งตากลมและความหนาวมาทำให้ผมรู้สึกเพลียมาก สมองผมเริ่มตื้อคิดอะไรไม่ออก หนังตารู้สึกหนักอย่างบอกไม่ถูกทำให้ผมต้องหลับตาลงเบาๆ...ทำไมตัวผมมันหนักอย่างนี้นะ.
.
.
.
.
.
.
.
.
ทำไมตัวมันร้อนอย่างนี้วะ...
ฝ่ามือของผมที่ไล้ไปตามแผ่นหลังของแบคฮยอนชะงักค้างเมื่อสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่ร้อนผิดปกติ ผมผละริมฝีปากออกจากปากอีกคน และก็ได้พบว่าแบคฮยอนตอนนี้หน้าซีดมาก สภาพคนตัวเล็กเหมือนไม่ได้สติ ตาทั้งสองข้างหลับพริ้ม ผมเริ่มกลัวแล้วเอื้อมมือไปแตะที่ข้างแก้มคนตรงหน้า แล้วคนที่หน้าซีดกลับเป็นผมเอง
“เฮ้ย แบคฮยอน!...แบค!” ผมเขย่าร่างเล็กเบาๆก่อนจะรู้ว่าคนตรงหน้าผมหมดสติไปแล้ว
“โถ่เว้ย!!!!!” ผมสบถอย่างหัวเสียก่อนรีบอุ้มอีกคนไปวางไว้ที่เตียงนอนของเขา ผมทำบ้าอะไรลงไปวะ!
ผมได้แต่นั่งมองร่างเล็กที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงตามคอมีรอยที่เกิดจากผมอยู่เต็มไปหมด ใบหน้าขาวซีดที่ยังมีคราบน้ำตาให้เห็น ผมไม่รู้ว่าผมเกิดบ้าอะไรถึงทำแบบนั้นลงไป ผมไม่รู้ว่าผมโกรธอะไรแบคถึงได้พูดอะไรโง่ๆออกไป...
ผมรู้แค่ว่าตั้งแต่ที่ไอ้ไคมันบอกผมว่าแบคไม่สบาย กลับบ้านไปก่อนแค่นั้นก็ทำให้ผมเป็นห่วงมันแทบบ้า พอเลิกเรียนผมก็รีบตรงดิ่งไปที่บ้านแต่ก็พบกับความว่างเปล่า... ผมขับรถวนหามันไปรอบเมืองและในที่สุดผมก็เจอ...เจอมันกอดกับผู้ชายที่ไหนไม่รู้อยู่ริมถนน... แค่นั้นก็ทำให้ผมแทบบ้าได้อีกครั้งแล้ว ผมตัดสินใจเข้าผับแล้วไปกินเหล้าย้อมใจนิดหน่อย แต่ก็ดันบังเอิญเจอพี่คริสพอดีพี่คริสก็เลยขับรถมาส่งผมหน้าปากซอยบ้านเนื่องจากเห็นว่าผมเมามาก แต่พอผมได้เห็นว่าแบคฮยอนนั่งอยู่หน้าบ้านเท่านั้นแหละอาการเมาของผมก็หายไปหมด เหลือแต่ความดีใจ ที่เห็นร่างเล็กกลับมาบ้าน รู้สึกผิด ที่ให้เขารออยู่หน้าบ้านทั้งๆที่อากาศหนาวขนาดนี้ เสียใจ ที่ตอนเขาจะกลับบ้านไม่มาบอกผมซักคำ เป็นห่วง...และโกรธ...ที่เห็นแบคฮยอนไปกอดกับผู้ชายคนนั้น!!
แบคฮยอนกับผมทะเลาะกันเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนสุดท้ายผมเผลอพูดอะไรพล่อยๆไปแล้วแบคเลยต่อยผมกลับมา นั่นทำให้สติของผมขาดพึง... ผมรู้แต่ว่าผมหวงคนๆนี้ ผมหวงมากๆจนอยากให้มาเป็นของผมแทน
จนทำให้เขาร้องไห้...
จนลืมคิดไปเลยว่าแบคฮยอนไม่สบายอยู่...
ผมมันโง่เอง...
ผมลุกขึ้นไปหยิบอ่างน้ำและผ้าผืนเล็กๆมาเช็ดตัวให้แบคฮยอนที่นอนไม่ได้สติ ร่างเล็กในชุดนักศึกษาที่หลุดลุ่ย ยิ่งมองผมยิ่งรู้สึกผิด ผมไม่รู้ว่าถ้าตื่นมาแบคฮยอนจะให้อภัยผมรึเปล่า แต่ระหว่างเรา ผมว่ามันคงไม่เหมือนเดิม...เพราะผมเองแท้ๆ
--------------------------------------------------------------------------
(สปอยตอนต่อไปเล็กน้อย)
“ผมบอกให้คุณออกไปจากห้องนี้”
-------------------------------------
“กูรู้แค่ว่ากูหวง...กูหวงมึง กูหงุดหงิดเวลามึงไปกอดกับไอ้บ้านั่น”
..............................................
ความคิดเห็น