ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fairy Luck อภินิหารโชคของนางฟ้า

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 นรกส่งมาเกิด!~

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.02K
      106
      10 ก.ย. 62

    Fairy Luck อภินิหารโชคของนางฟ้า
    ตอนที่ 2 นรกส่งมาเกิด!~


    ฮานที่เป็นวิญญาณนั้นล่องลอยบินตามดูวิถีดำเนินชีวิตของทางวารินอย่างใกล้ชิด ซึ่งดูเหมือนว่ามันกำลังดำเนินไปในทางที่ดีตามที่เขาได้หวังเอาไว้อย่างมาก


    หญิงสาวที่ขับรถชนฮานนั้นเป็นลูกสาวของเจ้าของโรงพยาบาลที่ฮานกำลังรักษาตัวอยู่นั้นเอง โดยเงินค่าทำขวัญกว่าครึ่งแสนได้ถูกมอบให้ทางวาริน พร้อมทั้งเงินจากกรมธรรม์ประกันชีวิตจำนวน 3 ฉบับ ที่ฮานได้ทำไว้ก่อนตายตอนที่เขายังมีหน้าที่การงานที่ดีอยู่นั้น ก็ถูกส่งมอบให้กับทางวาริน


    เรียกได้ว่าการตายในครั้งนี้ไม่ตายเปล่าก็ว่าได้ เงินจำนวนประมาณ 5 ล้านกว่าๆ ได้ตกอยู่ในการดูแลของวาริน ซึ่งทางวารินเองก็ดูเหมือนว่าจะใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้ในครั้งนี้เพื่อครอบครัวของเธอกับฮานอย่างไม่ประมาท


    สิ่งเดียวที่เป็นคอยยึดเหนี่ยวจิตใจระหว่างวารินกับฮานก็คงมีแค่ลูกสาวเพียงคนเดียวที่ยังไม่รู้ความอะไรมากนัก และนั้นยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้วารินไม่กล้าจะใช้เงินที่ได้มาจากการตายของฮานนั้นไปช่วยจ่ายหนี้สินให้แม่ของตนเองที่หลบหนีไปอยู่ต่างจังหวัด


    วันเวลาทั้ง 13 วันที่ดูเหมือนยาวในยามมีชีวิตอยู่นั้น ได้ไหลเลยผ่านไปอย่างรวดเร็วมากในมุมมองของฮาน เพียงแค่ไม่นานวันสุดท้ายที่เขาจะอยู่มองดูภรรยาของตนเองนั้นก็มาถึงเสียแล้ว


    "{ถึงเวลาแล้วมนุษย์เอย เจ้าต้องไปแล้ว}"  เสียงปริศนาที่ผสมทั้งชายและหญิงดังขึ้น


    "ครับผม พาผมไปเลย"  ฮานตอบออกมา โดยเขานั้นได้มองดูแววตาและสีหน้าที่ดูเข้มแข็งมุ่งมั่นของวารินเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหมุนกายหันหลังให้เธอ


    "ลาก่อนนะวาริน... ลาก่อนนะจียอน..."  ฮานกล่าวในใจพร้อมๆ กับร่างวิญญาณของเขาที่กำลังสูญสลายไปอย่างช้าๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังยิ้มออกมาอย่างมีความสุขที่เขาไม่ได้ทิ้งภาระอะไรไว้ให้คนที่รักอีกแล้ว


    "อ๊ะ..."  วารินที่กำลังจุดธูปไหว้รูปกรอบรูปของฮานรู้สึกเหมือนกับว่าได้ยินเสียงของเขาที่ด้านหลัง จึงรีบหันหลังไปมอง แต่เธอพบแต่เพียงลูกสาวของเธอที่ยืนรออยู่เท่านั้น


    "จียอนเองหรอลูก?"  วารินกล่าวขึ้นกับลูกสาวของเธอ


    "แม่ค่ะ... ทำไมป๊ะป๋าถึงกลายเป็นแสงหายไปละคะ?"  จียอนเด็กน้อยตัวเล็กลูกสาวของฮานกับวารินเอ่ยถามด้วยความใส่ซื่อและสงสัย


    "กลายเป็นแสง?"  วารินเดินมาหาลูกสาวแล้วอุ้มขึ้นมาพร้อมกับถามอย่างสงสัย


    "หนูเห็นป๊ะป๋าด้วยหรอคะ?"  วารินกล่าวถามเพื่อยืนยันสิ่งที่เธอสงสัย


    "อืม... หนูเห็นป๊ะป๋ายืนมองหม๊าอยู่ทุกวันเลย แต่วันนี้ป๊ะป๋ากลายเป็นแสงแล้วหายไปแล้ว"  จียอนตอบด้วยความใสซื่อ


    "ป๊ะป๋าทำหน้าตายังไงบ้างคะจียอน?"  วารินกล่าวถามโดยที่ดวงตาทั้งสองของเธอกำลังมีน้ำตาไหลออกมาอย่างช้าๆ


    "ป๊ะป๋ายิ้มคะ! ยิ้มเหมือนตอนวันเกิดของหนูกับหม๊าเลยละ~"  เด็กน้อยกล่าวอย่างอารมณ์ดีและไร้เดียงสา


    "ฮะ ฮะ... อย่างนั้นก็ดีแล้ว... เราไปวัดกันต่อนะคะ"  วารินกล่าวประโยคแรกเบาๆ ก่อนจะกล่าวอีกประโยคกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็ง


    "อืม"  จียอนน้อยตอบรับคำพูดของผู้เป็นแม่อย่างว่าง่ายไร้เดียงสา


    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
    ทางด้านฮาน...


    แม้ว่าจะเตรียมใจเอาไว้ว่าการจะเจออะไรหลังจากนี้ก็คงทำได้แต่ต้องยอมรับมันแล้วแท้ๆ แต่ว่าการเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ก็ทำให้ฮานอดที่จะรู้สึกเกรงกลัวไม่ได้อยู่ดี


    ภาพของวิวทิวทัศน์ที่มองไปทางไหนก็เจอแต่พื้นดินที่แห้ง ท้องฟ้าสีแดงราวเลือดสด ธารลาวาที่มีมากมายแทนธารสายน้ำ บวกกับเสียงโหยหวนของสิ่งที่ดูเหมือนมนุษย์ในร่างเปลือยล่อนจ้อน กำลังวิ่งหนีหมาตัวใหญ่ที่ไล่กัดไม่เลือกหน้า


    "ที่นี่ไม่ต่างอะไรจากนรกเลย"  ฮานเอ่ยขึ้นเบาๆ กับตนเอง


    "{ถูกแล้ว... ที่นี่ก็คือนรก}"  


    เสียงปริศนาที่นำพาฮานมาที่แห่งนี้ได้ดังขึ้น ก่อนที่จะมีความเปลี่ยนแปลงบริเวณอากาศด้านข้างกายฝั่งขวามือของฮาน


    การเปลี่ยนแปลงนั้นคล้ายๆ บ่อน้ำวน แต่มันเป็นสีดำและเกิดขึ้นในอากาศ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้มีโครงกระดูกที่ใส่ผ้าคลุมสีดำสนิทเดินออกมา และที่มือขวาของโครงกระดูกตนนี้ก็ยังถือเคียวขนาดใหญ่สีดำที่ดูน่ากลัวเอาไว้อีกด้วย เพียงแค่รูปร่างแค่นี้ก็สามารถบอกได้แล้วว่าสิ่งตรงหน้านี้ที่ฮานกำลังเห็นอยู่นั้นก็คือ...


    "ยมทูต..."  ฮานเอ่ยขึ้น


    "{เจ้าเกรงกลัวสถานที่แห่งนี้... แต่กับข้า... เจ้าไม่เห็นจะมีความเกรงกลัวอยู่ในสายตาเลย}"  ยมทูตกล่าวขึ้น


    "จริงๆ ผมก็กลัวครับ... ว่าแต่ผมจะเป็นยังไงต่อหรอครับ?"  ฮานเอ่ยตอบแล้วถามกลับไป


    "{ข้าจะพาไปหาท่านเมฟิสโต้เฟเลส... เจ้านั้นเป็นวิญญาณกรณีพิเศษน่ะ... มีไม่มากนักหรอกวิญญาณแบบเจ้า... รู้สึกว่าเจ้าจะเป็นดวงวิญญาณดวงแรกในรอบหลายล้านปี ที่ถูกเรียกท่านเมฟิสโต้เฟเลสเรียกเป็นกรณีพิเศษ...}"


    ยมทูตเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เฉื่อยชา ก่อนจะสะบัดมือซ้ายหนึ่งครั้ง ก็พลันปรากฏโซ่สีดำขึ้นในอากาศพันร่างวิญญาณของฮานเอาไว้ จากนั้นยมทูตก็ลอยตัวขึ้นแล้วบินไปในอากาศ โดยมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ทางทิศของภูเขาลูกนึงที่ใหญ่ที่สุดในทวีปนรกแห่งนี้


    "วิญญาณกรณีพิเศษคืออะไรงั้นหรอครับท่านยมทูต?"  ฮานกล่าวถามขึ้นมาอย่างสงสัย


    "{ก็แค่วิญญาณที่ไปเกิดบนโลกมนุษย์อย่างไม่สมบูรณ์ตามหลักที่ควรจะเป็นก็เท่านั้นเอง...}"  ยมทูตกล่าวด้วยเสียงราบเรียบดูไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ


    "ผมไม่เข้าใจเลยครับ?"  ฮานกล่าวถามต่อ


    "{การเกิดใหม่ในแต่ละครั้ง ไม่ว่าดวงวิญญาณจะดีหรือเลวแค่ไหน ก็ควรสมบูรณ์พร้อมก่อนจะไปเกิดใหม่ การเป็นดวงวิญญาณพิเศษนั้นก็หมายถึง เจ้าขาดตกข้อคุณสมบัติอะไรบางอย่างก่อนไปเกิดใหม่ ทำให้ตายก่อนอายุขัยที่เจ้ามี}"  ยมทูตกล่าว


    "แล้วผมขาดข้อคุณสมบัติอะไรงั้นหรอครับท่านยมทูต?"  ฮานเอ่ยปากถาม


    "{ข้าบอกไม่ได้... ข้อมูลส่วนนี้มีเพียงท่านเมฟิสโต้เฟเลสเท่านั้นที่รู้ และมีสิทธิ์บอกให้เจ้ารับรู้}"  ยมทูตกล่าว


    "งั้นช่วยยกตัวอย่างของวิญญาณกรณีพิเศษก่อนหน้าผมได้ไหมครับ?"  ฮานยังไม่ยอมแพ้และลองถามกลับไป เพื่อจะตอบข้อสงสัยในหัวของตนเอง


    "{เฮ้อ... วิญญาณกรณีพิเศษก่อนหน้าเจ้า... ถ้าจำไม่ผิดมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และตายก่อนอายุขัยละมั่ง...}"  ยมทูตถอนหายใจแล้วกล่าวตอบไปอย่างเอื่อยเฉื่อย


    จากนั้นไม่นานนักยมทูตก็พาฮานมาถึงจุดหมายปลายทาง โดยพื้นที่แห่งนี้นั้นแทบจะไม่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนของวิญญาณที่ถูกทรมานเลยแม้แต่น้อย มันเป็นพื้นที่ๆ มีทางเดินทอดยาวไปด้านหน้า และตรงสุดทางเดินก็มีบางสิ่งอยู่


    ร่างสีแดงสดที่สูงกว่า 3 เมตร เขาบนหัวทั้งสองข้างที่ดูหน้ากลัว นัยน์ตาที่มีความคล้ายคลึงกับมังกรที่ฮานเคยเห็นในหนังแฟนตาซี และสุดท้ายสิ่งที่เด่นชัดก็คือปีกค้างคาวขนาดใหญ่ของร่างนั้น ซึ่งฮานสามารถเดาๆ ได้เลยว่า สิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก 'เมฟิสโต้เฟเลส' จ้าวแห่งนรกนั้นเอง


    'เมฟิสโต้เฟเลส' นั่งเท้าแขนอยู่บนบันลังค์หินของเขาด้วยใบหน้าไม่พอใจอย่างมาก และสองสายตาของเขาก็กำลังจับจ้องมาที่ฮานกับยมทูตผู้ซึ่งเป็นผู้มาเยือนในตอนนี้


    "{ข้านำดวงวิญญาณกรณีพิเศษมาส่งตามคำบัญชาแล้วขอรับนายท่าน... ข้าขอตัวลา}"  ยมทูตกล่าวจบก็พลันปรากฏสิ่งคล้ายน้ำวนในอากาศแล้วยมทูตก็เดินหายไปในบ่อน้ำวนนั้น พร้อมๆ กับโซ่ที่พันตัวของฮานก็หายไปด้วยเช่นกัน


    "[เจ้าคือฮานใช่ไหม?]"  เมฟิสโตเฟเลสกล่าวด้วยเสียงที่ดูคล้ายคนเบื่อโลก


    "คะ... คะ.. ครับท่าน"  ฮานที่เกร็งๆ รีบตอบอย่างตะกุกตะกัก


    "[เจ้าคงได้ยินมาจากยมทูตเรื่องวิญญาณกรณีพิเศษมาบ้างแล้วใช่ไหม?]"  เมฟิสโต้เฟเลสกล่าวถาม


    "ชะ..ใช่ครับ"


    "[เจ้าน่ะเป็นดวงวิญญาณที่ไปเกิดโดยไม่มีค่าโชคเลย... เข้าใจรึป่าว?]"  เมฟิสโต้เฟเลสกล่าว


    "ค่าโชค?"  ฮานทวนคำกล่าวของเมฟิสโต้อย่างงงๆ


    "[ข้าไม่มีเรื่องอะไรที่อยากจะอธิบายให้เจ้าฟังมากนักหรอกนะ  แต่ที่นรกนั้นมีกฏที่ว่าไม่รับดวงวิญญาณที่ไม่หมดอายุขัยมาพิพากษา และเจ้าก็เป็นหนึ่งในนั้น รวมถึงเจ้ายังเป็นดวงวิญญาณกรณีพิเศษที่ไปเกิดแล้วยังขาดคุณสมบัติด้านโชคลาภอีกด้วย ซึ่งสรุปแล้วข้าสามารถปฏิบัติกับเจ้าได้ 3 ทาง คือ 1.ไปเกิดใหม่ในร่างของเจ้าที่อยู่โลกใบอื่น, 2.ไปเกิดใหม่โลกเดิม และ 3.พิพากษาบาปของเจ้าแล้วล้างความทรงจำส่งไปเกิดใหม่ตามบุญวาสนาของเจ้าที่มี... เอาละจงเลือกมา]"  เมฟิสโต้เฟเลสกล่าวพร้อมกับหรี่ตามองมาที่ฮาน


    "ผมขอเลือกข้อ 3 ครับ"  ฮานกล่าวตอบออกมาอย่างไม่คิดอะไรเลยแม้แต่น้อย


    "[โฮ่... เจ้าเป็นวิญญาณตนแรกเลยนะที่เลือกข้อ 3 ข้าขอถามได้ไหมว่าทำไมถึงเลือกข้อนั้น?]"  เมฟิสโต้เฟเลสกล่าวขึ้นมาอย่างแปลกใจ


    "ผมคิดว่าเริ่มใหม่โดยไม่รู้อะไรเลยนั้นคงดีที่สุดครับ"  ฮานกล่าวตอบขึ้นมา


    "[น่าเสียดาย... น่าเสียดาย...]"  เมฟิสโต้เฟเลสกล่าวขึ้นมาพลางส่ายหัวไปมา


    "[แม้เจ้าจะเลือกหนทางที่ 3 ข้าก็มิอาจทำให้เจ้า ข้าถามไปก็เพียงหยั่งความคิดของเจ้าเท่านั้น ตราบใดที่อายุไขของเจ้ายังไม่หมด หนทางข้อ 2 หรือ 3 ข้านั้นไม่อาจจะทำได้สักข้อ และสิ่งที่ข้าจะทำได้ ก็มีเพียงนำวิญญาณของเจ้าไปเข้าร่างกายของเจ้าในโลกคู่ขนานอื่นที่ข้าดูแลก็เท่านั้น]"  


    เมฟิสโต้เฟเลสกล่าว ก่อนจะทำท่าดีดนิ้วชี้มือซ้ายมาที่ฮาน โดยลูกบอลแสงสีขาวได้ปรากฏขึ้นที่ปลายมือของเมฟิสโต้เฟเลสแล้วพุ่งเข้าใส่กลางอกของฮาน ก่อนที่มันจะจมหายไปในร่างวิญญาณของเขา


    "นี่คือ?"  ฮานกล่าวถามอย่างสงสัย


    "[ค่าโชคลาภที่เจ้าควรมี และเพราะเจ้าไม่ได้นำไปด้วยในภพชาติก่อน]"  เมฟิสโต้เฟเลสกล่าว


    "แล้วจากนี้จะยังไงต่อครับ?"  ฮานกล่าวถาม


    "[ข้าจะส่งวิญญาณเจ้าลงไปในร่างของตัวเจ้าในอีกโลกคู่ขนานนึง ตอนนี้มีร่างมากมายที่ตายอยู่ในทุกวันอยู่แล้ว และข้าก็เจอร่างที่เหมาะกับเจ้าแล้วด้วย]"  เมฟิสโต้เฟเลสกล่าว


    "จะส่งผมไปเลยมั้ยครับ?"  ฮานกล่าวถาม


    "[ตอนนี้แหละข้าจะส่งเจ้าไปเลย]"


    เมฟิสโต้เฟเลสกล่าวจบก็ลุกขึ้นจากบันลังค์แล้วก็ยกมือขวาขึ้นมาสะบัดไปด้านหน้าข้างตัวหนึ่งครั้ง จากนั้นร่างวิญญาณของฮานก็ได้พลันสลายหายไปทันที


    "[หวังว่าเจ้ามนุษย์นั้นจะทนความเจ็บปวดไหวไม่ตายมารอบสองหรอก]"  เมฟิสโต้เฟเลสกล่าวด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย จากนั้นเขาก็กางปีกออกแล้วทยานบินออกไป

















    ____________________________________________________________________
    โปรดติดตามตอนต่อไป...

    ติดตามข่าวสารไร้สาระของไรท์ได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างครับ
    ฝากกดกำลังใจ ให้นิยายเรื่องนี้ด้วยนะครับ

    https://www.facebook.com/l2uXeal2er/

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×