ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fairy Luck อภินิหารโชคของนางฟ้า

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นที่แสนน่าเศร้า...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.33K
      97
      9 ต.ค. 62

    Fairy Luck อภินิหารโชคของนางฟ้า
    ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นที่แสนน่าเศร้า...


    เคยได้ยินคำกล่าวนี้ไหม?... 


    'หากเรามีดีอะไรสักอย่าง เราจะมีอะไรอีกอย่างที่ไม่ดี...'


    'ฮาน' หรือ นาย ปริญญา ศรีมนตรา... ชายหนุ่มกำพร้าลูกครึ่งไทย-เกาหลี ที่มีรูปร่างหน้าตาที่ดูดี บวกกับลักษณะรูปร่างที่สูงหล่อสมส่วนราวกับนายแบบผู้นี้ กำลังนั่งเคร่งเครียดอยู่บนโต๊ะทำงานในห้องเล็กๆ ที่บ้านของเขา


    สาเหตุที่ฮานที่ทำให้ฮาานกำลังเคร่งเครียดอยู่นั้น มีอยู่หลายๆ เรื่องด้วยกัน ทั้งเรื่องงานของเขา, หนี้สินของบ้าน, ลูกที่กำลังจะจบชั้นประถม, และเรื่องอื่นๆ อีกเล็กๆ น้อยๆ


    เมื่อวันวานก่อนๆ ฮานนั้นมีชีวิตที่ไม่ได้ดี หรือแย่กว่าคนทั่วๆ ไป เขาเป็นบุคคลชนชั้นกลาง บวกกับรูปร่างหน้าตาที่เขาค่อนข้างดีราวนายแบบ ทำให้ฐานะทางสังคมของเขาดูหรูหราในสายตาคนนอก ผิดกับเจ้าตัวฮานเองที่รู้ตัวดีว่า เขานั้นเป็นคนที่มีดีที่รูปร่างหน้าตาอย่างเดียวแค่นั้น


    ฮานนั้นเป็นคนที่รู้ตัวดีว่า เขานั้นไม่ได้ฉลาดหลักแหลม เขานั้นเป็นคนที่ไม่ฉลาดก็จริง แม้ว่าจะพยายามตั้งใจเรียนแค่ไหนก็ตาม เขาก็จะทำผลการเรียนได้แค่พอผ่านเส้นแดงมาได้เท่านั้น และไม่ใช่เพียงแค่เรื่องผลการเรียนเท่านั้น เรื่องการอ่านความคิดความอ่านผู้คนเอง เขาก็ถือว่าตามคนอื่นไม่ทันทั้งนั้น


    ซึ่งจริงๆ แล้วฮานนั้นมีความซื่อสัตย์ที่สูงมาก แต่ในสายตาคนอื่นกลับมองว่ามันเป็นความซื่อบื้อเสียมากกว่า โดยนิสัยนี้ก็ทำให้เขานั้นได้พบรักหญิงสาวคนนึงที่เรียนปริญญาตรีมาด้วยกันจนจบ เธอก็คือ 'วาริน กลิ่นเกษร'


    ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานเกือบ 5 ปี ก่อนที่จะลงเอยแต่งงานกันอย่างมีความสุข ฮานเริ่มเก็บเงินซื้อบ้าน ต่อจากนั้นก็มีข่าวดีเรื่องลูก ซึ่งไม่นานนักลูกสาวตัวน้อยของเขาก็ลืมตาดูโลกอย่างน่ายินดี... แต่ก็อย่างที่เคยกล่าวไว้ มีดีอะไรบางอย่าง มันก็ต้องมีอะไรสักอย่างที่ไม่ดี


    ปัญหาพิษเศรษฐกิจได้เกิดขึ้นกับประเทศที่ฮานกำลังอาศัยอยู่ มีข่าวคราวแววเข้ามาว่าตัวของเขานั้นกำลังจะถูกเลิกจ้าง โดยมีค่าชดเชยเลิกจ้างในอัตราที่ต่ำสุด แน่นอนว่านี้คือเรื่องแย่ๆ ที่ 1


    เรื่องต่อมาคือเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับลูกสาวที่กำลังจะเข้าชั้นประถมต้น จากนั้นก็เรื่องภาระหนี้สินของบ้านหลังปัจจุบันที่เขานั้นได้อาศัยอยู่กับครอบครัว


    ปัญหาเรื่องบ้านนั้นหนักหนาเอามากๆ ซึ่งปัญหานั้นเริ่มต้นก็เกิดจากตัวของภรรยาสาวของฮาน นั้นก็คือวารินนั้นเอง


    วารินนั้นได้เปิดกิจการหุ้นส่วนกับทางเพื่อนๆ ของเธอ แต่ด้วยเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทำให้กิจการนั้นถูกโกงจนเป็นหนี้มากมาย และผู้ที่ต้องหาทางจัดการกับหนี้ก้อนนั้นก็คือ ฮานที่ยอมเอาบ้านเข้ามัดจำกับธนาคารแลกเงินมาช่วยเธอ


    ในช่วงแรกที่ฮานยังมีงานมั่นคน มันก็ดูไม่มีปัญหาอะไร แต่หลังจากได้รับซองขาวเลิกจ้าง มันก็ทำให้ฮานกดดันเครียดอย่างหนัก เพราะดูเหมือนว่าหนทางของเขานั้นแทบจะไม่มีแล้วด้วย จะให้ไปพึ่งญาติผู้ใหญ่ที่ไหนก็ไม่มี รวมถึงญาติฝั่งภรรยาเองก็ดูเหมือนจะไม่ต้อนรับเขาอีกด้วย


    ตึก!~ ตึก!~ ตึก!~ ตึก!~ ตึก!~


    เสียงฝีเท้าของใครบางคนดังขึ้น จนฮานที่กำลังนั่งเครียดอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพบว่าเป็นวารินภรรยาของเขาที่เดินเข้ามาหาพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้า และลูกสาวที่เดินตามมา


    "ริน... คุณจะไปไหน?"  ฮานกล่าวถามขึ้นมา


    "ฉันจะกลับไปอยู่กับแม่... ขอโทษด้วยนะฮาน แต่ว่าฉันเสี่ยงกับดวงของคุณไม่ไหวแล้วจริงๆ"  วารินกล่าว


    "อึก..." ฮานกำลังจะกล่าวอะไรออกมา แต่เขาหยุดลงแล้วกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ด้วยสีหน้าเศร้าๆ


    "ผมขอโทษ... ขอให้คุณโชคดีนะ"  ฮานกล่าวออกมาพร้อมใบหน้าที่ฝืนยิ้มออกมา แต่มือทั้งสองของเขานั้นกำลังกำแน่นด้วยความรู้สึกเจ็บปวดที่ดูแลภรรยาและลูกได้ไม่ดี


    "ลาก่อนฮาน..."  วารินกล่าวขึ้นก่อนจะหันหลังเดินจากไปพร้อมกับลูกสาวที่มองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่รู้ความ


    "อ่า... แปบนึงนะริน"  ฮานกล่าวขึ้น


    จากนั้นเขาก็เดินไปหยิบกระเป๋าทำงานของตนแล้วนำซองสีขาวที่เป็นเงินเลิกจ้างของเขาออกมายื่นไปให้ทางภรรยาของเขาที่กำลังจะจากไป


    "ไม่ละฮาน... ฉันไม่เป็นไรแล้ว คุณจำเป็นต้องใช้มัน"  วารินกล่าวก่อนจะผลักมันกลับไปให้สามีของเธอ


    "งั้นหรอ..."  ฮานกล่าวขึ้นก่อนจะก้มหน้าลงต่ำอย่างเศร้าๆ


    จากนั้นภรรยากับลูกสาวตัวน้อยของฮานก็เดินจากไป จากบ้านแสนสุขที่เขาเคยคิดว่ามันเป็นสถานที่สุดพิเศษ


    แต่เมื่อเรื่องเลวร้ายมันจะเกิดแล้ว มันก็คงห้ามไม่ได้แล้ว ฮานเองก็รู้ว่าเรื่องตอนนี้มันย่ำแย่มากๆ สิ่งที่เขาพอทำได้ตอนนี้ก็คงเป็นการขายของมือสองภายในบ้านที่พอจะขายได้ แล้วปล่อยให้ธนาคารนั้นมายึดบ้านหลังนี้ที่เขาเก็บเงินซื้อมันมาอย่างยากลำบาก


    ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของฮานนั้นถูกทยอยขายในราคาถูกอย่างมากมาย ทำให้ตัวของฮานพอจะมีเงินก้อนนึงสำหรับเป็นทุนรับรองชีวิตตกงานที่กำลังเป็นอยู่


    ฮานใช้เงินก้อนนี้สำรอง ในขณะที่หางานรับจ้างทั่วไปทำอยู่ เรียกได้ว่าตอนนี้คือช่วงที่ตกต่ำที่สุดสำหรับเขาเลยก็ว่าได้... บ้านก็ไม่มี, งานก็ไม่มี, ภรรยาก็ทิ้งไปอยู่บ้านแม่, อาศัยอยู่ห้องเช่าแคบๆ ไม่ต่างอะไรจากรูหนู


    แต่วันนึงก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น กลุ่มทวงหนี้นอกระบบนั้นได้มาหาฮานแล้วทำร้ายเขาแล้วจากไป ซึ่งก่อนที่พวกนั้นจะไป ก็ได้ทิ้งทวนไว้ว่าแม่ของวารินผู้เป็นภรรยาของฮานนั้นไปกู้เงินนอกระบบเพื่อเอาไปเล่นพนันจนหมดตัว หากไม่นำเงินจำนวนกว่าครึ่งล้านมาคืน ครั้งต่อไป พวกนี้จะตามมาเล่นงานให้หนักกว่านี้...


    กริ๊งงงงงงงงงงงง!!~


    เสียงโทรศัพท์มือถือของฮานดังขึ้น หลังจากที่เขานั้นกลับมาถึงห้องหลังจากไปรักษาแผลที่คลีนิคใกล้ๆ จนเสร็จเรียบร้อย


    "ฮัลโหล... ว่าไงริน"  ฮานกดปุ่มในโทรศัพท์มือถือแล้วรับมันอย่างว่าง่าย และผู้ที่โทรมาก็คือภรรยาของเขานั้นเอง


    "ได้ข่าวว่าคุณถูกพวกทวงหนี้ทำร้าย?"  วารินกล่าวขึ้นมา


    "อืม... พวกนั้นก็ทำได้แค่นั้นแหละริน"  ฮานตอบไป


    "ฉันขอโทษด้วย มันเป็นความผิดของแม่ฉันเอง..."  รินตอบด้วยเสียงเศร้าๆ


    "แล้วตอนนี้คุณอยู่ไหน? พวกนั้นได้ทำอะไรคุณรึป่าว?"  ฮานกล่าวถามอย่างเป็นห่วง


    "แม่รีบพาฉันกับลูกย้ายกลับบ้านนอกไปแล้ว พวกนั้นคงหาพวกฉันไม่เจอสักพัก"  วารินตอบออกมา


    "งั้นหรอ..."  ฮานกล่าวรับด้วยเสียงลอยๆ


    "นี่ริน..."  ฮานกล่าวเรียกด้วยเสียงเรียบๆ


    "ว่ายังไงฮาน?"  รินกล่าวรับคำเรียก


    "ผมคิดถึงคุณกับลูกเหลือเกิน... ผมขอโทษที่ผมมันไม่ได้เรื่องอะไรสักอย่าง... ผม... ผม.. ผมขอโทษนะ..."  ฮานตอบไปด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ พร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลบนใบหน้าของเขา


    "คุณไม่ผิดหรอกที่รัก... โชคของพวกเรามันไม่ดีเอง... ฉันต้องไปแล้ว คุณดูแลตัวเองดีๆ ละ"  วารินกล่าวขึ้น


    "ผมจะรักคุณตลอดไป แม้ว่าผมจะไม่หายใจแล้วก็ตาม..."  ฮานกล่าวขึ้นด้วยประโยคแปลกๆ


    "ฮาน! ทำไมพูดอย่าง.. ตึ๊ด..."


    ยังไม่ทันที่รินจะกล่าวอะไรได้จบ ฮานก็ขยับเอาโทรศัพท์มือถือออกจากหูแล้วกดตัดสายไป แน่นอนว่ารินก็รีบกดโทรติดต่อกลับมาอย่างรวดเร็ว แต่ฮานนั้นเลือกที่จะเมินเฉยแล้วปิดเสียงโทรศัพท์ซะ


    แม้ว่าฮานนั้นจะอาจดูไม่ฉลาดมากนัก แต่เขาก็รู้ว่าตอนนี้ปัญหาชีวิตของเขารวมถึงคนรักนั้น แก้ไขมันได้ด้วยอะไร ซึ่งนั้นก็คือ "เงิน" นั้นเอง


    ฮานรื้อของเพื่อหาเอกสารกรมธรรม์ชีวิตที่เขาทำไว้ให้ตนเอง แล้วนั่งศึกษาอ่านรายละเอียดมันดูอีกครั้ง โดยเขานั้นพยายามหาค่าคุ้มครองผู้ประกันยามเสียชีวิต แล้วดูรายละเอียดว่ามันเป็นยังไง


    ซึ่งในรายละเอียดนั้นได้ระบุไว้ว่า ผู้ถือประกันของกรมธรรม์นี้ต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุถึงจะได้เงินชดเชยคุ้มค่ามากที่สุดแล้ว


    ฮานนั้นก็อ่านมันอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนจะวางแผนว่าจะทำยังไงให้ชีวิตของเขานั้นได้ถูกเปลี่ยนเป็น 'เงิน' เพื่อช่วยเหลือภรรยากับลูกสาว จนสุดท้ายมันก็ไปตกอยู่ที่หัวข้อการฆ่าตัวตายในรูปแบบอุบัติเหตุ


    เมื่อรู้เงื่อนไขอะไรต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ฮานก็เดินเตร่ออกจากห้องพักไปยืนอยู่ข้างๆ ถนนที่มีรถวิ่งกันอย่างมากมาย แต่ทว่า... ความกล้าที่จะพุ่งออกไปให้รถชนนั้นกับไม่มีอยู่ในหัวของเขาเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าจะรู้ว่าชีวิตของเขาจะเปลี่ยนเป็นเงินได้ แต่ความกล้ากลับไม่มีอย่างนี้ ก็ทำให้ตัวของฮานได้แต่ยืนมองรถที่วิ่งผ่านไปมาบนถนนเท่านั้น


    "เฮ้อ... ถึงเราจะโง่แค่ไหน... แต่การเอาชีวิตไปทิ้งกับเงินเพียงก้อนเดียวนี่มันไม่ใช่เรื่องดีเลยนะ"  ฮานถอนหายใจแล้วกล่าวขึ้นมากับตนเองเบาๆ ในขณะที่เดินเรียบไปทางเท้า


    สองเท้าของฮานนั้นพาตัวเขาเดินไปยังร้านขายโจ๊กที่อยู่ใกล้ๆ กับหอพักของเขา พอมาถึงฮานก็สั่งโจ๊กหมูเหมือนเดิม โดยเขานั้นจะแบ่งมันกิน 2 รอบ ก็คือเช้าและก่อนนอน โดยการแบ่งโจ๊กถุงนั้นให้เป็น 2 ส่วน ซึ่งมันเป็นวิธีการประหยัดเงินในแบบของเขานั้นเอง


    หลังจากซื้ออาหารเหมือนอย่างเคยแล้ว ฮานก็สาวเท้ากลับหอพักอย่างช้าๆ ไม่เร่งรีบเร่งร้อนอะไรมากนัก แต่ว่าในตอนนั้นเอง ก็ได้มีคนเมาทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งพวกขี้เมานั้นได้เหวี่ยงเก้าอี้ไม้โยนใส่คู่กรณี แต่อีกฝ่ายนั้นหลบได้ ทำให้เก้าอี้ไม้นั้นถูกส่งต่อมายังฮานที่พยายามเลี่ยงหลบไปเดินอยู่ขอบทางเท้าเข้าเต็มๆ


    บั๊ก!!~


    เก้าอี้ได้เข้าเป้าราวกับเล็งมานาน แต่ฮานนั้นเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ บวกกับเขานั้นยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากันได้พอดี ทำให้ไม่เจ็บอะไรมากนัก เพียงแต่ว่าในตอนนั้นที่เก้าอี้ไม้โดนแขนทั้งสองข้างของฮานที่ยกขึ้นมาตั้งป้องกันไว้ ก็ทำให้เขานั้นเผลอถอยเท้าไปก้าวนึง และนั้นก็ทำให้ฮานตกขอบทางเท้าในสภาพถอยหลังออกไปอยู่บริเวณถนน...


    โครมมมมมม!!~


    รถยนต์สีดำเงาคันหนึ่งได้แล่นเข้ามาอย่างพอดิบพอดี ก่อนที่ร่างของฮานนั้นจะถูกชนเข้าอย่างจัง ส่วนรถสีดำเงาคันนั้นก็เหยียบเบรคอย่างทันทีพร้อมกับหักพวกมาลัยเข้าข้างทาง


    ในนาทีนั้น... กลุ่มขี้เหล้าที่เมามายตีกันเอง หรือผู้คนที่เดินไปเดินมาก็ต่างหยุดการกระทำทุกอย่างลง ก่อนที่จะใช้สายตามองจ้องไปที่ร่างของชายหนุ่มที่ดูดีคนนึงนอนคว่ำจมกองเลือดอยู่กลางถนน


    ปึก... ปัง!~


    เสียงเปิด-ปิดของประตูรถยนต์สีดำเงาที่ขับชนฮานได้ดังขึ้น ก่อนที่จะมีร่างของหญิงสาวที่ดูเหมือเมาสุราเดินออกมา แล้วเธอคนนั้นก็นั่งลงพิงล้อรถของเธอ ก่อนจะหันไปด้านข้างเพื่ออาเจียนสิ่งที่กินเข้าไปออกมาอย่างคนเมา


    "เรียกรถพยาบาลดิโว้ยยยยยยย!!~"  เสียงขี้เมาที่ปาเก้าอี้ไม้ดังขึ้นทันที


    จากนั้นไม่นานรถพยาบาลก็มาถึงจุดเกิดเหตุพร้อมกับคณะตำรวจในเขตนั้นๆ ซึ่งคนเจ็บอย่างฮานที่อาการเป็นตายเท่ากันนั้นได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ส่วนหญิงสาววัยรุ่นที่ขับรถยนต์สีดำเงานั้นก็ถูกจับกลุ่ม ก่อนจะโดนดำเนินคดีขับรถอย่างประมาท รวมถึงคดีเมาแล้วขับอีกด้วย


    แต่ดูเหมือนว่าหญิงสาวที่ขับรถนั้นเป็นลูกคนใหญ่คนโตพอควร ทำให้หลังจากเกิดเหตุ ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกปล่อยตัวอย่างว่าง่าย และยังดีที่ทางฝั่งครอบครัวของหญิงสาวนั้นก็ได้ให้การช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาลของฮานอย่างเต็ม รวมถึงเงินทำขวัญอีกจำนวนนึง


    ข่าวของอุบัติเหตุนี้ได้ถูกแพร่กระจายลงหน้าหนังสือพิมพ์อย่างรวดเร็ว รวมถึงทางฝั่งวารินผู้เป็นภรรยาเองก็ได้รีบกลับมาจากบ้านนอกเพื่อมาดูอาการสามีอย่างใกล้ชิด


    ในวันที่ 2 หลังจากถูกรถชนนั้น ฮานได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าก่อนจะกวาดสายตามองไปที่เห็นภรรยาของเขาที่นอนอยู่พุบหน้าอยู่ข้างๆ เตียง


    ฮานพยายามจะขยับแขนทั้งสองข้าง แต่มันกลับไม่มีแรงที่ขยับได้เลยแม้แต่น้อย จนสุดท้ายแล้ววารินที่รู้สึกเหมือนกับว่าร่างของฮานนั้นขยับนิดหน่อยก็ตื่นขึ้นมามองดูอาการของสามี


    "คุณ! คุณฟื้นแล้ว! หมอ!"  


    วารินที่เห็นฮานฟื้นแล้วก็กล่าวอย่างตื่นตระหนกก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามีรีโมทสื่อสารอยู่บริเวณหัวเตียงผู้ป่วย เธอจึงรีบหยิบมันแล้วใช้ติดต่อนางพยาบาลทันที


    "ริน..."  เสียงเรียกหญิงสาวได้ออกมาจากปากของฮานที่ดูอ่อนแรงล้า


    "คะคุณ?..."  รินที่ได้ยินเสียงเรียกก็รีบตอบรับแล้วขยับหน้าของเธอเข้ามาใกล้ๆ กับใบหน้าของฮาน พร้อมกับใบหน้าของเธอนั้นมีน้ำตาที่ไหลอาบแก้มทั้งสอง


    "เงิน... เงินจากกรมธรรม์ชีวิต... ผมทำ..พินัยกรรม..ไว้ให้คุณนะ... ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันต่อ... ผมขอโทษ... ผมขอโทษ... ผม..."


    ตี๊ดดดดดดดดดดดด!!~


    เสียงของฮานได้หยุดลง พร้อมกับมีเสียงของเครื่องจับจังหวะหัวใจดังขึ้นเป็นเสียงลากยาว พร้อมกับลายเส้นของคลื่นหัวใจถูกเป็นแสงเส้นตรง


    ใช่แล้ว... ฮานนั้นตายแล้ว... เขานั้นฮึดสู้เพื่อจะลืมตาขึ้นมาบอกลาภรรยาของเขา อย่างน้อยเขาก็ได้ทำมัน อย่างน้อยเขาก็ได้คิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาจะทำเพื่อคนที่เขารักได้แล้ว


    ฮานรับรู้สึกตัวได้ว่าตอนนี้เขากำลังลอยอยู่เหนือเตียงผู้ป่วย โดยสองตาของเขากำลังเห็นวารินกำลังร้องไห้ฟูมฟายกอดร่างที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผลของเขา จากนั้นก็มีนางพยาบาลกับหมอวิ่งกรูกันเข้ามา แล้วจับแยกวารินออกจากร่างของฮาน


    พวกหมอกับพยาบาลพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อดึงเอาสัญญาณการเต้นของหัวใจของฮานกลับมา พวกหมอทำทั้ง CPR, บีบกระบอกสูบออกซิเจน, หรือทั้งกระทั้งใช้เครื่องช๊อตไฟฟ้าเพื่อปั้มเอาสัญญาณการเต้นของหัวใจกลับมา... แต่ว่ามันก็สายไปแล้ว ร่างของฮานนั้นยื้อมามากพอแล้ว


    "ผมไม่อยากจากคุณเลยวาริน... ผมรักคุณ... ผมขอโทษด้วย"  ฮานที่อยู่ในรูปลักษณ์โปร่งใส และไม่มีผู้ใดมองเห็นนั้นกล่าวออกมาอย่างไม่มีเสียงเรียกร้องใดๆ


    "{อายุขัยของเจ้าหมดลงแล้วมนุษย์... เจ้าจะมีเวลาอยู่ในโลกนี้อีกเพียงแค่ 13 วันเท่านั้น หลังจากนั้นข้าจะมารับเจ้าไปพิพากษาที่นรก}"  เสียงผสมทั้งชายและหญิงได้ดังขึ้นในอากาศเข้าสู่หูทั้งสองของฮาน


    "ถ้าอย่างนั้น 13 วันที่เหลือนี้... ขอให้ผมได้อยู่ดูวารินกับลูกจนวินาทีสุดท้ายนะครับ"  ฮานกล่าวขึ้นมา


    "{นั้นเป็นเรื่องของเจ้า...}"  เสียงปริศนาดังขึ้นก่อนจะเงียบหายไป


    จากนั้นวิญญาณของฮานก็ได้เฝ้ามากดูวารินที่กำลังร้องไห้เสียใจอย่างเศร้าสร้อย... แต่เขานั้นทำอะไรไม่ได้แล้ว เขานั้นได้ตายไปแล้ว ที่ทำได้ก็มีเพียงใช้เวลา 13 วันเฝ้ามองเธอกับลูกจวบจนวินาทีสุดท้ายเท่านั้น...



















    ____________________________________________________________________
    โปรดติดตามตอนต่อไป...

    ติดตามข่าวสารไร้สาระของไรท์ได้ที่ลิ้งค์ด้านล่างครับ
    ฝากกดกำลังใจ ให้นิยายเรื่องนี้ด้วยนะครับ

    https://www.facebook.com/l2uXeal2er/


    นิยายเรื่องนี้จะไม่โยงไปฟิคกะอะไรทั้งนั้นนะครับ
    และก็เป็นไปได้ ผมก็จะไม่เขียนพาดพิงกับเหตุการณ์ในประเทศไทยด้วย(มั่ง?)

    ขอให้อ่านนิยายอย่างสนุกนะครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×