Fic SNSD One Dayแผนพิชิตใจน้องหมี(JeTi\JeNy ft. Taeny) (Yuri)

ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

อยู่ๆก็อยากแต่งวันช็อตเรื่องใหม่ขึ้นมาซะอย่างนั้น

แล้วก็ไม่เคยแต่งเจทิด้วย ดันอยากแต่งอีก

พอดีว่ากำลังนั่งเครียดกับคณิตทั้งพื้นฐานและเพิ่มเติม

อีกโมเมนต์ คาน มากมายที่คิดไม่ออก

แล้วฟิคเรื่องนี้ก็เลยบังเอิญเกิดขึ้น กร๊ากก

จะบอกว่ามันหาสาระได้ยากมาก

หลังจากที่หายไปนาน

แต่รับรองว่า เรื่องเก่าจะพยายามไม่ดอง

และมาอัพให้อย่างแน่นอน จริงๆT___T



เนื้อเรื่อง

One Day พิชิตใจน้องหมี(JeTi\JeNy  ft. Taeny)

เจสสิก้า หญิงสาวแสนสวย ต้องมานั่งกุมขมับ เมื่อเพื่อนเมะอย่างยูริให้ตามจีบ

“ น้องหมี ” หรือ ทิฟฟานี่ ดาวคณะนิเทศศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องยากอะไรในเมื่อเธอ

ก็เป็นถึง “ดาวของมหาวิทยาลัย” เหมือนกัน เพียงแต่...

เธอแค่ไม่รู้ว่า วิธีจีบผู้หญิงมันเป็นอย่างไร

“ เบื่อโว้ย!! ถ้าอยากได้ก็ไปจีบเองซิวะ ไอ้ลิงดำ “

 ...................................................................

          ใต้ต้นมะม่วงต้นใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกมาให้ความร่มเย็นแก่ผู้ที่สัญจรผ่านไปมา มีโต๊ะหินอ่อนให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และนอกจากนี้ยังเป็นที่สิงสถิตของพวกคนดังแห่งมหาวิทยาลัยอีกด้วย

 
            เจสสิก้า ดาวมหาวิทยาลัยโซล หญิงสาวในฝันของหนุ่มๆและสาวเมะทั้งหลาย ที่เวลาเดินไปไหน ผมสีน้ำตาลดำอันเป็นสัญลักษณ์ของรัศมีแห่งความโดดเด่นก็จะกระเด็นออกมาจนหลบแทบไม่ทัน

แต่ ณ เวลานี้ สาวเจ้ากำลังฟลุบหลับไปกับโต๊ะหินอ่อนอย่างเหนื่อยหน่าย หลังจากที่ต้องเรียนวิชาภาคบริหารเป็นเวลาสามชั่วโมงติดกัน

            “ เฮ้!! สิก้า ทำไมมาหลับอยู่ตรงนี้ กลับไปนอนบ้านไป ชิ้วๆ “ เสียงกวนประสาทดังมาแต่ไกล ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร ร่างบางค่อยๆลืมตาลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนจะมองตาคนกวนประสาทอย่างเคืองๆ

            “ แล้วที่ฉันมานอนหลับอยู่ตรงนี้ มันรบกวนประสาทส่วนไหนของแกไม่ทราบ ไอ้ลิงดำ”  ร่างบางพูดออกมาอย่างเหลืออด

.......จะไม่ให้เหลืออดได้อย่างไร ก็ในเมื่อคนกำลังจะนอนหลับพักผ่อนสมอง แต่ดันมีลิงที่ไหนก็ไม่รู้มาพูดจาภาษาลิงเข้าหู มันก็เลยเซ็ง เข้าใจ!!

            “ก็ไม่รบกวนอะไรหรอก ก็แค่อยากกวนมีอะไรไหม?” นั่นไง ยังไม่เลิกกวนอีก เดี๋ยวได้มีตบล้างน้ำกันแน่ล่ะทีนี้

            “มีอะไรก็พูดมา เร็วๆเข้า!! ฉันจะนอน” ร่างบางทำตาปรือ ทำให้อีกคนไม่รอช้า ก่อนจะส่งกระดาษเอสี่หนึ่งแผ่นให้

            “ฉันมีเรื่องอยากจะให้แกช่วยหน่อย สิก้า ช่วยฉันได้ป่ะ” คนจอมกวนถาม ร่างบางได้แต่พยักหน้าหงึก เพราะตอนนี้แทบจับใจความไม่ได้แล้วว่าอีกคนพูดอะไรบ้าง

            “ฉันอยากให้แกช่วยจีบน้องฟานี่ ดาวคณะนิเทศปี2ให้ฉันหน่อย ได้ไหมเพื่อนรัก”

            “ อืมๆ ได้สิ เอ๊ะ! เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ”

            “ก็ให้แกช่วยจีบน้องฟานี่แทนฉันไง เป็นอะไร หูตึงเหรอ ยัยป้าเป็ด!”

            เฮ้อ! อยากจะบ้าตายกับคำขอของมัน ขออะไรไม่ขอ แต่ดันมาขอให้ช่วยจีบหญิง ในฮาเร็มของมันยังไม่พอ ยังจะฉุดน้องฟานี่ที่แสนซื่อเข้าฮาเร็มไปอีกคนอีก ไอ้เพื่อนเลว ฉันขอแช่งชักหักกระดูกแก เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้แกไม่มีแฟน!

            หลังจากที่ฉันนั่งหายใจทิ้งเป็นรอบที่ร้อยล้านพันล้าน กับคำขอของไอ้เพื่อนลิง มันทำให้ฉันต้องมานั่งอยู่ที่คณะนิเทศศาสตร์ พลางคิดไม่ตกว่า จะช่วยไอ้เพื่อนลิงตัวนี้อย่างไรดี?

            ........ก็รู้ว่าไอ่เพื่อนลิงตัวนี้ฉลาด ฉลาดแต่เรื่องการแซวและจีบสาวไปวันๆ มันใช้เสน่ห์ในตัวของมันได้เป็นประโยชน์จริงๆ แล้วทำไมมันถึงไม่จีบเองคะ มาให้ฉันช่วยจีบ

            มันจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว ฉันก็เคะ อยากมีชายหนุ่มหรือสาวเมะหล่อๆมารุมล้อมเหมือนกัน ไม่ใช่ต้องมานั่งจีบผู้หญิงแบบนี้!!

            “เอาน่าๆ ช่วยฉันหน่อยเถอะยังไงซะ แกกับน้องฟานี่ก็สนิทกันนี่นา แกก็รู้ว่าน้องฟานี่ไม่ชอบคนเจ้าชู้ แล้วอีกอย่าง แกก็ดูเย็นชาดี เจ้าหญิงน่ารักกับเจ้าชายเย็นชามันดูเข้ากันดีนะเว้ย”

          เข้ากันดีได้บ้านป้าแกสิคะ ไอ้ลิงดำ ฉันอยากเป็นเจ้าหญิง ไม่ใช่เจ้าชาย!!

          “แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง ฉันไม่ได้คิดกับน้องฟานี่แบบนั้นนี่หว่า” ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย นี่ตกลงฉันต้องช่วยมันจริงๆใช่ไหมเนี่ย

          “อ่ะนี่ สิ่งที่แกต้องทำสำหรับการจีบน้องฟานี่ของฉัน ไปก่อนนะน้องฮาร่าโทรมาแล้ว บายๆเพื่อนรัก”

          เจสสิก้าขยำกระดาษในมือของเธออย่างเคียดแค้น แต่ไม่ให้มันแหลกคามือหรอก เพราะถ้ากระดาษแผ่นนี้มันแหลกคามือเธอ แผนที่ไอ้ลิงดำมันคิดไว้ คงได้แตกก็คราวนี้

            “รุ่นพี่มีอะไรหรือเปล่าคะ วันนี้ถึงได้เรียกฉันมา” ใบหน้าสวยหวานน่ารักยื่นหน้าเข้ามาใกล้เจสสิก้าพลางยิ้มหวานจนตาปิดตามแบบฉบับของตน

            “ว้ายย เอ้ย! เฮ้ย” เกือบปรับโหมดเสียงตกใจแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว ฉันยิ้มแหยๆเล็กน้อย ก่อนจะพูดตามสคริปที่ได้เตรียมมา

            “คือว่า...เอ่อคือ..เอ่อ” ทำไมคะ ตอนที่อ่านสคริป อ่านได้คล่องปาก แต่พอมาพูดต่อหน้าสาวหน้าหวานรุ่นน้องแล้ว เจสสิก้าคนนี้กลับพูดไม่ได้คะ ให้ตาย!

            “คือว่า น้องฟานี่คะ พี่อยากชวนน้องฟานี่ไปจิบกาแฟกันนะคะ ว่างหรือเปล่า” เจสสิก้าถามยิ้มๆ

            โดยปกติถ้าเจสสิก้าไม่มียูริลิงดำไปเป็นเพื่อน ก็จะมีทิฟฟานี่ไปเป็นเพื่อนอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ของพวกเธอก็เป็นแบบรุ่นพี่รุ่นน้องกันทั่วไป เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่มัธยม แต่สนิทกันจริงๆก็ตอนอยู่มหาวิทยาลัย เพราะพวกเธอเป็นคนดังทั้งคู่ กิจกรรมทุกอย่างในมหาวิทยาลัยก็ต้องเจอกันทุกงานอยู่แล้ว

            “ ได้อยู่แล้วค่ะ รุ่นพี่ สำหรับรุ่นพี่ ฟานี่ว่างเสมอค่ะ “

            ตอบได้น่ารักมากๆเลยน้องพี่ อยากจะดึงเข้ามาหอมแก้มสักทีสองทีให้หายหมั่นเขี้ยวสักหน่อย  น่ารักอย่างนี้พี่ยอมเปลี่ยนจากเคะเป็นเมะเลยก็ได้ เอ้า!

            “ข้อที่หนึ่ง ชวนน้องฟานี่ไปทานอะไรหวานๆในร้านบรรยากาศดีๆสักร้านเพื่อสร้างความโรแมนติก และที่สำคัญก็คือ แกต้องเป็นคนจ่ายเงินทุกอย่าง”

            เจสสิก้าทวนสคริปในหัวไปมา ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้กับสาวหน้าหวานรุ่นน้องข้างๆ ทางด้านสาวหน้าหวานก็ไม่น้อยหน้า ยิ้มตาปิดอันเป็นเอกลักษณ์จากเจ้าตัวถูกส่งไปให้เจสสิก้าทันที

            “เอ่อ...น้องฟานี่ คือพี่จะขอ...จับมือหน่อยได้ไหมคะ”

            “เอ๋?”

            สุดท้ายเจสสิก้าก็เลยจับมือทิฟฟานี่ระหว่างทางเดินไปร้านกาแฟไปตลอดทาง ทิฟฟานี่เองก็สงสัยกับการกระทำในวันนี้ของเจสสิก้าอยู่ไม่น้อย

            .....อยู่ดีๆวันนี้ก็ชวนมาจิบกาแฟซะหน้าตาเฉย แถมยังขอเดินจับมืออีก ปกติก็เดินจับมือกันอยู่แล้วนี่นา แล้วจะมาขอทำไม?

            เมื่อเดินเข้ามาในร้านกาแฟแล้ว เจสสิก้าก็รีบพาทิฟฟานี่เข้ามาในที่ลับตาคน(?)ก็แค่ที่หลบมุมเพื่อความเป็นส่วนตัวและโรแมนติก

            “น้องฟานี่จะเอาอะไรดีคะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”

            “เอ่อ จะดีหรือคะ เปลืองเงินรุ่นพี่แย่” คนขี้เกรงใจได้แต่สั่นสีหน้าไปมาอย่างน่ารัก เจสสิก้าจึงต้องดึงมือคนขี้เกรงใจเข้ามากุมไว้หลวมๆ

            “เพื่อน้องฟานี่ พี่ทำให้ได้ทุกอย่างอยู่แล้ว แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”

            ถ้าเป็นคนอื่น คงได้เขินกับคำพูดที่ดูหวาน แต่ออกมาจากใบหน้าที่แสร้งยิ้มหวานไปอย่างนั้นของเจสสิก้า แต่นั่นก็ทำให้ทิฟฟานี่ถึงกับงงเข้าไปอีก

            ........ผีเข้าหรือไง ถึงได้พูดอะไรแปลกๆออกมาอย่างนั้น ทิฟฟานี่คิด

            “น้องๆ งั้นเอาน้ำมะม่วงกับน้ำมะนาวอย่างละที่” เจสสิก้าหันไปสั่งพนักงานในร้านที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาจดรายการที่สั่งอย่างตั้งใจ

            มาร้านกาแฟ แต่ดันสั่งน้ำมะม่วงกับน้ำมะนาว เอาเข้าไป!

            หลังจากที่ทั้งสองดื่มน้ำมะม่วงและน้ำมะนาวในร้านกาแฟกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว แผนต่อไปของเจสสิก้าก็คือ “เดินห้าง”

            “ข้อที่สอง ชวนน้องฟานี่ไปเดินห้าง ซื้อของที่น้องฟานี่อยากได้เพื่อสร้างความประทับใจ แล้วแกก็ต้องมีหน้าที่ถือของให้น้องฟานี่เวลาช็อปเสร็จด้วย เข้าใจไหม ป้าเป็ด”

            ปวดจิตกับข้อสองจริงๆเลย สิก้าเอ๋ย เกิดมาเวลาช็อปปิ้งทั้งที มีแต่พวกคนใช้ถือของให้ แต่ต้องมาถือของให้กับผู้หญิงด้วยกันเอง แล้วยิ่งกับน้องฟานี่แล้ว ยิ่งไม่เคยถือให้เข้าไปใหญ่ เพราะส่วนใหญ่เวลามาช็อปกันก็ต่างคนต่างถือ

            “น้องฟานี่อยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ เดี๋ยวพี่ซื้อให้” เจสสิก้าถามหลังจากที่เข้ามาอยู่ในห้างสรรพสินค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้แต่มองคนหน้าหวานที่จูงให้ไปดูโน่นดูนี่ตามประสาผู้หญิง

            ใจจริงเธอก็อยากจะช็อปใจจะขาดอ่ะนะ แต่กลัวว่า ถ้าเธอช็อปด้วยอีกคน มีหวัง ทั้งของของคนหน้าหวานรุ่นน้องและเธอคงจะไม่ไหวเป็นแน่

            ......ก็ตั้งใจไว้แล้ว ว่าเธอน่ะจะเป็นคนถือของให้เอง

            เป็นไปตามคาด ก็ตามประสาผู้หญิง เมื่อมาถึงห้างสรรพสินค้าแล้ว ฉะไหนเลยจะไม่ใช้เงินซื้อของต่างๆนาๆ

            เจสสิก้าเลือกที่จะเดินตามดูทิฟฟานี่เดินซื้อของวนไปวนมา เลือกแล้วเลือกอีก ดูไปก็กลืนน้ำลายตัวเองไป

            ....อยากซื้อ แต่กลัวไม่มีมือถือของ เหตุผลมีแค่นี้แหละ

            “รุ่นพี่ไม่คิดจะซื้ออะไรหน่อยเลยเหรอคะ ฉันรู้นะ ว่ารุ่นพี่อยากซื้อ” สาวหน้าหวานถามพลางหันมายิ้มหวานๆให้เจสสิก้าไปหนึ่งที ก่อนจะเดินดูของต่อไป

            เหลือบสายตาจากของหันมาดูคนเลือกแทน ใบหน้าหวานน่ารักกำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดกับการเลือกซื้อของ เจสสิก้าอมยิ้มให้กับท่าทางนั้น

            ....รู้จักกันมาตั้งนาน ทำไมเธอถึงไม่เคยเห็นความน่ารักของรุ่นน้องตรงหน้าว่าน่ารักขนาดไหน

            อยากเปลี่ยนตัวเองจาก” เคะ “ ให้กลายเป็น “ เมะ “ ตอนนี้เลยทีเดียว ส่วนเรื่องที่จะช่วยจีบน้องฟานี่ให้ไอ้ลิงดำนั้น ไม่ช่วยแล้ว!! เธอจะเก็บน้องฟานี่ไว้แต่เพียงผู้เดียว

            เจสสิก้ายิ้มให้กับความคิดตัวเองอย่างชั่วร้าย ก่อนจะหัวเราะออกมาคนเดียวอย่างบ้าคลั่ง ทำให้คนที่เดินด้วยกันใช้มือวัดหน้าผาก

            “ตัวก็ไม่ร้อนนี่คะรุ่นพี่ ไม่สบายหรือเปล่า” ทิฟฟานี่วัดหน้าผากเจสสิก้าพลางทำหน้าครุ่นคิด จะหาว่าพี่บ้าก็พูดมาตรงๆเถอะ ฟานี่อ่า...คนน่ารักพี่พร้อมจะให้อภัยเสมอ

            “อ่อ ไม่เป็นไรค่ะ พี่สบายดี เสร็จแล้วก็ไปจ่ายเงินกันเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เจสสิก้าว่า ก่อนจะเดินจับมือรุ่นน้องหน้าหวานไปชำระเงินที่เคาท์เตอร์

            “ข้อที่สาม แกต้องไปส่งน้องฟานี่ให้ถึงที่บ้าน ห้ามปล่อยให้น้องฟานี่กลับบ้านคนเดียวเด็ดขาด”

            จริงๆแล้ว เรื่องสคริปต์ที่เพื่อนลิงดำให้เจสสิก้าท่อง เธอควรจะพับเก็บไปได้แล้ว แต่ในเมื่อเธอไม่เคยจีบผู้หญิงคนไหน เพราะมีแต่คนมาจีบ เธอก็เลยต้องหยิบมันออกมาใช้เสียก่อน

            .....เอาไว้ฉันจีบหญิงได้เก่งๆเมื่อไหร่ ไว้ค่อยใช้วิธีของฉันบ้างนะ ไอ้ลิงเพื่อนรัก อิอิ

            “ว่าแต่บ้านน้องฟานี่อยู่ที่ไหนเหรอ พี่จะได้ไปส่งถูก” หลังจากเจสสิก้าพาทิฟฟานี่กลับมาที่มหาวิทยาลัยเพื่อมาเอารถบีเอ็มลูกรักของเธอ เธอก็เอ่ยปากจะไปส่งสาวหน้าหวานรุ่นน้อง

            แต่สาวหน้าหวานรุ่นน้องเธอน่ะสิ กลับขี้เกรงใจไม่เข้าเรื่อง แต่อย่างนี้สิดี พอเป็นแฟนกันจะได้เชื่อฟังกันง่ายหน่อย

            คิดไปไกลได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ เจสสิก้า.....เพิ่งรู้ตัวแค่วันเดียวแท้ๆ

            “มันจะดีเหรอคะ รุ่นพี่ไปส่งฟานี่เนี่ย” ทิฟฟานี่พูดออกมาอย่างเกรงใจ เจสสิก้าหัวเราะก่อนจะดึงมือของสาวหน้าหวานรุ่นน้องมากุมไว้

            “ก็มันเย็นแล้ว ฟานี่กลับบ้านเย็นแล้วจะอันตราย พี่เป็นห่วง”

            จะเป็นห่วงอะไรกัน ปกติก็ต่างคนต่างกลับ ทีตอนเมื่อทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ทิฟฟานี่กับเจสสิก้าก็อยู่ทำงานด้วยกันจนถึงดึก ยังต่างคนต่างกลับเลย

            รุ่นพี่เป็นอะไรของรุ่นพี่กันแน่....ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูกแล้วนะคะ

            ตลอดทางที่อยู่บนรถ ทั้งคู่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลย เพราะต่างคนต่างปรับตัวเข้าหากันไม่ถูก ก็เพราะเจสสิก้านั่นแหละที่เริ่มทำตัวแปลกๆก่อน

            ในที่สุดเวลาบนรถที่ยาวนานก็ได้สิ้นสุดลง เจสสิก้ามาส่งทิฟฟานี่ถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย ทิฟฟานี่กล่าวขอบคุณอย่างน่ารัก

            “อ่ะ เดี๋ยวก่อนสิ” เจสสิก้ารั้งข้อมือสาวหน้าหวานรุ่นน้องเอาไว้ได้ก่อน ทำให้สาวหน้าหวานต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัย

            “ข้อที่สี่ เมื่อแกมาส่งน้องฟานี่ถึงบ้านได้แล้ว แกต้องขอน้องฟานี่เข้าไปในบ้านด้วย”

         “แล้วทำไมต้องเข้าไปในบ้านด้วย ไม่เห็นจำเป็นเลยนี่” เจสสิก้าสงสัย

         “ก็แหมๆเข้าไปในบ้าน ดูรสนิยม ความชอบของน้องฟานี่แล้วมาบอกฉันไง ฉันจะได้ทำตามความชอบของน้องฟานี่ไว้ได้ถูก” เพื่อนลิงดำของเจสสิก้าได้แต่บิดไปบิดมาอย่างน่าหมั่นไส้

          ทำไมไม่จีบเองไปเลยคะ จะมาให้ช่วยจีบทำเพื่อ? ทำอย่างกับจะให้น้องฟานี่มาเป็นแฟนของเธออย่างนั้นล่ะ

            “รุ่นพี่มีอะไรกับฟานี่หรือเปล่าคะ ถ้าไม่มีก็ปล่อยฟานี่ก่อนได้ไหมคะ” คำพูดของสาวหน้าหวานรุ่นน้อง ทำให้สติของเจสสิก้ากลับเข้าร่างได้อย่างทันท่วงที เธอยิ้มหวาน ก่อนจะพูดตามสคริปไปว่า

            “พี่ขอเข้าไปในบ้านน้องฟานี่หน่อยได้ไหมคะ”

            ด้วยความเกรงใจของทิฟฟานี่ก็ทำให้เจสสิก้าก็เข้ามาในบ้านของสาวหน้าหวานได้อย่างง่ายดาย สาวหน้าหวานรุ่นน้องดูเหมือนจะต้อนรับบริการให้อย่างดี

            “ดื่มน้ำก่อนไหมคะ จะได้สดชื่น” ทิฟฟานี่ยื่นแก้วน้ำพลาสติกสีชมพูมาให้เจสสิก้า เจสสิก้าจึงแกล้งเอามือสัมผัสกับมือทิฟฟานี่อย่างแผ่วเบา

            ก็นึกว่าทิฟฟานี่จะเขินบ้างอะไรบ้าง แต่น่าแปลกที่ทิฟฟานี่ไม่ได้แสดงอาการแบบที่ผู้หญิงเขินอะไรแบบนั้นออกมาเลย เสน่ห์ของเธอคงใช้ไม่ได้ผล แต่ช่างมันเถอะ อย่างไรก็ดี เธอก็จะเดินหน้าจีบต่อไป

            “บ้านของน้องฟานี่สวยจังเลยนะคะ ว่าแต่อยู่คนเดียวหรอ” เจสสิก้าถาม

            “ไม่หรอกค่ะ อยู่กับแฟน” ทิฟฟานี่ตอบพร้อมรอยยิ้มตาปิด เจสสิก้าได้แต่เคลิ้มๆกับรอยยิ้มเลยไม่ได้จับใจความสิ่งที่ทิฟฟานี่พูดสักเท่าไร

            “อ่อ อยู่กับแฟน ห้ะ!!! อยู่กับแฟน” เจสสิก้าตะโกนขึ้นมาอย่างตกใจแทบจะเอามืออุดปากตัวเองไม่ทัน ทิฟฟานี่มีแฟนแล้ว ไม่นะ ยังไม่ได้จีบเลย

            “ก็ใช่นะสิคะ แล้วรุ่นพี่จะพูดเสียงดังทำไมเนี่ย” ทิฟฟานี่ถามอย่างงงๆ เจสสิก้าได้แต่ยิ้มแห้งๆ แต่ในใจนั้น อยากจะรู้ให้ได้ว่าใครคือผู้โชคดีได้เป็นแฟนกับน้องฟานี่

            “นั่นไงคะ แฟนฟานี่ พี่แทคะ มานี่เร็ว” ทิฟฟานี่ลากแขนคนที่ได้ชื่อว่าแฟนให้เข้ามาในบ้านอย่างออดอ้อน ปล่อยให้คนที่ตอนนี้กำลังเหมือนโดนหักอกได้แต่ยืนตาปรอยๆอย่างน่าสงสาร

            “อ้าว สิก้า มาได้ไงเนี่ย คิดถึงจัง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน” ผู้มาใหม่ทักทาย ก่อนจะดึงเจสสิก้าเข้าไปกอดราวกับไม่เจอกันเป็นสิบชาติ                  
           

            “พี่แทรู้จักรุ่นพี่ด้วยเหรอคะ” สาวหน้าหวานถามด้วยความสงสัย

            “ใช่ค่ะ ที่รัก ก็สิก้าเคยมาฝึกงานกับพี่ตอนปิดเทอมคราวโน้นนะ” ผู้มาใหม่ยิ้มหวานให้คนรัก

            “สวัสดีค่ะท่านประธานคิม ไม่คิดว่าจะได้เจอกันที่บ้านของน้องฟานี่นะคะเนี่ย” เจสสิก้าทักทายคนโตกว่าอย่างอารมณ์ดี(?)

            “ก็แน่นอน ฉันเป็นแฟนน้องฟานี่ ก็ต้องอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว จริงไหมคะ ที่รัก?”

            “จริงค่ะ พี่แท”

            จึกๆ เหมือนมีอะไรมาทิ่มกลางหัวใจก็ไม่รู้ เพิ่งรู้ตัวว่า” ชอบ” มันก็สายเสียแล้ว สมน้ำหน้า! ทั้งตัวเองและเพื่อนลิงดำ ที่ดันเผลอหลงเสน่ห์น้องฟานี่ตายิ้มไปแค่ชั่วข้ามคืน

            “เอาเป็นว่าพี่กลับก่อนแล้วกันนะ น้องฟานี่ ไว้พรุ่งนี้เจอกัน บายๆ” เจสสิก้าบอกเสียงอ่อย ก่อนจะเดินคอตกออกจากบ้านสาวหน้าหวานรุ่นน้องไป

            ให้น้องฟานี่กับคนรักมีความสุขตามประสาคู่รักกันไปเถอะ ฮือๆ หญิงสิกอยากร้องไห้

            เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เจสสิก้าจึงกดเพื่อดูเบอร์ นั่นไง!! ตัวปัญหามันโทรมาแล้ว ทีนี้ล่ะ จะได้คิดบัญชีกับมัน

            “เป็นไงบ้าง สิก้าเพื่อนรัก สำเร็จไหม?” ปลายสายถามอย่างอารมณ์ดี

            ดูมัน ยังจะมีหน้ามาถามว่าสำเร็จไหมอีก สำเร็จกับผีอ่ะสิ น่าจะให้ช่วยจีบคนที่ยังโสด ไม่ใช่คนมีแฟนอย่างนี้ คิดแล้วอยากจะฆ่าไอ้ลิงดำมันค่ะ

            “สำเร็จมั้ง เกือบโดนแฟนน้องฟานี่ต่อย” เจสสิก้าพูดเกินจริง ถึงแม้ว่าวาจาตอนนี้จะดูร้ายไปนิด แต่ว่า ในใจนั้นแอบสะใจที่ได้แกล้งเพื่อนตัวเอง

            “เฮ้ย จริงดิ! ไม่น่าเชื่อ โหย เซ็งเลย มีแฟนซะแล้ว เสียดายจัง”

            “แล้วอยากรู้ไหม ว่าแฟนน้องฟานี่อ่ะ ใคร?” เจสสิก้าถามปลายสายแล้วก็ได้รับคำตอบอันหน้าพึงพอใจ

            “แฟนน้องฟานี่อ่ะนะ ก็คือท่านประธานคิมแทยอนบริษัทจิวเวอรี่ที่เราไปฝึกงานเมื่อตอนปิดเทอมใหญ่ไง” เจสสิก้าหัวเราะอย่างสะใจ สะใจทั้งตัวเอง แล้วก็เพื่อนรักด้วย

            “อย่าย้ำดิ ยิ่งเครียดอยู่ ผิดหวังอย่างแรง แต่ช่างเหอะ เออ คืนนี้ฉันไม่กลับบ้าน จะไปนอนบ้านพี่ซึงยอนนะ”

            ฟังแล้วมันน่าของขึ้นซะจริงๆ นี่ขนาดหลอกให้ฉันจีบน้องฟานี่ แต่มันก็ยังคั่วกับสาวในฮาเร็มของมันต่อไป น่าหมั่นไส้ที่สุด

            “ขอให้แกกลับมาหูขาด หางกุด ฟันหลุดหมดปาก!!! ”  เจสสิก้าบ่นทางโทรศัพท์เหมือนป้าแก่ๆ ปลายสายหัวเราะร่าก่อนจะพูดในสิ่งที่คาดไม่ถึง

            “บ่นเป็นป้าแก่ๆไปได้ ป้าเป็ด งั้นพรุ่งนี้ ฉันจะไปเป็นแฟนแกเอง แกจะได้ไม่เสียเซลฟ์ที่จีบน้องฟานี่ไม่ติดไง แล้วเจอกันนะจ้ะป้า พรุ่งนี้ ราตรีสวัสดิ์”

            กำลังจะอ้าปากด่าประโยคถัดมา ไอ้ตัวปัญหาก็วางสายไปเสียแล้ว แต่ประโยคที่ปลายสายพูดออกมาเมื่อครู่ก็ทำให้เจสสิก้าถึงกับยิ้มออกมาเบาๆ

            “พรุ่งนี้จะจัดการให้ครบทั้งต้นทั้งดอกเลย ไอ้ลิงดำเจ้าชู้”

THE  END

....................................................................................

หายไปนานเกือบเดือน หลังจากที่การบ้านรัดพันตัวมาก

และเครียดเรื่องสอบ ทั้งสอบเข้า สอบออก

มิลค์กำลังจะสอบเข้ามหิดลแล้ว มีรีดเดอร์คนไหนสอบเข้า

มหิดลบ้าง ? ฮ่าๆ

ฟิคเรื่องนี้ชั่ววูบจริงๆ แต่งทีเดียวจบ มาแบบวันเดย์จริงๆ

ไม่เหมือนเรื่องอื่นที่ดอง กร๊ากก

มาอีกทีคงปลายเดือนกันยายน หลังสอบ

ปลายภาคและเอ็นทีเสร็จ ชีวิตมีแต่การสอบT^T

เป็นฟิคที่หาสาระไม่ได้เลยจริงๆ แต่เอาเถอะ

ยังไงมันก็ออกมาแล้ว สุดท้ายก็รอยัล กร๊ากก

แม่ยกเจทิก็ผิดหวังไปตามๆกัน ขอโทษนะค่า T__T

เสียวแม่ยกเจทิตบ=="

ปล.พี่แทมาแป๊บเดียว แต่แย่งซีนสิก้าได้เป็นคนรักของน้องหมี คริคริ