ความรักกับความดี.....

เนื้อเรื่อง

ความรักกับความดีมักจะมาคู่กันเสมอ ไม่ว่าเราจะรักใครแบบไหนก็ตาม แต่เราจะทำดีให้กับคนที่เรารักอย่างไรกันบ้าง.... ในพระคัมภีร์ได้บอกเราไว้ว่า ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้..... ความรักไม่อิจฉา...… ไม่อวดตัว....... ไม่หยิ่งผยอง....... ไม่หยาบคาย....... ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว..... ไม่ฉุนเฉียว...... ไม่ช่างจดจำความผิด....... ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด...... แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ...... ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น....... และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ....... และมีความหวังอยู่เสมอ… และทนต่อทุกอย่าง......... ความรักไม่มีวันสูญสิ้น..... เราจะเห็นได้ชัดว่า ในความรักที่ดีแบบนี้ไม่มีความอิจฉา ไม่มีการอวดตัว ไม่มีใครที่จะหยิ่งผยองขึ้น ไม่มีใครพูดหยาบคายต่อกัน ไม่มีใครที่จะเห็นแก่ตัว ไม่มีการโกรธนานและไม่มีการจดจำความผิดของคนอื่นๆ และในความรักจะชื่นชมเสมอ ถ้าคนที่รักได้ดิบได้ดี เป็นใหญ่เป็นโตได้ ไม่มีใครที่จะคิดร้ายต่อกัน เราจะหวังให้คนที่เรารักจะเป็นคนดีเสมอ ไม่มีใครที่จะคิดทำร้ายใคร ในความรักนั้นมีแต่การทำดีให้แก่กันและไม่มีการสนับสนุนให้คนที่รักไปทำสิ่งที่ผิดบาป เช่น ลักขโมย การโกหก แต่เมื่อพบว่าคนที่รักนั้นทำผิดไป ก็จะมีการเตือนกัน ช่วยกันที่จะแก้ไขกัน เพื่อให้เราได้เติบโตขึ้นด้วยกัน เพื่อที่เราจะเป็นคนที่ดี และในความรักไม่มีการปิดบังสิ่งที่ดีต่อกัน นี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่คริสเตียนทุกคนพยายามจะบอกกับคุณๆทุกคนว่า พระเจ้าทรงรักคุณที่สุด จนพระองค์ได้ทรงประทานพระบุตรของพระองค์ คือ พระเยซูคริสต์ มาตายไถ่บาปให้กับพวกเราที่เป็นคนบาป ไม่ว่าจะเป็นตัวผู้เขียนเองหรือจะเป็นคุณ โดยผ่านเงื่อนไขที่ว่า เราต้องเชื่อด้วยสุดจิต สุดใจและสุดกำลังของเรา แล้วเมื่อเราได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว เราจะได้ไปแผ่นดินสวรรค์ที่สวยงาม ไม่มีน้ำตาของใครๆ ไม่มีความทุกข์ ไม่มีใครที่มีใบหน้าที่เศร้าหมอง แต่ทุกคนจะมีความสุขและใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอ แต่ในชีวิตที่มีแต่ความเชื่อว่าพระเจ้าช่วยเราได้นั้นไม่พอ เราต้องดำเนินชีวิตไปกับพระเจ้าด้วย โดยการที่เราอธิษฐานอยู่เสมอ(การอธิษฐานเป็นการพูดคุยกับพระเจ้าเป็นการส่วนตัว ระหว่างเรากับพระเจ้าเท่านั้น โดยส่วนใหญ่จะลงท้ายคำอธิษฐานว่า ในพระนามพระมหาเยซูคริสต์เจ้า อาเมน) อ่าน/ศึกษาพระคัมภีร์(ไบเบิ้ล)เป็นประจำและพยายามพูดคุยกับคริสเตียนด้วย เพื่อให้เราได้เรียนรู้ถึงพระเจ้าที่เราเชื่อ และสิ่งที่เราได้เรียนรู้นั้นจะเป็นรากฐานให้เราพร้อมที่จะทำดีได้ตลอดเวลาและไม่มีวันใดเลยที่จะทำให้เราจะไม่เป็นห่วงคนอื่นๆที่เราได้พบได้เจอกับเขา