ใจแลกใจ - ใจแลกใจ นิยาย ใจแลกใจ : Dek-D.com - Writer

    ใจแลกใจ

    ผู้เข้าชมรวม

    313

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    313

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 มี.ค. 51 / 00:39 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ใจ แลก ใจ

      โดย...เกี๊ยวหมู

       

       

                      ทำไมนะ...เวลาที่เรารักใคร เขาเหมือนขโมยหัวใจของเราไปด้วย

       

      - เธอ -

                      นานแค่ไหนแล้วที่เธอกับคนๆ นั้น แยกจากกัน แต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไร เธอก็ยังคงลืมเขาคนนั้นไม่ได้สักที

                      วันนี้พี่ขอไอซ์ คาราเมล ลาเต้ นะ ลูกค้าสาวรุ่นพี่ร้องสั่งกาแฟแก้วโปรดกับสาวน้อยผิวขาวใส ที่อยู่เบื้องหน้า

                      แพน แพน ได้ยินพี่ไหม ลูกค้าสาวรุ่นพี่ร้องเรียกเมื่อเห็นอาการเหม่อลอยของเจ้าของร้านกาแฟสาว

                      อะไรนะคะ พี่อ้อม สาวน้อยสะดุ้งได้สติ

                      เมื่อกี้พี่สั่งไอซ์ คาราเมลลาเต้ จ๊ะ

                      ค่ะ ค่ะ แป๊บนึงนะคะพี่

      ................

       

                      พี่อ้อม เป็นรุ่นพี่ของแพนรูปร่างท้วม ขาว หน้าตาน่ารักตามแบบสาวเจ้าเนื้อท่าทางอารมณ์ดี ทั้งคู่เป็นศิษย์เก่าที่คณะอักษรศาสตร์  สมัยที่แพนเข้าเรียนปีหนึ่ง พี่อ้อมเรียนอยู่ปีสาม ตอนนั้นแพนเป็นขวัญใจของหนุ่มๆ รุ่นพี่และรุ่นเดียวกัน ด้วยรูปร่างอ้อนแอ้น ดูสมส่วน ผมดำขลับตัดกับใบหน้าสีขาวใส รูปไข่ ปากนิดแต้มสลับกับจมูกน้อยๆ พร้อมดวงตาคู่เล็กที่ดูเก๋ ประกอบกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ ที่ยิ้มเมื่อไรทำเอาหนุ่มๆ หลายคนใจละลายเมื่อนั้น  แต่มีเพียงหนุ่มเดียวที่ขโมยหัวใจของสาวน้อยคนนี้ไปได้ก็คือ พี่อั้น รุ่นพี่วิศวกรรม เพื่อนสนิทสุดซี้ของพี่อ้อม ทั้งสามคนเจอกันที่งานละครประจำปีของคณะอักษร

                      ครั้งนั้นพี่อั้นถูกรับเชิญมารับบทเจ้าชายแฮมเล็ท ตัวละครเอกในวรรณกรรมสุดคลาสลิคของเช็คสเปียร์ และผู้สวมบทสาวน้อย โอฟิเลีย ผู้น่าสงสารในเรื่องไม่ใช่ใคร น้องแพนคนสวยนี้เอง เมื่อละครจบ แต่ดูเหมือนความสัมพันธ์ของแฮมเล็ทกับโอฟิเลียในเรื่องจะถูกสานต่อเรื่อยมา จนเป็นที่อิจฉาของใครต่อใคร

                      เจ้าชายแฮมเล็ทของแพนโทรมาอีกสิ ถึงได้เป็นแบบนี้อีก พี่อ้อมร้องทักทันทีที่แพนยกกาแฟแก้วโปรดมาเสิร์ฟ

                      แพนนิ่งเงียบ นัยน์ตามีแววเศร้าและสับสน แค่นี้พี่อ้อมก็รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น

                      ไอ้อั้นมันยังตื้อแพนอยู่ใช่ไหม

                      แพนเหนื่อย นัยน์ตาคู่นั้นเริ่มมีน้ำตาปริ่มออกมา

      นานแค่ไหนนะที่ความรักระหว่างเธอและเขาต้องใช้คำว่าจำทน จากจุดเริ่มต้นที่ดูเหมือนจะไปด้วยกันด้วยดี แต่พอคบกันไปนานวันเข้าทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป  จากจุดเริ่มที่เหมือนว่าจะเข้าใจแต่นานไปกลับพบว่าเขาไม่มีความเข้าใจให้เธอเลยสักนิด

       แพนไม่ใช่สาวหวาน เธอเป็นนักกิจกรรมตัวยง  ช่วงแรกๆ ดูเหมือนว่าพี่อั้นจะรับได้และเข้าใจถึงความเป็นสาวบ้าพลังของแพน แต่นั่นเหมือนจะไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริงของอั้น เพราะนานวันเข้าพี่อั้นจะรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่แพนไปร่วมทำกิจกรรมกับชมรมละคร หรือหึงเพื่อนผู้ชายที่แพนสนิทด้วยเมื่อตอนไปออกค่ายอาสา ทั้งๆที่แพนยืนยันว่าเธอกับเขาเป็นแค่เพื่อนร่วมค่ายกันเท่านั้น

      ความฝันเล็กๆ อีกอย่างหนึ่งของแพนคืออยากเป็นเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ เธอชอบวนเวียนแวะไปนั่งจิบกาแฟและแวะอ่านหนังสือดีๆ ที่ร้านข้างๆ มหาวิทยาลัยบ่อยๆ และมักจะพูดคุยถูกคอกับพี่เจ้าของร้านที่มักจะแนะนำหนังสือดีๆ ให้เธออยู่เรื่อย แน่นอนล่ะว่าพี่อั้นของเธอไม่พอใจและเข้าใจผิดหาว่าพี่เจ้าของร้านจะมาจีบแพนจนเกือบจะมีเรื่อง ถ้าไม่ใช่เพราะแฟนตัวจริงของพี่เจ้าของร้านเข้ามาห้ามทัพซะก่อน ดังนั้นความฝันของแพนที่มีร้านกาแฟอย่างทุกวันนี้จึงไม่ใช่ความพอใจของอั้นเท่าไรนัก

      พี่ไม่เห็นด้วยเลยนะ ที่แพนจะมาเปิดร้านกาแฟแบบนี้ นี่คือความรู้สึกของอั้นที่บอกแพน

      ทำไมล่ะ ฉันไม่เห็นว่าร้านกาแฟนี่มันจะเสียหายตรงไหน พี่อ้อมเข้าข้างแพน

      นั่นสิคะพี่อั้น มันเป็นความฝันของแพนที่อยากมีร้านกาแฟสักร้าน แพนอยากทำร้านให้คนมานั่งดื่มกาแฟ พุดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องหนังสือ หนัง และศิลปะ

      พี่ไม่เห็นว่ามันจะเข้าท่าเลย แพนจะเหนื่อยเปล่า พี่ตั้งใจตั้งแต่ตอนแพนเรียนจบแล้วว่าพี่จะขอแพนแต่งงานแล้วไปอยู่เชียงใหม่กัน แพนจะได้ไม่ต้องทำงานให้เหนื่อยไง

                      พี่อั้นก็รู้ว่าแพนไม่อยากอยู่เฉยๆ ไปวันๆ แล้วเรื่องแต่งงานแพนก็ยังไม่พร้อม

                      ใช่สิ กี่ปี กี่ปี แพนก็ไม่พร้อมสักอย่าง ก็ได้ ถ้าแพนอยากอยู่กับไอ้ร้านกาแฟบ้าๆ นี่ก็อยู่ซะให้พอใจ พี่จะไปอยู่เชียงใหม่

                      พี่อั้นไม่เคยเข้าใจแพน ไม่เข้าใจเลยสักนิด ไม่พยายามที่จะเรียนรู้ที่จะเข้าใจ บ่อยครั้งที่แพนรู้สึกเหมือนว่าพี่อั้นของเธอจะเอาแต่ใจตัวเองฝ่ายเดียว เขาอยากให้เธอเรียนจบแล้วแต่งงาน ไม่ต้องทำอะไร เพราะที่บ้านของเขามีกิจการใหญ่โตอยู่ที่เชียงใหม่  เขาไม่อยากให้แพนพูดคุยกับใครอย่างสนิทสนมโดยเฉพาะถ้าเขาคนนั้นเป็นผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านกาแฟร้านนี้ ที่เขาเคยออกปากเมื่อตอนที่ทั้งคู่ทะเลาะกันหนักๆ ว่า พี่เกลียดร้านนี้

                      แพนเคยบอกเลิกเขาเป็นสิบๆ ครั้ง แต่ทุกครั้งก็ได้คำตอบแบบเดิมๆ

                      พี่รักแพนมาก....พี่ขอปรับปรุงตัวนะ........พี่จะเข้าใจแพนให้มากขึ้นนะ

      สุดท้ายเขาก็ไม่เคยทำได้อย่างที่พูด ทำให้แพนเรียนรู้ว่าอยู่กันไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา ต่างคนต่างเหนื่อย ต่างคนต่างเจ็บปวด

                      พี่อั้นคะ แพนคงไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่พี่ต้องการหรอกคะ แพนว่าเราอย่าหลอกตัวเองอีกเลยนะคะ แพนเชื่อค่ะว่าสักวันพี่คงเจอคนที่ใช่สำหรับพี่

                      นี่คือประโยคสุดท้ายที่แพนคุยกับเขาผ่านทางโทรศัพท์  ไม่แปลกที่แพนคุยกับเขาทีไร ต้องมีน้ำตาทุกที

                      จะไม่ให้เหนื่อยได้ยังไง เพราะมันเล่นไม่ยอมปล่อยแพนเลย พี่อ้อมให้ความเห็นอย่างเข้าใจ

                      สองปีแล้วที่แพนกับอั้นแยกจากกัน ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมปล่อย คอยระแวงอยู่ตลอดเวลา เพราะกลัวแพนจะมีใครใหม่  แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เหมือนเขากำลังกักขังใจเธออยู่

                      ยิ่งไอ้อั้นมันทำแบบนี้ แกก็ลืมมันไม่ได้สักที

                      บางทีอาจเป็นเพราะว่า...แพนคงรักเขามาก แพนพูดทั้งน้ำตา

                      พี่ไม่เถียงหรอก...รักกัน แต่ไม่เคยเข้าใจกันเลย ยังไงมันก็ไปกันไม่ได้อยู่ดี

                      แพนนิ่งเงียบ ดวงตาคู่นั้นยังคงมีน้ำตาไหลปริ่ม การตัดสินใจบอกเลิกบางทีมันดูเป็นเรื่องยากเสียเหลือเกิน

       

      คิดว่าเพียงรักกัน..ก็คงเพียงพอจะเดินร่วมทาง

      แต่ความเป็นจริงมีตั้งหลายอย่าง

      เราต่างคนไม่เคยมอง...ไม่เคยเข้าใจ

       

       

      - เขา -

             

      เสียงกริ่ง กรุ๊งกริ๊ง ที่ติดอยู่ที่ประตูดังขึ้น เป็นสัญญาณบอกว่ามีลูกค้าเข้ามาที่ร้าน  น้องพนักงานหญิงกล่าวทักทายลูกค้าชายหนุ่มรูปร่างเจ้าเนื้อ ผิวสีแทน ใบหน้าดูเข้ม คมสัน พร้อมกับรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาหรือวิน หนุ่มวัยสามสิบต้นๆ เข้ามาเป็นลูกค้าที่ร้านนี้ ครั้งแรก วินเข้ามาที่ร้านเพราะต้องการหลบฝนและต้องการไออุ่นจากกาแฟร้อนๆ ไว้แก้หนาว แต่หลังจากนั้นเขาก็วนเวียนมาที่ร้านกาแฟเล็กๆนี้ตลอด อาจเป็นเพราะใบหน้ากลมๆ ดวงตาคู่เศร้าๆ ของเจ้าของร้านก็เป็นได้ ที่ทำให้ชายหนุ่มเฝ้าถามตัวเองตลอด

      ทำไมนะ...เธอคนนี้ถึงดูเศร้าได้ตลอดเวลา

      วันนี้รับเอ็กเพรสโซ่ร้อนเหมือนเดิมรึเปล่าคะ นิด น้องที่ร้านกาแฟเอ่ยปากถาม

      ครับ ชายหนุ่มตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่เป็นมิตร

      วินเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะติดหน้าต่าง มุมเดิมที่เขาชอบนั่ง ซึ่งจะต้องผ่านโต๊ะของแพนกับอ้อม ชายหนุ่มมองแพนไม่วางตา แพนยิ้มให้ชายหนุ่มพร้อมกล่าวคำทักทาย

                      สวัสดีครับ หนังสือที่คุณแพนให้ไปสนุกดีครับ วันนี้ผมเลยเอาหนังสือของนักเขียนคนเดียวกันมาให้ยืมอ่าน วินพูดจบพร้อมกับเปิดกระเป๋าส่งหนังสือพร้อมกับรอยยิ้มให้แพน

                      ขอบคุณค่ะ แพนยิ้มเป็นการขอบคุณ

      พี่อ้อมแอบมองชายหนุ่มกับหญิงสาวคุยกัน พร้อมกับเสียงกระแอมเป็นการเย้า จนแพนอดจะแอบค้อนพี่อ้อมไม่ได้

                      ลืมไปค่ะ นี่พี่อ้อม เพื่อนรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยค่ะ ...พี่อ้อม นี่คุณวิน ลูกค้าที่ร้าน

                      สวัสดีค่ะ กาแฟที่นี่อร่อยดี คุณวินว่าไหมคะอ้อมทักทายพร้อมหลิ่วตายิ้มไปที่แพน จนชายหนุ่มอดเขินไม่ได้

                      ครับๆ ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณอ้อม ..เออผมขอตัวไปนั่งที่โต๊ะนะครับ ชายหนุ่มรีบเดิมไปนั่งที่โต๊ะประจำเป็นการกลบความเขิน เอ..หรือสาวอ้อมคนนี้จะรู้ทันถึงความผิดปกติในท่าทีของเขา ยิ่งพอเขาลอบมองไปที่โต๊ะตัวนั้นเมื่อไร ก็จะเจอกับสายตาของสาวอ้อมรุ่นพี่เหมือนกับจะจ้องคอยจับผิด

                      จะทำยังไงได้ล่ะในเมื่อนัยน์ตาเศร้าๆ คู่นั้นดึงดูดเขาตั้งแต่เมื่อแรกเห็น ตอนนั้นเธอเพิ่งวางสายจากโทรศัพท์มือถือพร้อมกับรอยน้ำตา จนเขาอดสงสัยไม่ได้ว่าเจ้าของเสียงปลายสายคนนั้นเป็นใครกันที่ทำให้ดวงตาเล็กๆ คู่นั้นต้องมีน้ำตา  ใบหน้าใสๆ ของเธอนั้นทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะลองชำเลืองมองดูหน้าของเธออยู่บ่อยๆ ดูเหมือนเธอจะรู้ตัว รีบเช็ดคราบน้ำตาพร้อมกับแสร้งยิ้มเขินๆ เป็นการกลบเกลื่อน

       

      อยากดูแลเมื่อยามเธอหมองเศร้า

      อยากเป็นเงาเมื่อเธอเหงาใจ

      อยากเดินเคียงเมื่อเธอต้องการผู้ใด

      ข้างกายสักคน..

                     

      เสียงเพลง ขอเป็นคนหนึ่ง ดังแว่วมาจากวิทยุ เวอร์ชั่นที่ได้ยินเป็นเสียงของนักร้องชายที่นำมาขับร้องใหม่ ที่ให้ความรู้สึกต่างจากต้นฉบับเดิมที่นันทิดา แก้วบัวสาย ร้องไว้  เสียงร้องของนักร้องชายราวกับจะแทนเสียงของหัวใจของเขาที่อยากบอกกับเธอ เจ้าของนัยน์ตาคู่เศร้า คนนี้จริงๆ

                      แต่สำหรับเขา คงทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากแค่มองและส่งกำลังใจให้เธอคนนี้เข้มแข็งขึ้นผ่านทางสายตา เขาเชื่อว่า เธอเองคงไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนก่อนๆ ที่ผ่านเข้ามาให้เขาได้รู้สึกดีๆ แล้วก็จากลากันไป ทุกครั้งที่วินมีความรัก หรือเริ่มมีความรู้สึกดีให้ใคร บทสรุปสุดท้ายจะจบลงด้วยความเจ็บปวดเสมอ ความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เขาเข็ดกับการที่จะต้องไปรักใครสักคน เพราะว่าการได้รักแล้ว เธอไม่เพียงแค่เอาความรักของเขาไปเท่านั้น แต่เธอก็ยังได้ขโมยหัวใจของเขาไปด้วย

                      เพื่อนของเขาเคยบอกว่าทำไมวินถึงไม่หางานประจำ เพราะครีเอทีฟฝีมือดีอย่างวินจะไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่น่าจะมีปัญหา อีกเหตุผลหนึ่งที่เพื่อนๆ ของวินมองก็คือ การมีงานประจำเท่ากับเป็นการการันตีเรื่องความมั่นคงทางรายได้ และเป็นการสร้างหลักประกันที่จะหาใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต เพราะผู้หญิงคงไม่อยากเลือกคนที่ทำงานอิสระ ไม่มีสังกัดแน่นอน หรือที่ภาษาในวงการสื่อเรียกกันว่า ฟรีแลนท์ แบบเขาแน่ๆ  วินได้แต่บอกกับใครต่อใครที่ตั้งข้อสงสัยในเรื่องงานของเขาว่า เขาเลือกเองที่จะออกมาทำงานแบบอิสระ นอกจากความสบายใจที่ได้รับ เขายังสามารถหาเวลาทำสิ่งที่เขาฝันนั่นคือการนั่งเขียนความคิด ความฝัน เรื่องราวดีๆ ผ่านมาทางงานเขียน และเขาเองก็หวังที่จะมีผู้หญิงสักคนที่เริ่มเปิดใจมองเขา รักเขา ที่หัวใจและตัวตนที่เขาเป็นจริงๆ มากกว่าเปลือกหรือค่านิยมที่สังคมฉาบไว้ว่า ต้องได้ผู้ชายที่มีเกียรติ มียศ มีเงินทอง เท่านั้น

                      วินอาจจะเป็นผู้ชายที่คิดแปลก แตกต่างไปจากผู้ชายหลายๆ คนในสังคม ที่เลือกใช้ชีวิตและหาเลี้ยงชีพมาจากความอิสระในสิ่งที่เขารักและฝัน ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะไม่แคร์ที่การใช้ชีวิตแบบนี้จะยากลำบากในการหาคู่ชีวิตดีๆ สักคน แต่ใจจริงๆ แล้ว เขาเองก็อยากจะมีใครสักคนที่เข้าใจ ใครสักคนที่พร้อมจะแลกหัวใจและเปิดใจในความรู้สึกในการคบกัน ดูเหมือนมันจะยากเย็นเหลือเกิน

       

      เรื่องของ เธอ และ เขา

                     

                      วินยอมรับตัวเองอยู่อย่างหนึ่ง ว่าลึกๆ แล้วเขาติดอกติดใจร้านกาแฟเล็กๆ นี้เขาให้แล้ว ไม่เพียงแต่รสชาติกาแฟที่หอมกรุ่น หรือขนมมูสช็อคโกแลตของโปรดที่เขาชอบสั่งมาทานเพิ่ม สิ่งหนึ่งที่เขายอมรับก็คือการได้มานั่งแอบมองนัยน์ตาเศร้าๆ ของเจ้าของร้าน รวมทั้งการได้พูดคุยเรื่องหนังสือ ศิลปะ หรือหนังดีๆ กับเธอคนนี้  วินยอมรับเลยว่า แพนเป็นคู่คุยที่เข้ากันได้ดี ยิ่งวันไหนที่มีอ้อม สาวรุ่นพี่คณะเดียวกับแพนเขามาร่วมสนทนาพาทีด้วย วันนั้นร้านกาแฟเล็กๆ นี้ก็จะเกิดบรรยากาศสภากาแฟย่อยๆ ทีพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติไม่น้อย

                      พี่วิน อ้อมขอถามอะไรตรงๆ ได้ไหม อ้อมเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าใคร่รู้

                      มีอะไรเหรออ้อม วินเริ่มสงสัยในสิ่งที่อ้อมจะเอ่ยปากถาม

                      อ้อมถามในฐานะที่พี่วินกับอ้อมก็สนิทกัน คืออ้อมอยากรู้ว่า...พี่วิน คิดยังไงกับแพน เธอเอ่ยปากถามตรงๆ และเธอที่จะเลือกถามคำถามนี้ในวันที่แพน เจ้าของร้าน รุ่นน้องคนสนิทของเธอไม่อยู่ แถมอ้อมทำสีหน้าจริงจังเพื่อฟังคำตอบ วินยอมรับตรงๆเลยว่า คำถามนี้ทำเอาหัวใจของเขาเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ไม่เป็นจังหวะ อ้อมจ้องหน้าเขาเหมือนจะจับพิรุธอะไรบางอย่าง

                      ตอบมาสิพี่วิน ตอบมาตรงๆนะ อย่าโกหก อ้อมเร่งเร้าเอาคำตอบ

      วินเองก็ตื่นเต้น ทำอะไรไม่ถูก หันไปมองรอบๆ ตัว พบว่า น้องที่เคาเตอร์ร้านพยายามที่จะเงี่ยหูฟังคำตอบจากปาก แต่ก็แกล้งทำโน่น ทำนี่เหมือนไม่สนใจอะไรในเวลาที่วินหันไปมอง วินสะดุ้งอีกครั้งเมื่ออ้อมตีที่แขน

                      เร็วๆ ตอบมาดีๆ

                      ก็...พี่ๆ... วินอึกอัก พูดอะไรไม่ออก

                      พี่..พี่อะไร พี่ชอบแพนใช่ไหม อ้อมถามตอกย้ำ คำถามที่ดูเหมือนจะจี้เข้าไปที่หัวใจของเขา ยิ่งสาวรุ่นน้องร่างท้วม พยายามจ้องตาเขาราวกับจะมองให้ทะลุเพื่อเค้นเอาคำตอบให้ได้ คงถึงเวลาแล้วสิ ที่เขาควรจะยอมรับหัวใจตัวเองสักที

                      ใช่..อ้อม..พี่..พี่...ชอบแพน ชายหนุ่มรวบรวมความกล้าเอาชนะความเขินอายกว่าจะพูดออกมาได้

                      เย้ๆๆๆ เห็นไหมพี่อ้อม นิดว่าแล้วไม่มีผิด พี่วินชอบพี่แพน แน่ๆ เสียงตะโกนดังลั่นมาจากเคาเตอร์ชงกาแฟของน้องพนักงานประจำร้าน ที่ดูจะดีใจออกนอกหน้า ที่ความลับซึ่งสงสัยมานานถูกเปิดเผยออกมาซะที

                      พอ พอ ยายนิด นี่แกดีใจซะเวอร์ ยังกะพี่วินมาชอบแกเสียเอง อ้อมร้องแซว แต่ตัวเองก็อดดีใจไม่แพ้กัน

                      แหม...พี่อ้อม ก็หนูปลื้มแทนพี่แพนนี่ หนูว่านะพี่วิน ถึงจะอ้วนไปนิด แต่ก็น่ารักดี  แล้วเวลาที่พี่แพนคุยกับพี่วิน พี่แพนดูสดใส ร่าเริง ไม่เศร้าเหมือนตอนที่คุยโทร... น้องนิด ลูกจ้างสาวรีบหุบคำพูด เมื่อเห็นแพน สาวเจ้าของร้านกลับเข้ามาในร้าน พร้อมหอบข้าวของพะรุงพะรัง

                      ไงจ๊ะ คุณนายเจ้าของร้าน ไปช็อปปิ้งของเข้าร้านมาเหรอจ๊ะ อ้อมรีบร้องทัก เพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่คุยกันก่อนหน้านี้ น้องนิดที่เคาเตอร์รีบกุลีกุจอมาช่วยหิ้วของ แต่ไม่ทันการณ์กับชายหนุ่มร่างใหญ่ที่รีบมาคว้าถุงจากมือสาวเจ้า

                      ให้พี่ช่วยนะครับแพน วินรับอาสา

                      ขอบคุณค่ะ พี่วินแพนยิ้มรับการช่วยเหลือ พร้อมกับส่งถุงในมือให้ชายหนุ่ม

                      ยายนิด แกเตรียมตัวตกงานได้เลย ดูสิ ให้ลูกค้ามาช่วยหิ้วของเข้าร้าน อ้อมร้องแซว

                      แหม...พี่อ้อมก็ หนูรีบสุดชีวิตแล้วนะคะ แต่ก็ไม่ทันพี่วินอยู่ดี แต่พี่แพนออกใจดี๊ ใจดี คงไม่ไล่หนูออกหรอกค่ะ เพราะหนูชงกาแฟอร่อย จริงไหมค่ะ นิดมองหน้านายจ้างสาว ด้วยท่าทีอ้อนสุดชีวิต แพนยิ้มรับ พร้อมกับเขกหัวหนึ่งทีแทนคำตอบ

                      ว่าแต่เมื่อกี้คุยอะไรกันอยู่เหรอ ท่าทางน่าสนุก นินทาอะไรแพนรึเปล่า

                      อ๊ะ..เปล่าๆ จ๊ะ คือ..พี่ดีใจ ที่ๆ พี่ได้ตั๋วละครเรื่อง Beauty and the Beast มาสองใบ เล่นพรุ่งนี้ที่ศูนย์วัฒนธรรม แต่พี่ไปไม่ได้ เลยตั้งใจจะเอามาให้แพนกับ...เออ...พี่วินชอบดูละครเวทีใช่ไหมคะ ไปดูเป็นเพื่อนแพนได้ไหมคะ อ้อมรีบโยนกลองอย่างเร็ว  วินสะดุ้งที่อ้อมรีบโยนมุขมาอย่างเร็ว อีกนัยก็อดขำไม่ได้กับลีลาการเอาตัวรอดของอ้อม

                      ได้ไหม พี่วิน พรุ่งนี้เล่นตอนทุ่มนึงนะ อ้อมยกมือเป็นเชิงโอเค พร้อมกับหลิ่วตาให้วินเพื่อเป็นสัญญาณของการเปิดโอกาสให้สองคนได้มีกิจกรรมทำร่วมกัน

                      ไปได้ แต่.... วินชำเลืองมองแพนราวกับจะขอความแน่ใจว่า เธออยากไปกับเขาจริงๆ หรือเปล่า อ้อมรู้ทัน รีบหันไปหาแพน

                      ตกลงแพนไปกับพี่วินนะ พี่รู้ว่าแพนชอบดูละคร พี่วินก็ชอบดู คอละครเหมือนกันไปด้วยกันน่าจะสนุก อ้อมยิ้มวางแผนเสร็จสรรพ์

                      ก็ได้ค่ะ แพนยิ้มรับ

      นานแค่ไหนแล้วนะที่เธอได้มีโอกาสดูละครเวทีแบบนี้ เพราะหลายครั้งที่มีละครเวทีดีๆ มาจัดแสดง เธอจะเอ่ยปากชวนอั้นไปดู คำตอบที่ได้คือ ไม่ว่าง...พี่ขี้เกียจ...พี่ไม่อยากไป แถมเวลาที่เธอจะขอไปดูคนเดียว เขากลับไม่อยากให้เธอไปแล้วก็จบลงด้วยการทะเลาะทุกครั้ง

                       แม้เธอกับเขาจะเจอกันจากการเล่นละครเวที แต่ดูเหมือนว่าความชอบในละครในตัวของอั้นจะไม่มีเลยแม้แต่น้อย พี่อ้อมเคยบอกว่าที่ไอ้อั้นมันยอมมาเล่น เพราะมันแอบชอบแพนมานานแล้ว การเล่นละครเวทีร่วมกันคือหนทางเดียวในเวลานั้นที่อั้นจะสามารถใกล้ชิดแพนได้มากที่สุด บางครั้งแพนก็อดตั้งข้อสงสัยไม่ได้ว่า เมื่อผู้ชายเริ่มสนใจผู้หญิงสักคน เขายอมลงทุนถึงขนาดเปลี่ยนแปลงตัวตนเพื่อผู้หญิงคนนั้นได้ เพื่อให้ได้ครอบครองหัวใจของเธอ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า ความเป็นตัวตนจริงๆ ก็ย่อมปรากฏขึ้น  และที่สำคัญเมื่อเวลานั้นมาถึง เขาและเธอจะยอมรับความเป็นตัวตนของกันและกันได้แค่ไหน

                                                                   -------------

       

                      รถยนต์คันหนึ่งแล่นฝ่าความมืดมาทางถนนรัชดาภิเษก  บรรยากาศด้านนอกเริ่มมีฝนตกลงมาปรอยๆ แต่ภายในรถหนุ่มร่างใหญ่คนขับ กับสาวร่างเล็กที่นั่งด้านข้างกลับยิ้มให้กันอย่างมีความสุข

                      น้องแพนชอบละครไหมครับ ชายหนุ่มเอ่ยปากถาม

                      ชอบค่ะ แพนไม่ได้ดูละครเวทีดีๆ อย่างนี้มานานแล้ว อยากไปดูนะ แต่...ไม่มีโอกาส เมื่อพูดถึงประโยคนี้ น้ำเสียงของแพนเริ่มเปลี่ยนเป็นเศร้าๆ ก่อนจะกลบเกลื่อนด้วยการหันมาถามชายหนุ่ม

                      ว่าแต่พี่วินล่ะคะ ชอบละครเรื่องนี้รึเปล่า

                      ชอบมากครับ รู้ไหม ตอนเป็นหนังการ์ตูน พี่ดูตั้งสามรอบ ดูไปก็ชอบคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าชายอสูรอยู่เรื่อย วินสารภาพ

                      ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะคะ

                      ก็เจ้าชายอสูรหน้าตาน่าเกลียด อัปลักษณ์ เหมือนกับพี่ล่ะมั้งที่ทั้งอ้วนและไม่หล่อ เลยไม่มีใครมารักสักที แพนอดขำกับวิธีคิดของวินไม่ได้  อะไรหนอทำให้เขาต้องคิดแบบนี้  แม้คำพูดนั้นจะพยายามทำให้เหมือนติดตลก แต่ในน้ำเสียงที่สื่อแฝงไว้ด้วยความน้อยใจระคนกัน

                      แต่เจ้าชายอสูร ก็ยังมีเบล ที่เข้าใจแล้วก็ได้แต่งงานกัน ไม่แน่นะคะพี่วิน สักวันคงมีผู้หญิงสักคนที่เห็นคุณค่าในตัวพี่ก็ได้ แพนพูดให้กำลังใจชายหนุ่ม ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้เข้าใจความรู้สึกลึกๆ ของเขา เพราะว่าถ้ามองในมุมกลับการเกิดมาเป็นคนสวย หน้าตาดี มีคนมารุมรัก แต่ความรักที่ได้มานั้นมาจากหัวใจจริงๆหรือเปล่า หรือเพียงหลงใหลแค่เปลือกนอกที่ฉาบไว้เท่านั้น

      ถ้าเป็นไปได้ ฉันนี่แหละขอเลือกเกิดเป็นเจ้าชายอสูร แล้วเลือกที่จะพบรักแท้ที่มาจากใจจริงๆ เหมือนกับที่เบลนางเอกของเรื่องมอบให้

                      รถยนต์คันเดิมแล่นมาจอดที่หน้าบ้านจัดสรรหลังเล็กๆ สาวน้อยหันมายิ้มให้ชายหนุ่มก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ ชายหนุ่มคิดในใจว่าทำไมช่วงเวลาที่อยู่ใกล้ชิดกันมันช่างสั้นนัก ถ้าเป็นไปได้หรือมีมนต์วิเศษสักข้อ เขาจะขอให้เวลาทั้งหมดหยุดลง เพื่อที่เขาและเธอจะได้ใช้เวล่อยู่ด้วยกันนานขึ้นกว่านี้

                      ขอบคุณนะคะพี่วินที่มาส่งแพน หญิงสาวเอ่ยขอบคุณด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร

                      ไม่เป็นไรครับ...พี่ก็ต้องขอขอบคุณแพนเหมือนกัน  ที่ทำให้เจ้าชายอสูรคนนี้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า พรุ่งนี้เจอกันที่ร้านนะครับ ชายหนุ่มยิ้มให้หญิงสาว            รอยยิ้มนี้เองที่ทำให้แพนรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความจริงใจที่ได้รับ รอยยิ้มที่เธอไม่มีวันได้พบจากอั้น ชายหนุ่มที่บอกว่ารักเธอสุดหัวใจ   เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่ชั่วโมง หญิงสาวเริ่มรู้สึกแปลกประหลาดในหัวใจ นี่เราเป็นอะไรไปหนอ แพนนั่งคิด... ช่างเหอะ..อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด แพนไม่อยากจะคิดอะไรอีกแล้ว

                                                                      ----- --------------

       

                      เหตุการณ์หลังจากที่ทั้งวินและแพนได้ไปดูละครด้วยกัน เป็นที่จับตามองของเหล่าสมาชิกในร้านกาแฟเล็กๆ วินกลายเป็นแขกประจำคนโปรดของร้านนอกเหนือจากหนังสือ ดีวีดี ที่มักจะติดมือมาฝากเจ้าของร้านเป็นประจำแล้ว บ่อยครั้งวินมักจะมีขนมเล็กๆ ติดไม้ติดมือมากฝากน้องๆ ที่เคาเตอร์ จนแทบจะเรียกได้ว่าวินกลายเป็นคนโปรดของนิดไปซะแล้ว

                      พี่อ้อมอาศัยบารมีที่ตัวเองเป็นพีอาร์สาวค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ มักจะหาตั๋วคอนเสิร์ต หรืองานกิจกรรมดีๆ มาฝากทั้งคู่เสมอ นัยว่าอาจเป็นการไถ่บาปที่สมัยเรียนอ้อมเคยชักนำให้อั้นมารู้จักกับแพน แล้วทำให้แพนติดกับอยู่ในบ่วงรัก บ่วงหวงของอั้นอย่างไม่มีวันสิ้นสุด เอาน่า หวังว่าพี่วินคงไม่เป็นเหมือนกับอั้น หวังว่าเซนท์ของการมองคนในครั้งนี้ของอ้อมคงไม่ผิด

                      แล้วก็ยิ่งทำให้อ้อมโล่งใจลงไปได้ เมื่อได้มีโอกาสเปิดใจคุยกับแพนตามประสาลูกผู้หญิงถึงความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับวิน เช่นเดียวกันกับนิด ที่อดรนทนไม่ได้ อาศัยความสนิทถามไถ่วิน ถึงความรู้สึกที่มีให้ต่อเจ้านายสาวของตัวเอง

                      แพนกับพี่วินไม่ได้คบกันแบบแฟนหรอกค่ะ เราเป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง ที่เข้าใจกัน เราคบกันด้วยความสบายใจค่ะ แพนบอกกับอ้อมในวันหนึ่งที่เอ่ยถาม คงไม่ต่างอะไรกับสิ่งที่วินได้บอกกับนิด

                      คำว่าแฟนไม่ใช่เงื่อนไขที่จะใช้ผูกมัดใจใครนะนิด  บางคนถือวิสาสะใช้คำว่าแฟนตีกรอบ คอยบังคับให้อีกฝ่ายเป็นไปอย่างที่ใจของเขาอยากจะให้เป็น พอเธอคนนั้นเป็นให้ไม่ได้ ก็โกรธเคือง ไม่พอใจ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของเธอคนนั้นเลย วินเปิดใจคุยกับนิด

                      พี่วินทำให้แพนเข้าใจอะไรหลายอย่างมากขึ้น  เข้าใจว่าทำไมความสัมพันธ์ที่ผ่านมาแพนถึงได้เหนื่อย นั่นเป็นเพราะแพนพยายามทำตัวให้อยู่ในกรอบที่พี่อั้นสร้างและอยากให้แพนเป็น พอแพนเริ่มอยากแหกกรอบ อยากทำอะไรอย่างใจแบบที่ตัวเองอยากเป็น ก็กลับกลายเป็นปัญหาที่ตัวของพี่อั้นเองก็รับไม่ได้ ส่งผลให้เราสองคนไม่เข้าใจกันอย่างทุกวันนี้ แพนตอบอ้อมด้วยสีหน้าที่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

                      เมื่อก่อน พี่เคยเข้าใจว่าความรักคือการผูกติดกับคนที่เรารักอยู่ตลอดเวลา ถ้ารักใคร เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อทำให้คนที่เรารักพอใจและมีความสุข แต่ความรักที่แท้จริงคือการเรียนรู้ที่จะเข้าใจตัวตนของตัวเองและคนที่เรารัก ไม่ฝืนใจ ไม่ผูกมัด ปล่อยให้เขาเป็นเขา เราเป็นเรา เข้าใจและให้เกียรติทางความคิด การกระทำ นั่นแหละคือความสุขที่แท้ของคำว่ารัก วินสรุปในสิ่งที่เขาคิด

                      "ถ้าวันหนึ่ง แพนและพี่วินเลือกที่จะคบกัน  เป็นคู่รักกัน นั่นเป็นการเลือกที่มาจากความเข้าใจในตัวตนของกันและกันมากกว่าการเลือกที่จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อกันและกัน ค่ะพี่อ้อมแพน

      กล่าวสรุปกับเพื่อนรุ่นพี่  ณ.เวลานี้ คงไม่มีอะไรดีไปกว่า การที่คนทั้งคู่เลือกที่จะตัดสินใจปล่อยให้ความสัมพันธ์นี้ดำเนินไปเรื่อยๆ ช้าๆ ตามวิถีทางของมัน

                                                                       ----------------

                       เดือนถัดมา บรรยากาศในเย็นวันหนึ่งของร้านกาแฟเล็กๆ ถูกเซ็ทให้เป็นงานเลี้ยงปาร์ตี้เล็กๆ แบบกันเอง เนื่องเพราะวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของเจ้าของร้าน แขกส่วนใหญ่นอกเหนือจากพี่อ้อมแล้ว ยังมีกลุ่มเพื่อนสนิทร่วมคณะของแพน และแน่นอน งานนี้ขาดวินไม่ได้ เพราะเขามีส่วนสำคัญในการช่วยจัด ตกแต่งร้านให้ดูกิ๊บเก๋ได้ดีอย่างไม่มีใครเหมือน

                      ไหนๆ วันนี้ก็เป็นวันเกิดของพี่แพน เจ้าของร้านแสนสวยของเรา นิดขอเชิญพี่วิน แขกคนสำคัญของร้าน ขึ้นมาร้องเพลงเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับพี่แพนด้วยค่ะ เอ้า ปรบมือหน่อย นิด พนักงานคนเก่งของร้าน วันนี้ขอรับหน้าที่พิธีกรจำเป็น ประกาศเชิญชวนวินขึ้นมาร้องเพลงบนเวทีเล็กๆ ที่จัดไว้ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าด ของแรงเชียร์ทั่วร้าน วินเดินขึ้นเวทีด้วยสีหน้าเขินๆ คว้ากีตาร์ตัวเก่ง มองหน้าเจ้าของวันเกิดราวกับจะบอกความรู้สึกดีๆ ทั้งหมดที่เขามีต่อเธอคนนี้

                      เพลงเล็กๆ เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมชอบมากๆ อยากจะถ่ายทอดความรู้สึกดีๆ ของเพลงนี้ให้กับน้องแพนเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดครับ

      ฉันรู้...ควรรักเธออย่างไร

      เพราะรู้...ความจริงเป็นเช่นไร

      ฉันรัก..รักเธอ..เพราะใจอยากให้

      ใช่รัก..เพียงเพื่อครอบครอง

      ไม่เคยร้องขอรักตอบ

      ไม่เคยเรียกร้องสิ่งใด

      เพียงเธอรับรู้..มีฉันคอยห่วงใย

      สิ่งนั้นมันมากมายเกินพอ

       

                      เสียงประตูร้านถูกเปิดออก ขณะที่เสียงเพลงดำเนินต่อไป มีเสียงร้องเรียกจากชายหนุ่มที่เจ้าของร้านนี้คุ้นเคยเป็นอย่างดี

                      แพน

                      พี่อั้น แพนมองอั้นอย่างตกใจ นึกไม่ถึงว่าเขาจะมาในวันเกิดของเธอ ไม่เพียงแค่แพนเท่านั้น ทุกคนในร้านก็ตกใจไม่แพ้กันเมื่อเห็นแพนเดินน้ำตานองหน้า วิ่งออกไปนอกร้าน โดยมีอั้นวิ่งตามออกไป

                      ชายหนุ่มบนเวทีเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นนอกร้าน ภาพที่เห็นคือชายหนุ่มคนหนึ่งพยายามอ้อนวอนร้องขอความเห็นใจจากหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ในขณะที่หญิงสาวทำอะไรไม่ถูก นอกจากยืนร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างไม่อายใคร และเสียงเพลงของชายหนุ่มบนเวทียังคงดำเนินต่อไป

       

      ขอเพียงได้คิดถึง

      แค่นี้ก็สุขใจ

      แม้เธอ..อยู่ไกลแสนไกล

      แม้ใคร..อยู่ข้างเธอ

      ฉันรู้..ควรรักเธออย่างไร

      จึงยอมเข้าใจทุกอย่าง

      ไม่ช้ำ..ไม่เสียใจ

      ไม่เคยบาดหมาง

      ทุกอย่าง..เต็มใจให้เธอ

       

                      เพราะไอ้หมอนั่นใช่ไหม ที่ทำให้แพนเปลี่ยนไป เวลาที่พี่โทรมา แพนก็ไม่รับสายพี่เหมือนเคย   พี่จะไปเอาเรื่องมัน อั้นบันดาลโทสะด้วยความโกรธ

                      พอเถอะค่ะพี่อั้น..แพนขอร้อง พี่อั้นต้องการอะไรจากแพนคะ บอกมาเถอะค่ะ ถ้ามันทำให้พี่อั้นสบายใจ

                      แต่งงานกับพี่นะแพน

                                           -----------------

       

                      พี่แพนไปเชียงใหม่ตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ พี่วิน นิดบอกเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้าร้าน

      วินยิ้มให้นิด ราวกับจะยอมรับความจริงว่าอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะเข้าใจและพร้อมจะยอมรับกับการตัดสินใจของแพน แม้ว่าเขาพร้อมที่จะยิ้มรับในความเป็นจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ในใจลึกๆ วินเองก็อดกังวลใจไม่ได้อยู่ดี

                      พี่วินไม่เป็นไรนะคะ นิดร้องถามด้วยความเป็นห่วง

                      ไม่เป็นไรครับ พี่เข้าใจแพน ถ้าสิ่งที่เขาเลือกคือความสุขของเขาจริงๆ พี่ก็พร้อมที่จะยอมรับ" วินพูดเหมือนกับจะทำใจยอมรับในสิ่งที่มันจะเกิดขึ้น

       

                      หลายวันผ่านไป ร้านกาแฟเล็กๆ ยังคงเปิดบริการต่อไป แม้ว่าจะไร้เงาของเจ้าของร้าน แต่ลูกค้าประจำก็ยังคงแวะเวียนมาเหมือนเคย

                      พี่โทรเข้ามือถือ มันก็ไม่รับสาย เป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ อ้อมบ่นให้นิดฟังในเย็นวันหนึ่ง

                      นั่นสิพี่ นิดน่ะสงสารพี่วินมากๆ แวะมาเกือบทุกวันเลย พี่แพนก็ไม่กลับมาสักที หรือว่า พี่แพนจะตัดสินใจแต่งงานกับพี่อั้นจริงๆ นิดด่วนสรุป

                      ขออย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย สาธุ อ้อมยกมือพนมขึ้นที่หัว

      เสียงกรุ๋งกริ๋งที่ประตูร้านดังขึ้น ชายหนุ่มคนเดิมแวะเข้ามาที่ร้านเหมือนอย่างเคย พร้อมกับสั่ง

      เอ็กเพรสโซ่ แก้วโปรด

                      แพนโทรมาบ้างไหมคะ พี่วิน อ้อมรีบร้องถามเมื่อเห็นหน้าชายหนุ่ม

                      ไม่เลยครับ พี่ว่าเราคงต้องให้เวลาแพนเขานะอ้อม วินตอบพร้อมกับรอยยิ้ม

      อ้อมมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเข้าใจและเห็นใจ หวังว่าเวลาคงทำให้ทุกอย่างดีขึ้น อย่างว่าแหละ อะไรมันจะเกิด ก็ต้องปล่อยให้มันเกิด เราทำได้เพียงแค่ ยอมรับและเรียนรู้ที่จะอยู่กับความเป็นจริงให้ได้เท่านั้น

                                                 -----------------

                      เป็นประจำก่อนกลับบ้านที่ทุกเย็น วินจะต้องแวะไปทานกาแฟที่ร้านกาแฟร้านเดิม ร้านที่เขาเข้าครั้งแรกเพื่อหลบฝน แต่นานวันเข้ามันก็กลายมาเป็นความผูกพัน กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต หรือว่าร้านกาแฟเล็กๆ ร้านนี้ได้ขโมยหัวใจของชายหนุ่มร่างใหญ่คนนี้ไปแล้ว

                      เย็นวันนี้ก็เช่นกันที่ชายหนุ่มคนนี้แวะเวียนมาที่ร้านกาแฟแห่งนี้ เกือบเดือนแล้วที่เขาไม่ได้เห็นหน้าเจ้าของร้านกาแฟร้านโปรดของเขา แต่เขายังคงมาดื่มกาแฟที่นี่เหมือนเคยด้วยใจที่แอบหวังว่า สักวัน สาวน้อยที่เคยเป็นชีวิตชีวาของร้านจะกลับมาเติมเต็มร้านเล็กๆ นี้ รวมไปถึงหัวใจของเขาให้สดใสกลับคืนมา

                      เสียงกรุ๊งกริ๋งที่ประตูดังขึ้น เมื่อชายหนุ่มผลักประตูร้านเข้าไป น่าแปลกที่วันนี้ไร้เงาของน้องนิดที่เคาเตอร์ร้าน หรือว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ชายหนุ่มเก็บความสงสัย เดินมานั่งที่เก้าอี้ตัวโปรด ภายในร้านมีลูกค้าชายหญิงคู่หนึ่งนั่งจู๋จี๋กันอยู่ที่โต๊ะข้างๆ ชายหนุ่มหันมองแล้วยิ้มให้ ก่อนจะเหม่อมองผ่านไปที่กระจกบานใหญ่ จากนั้นถึงหยิบหนังสือเล่มโปรดที่อ่านค้างไว้ในกระเป๋ามาอ่านต่อ เวลาเดินผ่านไป แต่ที่เคาเตอร์ยังไร้เงาของนิดพนักงานคนเก่ง ชายหนุ่มเริ่มสงสัย  เอ..หรือว่านิดจะท้องเสีย

                      บรรยากาศด้านนอกเริ่มมีฝนตกพรำๆ ชายหนุ่มละสายตาจากหนังสือ เหม่อมองไปที่ละอองฝนที่เกาะบนกระจก นี่ถ้าได้เอ็กซ์เพรสโซ่ร้อนๆ สักแก้ว พร้อมกับมีคนรู้ใจสักคนมานั่งอยู่ตรงหน้าคงดีไม่น้อยเลยนะ เหมือนกับว่าจะมีคนอ่านความคิดนี้ออก สักพัก มีมือเล็กๆ หยิบถ้วยกาแฟเอ็กซ์เพรสโซ่ร้อนๆ มาวางตรงหน้า พร้อมกับมูลช็อคโกแลตของโปรด

                      เอ็กซ์เพรสโซ่ร้อนๆ พร้อมกับมูสช็อคโกแลต มาแล้วค่ะ ขอโทษนะคะที่ทำให้รอนาน

      ชายหนุ่มหันไปตามเสียงใสๆ ที่ดังเจื้อยแจ้วนั้น พร้อมกับรอยยิ้มกว้างดีใจ

                      แพน

                      เอ้า..เอาแต่จ้องอยู่นั่น เดี๋ยวกาแฟเย็นหมดนะ ขอโทษด้วยนะ วันนี้นิดขอลาหยุด แพนมัววุ่นวายอยู่ข้างในเลยไม่ได้ออกมาต้อนรับ

                      กลับมาเมื่อไร เป็นยังไงบ้าง สบายดีนะแพนนะ ชายหนุ่มถามไถ่อย่างตื่นเต้น ดีใจอย่างบอกไม่ถูก

                      ไม่ได้เจอกันนาน ถามทีเป็นชุด แพนกลับมาเมื่อวาน สบายดี ไม่เจ็บไม่ไข้เจ้าค่ะ แพนตอบอย่างยียวน

                      แล้วที่เชียงใหม่ แพน...เอ่อ แพน...ชายหนุ่มอึกอักไม่กล้าถาม

                      พี่วินจะถามว่าแพนตอบแต่งงานกับเขารึเปล่า คำตอบก็คือถ้าแพนแต่ง แพนคงไม่ได้มาอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งนี้ มาอยู่กับสิ่งที่แพนรัก แพนขอโทษนะคะที่หายไปโดยไม่ได้บอกกล่าว แพนแค่อยากไปหาคำตอบอะไรบางอย่าง และตอนนี้แพนรู้แล้วว่า คำตอบที่แพนหามันไม่ใช่สิ่งที่แพนต้องการเลย แพนกล่าวพร้อมรอยยิ้ม

                      แล้วสิ่งที่แพนต้องการคืออะไร วินเอ่ยถาม

                      ร้านกาแฟร้านนี้ และที่สำคัญนะคะ แพนต้องการตัวตนของแพนและ..ใครก็ได้ที่พร้อมจะเข้าใจและยอมรับตัวตนที่แพนเป็นจริงๆ แพนมองหน้าชายหนุ่ม เหมือนกับว่าเขา คือคำตอบที่เธอเองก็ต้องการมาตลอด

                      แพนครับ...แพนจะว่าอะไรไหม ถ้าพี่...อยากจะขอหัวใจของแพนมาไว้ที่พี่ แล้วพี่เอา

      หัวใจของพี่แลกกลับคืนไป เราจะแลกกันแค่ใจเท่านั้นนะครับ แต่ตัวตนและจิตวิญญาณของเรายังคงอยู่กับตัว เพราะวันข้างหน้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่ามันจะสุขหรือจะเศร้า เราจะไม่เสียความเป็นตัวตน และจิตวิญญาณในความเป็นตัวเรา ...ได้ไหมครับแพน ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาว รอลุ้นคำตอบ

                      หัวใจของหญิงสาวตอนนี้ทำไมมันถึงได้เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ หญิงสาวพยายามจ้องมองที่ตาชายหนุ่ม แต่พอเห็นสายตาที่ส่งกลับมาด้วยความอบอุ่นและจริงใจ ทำให้หญิงสาวอดยิ้มเขินไม่ได้ ใจก็อยากจะจ้องตากลับ แต่ทำไมนะใบหน้าและสายตาถึงได้คอยหลบสายตาที่อยู่ตรงหน้านี้อยู่เรื่อย  สิ่งที่อยู่ภายในใจของแพนเวลานี้นั้นรู้สึกถึงความเชื่อมั่น จริงใจในสิ่งที่เขาพูด นัยน์ตาของสาวน้อยร่างเล็กเริ่มมีน้ำตาปริ่มๆ   ชายหนุ่มมองหญิงสาว เหมือนจะรับรู้กับคำตอบภายในใจ หญิงสาวเขินหนักเมื่อเห็นยิ้มกว้างดีใจที่ใบหน้าของชายหนุ่ม โอ๊ย...นี่ฉันเป็นอะไรไปนี่  

                      เออ...พี่วินคะ แพนว่า...กาแฟพี่เย็นหมดแล้ว เดี๋ยวจะไม่อร่อยนะคะ หญิงสาวพูดเฉไฉ เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกภายใน

                      กาแฟจะเย็นก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวพี่ก็สั่งใหม่ได้ ตอนนี้ความรู้สึกของคนที่อยู่ตรงหน้า สำคัญกว่ากาแฟแก้วนี้เยอะเลย พูดจบวินจ้องหน้าหญิงสาวไม่วางตา

      ณ.วินาทีนี้ แม้หญิงสาวจะรู้สึกแปลกๆ ในหัวใจกับการรอคำตอบของชายหนุ่ม แต่มีอะไรบางอย่างบอกที่บอกกับตัวเองว่าถึงเวลาล่ะ ที่จะต้องบอกถึงความรู้สึกที่อยู่ในใจ

                      ถ้าหัวใจดวงนี้มันดื้อ มันเฮี้ยวไปบ้าง พี่วินก็อย่าโกรธนะคะ

                      ไม่เป็นไรครับ ถึงมันจะดื้อ จะเฮี้ยว   พี่จะใช้ความรัก ความเข้าใจ ดูแลหัวใจดวงนี้เองครับ ชายหนุ่มตอบอย่างอบอุ่น

                      ขอบคุณมากๆ ค่ะที่เข้าใจแพนหญิงสาวตอบด้วยน้ำตาที่ปริ่มล้น

                      ชายหนุ่มและหญิงสาวมองหน้ากันอย่างเข้าใจซึ่งกันและกัน เพราะตอนนี้ใจต่างใจต่างถูกแลกใจให้กันและกัน ทั้งคู่มองกันอยู่หน้าและคงจะมองอยู่อย่างนั้นถ้าไม่มีเสียงๆ หนึ่งร้องขึ้นเพื่อขัดจังหวะ

                      ขอไอซ์ คาราเมล ลาเต้ แก้วนึงจ๊ะ อ้อม ยิ้มให้ทั้งคู่อย่างมีความสุข

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×