
call me by your name
หนังได้รางวัลที่ใครๆก็แนะนำให้ดู
ตอนแรกก็ว่าจะไม่ดู คิดว่าดูไปยังไงก็ไม่อินแต่มันเอาลง
Netflix
แล้วดันว่างพอดีเลยกดดูสักหน่อย ผมไม่ค่อยเป็นคนอินหนังอะไรเท่าไหร่ก็ดูฆ่าเวลาไป
เนื้อเรื่องที่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่แต่ก็ทนๆดูไปเพราะภาพมันสวยดี
“I Remember everything”
ประโยคนี้โดนใจว่ะ
ไม่รู้ทำไมอยู่ดีๆน้ำตาก็ไหล
พอดูจบก็ไม่เข้าใจหรอก
รู้ตัวอีกทีแม่ ง
เหงาชิบหายเลย
อยู่ดีๆก็คิดถึง
‘รักแรก’
ผมไม่รู้ว่าเรียกมันว่ารักแรกได้มั้ยแต่มันทำให้คิดถึงรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่า
ไอ่พี่อง
หน้าตาดี
เด็กกิจกรรม
รุ่นพี่ม.ปลายที่ใครๆก็รู้จัก
เพราะมันหน้าตาดีสมัยเรียนใครๆก็ชอบมัน
ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น
สมัยที่ผมอยู่ม.ต้นนะ ใครๆก็เอาแต่คุยเรื่องพี่อง
ขนาดมันลงสมัครประธานนักเรียน เพื่อนผมเลือกพรรคมันแบบไม่อ่านนโยบายเลย
ประโยคเด็ดในการหาเสียงของพรรคมันคือ
“น้องๆเลือกพรรคพี่นะเบอร์2
พรรคพี่มีพี่องนะ เบอร์2นะน้องอย่าลืม”
จำไม่ได้หรอกว่าสมัยนั้นนโยบายมันคืออะไรแต่พรรคมันก็ชนะได้เพราะมีหน้าตาของพี่อง
นึกถึงตอนคาบภาษาไทยวันนั้นอากาศร้อนมาก ครูเลยให้พวกเราไปเรียนที่ห้องสมุดเพราะมีแอร์เหมือนจะโชคดี
ได้เรียนรวมกับห้องพี่อง ด้วยความเรียนรวมโต๊ะกลุ่มผมกับกลุ่มพี่องดันนั่งติดกันไปอีก
เพื่อนผมก็เซ้าซี้อยู่ได้
“แพๆๆ กูอยากได้รูปพี่องอะไปถ่ายมาให้หน่อย”
จำไม่ได้ว่าทำไมตอนนั้นก็กล้าไปถ่ายให้เพื่อนเนอะ
“พี่องครับ ขอถ่ายรูปหน่อยได้มั้ยครับ”
“รูปพี่เหรอ”
ผมจำได้ดีหน้าพี่องมันง่วงสุดๆแล้วก็งงสุดๆมันคงสงสัยว่าถ่ายรูปกูไปทำไมวะ แต่มันก็ยอมให้ถ่ายนะ
พี่องขยี้ตาสองสามทีแล้วชูสองนิ้ว
“แชะ”
ชิบหายลืมปิดแฟลช
โคตรอายเลยตอนนั้น
“ทำอะไรกัน
ทำงานที่ฉันให้เสร็จแล้วเหรอ”
“ยังครับ”
“ยังแล้วมาเล่นอะไรกัน หัวเราะคิกคัก ที่นี่ห้องสมุดนะ ห้ามเสียงดัง ทำงานของพวกเธอต่อได้แล้ว”
สุดท้ายกูโดนด่าอยู่คนเดียวเพราะลืมปิดแฟลช
ส่วนเพื่อนที่มันเซ้าซี้ให้ผมไปถ่ายรูป นั่งหัวเราะคิกๆทั้งที่ผมโดนด่า
สมัยม.3 คงเป็นช่วงปีสุดท้ายที่ผมได้เจอพี่องแล้ว
เป็นเรื่องที่โคตรซวยเพราะชมรมEnglish movie club ของผมปีนี้คนลงเต็มเพราะชื่อเสียงอันเลื่องลือว่าชมรมนี้ไม่ต้องทำอะไร วันๆก็ดูหนังไม่ต้องมาเข้าชมรมก็ได้ แถมได้ดูหนังในห้องแอร์ของพวกเด็กEPสบายสุดๆ
แต่ผมลงไม่ทันไงใครมันปล่อยข่าววะ
ไอ่เพื่อนตัวดีคนเดิมชักชวนให้ผมไปเข้าชมรมถ่ายภาพ ตอนแรกว่าจะไม่ไปผมไม่ชอบอยู่ในชมรมอะไรที่มีสาระแค่เรียนก็จะตายห่าอยู่แล้วยังต้องมาถ่ายรูปอีก
แต่มันบอกมาว่า
“พี่องอยู่ชมรมนี้เลยนะเว้ย”
ตกลงสิครับ
เข้าไปขอครูที่ปรึกษาชมรมถึงห้องทำหน้าอ้อนวอนเหมือนอยากเข้าชมรมถ่ายภาพสุดๆแต่ใจจริงกูอยากเข้า
English movie club จะตายห่า ครูเขาก็ใจดีให้ผมอยู่ครับ
คิดว่าได้อยู่ชมรมเดียวกันคงจะได้สนิทกันแต่ที่ไหนได้เคยเจอพี่องมันแค่ครั้งเดียว
ตอนคาบแรกของชมรมมันมาเช็คชื่อเพราะครูเข้า จากนั้นก็ไม่เคยเห็นมันอีกเลย
สมัยนั้นนะผมโดนแม่ด่าแทบทุกวันเพราะค่าอุปกรณ์โคตรแพงเลย
“จะลงเรียนทำไมชมรมถ่ายรูปอะ เรียนไปแล้วถ่ายเป็นเหรอ ค่าอุปกรณ์ก็ไม่ใช่บาทสองบาท”
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงทนอยู่ชมรมถ่ายภาพจนเรียนจบม.ต้น ครูเขาให้ไปถ่ายอะไรก็ถ่าย ทั้งที่ผมไม่น่าจะเป็นเด็กขยันเรียนแบบนั้นและก็ตั้งตารอคอยคาบชมรมทุกวัน
คงหวังว่าวันหนึ่งพี่มันจะมาเข้าชมรมบ้าง
จนใกล้ๆวันปัจฉิมของพวกม.6 ผมคิดไว้แล้วว่ามันต้องมาแก้ร. วิชาชมรมแน่นอนเพราะชั่วโมงเรียนไม่พอ
ผมรีบไปห้องชมรมแต่เช้าเลยวันนั้นครูเขาก็ถามว่า
“นักเรียนมาทำไมไม่ได้ติดร.ไม่ใช่เหรอ อีกอย่างวิชาชมรมนี้ไม่ให้ร.นะ”
แห้งมากทำไมครูที่ปรึกษาชมรมถ่ายภาพต้องใจดีด้วย
ตั้งแต่วันที่พี่องมันเรียนจบม.6 ผมก็ไม่เคยได้เจอมันอีกเลย
ผมว่าเรื่องของผมมันน่าจะคล้ายๆ เรื่องสิ่งเล็กๆมากกว่าแต่ผมไม่ได้เป็นแฟนพี่เขาแบบในหนังหรอก
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันรู้จักผมหรือป่าว
พี่องมันก็เป็นเหมือนรุ่นพี่ที่หน้าตาดีในโรงเรียนที่รุ่นน้องหลายๆคนแอบปลื้มและเป็นเหมือนรักแรกของใครหลายๆคน
รวมทั้งผมด้วย
ไม่รู้ตอนนี้พี่องมันจะเป็นไงบ้าง..ป่านนี้มันคงแต่งงานมีลูกสักสองคนไปแล้วมั้ง
แต่ก็ต้องขอบคุณมันนะ เพราะพี่องทำให้ผมลงชมรมถ่ายรูปตามมันทำให้ผมมีกินจนถึงทุกวันนี้
‘ไล๊น’
ข้อความจ้างงานจากเพื่อนแสนรักก็ดังขึ้นมา
"แพมึง20นี้ว่างปะ
รับถ่ายงานพรีเวดมั้ย"
"เป็นรุ่นพี่กูอะกูให้คอนแทคมึงไปแล้วเดี๋ยวเขาคงทักมึงไป"
ไม่นานก็มีข้อความจากคนแปลหน้าทักมา
“สวัสดีครับ คุณช่างภาพ พอดีผมอยากติดต่องานถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง”
นั่นไง
ไม่น่าคิดเลยว่าเหมือนสิ่งเล็กๆ
ดิสติดต่องานหน้าคล้ายพี่องรุ่นพี่ที่โรงเรียนเลย
มันเป็นเจ้าบ่าวแล้วเหรอวะ
รักแรกของผม
แล้วพบกันใหม่ในวันที่เหงาใจ :)
ฮืออออออ อย่านะ อย่าเพิ่งแต่งงานนนนน