คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [Untitled] Intro
intro
ซองยอลวิ่งออกจากลิฟต์มาทันเห็นคนรักทิ้งตัวลงนั่งบนเบาะคนขับ คิมมยองซูสตาร์ทรถและถอยหลังออกจากซองโดยไม่สนใจว่าอาจจะชนเขา ซองยอลกระชากสร้อยคอคล้องแหวนแพลทตินัมวงเกลี้ยงออกจากลำคอแล้วเขวี้ยงใส่รถเต็มแรง แหวนสีเงินลอยไปถูกขอบหน้าต่างแล้วกระดอนลงนอนกับพื้นส่วนสร้อยพันติดกับเสาอากาศอย่างพอเหมาะพอเจาะ
“นี่น่ะเหรอ!?” เขาตะโกนลั่นลานจอดรถ “นี่น่ะเหรอที่บอกว่ารักน่ะ!?! นายรักฉันได้แค่นี้เองเหรอ!?!”
ทว่ารถสปอร์ตสีดำคันใหม่มีแต่จะแล่นออกไปไกลขึ้นๆ เท่านั้น มยองซูคงไม่คิดจะย้อนกลับมาหาเขา ฝ่ายนั้นไม่มีท่าทีแม้แต่จะลังเล
จบแล้ว ทุกอย่างจบลงแล้ว
ซองยอลทรุดตัวลงนั่งกองกับพื้นสากๆ แสงสะท้อนจากแหวนสีเงินส่องเข้าตาทำให้เขาแสบตาจนร้องไห้ เขาคลานไปหยิบมันขึ้นมากำไว้แน่นแม้หลังจากนั้นจะต้องแพ้จนเป็นผื่น
ซองยอลน่าจะรู้ตั้งแต่วันที่มยองซูซื้อแหวนวงนี้มาให้
มันทำจากทองคำขาว แต่ซองยอลแพ้ทองคำขาว
มันเป็นแหวนเบอร์เก้า แต่ซองยอลใส่แหวนเบอร์แปด
แหวนวงนี้ไม่เหมาะกับเขา พอๆ กับที่มยองซูไม่เหมาะกับเขา แต่ซองยอลก็ไม่เคยปล่อยให้มันอยู่ห่างตัว เหมือนที่ไม่อยากให้มยองซูจากไปไหนไกล
“กลับมาเถอะ” เขานั่งคุกเข่าสะอึกสะอื้นกับแหวนในมือ
แต่มยองซูไม่เคยกลับมา
หนึ่งวินาที หนึ่งนาที หนึ่งชั่วโมง
หนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน หนึ่งปี
คิมมยองซูไม่เคยกลับมาหาอีซองยอลอีกเลย
“เขาหลอกนายแล้วก็ทิ้งนายไป ปัดโธ่! ซองยอล เลิกรักคนพรรค์นั้นซักทีเถอะ หมอนั่นมันแมงดา!”
ฟังคำพูดเพื่อนแล้วซองยอลได้แต่ยิ้มเจื่อน สีหน้าเขาเจ็บปวดแต่ก็ยอมรับอยู่ในที เขาถอนหายใจยาวๆ หนึ่งหนก่อนจะลุกออกจากโต๊ะทำงานไปที่อื่น อูฮยอนมองตามแล้วถามว่าจะไปไหน พอเขาตอบว่าจะไปชงกาแฟ เพื่อนสนิทก็ฝากให้ช่วยชงมาเผื่อตัวเองอีกแก้วหนึ่ง ซองยอลยื่นเท้าไปเตะเก้าอี้อีกฝ่ายเบาๆ จากนั้นจึงคว้าแก้วส่วนตัวเดินเข้าไปในห้องครัว
แมงดาเหรอ? สำหรับผู้ชายที่ใช้ชีวิตอยู่กับเขาจนกระทั่งเมื่อหนึ่งปีก่อน ไม่มีอาชีพที่แน่นอน ไม่มีครอบครัวให้พูดถึง วันหนึ่งๆ แค่ออกไปหารายได้พิเศษหรือนอนรอเขากลับห้อง ไม่ว่าใครคงมองคนๆ นั้นเป็นผู้ชายไม่ดีอย่างที่อูฮยอนมองทั้งนั้น
ทำไมซองยอลจะไม่รู้ เขาเป็นฝ่ายขอให้มยองซูใช้ชีวิตอย่างนั้นเองเสียอีก เพราะเผลอใจหลงรักอีกฝ่ายจนตาบอด เพราะทั้งห่วงทั้งหวงอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
เขาไม่ใช่เด็กๆ แล้ว และเชื่อในการตัดสินใจของตัวเองมากกว่าคนอื่น สุดท้ายจึงต้องเสียใจที่ไม่เชื่อคำเตือนของอูฮยอน
ตึก ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาจากห้องด้านนอก ซองยอลเงยหน้าขึ้นจากกระปุกกาแฟก็พบอูฮยอนยืนเกาะขอบประตูหน้าตาตื่น
“หมอนั่น...หมอนั่น” เพื่อนสนิทละล่ำละลักพูดไม่เป็นคำแถมมือไม้ยังชี้ขึ้นชี้ลงไม่หยุด เขาจึงวางแก้วกระเบื้องลงข้างเครื่องชงกาแฟแล้วยื่นหน้าออกไปมองให้หายสงสัย เมื่อมองผ่านโต๊ะทำงานของพวกเขาเลยเข้าไปยังห้องส่วนตัวของเจ้านาย ซองยอลก็เห็นคิมมยองซูยืนเอามือล้วงกระเป๋าคุยกับหัวหน้าของเขาอยู่
เขาตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่ก็ผละจากอูฮยอนไปหามยองซูในทันใด
“จะไปไหนน่ะ?” เพื่อนสนิทยื้อข้อมือเขาไว้แน่น
“ไปหาเขาน่ะสิ!” เขาตอบโดยไม่ต้องคิด
“ไปให้ได้อะไรขึ้นมา ไปให้เจ็บมากขึ้นน่ะเหรอ!?!”
“เจ็บแน่ๆ ถ้าฉันยังขืนปล่อยให้เขาเดินจากไปต่อหน้าต่อตาอีก”
ซองยอลบิดข้อมือออกแล้วก้าวเร็วๆ ไปเคาะประตูห้องเจ้านาย เขาถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปโดยไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยปากอนุญาตพร้อมออกปากเรียกชื่อคนที่เขาคิดถึงมาตลอด
“มยองซู!”
เจ้าของห้องมีสีหน้าไม่พอใจ ในขณะที่อีกคนหนึ่งเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจในการปรากฏตัวของเขา
“ใครน่ะ?”
“ลูกน้อง”
เจ้านายตอบห้วนๆ จนคนถามส่ายหน้าระอา เขาเดินเข้ามาหาซองยอล ยื่นมือมาให้รอให้เขาเขย่าทักทาย เมื่อซองยอลยกมือขึ้นจับกลับไป อีกฝ่ายก็ยิ้มให้และแนะนำตัวกับเขา
“ยินดีที่รู้จัก ผมคิมมุนซู เกรงว่าคุณจะจำสลับกับพี่ชายผม”
ซองยอลเบิกตากว้างมองชายตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ ถัดมาเขาหรี่ตามองคิมมุนซูอย่างไม่แน่ใจ ทว่าสุดท้ายเขาเลือกจะโค้งขอโทษเจ้านายและแขกก่อนจะขอตัวกลับออกไปทำงานต่อ อูฮยอนรอเขาอยู่แล้ว ในมือถือแก้วกาแฟของตัวเองแก้วหนึ่ง ส่วนอีกมือหนึ่งยื่นแก้วอเมริกาโน่ให้เขา
“ทำไมถอยกลับมาง่ายๆ อย่างนี้ล่ะ นึกว่าจะชกซักหมัดสองหมัดซะอีก”
“เขาบอกว่าเป็นน้องชายของมยองซู”
“หา?” อูฮยอนทำหน้าเหวอ “บ้ารึเปล่า แล้วนายก็เชื่อเหรอ”
ซองยอลไม่ตอบ เขายกอเมริกาโน่ที่ชืดลงแล้วขึ้นจิบ หางตาเหล่ไปยังห้องติดกัน ชายที่อ้างว่าตัวเองคือคิมมุนซูยังคุยกับเจ้านายของเขาอยู่ในนั้น
น้องหรือ? จำผิดหรือ?
มยองซูไม่เคยเล่าให้เขาฟังว่าตัวเองมีพี่น้อง แต่สายตาอีกฝ่ายยามมองตรงมายังเขานั้นว่างเปล่าราวไม่เคยรู้จักกันมาก่อนจริงๆ
คิมมุนซู
ถ้านายเป็นน้องของมยองซูจริง
แล้วพี่ชายของนายที่ทิ้งฉันไปหายไปอยู่ไหนเสียล่ะ?
ความคิดเห็น