ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic-krisyeol : TYPE A ผู้ชายของผม

    ลำดับตอนที่ #3 : CH03

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.04K
      19
      4 เม.ย. 60










    CH03 
    ++++++++

     


                    “ว้าย ตาเถร บัดสี!! ทำอะไรกัน” 

                   เสียงเอ็ดตะโรพร้อมกับเสียงหม้อบินกระทบลงพื้น เรียกสติของคนกำลังฝันหวาน ให้ตื่นขึ้น หย็องที่ดีดตัวลุกจากพื้นเสื่อน้ำมัน มองไปยังป้าหอมที่ยืนเท้าสะเอวหน้าตาดุดันอยู่ตรงปลายเท้า

                    “เห้ย!!” พอรู้สึกตัวและหันมามองด้านข้าง ก็พบกับสิ่งมีชีวิตขนาดยาวเกือบสองเมตรนอนเกยเขาอยู่ แถมแขนที่เคยวางตรงไหนสักแห่งบนร่างกายของเขาแน่ๆ ก็ยังเนียนไหลมาอยู่ตรงกลางระหว่างเป้ากางเกงเจเจสีสดของเขา

                    พ่อฝรั่งค่อยๆเนียนตื่น ลุกขึ้นขยี้ตา ส่ายหัวส่ายหน้ามอง สถานการณ์ครึ่งผีครึ่งคน แขนที่ถูกจับโยนทิ้งดื้อๆ ก็ถูกเจ้าตัวยกขึ้นสุดลำแขนเพื่อบิดขี้เกียจ

                    สบายนักนะมึง!!

     

                    “ทำอะไรกัน มานอนกอดกันกลางบ้าน ไม่อายผีอายสาง” ป้าหอมฉะทันที เมื่อหลานชายตื่นได้สติ

                    “เปล่านะจ้ะป้า ใครกอดไม่มี๊!!” เสียงสูงชัดเจน ถึงจะไม่ได้ตั้งใจกอด แต่มันก็คือการกอด หย็องหันไปสะกิดพ่อฝรั่งที่ยังทำมึนงัวเงียอยู่ให้ตั้งสติลุกขึ้นมาช่วยเถียง

                    “คุณๆ ช่วยพูดเออไม่สิ” สมองกลับไปชั่วครู่ เขาก็ลืมไปว่าไอ้คนข้างๆมันจะเอาสกิลภาษาไทยที่ไหนไปเถียงแม่ค้าเก่าปากตลาดอย่างป้าหอมได้ เด็กหนุ่มวัยสิบแปดหมาดๆจึงต้องหันไปประจบประแจงป้าหอมเพื่อเอาตัวรอดทันที แต่คนเป็นป้ากลับทำเพียงแค่ส่งนิ้วมาเฉดหัวหลานชายแล้วบ่นเป็นหมี

                    “ไปๆ เย็นจนตะวันทับตูดแล้ว ออกไปหาอะไรกินได้แล้ว”

                    “อะไรอ่ะ เปียแชร์แล้วเสียเหรอป้า” บ่นอุบอิบอย่างรู้ทัน ก็เวลาที่ป้าเสียเงินกับเรื่องพวกนี้ทีไรก็จะกลับมาฟาดงวงฟาดงาใส่หลานอย่างเขาเสมอๆ

                    “เดี๊ยะๆ มันจะโดน เสียเสออะไร เอ้า เอาไปซื้อกับข้าวเลี้ยงไอ้พ่อฝรั่งของแกซะไป” หย็องตาวาวทันทีที่เห็นแบงค์ร้อยสองใบถูกยื่นออกมาจากมือของป้าหอม เด็กหนุ่มไม่คิดแม้แต่จะปฏิเสธ มือเล็กๆฮุบเอาเงินทั้งหมดมาไว้ในอุ้งมือแล้วรีบยกไหว้ปะหลกๆ

                    “เอ้า ช้าอะไร ไหว้ป้าดิ” หย็องหันไปบอกพ่อฝรั่ง เจ้าตัวดูจะงงๆก่งก๊ง แต่ก็ยอมยกมือไหว้ตามแบบที่เด็กน้อยข้างกายสอน ป้าหอมที่เห็นเช่นนั้นก็ดูจะอารมณ์เย็นลง แต่ไม่วายที่จะหันไปส่งสายตาคาดโทษฝรั่งตัวผอมสูงที่เอาแต่เหลือบมองด้วยความไม่ไว้ใจ

     

                     “ทำไมต้องไหว้ป้าคุณเหรอครับ” พอเห็นว่าป้าเดินหายเข้าไปในครัวแล้ว พ่อฝรั่งก็เปิดปากถามทันที เด็กหนุ่มเลยชูเงินสองร้อยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานหยด จนคนมองอดยิ้มตามไม่ได้

                    “วันนี้ป้าใจดีอ่ะ ให้ตังตั้งสองร้อย วันนี้จะกินอะไรเดี๋ยวเราเลี้ยง” ยืดอกยกเงินขึ้นพัด จนคนที่นั่งมองได้แต่มองตามตาเยิ้มตาไหลด้วยความอยากฟัดให้จมเขี้ยว

                    “ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวผมเลี้ยงเอง” เลี้ยงตลอดชีวิตเลยก็ได้ พ่อฝรั่งคิดต่อในหัว

     

     

     

                    พวกเขาไม่ได้อาบน้ำกันก่อนออกมา แต่ก็จัดแจงสวมเสื้อผ้ากันใหม่ให้เรียบร้อย เพื่อที่จะได้ไม่เป็นที่ครหาของสายตาประชาชน แต่สำหรับพ่อฝรั่งที่ไม่ยอมท่าเดียวเพราะบ่นว่าร้อน ก็เลยได้รับอภิสิทธิ์เป็นเสื้อกล้ามตัวที่รัดกุมรัดคอกว่าเดิมมาใส่ แม้จะไม่ถูกใจเพราะไม่ได้โชว์เนื้อหนังและระบายลมไม่ดีพอเท่าตัวเก่า แต่เมื่อถูกสายตาเขม่นจากคนดีข้างตัว พ่อฝรั่งก็เลยต้องปิดปากเงียบยอมแต่โดยดี

     

                    ส่วนมื้ออาหารวันนี้ก็หรูหราเป็นพิเศษ เมื่อคนจ่ายคือพ่อฝรั่งขายาวที่ตอนแรกงอแงว่าอยากจะกินอาหารทะเล แต่พอเอาเข้าจริงกลับเอาแต่นั่งจ้องเขากินจนอึดอัดไปหมด

     โดยอาหารที่พวกเขาสั่งไปเป็นกุ้งทะเลและปูเสียส่วนใหญ่ และถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะริมทะเลในบรรยากาศชิวๆตามอำนาจเงินของพ่อฝรั่ง แถมยังมีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่ เด็กน้อยไม่สามารถแตะได้เพราะพ่อฝรั่งไม่ยอม และกว่าหย็องจะใช้ลูกอ้อนได้สำเร็จก็เป็นเอาตอนที่อิ่มจากมื้ออาหารไปแล้ว

                    “เดี๋ยวสั่งไปให้คุณป้าด้วยดีกว่า” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยิ้มเอาอกเอาใจคนตรงหน้า อาหารที่นี้สดพอใช้ได้ รสชาติก็ถูกปากนิดหน่อย ไม่เหมือนกับที่เชฟส่วนตัวทำให้ทาน ตอนที่ออกไปเที่ยวต่างอากาศแถวเกาะกวมหรือฮาวาย แต่พอเห็นว่าเด็กน้อยมีความสุขกับการกินของทะเลตรงหน้า เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าอาหารมื้อนี้มันอร่อยเพราะคนร่วมโต๊ะจริงๆ

     

                    กินกันอิ่มหนำสำราญแล้ว คนที่ขะย่อนเข้าไปมากกว่าเพื่อนก็รู้สึกท้องอืดขึ้นมาเสียเฉยๆ เมื่อสั่งเช็คบิลรวมค่าอาหารที่สั่งกินที่นี้และสั่งกลับบ้านทั้งหมดสี่พันกว่าบาท หย็องได้แต่มองเงินที่ถูกยื่นออกไปตรงหน้าแล้วก็รู้สึกเสียดาย กินข้าวมื้อนึงตกสี่พันนี่ไม่ใช่เรื่องที่คนจนๆอย่างเขาจะทำได้ในชีวิตนี้ หรือแม้แต่คนบ้านรวยมีฐานะอย่างไอ้โอก็ต้องมีคิดแล้วคิดอีกหรือนานๆจะกินทีอยู่บ้าง แต่พ่อฝรั่งตรงหน้าเขานี่สิ ตอนบริกรมาเช็คบิลมีบ่นด้วยนะว่าทำไมถูก แถมท่าจ่ายเงินก็ไม่สะท้านสะท้านอะไรเลย ก่อนลุกก็มีตบติปให้เด็กที่กำลังเดินมาเก็บโต๊ะอีกคนละสองร้อยๆ

                    พี่จะเป็นลม…..

     

     

                    ออกจากร้านมาได้สักพักเจ้ามืออาหารครั้งนี้ก็ออกปากว่าอยากเดินชิวให้สมกับที่มาพักผ่อน แต่ก่อนจะออกมาเดินกินลมจิบเบียร์พ่อฝรั่งก็ออกความคิดเห็นว่าควรนำอาหารที่ยังร้อนๆไปให้คุณป้าที่บ้านก่อน แล้วค่อยออกมาเดิน ซึ่งหย็องก็ไม่ได้จะบ่นอะไร และดูเหมือนผลตอบรับจากป้าหอมก็ดูดีมากเมื่อเห็นเหล่าอาหารเหลานานาชนิดถูกเสิร์ฟมาบนจานแถมฟรีจากคนอร์ คำพูดแสนค่อนแขวะเมื่อเช้าก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนจะกลายเป็นลูกครับลูกขาแล้ว

                    แม้ตอนนี้เขาจะเริ่มเหม็นพ่อฝรั่งนิดๆ แต่หย็องก็ยินยอมเดินกลับออกมาที่หาดตอนกลางคืนกับผู้ชายตัวสูง ในมือก็มีเบียร์เย็นเจี๊ยบกันคนละขวดย้ำว่าคนละขวดแถมขวดใหญ่ด้วย เดินไปคุยไป พ่อฝรั่งก็ถามนู้นถามนี่ซึ่งส่วนมากแม่งจะวกเข้ามาแต่เรื่องส่วนตัวของเขาตลอด อะไรที่ตอบได้หย็องก็พยายามจะตอบให้มันผิวเผินที่สุด แต่พอแอลกฮอลล์มันเข้าปากไปเรื่อยๆ สติมันก็เริ่มหลุด จนสั่งการให้ถามอะไรก็ตอบออกไปอย่างนั้น

     

                    “หย็องมีแฟนรึยังครับ” นั่นคำถามเหรอ

                    “ยังครับ” คนที่ได้คำตอบที่ถูกใจยิ้มร่า แล้วเริ่มถามอีกคำถามทันที

                    “แล้วเด็กที่เจอกันเมื่อเช้าล่ะ แฟนเก่าเหรอครับ”

                    “โอ้ยยยย บ้านั่นน่ะไอ้โอ ลูกน้องเราเอง” จิ้มนิ้วลงอกตัวเองแล้วช้อนตาหวานๆขึ้นมองหน้าพ่อฝรั่ง ส่วนคนมองก็ได้แต่มือเลื้อยเป็นเถาวัลย์ไปวางบนไหล่ ทั้งๆที่ปากนี่อยากจะยื่นไปบดจูบมันให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียตรงนั้น

                    “อะไรอ่ะ อย่ามาแต๊ะอั๋งเรา”

                    “เบียร์จะหมดแล้ว กินอันนี้สิครับ” มอมสิ รออะไร ชายหนุ่มแอบริบขวดเบียร์ที่ว่างเปล่าจากมือเด็กน้อยไปโยนทิ้งลงถังขยะแล้วป้อนเบียร์ที่ยังอยู่ในขวดของตัวเองเกือบครึ่งเข้าปากคนเริ่มเมา

                    เด็กน้อยซดมันจนเบียร์หมักรสขมไหลออกจากข้างปาก

     

                    “ดื่มแบบนี้มันน่าเสียดายนะ” บ่นเสร็จก็โยกขวดเบียร์ออก แล้วส่งริมฝีปากนุ่มหยุ่นของตัวเองจูบซับไปที่มุมปากสีเชอรี่ ลิ้นที่ไม่เคยอยู่สุขตามภาษาหนุ่มเจ้าสำราญที่ผ่านหญิงมานักต่อนักก็จัดการเลียไปบนริมฝีปากชุ่มฉ่ำ ไล่ต้อนความขมของเบียร์ให้ลงคอ แม้จุดประสงค์จะไม่ใช่เบียร์แต่เป็นปากของเด็กน้อยก็ตาม

                    “อื้ออ อย่าทำเรา” ตอบกลับมาเสียงอ้อแอ้ ทั้งๆที่มุดหน้าซุกลงไปในอกของชายหนุ่มเรียบร้อย ตอนนี้พวกเขากำลังเดินไปบนหาดที่น้ำเริ่มขึ้นสูง ผู้คนก็เริ่มลดน้อยลง จนเหลือไม่กี่คู่ ซึ่งส่วนมากและส่วนใหญ่ก็มาเดินเพื่อซึมซับบรรยากาศตามภาษาผัวเมียกันทั้งนั้น ยิ่งพวกฝรั่งนุ่งน้อยชิ้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง จูบนัวเนียกันจนเขาและเด็กน้อยเทียบไม่ติด

                    โอยยยย อยากทำแบบนั้นบ้าง….

     

                    “เมาแล้วเหรอ” ถามไปงั้น ทั้งๆที่มองดูก็รู้

                    “ไม่นะ” หย็องตอบ

                    “แบบนี้จะกลับบ้านไหวมั้ยครับ เปิดโรงแรมแถวนี้นอนก่อนมั้ย”

                    “เห้ย ไม่เป็นไรเรากลับได้ มันเปลือง” เด็กน้อยบ่นเสียงอู้อี้ ร่างที่เบากว่าที่คิดก็เริ่มโอนเอนไปมาอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม รอยยิ้มบางๆปรากฏบนริมฝีปากได้รูปของ คริส ชายหนุ่มโอบกระชับเอวบางเอาไว้ หน้าก็ซุกลงสูดดมซอกคอขาวไปเพลินๆ ชนิดที่แทบอยากจะจับลากอีกคนไปกระทำชำเราหลังเรือที่จอดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

                    “ซื้อโรงแรมให้หนูนอนพี่ก็ทำได้นะครับ

     

     

                   

     

     

    Part Kris Wu

     

                    การแต่งกายแบบนี้อาจจะเป็นการลำบากไปเสียหน่อยหากต้องการจองห้อง สวีทที่ดีที่สุด แต่คนอย่าง คริส อู๋ ไม่เคยทำให้อะไรมันยากเกินความสามารถ บัตรเครดิตที่มีวงเงินไม่จำกัดอภิสิทธิ์ชั้นพิเศษที่มีเพียงแค่สิบคนบนโลกเท่านั้นที่ได้ครอบครอง ถึงแม้ว่าคนในตระกูลอู๋จะครอบครองมันไปแล้วถึงสามคนก็ตาม….

                    ถูกยื่นไปตรงหน้าพนักงานต้อนรับสาวสวยที่ดูไม่สวยเอาเสียเลยเวลาที่เธอมองเหยียดกลับมา

     

                    การที่เขาได้ออกมาเปิดหูเปิดตาแบบนี้ ก็ทำให้รู้เลยว่าระบบการทำงานของโรงแรมระดับเจ็ดดาวที่นี้ไร้ประสิทธิภาพ แค่จะอบรมให้พนักงานรู้จักคุณค่าของคนโดยไม่มองผ่านสิ่งของนอกกายยังทำไม่ได้เลย

                    “ช่วยเรียกผู้จัดการที่ใหญ่ที่สุดนอกจากบอร์ดผู้บริหารมาหาผมหน่อยได้มั้ยครับ” คริส พูดออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่ทรงพลังพิกลจนพนักงานสาวแอบกลัว….

                    “คุณ….อย่ามาล้อเล่นนะคะ” หล่อนเอ่ย

                    “เปล่าครับ ผมพูดจริงๆ” สายตาของหญิงสาวยังคงกวาดมองเขาเหมือนกับเป็นเพียงถุงพลาสติกที่ฝังอยู่ตามชายหาดรกๆ เธอไม่ตอบอะไรอีกนอกจากก้มหน้าลงจัดการ ทดสอบรูดบัตรเครดิตที่ดูท่าว่าเธอคงจะไม่เคยเห็นและจับต้องมาก่อน

                    “คุณ” สิ่งมหัศจรรย์คงเกิดขึ้นกับเธอ ทำให้ใบหน้าที่เคยเกลียดชังเปลี่ยนไป ชายหนุ่มยังคงส่งรอยยิ้มนุ่มนวลไปให้ แม้ว่าคนในอ้อมแขนจะเริ่มงอแงอยากนอนเตียงนุ่มๆแล้วก็ตาม

                    “กลับบ้าน….” หนูน้อยบ่นเสียงหงุงหงิง หน้าก็พยายามซุกไซร้เข้าที่อกอย่างกับหาหมอนรองแก้ม

                “ช่วยจัดการให้เร็วที่สุดด้วยนะครับ พอดีแฟนผมเขาไม่ไหวแล้ว

     

                   

                    อีกสิบนาทีต่อมาทั้งหย็อง และคริส อู๋ ก็ถูกพามายังห้องสวีทเจ็ดดาวชั้นบนสุด โดยการนำทางของคุณหัวหน้าแผนกต้อนรับ ที่ออกจะเก้งกวางไปเสียหน่อย ชายหนุ่มเอ่ยขอบคุณ เมื่อวานร่างบอบบางลงบนเตียงนอนขนาดคิงไซต์แล้วเรียบร้อย

     

                    “ช่วยโทรตามผู้บริหารที่ดูแลสาขานี้มาหาผมพรุ่งนี้เช้าด้วยนะครับ ผมมีเรื่องที่ต้องคุยกับเขา” ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาหนังเนื้อดี ด้วยมาดของนักธุรกิจหมื่นล้านผู้เอาจริงเอาจังกับงาน ใบหน้าเรียบนิ่งดุดันภายใต้ชุด เสื้อกล้ามและกางเกงเจเจลายโดเรม่อน ไม่ได้ช่วยทำให้ชายหนุ่มดูขลังน้อยลงเลย

                    “เออ….คือ ทางเราทราบว่าคุณเป็นคนรวย แต่ว่าการที่คุณจะขอพบผู้บริหารระดับสูงของเรา แบบนี้ผมเกรงว่า

                    “ผมไม่ได้จะคอมเพลนเรื่องพนักงานต้อนรับที่ไม่ได้เรื่องของคุณ แต่ผมต้องการเรียกผู้บริหารของคุณมาตักเตือนต่างหากที่ไม่คิดจะใส่ใจกับการคัดสรรพนักงานที่มีคุณภาพ”

                    “ตักเตือน….” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจทำให้หัวหน้าหนุ่ม ขมวดคิ้ว มือที่เคยกุมกันอยู่ด้านหน้าก็เคลื่อนย้ายไปอยู่ด้านหลัง

                    “ครับ ตามนั้น ไม่งั้นผมจะส่งผู้บริหารจากสาขาใหญ่ที่นิวยอร์คมาหาพวกคุณทันที” คริส อู๋ ปั้นหน้าดุดันกว่าเดิมจนเหมือนจะเขมือบหัวผู้จัดการหัวหน้าแผนกต้อนรับเข้าไปทั้งหัว แต่อีกฝ่ายกลับดูไม่สะทกสะท้านแถมยังทำท่ามีอารมณ์กรุ่นโกรธใส่ อย่างกับต้องการจะลองดีกับเขา

     

    แบบนี้ไม่ต้องส่งมาจากนิวยอร์คแล้วล่ะมั้ง ก็นั่งทนโท้อยู่ตรงหน้านี้แล้ว….เรียกประชุมบอร์ดบริหารตอนสี่ทุ่มเสียให้เข็ด….

     

    เสียงตุบดังออกมาจากภายในห้องนอน ก่อนจะพบว่าร่างบอบบางของหย็องเดินโอนเอนเป็นซอมบี้ออกมา เพื่อที่จะหาพิกัดของห้องน้ำ ชายหนุ่มมองตามร่างไร้วิญญาณไปเรื่อยๆ ด้วยความฉงนนึกย้อนกลับไปว่าเด็กผู้ชายคนนี้เป็นใคร

    บ้าจริง….วิญญาณคนบ้างานเข้าสิง

      

    จนลืมไปเลยว่าเขามาที่นี้ก็เพื่อมาหาความสุข ไม่ใช่มาเพื่อที่จะตรวจคุณภาพโรงแรมตัวเองซะหน่อย….

     

                    “ออกไปได้ละ แล้วอย่าลืมที่ผมสั่งล่ะ” คริส พูดด้วยท่าทางนิ่งดุ พร้อมกับโบกมือไล่ให้ผู้จัดการหัวหน้าแผนกออกไปจากห้อง

     

                    “ไอ้ฝรั่งนี่ท่าจะประสาท” เสียงพึมพำของผู้ชายร่างผอมไม่พ้นหูกางๆ น่าจับบีบของหย็องไปได้ เด็กหนุ่มที่กำลังเดินผ่านหันกลับมามองแล้วชี้นิ้วไปยังผู้ชายคนนั้นทันที สายตาเยิ้มๆแบบคนเมาก็จ้องกลับไปที่พ่อฝรั่งที่นั่งไขว่ห้างมองอยู่

                    “พ่อฝรั่งเลาได้ยินเขาด่าพ่อฝรั่งว่าประสาทอ่ะ

     

     

    End Part

     

     

     

                    คริส อู๋ หรือ คริสโตเฟอร์ อู๋ กำลังกึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงคิงไซต์ ในมือก็มีรีโมทแอร์ที่เจ้าตัวพยายามปรับอุณหภูมิ เพื่อให้เหมาะสมสำหรับคืนที่ต้องเร้าร้อนมากแน่ๆอย่างคืนนี้ เสียงสลิปเปอร์ดังแช่บๆเข้ามาใกล้ทำให้คนที่อยู่บนเตียงหันไปมอง สายตาที่เขาใช้มันหวานเยิ้มและเจ้าเล่ห์ เพื่อบ่งบอกให้เด็กน้อยรู้ว่า คืนนี้เสร็จแน่

     

                    “ทำไมทำหน้าเหมือนคนพี้กัญชาแบบนั้นอ่ะ” เด็กน้อยถาม แม้ว่าตัวเองจะยังมึนๆกับฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์อยู่ก็ตามแต่ก็ สร่างไปมากแล้วจนพูดอะไรรู้เรื่องขึ้น ตั้งแต่ที่ไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาแล้วปรากฏว่าไม่เจอขัน เขาก็สำเหนียกได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่บ้านตัวเอง แถมยังเป็นอะไรที่หรูหราสุดๆอีก

                    ยอมรับว่าใจหนึ่งก็กลัว ใจหนึ่งก็รู้สึกว่าคนตรงหน้าก็คงแค่หวังดีเปิดห้องสวีทเจ็ดดาวให้พักสร่างเมา เพราะนี่คงแค่เศษเงินของพ่อฝรั่งเขาเท่านั้น

                    แล้วเด็กอายุสิบแปดที่มีห้องนอนห้องครัวห้องนั่งเล่นรวมกันอย่างเขา ก็อดที่จะยอมรับไม่ได้ว่านี่มันประสบการณ์สุดพิเศษที่ถ้าหลับและตื่นขึ้นมาก็คงเป็นแค่ความฝัน

     

                    “มานอนนี่สิ” ชายหนุ่มอายุสามสิบสามตบปุลงบนเตียงข้างตัว แถมยังส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ เด็กน้อยยอมทำตามแต่โดยดีเพราะตอนนี้ง่วงแบบสุดๆ

     

                    เอาจริงๆจากใจ หมูหย็อง……ไม่ใช่ว่าคนตรงหน้าจะไม่หล่อ ถึงอายุจะเข้าเลขสามไปแล้วแต่กลับดูเผ็ดจนเข็ดฟันแบบสุดๆ ยิ่งเวลาที่พ่อฝรั่งเขานอนบนเตียงแล้วชายเสื้อคลุมมันเปิดออกจนเห็นขาอ่อนนั่นที่มีแต่มัดกล้าม

     หย็องเดินไปนั่งตรงขอบเตียง กล้าๆกลัวๆเพราะตัวเองไม่ใช่เด็กขายน้ำหรือพวกไม้ป่าเดียวกัน และที่ชมๆไปเมื่อครู่ก็ชมเพราะรู้สึกอิจฉาที่อีกฝ่ายมีแต่เขาไม่มีก็เท่านั้น

     

                    “เห้ย!!” ร้องเสียงหลงทันทีที่ ถูกกระชากแขนให้ล้มตัวลงไปนอนเกยบนอก ดวงตาคู่สวยเหลือกเหมือนกับปลาขาดน้ำ พยายามดิ้นหนีเท่าไหร่ก็ไม่สามารถลอดพ้นอ้อมแขนแข็งแกร่งของพ่อฝรั่งไปได้

     

                    ซวยแล้วพ่อฝรั่งมันเป็นเกย์แน่ๆ….

     

     

                    “แอร์มันเย็น ขอกอดหน่อย” พูดเสียงทุ้มต่ำข้างหูเด็กน้อย แล้วใช้นิ้วดีดรีโมทแอร์ตกหายลงไปตรงขอบเตียง หย็องที่ดิ้นไม่หลุดและเริ่มที่จะมึนหัวก็หยุด ไม่ดื้อไม่ซนอยู่ในอ้อมกอดพ่อฝรั่ง

                    “ผมไม่ใช่ผู้ชายอย่างว่า

                    “ฉันก็ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นเด็กแบบนั้น”

                    “แต่คุณกำลังทำให้ผมเป็นแบบนั้น”


                    “ฉันแค่ชอบเธอ เด็กน้อย ชอบที่เธอเป็นเธอทั้ง ใบหน้า รูปร่าง กลิ่นหอมๆในตัวเธอ แล้วก็นิสัยน่ารักๆของเธอ” ฝรั่งมันโจ่งครึ้มแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า หย็องก็ไม่เข้าใจ เพระนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใกล้ชิดกับใครสักคน ใครสักคนที่พูดจาขวานผ่าซาก ตรงไปตรงมา จนหน้าเขามันร้อนผ่าวไปหมด

                    ดึกแล้วทำไมยังร้อนอยู่วะ

     

                    เด็กน้อยแอบซ่อนใบหน้าที่เห่อแดงเอาไว้ แต่มีหรือคนแก่ประสบการณ์จะไม่เห็นหูที่กำลังแดงเถือก ความน่ารักของเด็กหนุ่มทำให้คนอายุสามสิบสามใจสั่นเป็นเจ้าเข้า คิดไม่ผิดเลยที่ยอมเอาตัวเอง หัวตัวเอง ไปลงทุนกับเด็กคนนี้

                    “ฉันรวยมากนะ

                    “ห้ะ” หย็องเผลอเงยหน้าช้อนสายตาขึ้นไปมองคนที่อยู่ๆก็พูดอะไรออกมาก็ไม่รู้ คนบ้าอะไรจะประกาศตัวเองว่ารวย

                    “มาเป็นคุณหญิงของฉันมั้ยล่ะ”  

     

                    รุก….รุกแรงไปแล้ว

     

                    “บ้า!! ผมเป็นผู้ชาย คุณพูดอะไรของคุณเนี้ย ปล่อยนะครับผมจะกลับบ้าน” หย็องดิ้น ใจก็เต้นรัวเป็นกลอง กับคำขอเป็นแฟนแสนโบราณนั้น ถึงเขาจะอ่อนประสบการณ์ทางด้านความรัก แต่เขาก็คลุกคลีอยู่กับสถานที่ ที่เจอผู้ชายช่างฟันและผู้หญิงช่างฝันมามาก พวกฝรั่งที่ต้องการตีหลีก็มักจะพูดให้ค่าให้ราคาจนผู้หญิงตายใจ

                    สุดท้ายก็ทิ้ง

     

                    แต่เดี๋ยวกูผู้ชาย….

     

                    “เชื่อฉัน ถึงฉันจะเคยทำตัวแย่มาก่อน แต่ก็ไม่เคยคบซ้อน”

                    “คุณเคยมีแฟน…??

                    “เด็กน้อยฉันอายุปูนนี้แถมหล่อขนาดนี้ก็ต้องมีใครเข้ามาบ้างสิ” หย็องกรอกตามองเพดานแทบจะในทันที กับคำพูดชวนอวยตัวเองขั้นสุดแบบนั้น เวลาผ่านไปเนินนานพอสมควร แต่กลับไม่มีใครพูดอะไร คนที่กำลังจะหลับในอ้อมกอดอบอุ่น  ค่อยๆปรือเปลือกตาลง  

     

                    “นะครับ

                    “นะครับนี่คือ….” หย็องสะดุ้ง ไอ้ที่จะหลับๆที่หายวับไปเลย เมื่อถูกมือปลาหมึกหยุมหยิมเกาะไปตามบั้นเอวและสะโพก

                    “เป็นของคริสนะครับ” 


     
    หาอ่านเอาเองเด้อ... 






















                  

                    ณ เพ้นท์เฮ้าส์ใจกลางมหานครนิวยอร์ค.... 

                   “จงอินรายงานว่า คุณหนูสั่งให้ถอนกำลังทหารออกไปค่ะ บอกว่าจะขออยู่ที่ไทยสักพักหนึ่ง” เลขาสาวที่เพิ่งได้ทราบข่าวทางโทรศัพท์จากไทย เดินเข้ามารายงานให้กับนายเหนือหัวที่นั่งจิบกาแฟพร้อมกับในมือที่ถือนิตยสารเอาไว้อยู่

     ใบหน้าที่ยังคงความหล่อเหลาไม่ต่างจากสิบปีก่อนแม้อายุจะใกล้เลขหก กำลังยับย่น ทั้งๆที่ตัวเองทำตัวให้คนอื่นเป็นห่วง แต่ยังทำหน้าระรื่นขออยู่ต่อ แล้วไม่ยอมติดต่อกลับมาหาพ่อบังเกิดเกล้าสักแอะ โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ จะให้บุกไปจับตัวก็ยังกล้าคานอำนาจเขาอีก

                    มันน่าจับมาขังห้องสักครั้ง ไอ้ลูกไม่รักดี…..

     

                    “เจ้าเด็กนั่นบอกให้ถอนคำสั่งงั้นเหรอ……

                    “ค่ะท่าน”

                    “แล้วตอนนี้มันอยู่ไหน ขอพิกัดมันเลย….

                    “คนของเรา บอกว่าคุณหนูเข้าพักอยู่ที่โรงแรม XXX เมื่อช่วง สามทุ่มเวลาไทยค่ะท่าน”

                    “เหรอ….ดี ช่วยเตรียมเครื่องบินไว้ให้พร้อมในยี่สิบนาที พรุ่งนี้เช้าบุกไปจับตัวมันที่ห้อง บอกว่านี่คือคำสั่งของฉัน ฉันจะบินไปจัดการมันเอง!!

                    “ค่ะท่าน” 


















    ===================
    หมันไส้ในความรวยและมีอิทธิพล
    ความเป็นเจ้าของ ความเป็นคนหื่นกาม 
    รวมๆแล้ว หมันไส้คริส อู๋ มากจริงๆค่ะ เกลี๊ยด!!!!

    ........ 
    เรื่องนี้อย่างที่บอกค่ะ ไม่มีสาระใดๆทั้งสิ้น
    เรื่องนี้จะจบใน 12 ตอนหรืออาจสั้นกว่านั้น 
    จัดทำขึ้นเพื่อความสนุก ไม่มีการพาดพิงผู้ใดนะคะ 
    แต่งเพื่อเอาใจ มยคย และตัวเองค่ะ โหะๆ 
    .........
    สำหรับตอนต่อไป เปิดตัว ตัวละครใหม่
    ความน่าหมันไส้มากพอๆกับ คริส อู๋เลยล่ะค่ะ 

    ส่วนชั้บๆ ก็ไปหาอ่านเอาได้ตามที่อยู่เดิมๆนะคะ 
     
    อ้อ แล้วก็ขอบคุรรี้ดผู้น่ารักด้วยนะคะ ที่ชี้แนะความรู้ให้ไรท์
    ไรท์ต้องไปหาข้อมูลระหว่างคำว่า โชตะค่อน กับ โลลิค่อน อีกมากเลย 

    ยังไงก็ขอบคุณนา.... รักนะจุ้บๆ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×