คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CH03
“ว้าย ตาเถร บัดสี!! ทำอะไรกัน”
เสียงเอ็ดตะโรพร้อมกับเสียงหม้อบินกระทบลงพื้น
เรียกสติของคนกำลังฝันหวาน ให้ตื่นขึ้น หย็องที่ดีดตัวลุกจากพื้นเสื่อน้ำมัน
มองไปยังป้าหอมที่ยืนเท้าสะเอวหน้าตาดุดันอยู่ตรงปลายเท้า
“เห้ย!!”
พอรู้สึกตัวและหันมามองด้านข้าง
ก็พบกับสิ่งมีชีวิตขนาดยาวเกือบสองเมตรนอนเกยเขาอยู่
แถมแขนที่เคยวางตรงไหนสักแห่งบนร่างกายของเขาแน่ๆ
ก็ยังเนียนไหลมาอยู่ตรงกลางระหว่างเป้ากางเกงเจเจสีสดของเขา
พ่อฝรั่งค่อยๆเนียนตื่น
ลุกขึ้นขยี้ตา ส่ายหัวส่ายหน้ามอง สถานการณ์ครึ่งผีครึ่งคน
แขนที่ถูกจับโยนทิ้งดื้อๆ ก็ถูกเจ้าตัวยกขึ้นสุดลำแขนเพื่อบิดขี้เกียจ
สบายนักนะมึง!!
“ทำอะไรกัน
มานอนกอดกันกลางบ้าน ไม่อายผีอายสาง” ป้าหอมฉะทันที เมื่อหลานชายตื่นได้สติ
“เปล่านะจ้ะป้า
ใครกอดไม่มี๊!!” เสียงสูงชัดเจน ถึงจะไม่ได้ตั้งใจกอด แต่มันก็คือการกอด
หย็องหันไปสะกิดพ่อฝรั่งที่ยังทำมึนงัวเงียอยู่ให้ตั้งสติลุกขึ้นมาช่วยเถียง
“คุณๆ
ช่วยพูดเออ…ไม่สิ” สมองกลับไปชั่วครู่
เขาก็ลืมไปว่าไอ้คนข้างๆมันจะเอาสกิลภาษาไทยที่ไหนไปเถียงแม่ค้าเก่าปากตลาดอย่างป้าหอมได้
เด็กหนุ่มวัยสิบแปดหมาดๆจึงต้องหันไปประจบประแจงป้าหอมเพื่อเอาตัวรอดทันที
แต่คนเป็นป้ากลับทำเพียงแค่ส่งนิ้วมาเฉดหัวหลานชายแล้วบ่นเป็นหมี
“ไปๆ
เย็นจนตะวันทับตูดแล้ว ออกไปหาอะไรกินได้แล้ว”
“อะไรอ่ะ
เปียแชร์แล้วเสียเหรอป้า” บ่นอุบอิบอย่างรู้ทัน
ก็เวลาที่ป้าเสียเงินกับเรื่องพวกนี้ทีไรก็จะกลับมาฟาดงวงฟาดงาใส่หลานอย่างเขาเสมอๆ
“เดี๊ยะๆ
มันจะโดน เสียเสออะไร เอ้า เอาไปซื้อกับข้าวเลี้ยงไอ้พ่อฝรั่งของแกซะไป”
หย็องตาวาวทันทีที่เห็นแบงค์ร้อยสองใบถูกยื่นออกมาจากมือของป้าหอม
เด็กหนุ่มไม่คิดแม้แต่จะปฏิเสธ มือเล็กๆฮุบเอาเงินทั้งหมดมาไว้ในอุ้งมือแล้วรีบยกไหว้ปะหลกๆ
“เอ้า
ช้าอะไร ไหว้ป้าดิ” หย็องหันไปบอกพ่อฝรั่ง เจ้าตัวดูจะงงๆก่งก๊ง
แต่ก็ยอมยกมือไหว้ตามแบบที่เด็กน้อยข้างกายสอน
ป้าหอมที่เห็นเช่นนั้นก็ดูจะอารมณ์เย็นลง
แต่ไม่วายที่จะหันไปส่งสายตาคาดโทษฝรั่งตัวผอมสูงที่เอาแต่เหลือบมองด้วยความไม่ไว้ใจ
“ทำไมต้องไหว้ป้าคุณเหรอครับ”
พอเห็นว่าป้าเดินหายเข้าไปในครัวแล้ว พ่อฝรั่งก็เปิดปากถามทันที
เด็กหนุ่มเลยชูเงินสองร้อยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานหยด จนคนมองอดยิ้มตามไม่ได้
“วันนี้ป้าใจดีอ่ะ
ให้ตังตั้งสองร้อย วันนี้จะกินอะไรเดี๋ยวเราเลี้ยง” ยืดอกยกเงินขึ้นพัด จนคนที่นั่งมองได้แต่มองตามตาเยิ้มตาไหลด้วยความอยากฟัดให้จมเขี้ยว
“ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”
เลี้ยงตลอดชีวิตเลยก็ได้ พ่อฝรั่งคิดต่อในหัว
พวกเขาไม่ได้อาบน้ำกันก่อนออกมา
แต่ก็จัดแจงสวมเสื้อผ้ากันใหม่ให้เรียบร้อย เพื่อที่จะได้ไม่เป็นที่ครหาของสายตาประชาชน
แต่สำหรับพ่อฝรั่งที่ไม่ยอมท่าเดียวเพราะบ่นว่าร้อน
ก็เลยได้รับอภิสิทธิ์เป็นเสื้อกล้ามตัวที่รัดกุมรัดคอกว่าเดิมมาใส่
แม้จะไม่ถูกใจเพราะไม่ได้โชว์เนื้อหนังและระบายลมไม่ดีพอเท่าตัวเก่า
แต่เมื่อถูกสายตาเขม่นจากคนดีข้างตัว พ่อฝรั่งก็เลยต้องปิดปากเงียบยอมแต่โดยดี
ส่วนมื้ออาหารวันนี้ก็หรูหราเป็นพิเศษ
เมื่อคนจ่ายคือพ่อฝรั่งขายาวที่ตอนแรกงอแงว่าอยากจะกินอาหารทะเล
แต่พอเอาเข้าจริงกลับเอาแต่นั่งจ้องเขากินจนอึดอัดไปหมด
โดยอาหารที่พวกเขาสั่งไปเป็นกุ้งทะเลและปูเสียส่วนใหญ่
และถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะริมทะเลในบรรยากาศชิวๆตามอำนาจเงินของพ่อฝรั่ง แถมยังมีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่
เด็กน้อยไม่สามารถแตะได้เพราะพ่อฝรั่งไม่ยอม
และกว่าหย็องจะใช้ลูกอ้อนได้สำเร็จก็เป็นเอาตอนที่อิ่มจากมื้ออาหารไปแล้ว
“เดี๋ยวสั่งไปให้คุณป้าด้วยดีกว่า”
ชายหนุ่มพูดพร้อมกับยิ้มเอาอกเอาใจคนตรงหน้า อาหารที่นี้สดพอใช้ได้
รสชาติก็ถูกปากนิดหน่อย ไม่เหมือนกับที่เชฟส่วนตัวทำให้ทาน
ตอนที่ออกไปเที่ยวต่างอากาศแถวเกาะกวมหรือฮาวาย
แต่พอเห็นว่าเด็กน้อยมีความสุขกับการกินของทะเลตรงหน้า
เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าอาหารมื้อนี้มันอร่อยเพราะคนร่วมโต๊ะจริงๆ
กินกันอิ่มหนำสำราญแล้ว
คนที่ขะย่อนเข้าไปมากกว่าเพื่อนก็รู้สึกท้องอืดขึ้นมาเสียเฉยๆ เมื่อสั่งเช็คบิลรวมค่าอาหารที่สั่งกินที่นี้และสั่งกลับบ้านทั้งหมดสี่พันกว่าบาท
หย็องได้แต่มองเงินที่ถูกยื่นออกไปตรงหน้าแล้วก็รู้สึกเสียดาย
กินข้าวมื้อนึงตกสี่พันนี่ไม่ใช่เรื่องที่คนจนๆอย่างเขาจะทำได้ในชีวิตนี้
หรือแม้แต่คนบ้านรวยมีฐานะอย่างไอ้โอก็ต้องมีคิดแล้วคิดอีกหรือนานๆจะกินทีอยู่บ้าง
แต่พ่อฝรั่งตรงหน้าเขานี่สิ ตอนบริกรมาเช็คบิลมีบ่นด้วยนะว่าทำไมถูก
แถมท่าจ่ายเงินก็ไม่สะท้านสะท้านอะไรเลย ก่อนลุกก็มีตบติปให้เด็กที่กำลังเดินมาเก็บโต๊ะอีกคนละสองร้อยๆ
พี่จะเป็นลม…..
ออกจากร้านมาได้สักพักเจ้ามืออาหารครั้งนี้ก็ออกปากว่าอยากเดินชิวให้สมกับที่มาพักผ่อน
แต่ก่อนจะออกมาเดินกินลมจิบเบียร์พ่อฝรั่งก็ออกความคิดเห็นว่าควรนำอาหารที่ยังร้อนๆไปให้คุณป้าที่บ้านก่อน
แล้วค่อยออกมาเดิน ซึ่งหย็องก็ไม่ได้จะบ่นอะไร
และดูเหมือนผลตอบรับจากป้าหอมก็ดูดีมากเมื่อเห็นเหล่าอาหารเหลานานาชนิดถูกเสิร์ฟมาบนจานแถมฟรีจากคนอร์
คำพูดแสนค่อนแขวะเมื่อเช้าก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนจะกลายเป็นลูกครับลูกขาแล้ว
แม้ตอนนี้เขาจะเริ่มเหม็นพ่อฝรั่งนิดๆ
แต่หย็องก็ยินยอมเดินกลับออกมาที่หาดตอนกลางคืนกับผู้ชายตัวสูง ในมือก็มีเบียร์เย็นเจี๊ยบกันคนละขวดย้ำว่าคนละขวดแถมขวดใหญ่ด้วย
เดินไปคุยไป พ่อฝรั่งก็ถามนู้นถามนี่ซึ่งส่วนมากแม่งจะวกเข้ามาแต่เรื่องส่วนตัวของเขาตลอด
อะไรที่ตอบได้หย็องก็พยายามจะตอบให้มันผิวเผินที่สุด
แต่พอแอลกฮอลล์มันเข้าปากไปเรื่อยๆ สติมันก็เริ่มหลุด
จนสั่งการให้ถามอะไรก็ตอบออกไปอย่างนั้น
“หย็องมีแฟนรึยังครับ”
นั่นคำถามเหรอ
“ยังครับ”
คนที่ได้คำตอบที่ถูกใจยิ้มร่า แล้วเริ่มถามอีกคำถามทันที
“แล้วเด็กที่เจอกันเมื่อเช้าล่ะ
แฟนเก่าเหรอครับ”
“โอ้ยยยย
บ้านั่นน่ะไอ้โอ ลูกน้องเราเอง”
จิ้มนิ้วลงอกตัวเองแล้วช้อนตาหวานๆขึ้นมองหน้าพ่อฝรั่ง
ส่วนคนมองก็ได้แต่มือเลื้อยเป็นเถาวัลย์ไปวางบนไหล่
ทั้งๆที่ปากนี่อยากจะยื่นไปบดจูบมันให้รู้แล้วรู้รอดไปเสียตรงนั้น
“อะไรอ่ะ
อย่ามาแต๊ะอั๋งเรา”
“เบียร์จะหมดแล้ว
กินอันนี้สิครับ” มอมสิ รออะไร ชายหนุ่มแอบริบขวดเบียร์ที่ว่างเปล่าจากมือเด็กน้อยไปโยนทิ้งลงถังขยะแล้วป้อนเบียร์ที่ยังอยู่ในขวดของตัวเองเกือบครึ่งเข้าปากคนเริ่มเมา
เด็กน้อยซดมันจนเบียร์หมักรสขมไหลออกจากข้างปาก…
“ดื่มแบบนี้มันน่าเสียดายนะ”
บ่นเสร็จก็โยกขวดเบียร์ออก แล้วส่งริมฝีปากนุ่มหยุ่นของตัวเองจูบซับไปที่มุมปากสีเชอรี่
ลิ้นที่ไม่เคยอยู่สุขตามภาษาหนุ่มเจ้าสำราญที่ผ่านหญิงมานักต่อนักก็จัดการเลียไปบนริมฝีปากชุ่มฉ่ำ
ไล่ต้อนความขมของเบียร์ให้ลงคอ แม้จุดประสงค์จะไม่ใช่เบียร์แต่เป็นปากของเด็กน้อยก็ตาม
“อื้ออ
อย่าทำเรา” ตอบกลับมาเสียงอ้อแอ้ ทั้งๆที่มุดหน้าซุกลงไปในอกของชายหนุ่มเรียบร้อย
ตอนนี้พวกเขากำลังเดินไปบนหาดที่น้ำเริ่มขึ้นสูง ผู้คนก็เริ่มลดน้อยลง
จนเหลือไม่กี่คู่ ซึ่งส่วนมากและส่วนใหญ่ก็มาเดินเพื่อซึมซับบรรยากาศตามภาษาผัวเมียกันทั้งนั้น
ยิ่งพวกฝรั่งนุ่งน้อยชิ้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง
จูบนัวเนียกันจนเขาและเด็กน้อยเทียบไม่ติด
โอยยยย
อยากทำแบบนั้นบ้าง….
“เมาแล้วเหรอ”
ถามไปงั้น ทั้งๆที่มองดูก็รู้
“ไม่นะ”
หย็องตอบ
“แบบนี้จะกลับบ้านไหวมั้ยครับ
เปิดโรงแรมแถวนี้นอนก่อนมั้ย”
“เห้ย
ไม่เป็นไรเรากลับได้ มันเปลือง…” เด็กน้อยบ่นเสียงอู้อี้
ร่างที่เบากว่าที่คิดก็เริ่มโอนเอนไปมาอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม
รอยยิ้มบางๆปรากฏบนริมฝีปากได้รูปของ คริส ชายหนุ่มโอบกระชับเอวบางเอาไว้
หน้าก็ซุกลงสูดดมซอกคอขาวไปเพลินๆ ชนิดที่แทบอยากจะจับลากอีกคนไปกระทำชำเราหลังเรือที่จอดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“ซื้อโรงแรมให้หนูนอนพี่ก็ทำได้นะครับ…”
Part Kris Wu
การแต่งกายแบบนี้อาจจะเป็นการลำบากไปเสียหน่อยหากต้องการจองห้อง
สวีทที่ดีที่สุด แต่คนอย่าง คริส อู๋ ไม่เคยทำให้อะไรมันยากเกินความสามารถ
บัตรเครดิตที่มีวงเงินไม่จำกัดอภิสิทธิ์ชั้นพิเศษที่มีเพียงแค่สิบคนบนโลกเท่านั้นที่ได้ครอบครอง
ถึงแม้ว่าคนในตระกูลอู๋จะครอบครองมันไปแล้วถึงสามคนก็ตาม….
ถูกยื่นไปตรงหน้าพนักงานต้อนรับสาวสวยที่ดูไม่สวยเอาเสียเลยเวลาที่เธอมองเหยียดกลับมา…
การที่เขาได้ออกมาเปิดหูเปิดตาแบบนี้
ก็ทำให้รู้เลยว่าระบบการทำงานของโรงแรมระดับเจ็ดดาวที่นี้ไร้ประสิทธิภาพ แค่จะอบรมให้พนักงานรู้จักคุณค่าของคนโดยไม่มองผ่านสิ่งของนอกกายยังทำไม่ได้เลย
“ช่วยเรียกผู้จัดการที่ใหญ่ที่สุดนอกจากบอร์ดผู้บริหารมาหาผมหน่อยได้มั้ยครับ”
คริส พูดออกไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่ทรงพลังพิกลจนพนักงานสาวแอบกลัว….
“คุณ….อย่ามาล้อเล่นนะคะ”
หล่อนเอ่ย
“เปล่าครับ
ผมพูดจริงๆ” สายตาของหญิงสาวยังคงกวาดมองเขาเหมือนกับเป็นเพียงถุงพลาสติกที่ฝังอยู่ตามชายหาดรกๆ
เธอไม่ตอบอะไรอีกนอกจากก้มหน้าลงจัดการ ทดสอบรูดบัตรเครดิตที่ดูท่าว่าเธอคงจะไม่เคยเห็นและจับต้องมาก่อน
“คุณ…”
สิ่งมหัศจรรย์คงเกิดขึ้นกับเธอ ทำให้ใบหน้าที่เคยเกลียดชังเปลี่ยนไป
ชายหนุ่มยังคงส่งรอยยิ้มนุ่มนวลไปให้
แม้ว่าคนในอ้อมแขนจะเริ่มงอแงอยากนอนเตียงนุ่มๆแล้วก็ตาม
“กลับบ้าน….”
หนูน้อยบ่นเสียงหงุงหงิง หน้าก็พยายามซุกไซร้เข้าที่อกอย่างกับหาหมอนรองแก้ม
“ช่วยจัดการให้เร็วที่สุดด้วยนะครับ
พอดีแฟนผมเขาไม่ไหวแล้ว…”
อีกสิบนาทีต่อมาทั้งหย็อง
และคริส อู๋ ก็ถูกพามายังห้องสวีทเจ็ดดาวชั้นบนสุด โดยการนำทางของคุณหัวหน้าแผนกต้อนรับ
ที่ออกจะเก้งกวางไปเสียหน่อย ชายหนุ่มเอ่ยขอบคุณ เมื่อวานร่างบอบบางลงบนเตียงนอนขนาดคิงไซต์แล้วเรียบร้อย
“ช่วยโทรตามผู้บริหารที่ดูแลสาขานี้มาหาผมพรุ่งนี้เช้าด้วยนะครับ
ผมมีเรื่องที่ต้องคุยกับเขา” ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาหนังเนื้อดี
ด้วยมาดของนักธุรกิจหมื่นล้านผู้เอาจริงเอาจังกับงาน
ใบหน้าเรียบนิ่งดุดันภายใต้ชุด เสื้อกล้ามและกางเกงเจเจลายโดเรม่อน
ไม่ได้ช่วยทำให้ชายหนุ่มดูขลังน้อยลงเลย
“เออ….คือ ทางเราทราบว่าคุณเป็นคนรวย
แต่ว่าการที่คุณจะขอพบผู้บริหารระดับสูงของเรา แบบนี้ผมเกรงว่า…”
“ผมไม่ได้จะคอมเพลนเรื่องพนักงานต้อนรับที่ไม่ได้เรื่องของคุณ
แต่ผมต้องการเรียกผู้บริหารของคุณมาตักเตือนต่างหากที่ไม่คิดจะใส่ใจกับการคัดสรรพนักงานที่มีคุณภาพ”
“ตักเตือน….”
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจทำให้หัวหน้าหนุ่ม ขมวดคิ้ว
มือที่เคยกุมกันอยู่ด้านหน้าก็เคลื่อนย้ายไปอยู่ด้านหลัง
“ครับ
ตามนั้น ไม่งั้นผมจะส่งผู้บริหารจากสาขาใหญ่ที่นิวยอร์คมาหาพวกคุณทันที” คริส อู๋
ปั้นหน้าดุดันกว่าเดิมจนเหมือนจะเขมือบหัวผู้จัดการหัวหน้าแผนกต้อนรับเข้าไปทั้งหัว
แต่อีกฝ่ายกลับดูไม่สะทกสะท้านแถมยังทำท่ามีอารมณ์กรุ่นโกรธใส่
อย่างกับต้องการจะลองดีกับเขา
แบบนี้ไม่ต้องส่งมาจากนิวยอร์คแล้วล่ะมั้ง
ก็นั่งทนโท้อยู่ตรงหน้านี้แล้ว….เรียกประชุมบอร์ดบริหารตอนสี่ทุ่มเสียให้เข็ด….
เสียงตุบดังออกมาจากภายในห้องนอน
ก่อนจะพบว่าร่างบอบบางของหย็องเดินโอนเอนเป็นซอมบี้ออกมา
เพื่อที่จะหาพิกัดของห้องน้ำ ชายหนุ่มมองตามร่างไร้วิญญาณไปเรื่อยๆ ด้วยความฉงนนึกย้อนกลับไปว่าเด็กผู้ชายคนนี้เป็นใคร
บ้าจริง….วิญญาณคนบ้างานเข้าสิง
จนลืมไปเลยว่าเขามาที่นี้ก็เพื่อมาหาความสุข
ไม่ใช่มาเพื่อที่จะตรวจคุณภาพโรงแรมตัวเองซะหน่อย….
“ออกไปได้ละ
แล้วอย่าลืมที่ผมสั่งล่ะ” คริส พูดด้วยท่าทางนิ่งดุ
พร้อมกับโบกมือไล่ให้ผู้จัดการหัวหน้าแผนกออกไปจากห้อง
“ไอ้ฝรั่งนี่ท่าจะประสาท…”
เสียงพึมพำของผู้ชายร่างผอมไม่พ้นหูกางๆ น่าจับบีบของหย็องไปได้ เด็กหนุ่มที่กำลังเดินผ่านหันกลับมามองแล้วชี้นิ้วไปยังผู้ชายคนนั้นทันที
สายตาเยิ้มๆแบบคนเมาก็จ้องกลับไปที่พ่อฝรั่งที่นั่งไขว่ห้างมองอยู่
“พ่อฝรั่ง…เลาได้ยินเขาด่าพ่อฝรั่งว่าประสาทอ่ะ…”
End Part
คริส อู๋ หรือ
คริสโตเฟอร์ อู๋ กำลังกึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงคิงไซต์
ในมือก็มีรีโมทแอร์ที่เจ้าตัวพยายามปรับอุณหภูมิ
เพื่อให้เหมาะสมสำหรับคืนที่ต้องเร้าร้อนมากแน่ๆอย่างคืนนี้
เสียงสลิปเปอร์ดังแช่บๆเข้ามาใกล้ทำให้คนที่อยู่บนเตียงหันไปมอง
สายตาที่เขาใช้มันหวานเยิ้มและเจ้าเล่ห์ เพื่อบ่งบอกให้เด็กน้อยรู้ว่า
คืนนี้เสร็จแน่…
“ทำไมทำหน้าเหมือนคนพี้กัญชาแบบนั้นอ่ะ”
เด็กน้อยถาม แม้ว่าตัวเองจะยังมึนๆกับฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์อยู่ก็ตามแต่ก็ สร่างไปมากแล้วจนพูดอะไรรู้เรื่องขึ้น
ตั้งแต่ที่ไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาแล้วปรากฏว่าไม่เจอขัน เขาก็สำเหนียกได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่บ้านตัวเอง
แถมยังเป็นอะไรที่หรูหราสุดๆอีก
ยอมรับว่าใจหนึ่งก็กลัว
ใจหนึ่งก็รู้สึกว่าคนตรงหน้าก็คงแค่หวังดีเปิดห้องสวีทเจ็ดดาวให้พักสร่างเมา เพราะนี่คงแค่เศษเงินของพ่อฝรั่งเขาเท่านั้น
แล้วเด็กอายุสิบแปดที่มีห้องนอนห้องครัวห้องนั่งเล่นรวมกันอย่างเขา
ก็อดที่จะยอมรับไม่ได้ว่านี่มันประสบการณ์สุดพิเศษที่ถ้าหลับและตื่นขึ้นมาก็คงเป็นแค่ความฝัน
“มานอนนี่สิ”
ชายหนุ่มอายุสามสิบสามตบปุลงบนเตียงข้างตัว แถมยังส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้
เด็กน้อยยอมทำตามแต่โดยดีเพราะตอนนี้ง่วงแบบสุดๆ
เอาจริงๆจากใจ
หมูหย็อง……ไม่ใช่ว่าคนตรงหน้าจะไม่หล่อ ถึงอายุจะเข้าเลขสามไปแล้วแต่กลับดูเผ็ดจนเข็ดฟันแบบสุดๆ
ยิ่งเวลาที่พ่อฝรั่งเขานอนบนเตียงแล้วชายเสื้อคลุมมันเปิดออกจนเห็นขาอ่อนนั่นที่มีแต่มัดกล้าม
หย็องเดินไปนั่งตรงขอบเตียง
กล้าๆกลัวๆเพราะตัวเองไม่ใช่เด็กขายน้ำหรือพวกไม้ป่าเดียวกัน และที่ชมๆไปเมื่อครู่ก็ชมเพราะรู้สึกอิจฉาที่อีกฝ่ายมีแต่เขาไม่มีก็เท่านั้น
“เห้ย!!”
ร้องเสียงหลงทันทีที่ ถูกกระชากแขนให้ล้มตัวลงไปนอนเกยบนอก ดวงตาคู่สวยเหลือกเหมือนกับปลาขาดน้ำ
พยายามดิ้นหนีเท่าไหร่ก็ไม่สามารถลอดพ้นอ้อมแขนแข็งแกร่งของพ่อฝรั่งไปได้
ซวยแล้ว…พ่อฝรั่งมันเป็นเกย์แน่ๆ….
“แอร์มันเย็น
ขอกอดหน่อย” พูดเสียงทุ้มต่ำข้างหูเด็กน้อย แล้วใช้นิ้วดีดรีโมทแอร์ตกหายลงไปตรงขอบเตียง
หย็องที่ดิ้นไม่หลุดและเริ่มที่จะมึนหัวก็หยุด ไม่ดื้อไม่ซนอยู่ในอ้อมกอดพ่อฝรั่ง
“ผมไม่ใช่ผู้ชายอย่างว่า…”
“ฉันก็ไม่ได้คิดว่าเธอเป็นเด็กแบบนั้น”
“แต่คุณกำลังทำให้ผมเป็นแบบนั้น”
“ฉันแค่ชอบเธอ
เด็กน้อย ชอบที่เธอเป็นเธอทั้ง ใบหน้า รูปร่าง กลิ่นหอมๆในตัวเธอ
แล้วก็นิสัยน่ารักๆของเธอ” ฝรั่งมันโจ่งครึ้มแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า
หย็องก็ไม่เข้าใจ เพระนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใกล้ชิดกับใครสักคน
ใครสักคนที่พูดจาขวานผ่าซาก ตรงไปตรงมา จนหน้าเขามันร้อนผ่าวไปหมด
ดึกแล้ว…ทำไมยังร้อนอยู่วะ
เด็กน้อยแอบซ่อนใบหน้าที่เห่อแดงเอาไว้
แต่มีหรือคนแก่ประสบการณ์จะไม่เห็นหูที่กำลังแดงเถือก
ความน่ารักของเด็กหนุ่มทำให้คนอายุสามสิบสามใจสั่นเป็นเจ้าเข้า
คิดไม่ผิดเลยที่ยอมเอาตัวเอง หัวตัวเอง ไปลงทุนกับเด็กคนนี้
“ฉันรวยมากนะ…”
“ห้ะ…”
หย็องเผลอเงยหน้าช้อนสายตาขึ้นไปมองคนที่อยู่ๆก็พูดอะไรออกมาก็ไม่รู้
คนบ้าอะไรจะประกาศตัวเองว่ารวย
“มาเป็นคุณหญิงของฉันมั้ยล่ะ”
รุก….รุกแรงไปแล้ว
“บ้า!! ผมเป็นผู้ชาย
คุณพูดอะไรของคุณเนี้ย ปล่อยนะครับผมจะกลับบ้าน” หย็องดิ้น ใจก็เต้นรัวเป็นกลอง
กับคำขอเป็นแฟนแสนโบราณนั้น ถึงเขาจะอ่อนประสบการณ์ทางด้านความรัก
แต่เขาก็คลุกคลีอยู่กับสถานที่ ที่เจอผู้ชายช่างฟันและผู้หญิงช่างฝันมามาก
พวกฝรั่งที่ต้องการตีหลีก็มักจะพูดให้ค่าให้ราคาจนผู้หญิงตายใจ
สุดท้ายก็ทิ้ง…
แต่เดี๋ยวกูผู้ชาย….
“เชื่อฉัน
ถึงฉันจะเคยทำตัวแย่มาก่อน แต่ก็ไม่เคยคบซ้อน”
“คุณเคยมีแฟน…??”
“เด็กน้อย…ฉันอายุปูนนี้แถมหล่อขนาดนี้ก็ต้องมีใครเข้ามาบ้างสิ”
หย็องกรอกตามองเพดานแทบจะในทันที กับคำพูดชวนอวยตัวเองขั้นสุดแบบนั้น
เวลาผ่านไปเนินนานพอสมควร แต่กลับไม่มีใครพูดอะไร
คนที่กำลังจะหลับในอ้อมกอดอบอุ่น
ค่อยๆปรือเปลือกตาลง
“นะครับ…”
“นะครับนี่คือ….” หย็องสะดุ้ง
ไอ้ที่จะหลับๆที่หายวับไปเลย เมื่อถูกมือปลาหมึกหยุมหยิมเกาะไปตามบั้นเอวและสะโพก
“เป็นของคริสนะครับ”
ณ เพ้นท์เฮ้าส์ใจกลางมหานครนิวยอร์ค....
“จงอินรายงานว่า
คุณหนูสั่งให้ถอนกำลังทหารออกไปค่ะ บอกว่าจะขออยู่ที่ไทยสักพักหนึ่ง”
เลขาสาวที่เพิ่งได้ทราบข่าวทางโทรศัพท์จากไทย
เดินเข้ามารายงานให้กับนายเหนือหัวที่นั่งจิบกาแฟพร้อมกับในมือที่ถือนิตยสารเอาไว้อยู่
ใบหน้าที่ยังคงความหล่อเหลาไม่ต่างจากสิบปีก่อนแม้อายุจะใกล้เลขหก
กำลังยับย่น ทั้งๆที่ตัวเองทำตัวให้คนอื่นเป็นห่วง แต่ยังทำหน้าระรื่นขออยู่ต่อ
แล้วไม่ยอมติดต่อกลับมาหาพ่อบังเกิดเกล้าสักแอะ โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้
จะให้บุกไปจับตัวก็ยังกล้าคานอำนาจเขาอีก
มันน่าจับมาขังห้องสักครั้ง
ไอ้ลูกไม่รักดี…..
“เจ้าเด็กนั่นบอกให้ถอนคำสั่งงั้นเหรอ……”
“ค่ะท่าน”
“แล้วตอนนี้มันอยู่ไหน
ขอพิกัดมันเลย….”
“คนของเรา
บอกว่าคุณหนูเข้าพักอยู่ที่โรงแรม XXX เมื่อช่วง สามทุ่มเวลาไทยค่ะท่าน”
“เหรอ….ดี
ช่วยเตรียมเครื่องบินไว้ให้พร้อมในยี่สิบนาที พรุ่งนี้เช้าบุกไปจับตัวมันที่ห้อง บอกว่านี่คือคำสั่งของฉัน
ฉันจะบินไปจัดการมันเอง!!”
“ค่ะท่าน…”
ความคิดเห็น