The River Flows: พร้อมจะหมุนไปด้วยกัน
คำเตือน: เรื่องสั้นอิงสารคดีเรื่องนี้ ก็ไม่ต่างจากสายน้ำที่เคี้ยวคด กรุณาอย่าเดาเรื่องเสียให้ยากจะดีกว่า
ผู้เข้าชมรวม
635
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เวลาเย็นหลังเลิกเรียนผมเร่งฝีเท้าย่ำประทับลงบนพื้นถนนที่เจิ่งนองด้วยน้ำฝนก่อนจะมุ่งตรงสู่ประตูบ้าน ขณะนี้แม่รอผมอยู่ เธอรับร่างอันหนาวสั่นสะท้านของผมด้วยผ้าขนหนูหนานุ่มและใบหน้าอันอ่อนโยน หากแต่ส่อแววกังวลอยู่ลึกๆหลังจากนั้นเธอบอกให้ผมรีบอาบน้ำเสีย บางทีผมก็สงสัยว่าในเมื่อตัวเราเปียกชุ่มด้วยน้ำฝน ทำไมเราจึงต้องอาบน้ำ ทำไมไม่เพียงแค่เช็ดตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังอยากอาบน้ำอยู่ดีเพราะผมตระหนักได้ว่าน้ำฝนไม่ได้ชะล้างกลิ่นเหม็นเหงื่อของผมให้ลดลงได้เลย
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ผมจึงนั่งลงที่ขอบเตียง แม่วางยาและแก้วน้ำอุ่นที่หัวเตียง เอามือมาประทับนิ่มๆบนหน้าผาก เธอบอกว่าผมมีไข้ เธอบอกว่าผมควรกินยาแล้วนอนเสีย ก่อนเธอจะจากห้องไปเธอจุมพิตข้างแก้มผมเหมือนเช่นเคยแล้วปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวตามลำพัง
น้ำอึกใหญ่ไหลลงคอพร้อมกับยา ผมกระชับผ้าห่มที่อยู่กับคลุมไหล่ ในมือถือแก้วน้ำอุ่นจนรู้สึกอุ่นมือ พลางมองไปนอกหน้าต่าง กลุ่มเมฆดำทะมึน...พายุห่าใหญ่ไม่มีทีท่าจะสงบลง
น้ำฝนเม็ดแล้วเม็ดเล่าตกกระทบแผ่นดินนับล้านๆเม็ด จนถนนชุ่มแชะน้ำเอ่อล้นไหลไปตามทางระบายน้ำก่อนถ่ายเทลงสู่คลองข้างถนน ทันทีผมรู้สึกใจขึ้นมาว่า สายน้ำสิ้นสุดเพียงเท่านี้หรือ หากแต่ในใจยังคงคิดหาคำตอบจึงบอกกับตัวเองว่ามันไม่ใช่เพียงแค่นี้ ผมเคยได้ยินอย่าผ่านๆถ้าจำไม่ผิดคงเป็นในสารคดีโทรทัศน์ เขาบอกว่าน้ำคือสิ่งมหัศจรรย์ คือจุดเริ่มต้นของทุกๆชีวิตและมีคุณต่อเรายิ่ง หากทว่าคุณค่าของน้ำอยู่ที่ไหน อาจจะอยู่ที่เรานำมาดื่ม นำมาใช้ ไม่ล้างรถ ล้างจาน ทำความสะอาดอื่นๆอีกสารพัด และแน่นนอนว่าต้องใช้อาบน้ำด้วยผมไม่ลืมหรอก ถ้าเป็นไปได้หากภพหน้ามีจริง ผมอยากเกิดเป็นน้ำจะได้สร้างคุณประโยชน์แก่ผู้อื่นอย่างมากมาย
จากความรู้ในห้องเรียนนำมาสู่กระบวนการคิดในสมองเล็กๆของผม กลไกในสมองกำลังรื้อฟื้นความรู้ สายตายังคงจับจ้องทางน้ำไหล และแล้วตรงคลองหน้าบ้านก็คือแหล่งน้ำใหญ่ที่ใกล้ที่สุดที่ผมจะสังเกตการณ์ อาจารย์เคยเล่าว่าแสงจากดวงอาทิตย์เมื่อสาดแสงต้องผิวน้ำ น้ำก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงสถานะจากของเหลวกลายเป็นไอปรากฏการณ์นี้เรียกว่า "การระเหย" ไอน้ำก็จะระเหยสูงขึ้น สูงขึ้น ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะแสงเป็นปัจจัยหลักแต่เกิดจากอุณหภูมิความร้อนและลมที่ทำให้น้ำแตกตัวเป็นไอ ถึงตรงนี้ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า องศารุ่มๆในร่างกายผมจะทำให้น้ำระเหยได้บ้างไหม ผมนั่งคิดแต่แล้วก็เหม่อลอยไปอย่างเงียบๆก่อนจะดึงตัวเองสู่สถานการณืปัจจุบัน
ไม่ใช่เส้นทางของน้ำจะสั้นแค่การระเหยไปแล้วกลั่นตัวเป็นหยดน้ำเท่านั้น ถ้าผมสังเกตดีและจินตนาการว่าผมคือส่วนหนึ่งของน้ำ..คือหยดน้ำเล็กๆอาจเป็นการผจญภัยของสิ่งเล็กที่ยิ่งใหญ่ก็เป็นได้
ตรงนั้นผมเห็นต้นหูกวางสูงใหญ่ ใบของมันเสียดสีกันไหวโอนเอนตามแรงลมโหมกร้าว นั่นอาจเป็นเส้นทางหนึ่งที่ผมมองข้ามไป...เส้นทางสู่ท่อลำเลียงพืช และแล้วผมก็มุ่งตรงสู่รากออสโมซิสตัวเองเข้าสู่รากฝอยโดยผ่านเนื้อเยื่อเอพิเดอร์มิสอันดับแรก ผ่านชั้นคอร์เทกซ์ และพยายามอย่างยิ่งยวดที่ผ่านชั้นเอ็นโดเดอร์มิส สู่เขตเพริไซเคิล ผ่านโฟลเอ็มสู่ไซเล็ม ก่อนถูกแรงดึงจากการคายนำตัวเองไปหล่อเลี้ยงลำต้น วกวนไปกับไซเล็มเรย์และท่อพิธ ถูกคายออกจากปากใบก่อนระเหยเป็นไอไปในอากาศ จะเห็นได้ว่าต้นไม้ก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักร เมื่อขาดต้นไม้ย่อมไม่มีน้ำเพราะเราต่างต้องพึ่งพาอาศัยกันและกัน
เมื่อไม่กี่วันมานี้ผมเห็นชาวบ้านจูงกระบือมาเล็มหญ้าข้างคลองสามสี่ตัว สักพักพวกมันก็ลงไปกินน้ำ เส้นทางของผมจึงเลี่ยงเสียไม่ได้ที่จะผ่านริมฝีปากหนาๆของมัน ไหลลงสู่ลำคอ ลงไปยังหลอดอาหาร ลงสู่กระเพาะทั้งสี่ ไปรูเมนก่อน ไหมไปเรทิคิวลัม โอมาซัม แล้วจึงอะโบมาซัม ส่งต่อให้ลำใส้เล็ก แต่ถ้าหากถูกดูดซึมไปตามกระแสเลือดจะง่ายกว่าการเดินทางอันซับซ้อนภายในกระเพาะ สุดท้ายไปยังไตก่อนถูกถ่ายกลายเป็นของเสียอีกที ถึงตรงนี้หยดน้ำอย่างผมไม่น่าภิรมย์เท่าไรนักเต็มไปด้วยยูเรียส่วนอื่นผมไม่อยากจะบรรยาย ถัดจากนั้นก็ผันตัวเองเข้าสู่วัฏจักรเดิม
หากแต่ไม่น่าภิรมย์ยิ่งกว่า ถ้าผมถูกส่งเข้าไปในโรงงานอุตสาหรรมนั่น เขาเอาผมไปใช้งานหนัก เอาไปผลิตผลิตภัณฑ์ ไปทำความสะอาดสิ่งสกปรก ใช้งานหนักมากเสียจนกระทั่งพวกเขาไม่ทันอาบน้ำล้างคราบและสิ่งสกปรกให้ผม ถูกปล่อยออกมาอย่างทิ้งขว้าง และแน่นอนมีทั้งคราบน้ำมัน ขี้ฝุ่น สารเคมีปนเปื้อนมากับพวกเรา หยดน้ำอื่นๆพลอยติดเชื้อไปด้วย น้ำเสียที่ผ่านจากการซักผ้าจากมือหญิงวัยกลางคนที่สาดลงมาสมทบให้สถานการณ์ยิ่งแย่ใหญ่ ผนวกกับเด็กกลุ่มหนึ่งแตะกระป๋องและขวดพลาสติกเล่น ทัศนียภาพในคลองตอนนี้ไม่น่าดูยิ่งนัก เหตุเพราะอะไรหรือ...ถึงตรงนี้ผมกลับมาสู่ความคิดของคนๆหนึ่ง เพราะการเป็นหยดน้ำไม่สามารถตอบปัญหาทางจิตใจอันเกิดจากความมักง่าย ขี้เกียจ และไม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมของมนุษย์ได้
หยดน้ำอย่างผมได้คำตอบจากความคิดในแบบมนุษย์ พลันก็เกิดความรู้สึกหลากหลายมันอาจเป็นความน้อยใจ เสียใจ โกรธ หรือคับแค้นใจถึงอย่างนั้นก็ยังอดเวทนาพวกมนุษย์ไม่ได้ว่าสักวันหนึ่ง พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าพวกเขานั่นเองที่เป็นคนทำร้ายพวกเราเพราะพวกเรายังมีพอให้ใช้ฟุ่มเฟือย วันใดที่พวกเธอขาดแคลนพวกเรา ความเจ็บช้ำนั้นก็จะคืนสนอง วันนั้นคุณเพิ่งมาเห็นคุณค่าเราก็อาจสายเกินไป
วัฏจักรยังต้องหมุนต่อไป ถ้าผมจำไม่ผิดผมเล่าถึงตอนที่พวกเรา...หยดน้ำได้ระเหยเป็นไอแล้วลอยสูงขึ้น สูงขึ้นเรื่อยๆจนหยุดกึก ณ องศาเย็นของชั้นบรรยากาศ ไอน้ำ ไอแล้วเล่าเริ่มก่อตัวจนใหญ่ขึ้น แน่นหนาขึ้น เบียดกันมากขึ้นเรื่อยๆจนก่อตัวเป็นกลุ่มเมฆทะมึน...พายุฝนห่าใหญ่กำลังจะเริ่มต้น พวกเราลงต่ำลงมาเรื่อยๆเหมือนกำลังคืบคลานลงจากเขา เวลานี้ทุกคนเริ่มล่ำลากันเพราะถึงขั้นตอนที่เรียกว่า "ควบแน่น" คือการเปลี่ยนจากไอน้ำกลับคืนสถานะเป็นหยดน้ำเล็กๆอย่างที่เราเป็น ไม่ทันไรเหล่าหยดน้ำหยดแล้วหยดเล่า จากร้อยเป็นล้านๆหยดหยาดโปรยปรายประทังความชุ่มเย็นยังผืนแผ่นดิน
หมดเวลาของผมแล้ว หมดแล้วจริงๆที่จะเพ้อฝันกับเรื่องที่จินตนาการอยู่ นอกจากเสียว่าถึงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงเสียที ตอนนี้มันต่างกับเรื่องที่ผมจิตนาการอย่าลิบลับ ท้องฟ้าสงบและปรอดโปร่งผมยืนอยู่บนเรือลำหนึ่งที่ลอยลำกลางแม่น้ำ มีเพียงคลื่นไหวน้อยๆทำให้เรือโคลงเคลงเบาๆ ตอนนี้ผมยืนอยู่กับเธอ เธอคือแม่ของผมเอง เธอนิ่งสงบจนผมคิดว่าเธอคือส่วนหนึ่งของที่นี่ สายตาเธอไม่มองอะไรเลยนอกจากสิ่งที่ถือไว้สองมือ คูเหมือนจะมองไม่เห็นผมไปด้วย จะว่าไปเธอก็ไม่เห็นผมจริงๆ ชายคนนั้นเดินเข้ามาสะกิดและบอกแม่ผมว่าได้เวลาแล้ว เธอนิ่งไปพักหนึ่งก่อนที่ร่างกายจะสั่นสะเทิ้ม น้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้าอย่างหยุดไม่อยู่ เธอโอบสิ่งที่ถืออยู่ไว้แน่นแนบอก ผมรู้สึกเศร้าจับใจ เพราะผมคือสาเหตุทั้งหมดทั้งมวลที่ทำให้เธอมายืนร่ำไห้เช่นนี้ และเวลานี้ผมอยากถามแม่เหลือเกินว่าตลอดชีวิตของผม ผมเคยทำให้แม่มีความสุข เคยทำให้แม่ภูมิใจบ้างหรือไม่ สายลมยะเยือกเย็นหอบความทรงจำเมื่อวันวาน วันที่แปรผันทุกอย่างก่อนมาถึงจุดนี้
วันที่ผมนอนซมเป็นไข้หลายวันไม่หายหลังจากเลิกเรียนวันนั้น แม่พาผมไปหาหมอ หมอได้แต่ยื้อชีวิตออกไป หมอบอกว่าผมเป็นโรคร้ายยากที่จะเยียวยา ผมไม่รู้ว่าผมเป็นโรคอะไร แต่หมอบอกว่ามีภูมิคุ้มกันต่ำและเป็นมานานจนถึงระยะสุดท้าย แม่ร้องไห้ข้างเตียงผมเงียบๆ ผมไม่รู้สึกตัวเลยจนถึงบัดนี้
ผมรู้สึกปวดร้าวใจเสียจนร่างกายสั่นสะเทิ้มตามเธออย่างอั้นไม่อยู่ สายลมแผ่วปลายหายไปยินแต่เสียงแม่ที่สั่นเครือในลำคออันกลั่นออกมาเป็นคำพูดกระท่อนกระแท่นแต่ผมได้ยินอย่างถนัด เธอบอกว่า "ลูกจะรู้ไหมว่าตั้งแต่ลูกลืมตามาดูโลก วันที่เจ้าเอ่ยปากเรียกแม่ว่าแม่ ลูกคือความสุขที่สุดของแม่ แม่ภูมิใจในตัวลูกมากจ๊ะ" เธอกล่าวแล้วเอามือข้างหนึ่งขึ้นปาดน้าตาที่รินอาบแก้ม "แม่รักลูกนะ"
"ผมก็รักแม่ที่สุดครับ" นั่นคงเป็นคำพูดสุดท้ายที่ผมพูดกับเธอและที่เธอพูดกับผม เธอเอาอัฐิของผมมาลอยอังคาร อัฐิของผมลอยฟ้งพลิ้วไปกับสายน้ำอย่างมิอาจไหลย้อยกลับ
บางทีคุณอาจสงสัยว่าทำไมผมต้องเล่าถึงตอนนี้ ถ้าคุณเห็นคุณจะรู้ว่าผมไกลายเป็นส่วนหนึ่งของน้ำ น้ำมีความสำคัญจนกระทั่งวันที่ผมสิ้นลมหายใจ นี่ก็คือชีวิตที่ต้องมีจุดสิ้นสุด หากแต่วัฏจักของน้ำยังคงหมุนไปชั่วลูกชั่วหลานตราบที่เราไม่ทำลายวัฏจักรอันดีงามนี้ ตอนนี้ผมคงไม่ต้องกังวลที่จะจินตนาการเป็นหยดน้ำเพราะตอนนี้ผมคือส่วนหนึ่งของน้ำและพร้อมจะหมุนไปตามวัฏจักรด้วยกัน
ผลงานอื่นๆ ของ @Kong_Zun_Sher ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ @Kong_Zun_Sher
ความคิดเห็น