ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหญิงฟันน้ำนมกับเจ้าชายหัวหมากฝรั่ง ตอน อัศวินล่องหน

    ลำดับตอนที่ #9 : ประตูที่ถูกเปิดออกทั้ง 8 บาน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 109
      0
      7 ก.ย. 49

    บทที่ 9 ประตูที่ถูกเปิดออกทั้งแปดบาน

     

                    เจ้าวัตถุที่ตั้งตระหง่านห่างออกไปไม่ไกลจากกลุ่มเด็กทั้งสี่คนมากนัก    ยิ่งเข้าไปใกล้ภาพที่เคยคิดไว้เทียบไม่ได้เลยกับความรู้สึกที่ได้สัมผัสเวลานี้     ทำให้เราตอบคำถามได้ว่า มนุษย์นั้นยิ่งใหญ่เพียงใดถึงได้สามารถคิดค้นและสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาได้แม้บางอย่างจะมองดูแล้วเป็นไปไม่ได้ ก็ตาม

     

                    แล้วมันจะเป็นยังไงต่อไปล่ะ     เจ้าหญิงได้แต่ตั้งคำถามใจดวงน้อยท้อแท้อ่อนแรงและสิ้นหวังพยายามที่จะกลั้นน้ำตาเพื่อต่อสู้กับความจริงที่เกิดขึ้น    ทั้งที่อยากให้เรื่องนี้เป็นฝันร้ายแต่เวลาก็ผ่านมานานแล้ว   คิดปลอบตนเองเสียว่าความฝันในคืนนี้ภาพมันช่างชัดเจนและยาวนานเหลือเกิน

     

    ดวงอาทิตย์เริ่มส่องแสงอ่อนๆพ้นขอบฟ้า   เด็กทั้งสี่คนรู้สึกหิวแต่ก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะงอแงขึ้นมา

    เจ้าชายเดินสะอึกตลอดทางเขาจึงทำเป็นไอกลบเกลื่อน.........

     

    เดินไปถึงทางข้างหน้า ก็ผ่านตลาดน่าจะมีของกินอยู่บ้างนะ พลอยชมพู ชี้มือให้เพื่อนในกลุ่มดู

    ตลาดและแหล่งชุมชนในหมู่บ้านซึ่งยามนี้ไม่มีผู้คนอยู่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา    สภาพข้าวของถูกรื้อค้นไม่เหลือภาพเดิมอย่างเคยเห็น   แล้วทุกคนก็มาหยุดอยู่หน้าร้านขายของชำแห่งหนึ่ง

     

    เรามาช้า.......ไปอีกแล้วเหรอ ครองสุข เอ่ยขึ้น

    ไม่นะ ............. มันน่าจะมีอะไรแก้หิวได้บ้าง เจ้ายักษ์วิ่งไปในร้านขายของชำ ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจว่าจะมีเจ้าของอยู่หรือเปล่า ข้าวของที่ถูกวางระเกะระกะ เขาใช้มือปาดเหงื่อและก็ยิ้มที่มุมปากขึ้นมาก่อนที่จะวิ่งกลับไปที่กลุ่ม

    แน่ใจนะ ว่านี่ไม่ใช่การขโมย เจ้าชายถามขึ้น

    เออน่า....... เอ้า.......นี่น้ำ .........และขนมแก้หิวเขายื่นของให้เพื่อนร่วมทางทุกคน

                    ยังไม่ทันที่เจ้าชายครองสุขจะดื่มน้ำอึกแรกลงท้อง ร่างเจ้ายักษ์ก็เบี่ยงหลบมาชนตัวเขา   ล้มไปกองที่พื้นทั้งคู่   เจ้าชายผลักร่างยักษ์ให้ลุกขึ้น     เขารู้สึกแสบแปลบที่ข้อศอก

    ได้เลือดแล้วซิ

    ระวังหน่อยพี่เบิ้ม เจ้ายักษ์ไม่ทันระวังตัว ทำให้ออกแรงปะทะเพื่อนตัวเล็กไปทั้งตัว

    กรี๊ด.ดดดดดดด   ระวัง ข้างหลัง พลอยชมพู อุ้มเจ้าหญิงขึ้น และมองหาทางหนี แต่หากวิ่งตอนนี้เธออาจจะเป็นเป้าและโดดเจ้าสี่ขาเล่นงานเอาได้ง่ายๆ

    แฮ่ๆๆๆๆๆๆๆๆ โฮ่งๆๆๆๆ ทั้งเห่าและยิ้มอวดเขี้ยวยาว สุนัขตัวโตยืนประจันหน้ากับพวกเขา   ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครกล้าพอที่จะขยับร่าง

    เราว่า ............มันแค่อย่างแบ่งอาหารนะเจ้าชายยิ้มแหยๆ

    เงียบน่า.......... ดูเขี้ยวมันสิ แค่ครั้งเดียวเราก็ไม่รอดแล้วเจ้ายักษ์ประเมินสถานการณ์ชวนให้ขนลุก

    เล่นมาเงียบๆอย่างนี้ ............ตั้งตัวไม่ทันเลยเจ้าชายจับขวดน้ำในมือไว้แน่น ประมาณน้ำหนัก

     อืม .......พอใช้เขาหมุนฝามันให้แน่ แล้วมองไปที่เจ้าพันธุ์ดุนั่น เมื่อตาต่อตาประสานกัน

     อยากได้นักใช้ไหม

     

                    ขวดน้ำพลาสติกลอยไปในอากาศ ในทิศทางตรงข้ามกับเจ้าสี่ขา ...........เวลานี้ทุกคนเข้ามารวมกลุ่มกัน และมองเจ้าสี่ขาซึ่งกระโจนตัวตามขวดน้ำนั้นไปด้วยความเร็ว

     

                    ถ้ามันเล่นกับเราก็แสดงว่ามันเป็นมิตรในระดับหนึ่งเจ้าชายเดินไปจุดที่ขว้างขวดน้ำไป    เจ้าสี่ขาดูท่าจะชอบใจกับการเล่นแบบนี้ มันส่ายห่างและคาบขวดน้ำซึ่งเวลานี้บู้บี้และมีคราบน้ำลายเต็มไปหมด    เขาก้าวเข้าไปอย่างช้า     ยกสองมือขึ้นเหนือหัวและเปลี่ยนมาเป็นท่าแบมือขอขวดน้ำคืน     และตามด้วยการเป่าปากเรียกมันให้เล่นเป็นเพื่อน

     

    ดูเหมือนทั้งคนและสุนัขยังไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันดี ทั้งคู่เลยมีช่องห่างกันพอสมควร

     ใจดีไว้ไอ้เสือ เขาบอกตัวเองและสูดหายใจเข้าเต็มปอด

    ไม่เข้าถ้ำเสือก็--ไม่ได้ลูกเสือ........สงบและเยือกเย็นเข้าไว้อย่างที่เสด็จพ่อเคยสอนในเวลาเขาไม่มีสมาธิพอ

                   

    ..............................................

     

                    ดูเหมือนขนมปังที่ทุกคนกินเป็นอาหารเช้านั้นจะน้อยเกินไปสำหรับ เด็กทั้งสี่คน     เพราะเจ้าชายครองสุข แบ่งให้เพื่อนใหม่ไปส่วนหนึ่ง    การกระทำครั้งนี้ทำให้พวกเขาก็มีผู้นำทัพคนใหม่เป็นปุกปุย( เรียกว่าตัวใหม่จึงจะถูก) แล้วเจ้าสี่ขาขนสีน้ำตาลอ่อนก็ออกเดินเป็นหัวขบวนด้วยความชำนาญทางและระแวดระวังภัยเป็นอย่างดี

    แล้วทำไมต้องเดินตามมันด้วยล่ะ

                    เจ้าหญิงครุ่นคิดในใจดวงน้อย   พวกพี่เขาคิดอะไรกันนะถึงได้มาเดินตามเจ้าสี่ขานี่      เธอไม่เข้าใจและก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องน่าเบื่อเอามากๆ

    จาไปหนายกาน นี่ เสียงใสถามพี่ชายขึ้น

    ............ไม่รู้สิเจ้าชายไม่ได้กวนแต่เขายังไม่แน่ใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้น    ได้แต่หวังลึกๆว่าคงจะได้เจอกับสิ่งที่ดีบางในเวลาเช่นนี้

    หนู........ยา อยาก กะ กลับบ้านเจ้าหญิงไม่ได้งอแง แต่เพราะความล้าและไม่เคยออกจากบ้านเป็นเวลานานเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่อุ่นใจ ทั้งที่ภาพเมื่อคืนก็แจ่มชัด      แต่เธอก็คิดว่าหากเดินกลับไปที่บ้านเวลานี้ทุกอย่างก็คงเหมือนทุกวันที่ผ่านมา

    นี่ไง.....จะพากลับบ้าน     แต่ไปทางลัดนะพี่ชายอุ้มน้องสาวขึ้นมาหอมแก้ม

    หวังว่า........ทุกอย่างจะลงเอยด้วยดีนะ เจ้าเปี๊ยก ร่างยักษ์เดินมาแตะบ่าเพื่อน

    โฮ่ง.......สี่ขาขานรับแทนและเริ่มออกวิ่งทำให้ทุกคนต้องสาวเท้าเร็วขึ้นกว่าเดิม

                    ........................................

    สี่สหายหยุดอยู่หน้าต้นไม้ใหญ่   ส่วนเจ้าสี่ขานั้นหายตัวลึกลับเข้าไปในโพรงไม้ที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา    มองดูแล้วเหมือนเป็นช่องประตูมากกว่าแค่โพรงไม้ธรรมดา

     

    คงรู้นะว่าใครควรจะเข้าไปเจ้ายักษ์เดินมาข้างเพื่อนร่างเล็ก

    ระวังตัวนะ พลอยชมพูยืนอยู่ไม่ห่างนัก     ส่วนเจ้าหญิงเอามือทั้งสองข้างปิดหน้าเธอบอกตัวเองว่าไม่ได้กลัวแค่ตื่นเต้น

    ไม่รู้ว่าเป็นความคิดที่ดีหรือไม่   ที่จะก้าวเข้าไปในประตูบานนั้น    ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในโพรงต้นไม้ขนาดใหญ่   มันออกจะแปลกเสียหน่อยที่จะมีประตูลึกลับอยู่แถวนี้ 

     

    มันคงเป็นแค่บ้านคนเท่านั้นหรอก คิดได้อย่างนั้นเจ้าชายก็หมุนล็อคประตูเข้าไป     เขามองด้านล่างประตูที่เจ้าสี่ขาใช้เป็นทางเข้า หรือจะใช้ทางพิเศษดีนะ

     

                    ข้างในนั้นเหมือนห้องนั่งเล่นทั่วไป    ใหญ่กว่าห้องนอนเขาเล็กน้อย   บรรยากาศอบอุ่นและน่าจะมีคนอาศัย    เพราะมีกลิ่นบางอย่างทำให้รู้สึกเช่นนั้น   เมื่อกวาดสายตาไปทั่วห้องกับไม่เห็นจะมีใครแม้แต่เจ้าสี่ขาก็ไม่อยู่    พอหันมองทั้งห้องอีกครั้ง    ทำให้รู้ว่าภายในห้องนอกจากประตูทางเข้าที่ผ่านเข้ามาแล้ว ยังมีประตูบานอื่นอีก    เขาหมุนตัวรอบแล้วเริ่มนับในใจ

     

    แปดบาน

      เปล่าเจ้าชายไม่ได้เปล่งเสียง แต่เป็นเสียงของผู้หญิงที่วัยชราคนหนึ่ง   ซึ่งเจ้าสี่ขาก็อยู่ร่วมด้วยในตอนนี้

    สวัสดีครับ เด็กชายยกมือไหว้ ผม มะมา หลงมาครับ

    แน่ใจ ว่าหลงเหรอ.........เสียงเข้มแฝงด้วยพลังดังขึ้น

    คือ .........ก็....เจ้าตัวนั้นนำทางมาครับเขาชี้มือไปที่สี่ขาที่นั่งหมอบอยู่กับพื้น

    ฉันให้เขาไปเอง........ว่าแต่มากันกี่คน

    สี่คนครับ

    นอกจากพวกเธอ แล้วในหมู่บ้านเหลือใครอีกไหม เสียงนั้นดูเศร้าลง

    เหลือครับ ส่วนมากเป็นเด็ก ........

    แล้วพ่อแม่เธอ

    เด็กชายนิ่ง .........ผมไม่รู้

    ก็คงหายไปหมดสินะ .................

    เรื่องมันเป็นยังไงครับ

    ไม่ใช่หน้าที่ฉันต้องบอกเธอ

    แล้วพวกผมจะทำยังไงต่อไป

    ......................................................................

     

                    กลุ่มเด็กทั้งหมดนั่งจับกลุ่มภายในห้องนั้น    ทุกคนทานขนมคุกกี้น่าตาแปลกแต่ก็อร่อยที่วางอยู่ตรงหน้าเจ้ายักษ์และพลอยชมพูสนุกกับการเลือกคุกกี้ที่มีคำทำนายซ่อนอยู่   จนทำให้เจ้าชายเริ่มมองด้วยความไม่พอใจ

                    เจ้าหญิงสนใจหญิงชราที่นั่งดื่มกาแฟอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง     เธอไม่คุ้นกับผู้หญิงผมขาวมาก่อนแถมมีกลิ่นไม่สะอาดติดตัวจนไม่อยากจะเข้าใกล้

     

    หนู มานี่มาเธอเรียกเจ้าหญิงเข้าไปหา นานหลายอึดใจก่อนที่เธอจะก้าวเท้าไปใกล้และภายในห้องก็เงียบลง

    เป็นไง   เคยกินขนมแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า.....ชอบไหม

    ...................................ยิ้มหวานเห็นฟันหลอ ไม่ตอบ

    อร่อยมากครับ เจ้ายักษ์ร้องตอบแทนทั้งที่เคี้ยวยังไม่หมดปาก

    เดี๋ยวฉันทำ อย่างอื่นให้ใหม่เอาไหม

    อะอิ่มแล้ว เด็กน้อยยืนหมุนตัวไม่สบตาเธอหันไปมองพี่ชายเป็นระยะ

    รู้ไหมว่าหนูหน้าเหมือนคนที่ฉันรู้จักมาก

    ...........................................เจ้าหญิงส่ายหน้าและครุ่นคิดในใจ

    แต่เรื่องมันก็ผ่านมานแล้ว ............ เวลานี้ก็ไม่เหลือใครมีฉันนี่ล่ะที่ต้องทนอยู่บนโลกนี้ต่อไป

    จะ หามะ แม่ เจ้าหญิงพูดด้วยความซื่อ

    เด็กน้อย........ว่าแต่พวกเจ้ากล้าหาญพอหรือไม่

    ไม่ลองก็ไม่รู้นี่ครับ    ว่าแต่พวกผมต้องทำยังไงเจ้าชายครองสุขเดินมาหยุดอยู่ด้านข้างของน้องสาว

    ตอนฉันเป็นเด็กเรื่องแบบนี้มันก็เคยเกิดขึ้นกับฉัน   แต่ฉันมันเด็กขี้ขลาดหญิงชราก้มหน้าต่ำ

    ไม่เข้าใจ ครับเด็กชายจับต้นชนปลายไม่ถูก

    เธอไม่ต้องเข้าใจอะไรหรอก เอาเป็นว่าถ้าอยากให้พ่อแม่ และทุกอย่างกลับมาเหมือนฉันนี่แหละช่วยพวกเธอได้          ...........................................

     

    เด็กทั้งสี่ยืนอยู่หน้าประตูทั้งแปดบานนั้น  ตามคำบอกของหญิงชราทุกคนรับรู้ว่า

    ประตู ทั้งแปดบานนี้เชื่อมโยงหากันหมด แต่มีแค่หนึ่งบานจะพาพวกเขาไปสู่ดินแดนที่แตกต่าง

              เจ้าชายยืนนิ่งและใช่ความคิด

    แล้วจะเข้าประตูไหนก่อนดี เจ้ายักษ์ ยืนและหมุนตัวนับประตูทีละบาน  

    เข้ามาทางไหน  เราก็ออกทางนั้นแล้วกันเจ้าชายนำทัพและกำลังจะหมุนลูกบิดทองคำขาว     ซึ่งเป็นแรกที่เขาเข้ามา    แต่ช้าไปเสียแล้วเพราะน้องคนเล็กสุดชิงเปิดประตูบานที่อยู่ใกล้กันนั้นเขาไปเสียก่อน

    นี่เขาเรียก           อะไรรู้ไหมเจ้ายักษ์เอ่ยยังไม่จบประโยค      หญิงชราก็รีบออกคำสั่ง

    ไปเร็วสิ ประตูแห่งกาลเวลากำลังจะเปิด

              เด็กทั้งสามคนตามเจ้าหญิงเข้าไปในประตูบานนั้นที่มีลูกบิดสีเขียวมรกต 

     

     

                    บานที่สองจนถึงบานที่เจ็ดเปิดเข้าไป   เดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่างทั้งร้อนและหนาวแต่พอจะเปิดไปอีกบานก็กลับมาห้องเดิม     แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตะลึงคือหญิงชราที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวนั้น   เวลานี้เธอคือเด็กหญิงตัวเล็กมองดูแล้วคงประมาณห้าขวบได้

     

    ฉันอยากไปกับพวกเธอนะ .............พวกเขาออกจะแปลกใจมากกว่าดีใจที่จะได้เพื่อนร่วมทางใหม่

    แปลงร่างได้ด้วยเหรอเจ้ายักษ์ถามขึ้น

    เปล่าหรอก พวกเธอผ่านมิติเวลาเข้ามาต่างหากเธอตอบเสียงสั่น

    ฮ่าๆๆ       ฉันว่ามันจะไปกันใหญ่แล้วแล้วพวกเจ้ายักษ์ไม่รอช้าก้าวขาเปลี่ยนเป็นคนนับทัพ จากนั้นสี่สหายก็หายตัวไปในประตูบานแรกที่เปิดเข้ามาในบ้านโพรงไม้นี้………..

     

    ..................................................

     

    ครืด....ครืด........  เสียงนั่นดังเข้ามาใกล้ทุกทีและใจก็สั่งให้เร่งฝีเท้าเข้าไปหา    ณ ที่พวกเขายืนอยู่ตอนนี้  มีความแตกต่างกับภาพที่นึกที่คิดไว้ว่าจะได้เจอ     มันไม่ใช้ภาพเหมือนของเทพนิยาย    แต่พวกเขากับรู้สึกคุ้นเคยและผูกผัน   บางทีแค่หลับตาพวกเขาก็รับรู้ได้ว่าจะก้าวเดินไปที่ใด

    เหมือนออกเดินในท้องทุกกว้างที่ไกลจนสุดตา     แสงแดดอ่อนทำให้รู้สึกเป็นมิตรกับสถานที่มากขึ้น           ไม่มีเสียงพูดคุยกัน      หากแต่ความรู้สึกในใจทั้งสี่ดวงตอนนี้คือการค้นหาคำตอบที่จะทำให้ทุกอย่างกลับคืนมาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

     

    ทุกคนหยุดอยู่ที่  สื่อ แท่งเหล็กสีฟ้าขนาดใหญ่    ดูเหมือนว่าแรงสั่นเมื่อเข้าใกล้ทำให้พวกเขาใจเต้นแรงและหูอื้อ

    จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกนะ มือของเจ้าชายสัมผัสไปที่แท่งเหล็กสีฟ้า เขาใช้ความคิดและมองออกไปสุดสายตา ที่แห่งนี้เป็นที่โล่งกว้างและมีเจ้าสื่อนับร้อยทีเดียว       วัตถุนั้นเป็นรูปทรงกระบอก    เมื่อมองไปด้านบนสุดมีเสาแหลมด้านบนเป็นตัวส่งคลื่นบางอย่างออกมา               

    เด็กชายร่างยักษ์    เดินอยู่ในแนวระดับเดียวกันกับเพื่อนทั้งสองมองหน้ากัน   แล้วตัดสินใจ เดินเข้าไปในจุดศูนย์กลางของเจ้าสื่อ    เด็กหญิงทั้งสองเดินตามไปทิ้งระยะห่างพอสมควร

     จุดที่พวกเขายืนอยู่    คือจุดศูนย์กลางของพื้นที่โดยมีวงล้อมขนาดใหญ่จากสิ่งก่อสร้างนั้น                ซึ่งรัศมีไม่น้อยกว่าสามร้อยก้าว   และจุดนี้ทำให้มองเห็นว่ามีแสงเกิดจากปลายบนสุดของแท่งเหล็กทุกต้น   ที่สำคัญจุดรวมแสงทั้งหมดตกลงมาที่เจ้าหญิงองค์น้อยยืนยิ้มอยู่เวลานี้

     

    แสงง สะสีรุ้ง เจ้าหญิงเอ่ยขึ้น

    ตรงนี้ล่ะ    หัวใจของมิติกาลเวลา   เจ้าชายมองไปที่เท้าน้องสาว

    ........เจ้ายักษ์ถึงเวลานายแล้ว มือใหญ่ หยิบกล่องไม้สีแดงออกจากเป้ที่สะพายอยู่ด้านหลัง

    .......นี่ล่ะ ที่เรียกว่า .......ให้รองเท้าแก้วนำทางเจ้ายักษ์พูด

    ฟังดู ยังไงๆอยู่นะเจ้าชายหัวเราะตาม

    หวังว่ามันคงจะไม่มีอะไรระเบิดนะพลอยชมพูด ทำให้ทั้งเจ้ายักษ์และเจ้าชายหันไปมองต้นเสียงด้วยสีหน้าเคือง

    แหม พวกเธอ พลอยก็แค่เตือนเท่านั้นเอง

    เจ้ายักษ์ยิ้ม และทำหน้าตื่นเต้น  ทั้งที่ในมือถือรองเท้าแก้ว         แล้วอยู่ๆก็ทำหน้าแปลก และร้องเสียงดังขึ้น

    ตูม .........ทั้งพลอยชมพูและเจ้าหญิง กระโดดกอดกันกลม

    ฮ่า    ........... ทั้งเจ้าชายและเจ้ายักษ์ หัวเราะท้องแข็ง  เป็นความสนุกตามประสาเด็กผู้ชาย

     

    ..................................

     

    เจ้าหญิงมองความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นกับรองเท้าแก้วคู่งาม     ทั้งที่ตอนนี้มีแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้น  และตัวเธอเองก็แทบจะทรงตัวไม่อยู่ด้วยซ้ำ    แต่ก็ไม่ได้ละสายตาจากรองเท้าแก้ววิเศษ

     

    เอาอีกแล้วเหรอนี่ ...........หวังว่านายคงไม่อ้วกใส่ฉันเหมือนเมื่อคืนอีกนะ ร่างใหญ่พยายามพยุงตัวไม่ให้ล้ม เวลานี้ตัวใหญ่อย่างเขา   ออกจะเป็นปัญหาเสียแล้ว

    น้อยๆหน่อยพี่เบิ้ม...........เอาตัวไม่ให้ล้มทับใครให้ได้เสียก่อนเถอะเจ้าชายยิ้มเย้ย

     

                    เมื่อมองไปบนท้องฟ้า  กลุ่มเมฆก่อตัวขึ้นปกคลุมพื้นที่บริเวณนี้เสียแล้ว   ลำแสงหลากสีพวกนั้น เวลานี้ดูเหมือนคลื่นไฟฟ้าเสียงมากกว่าความสวยงาม  ทุกคนนิ่งและดูเหมือนตัวของพวกเขาจะบังคับร่างกายตัวเองไม่ได้    ในไม่ช้าสภาพไร้น้ำหนักก็ตามมา

     

    ความมืดเข้ามาแทนทุกอย่าง   ประสาทสัมผัสได้เพียงเสียงที่ดังก้อง จากการรับรู้สิ่งรอบกายอย่างชัดเจน ไม่นานเสียงที่อยู่รอบกายก็ห่างไกลออกไปจนความสงัดเข้ามาแทนที่

     

    ………………..

     

    พะ พะ พี่ เจ้าหญิงรู้สึกตัวในห้วงเวลาที่ไร้เสียงใด     และเหมือนจะมีหมอกปกคลุมไปทั่ว ได้แต่คลำไปบนพื้น ที่มีความชื้น      ในขณะที่มือไล่ระดับอยู่ในม่านหมอกนั่นเธอก็ดีใจขึ้นมา   เมื่อความอุ่นที่เธอสัมผัสได้นั่นคือใบหน้าของใครคนหนึ่ง

    หยุดนะ เสียงใครดังขึ้น

    ใคร แก้มใสและตาสวยของใครคนหนึ่งค่อยๆชัดขึ้น     และภาพนั้นเข้ามาใกล้เจ้าหญิงและเมื่อทั้งสองมองเห็นหน้าของกันและกัน   จากความสงสัยชั่วครู่เปลี่ยนเป็นความกลัวขึ้นมาแทน

    กะ กรี๊ดๆๆ เป็นพลังเสียงที่ทั้งคู่ปล่อยแข่งกันสุดฤทธิ์

     

     

     

     

    เป็นคนเล็กๆในจักรวาล

    แค่หนึ่งคนในหลายพันล้านบนโลกใบนี้

    กับชีวิตที่ทั้งสุขและเศร้า บางครั้งแอบเหงาก็มี

    แต่ไม่เคยยอมแพ้กับสิ่งเหล่านี้

    เพราะมองโลกในแง่ดี ......เข้าไว้

                    ฉันเป็นใครในโลกกว้าง

    เกิดมาเพื่อสร้างสิ่งต่างๆบนโลกนี้ใช่ไหม

    เติมเต็มความดีงามให้คงอยู่ตลอดไป

    ถึงจะดูไม่ยิ่งใหญ่ ก็พร้อมใจลงมือทำ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×