ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหญิงฟันน้ำนมกับเจ้าชายหัวหมากฝรั่ง ตอน อัศวินล่องหน

    ลำดับตอนที่ #10 : ดินแดนที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 150
      0
      7 ก.ย. 49

     

    การเริ่มต้นของเส้นวงกลม

                                            บทที่ 10 ดินแดนที่ไม่อาจสัมผัสได้ด้วยตาเปล่า

                                            ณ เส้นขอบฟ้ามีสิ่งใดอยู่ที่นั้นหนอ    คงมีหลายคนตั้งคำถามและค้นหาคำตอบให้กับตัวเอง จนเมื่อเวลาและการเดินทางของชีวิตผ่านพ้นไปภาพแห่งคำตอบจะกระจ่างชัดเจนมากขึ้น

                                            ในวัยเด็กทุกครั้งที่มีน้ำตา มันช่างปวดร้าวเหลือเกิน  ที่ไม่สามารถระบายความในใจให้ผู้ใหญ่เข้าใจได้   หลายครั้งที่ผู้ใหญ่มองเห็นปัญหาตัวเองสำคัญมากกว่าและมองว่าหยาดน้ำตาจากแก้มใสของเด็กช่างเป็นเรื่องเล็กน้อยเหลือเกินหากเทียบกับความสับสนและวุ่นวายบนโลกนี้   และโทษว่าเด็กตัวน้อยขี้แย  ดื้อ ซนและเอาแต่ใจ    ซ้ำร้ายบางครั้งมองว่าเด็กคือตัวปัญหาและไม่รู้จักโตเสียที    เจ้าเด็กขี้แย งอแง ร้องขอกินนมแม่ตลอดเวลา

                                            การเดินทางและการค้นหาคำตอบให้ชีวิตคือหนึ่งภาระของคนเรา  ซึ่งหากยังอยู่ในวงกลม

    ( โลกใบนี้) ก็ต้องเดินทางต่อไป    เพราะชีวิตที่มีลมหายใจจะพบกับความสุขและความงดงามเสมอหากเราไม่หยุดนิ่ง     เวลาของความสุขความเศร้าก็จะวนเวียนไปมา     ขึ้นอยู่กับว่าเราตั้งรับหรือยอมรับมันได้ดีแค่ไหน      ในความสุขอาจมีความปวดร้าวซุกซ่อนอยู่    เช่นเดียวกับความเหงา-เศร้าอาจมีมุมมองของความอิ่มเอมใจอยู่ร่วมกัน

                                            เจ้าหญิง-เจ้าชาย-แม่มดร้าย-และนางฟ้า  นิทานก่อนนอนในวัยเด็ก เป็นเพียงอีกหนึ่งบทเรียนที่ทำให้เด็กน้อยเรียนรู้และใช้จินตนาการในภาพงดงามเชื่อมั่นในความดีและความรัก    โลกสีขาวบริสุทธิ์จะถูกแต่งแต้มหลากสีมากขึ้นเมื่อเวลาและการเดินทางของชีวิตได้ก้าวผ่านพ้นไปในแต่และช่วงของชีวิต       แต่อย่างไรก็ตามเมื่อชีวิตก้าวไปถึงจุดหนึ่ง     สีขาวแห่งความบริสุทธิ์ย่อมเวียนกลับมาแก่เราทุกคนอีกครั้ง     สิ่งนั้นเรียกว่าความสงบ ว่างเปล่าหรือการปล่อยวาง

                                            ในที่สุดการเริ่มต้นของวงกลมก็เดินทางอีกครั้ง     ในเมืองแห่งหนึ่งซึ่งมีท้องทุ่งกว้างอากาศที่ปราศจากสารพิษ   ที่ซึ่งผู้คนมีความเชื่อและศรัทธาในคำสอนของคนรุ่นก่อน    เคารพต่อประเพณีอันดีงาม และใช้ชีวิตในวิถีแนวทางพึ่งตนเองและพอเพียง        ที่นั่นมีความรักความผูกผันและเอื้ออาทรให้กันเสมอ 

                                            จนกระทั่งบางอย่างเข้ามาครอบงำความคิด     หลายอย่างที่เราเรียกว่าความดีความเป็นมิตรถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจน  ความใสสะอาดบริสุทธิ์ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีต่างๆ.

                                                     มีคำถามที่ค้นหาคำตอบให้กับคำถามที่ว่า อำนาจและสิ่งลี้ลับเป็นอำนาจที่มนุษย์ครอบครองได้หรือไม่     เหนืออื่นใดมากกว่านั้นคืออีกหนึ่งคำถามที่สำคัญคือ      แท้จริงแล้วคนเราคือเผ่าพันธุ์ที่มากด้วยสติปัญญาในจักรวาลจริงหรือ????

                                            ..........................................................

     

                                            ครองสุขรู้สึกปวดที่ขมับอย่างแรง   เวลานี้เขาควบคุมร่างกายยากกว่าทุกครั้ง  ทั้งที่ตั้งสมาธิและรวบรวมสติ   แต่เมื่อมองไปที่หญิงสาวที่จ้องหน้ากันตอนนี้เขาแน่ใจว่าไม่ใช่คนรู้จักเป็นแน่

    มันที่ไหนกันนี่ ได้แต่พึมพำในใจ

                                             ภาพทุกอย่างกระจ่างชัดมากขึ้น เขามองรอบๆตัว    เมื่อหลับตาและลำดับความคิดเรื่องที่ผ่านเข้ามาจึงคิดขึ้นได้

    แย่แล้วสิ!!!!!!.........    เขาอุทานออกไป    การเดินทางผ่านมิติของห้วงเวลานั่นนานแค่ไหนกันนะร่างกายถึงอ่อนแรงได้เพียงนี้

    คนลามก...........น่าไม่อายที่สุด       เสียงใสจากริมฝีปากงาม    พร้อมสายตาคู่นั้นจ้องมองมาที่เขาอย่างไม่กระพริบ

    ร่างของเจ้าชายทับอยู่บนตัวของใครคนหนึ่ง      นี่อาจเป็นสัมผัสแรกที่เขาเข้าใกล้เพศตรงข้าม   ความรู้สึกข้างในทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงและเขินอายอย่างไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน

    เข้าใจผิดแล้วเขาแก้ต่าง

    ..........อย่านะ ......เปรี๊ยะ    ครองสุขรู้สึกหน้าชาขึ้นมาทันที  ผู้หญิงนี่ไม่มีเหตุผลกันทุกคนหรือเปล่า

    เอ่อ ผม............อยู่ไหนครับนี่       สับสนและมองคนสวย เพื่อขอคำตอบมากกว่าอาการล่วงเกิน

    .....................................................  สายตาคู่สวย สบตากับเขา ก่อนที่จะหลบไปด้วยความเขินอาย

    ฉันต้องถามเจ้าต่างหากว่า....มาจากที่ใด......นี่มันห้องนอนฉัน

    .ผม.............”, เด็กหนุ่มส่ายหน้า.........  

    แน่ใจนะว่าไม่ได้ปืน เข้ามาจากทางหน้าต่าง

    ............................                เขาไม่รู้จะหาคำตอบให้เธอเข้าใจได้ง่ายๆอย่างไร

    ......................              หญิงสาวลุกจากเตียง คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงทำให้แสงจันทร์สว่างทั่วทั้งห้อง 

    อย่าบอกนะ    ว่าเธอมาจากในฝันของฉัน

    อะไรนะ ...............    เขาคิดว่าเธออาจเป็นผู้หญิงที่บ้าละครเสียแล้ว

    ก็เมื่อกี้ฉัน ฝันเห็นฝนดาวตก และก็มีบางอย่างพุ่งตรงมาที่ตัวฉัน เธอพูด

    .คงไม่ใช่ฝันแล้วล่ะ.....................เขาอมยิ้มและมองเธออย่างขำๆ

    หรือ...........เป็นเพราะคำอธิษฐาน     เธอมองไปไกล   อาจเพราะเรื่องเล่าของตำนานนั้นเป็นจริง

     ผู้ที่มาจากดินแดนอื่น

    หนูแหวน- พลอย ไอ้ยักษ์................. เขาร้อนใจขึ้นมาทันที

    ช่วยผมหน่อยได้ไหม เธอมองหน้าเขาและครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

    ........อืม……ว่าแต่อะไรล่ะ

                                            ครองสุขรู้สึกถึงความว้าวุ่นใจที่มีอยู่  เขามองหน้าเพื่อนใหม่และอดทำให้คิดถึงน้องสาวและเพื่อนที่ร่วมเดินทางมาด้วยกันไม่ได้                 ทุกคน........เราคงได้เจอกันนะ

     

    ...................................................................

     

                                            เจ้าหญิงน้อยรวบรวมความกล้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สิ่งที่เรียกว่ามีชีวิตตรงหน้าตอนนี้ เธอไม่รู้จะเรียกว่าอะไร     เพราะเหมือนกับว่าเจ้าหญิงกำลังมองดูตัวเองจากกระจกบานใหญ่    แต่ในพื้นที่นี้หาใช่จะมีกระจกแต่อย่างใด    ด้วยมันคือผืนป่าที่กว้างใหญ่     และมีความมืดหมอกควันลอยอยู่รอบตัว    จะมีก็แต่ความสว่างจากแสงจันทร์ที่ลอดผ่านต้นไม้พอให้เห็นสิ่งรอบตัวเท่านั้น ............

                                           

     

                                            ความเหมือนที่แตกต่าง เจ้าหญิงไม่ได้มีฝาแฝด    และเธอก็ไม่ได้อยากให้เป็นเช่นนั้น เธอจึงตอบคำถามในใจตนเองได้ว่า    หากนี้ไม่ใช่ฝันร้าย ก็เป็นเรื่องที่เธอไม่อยากให้เกิดขึ้นเป็นแน่

     

    เป็นยังไง จ๊ะ ................ เสียงใสนั้นเอ่ยมาจากคู่เหมือนของเจ้าหญิงซึ่งมีท่าทางที่หน้าขบขัน

    ม่าย ......รู้จักกัน        เจ้าหญิงลุกขึ้นยืนและมองไปที่ ร่างนั้นด้วยความไม่ไว้ใจ

    โชคดีที่ฉันไม่ติดอ่างเหมือนเธอ...............จำฉันไม่ได้เหรอเด็กหญิงที่อยู่ตรงหน้า ยิ้มกว้างเห็นฟันข้างใน มันดูออกจะเป็นเขี้ยวยาว    ยิ่งเมื่อต้องแสงจันทร์ความน่ากลัวชวนให้เจ้าหญิงต้องข่มใจไว้

    .............ม่าย......ทำไมเธอเหมือนชั้น   เจ้าหญิงส่ายหน้า

    ก็ต่อไปนี้ฉันจะเป็นเธอไง..........หนูแหวน เขี้ยวยาวแสยะยิ้มอีกครั้งและเริ่มเต้นระบำสนุกสนานในป่าที่เงียบขนาดนี้ยังรื่นเริงได้อย่างพิลึก

    ม่ายจริง.........หนูแหวนคือฉานเจ้าหญิงไม่อยากโต้เถียงแต่อดไม่ได้

    แค่พูดยังไม่ชัด.......กล้ามากนะอย่ามาอวดดี อย่างมากเธอก็เป็นได้แค่เงา เด็กหญิงต่างพันธุ์ จ้องมาที่เจ้าหญิงและทำท่าขู่คล้ายพวกสัตว์ป่าดุร้าย

    ฉันจะไปแล้ว...........ถอยไป เจ้าหญิงพูดออกไปทั้งที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี้คือที่ไหน   แต่อย่างน้อยเธอก็กล้าหาญพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริงในป่าลึกลับแห่งนี้

    ไปไหนล่ะ .....คนเก่ง........

    หาพี่ ..........เจ้าหญิงตอบ

    แต่......รู้สึกว่าฉันจะไม่มีพี่นี่นา     ก็ดีฉันชอบคนเยอะๆจะได้ไม่เหงา

    ธะ เธอ ม่ายเกี่ยว........พี่ฉันไม่ใช่ พะ พี่เธอเจ้าหญิงก้าวขาเตรียมออกเดิน

    หยุด.........ร่างเด็กหญิงคู่เหมือนกางแขนยาว และมือเล็กเรียวนั้นมีนิ้วที่เล็กยาวคล้ายสัตว์ป่า

    ทาม......ไม เจ้าหญิงอดกลั้นความรู้สึกกลัว

    ในป่านี้ฉันต้องโดดเดียวแค่ไหน    ฉันเบื่อเต็มทน    ร่างนั้นเดินวนเวียนไปมา

    ม่ายรู้ความ...........เจ้าหญิงไม่เข้าใจความต้องการฝ่ายตรงข้าม

    เด็กน้อย.................คืนนี้เจ้าไม่รอดหรอก........ฮิๆๆ

                                            แสงจันทร์ที่ลอดผ่านมานั้นทำให้ มองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ชัดเจน  แก้มใสและตาคู่งามนั้น  กับกลมโตขึ้นกว่าเดิม    เขี้ยวขาวเริ่มงอกยาวกว่าเดิมและอวดคมพ้นออกมาจากริมฝีปาก  ร่างนั่นสั่นเป็นเจ้าเข้า    มีอาการคล้ายตัวประหลาดมากขึ้น

    ให้ฉันเป็นเธอนะหนูแหวน............     ต้องไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่ ร่างนั้นบอกว่าจะเป็นเธอ และภาพที่ปรากฏต่อหน้า ตอนนี้คือใบหน้าของสัตว์ที่ผสมกันระหว่างหมาป่าและค้างคาว

    รับรองเธอไม่เจ็บอย่างที่คิดหรอก...อย่ากลัวเลยนะ    ความรู้สึกกลัวมันทำให้ฉันหวั่นไหว มนุษย์ครึ่งคนครึ่งสัตว์ ก้าวเข้ามาใกล้เจ้าหญิง    จนเธอเองก็รับรู้ถึงความกระหายนั้นได้

                                            เจ้าหญิงเป็นเพียงเด็กตัวเล็ก เธอจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ได้อย่างไร    สิ่งเดียวที่จะทำได้และต้องทำให้ดีที่สุดเวลานี้คือ      การมีสิติและเข้มแข็งเข้าไว้   หากคืนนี้เธอต้องจากไปและต้องเป็นของเล่นให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้า      เธอก็จะไม่เสียใจเลย    หากได้ต่อสู้ด้วยหัวใจที่กล้าแกร่งอย่างที่มนุษย์คนหนึ่งพึ่งมี

                                            สัญชาตญาณการเอาตัวรอดย่อมมีกับสิ่งมีชีวิตทุกเผ่าพันธุ์    ยิ่งกับสิ่งที่มีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์แล้ว    นอกจากกำลังที่มี สติปัญญาเป็นเสมือนขุมทรัพย์ที่ทำให้มนุษย์เหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นบนโลกใบนี้

     

    เจ้า มนุษย์น้อยฉันเหงาเหลือเกิน....เป็นเสียงที่น่าเวทนายิ่งแต่หากเทียบกับท่าทางที่กระหาย กับตรงกันข้าม

    ถะ ถอย เลย..........ฉันจะไป เจ้าหญิงเสียงแข็ง

    เธอจะไปไหน ได้..........นี่มันป่าต้องห้าม คนที่จะออกไปได้ต้องใช้หนึ่งชีวิตแลกอีกชีวิต

    เพ้อเจ้อ..........จะ เจ้าก็แค่ ตะตัวประหลาดหลอกเด็กเจ้าหญิงพยายามยั่วสิ่งมีชีวิตตรงหน้า

    ตัวประหลาด เหรอ.................ฮ่าๆๆๆๆ........แล้วจะรู้ว่าใครจะได้ออกไปจากป่านี้

     

                                            ร่างเล็กของเด็กหญิงวิ่งหลบหนี    สิ่งมีชีวิตที่กระหายเลือด    ซึ่งออกไล่ล่าเพื่อแลกเปลี่ยน

    ความมีชีวิตของมัน    เป็นความคิดที่ไม่ดีนักหากจะวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอดอย่างนี้ต่อไป   ด้วยที่ว่าสถานที่ไม่คุ้นเคย

    และเหมือนยิ่งหนีก็โดนต้อนเขามุมแต่    ในช่วงที่ออกวิ่งนั้นทำให้เกิด    ความคิดและหนทางเพื่อหาทางออกให้แก่

    ตนเอง    ดูคล้ายการเล่นไล่จับระหว่างแมวและหนูตัวเล็กมากกว่า เพราะร่างเล็กของเจ้าหญิงทั้งปราดเปรียวและ

    คล่องแคล่ว หลายต่อหลายครั้งที่สัตว์ป่าตนนั้น กระโจนร่างเข้าใส่ แต่ก็คว้าไดแค่อากาศ  ยิ่งเพิ่มความโมโหและ

    ความต้องการเอาชนะมากขึ้นและนั้นเป็นผลทำให้มันขาดสติไปด้วยเช่นกัน

                                            ความแข็งแรงและกล้าหาญย่อมมาจากจิตใจ          เจ้าหญิงมองเห็นโอกาสที่เกิดขึ้นจากทางข้างหน้า เธอเร่งฝีเท้าสุดแรงเท่าที่จะมี  ทำให้สัตว์ป่าที่วิ่งตามหลังอยู่สองถึงสามช่วงตัวต้องไล่กวดตามให้ติด   จากนั้นนับได้ไม่เกินอึดใจ   ร่างเล็กของเจ้าหญิงก็กระโดดสูงพุ่งตัวลอยเพื่อหลบกับดักที่อยู่ข้างหน้าเธอ    และม้วนตัวลงกับพื้นดินที่อ่อนนุ่มในระยะทางที่ไม่ไกลออกไปเสียเท่าไหร่    ถึงอย่างนั้นร่างเล็กก็ต้องแอบซ่อนน้ำตาของความเจ็บที่ตามมา     แต่สำหรับเจ้าสัตว์ครึ่งมนุษย์กับไม่ทันได้ตั้งตัวทำให้หลุดเข้าไปอยู่ในบ่อโคลนดูดเบื้องหน้า ยิ่งพยายามดิ้นร่างนั้นก็ทุรนทุรายมากขึ้น    สายตาโกรธแค้นของมันแดงกล่ำ มนุษย์ที่คิดว่าเป็นพวกโง่เขลากับทำให้ตนต้องมาอยู่ในสภาพเช่นนี้   ยิ่งสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์ที่อยู่ต่อหน้าเป็นแค่เด็กหญิงเท่านั้น

                                             เจ้าหญิงสูดลมหายใจและยิ้มอย่างดีใจ เปล่าเธอไม่ได้อวดเก่งอวดดีว่ามีชัยกว่าสัตว์ประหลาดที่อยู่ต่อหน้า   แต่มันเป็นความภูมิใจที่ได้ใช้สติและความกล้าหาญที่มีอยู่ในตัวโดยที่ไม่งอแงและร้องให้ใครต่อใครช่วยเหมือนเมื่อก่อน

    …………………………………………….

                                            ภาพของสัตว์ตนนั้นค่อยๆหายไปจากสายตาของเจ้าหญิง      ความสว่างของแสงอาทิตย์ไต่ละดับขึ้นมาเรื่อยๆ    เจ้าหญิงสูดอากาศของเช้าวันใหม่ในที่ที่ไม่คุ้นเคย    เธอไม่อาจหลบซ่อนความรู้สึกต่างๆซึ่งเอ่อล้นอยู่ภายในใจไว้ได้    หากโลกนี้ต้องอยู่คนเดียวจะต้องทำอย่างไร รอบกายเวลานี้มีเพียงแต่ดวงอาทิตย์ที่เป็นมิตร   ให้แสงสว่างต่อการมองเห็นและความอุ่นใจ

                                               เมื่อมองไปที่หลุมพรางที่สัตว์ตนนั้นจมหายไป      เวลานี้กับดูน่ากลัวจนเจ้าหญิงไม่กล้ามองเสียแล้ว       เธอก้าวขาไปข้างหน้าคิดถึงทุกคนที่ร่วมทางกันมา   ช่วงเวลาที่ผ่านมาช่างเป็นคืนที่โดดเดียวและเหนื่อยล้าเหลือเกิน...................

                                            เจ้าหญิงทรุดกายใต้ต้นไม้ใหญ่อาจเพราะความล้าทำให้เธอหลับไปโดยไม่รู้ตัว ในป่าลึกลับแห่งนี้เธอจะต้องเจอสิ่งใดอีกหนอ ..!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    ...........................................................................................

     

     

    ในเวลาต่อมา.....เนิ่นนานจนความทรงจำในวัยเด็กอาจเลือนหายไป............................

     

                                            ชายหนุ่มผู้มีสายตาที่น่าเกรงขามกว่าใคร   เวลานี้ร่างใหญ่ของเขาเดินวนไปมา   บนหอคอยสูงและมองลงมายังด้านล่าง   ด้วยใจที่ปล่อยวางและสายตาที่อยากจะเดาได้      ลมยามเช้าพัดเอากลิ่นหญ้าด้านล่างเข้าจมูก     ทำให้เขาคิดอะไรได้บางอย่าง       มันนานมาแค่ไหนแล้วที่เรื่องนั้นได้เกิดขึ้น     ทั้งที่ไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจที่จะตามหาแต่ยิ่งออกเดินทางไป     ความทรงจำและภาพวันวานกับไม่ชัดเจนและลางเลือนไป   อาจเป็นเพราะใจเขาต้องการลืมเรื่องราวบางอย่างเองก็เป็นได้

     

                                            ชายวัยกลางคนวิ่งขึ้นมาบนหอคอยด้วยความรีบเร่ง   ติดตามมาด้วยชายหนุ่มสามคนในชุดรัดกุมพร้อมอาวุธคู่กายครบมือ     พวกเขามีสีหน้าถมึงทึงเหมือนพวกกระหายสงคราม                เมื่อถึงชั้นบนสุด  ทั้งหมดหยุดและยืนมองด้านหลังของเขาผู้ซึ่งเวลานี้ยืนนิ่งในอาการสงบ

     

    เอ่อ.......ท่านได้เวลาแล้วกองพันรอคำสั่งจากท่าน เสียงของชายวัยกลางคนแหบพร่าและหลังจากพูดจบประโยคเขาก็กลืนน้ำลายไปอึกใหญ่ 

                                            ร่างสง่าและน่าเกรงขามนั้นหันหน้ามามองผู้มาเยือน   ใบหน้านั้นยังไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใด    เขาเบนสายตาออกไปนอกคอคอย      มองที่ขอบฟ้าซึ่งไอของแดดสั่นไหวอยู่ในชั้นบรรยากาศ   

    รอก่อน น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยพลัง 

                                            ผู้มาเยือนต่างมองหน้ากัน ด้วยความสงสัย ก่อนที่จะโค้งทำความเคารพและ กลับไปยังจุดรวมพลของ     กองพันอัศวินดำ                      ใช่แล้ว.......กองพันอัศวินดำ ชื่อที่ไม่ใช่มีอยู่แค่ในตำนาน!!!!!!!!!!

     

    ......................................................................

     

                                            ความสูงของต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นเป็นแนวยาว    ดูแล้วคล้ายกำแพงหรือภูเขาขนาดย่อมที่กั้นไปตลอดทั้งแนวป่าลึก   ร่างของใครคนหนึ่งเดินและสำรวจสิ่งต่างๆที่พบเห็น   ไม่ว่าจะเป็นพืชล้มลุกต้นเล็กรวมไปถึงดอกไม้หลากสี    ที่มีทั้งความแปลกชวนให้หลงใหลและน่ากลัวรวมไปถึงกลิ่นที่ชวนสำรอก   ริมฝีปากบางฮัมเพลงที่ใจคุ้นเคย     เธอมีความสุขกับเรื่องเล็กที่เกิดขึ้นได้เสมอ    แมลงเต่าทองหลากสีซ่อนตัวอยู่ตามต้นหญ้า  ที่เกาะด้วยหยาดน้ำค้างยามเช้า    แมลงตัวน้อยพวกนั้นกล่าวทักทายเธอด้วยภาษาง่ายๆ  ด้วยการบินไปมาเพื่ออวดความสวยของสีจากลำตัว      เธอมองไปที่กลุ่มดอกไม้สีรุ้งซึ่งโดดเด่นกว่าไม้ดอกอื่น    ทั้งกลิ่นและลำต้นมีความสว่างเหมือนแสงไฟและหลากสีจนเหมือนสายรุ้งระยิบระยับยิ่งเมื่อต้องแดดวันใหม่

                                            หมู่แมลงปอโฉบบินล้อเล่นกับหญิงสาว     เธอนึกสนุกจึงวิ่งไล่เล่นกับเจ้าเครื่องบินธรรมชาติด้วยความสุขใจ     

    รอกันหน่อยสิ      เสียงใสเปล่งออกมา     จากนั้นเธอก็เริ่มร้องเพลงให้ดอกไม้และเหล่าสัตว์ปีกที่อยู่เป็นเพื่อนยามเช้าได้ฟัง

                                            หญิงสาวในป่าลึกผู้งดงามกว่าใคร    ก้าวเดินไปที่บ่อน้ำพุร้อนซึ่งผุดขึ้นเองตามธรรมชาติ  ไอร้อนระอุขึ้นมาทำให้สบายตัวหายเมื่อยล้าเมื่ออยู่ใกล้       เธอยิ้มให้กับภาพตนเองในลำธารใสซึ่งอยู่ใกล้กัน   ภาพที่สะท้อนจากสายน้ำคือ  ใบหน้าที่งดงามและดวงตาสีดำนิลยิ่งขับให้ผิวหน้านั้นหาที่ติได้     ปากสีชมพูเผยยิ้มหวานให้ตนเองในบานกระจกของสายน้ำ

     

    สบายดีเหมือนกันไหม............เจอกันอีกแล้วนะ    เธอใช้มือสัมผัสผิวน้ำ     ภาพนั้นสั่นไหวพลอยทำให้ความคิด ย้อนภาพวันวานคืนมาอีกครั้ง        นานแค่ไหนแล้วที่ต้องหัวเราะเพียงคนเดียวในโลกนี้     ถึงแม้จะมีความสุขกับธรรมชาติแต่ลึกๆแล้วเธอ    ไม่เคยลืมเรื่องราวในวันวานที่ผ่านมา 

                                            แก้มใสนั้นอยู่ๆก็มีน้ำตาไหลอาบ    เปล่า......เธอไม่ได้อ่อนแอเพียงแต่ ความคิดถึงที่กัดกร่อนใจ  และความห่วงใยผู้ที่ห่างไกลกันทำให้เกิดความรู้สึกนั้นขึ้นมา

    ฉันหวังว่า.....ชีวิตนี้ไม่ได้อยู่ลำพังเพียงผู้เดียว    เหมือนผืนป่าที่กว้างใหญ่อาจจะรับรู้ความสึกที่มีอยู่ข้างในนั้นได้ เพราะต้นไม้ใหญ่น้อยรวมทั้งหมู่แมลง     ต่างส่งเสียงเหมือนเสียงเพลงกล่อมและปลอบใจหญิงสาว   เธอหลับตาและซึมซับเอาความรู้สึกนั้นไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้.............  

     

                                            หญิงสาวมองความเปลี่ยนแปลงที่กำลังก่อตัวขึ้น ลมเริ่มพัดแรงและหมู่แมลงต่างบินไปหาที่ซ่อนตัวรวมทั้งสัตว์ปีกต่างๆ     เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก  หรือเพราะมีผู้บุกรุกผืนป่า......   .ท้องฝ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเข้ม      หมอกปกคลุมและหนาตาจนเธอรู้สึกหนาว      ต้นไม้ใหญ่ทำหน้าที่ของมันอย่างเคยคือการใช้กิ่งก้านซ้อนตัวกันเหมือนม่านป้องกันภัย     เสียงของสิ่งมีชีวิตที่ออกหากินเฉพาะยามค่ำคืนดังขึ้นเรื่อยๆ เป็นทั้งการข่มขู่และเตือนภัยให้ใครที่บุกรุกป่าผืนนี้พึงระวังตัว ......หรือจะถึงเวลาที่เธอจะต้องออกเดินทางไปจากที่นี้แล้ว.......

     แต่การแก้คำสาปนี้ ต้องใช้หนึ่งชีวิตแลกหนึ่งชีวิต     หญิงสาวก้าวเท้าวิ่งด้วยความเร็วเหมือนล่องลอยได้    เสียงหายใจนั้นเบาแต่สม่ำเสมอ      เธอมองไปทั่วป่ากว้างแต่ไม่เจอสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ ......เจ้าหลบอยู่ที่ใดด้วยที่ไม่อาจมีสิ่งใดหลุดรอดไปจากสายตาคู่นั้นได้ยิ่งในเวลาที่ฟ้าปิดอย่างนี้     แต่อย่างน้อยกลิ่นที่สัมผัสได้นั้น   เธอแน่ใจว่าคือมนุษย์    และเป็นผู้ที่แฝงไปด้วยพลังของการมีชีวิตเต็มเปี่ยม     เธอหลับตาและใช้จิตใต้สำนึกค้นหา

     

                                            ………………………………………

                                            เงามืดของใครคนหนึ่งทรุดกายลงกับพื้นหญ้าที่อ่อนนุ่ม คล้ายเตียงนอนที่รอคอยเขามานานแต่มันกับดูดเอาพลังกายที่มีของเขาทั้งหมดไปเสีย..... พื้นดินที่เขาคิดว่าคล้ายเตียงนอนนั้น   อาจเป็นการเข้าใจผิดเสียแล้ว   เพราะรอบกายเหมือนหลุมฝังศพเขามากกว่า   เสียงของใครคนหนึ่งกระซิบข้างหูเขา เป็นเสียงแผ่วเบาแต่ก็หวานจับใจ

     

                                            เจ้าจะยอมแลกความเป็นอมตะกับอีกหนึ่งชีวิตหรือไม่...........เจ้าอัศวินดำ


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×