ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหญิงฟันน้ำนมกับเจ้าชายหัวหมากฝรั่ง ตอน อัศวินล่องหน

    ลำดับตอนที่ #2 : งานเลี้ยงอาหารค่ำ( เจ้าชายหัวหมากฝรั่ง) เจ้าชายครองสุข....

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 274
      0
      7 ก.ย. 49

            

     บทที่2 งานเลี้ยงอาหารค่ำ( เจ้าชายหัวหมากฝรั่ง) เจ้าชายครองสุข

                   

    วันนี้ซุกซน ทำวีรกรรมอะไร

    ก่อความวุ่นวายให้ใครปวดหัวบ้าง

    จอมเกเรตัวป่วน ชอบทำลายล้าง

    ใครเขาก็ถอยห่าง  โดดเดี่ยวอ้างว้าง  สาแกใจ

                    ถูกต่อว่าเป็นเด็กไม่รู้จักโต

    ขี้แย  ร้องไห้โฮ   ขี้มูกโป่งหาคนเช็ดให้

    อีกหน่อยจะเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ ไร้คนสนใจ

    ขืนขี้จุ๊..... ต่อไป    จะเป็นหมาหัวเน่าที่ใคร-ใคร  ก็ไม่ใยดี

     

     

    เจ้าหญิงยังจดจำบรรยากาศของงานเลี้ยงปีที่ผ่านมานั้นได้ดี การพบปะกันระหว่างเจ้าหญิง เจ้าชายฟันน้ำนมในตระกูลเดียวกัน      ซึ่งในปีนี้งานเลี้ยงจัดขึ้นที่วังของเจ้าหญิงด้วยแล้ว เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา   จะว่าไปแล้วไม่ว่าปีไหนเด็กน้อยก็รู้สึกว่าตนเองไม่เคยเป็นที่สนใจของเหล่าสมาคมฟันน้ำนมเอาเสียเลย

     

    ความเหงามักจะมาเกาะกินใจอยู่ทุกปี  หลายครั้งที่ต้องเล่นคนเดียวหรือไม่ก็คลายเหงาด้วยการไปนั่งฟังผู้ใหญ่คุยเรื่องหนักหัว  และดูจะเป็นเรื่องแปลกมากเมื่อเธอเข้าไปเล่นกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน    เพราะต่างมองว่าเจ้าหญิงเล่นซุกซนเกินเด็ก บางครั้งก็มีคำพูดเหล่านี้เข้าหู

     

    พี่ว่าหนูแหวน ไปเล่นกับพวกเด็กผู้ชายดีกว่านะ เธอไม่เคยโต้แย้งทำตามแต่โดยดี หันไปเล่นกับกลุ่มเจ้าชาย ฟันน้ำนมแทน   (ด้วยความช่างสังเกตทำให้แอบเห็นเด็กชายบางคนฟันหลอ พลอยทำให้เจ้าหญิงก็อดหัวร่อไม่ได้)

     ตรงนี้เด็กผู้ชายเค้าเล่นกัน ไปเล่นตุ๊กตาขายข้าวแกงดีกว่านะ เจ้าชายหัวหมากฝรั่งไม่พูดเปล่า เพราะหยิบชุดเครื่องครัวไว้ให้พร้อม

     

    คิดแล้วน่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้  เธอเบื่อที่ต้องเล่นขายข้าวแกงคนเดียว เพราะทำเสร็จทีไรก็ไม่มีลูกค้ามาซื้อสักคน แถมยังโดนผู้ใหญ่ดุเรื่องเสื้อผ้าสกปรก    แหมกล้าเลอะถึงจะได้ประสบการณ์  เพราะชอบเรียนรู้    อาหารของเจ้าหญิงเลยใช้สิ่งต่างๆใกล้มือมาเป็นเครื่องผสมและปรุงรส    บางครั้งจำเป็นต้องอดกินนม หรือขนมหวานเพื่อเอามาทำข้าวแกงขาย จำได้ว่าเคยเอาดินผสมใส่กับนมข้นแล้วปั้นเป็นก้อนคล้ายโดนัท ทำให้เจ้าหญิงเรียนรู้ว่าถ้าพยายามทำอะไรแล้วหากตั้งใจก็สำเร็จได้

                    ปีนี้เธอหวังว่าจะเป็นที่สนในของใครต่อใครในงานเลี้ยงและแน่นอนทุกคนต้องเรียกเจ้าหญิงเข้าไปเล่นด้วย  ซึ่งอาจเป็นเพราะเจ้าแท่งโลหะกลมๆเล็กๆในมือนี่เอง

                    สายตามองดูชุดสวยที่เสด็จแม่เตรียมไว้ให้กระโปรงยาวสีชมพู มีโบว์ใหญ่สีขาวผูกด้านหน้า ชุดนี้หัดใส่มาเกือบอาทิตย์ได้แล้ว

    มีอยู่คืนหนึ่งเห่อมากไปหน่อยใส่แทนชุดนอนทั้งที่มันออกจะอึดอัดแต่ก็ทนนอนจนถึงเที่ยงคืน     แต่เมื่อถึงเวลาอยากเข้าห้องน้ำ ด้วยความงัวเงียหรืออะไรก็สุดแล้วแต่ เจ้าหญิงถอดกระโปร่งตัวสวยไม่ได้ จำเป็นต้องให้เสด็จแม่มาช่วยแก้สถานการณ์ให้ ส่วนตัวเองก็บิดไปบิดมา จนในที่สุดชุดสวยก็เปียกเสียก่อนที่เสด็จแม่จะถอด

    การกระทำครั้งนี้ได้บทเรียนที่ว่า ชุดสวยอาจไม่เหมาะกับใส่นอน เพราะดังนั้นทุกคืนก่อนนอนเราควรเลือกชุดที่ใส่สบายและเตรียมพร้อมเสมอหากเวลาข้าศึกมาโจมตี ซึ่งตอนนั้นเราอาจอดกลั้นพลังที่อยู่ภายในไม่ได้

    ซึ่งตอนนี้ชุดสวยกับคนงามพร้อมแล้ว    หมุนตัวอยู่หน้ากระจกอยู่สอง-สามรอบจนเป็นที่พอใจ แล้วอมยิ้มให้ตัวเองเล็กน้อย คืนนี้จะต้องมีคนสนใจมากมายและต้องมารุมล้อมและขอให้เจ้าหญิงไปเล่นเป็นเพื่อน

     

                    กระจกวิเศษบอกข้าเถิด ใครงามเลิศในปฐพี....เจ้าหญิงพูดในใจและหัวเราะตามพองาม (เอิ้ก กกกก)

     

    .......................................................

                   

    เสียงเพลงจากลำโพงดังพอให้หัวใจเด็กน้อยฟันน้ำนมทั้งหลายพากันจับกลุ่มเต้นระบำสนุกสนาน แต่ก็มีบ้างที่เล่นเกม  หรือไม่ก็อวดของเล่นใหม่ที่ต่างก็ขนมาอวดกันสุดฤทธิ์ ทั้งที่ขึ้นอยู่กับวัย

     ที่เด่นและเสียงดังกว่าใครในยามนี้คงไม่พ้น เจ้าชายหัวหมากฝรั่ง ( เจ้าชายครองสุข)  ที่เจ้าชายเป็นจุดสนใจใครต่อใครไม่ใช่ว่าเจ้าชายขนของเล่นใหม่มาอวดเจ้าหญิงเจ้าชายองค์อื่นหรอก แต่เพราะมีสิ่งบางอย่างที่มันเกิดขึ้นบนศีรษะเจ้าชายน่ะสิ ถึงเจ้าชายจะพยายามปกปิดเอาไว้ก็ตามแต่ก็ไม่พ้นสายตาใคร่รู้ของใครได้

     

    ข้าพเจ้าว่าได้กลิ่นนะ มันเหมือนอะไรนะ ............... เจ้าหญิงองค์โตสุดในกลุ่มเอ่ยขึ้น

    ใช่ แน่ๆ แถมมีกลิ่นเหม็น...ยี้ ใครนะเอาไปติดไว้บนหัวอย่างนั้น อีกเสียงดังขึ้น

    มะ มะ มะไม่ ไม่ได้ เอาปายติด ดอก ดะ ดะ ขี้เกลียด มะมะมะ อา อาอาบน้ำ นางฟ้า จะลงโทษ

     

     ทุกคนต่างหันหาต้นเสียงที่ไขข้อสงสัยให้      แทนที่จะร้องอ๋อต่างพากันหัวเราะดังแทบจะไม่ได้ยินเสียงดนตรีเต้นรำที่เปิดอยู่

     

    อะไรกันนี่

    เจ้าหญิงในชุดสวย คิดในใจหัวเราะไม่มีมารยาท ซ้ำร้ายเสียงหัวเราะนั้นยาวนานผิดวิสัย ทำมือยืดยาว

    ชี้มาที่เธอด้วย

    ดู ดิลิง ท่าปากๆๆ ฮ่าๆ เสียงเล็กของใครดังขึ้น

     

    ได้ฟังดังนั้นเจ้าหญิงก็หวั่นใจ นี่หรือความพยายามที่จะเป็นคนสวยให้คนอื่นมาสนใจ แต่กลับได้รับเสียงหัวเราะแทน

    มานี่มา พี่พาไปล้างหน้า นะ แล้วไปกินขนมกัน เจ้าหญิงองค์โต เดินเข้ามาหา

      มะ มะ มะ ไม่ เจ้าหญิงองค์น้อยเดินถอยหลังไปสองก้าว

    มันเปื้อน เดี๋ยวลิปสติกจะเข้าตา เธอคิดในใจ มันไม่ได้สวยเหรอ?? ตาแดงขึ้นมาทันที แต่ก็อดกลั้นน้ำตาเอาไว้

    อา อา ไอ้ บ้าหน้าโง่ เจ้าหญิงหลุดปากออกไปด้วยคำที่ไม่เหมาะสมที่สุดในชีวิต ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด สิ่งนั้นก็พลาดไปแล้ว       เจ้าชายหัวหมากฝรั่งวิ่งเข้ามาหาเจ้าหญิงด้วยความเป็นห่วง

    ไปพี่พาไปหาแม่นะ เจ้าหัวเหม็น เจ้าหญิงคิดในใจ แล้วก็ด้วยความที่ไม่มีเหตุผลที่สุด จึงตามด้วยการร้องกรี๊ดลั่นห้อง เป็นเหตุให้เจ้าชายรีบอุ้มน้องสาวขึ้นเพื่อยุติความสงบ แต่ร่างเล็กกับดิ้นไปมา และแล้วการแผลงก็เริ่มขึ้นอีก

     

     

    ปูเอ๋ย ปูไต่ --- พลังอันยิ่งใหญ่จงเกิดขึ้นกับนิ้วข้า

    เวลาโมโห โกรธา  ก็มีปูไต่นี่แหละหนาเป็นเพื่อนตาย

    หยิกนิด หยิกหน่อยแสบ-แสบ คัน-คัน เหมือนมดกัด

    ใครมาใกล้จะหยิกให้อยู่หมัดด้วยมือซ้าย

    อีกมือขวาจี้พุงเป็นท่าไม้ตาย

    ใครอยู่ใกล้มิวาย หัวเราะ-ร้องไห้ ขี้มูกแย

     

     

    โอ้ยโอ้ย ยอมแล้วปล่อยพี่นะ แม่มดน้อย ........ เจ้าชายหัวหมากฝรั่งร้องครวญซึ่งเป็นเหตุมาจากมือน้อยของเจ้าหญิงหยิกเข้าที่ต้นแขนเจ้าชาย

    แน่นอนว่าเด็กเกเรย่อมต้องมีคนปราบ เสด็จแม่เดินเข้ามาห้ามศึกนี้ ดูรูปการแล้วท่าจะไม่ดี      เด็กหญิงหาทางตั้งหลัก    ด้วยได้ยินเสียงเจ้าสิ่งนั้นจากมือเสด็จแม่มาตั้งแต่ไกล

     

    เฟี้ยะ เฟี้ยะ เสียงก้านมะยมหวดกลางอากาศ

    หนู หนูทั้งกลัวทั้งขยาดเป็นหนักหนา

    แค่ได้ยินเสียงก็รีบหลบให้ไกลตา

    ถ้าดื้อก็บอกหนูดี-ดีได้นี่นา รับรองไม่ซุกซนแล้วค่ะ หนูกลัว

     

                    ยังไม่ทันที่เสด็จแม่จะเข้ามาใกล้เจ้าหญิงก็วิ่งหายตัวขึ้นบันไดไปเสียแล้ว   แวบหายเข้าห้องตัวเองไม่ได้ขึ้นเตียงและซุกตัวใต้ผ้าห่มเหมือนทุกครั้ง    แต่หมุดตัวเข้าใต้เตียงเพื่อหลบให้พ้นสายตา ทั้งที่ในใจกลัวความมืดหนักหนา

    เสด็จแม่ก้าวเข้ามาในห้องพร้อมเปิดไฟทำให้ทั่วทั้งห้องให้สว่างขึ้น  เจ้าหญิงถึงรู้สึกหายกลัวขึ้นมาหน่อย (ในที่นี้หมายถึงความมืด ไม่ใช่ก้านมะยมในมือเสด็จแม่)

     

                    รู้สึกวันนี้ จะมีเค้กรสอะไรนะ ....อืมรสซ็อกโกเลต....แล้วอะไรอีกนะ    มีขนมครกรสผลไม้รวม ไอศกรีมนมสด เยอะจังเลยนะ ใครมัวแต่แอบอยู่จะได้กินไหมนี่

     

    แค่เสด็จแม่พูดคำแรกเจ้าหญิงก็รู้สึกท้องร้องแล้ว ยิ่งคิดถึงขนมครกร้อนโรยด้วยฟักทอง - เผือก ก็อยากจะพุ่งตัวออกไปหาเสด็จแม่        แต่ด้วยความที่ยังกลัว(ที่นี้เป็นก้านมะยมเพราะความมืดหายไปแล้ว)บวกด้วยหยิ่ง  ทำให้ต้องท่องคำว่าอดทน อดหิวไว้ให้ขึ้นใจ

     

     เฮ้ย........เจ้าหญิงถอนใจเฮือกใหญ่ ถึงมันจะเหมือนเสียงเด็กร้องเพราะความหิว ซึ่งเรื่องจริงก็เป็นเสียงที่สื่อออกมาเช่นนั้น  เด็กน้อยลุกขึ้นไปนั่งบนเตียง คิดอะไรอีกครั้ง      คราวนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับความสวย หรือเรื่องความหิว แต่เป็นเรื่องสำคัญมากว่านั้นทุกครั้งได้มองออกไปที่หน้าต่างบานนั้นยามค่ำคืน เท่าที่สายตาจะมองเห็นได้

    แสงสว่างจากดาวดวงนั้นนำพาให้เจ้าหญิงก็จะได้พบกับผู้ที่ให้ความอบอุ่นใจในยามค่ำคืนและคืนนี้พระจันทร์ ก็อวดยิ้มเสียเต็มดวงเสียด้วย เธอหวังว่าคืนนี้จะฝันดีเช่นเคย

    คืนเหงา-เหงาคืนนี้

    กระต่ายน้อยบนดวงจันทร์บอกข้าที ได้ไหม

    บนนั้นเจ้าเปลี่ยวเหงาหรือสุขใจ

    หากสุขแล้วแบ่งปันได้ไหม ..ช่วยบอกที

    เขาว่าเจ้ามีหน้าทียิ่งใหญ่

    คอยทำให้ดวงจันทร์ สดใส ดั่งเช่นวันนี้

    ส่วนตัวข้า ก็มีหน้าที่เป็นเด็กดี

    แต่ความซุกซนวันนี้ ทำให้ต้องมี เรื่องทุกข์ใจ 

    เพราะตัวข้าเป็นเพียงเจ้าหญิงมิใช่แม่มด

    ไม่มีมนตร์สะกดให้ใครมารักหรือหลงใหล

    เป็นเด็กหญิงตัวน้อย บนโลกที่กว้างใหญ่

    ที่ต้องเรียนรู้ โลกทั้งใบ ด้วยหัวใจ ของตนเอง

     

                    ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาที่หน้าต่าง เจ้าหญิงรู้สึกหนาวจนต้องรีบซุกตัวเข้าไปในผ้าห่ม  ตอนนี้ท้องไม่ร้องเสียแล้ว            ตาของเจ้าหญิงเริ่มบังคับไม่ได้ มันเป็นสัญญาณบอกเจ้าหญิงว่าควรจะเข้านอนได้แล้ว   แต่คืนนี้ เจ้าหญิงได้ฝ่าฝืนกฎเหล็กที่ให้สัญญากับเสด็จแม่เสียแล้ว    นั้นคือการใส่ชุดสวยนอนแต่ก็เอาเถอะก็ตอนนี้ไม่ไหวแล้วนี่นา      ยังก็ไม่ลืมไหว้พระสวดมนต์ก่อนนอนหรอกนะ

     

     

    อยากให้ทุก-ทุกคืนนั้นยาวนาน

    ไม่ใช่ว่าเป็นเด็กเกียจคร้านชอบนอนตื่นสาย

    แต่เพราะใต้หมอนใบนั้น มีเรื่องราวมากมาย

    ที่มาทักทายกันได้ ก็เฉพาะตอนเข้านอนทุกที

                    สวดมนตร์ไหว้พระก่อนนอน

    อธิษฐานกับหมอน ขอให้ฝันดีนะคืนนี้

    จะยอมตื่นสาย ขอแค่พบเจอแต่ฝันดี

    เพี้ยง....จันทร์เจ้าขอที ขอเพียงคืนนี้

    --หนูไม่ฉี่รดที่นอน

     

     สามทุ่มสิบนาทีแล้ว.เวลานี้สำหรับเด็กอาจดึกควรจะผักผ่อนเพื่อเช้าวันใหม่ที่สดใส      ตัวเจ้าหญิงก็เช่นกัน      ลมเย็นพัดเข้ามาจากทางประตูที่แง้มอยู่   ภายในห้องมีแสงสว่างโคมไฟกิ่งไผ่ที่หัวเตียง

     เจ้าหญิงหลับตาพริ้ม  แต่บนใบหน้ายังคงมีคราบของลิปสติกติดอยู่ เมื่อพลิกตัวไปมาก็เป็นการแต่งแต้มความสวยให้หมอนบ้างกับผ้าห่มบ้างเป็นอันว่าคืนนั้นเจ้าหญิงได้ทาลิปสติกให้ที่นอนของตัวเองด้วย

     ร่างเล็กสัมผัสถึงความอบอุ่นของใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างเตียง ไม่ได้ฝันไป มือทั้งสองข้างของใครคนนั้น ห่มผ้าให้เจ้าหญิงเข้าที่มากกว่าเดิมแล้ว เจ้าหญิงถูกสัมผัสที่หน้าผากเหมือนได้รับพรพิเศษ   ฝันดีนะ    เด็กน้อยพยายามที่จะลืมตาเพื่อมองดูว่าเขาคือใคร แต่ก็ยากเย็นเหลือเกินยากเสียจนผล็อยหลับไปอีกครั้ง .......คืนนั้นเจ้าหญิงไม่ได้ฝันว่าเจอกับอัศวินล่องหนดอกเพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×