หลายคน (ในที่นี่รวมไปถึงตัวผมเอง) หลงใหลได้ปลื้มไปกับความสดใหม่และบุ้นระทึกของ INEPTION จิตพิฆาตโลกโดยผู้กำกับมือฉมังอย่าง Christopher Nolan ที่สร้างเฉพาะหนังคุณภาพแต่ไม่เคยคว้ารางวัล OSCAR สักเรื่อง สำหรับผมเองคลั่งชนิดที่ว่า ดูในโรงสองรอบ (อยากดูอีกแต่ไม่ว่าง) ดูที่บ้านอีกนับสิบ ซื้อแผ่นหนัง (Blu-ray) เก็บไว้ถึงสามแผ่น ซึ่งเอื้อต่อการดูซ้ำอย่างนับรอบไม่ถ้วน แต่ผลสุดท้ายที่ได้รับคือ'ความผิดหวัง'
รอบแรกในโรง ตื่นเต้น ระทึก สนุกที่สุด ด้วยความโลดโผนของเนื้อเรื่องจึงปล่อยเลยตามเลยและไม่คิดระลึกเนื้อหาให้ปวดหัว กลัวจะเสียอารมณ์เพราะเนื้อหามากเกินกว่าจะเก๋บได้หมดในรอบเดียว ส่วนเรื่องที่ไม่ระแคะระคายเลย จนมาคุยกับเพื่อนๆ แล้วมีแต่คนเถียงกันว่า
"ตอนจบค็อบตื่นแล้วยัง" ..ตัวผมเองได้เล่นลูกข่างมาตั้งแต่เยาว์ทำให้ดูหนังโดยไม่ได้ระแคะระคายใดๆ เพราะเห็นได้ชัดเจนว่าลูข่างกำลังจะหยุดหมุน เพียงแค่ตัดฉากให้จบเท่านั้น แต่พอมาได้ยินเพื่อนๆ เถียงกันก็เกิดความสงสัย อีกอย่างในเรื่องก็มีฉากที่หมุนลูกข่างให้ดูแล้ว ทตั้งแต่เริ่มหมุนซึ่งจะเห็นว่าลูกข่างส่าย ก่อนเข้าสู่ภาวะสมดุลที่ลูกข่างที่นิ่งสนิท(ทรงตัวเยี่ยม)ขณะกำลังหมุนไป จนสุดท้ายเมื่อแรงตกลูกข่างจะเริ่มส่าย ถ้าลูกข่างเปลี่ยนจากนิ่งเป็นขยับนิดหน่อยก็รู้ได้ทันทีว่ามันกำลังจะล้ม
ดังนั้น ใครที่เถียงกันอยู่ ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลใดก็ตาม สรุปก็คือ มัน"ล้ม"นะครับหลังจากรอบแรก วันต่อมาผมก็ได้่ไปดูรอบสอง ปรากฏว่าเดินออกจากโรงพร้อมอาการ"งง" งงกับเนื้อหาที่เคยเข้าใจและเริ่มสับสน แต่ก็ยังไม่ระแคะระคายมากเพราะช่วงนั้นติดเรียน
จนได้ดูรอบถัดมา เถียงกับน้องบ้างตามประสา ช่วยกันหาคำตอบ ในเน็ตก็แล้ว สุดท้ายทำให้เห็นรูโหว่มากมายในหนัง ชนิดที่เปลี่ยนจากหนังที่สนุกที่สุดในรอบปี อยากจะดูแล้วดูอีก กลายเป็นหนังที่ไม่ขอดูอีกเลยจนกว่าจะลืมเรื่องทั้งหมดแล้วค่อยดูให้เกิดความรู้สึกเหมือนดูในโรงครั้งแรก
ทั้งนี้เพราะหนังของ Cristopher Nolan ตลบคนดูให้งงและสับสนกับเนื้อเรื่อง ทำให้คนดูลืมพะวงถึงรูโหว่มากมายในหนัง เนื่องมาจากการดำเนินเรื่องที่รวดเร็วและบีบเนื้อหาใส่คนดูตลอดเวลา ไม่เหมือนหนังอืดๆ ที่มีเวลาว่างให้นั่งเดาตอนจบ
ก่อนอื่นทำความเข้าใจในฝันแต่ละชั้น
ชั้นที่ 1 ฝันของยูซู้ป จะตื่นจากฝันนี้ได้โดยยาหมดฤทธิ์ซึ่งมีเวลาหนึ่งสัปดาห์โดยไม่สามารถปลุกได้
ชั้นที่ 2 ฝันของอาเธอร์ จะตื่นจากฝันได้โดยการตกจากสะพานของร่างในฝันชั้นที่หนึ่ง หรือถ้าพลาดก็เป็นการจมน้ำ หรือการปลุกในตัวฝันเองโดยการระเบิดห้องข้างใต้ของโรงแรมให้รู้สึกตกจากที่สูง
ชั้นที่ 3 ฝันของอีมส์ จะตื่นจากฝันโดยการเสียสมดุลของร่างในชั้นสองคือการระเบิดห้อง หรือโดยการตกจากที่สูงของร่างในชั้นสาม(ตกจากปราสาท)
ชั้นที่ 4 ตามเนื้อหาคือชั้นของขุมนรก ซึ่งกล่าวไว้ว่าจะต้อวค้างอยู่ในนั้นรอให้ตื่นเอง แต่ว่าแอรีแอดนี่กับฟิชเชอร์สามารถปลุกตัวเองได้ อาจเป็นเพราะยังไม่ตาย ต่อไปนี้คือความผิดหวังที่พบหลังจากการดูแบบคลั่งไคล้ ก่อนโพสต์ผู้เขียนได้หาเหตุผลมาแย้งอย่างเต็มที่ว่าตนดูหนังไม่เข้าใจเอง แต่ทำไปทำมา ข้อสรุปคือ หนังผิดจริงๆ เท่าที่นึกออกมีดังนี้ (อาจไม่เรียงลำดับเนื้อเรื่องนะครับ)
- ฉากแรก (ไม่ค่อยอยากเขียน แต่ไหนๆ ก็วิจารณ์แล้ว) ฉากฝันเปิดตัวที่ดอมเจอมอลแล้วไปนั่งคุยกันในห้อง โดยมอลนั่งอยู่บนเก้าอี้ ส่วนดอมผูกเชือกแล้วโรยตัวลงทางหน้าต่าง ในความเป็นจริงมอลซึ่งนังหันหน้าไปทางหน้าต่างไม่สามารถลุกออกจากเก้าอีกได้โดยไม่เจ็บตัว เพราะแค่ขยับนิดเดียวจะทำให้แรงกดลงบนเก้าอี้น้อยลง แรงดึงจากดอมก็จะลากเก้าอี้จนฟาดมอลอย่างแรง ยกเว้นว่าจะกระโดดออกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วแล้วหลบให้พ้นรัศมีการเคลื่อนที่ของเก้าอี้
แต่หากดูลักษณะการตกของดอมผนวกกับภาพเก้าอี้ถูกลากก็จะเหมือนกับจู่ๆ เก้าอี้ที่ถูกยึดอยู่หลุดออกจากที่ยึด
เป็นไปไม่ได้ที่คนจะลุกออกจากเก้าอี้ได้เร็วขนาดนั้น แต่อาจเป็นไปได้ว่าจู่ๆ มอลก็หายตัวไป ซึ่งในหนังอาจจะเป็นอย่างนี้ เพราะมันอยู่ในฝัน และมอลก็เป็นแค่เงา ดังนั้นผมอาจจะเข้าใจผิดไปเอง (ข้อนี้ไม่จริงจังอะไรมากมายนะครับ นึกออกก็ใส่มา)
-
อันที่ว่าความเจ็บในฝันจะทรมานมาก ผมเพิ่งฝันว่าถูกยิง ไม่รู้สึกเจ็บสักนิด อาจเป็นเพราะผมไม่เคยถูกยิง จึงไม่มีความรู้สึกนี้อยู่ในจิตก็เลยไม่เจ็บ
- เรื่องนี้ขอว่านิดเหอะ ดูแล้วขัดตามากๆ กับเกมเขาวงกตที่แอรีแอดนี่วาดให้แก้ในหนึ่งนาที คือว่าผมลองหยุดภาพแล้วทำ มันง่ายมากๆ ไม่มีทางทำเป็นนาที อยากให้ผู้กำกับทำให้ดีกว่านี้ เพราะอย่างน้อยยังมีผมหนึ่งคนที่หยุดแล้วลองทำดู
- เรื่องของฝันขณะปฏิบัติภาระกิจ ฝันชั้นแรกของยูซู้ป คนขับรถของเรานั่นเอง แอรีแอดนี่เป็นสถาปนิก(ใช่มั้ย) จู่ๆ คอบก็พารถไฟเข้ามากลางถนน แล้วก็ถูกจิตสำนึกของฟิชเชอร์ไล่ทำร้าย จุดนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ร่วมฝันทุกคนสามารถนำรายละเอียดมาเติมเต็มในฝันของคนอื่นซึ่งมีอีกคนเป็นสถาปนิกได้
ในชั้นที่หนึ่งมีเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ ปัญหาอยู่ที่ประโยคที่คอบบอกว่า หากไม่รีบลงไปปฏิบัติภาระกิจให้เสร็จทุกคนจะถูกกองกำลังจากจิตของฟิชเชอร์ฆ่าจนหมด ทุกคนจึงหลับ เหลือเฉพาะยูซู้ปขับรถไปที่สะพาน โดยรวมจนถึงเวลาที่รถตกน้ำแล้วทุกคนขึ้นมานั่งบนฝั่ง กินเวลาไม่น่าจะนานกว่าหนึ่งชั่วโมง...
มีคำถามว่า เวลา
หลังจากที่ทุกคนตื่นมานั่งอยู่ในฝันชั้นนี้ซึ่งเหลืออีกหลายวัน ไหนล่ะครับกองกำลังของฟิชเชอร์ มันจะตามลงมาใต้สะพานไม่ได้เชียวหรือ อีกอย่างมันช่างค้านกับที่คอบบอกเอาไว้ว่าทางเดียวที่จะรอดคือปฏิบัติภาระกิจให้เสร็จ พอเสร็จก็มานั่งกันอยู่ริมฝั่ง ไม่เห็นจะเกี่ยวข้องใดๆ กับที่พูดเอาไว้เลย ตรงนี้ผู้กำกับตัดทิ้ง อยู่ดีๆ ก็ตื่นกันบนเครื่องบิน ไม่กล่าวถึง... เป็นรูโว่ที่ไม่น่าจะให้อภัย
- ในฝัั้นที่สองของอาเธอร์ (ในโรงแรมน่ะครับ) ฉากหวือหวามาก แต่รูโหว่ก็มากเช่นกัน ในชั้นหนึ่งเมื่อรถตกสะพาน ร่างทุกคนลอยแต่ยังมีแรงโน้มถ่วงกระทำให้ตกจากรถ ในชั้นสองกลายเป็นไร้แรงโน้มถ่วง ส่วนชั้นที่สามกลับเดินกันสบาย ไม่ทราบว่าหลักอะไรมากำหนดครับเนี่ย? คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก
ชั้นหนึ่งลอย ชั้นสองลอย ชั้นสามก็ต้องลอยด้วยสิอีกประการคือ
การที่รถตกสะพานก็เหมือนกับการนั่งเครื่องบินเพราะทั้งคนและรถต่างเคลื่อนมาด้วยความเร็วเท่ากันเปรียบเป็นวัตถุก้อนเดียวกัน เมื่อตกจากสะพานคนจะไม่รู้สึกว่ากำลังตกจากที่สูงแต่ยังรู้สึกเหมือนนั่งในรถ ดังนั้นถ้าจะไร้แรงโน้มถ่วงก็น่าจะเป็นตั้งแต่ชั้นแรก ตรงนี้ผู้กำกับลืมนึกไปว่าการกระโดดลงตจากสะพานกับการนั่งรถร่วงจากสะพานมันไม่เหมือนกัน เข้าใจมั้ยครับ ทฤษฎีฟิสิกส์ม.ปลาย
- ฝันชั้นสองยังไม่จบ เมื่อตอนที่คนอื่นฝันต่อไปเหลือเฉพาะอาเธอร์
ขณะที่รถตกสะพานซึ่งเป็นการปลุกครั้งที่หนึ่งตามที่หนังบอกไว้
ทำไมอาเธอร์จึงไม่ตื่นทั้งที่ตัวเองไม่ได้ฝันต่อ ตรงนี้คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก ผู้กำกับคงลืมจริงๆ อย่าลืมว่าไม่มีทางที่จะบังคับไม่ให้ตื่นได้เพราะหนังกำหนดข้อบังคับไว้เอง อีกอย่างคอบก็บอกว่า ถ้าหากปฏิบัติภารกิจช้าไปก็จะทำไม่ทันเพราะจะตื่นก่อน เข้าใจประเด็นของผมมั้ยครับ
- อีกเรื่องในชั้นนี้ ตอนที่อาเธอร์พยายามเอาระเบิดไปติดที่ลิฟต์โดยพูด
"ถ้าไม่มีแรงโน้มถ่วงก็จะลงฝันชั้นถัดไปไม่ได้" ตรงนี้อาเธอร์ระเบิดหลังจากที่คนในชั้นสามฝันต่อไปยังชั้นที่สี่แล้ว เป็นการระเบิดตอนกำลังตื่น....งงกับบท
หากมีคนบอกว่าระเบิดลิฟท์เพื่อให้รู้สึกว่ากำลังนอนอยู่บนพื่น จะได้ถูกปลุกโดยชั้นที่หนึ่งได้ พอลองคิดดู ชั้นที่หนึ่งปลุกโดยการถ่วงน้ำซึ่งจะทำให้ตื่นจากฝันชั้นสองโดยไม่จำเป็นที่ร่างชั้นสองจะต้องนอนบนเตียง(ไม่จำเป็นต้องใช้แรงกดกับพื้น) หากคุณลอยอยู่แล้วรู้สึกจมน้ำคุณก็ต้องตื่น ส่วนในชั้นสามก็เป็นการปลุกโดยเปรียบกับการฝันว่าตกตึก คุณก็จะตื่นมาอยู่ใชั้นสองได้เอง
สุดท้าย
จึงหาข้อสรุปไม่ได้ว่าระเบิดลิฟท์เพื่ออะไร- ฝันชั้นที่สาม สงสัยว่าเขาวงกตจะสร้างเพื่ออะไรเพราะไม่ได้ใช้เลย ทำให้เห็นความโล่งของตัวละครสถาปนิกว่าไม่มีบทบาทใดๆ ในหนัง ให้เห็นว่าสร้างแบบจำลองแล้วสอนเจ้าของฝัน ซึ่งปรากฏว่าสามารถสร้างสถานที่ได้เหมือนจริงทุกอย่างตามที่สถาปนิกออกแบบไว้ (ในที่นี้แอรีแอดนี่ขอตามเข้าไปในฝันเอง) ซึ่งมีจุดบอดในฝันชั้นที่สามตอนที่คอบถามหาทางลัด
จะมีทางลัดในปราสาทได้อย่างไรในเมื่อคนสร้างปราสาทคืออีมส์ยังไม่รู้ว่ามีทางลัด เท่ากับว่าอีมส์ไม่ได้สร้างทางลัดเอาไว้ เข้าใจผมมั้ยครับ?
-
ฟิชเชอร์ตาย ลงไปในขุมนรก ปรากฏว่ากลายเป็นที่เดียวกับความฝันชั้นที่สี่ ซึ่งดูจะขัดแย้งเพราะหากตายในความฝัน ทำไมต้องมาติดอยู่ในฝนชั้นที่สี่ ลึกกว่านี้ไม่ได้หรือ?
ฝันได้แค่สี่ชั้นหรือ? ซึ่งในตอนเริ่มบอกเอาไว้ว่าไม่สามารถปลุกขึ้นมาได้ แต่จู่ๆ แอรีแอ็ดนี่ก็กระโดดตึกปลุกตัวเอง ซึ่งเป็นไปได้ว่าเธอไม่ตาย แต่มันออกจะขัดแย้งกับจิตของคนที่ตายในฝันซึ่งถูกขังอยู่ในชั้นเดียวกัน โดยเฉพาะฟิชเชอร์ซึ่งตายแล้วยังสามารถปลุกขึ้นไปได้ หรือถ้าหากกล่าวว่าฟิชเชอร์ยังไม่ตายเพียงแค่หมดสติ ทำไมจิตของคนหมดสติถึงลงไปอยู่ในความฝัน? หรืออาจเป็นเพราะใช้เครื่องช่วยฝันจึงไปโผล่ในที่เดียวกัน ตรงนี้ยิ่งคิดยิ่งเห็นรอยโหว่มากมาย
- อันต่อมา ในหนังลำดับเวลาให้เห็นชัดเจนว่าพวก
คอบลงไปในฝันชั้นที่หรือขุมนรกก่อนไซโตะ แต่ปรากฏว่าเมื่อคอบเจอกับไซโตะ
ไซโตะกลายเป็นคนแก่ไปแล้ว ?? ผมสับสนมากๆ แล้วสงสัยว่าคอบถูกยิงในฝันชั้นที่สี่ เขาไม่ตายหรือ? ผู้กำกับไม่เสนอให้กระจ่างเลย
อีกอย่างคือ ทำไมฝันชั้นที่สี่ซึ่งบอกว่าเป็นขุมนรกเเละเป็นสถานที่ที่ถูกลืมของผู้ร่วมแชร์ฝัน ทำไมตึกเก่าๆที่คอบกับมอลสร้างไว้จึงมาอยู่ในฝันครั้งใหม่ได้ มันคนละฝันกันเลย ยิ่งคิดยิ่งงง ไม่เข้าใจว่าผู้กำกับคิิดอะไรเอาไว้
- สุดท้ายที่คิดออกในตอนนี้
คนที่ถูกยิงจำเป็นต้องฝันว่าตัวเองกำลังบาดเจ็บจากการถูกยิงด้วยหรือ ถ้าเป็นผม ผมจะฝันว่ากำลังเดินเล่นอย่างมีความสุข ไม่ใช่ฝันไปกี่ชั้นก็ยิ่งอาการแย่...
- อีกเรื่องที่ขอติ ตัวละครกับบทบาทของแต่ละคนเป็นเหมือนอะไรบางอย่างที่ไม่ชัดเจน ไม่มีตัวตน ผู้กำกับสร้างบท the extractor(นักสกัดฝัน), point man(คนชี้เป้า), the forger(นักปลอมแปลง), architect (สถาปนิก) รวมไปถึงนักเคมีอย่างยูซูป สรุปว่าทุกคนเข้าไปในความฝัน ทำหน้าที่อย่างเดียวกัน ยกเว้นอีมส์(นักปลอมแปลง)ที่เห็นบทเด่นชัด และดอมที่เป็นตัวดำเนินเรื่อง ซึ่งเห็นว่าใครๆ ก็ทำได้ ผู้กำกับใส่มาให้รกเปล่าๆ โดยไม่สนใจลงรายละเอียด ทำหให้ดูโหวงเหวงและจับต้องหนังได้ลำบาก
สุดท้ายนี้ขอฝากไว้ว่า
"INCEPTION เหมาะสำหรับเก็บเกี่ยวความมันส์เพียงชั่วคราว ไม่ใช่นำมาดูซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างผม เพราะจะเจอแต่รูโหว่ที่ผู้กำกับ(คนเดียวกับคนเขียนบท)พยายามอุดเอาไว้อย่างฉาบฉวยด้วยการดำเนินเรื่องอันรวดเร็วจนไม่มีเวลาให้คิด"
หนังที่ดีควรดูแล้วสนุกทุกรอบ ไม่ใช่สนุกแบบฉาบฉวยเพียงแค่รอบแรก แล้วผิดหวังเมื่อพยายามดูอย่างตั้งใจของฝาก ต่อไปนี้คือข้อชี้แนะสำหรับหนังของ Christopher Nolan
- มีรูโหว่ของบท เช่น ความเกินเหตุของเนื้อเรื่อง ยกตัวอย่างเช่นในเรื่อง The Dark Knight ฉากแรกที่รถนักเรียนเข้าชนผนังธนาคารไปรับงิน แล้วสามารถขับกลับมาเข้าขบวนได้โดยไม่มีรถคันอื่ืนหรือคนหยุดดูเหตุการณ์ ตอนขนเงินเสร็จถึงจะมีรถตำรวจขับมา เป็นต้น หรืออีกอย่าง ตอนที่แบทแมนใช้อุปกรณ์งอกระบอกปืน ไม่มีทางทำอย่างนั้นได้ยกเว้นว่าอุปกรณ์จะทำให้โมเลกุลโลหะของปืนขยายออกจนลดความแข็งลง ลองนึกสภาพการงอท่อเหล็กดูสิครับ แม้จะมีแรงมากแค่ไหนก็ต้องออกแรงจากสองฝ่ายคือฝ่ายยึดให้เเท่งเหล็กอยู่กับที่ ละฝ่ายงอ ในหนัง คนถือปืนคือโจร ถ้าแบทแมนแรงมากขนาดนั้น ปืนมันหลุดคามือมาแล้วครับ ไม่มีทางงอได้เลย ดูแล้ว ...ขำ
- บางเรื่องเหมาะสำหรับความบันเทิงรอบเดียว ดังเช่น INCEPTION ที่กล่าวไว้
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น