13 วิธีโดดเรียน(ไม่รุจาใช้ได้กันอะป่าว)

ข้อมูลเบื้องต้น

1. ทำหน้าชราสมมุติว่าเป็นผู้ปกครอง
หมั่นฝึกทำหน้าแก่เข้าไว้  วิธีลัดง่าย ๆ คือ พยายามไปยืนตากแดดจัด ๆ  ให้ได้ทุกวัน ( คนที่แก่แดดอยู่แล้วอาจไม่เหมาะ )  ประสิทธิภาพของแดด คือริ้วรอย  ตีนกาและความด้านของผิวพรรณพอแก่ได้ที่แล้ววันไหนคิดจะโดดเรียน  ก็หยิบยืมเสื้อผ้าญาติผู้ใหญ่ออกมาไว้เปลี่ยนเดินปะปนกับผู้ปกครองทั่วไป  ฉลุยออกนอกโรงเรียนซะ
2.แจกยานอนหลับแล้วหายวับให้ไว
แกล้งทำเหมือนมีเมตตาจิต  โดยการเอาขนมผสมยานอนหลับไปแจกให้ทั่ว เน้นไปที่ห้องพักครูเป็นหลัก  หรือถ้าลงทุนหน่อยก็แอบเอายาใส่ในกับข้าวของโรงอาหารเลยก็ไม่เป็นไร  จะให้ดีก็กะเวลาว่าฤทธิ์ยาควรยาวนานถึงเวลาเลิกเรียนไปเลย  เพราะเธอสามารถโดดไปไหน ๆ ได้นานกว่าจะมามั่วนิ่มหลับอย่างกลมกลืนทีหลังได้ไง
3.ขุดอุโมงค์ใต้ดินไปสู่ถิ่นที่ต้องการ
วิธีนี้ต้องอาศัยเวลาและเรี่ยวแรงอย่างมาก จะให้สำเร็จจึงต้องทำกันเป็นขบวนการ  โดยปลุกระดมผู้มีใจใฝ่ต่ำทั่วอาณาเขต  มาช่วยกันขุดอุโมงค์ใต้ดินที่มีปลายทางไปสู่สถานที่ที่ต้องการเช่น  หลังโรงเรียน  ใต้สถูปเจดีย์วัดข้าง ๆ  หรือมุ่งมั่นอีกนิด  ก็กะเอาไปโผล่ที่ท่อระบายน้ำห้าง ฯ  หรือส้วมที่สยามไปเลยก็ไม่มีใครว่า
4.ซุกตัวในถัง หนีง่ายจังเพราะรถเก็บขยะ
หาโอกาสปลอดคนกระโดดลงไปซุกซ่อนตัวในถังขยะ  ถ้าเพื่อนคนไหนจะขอติดตามก็สามารถแยกย้ายไปคนละถังตามใจชอบ  พอถึงเวลาขนขยะไปทิ้ง  เธอกับเพื่อน ๆ  ก็จะได้อาศัยรถขยะนี้เป็นพาหนะนำเธอออกนอกโรงเรียนตามสบาย  แน่ใจได้ว่าครูปกครองคนไหนว่า X บก็ไม่เฉียบพอจะยอมคุ้ยขยะหรอก
5.ห้อยโหนสลิงลอยดิ่งไปตึกใกล้เคียง
คนที่บ้าบิ่นไม่กลัวความสูง  สามารถแสดงบทบาทเป็นดาราหนังบู๊แอคชั่น  บวกกายกรรมเปียงยางโดยการโหนลวดสลิงลอยปื๊ดไปที่ตึกอื่นที่มีความสูงสูสี  แล้วก็หนีไปเที่ยวและกลับมาใหม่ได้โดยว่อง  แต่ถ้าตึกโรงเรียนใครมีความสูงไม่กี่ชั้นโปรดอย่าทำ  เพราะการลอยตัวในระยะประชิดหัวครู ถือว่าเป็นบาปอย่างยิ่ง
6.ทำสติให้เพี้ยนเพื่อย้ายไปเรียน ร.พ. บ้า
วัยรุ่นไทยยุคนี้กับเรื่องสติเพี้ยน ๆ  ถือได้ว่าเป็นรสนิยมที่กำลังระบาดหนักอยู่แล้ว  ฉะนั้นแค่เพิ่มดีกรีให้แลดูประสาท ๆ กว่าเดิมอีกหน่อย  ก็จะได้โดดเรียนอย่างถาวร  มีสิทธิ์ไปเที่ยว  และกินนอนในโรงพยาบาลบ้าแทน  ไม่ต้องมานั่งคร่ำเคร่งกับการเรียนการสอนอีกต่อไป
7.ทำแผลฉกรรจ์เพื่อฝ่าด่านรั้วโรงเรียน
ไม่ได้ต้องการถึงขนาดว่าทำร้ายร่างกายตัวเองให้สาหัสเล่นหรอกนะ  เพราะถ้าขืนพลั้งพลาดลงมือหนักเกินไป  ที่ได้ออกนอกโรงเรียนอาจจะหมายถึงศพเธอก็ได้  ทางที่ดีเอาแค่พอเบาะ ๆ ประเภท ทำเอฟเฟกต์แนวเพื่อชีวิต  แผลหวานเย็นราดน้ำแดง  ใส่นมอะไรประมาณนั้น  ทำสีหน้าเจ็บปวดให้สมจริงหน่อย  รับรอง  get  แน่
8.ถอดจิตไปซ่าไม่ต้องพึ่งพาร่างกาย
เหมาะสำหรับคนที่มีสมาธิแก่กล้าในขั้นสูงส่งแล้ว  หรือไม่ก็เลนไสยศาสตร์ได้อีกหน่อย  จนสามารถถอดจิตใส่สายเดี่ยวล่องลอยไปเที่ยวได้  แน่นอนว่าไปแบบฟรี ๆ  ซะด้วย  โดยทิ้งร่างกายให้นั่งทำหน้าปัญญาอ่อนในห้องเรียนต่อไปสบาย ๆ  ครูคนไหนก็จับไม่ได้  แต่ระวังอย่างเพลินจนไม่กลับร่างแล้วกัน
9.จ้างมืออาชีพให้รีบมาลักพาตัว
สร้างสถานการณ์ให้มืออาชีพด้านการลักพาตัวเรียกค่าไถ่  หรือจับคนเป็นตัวประกันมาอุ้มเธอออกไปจากโรงเรียน  แล้วเธอก็เที่ยวให้ชุ่มม้าม  ตับ  ไตไปเลย  ในรายที่บุพการีมีอันจะกินก็อาจเรียกค่าไถ่ไว้เป็นทุนรอนในการผลาญช่วงนั้นได้  พอได้ที่แล้วก็ทำเป็นส่งตัวคืนอย่างไร้ร่องรอยขีดข่วนกลับมา
10.สร้างคนโคลนนิ่งไว้ให้ตัวจริงโดดเที่ยว
ข่าววงในแพร่ออกมาว่า  ประเทศไทยจะสามารถโคลนนิ่งสิ่งมีชีวิตได้ในเวลาอีกเพียง 17 ศตวรรษเท่านั้นเอง  ถึงเวลานั้นเธอก็จะได้โคลนนิ่งตัวเธอเองแปะมือกันมานั่งเรียนแทนได้สบายใจโจ๋  แต่ไม่แน่ว่าครูก็อาจจะโคลนนิ่งตัวเอง  ไปดักจับเธอตอนเที่ยวอยู่ด้วยเหมือนกันก็ได้  ใครจะไปรู้
11.ทำระบบสำคัญปั่นป่วนแอบก่อกวนลับ ๆ
ทำตัวเป็น X โม่งแอบย่องไปทุบท่อประปาใหญ่ของโรงเรียนให้แตกตนเกิดอุทกภัยใหญ่  หรือจะเป็นการทำลายวงจรไฟฟ้าหลักให้กระจุย  เครื่องใช้ไฟฟ้าหยุดการทำงาน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะทำให้ทั้งโรงเรียนปั่นป่วน  ถึงเธอจะไม่ได้โดดออกไปไหน  ก็แทบจะเรียนกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะ
12.เอาความเหม็นต่อรองจนครูต้องเชิญกลับบ้าน
พกอึตัวเองหรือของบุคคลอันเป็นที่รัก จะให้ดีควรค้างไว้ซัก 2 3 คืน แพ็คใส่ถุงไปโรงเรียนด้วย พอได้ฤกษ์ก็เอาออกมาราดตัวเองซะ  รับรองว่ากลิ่นจะระบือไปถึงโรงเรียนข้าง ๆ ด้วยซ้ำ  ทีนี้ก็จะเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่าสังคมรังเกียจขึ้น  ผลก็คือเอจะได้รับเชิญให้กลับบ้านหรือไปไหนก็ได้โดยพ้นความผิดฐานโดดเรียนทันที