ลุ้นรักร้ายของนายปีศาจ - นิยาย ลุ้นรักร้ายของนายปีศาจ : Dek-D.com - Writer
×

    ลุ้นรักร้ายของนายปีศาจ

    เมื่อชีวิตเด็กเรียนธรรมดาๆ ต้องมาอยู่ท่ามกลางวงล้อมของแก๊งอัลธพาลทั้งหลาย ชีวิตเรียบๆ คงต้องเพชิญกับเรื่องที่คาดไม่ถึง

    ผู้เข้าชมรวม

    205

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    205

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  4 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  26 ก.ค. 51 / 23:33 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    Chapter 1

    "นี่เธอ! คนอื่นเขาต่อแถวกันอยู่ แล้วเธอจะมาแซงได้ยังไง"

    "ฉันจะทำอะไรมันเรื่องของเธอรึไง"

    "ก็เธอทำไม่ถูก ฉันก็ต่อแถวอยู่ คนอื่นเขาก็ต้องรอเหมือนกัน"

    "ถ้างั้นฉันให้เธอก่อนเอาไหมล่ะ"

    "ไม่ ฉันจะรอคิว เธอก็ต้องรอเหมือนกัน"

    "เธอจะรอก็รอไปคนเดียวเถอะ ฉันไม่เอาด้วยหรอก" ว่าแล้วยัยนี่ก็เดินเข้าไปลงชื่อสมัครเข้าทีมบาสของโรงเรียนหน้าตาเฉย โดยไม่มีใครว่าสักคน แม้แต่อาจารย์ที่นั่งอยู่ก็ยังทำเป็นไม่สนใจ อะไรกันเนี่ย ทำแบบนี้มันไม่ถูกนะ คนอื่นเขาต่อแถวอยู่ คนมาก่อนก็ต้องได้ก่อนสิ ยัยนี่เป็นใครกันนะ ทำไมถึงได้มาทำเบ่งได้โดยไม่มีใครขัดสักคน ดูเหมือนทุกคนจะกลัวๆยัยนี่กันทั้งนั้น จริงๆฉันก็แปลกใจตั้งแต่ตอนแรกที่เห็นแล้วล่ะ ทั้งแต่งหน้า ทั้งดัดผม ทั้งย้อมผม ทั้งๆที่โรงเรียนนี้เข้มงวดเรื่องกฎระเบียบมาแต่ไหนแต่ไร แต่เธอก็ไม่เคยโดนลงโทษเลยสักครั้งเดียว

    "นี่! ทำไมเธอถึงทำนิสัยแบบนี้ห๊ะ มารยาทน่ะมีไหม" ฉันตะโกนว่ายัยหัวแดง ที่เพิ่งลงชื่อเสร็จ ทันทีที่ฉันพูดจบ สายตาทุกคนจับจ้องมาที่ฉันเป็นตาเดียว ความเงียบเข้าครอบคลุมตัวฉัน ฉันพูดอะไรผิดรึไงนะ... ชั่วอึดใจเดียว ทั้งครูที่อยู่ในห้อง และนักเรียนทั้งหมดก็รีบเดินกึ่งวิ่งออกไปข้างนอก ราวกับในนี้จะเกิดสงคราม หรือระเบิดนิวเคลียร์ลูกยักษ์จะหล่นลงมาใส่หัวอย่างนั้นแหละ

    "เอ๊ะ! เธอนี่ยังไงนะ หาเรื่องฉันมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว อยากมีเรื่องมากใช่ไหม!" ดูท่าทางยัยหัวแดงจะเริ่มโมโหซะแล้วล่ะ

    "ก็เธอทำไม่ถูก จะให้ฉันนิ่งเงียบได้ยังไง"

    "หึ ทำตัวเป็นนางเอกไปได้ ไม่รู้รึไงว่าฉันเป็นใคร เดี๋ยวก็ได้โดนดีหรอก" หนอย! ทำผิดแล้วยังไม่สำนึก ยังจะมาอวดเบ่งอีก พ่อเธอเป็นนายกรึไงยะ ฉันถึงว่าเธอไม่ได้น่ะ

    "เธอเป็นใครฉันก็ไม่สนทั้งนั้นน่ะ แต่เธอมาวางอำนาจแบบนี้ คิดว่าฉันกลัวไง"

    "หนอย! ยัยนี่ อวดดีนักนะ" ยัยหัวแดงง้างมือขึ้นเตรียมจะตวัดเต็มแรง ฉันหลับตาปี๋ คิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้

    หมับ! เอ๊ะ! ไม่เจ็บ ไม่แสบ ฉันเอามือลูบไปบนใบหน้าตรวจสอบว่าใบหน้าหวานๆของฉันยังอยู่ดี ไม่ได้บิดเบี้ยวไปทางไหน แล้วค่อยๆลืมตาขึ้น มือของยัยหัวแดงถูกจับไว้ด้วยมือใหญ่ๆของใครบางคน ยัยหัวแดงดูจะไม่พอใจอย่างแรง แต่พอเห็นหน้าคนที่จับมือเธอไว้แล้ว สีหน้าก็ดูซีดลงทันที ฉันมองไม่เห็นหน้าคนๆนั้นหรอก รู้แต่ว่าเขาใส่เสื้อโค๊ทสีดำ ข้างหลังมีรูปหัวกะโหลก ไม่ทันที่ใครจะได้พูดอะไร ผู้ชายคนนั้นก็ลากยัยหัวแดงออกจากห้องไป ฉันยืนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เกือบหน้าแหกแล้วไหมล่ะ

     

    "ห๊ะ! อะไรนะ" โอ๊ย! พวกเธอจะมาสามัคคีชุมนุมอะไรตอนนี้เนี่ย แค่ฉันเล่าเรื่องเมื่อเช้าที่ไปทะเลาะกับยัยหัวแดงให้ฟัง ทำไมต้องทำท่าตกใจขนาดนี้ด้วยล่ะ

    "ตกใจอะไรของพวกเธอเนี่ย เบาๆหน่อยไม่ได้รึไง" แพทกับซี เพื่อนสาวสุดเลิฟของฉัน ที่ทำหน้าตกใจมากราวกับเห็นผี ก็ยังไม่สามารถหุบปากกว้างๆลงได้

    "มะ...เมื่อกี้ เธอบอกว่า ไปมีเรื่องกับผู้หญิงหัวแดงๆมาใช่ไหม" ซีถามตะกุกตะกัก

    "อืม"

    "ละ...แล้วก็ มีผู้ชายมาช่วยไว้" แพทเสริมต่อ

    "ก็ใช่"

    "ถ้างั้น...เธอก็..." ซีพูดอีก แต่คราวนี้ดูสีหน้าซีดลงเยอะ

    "ทำไม" ฉันถาม เพราะว่าฉันก็งงๆกับท่าทีของสองคนนี้มานานแล้ว

    "ซวยแล้ว!!! " ซวยหรอ อะไรกัน เรื่องแค่นี้ถึงกับทำพวกเธอสองคนร้อนรนขนาดนี้เลยหรอเนี่ย

    "ทำไมหรอ ยัยหัวแดงนั่นเป็นใครหรอ" ฉันถาม

    "นี่เธอไม่รู้จริงๆหรอเนี่ย" ซีเขย่าตัวฉันไปมา โอ๊ย! มึนไปหมดแล้ว

    "ก็ใช่น่ะสิ ถ้ารู้ฉันจะถามพวกเธอหรอ"

    "อยู่มากี่ปีแล้วยัยเอ๋อพิ้ง คนนั้นน่ะเธอชื่อแพรว เป็นลูกสาวคนเดียวของ ผอ." เฮือก! ซวยจริงด้วย ตายแล้ว...ฉันไม่รู้จริงๆว่ายัยนั่นเป็นลูก ผอ. ไม่งั้นฉันคงไม่ไปยุ่งด้วยเด็ดขาด ไม่น่าล่ะ ขนาดครูยังไม่กล้ายุ่ง แล้วฉันจะโดนไล่ออกไหมเนี่ย!!!

    "ตายแล้ว...ฉันจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย"

    "เออ! จริงสิ เธอเจอผู้ชายอีกคนใช่ไหม" แพทถามฉันอย่างสนใจ

    "อืม...ทำไมหรอ"

    "ลักษณะเขาเป็นยังไงน่ะ บอกหน่อยสิ"

    "ฉันไม่เห็นหน้าเขาหรอกนะ เพราะเขาหันหลังให้ฉัน แต่เขาใส่เสื้อโค๊ทแขนยาวสีดำ แล้วก็มีลายหัวกะโหลกด้านหลัง" ฉันอธิบายลักษณะเท่าที่จำได้ของผู้ชายที่เข้ามาช่วยฉันให้แพทฟัง แพททำตาโตเท่าไข่ห่านทันทีที่ฉันพูดจบ

    "เป็นอะไร" ฉันถาม

    "เธอเจอโชคสองชั้นนะรู้ไหม" แพททำท่าทางดี๊ด๊าเป็นพิเศษ

    "โชคสองชั้น ยังมีอะไรมาให้ฉันซวยอีกหรอ" ฉันทำหน้าจ๋อย แค่ชั้นเดียวก็ปวดหัวพอแล้วมั้ง

    "ไม่ใช่ๆ โชคชั้นที่สองคือโชคดี เธอได้อยู่ใกล้ชิดกับเรนขนาดนั้นน่ะ ไม่เรียกว่าโชคดีแล้วเรียกว่าอะไร" ยิ่งพูดฉันก็ยิ่งงง

    "อย่าไปสนใจยัยแพทเลย ผู้ชายที่แกเจอน่ะ คือ เดวิลเรน เขาคือผู้ที่ได้รับฉายาเป็นเดวิล เพราะความชั่วร้าย และใช้อำนาจเหนือกฎหมาย เขาเป็นผู้ที่ไม่เคยมีใครในโรงเรียนนี้รู้จักประวัติ ยกเว้น ผอ.แม้แต่ชื่อจริงก็ยังไม่มีใครรู้ ดูเขาลึกลับจริงๆ แต่ว่านะ เขาก็ถือเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในโรงเรียนเราเลยล่ะ" ซีอธิบายยืดยาว แต่ก็ทำให้ฉันเดินออกนอกกะลามาได้มากทีเดียว แต่ว่า...นายเรนเนี่ย ลึกลับจังเลยนะ

    "ว่าแต่...เธอรู้เรื่องเขาดีจังเลยนะ"

    "เรื่องพวกเนี่ย ใครๆเขาก็รู้กัน ก็มีแต่เธอนั่นแหละ ที่แม้แต่ลูกสาว ผอ. ยังไม่รู้จัก" แหมๆๆ รู้แล้วย่ะ ไม่ต้องมาตอกย้ำหรอก

    "แต่ที่ฉันเล่าให้เธอฟังน่ะ มันแค่พื้นๆ ของจริงน่ะ ต้องให้เธอเห็นเอง แล้วจะเข้าใจ" แค่นี้พื้นๆหรอ ฟังๆดู ไม่ใช่แค่ลึกลับอย่างเดียว เขายังดูน่ากลัวมากเลย

    "ไปกินข้าวกันเถอะ ฉันหิวแล้ว" แพทที่เงียบอยู่นานพูดขึ้น

    "ไม่เพ้อถึงเดวิลเรนต่อล่ะ เธอเนี่ยเป็นแบบนี้ทุกทีเลย" ซีประชด

    "ก็เขาน่ารักน่าหม่ำซะขนาดเนี่ย แค่ฉันเจอหน้าเขาในระยะสิบเมตรก็จะละลายอยู่แล้ว" แพททำตาหวานย้อย

    "งั้นก็เชิญไปกินเดวิลเรนของเธอให้อิ่มก็แล้วกัน พิ้ง เราไปกินข้าวกัน" ซีพูดจบก็ลากฉันเข้าไปในโรงอาหาร สักพักแพทก็เดินเบ้หน้าตามเข้ามา

    "ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย เธออยู่ที่นี่มาได้สองปีกว่าๆแล้วนะ เรื่องพวกเนี่ยเธอไม่เคยได้ยินบ้างเลยรึไง" แพทพูดกับฉันก่อนจะตักข้าวใส่ปาก ฉันส่ายหน้าไปมาแล้วก็เหลือบไปเห็นผู้ชายห้าคนใส่เสื้อโค๊ทแขนยาวสีดำแบบเดียวกันคลุมทับเสื้อนักเรียน เดินเรียงเป็นแถวหน้ากระดานกันเข้ามาในโรงอาหาร ฉันสังเกตุเห็นคนที่อยู่ตรงกลาง เสื้อโค๊ทที่เขาใส่เป็นตัวเดียวกันกับที่ฉันเห็นเมื่อเช้านี้

    "นี่พวกเธอ นั่นใช่เรนรึเปล่า" ฉันส่งสายตาไปทางพวกกลุ่มผู้ชายที่ฉันเห็น

    เคร๊ง!!! ยัยแพททำช้อนหล่นกระทบจาน สายตาจ้องไปที่กลุ่มผู้ชายพวกนั้น ซีเองก็ดูตกใจไม่แพ้กัน

    "ดะ...เดวิล บลัด" แพทพูดเสียงตะกุกตะกัก ซีเองก็ทำหน้าตะลึงไปกับภาพที่เห็น พวกผู้ชายพวกนั้นเดินผ่านพวกเราไปทางด้านหน้าโรงอาหาร ฉันเพิ่งสังเกตุว่าตรงนั้นมียัยหัวแดงยืนอยู่

    "อะไรหรอ เดวิล บลัดน่ะ" ฉันถาม

    "แก๊งของเรน ทุกคนได้รับฉายาเป็นเดวิล" ซีอธิบาย แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่แก๊งเดวิล บลัด "คนที่มีผ้าคาดหัวสีแดงน่ะ เดวิลเค เป็นคนที่แข็งกระด้างมาก คนที่ยืนข้างขวาเรน ที่มีผ้าพันอยู่ที่ข้อมือน่ะ เดวิลเลิฟ คนนี้น่ะ นักรักสมชื่อ ถือว่าเป็นคนที่ใจเย็นแล้วมีอารมณ์ขันที่สุดในแก๊งเลยนะ ส่วนคนที่ไฮไลท์ผมสีทองน่ะ เดวิลบลู เป็นคนที่เย็นชามาก และคนสุดท้ายเดวิลไฟท์ มีประวัติทำคนเข้าโรงพยาบาลมาแล้วหลายคน ถ้าเดวิล บลัด มารวมตัวกัน ก็จะกลายเป็นสุดยอดแห่งความน่ากลัวเลยล่ะ"  พวกเขาดูน่ากลัวอย่างที่ซีบอกจริงๆ มองนานๆแล้วเหมือนรอบๆตัวพวกเขามันมืดๆยังไงก็ไม่รู้ อึ๋ย! แต่ขนาดมองระยะไกลขนาดนี้ ฉันยังเห็นได้เลยว่า แต่ละคนน่ะหน้าตาไม่ใช่ธรรมดาเลย ไม่แปลกที่แพทจะคลั่งมากขนาดนี้ ฉันเลิกสนใจเดวิล บลัด แล้วกินข้าวต่อ พอกินเสร็จแล้ว ฉันก็เดินออกมาจากโรงอาหารพร้อมกับแพทและซี พวกเราเดินขึ้นห้องกันไปเพื่อที่จะเตรียมพรีเซ็นต์งานหน้าห้อง เพิ่งเปิดเทอมได้ไม่ถึงเดือน งานก็รุมจนตัวจะบิดกันเป็นเกลียวอยู่แล้ว ทุกๆปีก็เป็นแบบนี้ แต่ติดตรงที่ว่าปีนี้ฉันต้องเตรียมตัวสอบเอ็นทรานส์เข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังที่ฉันใฝ่ฝันมานาน มันเลยยิ่งทำให้ยุ่งเข้าไปใหญ่ ฉันกับซีและแพทเพิ่งเข้ามานั่งในห้องได้ไม่ถึงสิบนาที ขณะที่เรากำลังยุ่งอยู่กับฟิวเจอร์บอร์ดแผ่นยักษ์ ที่มีคนประทับตรารอยเท้าเป็นอนุสรไว้ดูเล่นอยู่เต็มแผ่น เสียงคุยที่ดังแซดหยุดลงกระทันหัน พร้อมกับเสียงประตูที่ถูกเปิดกระแทกกับกำแพงห้อง แพทกับซีที่นั่งอยู่ตรงข้ามฉัน มองไปที่ประตูอย่างตกตลึง คนอื่นๆก็มีอาการเช่นเดียวกัน ฉันหันหลังไปมองทางประตู เฮือก!!! เดวิล บลัด มากันทั้งแก๊งเลย ตอนนี้แต่ละคนกำลังกวาดสายตาไปรอบๆห้องแล้วมาหยุดที่ฉัน เรนเดินแทรกเข้ามา ชี้นิ้วมาที่ฉัน

    "เธอ! ช่วยมากับพวกเราหน่อย" เสียงที่ดังเกือบจะเป็นเสียงตวาด ทำเอาคนทั้งห้องสะดุ้งเฮือก รวมทั้งตัวฉันเอง ตอนนี้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว ฉันหันไปทางเพื่อนรักทั้งสองที่ยืนแข็งทื่อเป็นรูปปั้น ทั้งสองคนส่ายหน้าช้าๆอย่างยากลำบาก เป็นเหมือนสารเตือนจากพระเจ้าว่า 'อย่าไปเลย' ยังไม่ทันที่ฉันจะได้คิดอะไรต่อ เรนก็ฟาดมือลงบนโต๊ะดังลั่น

    ปัง!!! โอ๊ย ฉันหายใจไม่ทันแล้ว ฮือๆ เอาไงดี~

    "ช่วย-มา-กับ-พวก-เรา-ด้วย!!!" เรนพูดเสียงดังขึ้น ชัดเจน แจ่มแจ้ง ฮือๆ น่ากลัวเป็นบ้าเลย ฉันค่อยๆ ก้าวเท้าไปอย่างช้าๆ แต่ดูเหมือนมันจะก้าวไม่ค่อยออก ง่า...ตัวฉันชาไปหมดแล้ว และดูเหมือนความเฉื่อยของฉันจะไม่ทันใจเรน เขาเลยเข้ามาแล้วลากฉันออกไปข้างนอกห้อง แล้วเหวี่ยงตัวฉันไปกระแทกกับกำแพง โอ๊ย! เจ็บชะมัด สมแล้วที่เป็นเดวิล ฉันกลัวจนจะบ้าตายอยู่แล้ว ฮือๆ

    "มีอะไร ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย" ฉันเป็นฝ่ายพูดก่อน

    เรนก้มหน้ามาใกล้กับฉัน ใบหน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ ยิ่งดูใกล้ๆ คนพวกนี้มีแต่จะยิ่งหล่อขึ้น ให้ตายเหอะ! ฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย!!!

    "แพรวบอกว่า เธอไปหาเรื่องเขา" อ๋อ มาเรื่องยัยหัวแดงเองหรอ คงเป็นแฟนนายล่ะสิ เหมาะสมกันดี๊ดี

    "หาเรื่องที่ไหนกันล่ะ ก็เธอทำไม่ถูก" ฉันตอบเรน ก็มันจริงนี่ ฉันไม่ได้ไปหาเรื่องยัยนั่นสักหน่อย

    "ทำไม่ถูก? แพรวทำอะไร" เรนเอาหน้าออกจากฉันแล้วเปลี่ยนเป็นยืนกอดอกแทน

    "แซงคิว" ฉันตอบสั้นๆ ทำเอาเรนขมวดคิ้วเข้าหากัน

    "เรื่องแค่นี้เอง เธอยอมเขาไม่ได้รึไง" โอ้โห...ไอ้เราก็คิดว่ามันรักความยุติธรรม ถึงได้มาคุยถึงห้อง ที่แท้ก็ยุติธรรมลำเอียง

    "คนอื่นอาจจะยอม แต่ฉันไม่ชอบ"

    "หึ เธอนี่ตลกดีแฮะ เธอไม่รู้รึไงว่าแพรวเป็นใคร ถึงได้กล้าไปยั่วโมโหแพรวแบบนั้นน่ะ" เรนเลิกคิ้วถามฉัน พวกที่ยืนอยู่ข้างหลังเรนก็ดูไปยิ้มไป ไม่เห็นพวกนี้จะทำอะไรเลย พ่วงกันมาด้วยทำไมเนี่ย

    "ก็ตอนแรกไม่รู้ เพิ่งรู้เมื่อกี้"

    "ฮ่าๆๆ วู้!" เสียงหัวเราะ ดังมาจากพวกที่อยู่ข้างหลังเรน พวกนายมาเพื่อประกอบฉากรึไงยะ ฮึ่ม!

    "หึๆ เธอมาอยู่ที่นี่กี่ปีแล้วเนี่ย ถึงไม่รู้จักแพรว งั้นตอนแรกเธอก็คงไม่รู้จักฉันด้วยงั้นสิ" ตอนนี้สถานการณ์ที่ตึงเครียดเริ่มหายไป เรนก็เริ่มเปลี่ยนน้ำเสียงดุๆมาเป็นการสนทนาธรรมดาๆ

    "ก็ใช่"

    "เธอนี่มัน เอ๋อได้โล่จริงๆเลย ฮ่าๆๆ" เรนหัวเราะลั่นไปพร้อมๆกับพวกเดวิลทั้งหลาย

    "ฉันไปได้รึยัง" ฉันถามออกไปสั้นๆ แต่เป็นเครื่องหยุดเสียงหัวเราะของพวกเดวิลชั้นดี แง~สถานการณ์กลับมาเครียดเหมือนเดิมแล้ว

    "เธอคิดว่าพวกเราจะปล่อยเธอไปง่ายๆรึไง" เรนพูดขึ้น แล้วพยักหน้าให้พวกเดวิล เท่านั้นแหละค่ะ ไอ้พวกเดวิลก็เข้ามาลากฉันไปที่ชั้นหก มันสูงสุดของอาคารแล้วนี่นา พวกมันจะพาฉันไปไหนอีกล่ะเนี่ย ฉันถูกพวกเดวิลลากจนมาถึงประตูบานใหญ่ๆที่ถูกห้ามเข้ามาหลายปี แต่เฮ๊ย! เรนกำลังผลักประตูออก พวกเดวิลลากฉันขึ้นบันไดชันๆไปจนสุด และแล้ว...โอ้โห เรียนมาเป็นปี ไม่ยักรู้ว่าโรงเรียนมีดาดฟ้า

    "ไม่ต้องตกใจหรอก เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เธอคนเดียวที่ไม่เคยรู้" ผู้ชายหน้าหวานๆที่เดินนำมา หันมาพูดกับฉัน ดูท่านายนี่น่าจะเป็นเดวิลเลิฟนะ

    "เธอเตรียมตัวรับบทลงโทษของเรนไว้ให้ดีเถอะ หึๆๆ" เดวิลบลูพูดกับฉัน พวกเขาจะทำอะไรฉันอีกเนี่ย!!!

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น