[The Mask Singer] Nice To Meet You (อีกากินทุเรียน) - [The Mask Singer] Nice To Meet You (อีกากินทุเรียน) นิยาย [The Mask Singer] Nice To Meet You (อีกากินทุเรียน) : Dek-D.com - Writer

    [The Mask Singer] Nice To Meet You (อีกากินทุเรียน)

    ไม่รู้ทำไมใจถึงสั่น เรารักกันแล้วเหรอฉันสงสัย ทำไงดีจะเอาเธอออกจากใจ แต่เธอบอกรู้ไว้ไม่มีทาง

    ผู้เข้าชมรวม

    2,370

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    2.37K

    ความคิดเห็น


    15

    คนติดตาม


    78
    หมวด :  แฟนฟิคไทย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 ก.พ. 60 / 09:10 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    #อีกากินทุเรียน อย่าลืมติดแท็กตอนเม้าท์มอยนะคะ

    @yasineenisay

    ปล. เรื่องนี่เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาจะทำให้บุคคลใดเสื่อมเสียรวมถึงมีเนื้อหาของชายรักชายใครไม่ชอบสามารถปิดได้นะคะ

     

               หน้ากากทุเรียนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเจอกับอะไรเมื่อเดินผ่านประตูไปยังบนเวทีหรือว่าความรู้สึกแบบไหนที่เขาจะได้รับกลับมา เจ้าตัวรู้แค่ว่าต้องทำให้ดีที่สุดในฐานะนักร้องคนหนึ่งและเมื่อครั้งแรกผ่านมาแล้วเขาจึงคิดว่าอาจจะทำให้ครั้งอื่นๆง่ายขึ้น แต่แล้วเขาก็รู้ว่าความรู้สึกที่ผ่านมาเทียบไม่ได้กับการซ้อมร้องเพลงคู่กับบุคคลคนนี้ในตอนนี้เลย

              

         “มาช้าไปหน่อยนะครับ” ประโยคถูกกล่าวขึ้นมาลอยๆผ่านหน้ากากสีดำสนิทเสียงแปร่งๆที่ลอดออกมาจากลำโพงยิ่งทำให้ประโยคดูกวนตีนขึ้นไปอีก เขาได้แต่ทำใจยอมรับว่าต้องเจออะไรแบบนี้ไปอีกหลายชั่วโมงจึงไม่ได้ทำอะไรนอกจากเป็นฝ่ายรับฟัง

              

         “ผมจะปิดลำโพงแล้วนะครับ ยังไงรบกวนเลิกชวนผมคุยด้วย” เขาไม่รู้ว่าอีกคนทำสีหน้าแบบไหนอยู่แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกผิดนิดๆที่เพิ่งปฏิเสธการสนทนากระชับมิตรไป

              

         ดนตรีเพลง They don’t know about us ของ one direction ดังคลอขึ้นมาทำให้คนที่อยู่ภายใต้หน้ากากสีเขียวสงสัยไม่ได้เพราะเพลงนี้ไม่ใช่เพลงที่พวกเขาจะใช้ร้องคู่กันแต่มันเป็นเพลงเดี่ยวของอีกคนที่กำลังจะต้องขึ้นร้อง

     

    People say we shouldn’t be together

    (ผู้คนต่างบอกว่าเราไม่น่ามาอยู่ด้วยกันเลย)

    We're too young to know about forever

    (บอกว่าเรายังเด็กเกินไปที่จะรู้จักคำว่า ตลอดชีวิต)

             

              และท่อนอื่นๆก็ดังตามมาเรื่อยๆพร้อมกลับอีกคนที่ค่อยๆเดินเข้ามาเขาที่ก้าวพร้อม จังหวะเพลงที่ยังคงดำเนินต่อไปผิดกับเขาที่นิ่งสนิทอยู่กับที่ก้าวขาไม่ออก

     

    They don’t know about the things we do
    (พวกเขาไม่รู้เรื่องสิ่งที่เราทำหรอกนะ)

     

    They don’t know about the “I love you”

    (พวกเขาไม่รู้เรื่องที่ว่า ฉันรักเธอหรอกนะ)

     

              เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่อีกคนเกือบจะเดินมาถึงเขาเต็มทนแต่ครั้งนี้เขากลับก้าวไปข้างหลังได้เอง เขาหันมองไปรอบๆแต่กลับไม่เห็นทีมงานสักคนจนเขารู้ตัวแล้วว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่ถูกพามาที่นี้ เขาถูกหลอกซะแล้ว

     

    They don’t know about the up all nights

    (พวกเขาไม่รู้เรื่องที่เราอยู่กันทั้งคืน)

    They don’t know I’ve waited all my life

    (ไม่รู้ว่าฉันรอมาทั้งชีวิตฉันแล้วหรอก)

             

              ท่อนใกล้จบของเพลงดังขึ้นพร้อมกับที่หลังของเขาชนกำแพงพอดี หนามของหน้ากากกระแทกกำแพงดังป๊อกๆ เมื่ออีกคนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดินเข้ามา สิ่งที่เขากำลังจะต้องเจอต่อไปอาจจะน่ากลัวพอๆกลับการขึ้นเวทีครั้งแรกเลยก็ได้

     

    Just to find a love that feels this right

    (แค่เพียงพอหาความรักที่มันรู้สึกว่าใช่)

     

    Baby they don’t know about

    (ที่รัก พวกเขาไม่รู้หรอก)

     

              เพลงท่อนสุดท้ายจบลงพอดีพร้อมกับจะงอยปากของหน้ากากอีกคนที่ชนเข้ากับหน้า กากของเขาพอดีรวมถึงความใกล้ที่หากยุงจะบินผ่านสักตัวคงต้องขอทาง เสียงแปร่งๆลอดมาจากหน้ากากคล้ายเป็นการลองเสียงพร้อมกับอีกคนที่ก้มหน้าเล็กน้อยลงมามองเขา

              

         “ละลายเป็นทุเรียนกวนไปแล้วเหรอครับ นิ่งเชียว”

              

         “นี่คุณ!” เพราะความตกใจหรือหน้าที่ร้อนผ่าวตอนนี้ทำให้เขาเผลอตวาดออกมาซะเสียงดังพร้อมกับเสียงจริงที่เขาลืมไปว่าตัวเองปิดลำโพงได้ก่อนหน้านี้ ถึงเขาจะมองไม่เห็นภายใต้หน้ากากนั้นแต่เขาก็สัมผัสได้ถึงรอยยิ้มชั่วร้ายที่อีกคนส่งมาให้

              

         ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรมืออีกฝ่ายกลับเอื้อมมาภายใต้หน้ากากพร้อมกลับเสียงคลิ๊กเบาๆที่เกิดขึ้นพร้อมกับเสียงแปล่งๆ

              

         “ตอนนี้พูดได้แล้วนะครับ”

              

         “มันจะมีประโยชน์อะไร เมื่อกี้คุณได้ยินเสียงผมไปแล้วนี่”

              

         “ผมไม่บอกใครหรอกครับว่าแต่ ... เพลงที่ผมร้องเมื่อกี้เป็นยังไงบ้างครับช่วยวิจารณ์หน่อย”

              

         อีกคนก้าวถอยหลังออกไปทำหน้าอากาศแถวนี้ดูถ่ายเทสะดวกขึ้นมาอีกเท่าตัว เขายืนอึกๆอักๆพูดไม่ออก

              

         “ผมไม่มีอะไรจะวิจารณ์หรอกครับ”

              

         ใช่เขาไม่มีอะไรจะวิจารณ์หรอกเพราะอีกคนร้องดีขนาดนั้นแถมช่วงหลังๆเขาเองก็ไม่ได้ฟังอีกตั้งหาก เมื่ออีกคนเห็นเขาพูดแบบนั้นก็แอบคอตกจนทำให้เขาอดที่จะชมไม่ได้

              

         “ที่ผมไม่ได้พูดอะไรเพราะคุณร้องดีมากตั้งหาก” เมื่อจบประโยคหน้ากากอีกาเหมือนกลายเป็นคนละคน สภาพนกป่วยเมื่อกี้ถูกสลัดออกไปจนหมดจนทำให้รู้ว่าเขาเองติดกับเสียแล้ว

              

         “นั่นแหละครับเพลงที่ออกมาจากใจยังไงก็เพราะ”

              

         “พูดดีไปเถอะเดี๋ยวตอนร้องจริงจะรอดูว่าจะทำได้ดีเท่านี้ไหม” ร่างของคนที่เคยอยู่ห่างตอนนี้กลับอยู่ใกล้ซะยิ่งกว่าเดิม แขนข้างหนึ่งถูกยกขึ้นมาดันติดกำแพงพร้อมกับอีกข้างที่อยู่ใต้หน้ากากของตัวเอง อีกฝ่ายโน้มหน้าเข้าหาอีกคนโดยไม่ได้กลัวหนามบนหน้ากากเลยแม้แต่น้อย เสียงกระซิบแหบพร่าดังตามมาเมื่อได้องศาที่พอเหมาะ

              

         “นั่นขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมาดูผมร้องรึเปล่านะครับ”

              

         “โอ้ย นี่บ้านคุณขายทองหยอดรึไงหยอดอยู่ได้” เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นตามมา ขนาดคนพูดยังไม่เห็นว่าจะมีตรงไหนที่มันตลกแล้วทำไมอีกฝ่ายต้องหัวเราะด้วย

              

         “จริงๆผมก็ชอบกินทองหยอดนะ แต่ไม่ได้ชอบไปมากกว่าทุเรียนหรอกนะครับ”


    ------------------------------------------------------------------

    TALK : ไม่รู้ว่ากระแสจะออกมาเป็นยังไงแต่ใครที่หลงเข้ามาตอนจนถึงตอนนี้ก็ขอให้หาทางออกเจอนะคะ ตอนนี้แอบชอบเรือนี้มาก ไม่ว่าใครจะเป็นหัวเรือก็ต้องขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย ถ้ามีตรงไหนแปลกๆสามารถติชมกันได้นะคะ อ่านฟิคแล้วอย่าลืมกลับไปดูรายการน้าาาา 555555 รักทุกคนขอบคุณค่ะ 

             

             

     

     

             

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×