[GrinDence] Before
กรินเดลวัลไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนในชีวิต แต่เด็กคนนี้ทำให้เขารู้ว่าทิศทางไหนคือทิศทางที่ถูกต้อง อย่างน้อยเขาก็ก้าวเดินไปได้อีกก้าวแล้วกัน
ผู้เข้าชมรวม
339
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
Grindence
title : Before
Grinderval x
Credence
กรินเดลวัลคือชื่อของเขา
พ่อมดที่ร้ายกาจ น่ากลัว และเป็นตำนานแห่งยุคนี้ ทุกๆวันเวลาที่ผ่านไปเหล่าสภาเวทมนต์ในหลายๆประเทศต่างตามล่าตัวเขาอย่างบ้าคลั่งเพราะเกรงว่าเขาอาจจะทำอันตรายใดๆต่อโลกเวทมนต์ใบนี้
ซึ่งเหล่าสภาต่างคิดถูกกันทั้งหมด
แต่ว่าโลกของพวกเขาจะไม่ยุ่งเหยิงและสูญเสียภายในวันนี้ พรุ่งนี้ อาทิตย์นี้
หรือปีนี้ เพราะตอนนี้เขากำลังตามหาบางอย่างอยู่ อาวุธสำคัญล้ำค่ากว่าสิ่งไหน 'ออบคูรัส'
ด้วยความบังเอิญหรือเพราะโชคชะตาทำให้วันหนึ่งเขาพบกับเด็กแจกใบปลิวทรงผมประหลาดอยู่ในตรอกแคบๆย่านสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
มือที่มีรอยแผลมากมายของเขาสั่นอยู่ตลอดเวลา สายตาหลุบต่ำมองพื้นราวกับว่ามันคือทองคำชั้นดี
แขนที่ยืดตึงพร้อมกับใบปลิวแผ่นบางๆสองสามแผ่น
ในใบปลิวเขียนเป็นตัวหวัดใจความต่อต้านพ่อมดแม่มดอย่างชัดเจน
เขาเดินเข้าไปหาอย่างสงสัย
“สวัสดี” เพียงสายตาคู่นั้นมองขึ้นมาเขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างในตัวเด็กคนนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ในตอนนั้นเขากลับรู้ตัวเพียงแค่ว่าคำทักทายแรกของเขาถูกเมินเสียแล้ว
“สวัสดี
เธอชื่ออะไรน่ะ” เขาย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเขาแน่นอน สายตาที่ละออกจากใบหน้าของเขาเมื่อครู่กลับจ้องมองมาอีกครั้งพร้อมกับใบปลิวที่ยื่นมาให้เขาข้างหน้า
เขารับไว้เป็นมารยาทก่อนจะจ้องอีกคนอย่างเอาคำตอบและเป็นอีกฝ่ายที่ทนไม่ไหว
“ครีเดนซ์
แบร์โบนส์” เสียงนั้นถูกเอ่ยออกมาโดยที่เจ้าของนั้นไม่ได้มองเขาแต่อย่างใด
“ครีเดนซ์ เธอเกลียดพ่อมดเหรอ” เขาถามเมื่ออ่านใบปลิวที่ถูกยื่นให้ผ่านๆ
“เปล่า ...
แต่แม่เลี้ยงของผม เธอเกลียดพวกแม่มดพ่อมด เกลียดมาก”
“แล้วแม่เลี้ยงของเธอเป็นใครกัน”
“เธอเป็นคนเลี้ยงเด็กกำพร้า
อยู่ตรงนู้น” เมื่อจบประโยคอีกคนก็ชี้มือไปอีกฝากของตรอกถนนก่อนที่นะลดมือลงอย่างรวดเร็วราวกับว่าเพียงแค่ชี้นิ้วก็อาจทำให้เขาบาดเจ็บได้
“แล้วแผลที่มือของเธอล่ะ
แม่เลี้ยงของเธอเป็นคนทำอย่างนั้นเหรอ” อีกคนรีบนำมือไปไว้ข้างลำตัวทันทีที่ได้ยินคำถาม
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาเพียงเสียววิก่อนที่จะก้มหน้าลงไปอีกครั้งพร้อมพยักหน้าเบาๆ
เมื่อไม่ได้ต้องการจะถามอะไรต่อเขาเองก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ
เขายิ้มจางๆให้คนตรงข้ามโดยที่ไม่ได้จะหวังจะให้อีกคนได้เห็นก่อนจะเดินจากไป หยิบติดเพียงความสงสัยและใบ
ปลิวบางๆสองสามแผ่นติดมือมาด้วย
เมื่อเขาเดินพ้นออกจากตรอกแคบเวทย์มนต์ถูกร่ายออกมาเบาๆก่อนที่ทิวทัศน์ที่เห็นจะเปลี่ยนไปเป็นที่พักประจำของเขาในกลางเมือง
เรื่องที่พบในวันนี้อดทำให้เขาคิดไม่ได้ว่าเพราะอะไรเขาถึงได้ติดใจกับเด็กคนนั้นนักหนา
สัมผัสจากใบปลิวแผ่นบางที่เขากำไว้แน่นทำให้เขาต้องวางมันบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจนัก
ก่อนจะเดินออกไปทำอย่างอื่นเพื่อเรียกสติ
กรินเดลวัลใช้ชีวิตอย่างไม่ค่อยรีบร้อนนักเพื่อวางแผนอยู่เงียบๆ
สองสามวันที่ผ่านมาจากวันที่เขาพบเด็กผมทรงประหลาดที่เขาไม่มั่นใจนักว่าที่ครีเดนซ์รึเปล่า
เขาอดคิดเรื่องเด็กคนนั้นไม่ได้เลย เขาเองก็แปลกใจน่าดู ก่อนที่สุดท้ายเขาก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าทุกๆครั้งที่เขากลับถึงห้องสิ่งแรกที่เขามองหาคือใบปลิวขาดๆสองสามแผ่น
ปกติเขาจะเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ดีแต่เมื่อได้พบกับเด็กคนนี้เขากลับสติกระเจิงจนบางที่เขาก็คิดว่าเด็กคนนี้อาจจะช่วยเขาในประสบความสำเร็จในวันหน้า
หลังจากวันที่เขาคิดแบบนั้นนี่ก็วันที่สี่แล้วที่เขากลับมาที่ตรอกแคบเดิมๆที่เขาเคยมา
เขาเฝ้ามองอีกคนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก สิ่งที่เขาเห็นเหมือนวนลูปอยู่อย่างนั้นในทุกวัน
คนเดิมๆ กิจกรรมเดิมๆ รวมถึงรอยแผลที่เดิมๆ
เด็กหนุ่มคงไม่คิดจะไปเดินแจกใบปลิวในตัวเมืองเพราะทุกๆวันเขาจะเห็นอีกคนอยู่ในตรอกแคบๆตรงนี้เสมอ
ถึงจะไม่มีใครเดินผ่านมาและอีกคนรู้ตัวว่าจะต้องเจ็บหนักแน่เมื่อกลับไปแต่เขาก็ยังคงยืนนิ่งไม่ไปไหนจนหมดวัน
รอยแผลที่มือบ่งบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าคงมีแค่ไม่กี่วันที่อีกคนแจกใบปลิวจนหมด
และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขามายืนดูอีกฝ่ายแต่วันแปลกนิดหน่อยตรงที่ว่าหยาดฝนโปรยปรายเล็กน้อยแต่ถึงสภาพอากาศจะเปลี่ยนแต่คนก็ไม่ถอย
ครีเดนซ์เอาตัวกำบังใบปลิวในมืออย่างลนลานเมื่อในอีกแค่ไม่กี่นาทีต่อมาฝนก็เทลงมาอย่างหนัก
และในตอนนี้เองที่เขาตัดสินใจเสกร่มคันใหญ่ขึ้นก่อนจะตรงไปหาอีกคน
“นี่เธอ
มาหลบฝนกับฉันก่อนสิ” เขาตะโกนผ่านสายฝนที่ตอนนี้เริ่มทำให้เขาพูดไม่รู้เรื่อง
อีกคนเงยหน้ามองเขาอย่างตกใจก่อนจะผละถอยหลังไปสองสามก้าวจนต้องเป็นเขาที่เดินเอาร่มไปบังฝนให้อีกคนไว้
อาจจะเป็นเพราะอีกคนอยู่ในสภาพงงว่าอยู่ๆเขาโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้หรือเพราะตอน
นี้อากาศภายในร่มชักเริ่มร้อนทำให้อีกคนก้มหน้ายิ่งกว่าเดิม
เขาเริ่มรู้สึกว่าถ้าอยู่แบบนี้ต่อไปเขาคงได้ประสาทเสียแน่บางทีการชวนคุยเล็กน้อยอาจจะพอช่วยได้บาง
“นี่
เธอมาแจกใบปลิวตรงนี้ทุกวันเลยเหรอ” เขาถามคำถามที่ตัวเขาเองก็รู้อยู่แล้ว
แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะคิดว่าเขาบังเอิญผ่านมาจึงได้แต่พยักหน้าน้อยๆเป็นคำตอบ
“ฉันว่าตรงนี้มันไม่ค่อยมีคนเลยนะ
ทำไมเธอไม่ไปแจกใบปลิวในเมืองหรือที่ไกลๆกว่านี้หน่อยล่ะ”
เขาเริ่มถามคำถามที่ตัวเขาเองอยากรู้คำตอบจริงๆ
“แม่เลี้ยงของผม
... เธอบอกว่าให้ผมอยู่ในตรอกนี้ห้ามไปไหน”
“ขืนแจกตรงนี้สามวันเธอก็แจกไม่หมดหรอก”
เขาหงุดหงิดเล็กๆเมื่อรู้คำตอบของอีกฝ่าย
ถ้าคิดในแง่ดีมากคือแม่เลี้ยงของอีกฝ่ายไม่อยากให้ลูกอยู่ห่างไกลจากสายตามากนักเลยให้มาแจกในนี้
แต่ถ้าในแง่ของความเป็นจริงคือแม่เลี้ยงใจร้ายอยากลงโทษลูกชายจนใจจะขาดเพราะรู้ว่ายังไงก็อีกคนก็แจกไม่หมดแน่ๆ
ถ้าอยู่ในตรอกร้างๆนี่
“แล้วนี่เธอกลับบ้านไปโดนตีตลอดเลยเหรอ”
เขาถามเมื่อนึกถึงแผลตรงมืออีกฝ่ายขึ้นมาได้ ผิดกับอีกคนที่รีบซ่อนมือไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็วก่อนที่ส่ายหน้าเชิงตอบ
คำโกหกคำโตที่ไม่ได้มีความเชื่อถืออะไรเลยทำให้กรินเดลวัลอดที่จะสงสารปนสมเพศในชีวิตอีกฝ่ายไม่ได้
แต่เพื่อเห็นแก่ความอะไรสักอย่างที่เขาหวังว่าจะสามารถหาคำตอบในภายหลังได้
เขาแกล้งหยิบยาทาแผลตลับเล็กๆที่เขาเสกไว้ออกมาจากเสื้อคลุม
ก่อนจะขู่แกมบังบังคับอีกฝ่าย
“ยื่นมือออกมาสิ”
อีกคนได้แต่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อได้ยินคำสั่งจนเขาเองก็อดที่จะแก้ตัวไม่ได้
“ฉันไม่ได้จะทำร้ายเธอหรอกแค่จะทายาให้น่ะ”
เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมยื่นมืออกมาเองแน่เขาจึงเอื้อมไปจับมืออีกคนแทนและก็เป็นอย่างที่เขาคิด
แผลมากมายอยู่บนมือเด็กหนุ่ม เขาบรรจงทายาให้อีกฝ่ายจนตัวเขาเองก็ยังแปลกใจ เด็กคนนี้ทำให้เขาแปลกใจได้ตลอด
เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ฝนหยุดตก
สายรุ้งสีสวยพาดลงบนท้องฟ้าโปร่งตามธรรมชาตินั่นเป็นเวลาที่ร่มคันสวยไร้ประโยชน์เสียแล้ว
เขาหุบร่มพลางยืนตลับยาให้อีกฝ่าย
“เอาไว้ใช้แล้วกันนะ
ฉันให้ยังไงก็คงไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้ว”
แววตาที่เขาคิดว่าพยายามปั้นแต่งให้มันดูหวังดีถูกส่งให้อีกฝ่ายก่อนที่ตลับยาจะถูกรับเอาไป
และในวันนั้นเองก็กรินเดลวัลรู้ว่าตัวเองควรจะดำเนินแผนการอย่างไรต่อไป
ผ่านมาสามสี่วันแล้วที่ครีเดนซ์ไม่ได้เห็นชายหนุ่มลึกลับเจ้าของตลับยาที่ให้เขาไว้
เขาแจกใบปลิวไปตามปกติและมันก็ไม่เคยจะหมดเหมือนเคย
เขาเพียงแค่หวังว่าจะมีคนเข้ามาพูดคุยกับเขาอีกสักครั้ง
และหวังว่าจะคืนตลับยานี้ให้เจ้าตัวด้วย
แต่หลายวันที่ผ่านมาเขากลับไม่เคยอีกเห็นอีกฝ่ายเลย
วันนี้เป็นอีกวันที่เขาหวังว่าจะได้พบเจออีกฝ่ายแต่ก็ไร้วี่แววเหมือนเคยจนตัวเขาเองก็แอบถอดใจไปแล้วด้วยซ้ำ
ใบปลิวปึกใหญ่ที่เขาถือไว้ทำให้เขากลัวไม่ได้ทุกที
รอยแผลที่ไม่เคยจะได้แห้งสนิททำให้เขาคิดถึงอีกฝ่ายทุกครั้งที่ได้สัมผัสตัวยา
ควรจะถอดใจสักที
เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงถือใบปลิวปึกใหญ่ไว้แนบออกก่อนที่จะเตรียมตัวหันหลังกลับไปสถานที่ๆเขาหวังว่าจะเรียกมันว่าบ้านได้เต็มปากในสักว่า
แต่สัมผัสอุ่นๆบนไหล่ทำให้เขาหยุดชะงักก่อนจะหันหน้าไปมองอีกคนที่เขาแทบไม่รู้สึกตัวว่ามาตอนไหน
“สวัสดีหนุ่มน้อย
พอดีว่าฉันสนใจอยากได้ใบปลิวทั้งหมดของเธอน่ะ”
“คะ ... คุณเป็นใคร”
“ฉันชื่อเพอร์ซิวาล
เกรฟส์ เธอล่ะชื่ออะไร”
ครีเดนซ์ไม่ได้ตอบคำถามออกไปเพียงแต่แค่สบตาอีกฝ่ายเพียงชั่ววูบทำให้เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้จะตัวเขาเป็นอย่างดี
และทำไม แววตานั้นมันถึงได้คุ้นเคยอย่างน่าประหลาด
ทักได้ตลอด อยากคุยมากที่ twitter : @yasineenisay
***************************************************************************************
TALK : สวัสดีค่ะนี่เป็นฟิคคู่นี้คู่แรกที่เขียน ฮืออออออ มีแต่คนจิ้น Gradence ไม่ก็ Granewt คู่นี้นี่แอบเป็นเรือผีมากๆ เอาจริงๆคือแต่งสนองนีดค่ะ ถ้าภาษาตรงไหนแปลกๆ บอกได้นะคะ คืออารมณ์เหมือนเมากาวแล้วมาแต่ง ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่หลงเข้ามาอ่านกันได้นะคะ หวังว่าจะชอบกันเนอะ555555
ปล. ขอขอบคุณธีมจาก "SQWEEZ" ด้วยนะคะ อยากได้ธีมสวยๆลิ้งคืด้วนล่างเลย
https://writer.dek-d.com/tongfar/writer/view.php?id=1128553
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ yasineenisay ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ yasineenisay
ความคิดเห็น