[GrinDence] Before - [GrinDence] Before นิยาย [GrinDence] Before : Dek-D.com - Writer

    [GrinDence] Before

    กรินเดลวัลไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนในชีวิต แต่เด็กคนนี้ทำให้เขารู้ว่าทิศทางไหนคือทิศทางที่ถูกต้อง อย่างน้อยเขาก็ก้าวเดินไปได้อีกก้าวแล้วกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    339

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    5

    ผู้เข้าชมรวม


    339

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    3
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 ม.ค. 60 / 13:46 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    Grindence

    title : Before

    Grinderval x Credence

              กรินเดลวัลคือชื่อของเขา พ่อมดที่ร้ายกาจ น่ากลัว และเป็นตำนานแห่งยุคนี้ ทุกๆวันเวลาที่ผ่านไปเหล่าสภาเวทมนต์ในหลายๆประเทศต่างตามล่าตัวเขาอย่างบ้าคลั่งเพราะเกรงว่าเขาอาจจะทำอันตรายใดๆต่อโลกเวทมนต์ใบนี้ ซึ่งเหล่าสภาต่างคิดถูกกันทั้งหมด แต่ว่าโลกของพวกเขาจะไม่ยุ่งเหยิงและสูญเสียภายในวันนี้ พรุ่งนี้ อาทิตย์นี้ หรือปีนี้ เพราะตอนนี้เขากำลังตามหาบางอย่างอยู่ อาวุธสำคัญล้ำค่ากว่าสิ่งไหน 'ออบคูรัส'

              

         ด้วยความบังเอิญหรือเพราะโชคชะตาทำให้วันหนึ่งเขาพบกับเด็กแจกใบปลิวทรงผมประหลาดอยู่ในตรอกแคบๆย่านสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มือที่มีรอยแผลมากมายของเขาสั่นอยู่ตลอดเวลา สายตาหลุบต่ำมองพื้นราวกับว่ามันคือทองคำชั้นดี แขนที่ยืดตึงพร้อมกับใบปลิวแผ่นบางๆสองสามแผ่น

             

         ในใบปลิวเขียนเป็นตัวหวัดใจความต่อต้านพ่อมดแม่มดอย่างชัดเจน เขาเดินเข้าไปหาอย่างสงสัย

              

         “สวัสดี” เพียงสายตาคู่นั้นมองขึ้นมาเขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างในตัวเด็กคนนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ในตอนนั้นเขากลับรู้ตัวเพียงแค่ว่าคำทักทายแรกของเขาถูกเมินเสียแล้ว

              

         “สวัสดี เธอชื่ออะไรน่ะ” เขาย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเขาแน่นอน สายตาที่ละออกจากใบหน้าของเขาเมื่อครู่กลับจ้องมองมาอีกครั้งพร้อมกับใบปลิวที่ยื่นมาให้เขาข้างหน้า เขารับไว้เป็นมารยาทก่อนจะจ้องอีกคนอย่างเอาคำตอบและเป็นอีกฝ่ายที่ทนไม่ไหว

              

         ครีเดนซ์ แบร์โบนส์” เสียงนั้นถูกเอ่ยออกมาโดยที่เจ้าของนั้นไม่ได้มองเขาแต่อย่างใด

              

         ครีเดนซ์ เธอเกลียดพ่อมดเหรอ เขาถามเมื่ออ่านใบปลิวที่ถูกยื่นให้ผ่านๆ

              

         “เปล่า ... แต่แม่เลี้ยงของผม เธอเกลียดพวกแม่มดพ่อมด เกลียดมาก”

              

         “แล้วแม่เลี้ยงของเธอเป็นใครกัน”

              

         “เธอเป็นคนเลี้ยงเด็กกำพร้า อยู่ตรงนู้น” เมื่อจบประโยคอีกคนก็ชี้มือไปอีกฝากของตรอกถนนก่อนที่นะลดมือลงอย่างรวดเร็วราวกับว่าเพียงแค่ชี้นิ้วก็อาจทำให้เขาบาดเจ็บได้          “แล้วแผลที่มือของเธอล่ะ แม่เลี้ยงของเธอเป็นคนทำอย่างนั้นเหรอ” อีกคนรีบนำมือไปไว้ข้างลำตัวทันทีที่ได้ยินคำถาม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเขาเพียงเสียววิก่อนที่จะก้มหน้าลงไปอีกครั้งพร้อมพยักหน้าเบาๆ

              

         เมื่อไม่ได้ต้องการจะถามอะไรต่อเขาเองก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ เขายิ้มจางๆให้คนตรงข้ามโดยที่ไม่ได้จะหวังจะให้อีกคนได้เห็นก่อนจะเดินจากไป หยิบติดเพียงความสงสัยและใบ ปลิวบางๆสองสามแผ่นติดมือมาด้วย

              

         เมื่อเขาเดินพ้นออกจากตรอกแคบเวทย์มนต์ถูกร่ายออกมาเบาๆก่อนที่ทิวทัศน์ที่เห็นจะเปลี่ยนไปเป็นที่พักประจำของเขาในกลางเมือง เรื่องที่พบในวันนี้อดทำให้เขาคิดไม่ได้ว่าเพราะอะไรเขาถึงได้ติดใจกับเด็กคนนั้นนักหนา สัมผัสจากใบปลิวแผ่นบางที่เขากำไว้แน่นทำให้เขาต้องวางมันบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะเดินออกไปทำอย่างอื่นเพื่อเรียกสติ

     

              




         กรินเดลวัลใช้ชีวิตอย่างไม่ค่อยรีบร้อนนักเพื่อวางแผนอยู่เงียบๆ สองสามวันที่ผ่านมาจากวันที่เขาพบเด็กผมทรงประหลาดที่เขาไม่มั่นใจนักว่าที่ครีเดนซ์รึเปล่า เขาอดคิดเรื่องเด็กคนนั้นไม่ได้เลย เขาเองก็แปลกใจน่าดู ก่อนที่สุดท้ายเขาก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าทุกๆครั้งที่เขากลับถึงห้องสิ่งแรกที่เขามองหาคือใบปลิวขาดๆสองสามแผ่น

              

         ปกติเขาจะเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ดีแต่เมื่อได้พบกับเด็กคนนี้เขากลับสติกระเจิงจนบางที่เขาก็คิดว่าเด็กคนนี้อาจจะช่วยเขาในประสบความสำเร็จในวันหน้า

              

         หลังจากวันที่เขาคิดแบบนั้นนี่ก็วันที่สี่แล้วที่เขากลับมาที่ตรอกแคบเดิมๆที่เขาเคยมา เขาเฝ้ามองอีกคนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก สิ่งที่เขาเห็นเหมือนวนลูปอยู่อย่างนั้นในทุกวัน คนเดิมๆ กิจกรรมเดิมๆ รวมถึงรอยแผลที่เดิมๆ

              

         เด็กหนุ่มคงไม่คิดจะไปเดินแจกใบปลิวในตัวเมืองเพราะทุกๆวันเขาจะเห็นอีกคนอยู่ในตรอกแคบๆตรงนี้เสมอ ถึงจะไม่มีใครเดินผ่านมาและอีกคนรู้ตัวว่าจะต้องเจ็บหนักแน่เมื่อกลับไปแต่เขาก็ยังคงยืนนิ่งไม่ไปไหนจนหมดวัน รอยแผลที่มือบ่งบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าคงมีแค่ไม่กี่วันที่อีกคนแจกใบปลิวจนหมด

              

         และวันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขามายืนดูอีกฝ่ายแต่วันแปลกนิดหน่อยตรงที่ว่าหยาดฝนโปรยปรายเล็กน้อยแต่ถึงสภาพอากาศจะเปลี่ยนแต่คนก็ไม่ถอย ครีเดนซ์เอาตัวกำบังใบปลิวในมืออย่างลนลานเมื่อในอีกแค่ไม่กี่นาทีต่อมาฝนก็เทลงมาอย่างหนัก และในตอนนี้เองที่เขาตัดสินใจเสกร่มคันใหญ่ขึ้นก่อนจะตรงไปหาอีกคน

              

         “นี่เธอ มาหลบฝนกับฉันก่อนสิ” เขาตะโกนผ่านสายฝนที่ตอนนี้เริ่มทำให้เขาพูดไม่รู้เรื่อง อีกคนเงยหน้ามองเขาอย่างตกใจก่อนจะผละถอยหลังไปสองสามก้าวจนต้องเป็นเขาที่เดินเอาร่มไปบังฝนให้อีกคนไว้

              

         อาจจะเป็นเพราะอีกคนอยู่ในสภาพงงว่าอยู่ๆเขาโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้หรือเพราะตอน นี้อากาศภายในร่มชักเริ่มร้อนทำให้อีกคนก้มหน้ายิ่งกว่าเดิม เขาเริ่มรู้สึกว่าถ้าอยู่แบบนี้ต่อไปเขาคงได้ประสาทเสียแน่บางทีการชวนคุยเล็กน้อยอาจจะพอช่วยได้บาง

              

         “นี่ เธอมาแจกใบปลิวตรงนี้ทุกวันเลยเหรอ” เขาถามคำถามที่ตัวเขาเองก็รู้อยู่แล้ว แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะคิดว่าเขาบังเอิญผ่านมาจึงได้แต่พยักหน้าน้อยๆเป็นคำตอบ

              

         “ฉันว่าตรงนี้มันไม่ค่อยมีคนเลยนะ ทำไมเธอไม่ไปแจกใบปลิวในเมืองหรือที่ไกลๆกว่านี้หน่อยล่ะ” เขาเริ่มถามคำถามที่ตัวเขาเองอยากรู้คำตอบจริงๆ

              

         “แม่เลี้ยงของผม ... เธอบอกว่าให้ผมอยู่ในตรอกนี้ห้ามไปไหน”

              

         “ขืนแจกตรงนี้สามวันเธอก็แจกไม่หมดหรอก” เขาหงุดหงิดเล็กๆเมื่อรู้คำตอบของอีกฝ่าย ถ้าคิดในแง่ดีมากคือแม่เลี้ยงของอีกฝ่ายไม่อยากให้ลูกอยู่ห่างไกลจากสายตามากนักเลยให้มาแจกในนี้ แต่ถ้าในแง่ของความเป็นจริงคือแม่เลี้ยงใจร้ายอยากลงโทษลูกชายจนใจจะขาดเพราะรู้ว่ายังไงก็อีกคนก็แจกไม่หมดแน่ๆ ถ้าอยู่ในตรอกร้างๆนี่

              

         “แล้วนี่เธอกลับบ้านไปโดนตีตลอดเลยเหรอ” เขาถามเมื่อนึกถึงแผลตรงมืออีกฝ่ายขึ้นมาได้ ผิดกับอีกคนที่รีบซ่อนมือไว้ด้านหลังอย่างรวดเร็วก่อนที่ส่ายหน้าเชิงตอบ

              

         คำโกหกคำโตที่ไม่ได้มีความเชื่อถืออะไรเลยทำให้กรินเดลวัลอดที่จะสงสารปนสมเพศในชีวิตอีกฝ่ายไม่ได้ แต่เพื่อเห็นแก่ความอะไรสักอย่างที่เขาหวังว่าจะสามารถหาคำตอบในภายหลังได้ เขาแกล้งหยิบยาทาแผลตลับเล็กๆที่เขาเสกไว้ออกมาจากเสื้อคลุม ก่อนจะขู่แกมบังบังคับอีกฝ่าย

              

         “ยื่นมือออกมาสิ” อีกคนได้แต่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อได้ยินคำสั่งจนเขาเองก็อดที่จะแก้ตัวไม่ได้

              

         “ฉันไม่ได้จะทำร้ายเธอหรอกแค่จะทายาให้น่ะ” เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมยื่นมืออกมาเองแน่เขาจึงเอื้อมไปจับมืออีกคนแทนและก็เป็นอย่างที่เขาคิด แผลมากมายอยู่บนมือเด็กหนุ่ม เขาบรรจงทายาให้อีกฝ่ายจนตัวเขาเองก็ยังแปลกใจ เด็กคนนี้ทำให้เขาแปลกใจได้ตลอด

              

         เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ฝนหยุดตก สายรุ้งสีสวยพาดลงบนท้องฟ้าโปร่งตามธรรมชาตินั่นเป็นเวลาที่ร่มคันสวยไร้ประโยชน์เสียแล้ว เขาหุบร่มพลางยืนตลับยาให้อีกฝ่าย

              

         “เอาไว้ใช้แล้วกันนะ ฉันให้ยังไงก็คงไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้ว” แววตาที่เขาคิดว่าพยายามปั้นแต่งให้มันดูหวังดีถูกส่งให้อีกฝ่ายก่อนที่ตลับยาจะถูกรับเอาไป และในวันนั้นเองก็กรินเดลวัลรู้ว่าตัวเองควรจะดำเนินแผนการอย่างไรต่อไป


     

     

              

         ผ่านมาสามสี่วันแล้วที่ครีเดนซ์ไม่ได้เห็นชายหนุ่มลึกลับเจ้าของตลับยาที่ให้เขาไว้ เขาแจกใบปลิวไปตามปกติและมันก็ไม่เคยจะหมดเหมือนเคย เขาเพียงแค่หวังว่าจะมีคนเข้ามาพูดคุยกับเขาอีกสักครั้ง และหวังว่าจะคืนตลับยานี้ให้เจ้าตัวด้วย แต่หลายวันที่ผ่านมาเขากลับไม่เคยอีกเห็นอีกฝ่ายเลย

              

         วันนี้เป็นอีกวันที่เขาหวังว่าจะได้พบเจออีกฝ่ายแต่ก็ไร้วี่แววเหมือนเคยจนตัวเขาเองก็แอบถอดใจไปแล้วด้วยซ้ำ ใบปลิวปึกใหญ่ที่เขาถือไว้ทำให้เขากลัวไม่ได้ทุกที รอยแผลที่ไม่เคยจะได้แห้งสนิททำให้เขาคิดถึงอีกฝ่ายทุกครั้งที่ได้สัมผัสตัวยา

              

         ควรจะถอดใจสักที เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงถือใบปลิวปึกใหญ่ไว้แนบออกก่อนที่จะเตรียมตัวหันหลังกลับไปสถานที่ๆเขาหวังว่าจะเรียกมันว่าบ้านได้เต็มปากในสักว่า แต่สัมผัสอุ่นๆบนไหล่ทำให้เขาหยุดชะงักก่อนจะหันหน้าไปมองอีกคนที่เขาแทบไม่รู้สึกตัวว่ามาตอนไหน

              

         “สวัสดีหนุ่มน้อย พอดีว่าฉันสนใจอยากได้ใบปลิวทั้งหมดของเธอน่ะ”

              

         “คะ ... คุณเป็นใคร”

              

         “ฉันชื่อเพอร์ซิวาล เกรฟส์ เธอล่ะชื่ออะไร”

              

         ครีเดนซ์ไม่ได้ตอบคำถามออกไปเพียงแต่แค่สบตาอีกฝ่ายเพียงชั่ววูบทำให้เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้จะตัวเขาเป็นอย่างดี และทำไม แววตานั้นมันถึงได้คุ้นเคยอย่างน่าประหลาด


    ทักได้ตลอด อยากคุยมากที่ twitter : @yasineenisay


    ***************************************************************************************

    TALK : สวัสดีค่ะนี่เป็นฟิคคู่นี้คู่แรกที่เขียน ฮืออออออ มีแต่คนจิ้น Gradence ไม่ก็ Granewt คู่นี้นี่แอบเป็นเรือผีมากๆ เอาจริงๆคือแต่งสนองนีดค่ะ ถ้าภาษาตรงไหนแปลกๆ บอกได้นะคะ คืออารมณ์เหมือนเมากาวแล้วมาแต่ง ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่หลงเข้ามาอ่านกันได้นะคะ หวังว่าจะชอบกันเนอะ555555


    ปล. ขอขอบคุณธีมจาก "SQWEEZ" ด้วยนะคะ อยากได้ธีมสวยๆลิ้งคืด้วนล่างเลย

    https://writer.dek-d.com/tongfar/writer/view.php?id=1128553 

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×