บทความนี้มอบให้ แม่ - บทความนี้มอบให้ แม่ นิยาย บทความนี้มอบให้ แม่ : Dek-D.com - Writer

    บทความนี้มอบให้ แม่

    บทความนี้มอบให้ แม่

    ผู้เข้าชมรวม

    445

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    445

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 ต.ค. 49 / 15:22 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    เป็นเรื่องของ ผู้ชายคนหนึ่งซึ่งรู้จักกันดี แล้วรุ้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก

    ได้ดัดเปลงมาจากความเป็นจริง ของสังคมสมัยนี้

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      บทความนี้มอบให้ แม่


      ถ้าให้จัดเรียงความสำคัญของ ’ผู้หญิง’
      ในชีวิตเรามาสามอันดับแรก น่าเป็นดังนี้

      อันดับที่หนึ่ง คือ “แม่”

      อันดับที่สอง คือ “แม่”

      อันดับที่สาม คือ “แม่”

      ใช่ครับ ผมกำลังจะพูดถึง “แม่”
      สิ่งที่เราทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว แต่ว่าอาจมีบ้างบางครั้งที่เราหลงลืมไป
      จนขาดความใส่ใจกับบุคคลใกล้ตัวท่านนี้

      จำได้มั๊ยครับ ครั้งสุดท้ายที่คุณกอดแม่น่ะเมื่อไหร่?
      อย่าบอกนะว่าคุณอายุมากเกินไปแล้ว...เป็นไปไม่ได้
      ไม่มีใครแก่เกินกว่าจะกอดแม่หรอก

      ผมอยากอวดแม่ของผมครับ

      แม่ผมเป็นคนบ้านนอก เชยๆ ผมชอบนั่งแอบมองแม่เวลาแกเผลอ
      หล่อนอยากทำอะไร ผมก็ปล่อยให้แกทำ

      ล่าสุดนี่เธอเหยาะน้ำยาปรับผ้านุ่มลงไปในน้ำสุดท้ายของการอาบน้ำให้หมาด้วย

      ด้วยเหตุผลของคนซื่อ คือเธอบอกว่า ทำตั้งหลายครั้งแล้ว
      ก็ไม่เห็นหมามันบ่นอะไร

      แม่ผมเรียนมาน้อย
      เรียกว่าไม่ได้เรียนเลยก็เกือบจะว่าได้ เธอศึกษาทุกอย่างด้วยการจำ
      เห็นเขาพูดเขาทำอะไรในโฆษณาก็พยายามเอามาใช้กับลูกชาย
      ครั้งนึงผมน้ำเข้าหู เธออวดภูมิด้วยการบอกให้ผมใช้ไม้สำลีเช็ดหูของ
      จอห์นสันไมโครบัส


      ผู้หญิงคนเดียวกันนี้เองที่ลากครกกับสากกะเบือออกไปตำน้ำพริกมะม่วงนอกบ้าน

      เพราะเห็นลูกชายกำลังนอนหลับอยู่ในบ้าน
      ไม่ใช้ตำแค่นอกบ้านนะ แต่เธอออกไปตำนอกรั้วบ้านเลยทีเดียว

      ผมกับแม่ ทุกวันนี้เราอาศัยอยู่ด้วยกันที่ต่างจังหวัด
      ทุกครั้งที่ผมขับรถเข้ามาคุยงานในกรุงเทพฯ
      เธอยังคงทำกับข้าวใส่กล่องมาให้ผมกินอยู่เสมอ
      และเธอไม่เคยลืมที่จะเด็ดดอกจำปีหน้าบ้าน
      มาใส่ในกล่องข้าวด้วยทุกครั้ง

      ผมตื้นตัน แต่! แม่ครับ
      ผมอยากจะบอกแม่ว่า...ดอกจำปีมันไม่อร่อยเลยครับ


      เมื่อไม่นานมานี้ครอบครัวของเราได้มีวาสนาไปออกรายการโทรทัศน์
      รายการ “ เจาะใจ ”

      ผมบอกแม่ว่า “นี่เธอ ชั้นจะพาเธอไปออกโทรทัศน์นะ
      ดีใจมั๊ย”

      แม่อิดออด แบ่งรับแบ่งสู้ “ไม่เอาดีกว่ามั๊งลูก
      เดี๋ยวเขาถามอะไรแล้วแม่ตอบไม่ได้”

      “แม่ครับ รายการเขาไม่ได้มีสิบหกคำถาม สามตัวช่วย
      ถามใครก็ได้ ตอบได้สองครั้ง หรือว่าเปลี่ยนคำถาม ถึงแม่จะตอบผิด
      เกมส์เขาก็ไม่ได้จบลงทันทีซะเมื่อไหร่ นะแม่นะ ไปด้วยกันเถอะนะ”

      “ไม่เอาหรอก แม่ไม่ไปดีกว่า”

      “เอาน่าแม่ ไปด้วยกันเถอะ”

      “ไว้ถึงวันนัดก่อนแล้วกัน แม่จะให้คำตอบ”

      แล้วคำตอบของแม่ก็คือ การตื่นไปทำผมตั้งแต่มืด
      ร้อยวันพันปีเธอเคยเข้าร้านเสริมสวยกับเขาซะที่ไหน

      แต่ผมก็รู้ดีว่าเธอไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง...เธอทำเพื่อชายไทยทั้งประเทศต่างหาก!!!!!!!!!!

      เรื่องราวแม่มีมากมายไม่รู้จบ
      เป็นนิทานให้เรานั่งมองได้ไม่รู้เบื่อ ถ้าเราจะหาเวลาว่างๆ
      นั่งลอบมองดูเธอคนนั้นบ้างเท่านั้นเอง

      ผมเชื่อว่า แม่ของพวกเราทุกคนมีมุมน่ารัก
      ให้เราได้อมยิ้มอยู่เสมอ

      เป็นเรื่องน่าแปลก
      ที่เรามักจะรู้กันอยู่ในใจว่าเรารักผู้หญิงคนนี้

      แต่ทว่าเรากลับนั่งกินข้าวกับเธอน้อยกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ
      ซะอีก

      เราถูกสอนมาให้รักแม่

      แต่เรากลับซื้อของขวัญให้คนอื่นบ่อยกว่าซื้อให้แม่ของเราซะอีก

      เดี๋ยวนี้ผมอายุมากขึ้น แม่ก็อายุมากกว่าเราอีกเท่าตัว

      ผมยังคงนั่งแอบมองแม่อยู่ แม่ผมแก่ลงไปมาก

      หล่อนจะมีเวลามาโพสต์ท่าให้เรานั่งแอบมองได้อีกสักกี่ปี

      บนโลกกลมๆใบนี้
      ผมมัวแต่วิ่งวนเร็วจี๋จนแทบจะชนหลังตัวเองอยู่ร่อมร่อ

      ตลอดเวลาเราไขว่คว้าหาอะไรอยู่ก็ไม่รู้จนเกือบลืมผู้หญิงคนนี้

      กว่าจะนึกขึ้นมาได้ เวลาก็ผ่านไปมากมาย

      ถ้าบทความนี้ สะกิดให้ใครนึกถึงแม่ขึ้นมาได้มั่งล่ะก้อ
      ขอร้องล่ะ อย่าทำได้แค่นั่งมองแม่
      เพราะเกรงว่าเพียงแค่นั้นจะไม่ทันการณ์
      เวลาไม่ได้มีเหลือเฟือ...เวลาไม่ได้มีอยู่จริง
      สิ่งที่เรามี มันเป็นแค่นาฬิกา มันเป็นแค่ปฏิทิน
      เวลาที่แท้จริงมันเป็นของวัฏจักรเขา

      เพราะฉะนั้น เรามาเตรียมคำตอบกันเอาไว้ดีกว่า
      เผื่อมีใครถามเราว่า ครั้งสุดท้ายที่กอดแม่น่ะ มันเมื่อไหร่
      เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งเอียงคอนึกกันอีกว่า
      ครั้งสุดท้ายที่

      คุณกอดแม่น่ะเมื่อไหร่

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×