fic uta no prince ren x masa karakuri pierrot
ผู้เข้าชมรวม
874
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เฮ้อ เมื่อไหร่จะมานะ...
ชายหนุ่มผมสีน้าเงินครามคิดพลางถอนหายใจ คนอุตส่าเคลียงานเพื่อมารอแล้วแท้ๆ ผมทรงฮิเมะคัดสมัยญี่ปุ่นโบราณปรกหน้าตา ในมือกำโทรศัพท์แน่นเพื่อหัวงให้เบอร์ที่โทรไปสิบกว่าสายปรากฎขึ้นหน้าจอ
2ชั่วโมงกว่าแล้ว นี่คือคำตอบสินะ...
ฮิจิริคาว่า มาซาโตะ หรือมาสะ ถามตัวเองอีกครั้ง เขารู้ดีกว่าทั้งเราทั้งคู่ต่างเป็นไอดอลชื่อดังทั้งวงการบันเทิงและด้านธุรกิจ ทั้งที่เคยเป็นเพื่อนกัน ทั้งที่ดูจะเข้าใจกันได้ดี กลับไม่ใช่อย่างที่ใครเห็น
คงจะเป็นเพราะถูกเลี้ยงมาให้เป็นศัตรูกัน น้อยคนนักที่จะเข้าใจถึงความโหดร้ายของธุรกิจ มาซาโตะเองก็เป็นหนึ่งในคนพวกนั้น แล้วยิ่งได้เข้าวงการไอดอลที่มีกฎว่าห้ามมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเพื่อนอีก ทำให้ความเป็นไปได้ของเขากับอีกคนดูห่างเหินจนแทบจะไม่มีโอกาสด้วยซ้าไป
แถมอีกฝ่ายยังเป็นผู้ชายอีกด้วย...
ผู้ชายสุดจะม่อที่ชื่อว่าอิกูจิ เร็น....
พอคิดมาถึงตรงนี้ ร่างโปร่งก็หน้าแดงขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ มือที่ผอมบางยิ่งกว่าผู้หญิงค่อยๆกดดูข้อความในไลน์ที่ส่งไปตั้งแต่เมื่อวาน
‘ฉันรักนาย มาเจอกันที่สวนสาธารณะของวันพรุ่งนี้ เวลา9:00น.’
แค่คำว่า’อ่าน’ยังไม่ขึ้นเลย... ร่างโปร่งคิดอย่างเย้ยหยันตัวเอง
“ถ้าไม่มา ก็บอกกันหน่อยสิ”มาซาโตะพูดเสียงสั่น ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังแตกออกเป็นเสี่ยง แต่มันก็ยังไม่เท่ากับความจริงตรงหน้า มือบางกำเสื้อตรงอกข้างซ้ายไว้แน่นราวกับเจ็บปวดอย่างสาหัส
“โดนเกลียดจนได้ แล้วทีนี้จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย “ชายหนุ่มพิงต้นไม้ก่อนค่อยๆทรุดลงไปนั่ง ปล่อยให้น้าตา อารมณ์และความรู้สึกทั้งหมดไหลหายไปสู่ความมืดมน
ขณะเดียวกัน
เสียงทุ้มติดร้อนแรงนิดๆร้องเพลงอยู่บนเวทีโดยมีบรรดาแฟนคลับนับหมื่นจ้องมองบ้าง กระโดดเต้นบ้างจนน่าปวดหัว หลังจากเพลงจบลง ก็มีเสียงกรี้ดตามมาเป็นระลอกคลื่น
“กรี้ดดดดดด ท่านเร็นนนนน”
“ท่านหล่อมากเลยค่า”
“เพลงเพราะสุดๆเลยยยยยยยยย”
อิกูจิ เร็น หนึ่งในทายาทธุรกิจชื่อดังได้แต่ยิ้มและขยิบตาให้ตามภาษาเจ้าตัว
“เพื่อเลดี้ทั้งหลาย อยากให้ผมทำอะไรก็บอกได้เลยครับ”ชายหนุ่มพูด เรียกเสียงกรี้ดอีกระลอกได้เป็นอย่างดี แต่ยังไม่ทันฟังเสียงเหล่านั้นจบ อิจิโนเสะ โทคิยะก็ขึ้นมาบนเวที เสียงโห่ร้องดีใจของแฟนคลับอีกคนก็ดังพร้อมกันราวกับนัดหมาย ทั้งสองแตะมืออย่างรู้งานก่อนที่เร็นจะลงจากเวที
“เฮ้อ เบื่อจังแฮะ”เขาพูดพลางนั่งลงบนโซฟาในห้องแต่งตัว เรียงควงามสนใจจากอิตโตกิ โอโตยะที่กำลังเตรียมตัวร้องคู่กับคนที่อยู่บนเวทีได้เป็นอย่างดี
“เอาน่า ก็เขาเรียกพวกเรากันแค่สามคนนี่ ยังไงก็อีกแปปเดียวเอง”ร่างโปร่งยิ้มร่าตามฉบับเจ้าตัวก่อนถามสิ่งที่ค้างคาใจมานาน”ว่าแต่นายไม่สนใจผู้หญิงคนไหนบ้างเหรอ? เล่นทำตัวม่อขนาดนี้มันต้องมีบ้างสิ”
เร็นคิ้วกระตุกกับคำถามแกมประชดของเพื่อนร่วมทีมพลางนั่งเถียงคำพูดนั้นในใจ ไม่ได้ม่อซะหน่อย แค่ทำตัวเรียกเรตติ้ง อีกอย่าง...
“จะไปมีได้ยังไงกัน ไอดอลห้ามมีความรัก ลืมแล้วรึไง?”
“ฮะๆๆๆ ไม่ใช่อย่างงั้น แค่อยากรู้ว่าคนแบบนายจะมีหัวใจรึเปล่า โอ๊ะ ได้เวลาแล้ว ฉันไปก่อนนะ”โอโตยะพูดพร้อมรีบปิดประตูทำให้รองเท้าเจ้ากรรมที่ตามมาติดๆชนกับประตูเข้าอย่างจัง
“เจ้านั่น... จะไม่มีได้ไงเล่า หัวใจน่ะ...”
แค่ไปอยู่กับคนใกล้ตัว... แค่นั้นเอง...
“จะว่าไปแล้ว... เล่นโทรศัพท์สักหน่อยดีกว่า”ไม่พูดเปล่า มือควานหาโทรศัพท์กระเป๋าใบใหญ่ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็เจอ แต่สิ่งที่น่าตกใจคือข้อความที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอ
‘54สายไม่ได้รับกับอีก1ข้อความ ใครกัน...’ร่างสูงคิดอย่างหัวเสีย แต่ก่อนที่มือหน้าจะเลื่อนดูรายชื่อ ใครบางคนก็เข้ามาเสียก่อน
“เร็นซัง ตานายแล้วนะ รีบเตรียมตัวเร็ว”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตะโกนเรียก ชายหนุ่มวางโทรศัพท์ลงกับโซฟาแล้วเดินออกไป จึงไม่ทันเห็นว่า โทรศัพท์นั้นได้สั่นอีกครั้ง หน้าจอสว่างวาบที่ชื่อ’masato’ไม่กี่นาทีก่อนจะดับลงอีกครั้ง...
‘หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สา... ติ๊ด’มาซาโตะไม่รอให้เครื่องคอมพิวเตอร์พูดจบ เขาตัวสายทิ้งเป็นครั้งที่55ก่อนทรุดตัวลงพิงต้นไม้ดั่งเดิม สายตาทอดมองไปทัศนภาพโดยรอบซึ่งตอนนี้ไม่ค่อยเหลือใครแล้วเนื่องจากฟ้าเริ่มมืดเต็มที
“จะรอดีมั้ยนะ”ร่างโปร่งถามตัวเองเบาๆ ขาเรียวยันตัวเองขึ้นแล้วมุ่งหน้าไปที่ทางออกก่อนจะชะงักกระทันหันเมื่อใบหน้าใครบางคนลอยเด่นขึ้นมาอยู่ในหัว
จะรออีกหน่อยคงไม่เสียหายหรอกมั้ง...
“เฮ้อ เสร็จสักที โทคิยะกลับเลยมั้ย?”น้าเสียงร่าเริงอันเป็นเอกลักษณ์ถามขึ้นหลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว คนที่ถูกเรียกหันมาแล้วพยักหน้าเบาๆอย่างไม่ใส่ใจสักเท่าไหร่ แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ร่างโปร่งลดความสดใสแต่อย่างใด
“แล้วเร็นล่ะ”โอโตยะหันไปถามพื่อนร่วมทีมอีกคน แต่ยังไม่ทันจะได้รับคำตอบ ไฟในห้องก็ดับลง สร้างความแตกตื่นให้แก่คนที่อยู่ทั้งด้านในและนอกห้องเป็นอย่างมาก โทคิยะหยิบมือถือเข้าไปที่โหมดไฟฉายก่อนจะส่องแสงไฟไปที่คนข้างๆซึ่งกระโจนเข้าตัวเขาทันทีที่ไฟดับเพียง0.001วินาที
“แค่ไฟดับน่ะ ฉันว่าอย่าเพิ่งออกไปเลย คนข้างนอกยังเยอะอยู่ รถก็ติด”เร็นพูดด้วยน้าเสียงไม่ยี่หระ ดวงตาคมกริบจ้องไปที่มือถือก่อนขมวดคิ้วจนเป็นปมกับสายที่ไม่ได้รับอีก96สายและ1ข้อความ
‘4ชั่วโมงผ่านไปเพิ่มขึ้นมาอีก42สายเลยเหรอ?’ร่างสูงคิดพลางเหล่มองเวลาซึ่งตอนนี้คือ3ทุ่มก่อนจะเลื่อนดูรายชื่อแล้วต้องตกใจอีกครั้งกับสิ่งที่ปรากฎขึ้นบนหน้าจอ
มาซาโตะ 96 สายไม่ได้รับ
เร็นรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกแช่แข็ง ทั่วทั้งร่างชาเหมือนโดนอะไรสักอย่างกดทับ ในหัวสมองมีแต่คำถามว่าทำไม เกิดอะไรขึ้น มีเรื่องอะไรร้ายแรงถึงขั้นต้องโทรมา96สายเลยหรือ? แต่ยังไม่ทันหาคำตอบดี มือหนาก็เลื่อนลงมาดูข้อความที่ส่งมาตั้งแต่เมื่อคืน
‘ฉันรักนาย มาเจอกันที่สวนสาธารณะของวันพรุ่งนี้ เวลา9:00น. จาก มาซาโตะ’
“แย่ล่ะสิ! รีบไปเร็ว!!”โอโตยะที่เห็นความผิดปกติของเพื่อนร่วมทีมจึงชะโงกหน้าเข้ามาดูก่อนใช้เท้า(?)ผลักอีกคนออกไปข้างนอก เร็นที่กำลังช็อกปนงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นจึงลืมหันไปคาดโทษร่างโปร่ง รีบคว้ากระเป๋าและวิ่งออกไปข้างนอก โทคิยะเดินเข้ามายืนข้างๆคนตัวเล็ก
“นายคิดว่าเป็นยังไง”ร่างสูงถาม
“ถ้ามาสะยังไม่กลับบ้าน ฉันว่ารักกันแน่นอน!”ใบหน้าหวานยิ้มอย่างมั่นใจก่อนเดินเข้าไปเก็บของของตนเอง
ขณะเดียวกัน
ทันทีที่ชายหนุ่มขึ้นไปบนรถได้ ก็รีบสั่งคนขับรถให้เหยียบคันเร่งสุดแรงเพื่อไปยังจุดหมายทันที แต่ยังไม่ทันออกจากถนนใหญ่ได้นาน รถก็ติดจนขยับไปไหนไม่รอด
“เอ่อ ท่าทางแฟนคลับที่มางานยังจะกลับไม่หมดนะครับ ไม่ทราบว่าคุณ... ฮะ เฮ้ย!!!!!”ยังไม่ทันที่พนักงานขับรถจะพูดจบ ชายหนุ่มก็ปิดประตูรถแล้วออกวิ่งทันที
“แฮ่กๆ มาซาโตะ!!! อยู่มั้ย!?!”
ร่างสูงยืนพักกับต้นไม้ด้วยความเหนื่อย ดวงตาสีส้มเข้าสอดส่องหาร่างโปร่งที่คุ้นเคยแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่พบแม้แต่เงา... เร็นเริ่มใจเสียจึงตะโกนออกไปอีกครั้ง สุดท้ายผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม มือหนาทุบต้นไม้อย่างแรงจนใบ้ไม้ตกลงมาใส่หัว แต่เขาหาได้ใส่ใจ กัดริมฝีปากแน่นแล้วตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวด
“โธ่เว้ย!!!!!!!!”
ฉันผิดเองที่ปล่อยนายไว้...
ฉันผิดเองที่ไม่สนใจนายเลย...
ไม่แม้แต่ความรู้สึกที่นายมีให้สักนิด...
ฉัน... ฉันขอโทษ...
ได้โปรด... ปฏิหาริย์...
โป๊ก!!!!!!!!!!!!
“เจ็บ!!!!!!!!!!!!”วัตถุของแข็งปริศนากระทบกับหัวเข้าอย่างจัง ร่างสูงร้องออกมา มือหนาแตะบริเวณที่ถูกทำร้ายซึ่งคล้ายจะโน เร็นมองเจ้าคนมือบอลที่บังอาจทำร้ายไอดอลดังแห่งยุคก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเจอของวัตถุปริศนานั่นคือคนที่เขาตะโกนเรียกออกไป!!!
มาซาโตะมองด้วยสายตาเคืองจัด ในมือมือกระป๋องกาแฟส่วนอีกมือค้างท่าที่ปากระป๋องใส่เขาซึ่งมันได้บุบเล็กน้อย เร็นกลืนน้าลายอึกใหญ่กับความบ้าพลังผสมความโกรธจนกลายมาเป็นหลักฐานบนหัวเขา ใบหน้าขาวที่ดูดีแม้ในยามหลับหรือตื่นพยายามงุดหน้าลงเพื่อซ่อนแก้มที่แดงระเรื่อขึ้น
“ขอโทษ ที่ทำให้ตกใจ”เจ้าบ้า ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษ...
เขาคิดอย่างเจ็บปวด รีบรวบตัวร่างโปร่งเข้ามากอดไว้แน่นราวกับกลัวว่าจะหนีหายไป มาซาโตะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ มือที่ผอมบางยิ่งกว่าผู้หญิงทุบอกคนตรงหน้าเบาๆเชิงปล่อย
“ทะ ทำอะไรน่ะ เดี๋ยวใครมาเห็น...”
“ขออยู่อย่างนี้ก่อนเถอะ”คำพูดถูกกระซิบข้างหูยิ่งทำให้เจ้าตัวหน้าแดงด้วยความเขินอายเข้าไปใหญ่ แต่ยังไม่ทันจะอ้าปากต่อว่า คำพูดชวนหวานหูเปล่งออกมาอีกครั้ง ดวงตาสีฟ้าครามเบิกกว้างขึ้นก่อนที่จะปล่อยน้าตาออกมาช้าๆ เร็นกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกเมื่อได้ยินเสียงของร่างโปร่งเล็ดลอดออกมา
“คนอย่างนายนี่มัน... แต่ว่า ขอบใจนะ...”
‘ขอโทษสำหรับทุกอย่าง ฉันก็รักนาย’
ผลงานอื่นๆ ของ ขนมปังสีวนิลา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ขนมปังสีวนิลา
ความคิดเห็น