ณ ศตพรรษ
ณ กาลหนึ่ง ซึ่งกำเนิดสองบุรุษกล้าที่มิอาจทนทานกับความโหดร้ายทารุณเยี่ยงสัตว์นรกของผู้นำอันเกรียงไกรได้อีกต่อไป เพื่อผดุงผาสุกให้กับมนุษยชาติ
ผู้เข้าชมรวม
98
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
จากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เพื่อค้นหาสัจธรรมแห่งชิวิต
โดยมีคำสัญญาต่อหัวหน้าหมู่บ้านที่จากมาเป็นเดิมพัน
เพราะเขาทั้งสองไม่อยากเป็นนักรบประจำหมู่บ้านที่ต้องทำงานด้วยการ...ฆ่า..
และเมื่อเขาทั้งสองได้พบกับนักบวชที่น่าเลื่อมใสท่านหนึ่งชักชวนให้ไปศึกษาหาหนทางสงบร่วมกันที่สถานศึกษาอันไกลโพ้นทางฝั่งตะวันออกของดินแดนกำเนิด
เพื่อความหลุดพ้นแห่งชีวิตทั้งตนเองและคนในหมู่บ้านที่เขารักและผูกพัน
บุรุษหนึ่งนามว่า "อุศิกะ"
........เป็นหนุ่มรูปงาม บุตรแม่ค้าขายปลาจากทะเลสาบตากแห้งที่ไม่ได้จับมาด้วยตนเอง
แต่จะเลือกซื้อปลาที่ติดตาข่ายตายแล้วเท่านั้นมาทาเกลือให้ดีและตากให้แห้ง
แล้วจึงนำไปขายให้ลูกค้า
เขาเป็นคนมีจิตใจดีมีเมตตา
ผมยาวสลวยดำขลับอมน้ำตาล เติบโตมาด้วยความคิดที่ไม่ต้องการฆ่าฟันสิ่งมีชีวิตใด ๆ เพราะผู้เป็นมารดาสั่งสอนไว้
แม้ผู้เป็นบิดาจะจากไปแต่ยังเล็กและไม่ได้พบเจอกันอีกเลย เขาก็ยังเคารพและคิดถึงอยู่เสมอ
ในทุกวันเขาจะปรนนิบัติมารดาด้วยการนวดน้ำมันที่เท้าของท่านเป็นประจำ
จากอาการปวดขาปวดเท้าจากการยืนขายปลาให้ลูกค้าเป็นเวลานาน
อาหารที่เขาโปรดปรานมากก็คือ
“ผักจีระนา” ที่มักขึ้นอยู่บนยอดเขาอาโทนาร์อันสูงชัน และเขาจะปีนขึ้นไปเก็บมันด้วยตนเองเสมอ
ๆ ในทุกเดือน เขาจึงมีร่างกายที่แข็งแกร่งบึกบึน คล่องแคล่วในการปีนป่าย
ประดุจหนึ่งกระรอกน้อยก็ไม่ปาน
จนเป็นที่หมายปองของสาว
ๆ ทั่วไป แต่เขาเองก็ยังไม่ปักใจชอบใครเป็นพิเศษ อาจมีอยู่บ้างในใจลึก ๆ เมื่อผ่านไปพบกับ
"นางมะยีฮะนา" ที่โตขึ้นเป็นสาวเต็มวัย จากเด็กกระเปาะตัวน้อยที่เคยเล่นเกมลูกหิน
"มายัพ" เกมการเล่นดีดลูกหินกลมขนาดเท่าสองหัวแม่มือรวมกัน
โดยใช้นิ้วมือนิ้วใดนิ้วหนึ่งดีดลูกหินมายัพไปที่ลูกหินของฝ่ายคู่แข่ง
หากใครดีดโดนลูกหินของอีกฝ่าย คนนั้นจะเป็นผู้ชนะ และจะได้ลูกหินของอีกฝ่ายไปครอบครอง
ลูกหินมายัพนี้มักจะไปค้นหากันในแถบหาดทรายน้ำวนท้ายหมู่บ้าน เป็นลูกหินที่หายากพอ
ๆ กับการไล่จับปูลมสักตัวมาเป็นอาหารก็ไม่ปาน
ในปีแรกที่ได้เล่นด้วยกัน
อุศิกะไม่เคยเอาชนะมะยีฮะนาได้เลย เธอผู้นี้เก่งที่สุดในหมู่บ้านเลยทีเดียว
แม้นักรบที่เก่งกาจก็ต้องพ่ายแพ้แก่เธอเสมอ ในระยะที่ไกลสุดสายตามองเห็นสำหรับผู้อื่น
เธอก็ยังยิงมันโดนจนได้ แต่จะเป็นการยิงในวิถีโค้งซะเป็นส่วนมาก
ส่วนอุศิกะจะสามารถยิงได้เป็นเส้นตรงดุจลูกธนูอันรวดเร็วซึ่งพุ่งตรงไปยังจุดหมายเดียว
เธอจึงประทับอยู่ในใจของเขาตลอดมา
ยามนี้เธอโตขึ้นมากแล้ว เป็นสาวเต็มวัย ได้มาช่วยมารดาขายขนมปังสูตรฮานะประจำครอบครัว
และเธอก็ขายดีเสียด้วยสิ มันอร่อยมากเมื่อเขาได้ลิ้มรสมัน
เมื่อทานแล้วจึงคิดถึงมารดา เขาจึงนำไปฝากมารดาทุกครั้งที่เขาได้ทาน
เขาไม่เคยเบื่อที่จะเคี้ยวมันเลยสักคำเดียว
แต่ในใจลึก ๆ
ยังคงใฝ่ในการหาทางหลุดพ้นจากทุกข์ที่ทุกคนต้องพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นการเกิด การติดในรสกาม
ในรสแห่งการพนันขันต่อ ความจน ความแล้งแค้น การแก่ การเจ็บ และต้องตายไปจากโลกาแห่งมนุษย์นี้......
บุรุษที่สองนามว่า "วาบูอายี"
......เป็นเพื่อนรักแต่เด็กของอุศิกะ บุตรชาวประมงที่หากินในทะเลสาบ เมื่อบิดาได้ปลามาก็นำมาขายให้กับมารดาของอุศิกะ
เป็นเหตุให้เด็กทั้งสองได้สนิทกันมากขึ้นจนเป็นเพื่อนซี้ในที่สุด เขามีนิสัยขี้เล่น
ชอบเย้าแหย่ให้เพื่อนได้คลายความทุกข์ มีความขบขันในจิตวิญญาณอยู่เสมอ
จิตใจเมตตาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับอุศิกะ
ความสามารถที่เขามีก็คือการปลอมตัวที่เปรียบได้ราวนักมายากลผู้วิเศษ
และยังปลอมตัวให้กับเพื่อนรักของเขาให้รอดพ้นภัยจากการติดตามทำร้ายของ
"ฟิสฮายา" หนุ่มใหญ่ผู้ใจคอโหดเหี้ยมประจำหมู่บ้านมาได้อย่างหวุดหวิด
เนื่องเพราะเขาและเพิ่อนรักไปช่วยเด็กสาวคนหนึ่งให้รอดพ้นจากการถูกเหยียบย่ำความเป็นคน
และขณะที่วาบูอายีกำลังหลบหนีการตามล่าในคราวนั้น
เขาก็รู้สึกได้ในใจว่าเขาคงกำลังชอบเธอเข้าให้แล้ว
เธอผู้นี้คือ
"นางซาดาหรี"
บุตรีของชาวนาผู้ต่ำต้อยแห่งหมู่บ้านที่มักถูกรังแกอยู่เป็นประจำ
จนเขาต้องนำเธอไปฝากไว้กับผู้ทรงศีลไร้นามใต้ต้นโคนามะขนาดใหญ่ อายุนับหมื่นปี
สูงถึงชั้นเมฆที่เก้า กว้างใหญ่สุดสายตาจนมิอาจประมาณ ยามแดดจ้ามันจะช่วยบังแดด
ยามแดดร่มมันจะสยายกิ่งออกเผยอให้แสงทองส่องลงมายังพื้นโลก
ยามฝนตกหนักมันจะช่วยกำบัง
ยามฝนพรำมันจะสยายเล็กน้อยให้ผู้บำเพ็ญตบะได้รับซึ่งความเย็นสบายจากสายฝนอย่างพอประมาณ
แลวาบูอายียังปลอมตัวให้แก่นางซาดาหรีให้เป็นหนุ่มน้อยนามว่า "ดาวาฮู"
ด้วยเพื่อความปลอดภัยแก่เธอ..
ผลงานอื่นๆ ของ numnoinaamon ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ numnoinaamon
ความคิดเห็น