จัดการความรักด้วยหลัก marketing

เนื้อเรื่อง

การตลาดเป็นศาสตร์ และศิลป ที่เกี่ยวข้อง และประยุกต์ได้กับชีวิตประจำวันจริงๆ

ลองมาอ่านวิธีการทำแผนการตลาดคร่าวๆ

สมมติว่า เราต้องการจะจีบสาวสักคนหนึ่ง

ก่อนอื่นต้องตั้งเป้าหมายว่า “จะจีบผู้หญิงคนนี้ให้ติด” โดยต้องศึกษา และดูภาพรวมของผู้หญิงทั้งหมด

ซึ่งจุดนี้ตรงกับการตลาดที่ว่า “วางเป้าหมาย และมองภาพรวมของเศรษฐกิจ”

ต่อมาเราต้องวิเคราะห์ ถึงข้อดี-ข้อเสีย โอกาส-ข้อคุกคาม ที่เขาเรียกกันว่า SWOT Analysis

ก่อนอื่นเราก็มองข้อดีข้อเสียของเรา เปรียบเทียบกับคู่แข่งที่จะจีบสาวก่อน ดูว่าเราดีกว่า หรือด้อยกว่าอย่างไร

แล้วมองถึงโอกาส และข้อคุกคาม กล่าวไปคือ โอกาสทั้ง 2อันแหละ แต่เป็นทางบวกหรือทางลบ

โอกาสทางบวก คือ เขายังโสด ทางลบ คือ เขามีแฟนแล้ว (หรือจะเป็นชู้ละ)

ต่อมาเราก็มาทำ การแบ่ง และเจาะกลุ่มเป้าหมาย และตั้งเป้าตำแหน่งผลิตภัณฑ์(segmentation-targeting-positioning)

จริงๆ เราก็ได้แล้วแหละ ว่าเป้าหมาย คือหญิงคนนี้ แต่เราต้องถามต่อว่า สาวคนนี้ลักษณะยังไงละ เขาเป็นคน ไฮโซ ชอบคนเอาใจ ชอบแบบเซอๆ หรือชอบแบบนักกีฬา

ตรงนี้เป็นการมองความต้องการของเขา และจัดการตอบสนองตามที่เขาต้องการ สมมติว่า เขาชอบแบบ คนเอาใจละกัน เราต้องมีการตื๊อ และบริการที่ดีละสิ

ต่อมา เราต้องทำส่วนผสมทางการตลาด ( 4Ps Product-Price-Place-Promotion) หากมองไป คือวิธีที่เราจะเข้าหาสาวนั่นแหละ

ก่อนอื่นคือ สินค้า-บริการ กล่าวไป คือลักษณะการแต่งตัว และนิสัยของตัวเรานั่นแหละ เราต้องทำให้สอดคล้องกับเขา แต่งตัวอาจจะดูดีหน่อย มีบริการให้ แบบนี้แหละเขาเรียกว่า สินค้ามีระดับ

ต่อมา คือราคา หากเราทำหลายๆอย่างให้เขา จีบเขาแล้ว เขาต้องเริ่มประเมินคุณค่าเรา เขาอาจจะมองเรา ดีมาก ดี ปานกลาง หรือไม่ดี ก็ได้ อันนี้ คือวิธีการตีราคา จากมุมมองของเขา เพราะราคา เป็นตัวสื่อถึงคุณค่า

ต่อมาคือช่องทางการจัดจำหน่าย เป้าหมายของตัวนี้คือ มุ่งให้ผู้ซื้อพบเราบ่อย หาซื้อได้ สะดวกสบาย ดังนั้น หากเราจะจีบสาว (แล้วสมมติสาว เขาเรียน กวดวิชา สัก 3-4แห่ง) เราก็โผล่ไป ทั้ง 3-4แห่งเพื่อทักทายสิ แต่คำเตือน การไปพบทุกที่ อาจจะเหมือนว่า สินค้าอย่างเราหาซื้อได้ง่ายเกินไป ดังนั้น ควรเลือกช่องทางที่จะพบ

ส่วนสุดท้ายที่เขาว่า Promotion ปัจจุบัน คือการสื่อสาร โปรโมตตัวเองนี่แหละ เราจะโฆษณาตัวเองอย่างไร ให้เพื่อนๆ บอกต่อๆกัน ว่าเราเป็นคนดีดีไหม หรือจะทำการลด-แลก-แจก-แถม เขาทำการบ้านไม่ได้ เราไปช่วยเขาทำ ไปช่วยสอนเขา เพราะตัวนี้จะเป็นตัวช่วยสื่อ ให้สาวคนนั้นเข้าใจเราดีมากขึ้น

สุดท้าย เราต้องประเมินผล ว่า กำไร-ขาดทุน เป็นอย่างไร กำไร ก็จีบติด ขาดทุน คือแห้ว(แต่เป็นบทเรียนนะ) แล้วควรมีตัวควบคุม และประเมินผล คือ หากเราตั้งเป้าว่า จะชวนเขาไปดูหนังให้ได้ใน 3สัปดาห์ เราทำได้ไหม ตัวคุมยากไปไหม ตัวประเมินมันดีพอหรือเปล่า

สุดท้าย วิธีแบบนี้ ใช้จีบชาย ก็ได้ หรือจะใช้กับเรื่องราวในชีวิตประจำวันก็ได้

โปรดติดตามบทความหน้านะครับ