boyfriend : หลงรักนาย...น้องชายสุดหล่อ 2 - นิยาย boyfriend : หลงรักนาย...น้องชายสุดหล่อ 2 : Dek-D.com - Writer
×

    boyfriend : หลงรักนาย...น้องชายสุดหล่อ 2

    ผู้เข้าชมรวม

    426

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    426

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  8 ต.ค. 52 / 00:00 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ตอนนี้ฉันกำลังนอนใช้ความคิดอย่างหนักว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีในขณะที่สถานการณ์รอบข้างฉันกำลังวุ่นวายเป็นอย่างมาก ฉันได้ยินเสียงยัยกวางเรียกหายาดมและพิมก็กำลังเขย่าตัวฉันอย่างแรงแต่มีหรือที่ฉันจะยอมลืมตาขึ้นมาให้ขายขี้หน้าไปกว่าเดิม ตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกแล้วว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่เวิร์คเอาซะเลย ไม่ต้องเดาฉันก็รู้ว่าน้ำหวานคงกำลังยืนช็อกทำอะไรไม่ถูกอยู่ ฉันรู้สึกถึงกล้ามเนื้อแข็งแรงของใครสักคนกำลังแนบชิดกับฉันอยู่

    ผมว่าไปโรงพยาบาลดีกว่าครับใกล้แค่นี้เอง โธ่ พระพุทธเจ้าขนาดได้ยินแค่เสียงมองไม่เห็นหน้ายังตกหลุมรักได้ง่ายๆเลยนะเนี่ย แต่เอ๊ะ เมื่อกี้เขาว่าอะไรนะ จะเอาฉันไปส่งโรงพยาบาลเหรอ ไม่ได้นะฉันไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย อีกอย่างนายนี่ไม่ยอมให้ฉันทักท้วงเขาอุ้มฉันวิ่งไปที่ไหนสักแห่งฉันเดาว่าน่าจะเป็นรถของเขาน่ะแหละ จะว่าไปแล้วฉันก็แอบเคลิ้มนะเนี่ย เขาไม่ใช้น้ำหอมแต่ฉันก็ยังได้กลิ่นหอมสะอาดๆจากตัวเขาอยู่ดีไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายแบบนี้จะมาขอฉันเป็นแฟน ตอนนี้เขาวางฉันลงบนเบาะด้านหลังอย่างเบามือ รู้สึกว่ายัยกวางจะตามมาด้วยเพราะฉันได้ยินเสียงมันที่ด้านข้างคนขับ

    ไปเลยค่ะ แถมมันยังสั่งเจ้าของรถอีกต่างหาก

    ในหัวฉันคิดอย่างเร็วจี๋ว่าจะแก้สถานการณ์นี้อย่างไร สมองฉันต้องทำงานอย่างหนักแข่งกับความเร็วรถที่คนขับพยายามขับอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในสภาพที่การจราจรที่คับคั่งภายในและรอบๆมหาวิทยาลัยนี้ นับว่ากวางเป็นเพื่อนที่ดีทีเดียวมันหันมาเรียกฉันแล้วก็จับดูว่าฉันตายรึยัง มันเอามือมาอังใต้จมูกฉันฉันเลยแอบพ่นลมหายใจแรงๆใส่

    น้องแบงค์รีบกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ พี่รู้สึกว่าเพื่อนพี่มันจะกระตุกน่ะค่ะเมื่อกี้อยู่ๆมันก็หายใจแรง

    ครับ พวกบ้าเอ๊ย ฉันกระตุกที่ไหนกันล่ะยะ ว่าแล้วก็คิดออกแล้วว่าจะทำยังไงดี ฉันแกล้งหายใจแรงๆหลายครั้งจนยัยกวางตกใจ แล้วฉันก็ค่อยๆขยับตัวเป็นไงล่ะความคิดฉัน ที่ฉันคิดได้นี่เป็นผลจากการเอาเวลาว่างไปนั่งดูซีรี่ส์เกาหลีกับน้ำหวานสองสามครั้งเชียวนะ ฉันก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าการดูซีรี่ส์เกาหลีมันมีข้อดีอย่างนี้เอง ฉันขยับตัวทีละนิดพร้อมกับส่งเสียงครวญครางออกมานิดๆให้เหมือนกับคนที่เพิ่งฟื้น ได้ผล คนขับหักรถเข้าจอดทันทีก่อนจะหันมาดูให้แน่ใจอีกครั้งว่าฉันยังไม่ตาย คุณ คุณครับ รู้สึกตัวแล้วเหรอครับ เขาถามอย่างห่วงใยจะว่าไปฉันก็สงสารเขาเหมือนกันนะฉันเป็นคนแกล้งเป็นลมเองแท้ๆแต่เขาดันต้องมารับผิดชอบ

    หืม ที่นี่ที่ไหนอ่ะ ฉันแกล้งงัวเงีย

    มุก แกเป็นลมว่ะแล้วนี่แกไม่เป็นไรแล้วใช่ไหมหรือจะไปเช็คที่โรงพยาบาลให้แน่ใจ โนๆๆๆ ฉันแอบค้านยัยกวางในใจ  อยากจะบอกว่าตอนนี้ฉันตื่นเต้นชะมัดเป็นเพราะสายตาห่วงใยที่ส่งมาจากผู้ชายที่ฉันเพิ่งได้รู้จักกันเมื่อกี้นี้เอง

    คุณปวดหัวรึเปล่าครับ ผมว่าคุณควรจะไปเช็คที่โรงพยาบาลให้แน่ใจนะครับ โนๆๆๆ ไม่ต้องเป็นห่วงฉันขนาดนั้นก็ได้แค่นี้ฉันก็เล่นละครจนเหนื่อยแล้ว ขืนไปพบหมอจริงๆความก็แตกน่ะซิว่าฉันแกล้งป่วย

    ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แค่มึนๆนิดหน่อยสงสัยเพราะเมื่อคืนนอนไม่พอ ฉันก็แถไปเรื่อยน่ะแหละ

    ถ้างั้นผมไปส่งคุณที่บ้านนะครับคุณจะได้พักผ่อน ตอนนี้คนที่ช็อกกลับเป็นยัยกวางแทนเพราะฉันเห็นมันทำตาเหลือกอ้าปากกว้างอีกแล้ว คุณอยากจะกลับไปเอาของที่มหาลัยหรือเปล่าครับ เขาพูดสุภาพและดูจริงใจจนฉันไม่อยากปฏิเสธเลยนะ แต่ก็นั่นแหละผู้ชายแบบนี้อันตราย เป็นคนที่ควรจะอยู่คนละโลกกับฉัน และไม่ควรจะตกหลุมรักเป็นอันขาด!!!

    ไม่ต้องไปส่งหรอกค่ะแต่รบกวนไปส่งที่คณะก็... พูดมาถึงตรงนี้ก็เพิ่งจะนึกเรื่องสำคัญได้ว่าฉันจะเอาหน้าที่ไหนกลับไปมหาลัยตอนนี้ในเมื่อทุกคนเห็นเหตุการณ์นั้นหมดแล้ว ฉันเชื่อเลยว่าตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไปฉันต้องตกเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปแล้วแน่นอน ฉันหยุดคิดนิดหนึ่ง พี่เปลี่ยนใจแล้วค่ะขอลงตรงนี้เลยแล้วกันขอบคุณมากนะคะที่เป็นห่วง ฉันเปิดประตูรถทันทีแต่ก็ยังทันเห็นแววตาไม่พอใจที่เขาแสดงออกมาอยู่แวบๆ รีบลงซะจนเกือบลืมไปเลยนะเนี่ยว่าเล่นบทคนป่วยอยู่

    อ้าว เฮ้ย รอฉันก่อนซิมุก แล้ว...เอ่อ...เราจะทำยังไงกับพ่อเทพบุตรของฉันกันล่ะ ประโยคสุดท้ายมันลดระดับเสียงลงจนแทบจะเป็นการกระซิบ

    ดูเหมือนว่าคนที่ตอบคำถามนี้จะไม่ใช่ฉันซะแล้วเพราะพ่อเทพบุตรดูจะไม่ได้ใจดีอย่างที่ฉันคิด เขาเดินหน้าหงิกลงมาจากเมอร์เซเดสคันสวยของเขา ฉันก็เพิ่งจะได้สังเกตนี่แหละว่ารถที่เขาขับราคาหลายล้านเลยทีเดียวแต่ก็คงไม่แปลกอะไรกับฐานะครอบครัวอย่างเขา ผมไม่อนุญาต คุณเป็นลมก็เพราะผมเรื่องนี้ผมควรมีส่วนรับผิดชอบ ขึ้นรถ เขาไม่ได้ดุเลยนะ ฉันสาบานได้เลยว่าเขาไม่ได้ดุและไม่ได้ตะคอกฉันด้วยแต่ฉันรู้สึกปฏิเสธไม่ได้ยังไงไม่รู้ โดยเฉพาะยัยกวางสงสัยจะเกรงขั้นหนักถึงได้รีบกระโดดขึ้นรถไปในทันที แต่สิ่งเดียวเลยจริงๆที่ยัยนี่ไม่ควรจะทำก็คือการกระโดดเข้าไปนั่งที่เบาะหลัง ทำอย่างนี้ก็เท่ากับเป็นการบังคับให้ฉันต้องไปนั่งข้างเขาล่ะซิ ฉันลองทำใจไม่คิดอะไรมากแต่แค่แตะประตูหลังเท่านั้นแหละ

    ผมไม่ใช่คนขับรถ เชิญ เค้าเปิดประตูด้านคู่คนขับให้ฉันพร้อมกับสายตาของผู้คุมที่จ้องมองนักโทษ ดังนั้นนักโทษหญิงอัญมณีจึงทำตัวลีบมุดเข้าไปนั่งตัวเกร็งในทันที

    โชคดีที่กรุงเทพเป็นเมืองที่วุ่นวายระหว่างทางกลับบ้านจึงมีอะไรให้ฉันสนใจตลอด เฮ้อ ค่อยหายใจโล่งขึ้นหน่อย ถ้าต้องนั่งฟังเสียงเพลงสากลซึ้งๆที่เขาเปิดในรถแล้วล่ะก็มีหวังฉันนั่งไม่ติดที่แน่

    กสิกรแข็งขันเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ไทยจะเรืองอำนาจเพราะไทยเป็นชาติกสิกรรม  เสียงเรียกเข้าโบราณๆนั่นเป็นของยัยกวางฉันจำได้ ฉันแอบหันไปมองด้านข้างนิดหนึ่งเขาอมยิ้มด้วยแหละ บอกตามตรงนะมองด้านหน้าก็หล่อมองด้านข้างก็ยังหล่ออีกแม้แต่ตอนทำหน้าดุก็ยังเทตอนที่ยิ้มก็ทำเอาหัวใจคนมองละลายช่างมีพรสวรรค์ซะจริงๆคนอาไร๊

    ฮัลโหล...อืมเจ๊...กำลังจะกลับบ้าน...ไรนะ...แล้วทำไมเจ๊ไม่ไปเองล่ะ...เออๆก็ได้ก็ได้...อืมๆจะไปให้แล้วจ้าแค่นี้นะ จากบทสนทนาของยัยกวางฉันก็พอจะอนุมานได้ว่ามันกำลังจะทิ้งฉันไปแล้วให้ตายซิ ขอโทษนะคะช่วยจอดให้ฉันลงป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดด้วยนะคะ ฉันส่งสายตาเว้าวอนไปให้ยัยกวางแต่มันก็ส่งสายตาเสียดายอย่างสุดหัวใจมาให้ฉันเหมือนกัน ฉันต้องกลับบ้านเอาเอกสารไปส่งเจ๊กิ๊บที่บริษัทให้ทันบ่ายสองตอนนี้จะบ่ายโมงแล้วฉันต้องรีบไป โธ่เอ๊ย เหตุผลดันปฏิเสธไม่ได้ซะด้วยดังนั้นเมื่อถึงป้ายรถเมล์ฉันจึงได้แต่บอกยัยกวางว่าโชคดี แล้วฉันก็ต้องกลับมานั่งเกร็งในรถเช่นเคย ขอให้ถึงบ้านเร็วๆเถอะพระพุทธเจ้า

    รถคันหรูเลียบเข้าจอดหน้าบ้านฉันอย่างสวยงาม ฉันรีบขอบคุณเขาอย่างรวดเร็วโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาพูดซักคำ ฉันรีบวิ่งเข้าบ้านราวกับกลัวว่าเขาจะตามมาอย่างนั้นแหละ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด ทำไมฉันไม่เป็นตัวของตัวเองเลยนะ เขาคงรอจนแน่ใจว่าฉันเข้าบ้านเรียบร้อยแล้วฉันค่อยได่ยินเสียงรถขับออกไป

     

    ยัยไข่มุกมานี่เด๋วนี้เลยนะ ฉันได้ยินเสียงตะโกนมาก่อนตั้งแต่ตัวพี่ชายฉันยังไม่กลับเข้าบ้าน รู้สึกได้เลยว่างานนี้โดนดุแน่นอน แกยังเป็นน้องฉันอยู่รึเปล่านี่ ทิ้งพี่ชายของตัวเองได้อย่างหน้าตาเฉย  เสียงพี่เพชรดังมาตามทาง

    อะไรกันเพชรเอะอะโวยวายเสียงดังลั่นบ้าน แม่เป็นผู้เอ่ยขึ้นเมื่อพี่เพชรเดินเข้ามาถึงห้องนั่งเล่น และบังเอิญที่ทุกคนในครอบครัวอยู่กันอย่างพร้อมหน้า

    ถามลูกสาวสุดที่รักของคุณพ่อดูซิครับ พี่เพชรโบ้ยมาให้ฉันอย่างหัวเสีย

    อ้าว เฮ้ย ฉันเคยรักมันที่ไหนกันไอ้มุกนี่น่ะ แต่พ่อกับพูดไปอีกทาง

    พ่อล่ะก็ ฉันยังไม่วายหันไปทำหน้างอนให้พ่อฉันได้สะใจเล่น แล้วพี่เพชรมาว่ามุกได้ไงล่ะตัวเองเป็นคนขับรถชนเขาเองแท้ๆ คำพูดของฉันนับว่าเป็นการวางระเบิดที่ดีทีเดียว

    อะไรนะไอ้เพชร แกเอารถฉันไปขับชนเหรอ ตอนนี้ฉันปล่อยให้พ่อเป็นคนโจมตีพี่เพชรแทน

    ผมตั้งใจที่ไหนกันล่ะพ่อ ก็ยัยมุกนี่แหละเอาแต่พูดมากแถมยังถามนั่นถามนี่จนผมเบรกไม่ทันก็เลยจูบก้นงามๆเมอร์เซเดรสป้ายแดงไปหน่อยนึง ประโยคสุดท้ายพี่เพชรอ่อนลงนิดหนึ่งแต่ไม่มีประโยชน์เลยในเมื่อตอนนี้พ่อกำลังทำท่าเหมือนอยากจะฆ่าใครซักคนและฉันก็ยังมีภาวะเสี่ยงที่อาจจะเป็นคนๆนั้นอยู่

    นอกจากรถฉันจะพังแล้วฉันยังต้องเสียค่าซ่อมแพงลิ่วให้รถคนอื่นอีกเหรอเนี่ย เออ ใช่ ฉันลืมไปเลยว่าไอ้รถยี่ห้อนั้นมันแพงระยับเลยทีเดียว จริงๆแล้วพ่อก็ไม่ได้เสียใจขนาดนั้นหรอกเพียงแต่ชอบทำให้มันดูเว่อร์ๆไว้ก่อนเท่านั้นเอง นิสัยพ่อฉันเนี่ยคนเป็นลูกย่อมรู้ดีแม้แต่พี่เพชรก็รู้ข้อนี้ดี ถึงต่อให้ต้องเสียเงินซ่อมจริงๆขนหน้าแข้งพ่อฉันก็ยังไม่ร่วงหรอกไม่เชื่อไปถามนายเทพบุตรสุดหล่อนั่นได้เลยว่าเงินเดือนที่ธนาคารเขาจ่ายให้ผู้จัดการธนาคารสาขาต่างๆนั้นมูลค่าเท่าไร

    เปล่าหรอกครับพ่อ เราไม่ต้องเสียอะไรซักอย่างแถมรถพ่อก็ไม่ได้บุบสลายด้วย พ่อฉันทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อ อย่าว่าแต่พ่อเลยแม้แต่ฉันกับแม่ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าของรถคันนั้นจะไม่คิดค่าเสียหายสักบาทเดียว อะแฮ่ม เมื่อเห็นอย่างนั้นพี่ชายฉันก็ทำยืดอกสุดฤทธิ์ บังเอิญว่าเขาเป็นคนใจดีอีกอย่างรถเขาก็ไม่ได้เป็นไรมากด้วยแค่มีรอยนิดเดียวประกันชั้นหนึ่งจ่ายให้อยู่แล้ว รถยุโรปก็ดีอย่างนี้แหละเนอะพ่อเหล็กมันแข็งชนนิดชนหน่อยไม่มีทางยุบ พ่อนี่ฉลาดจริงๆที่ซื้อรถยุโรปไว้ใช้ พ่อฉันกำลังพยักหน้าเห็นด้วย พี่เพชรนี่ร้ายจริงๆทำเป็นชมพ่อจนพ่อลืมไปเลยว่าลูกชายจอมเจ้าเล่ห์เพิ่งจะไปก่อเรื่องมา

    ว่าแต่แกเถอะยัยมุกทำไมถึงทิ้งพี่เขาอย่างนั้นล่ะ อ้าว กลายเป็นฉันโดนแม่ดุซะงั้น

    หนูหิวแล้วค่ะไปทานข้าวกันเถอะ ดิฉันก็ฉลาดเอาตัวรอดเหมือนกันนะเจ้าคะคุณนพรัตน์ ฉันหันไปทำหน้าตากวนโอ๊ยใส่พี่ชาย

     

    อิ่มๆๆๆฉันเหลือบดูนาฬิกาเพิ่งจะทุ่มเดียวยังไม่ถึงเวลาอาบน้ำของฉัน ฉันก็เลยหยิบ Princess diaryขึ้นมาอ่าน หนังสือเล่มโปรดที่อ่านมาประมาณสิบรอบได้แล้วมั้ง แต่อ่านไปยังไม่ทันถึงห้าหน้าดีเลยไอ้พี่เพชรก็มาเคาะประตูกวนประสาทฉันอีกแล้ว

    รู้แล้วๆๆๆ เคาะทำไมเนี่ย ฉันเดินไปเปิดแบบอารมณ์เสีย

    ไปข้างนอกกันหน่อยดิ แม่ใช้ให้ไปซื้อหลายอย่างเลยเนี่ยพี่ไม่ชอบเดินห้างฯคนเดียว ชิ ฉันทำปากเชิดใส่แต่ก็ต้องไปด้วยอยู่ดีเพราะ เป็นคำสั่งของแม่

    เวลาทุ่มกว่าๆของเทสโก้โลตัสดูจะเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้าเยอะมากๆ ขนาดสาขานี่ไม่ได้อยู่ในเมืองมากนักก็ยังมีคนต่อคิวรอจ่ายเงินกันเพียบ ฉันแอบเห็นคนมองฉันกับพี่เพชรเดินซื้อของด้วยกันฉันรู้ว่าพวกเขาคิดอะไรกันอยู่ คงคิดว่าเราเป็นแฟนมาช๊อปของใช้เข้าบ้านกันล่ะซิ ฉันชินกับความคิดของคนทั่วไปแล้วแหละเพราะฉันกับพี่เพชรหน้าตาออกไปคนละแนวกันเลยเพราะฉันจะขาวกว่าและหน้าตาค่อนไปทางสาวหมวยโชคดีที่ว่าฉันตาและจมูกคมเหมือนพ่อนั่นเอง ส่วนพี่เพชรนั้นออกจะเหมือนแม่มากหน่อยริมฝีปากแดงและไม่ใหญ่จนเกินไป คิ้วดกดำและจมูกที่เป็นสันสวย ประกอบกับสีผิวเข้มที่ได้มาจากแม่และงานวิศวกรที่ทำอยู่ยิ่งทำให้พี่ฉันดูเร้าใจเข้าไปใหญ่ พี่เพชรเป็นคนที่สูงคนหึ่งเพราะได้ข้อดีนี้มาจากพ่อโดยรวมทั้งหมดนี้เป็นผลให้พี่ชายของฉันป๊อปปูล่าในหมู่สาวๆเสมอมา แถมพี่ชายฉันยังฉลาดเล่นกีฬาก็เก่งบวกกับมีน้องสาวน่ารักอย่างฉัน(อันหลังนี่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยว)มีหรือที่จะไม่มีใครมาสนใจ ไม่เชื่อมาดูได้เลยว่าสาวๆแอบมองพี่เพชรเยอะขนาดไหน

    คนเยอะจริง พี่เพชรบ่นเพราะเรายืนรอนานจนฉันลงไปนั่งยองๆรอแล้ว ออกไปรอพี่ข้างนอกก็ได้ ฉันไม่ปฏิเสธพี่ชายฉันเลยสักนิดเดียวเพราะฉันเมื่อยขามาก ระหว่างที่เดินออกนั้นก็เห็นหมอดูคนหนึ่งนั่งหลบมุมเก้าอี้ของห้างฯอยู่ ฉันสงสัยอยู่ว่าเขาให้หมอดูมานั่งดูดวงตรงนี้ด้วยเหรอ

    แม่หนูเข้ามานี่ซิ ฉันหันไปมองรอบๆไม่ยักกะมีใครสักคนหรือว่าเขาจะหมายถึงฉัน

    หนู...คุณหมายถึงหนูเหรอคะ ฉันชี้ที่ตัวเองและฉันถามออกไปอย่างไม่แน่ใจ หมอดูประหลาดคนนั้นไม่พูดอะไรเพียงแต่พยักหน้าเบาๆ ฉันไม่ค่อยดูดวงเพราะครอบครัวฉันไม่มีใครเชื่อถือศาสตร์แห่งการพยากรณ์และทุกครั้งที่ฉันได้ดูดวงนั้นก็เพราะบรรดาเพื่อนๆของฉันลากฉันไปด้วยนั่นเอง แต่ครั้งนี้ฉันรุ้สึกว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างให้ฉันก้าวเข้าไปตามคำเชิญของหมอดูคนนี้ ฉันเพิ่งจะสังเกตจริงๆว่าจินตนาการหมอดูยิปซีของฉันเป็นจริงก็ครั้งนี้ ฉันเพิ่งจะเคยเห็นหมอดูแต่งตัวเหมือนแม่มดเป็นครั้งแรกหญิงชราคนนี้คลุมตัวและคลุมหน้าด้วยผ้าสีดำ

    นั่งลงซิ ฉันนั่งลงตามคำของคุณยายหมอดู สับไพ่แล้วเลือกไพ่มาสี่ใบ ฉันค่อยๆสับไพ่ดูมันขลังมากๆและฉันก็มีสมาธิมากๆด้วย ไพ่ที่ฉันเลือกออกมาคุณยายหมอดูค่อยๆหงายให้ดูทีละใบ รูปที่ปรากฏในไพ่เหล่านั้นเป็นรูปที่ฉันไม่เคยเห็นในไพ่ยิปซีที่ไหนและไม่มีวันจะเข้าใจมันด้วย ไพ่ใบแรกหมายถึงอดีต ความมืดมิดในอดีตกำลังจะสว่างขึ้น ไพ่ใบที่สองหมายถึงปัจจุบัน กำลังเกิดเรื่องวุ่นวายหัวใจขึ้นแต่ไม่ต้องตกใจเมื่อเรื่องวุ่นวายนั้นจบลงเรื่องดีๆก็จะเกิดขึ้นและความสุขจะกลับมาอีกครั้ง ไพ่ใบที่สามแสดงถึงอนาคต ความสุขจะอยู่กับเธอตลอดไปไม่ว่าเธอจะเลือกใคร ไพ่ใบสุดท้ายแสดงถึงอดีตชาติของเธอ เธอมีเนื้อคู่ที่ทำบุญร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อนสองคนคนแรกพบกันแล้วแต่ก็ต้องจากกันและเขากำลังจะกลับมาส่วนอีกคนเธอเพิ่งพบเมื่อเร็วๆนี้เอง อย่าทำผิดพลาดเหมือนในอดีต  คุณยายพูดเท่านี้ก็ลุกขึ้นฉันยังไม่ทันได้ถามอะไรเลยด้วยซ้ำ

    แต่คุณยายคะหนูยังไม่เข้าใจเลยนะคะ คุณยายชะงักนิดหนึ่งแต่ไม่หันมา

    โลกนี้มีอีกหลายเรื่องที่มนุษย์เรายังไม่เข้าใจ อีกไม่นานเธอจะรู้เอง

    คุณยายคะๆๆๆ ไม่ว่าจะเรียกอย่างไรคุณยายก็ไม่หันกลับมาแม้แต่เงินค่าดูดวงฉันก็ยังไม่ได้จ่าย

    ยัยมุกๆๆไปยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้น เพราะพี่เพชรกำลังเรียกฉันฉันก็เลยไม่มีโอกาสวิ่งตามคุณยายไปแต่ฉันเชื่อว่าวันข้างหน้าฉันอาจได้เจอท่านอีก เซ้นส์ของฉันเชื่อได้อย่างแน่นอน

                    เปล่าค่ะ ฉันรีบวิ่งไปช่วยพี่เพชรเข็นรถเข็นไปที่รถในขณะที่สมองยังครุ่นคิดถึงคำทำนายนั้นตลอดเวลา วันนี้มีเรื่องน่าตกใจเกิดขึ้นกับชีวิตฉันแถมยังได้คำทำนายลึกลับๆนั่นอีกสงสัยคืนนี้คงได้นอนไม่หลับอีกคืนเพราะคิดแต่เรื่องนี้เป็นแน่

     

                    วันนี้ฉันไม่ได้ตื่นสายเหมือนเมื่อวานซ้ำยังหลับสนิททั้งๆที่คิดว่าจะนอนไม่หลับซะอีก วันนี้ฉันเลยมีเวลานั่งละเลียดโกโก้ร้อนกับขนมปังตัดขอบทาแยมสตรอเบอรี่อย่างมีความสุข พ่อกับแม่ออกไปทำงานแล้วเหลือแค่ฉันกับพี่เพชรที่ยังไม่ได้ออกจากบ้าน ที่ฉันยังไม่ได้ออกไปเรียนก็เพราะจะขออาศัยให้พี่เพชรไปส่งก่อนที่พี่เพชรจะออกไปดูไซต์งานแถวๆมหาลัยฉันพอดี

                    ปริ๊นนนนนนน เสียงแตรรถดังขึ้นทำเอาฉันแทบสำลักโกโก้ร้อนในมือ ฉันเดินออกไปดูว่าใครมาปรากฏว่าฉันไม่รู้จักคนขับหรอกแต่บังเอิญรถที่เขาขับมามันคือรถพี่ชายฉัน

    ผมเอารถมาส่งให้คุณนพรัตน์ครับ ฉันเพิ่งรู้ว่าศูนย์นี้เขาบริการดีขนาดนี้นะเนี่ย

    ฉันเป็นน้องสาวเขาค่ะ

    งั้นผมฝากกุญแจกับรถไว้ที่คุณได้ใช่ไหมครับ ฉันพยักหน้านิดหนึ่งก่อนจะรับกุญแจจากพนักงานคนนั้น ฉันเดินเข้าบ้านหวังจะได้จิบโกโก้อีกสักนิดก่อนที่พี่เพชรจะลงมาแต่ยังไม่ทันได้หย่อนก้นลงกับเก้าอี้ด้วยซ้ำเสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้นอีก อะไรอีกล่ะทีนี้หรือว่าพนักงานคนนั้นจะลืมเก็บเงินค่าซ่อมถ้าเขาเก็บเงินค่าซ่อมจริงพี่เพชรต้องหน้าหงายเพราะเสียหน้าอย่างแน่นอน แค่คิดฉันก็สะใจแล้ว

    ค่าๆๆมาแล้วค่า ฉันวิ่งออกไปอย่างยินดีแต่ได้โปรดเถอะพระพุทธเจ้าคนตรงหน้าฉันในตอนนี้ไม่ใช่พนักงานคนเมื่อกี้แต่กลับเป็นเป็นทายาทธนาคารธนาพิทักษ์ซะได้ เขาส่งยิ้มราวเทพบุตรนั้นมาให้ฉันพร้อมกับดอกไม้ช่อโตและกระเช้าอาหารเสริมกับวิตามินต่างๆมูลค่าของทั้งหมดรวมกันคงไม่น้อยเลยทีเดียว

    อรุณสวัสดิ์ครับ คุณคงหายดีแล้ว ในขณะที่ฉันยังเอ๋ออยู่เขาก็พาตัวเองเข้ามาอยู่ในบ้านฉันเรียบร้อยโดยไม่น่าเกลียด เขาทำได้ยังไงกันนะแล้วเมื่อกี้เขาพูดว่าอะไรนะฉันหายดีแล้วน่ะเหรอ ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลยต่างหากดีนะที่เมื่อวานไม่ได้แต่งหน้าหน้ามันก็เลยดูจืดๆซีดๆถ้าเทียบกับตอนนี้เมื่อวานนี้ก็ต้องดูโทรมอยู่แล้ว

    คุณ...เอ่อ...น้องมาได้ไงคะ ฉันไม่รู้จะเรียกเขาว่าอย่างไรแต่ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยชอบให้ฉันเรียกเขาว่าน้องนะเนี่ย

    ผมไม่เคยมีพี่สาว เอ๊ะ ไอ้เด็กนี่กวนนี่นา ผมไม่ชอบให้คุณเรียกผมว่าน้องเรียกผมว่าแบงค์ก็ได้ ย่ะ มาสั่งฉันตัวเองอายุน้อยกว่าแท้ๆทำอย่างกับไม่อยากเป็นรุ่นน้องฉัน เอ๊ย ก็ใช่นี่นาก็เขาไม่ได้อยากเป็นน้องฉันแต่อยากเป็นแฟนฉันนี่นาลืมไปได้ไงเนี่ย

    คุณนี่มันน่าโมโหจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันพูดโดยไม่เกรงใจเขาแถมฉันยังเดินไปนั่งจิบโกโก้ที่เริ่มเย็นนั่นต่อโดยไม่สนใจเขาอีก แต่เขาก็ยังอุตส่าห์พาตัวเองมานั่งเก้าอี้ตรงข้ามฉัน

    ผมหิวเหมือนกันขออะไรร้อนๆสักแก้วได้ไหมครับ เขากลับมาทำหน้าเทวดาใส่ฉันอีกแล้วตอนแรกฉันก็ว่าจะไม่สนใจเขาแล้วแหละนะแต่เขาก็เป็นแขกนี่นาแค่กาแฟถ้วยเดียวคงไม่เป็นไรมั้งกินเสร็จแล้วเขาจะได้รีบๆไป ว่าแล้วก็ลุกไปยังชั้นวางเครื่องชงต่างๆทันที

    ที่นี่ไม่มีเมล็ดกาแฟคั่วสดอย่างที่คุณอาจจะอยากดื่มหรอกนะคะ ว่าแต่ว่าฉันไปพูดประชดเขาทำไมกันนี่

    ไม่เป็นไรครับผมดื่มได้ทุกอย่าง ดีนะที่เขาไม่โกรธฉัน โดยเฉพาะที่คุณชงมันคงอร่อยเป็นพิเศษ ไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กคนนั้น(ถ้าพูดให้ถูกก็ไม่เด็กแล้วแหละออกจะดูเป็นผู้ใหญ่มากๆด้วยซ้ำ) จะกล้าพูดกับฉันอย่างนี้

    ฉันเป็นรุ่นพี่คุณนะคะ ฉันย้ำกับเขาและเหมือนจะย้ำกับตัวเองด้วย กรุณาอย่าพูดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้ ฉันวางกาแฟลงตรงหน้าเขาแล้วกลับไปนั่งที่เดิม เขายังคงมองฉันอยู่มองด้วยสายตาของคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่า

    คุณเองก็รู้ว่าผมไม่ได้เด็กแล้วแค่ผมเกิดหลังคุณปีสองปีเป็นความผิดผมเหรอ แล้วผมก็อยากจะบอกคุณด้วยว่าตลอดสิบแปดปีในชีวิตผมนี้ไม่เคยมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะสิ่งที่ผมต้องการผมก็จะเอามาให้ได้ ฉันรู้สึกว่ามันเป็นการประกาศสงครามที่น่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ คิดผิดจริงๆฉันที่คิดว่าคุณชายไฮโซจะเป็นพวกอ่อนโลก

    คุยกับใครอยู่เหรอมุก ตายล่ะ ฉันลืมไปได้ไงเนี่ยว่าพี่เพชรยังอยู่บ้านพี่เพชรยิ่งไม่ชอบให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ฉันอยู่ด้วย ฉันแทบลืมหายใจตอนที่พี่เพชรเข้ามาในห้องทานข้าวแต่นายนั่นน่ะซิไม่มีอาการหวาดกลัวหรือตื่นเต้นอะไรเลยซักนิดตั้งแต่ได้ยินเสียงพี่เพชรครั้งแรก อ้าว นึกว่าใครซะอีก คุณมาเอาค่าซ่อมรถใช่ไหมครับ อะไรนะ พี่เพชรพูดอะไรกับนายนั่นน่ะฉันงงไปหมดแล้วนะ

    เปล่าหรอกครับ ผมแวะมาเยี่ยมคุณไข่มุกน่ะครับเมื่อวานเขาเป็นลม เขาพูดสบายๆแต่ฉันน่ะซิเริ่มเครียดจนทำอะไรไม่ถูก พี่เพชรมองด้วยสายตาประหลาดใจก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้

    ฮ่าๆๆ ที่แท้คุณก็รู้จักกับน้องสาวผมนี่เอง อย่าเป็นห่วงเลยครับยัยนี่แข็งแรงจะตายแล้วที่เป็นลมก็คงเพราะว่าโอ๊ย... ดีนะที่เหยียบเท้าพี่เพชรเอาไว้ทัน

    เพราะอะไรเหรอครับ เขายังคงซักต่ออย่างสนใจ

    เอ่อ พราะฉันความดันต่ำบ่อยๆน่ะค่ะก็เลยชอบหน้ามืดประจำ สาธุ ขออย่าให้เป็นจริงเลย ความดันฉันน่ะปกติถึงปกติที่สุดเลยแหละแต่ที่ต้องพูดแบบนั้นเพราะฉันเชื่อร้อยเปอร์เซ็นว่าตราบใดที่พี่เพชรยังไม่รู้ว่านายแบงค์นี่จีบฉัน พี่ชายฉันไม่มีทางเก็บความลับของน้องสาวอย่างฉันไว้แน่ๆ

    ใช่แล้ว ยัยนี่มักจะเป็นลมทุกครั้งที่มีเรื่องตื่นเต้นน่ะแหละ ดูจากสีหน้าของเขาแล้วไม่มีทางเชื่อคำพูดฉันแน่ๆดูจะเชื่อพี่เพชรมากกว่าอีก ไอ้พี่บ้านี่จะพูดทำไมกันนะ

    สงสัยเมื่อวานผมจะทำให้เธอตื่นเต้นเกินไปหน่อย  ใช่ไหมครับไข่มุก ตายแล้วๆๆนายนี่ทำเป็นทอดเสียงหวานใส่ฉันต่อหน้าพี่เพชรแถมยังพูดจามีลับลมคมในเดี๋ยวได้โดนพี่เพชรฆ่าเอาหรอก พี่เพชรทำหน้าประหลาดใจนิดหน่อยแต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจเสีย เฮ้อ โล่งอก ผมมีเรื่องจะขอคุยกับพี่หน่อย เอ่อ จริงๆแล้วผมอยากจะคุยกับคุณพ่อคุณแม่พี่ด้วยน่ะครับแต่วันนี้ท่านทั้งสองไม่อยู่แล้วผมคุยกับพี่เพชรก่อนก็ได้ อ้าว เฮ้ย นายโซโล่เดี่ยวไม่เกรงใจฉันเลยรึไงยะ ผมอยากจะขอคบกับ... ไม่ทันแล้วฉันดึงแขนนายนั่นออกจากบ้านทันทีไม่กงไม่กินมันแล้วโกโก้

    พี่เพชรไปทำงานเถอะนะเดี๋ยวมุกจะไปมหาลัยพร้อมกันกับแบงค์กุญแจรถพี่วางอยู่บนโต๊ะน่ะแหละเขาเอามาส่งแล้ว ฉันรีบลากนายนั่นออกจากบ้านโดยเร็วที่สุด

    เด็กนั่นจะพูดอะไรวะ แล้วนี่ดอกไม้กับกระเช้าใคร หรือว่า...? ถึงแม้พี่เพชรจะมีคำถามอยู่ในใจแต่พวกเราก็ไม่อยู่ให้ถามซะแล้ว

    นายบ้ารึเปล่า ตั้งใจจะพูดอะไรกับพี่ฉันน่ะ ฉันถามเขาทันทีที่รถเคลื่อนออกจากบ้าน

    ก็บอกเรื่องฉันจีบเธอน่ะซิ ตอนนี้เขาเริ่มเปลี่ยนสรรพนามให้ใกล้กันขึ้นอีกแล้ว จะจีบน้องสาวเขาก็ต้องบอกให้รู้ๆกันไปเลย หรือเธอชอบมีความลับ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะใจกล้าขนาดนี้

    บ้าเหรอ ใครจะยอมให้นายจีบเมื่อกี้เรายังคุยกันไม่เคลียร์ด้วยซ้ำ นายเข้าใจเถอะว่าไม่ว่าจะอย่างไรเราก็คงไปกันไม่รอดอยู่ดี ฉันพยายามหว่านล้อม

    เธอเป็นโรคจิตเหรอไง เขาพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ ส่วนฉันก็หันขวับหนีทันทีใครบอกให้มาว่าฉันเป็นโรคจิตล่ะ ชอบพูดแต่สิ่งที่ทำร้ายหัวใจฉันอยู่เรื่อย เธอแค่อยู่เฉยๆแล้วรับเอาสิ่งที่ฉันจะทำเพื่อเธอก็พอแล้ว ไม่น่าเชื่อตอนนี้ฉันหน้าแดง ใช่ หน้าฉันต้องแดงมากแน่ๆ ทำไมฉันดันรู้สึกดีกับคำพูดของเด็กคนนั้นกันนะ

    ฉันไม่เหมือนนายนี่นา ฉันอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง นายถามตัวเองดูก่อนเถอะว่านายเคยผิดหวังกับความรักสักครั้งรึยัง ถ้าคำตอบของนายคือไม่ล่ะก็นายก็อย่ามาสอนฉันเลย พูดไปพูดมาฉันก็เริ่มโกรธจริงๆแล้วนะ

    ถ้าฉันบอกเธอว่าฉันไม่เคยอกหักเธอก็คงจะบอกว่าฉันไม่ควรมาสอนเธอล่ะซิ แล้วถ้าฉันจะบอกว่าที่ฉันไม่เคยอกหักก็เพราะว่าไม่เคยรักใครจนมาเจอเธอนี่ไงล่ะยัยบ้า เธอจะว่าอย่างไร ทำไมนะ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้พูดทุกอย่างออกมาได้ง่ายดายอย่างนี้ เธอน่ะแหละควรจะทบทวนตัวเองให้ดีดีกว่าว่ากำลังเอาฉันไปเปรียบกับความรักครั้งเก่าของเธออยู่หรือเปล่า ฉันรู้สึกจี๊ดที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูก ทำไมเขาถึงได้พูดซะเหมือนมานั่งอยู่ในใจของฉันอย่างนั้นนะ

    ไม่ ฉันไม่เคยเปรียบเทียบนายกับใคร นายน่ะแหละบ้าไปแล้วรึเปล่า หน้าเรารึก็ไม่เคยเห็นกันนิสัยนายเป็นอย่างไรฉันยังไม่รู้เลยอยู่ๆก็มาขอเป็นแฟน ถ้าฉันยอมเป็นแฟนกับนายฉันก็คงเป็นผู้หญิงที่มองนายแค่ภายนอกแล้วล่ะย่ะ ฉันหันไปเถียงกับเขา แต่ว่าทำไมเขาต้องทำสีหน้าเจ็บปวดด้วยนะ

    ไม่เคยเห็นหน้าเหรอ? สำหรับเธอแล้วคนที่เดินผ่านกันแค่ครั้งเดียวคงไม่มีความหมายกับเธอเลยล่ะซิ เธอคงหาว่าฉันบ้ามากเลยใช่ไหม แต่ฉันผิดมากนักเหรอกับการที่ทำทุกสิ่งตามที่ใจต้องการ เขาคงหมายถึงตอนที่พี่เพชรขับรถชนท้ายรถเขา เขาไม่แม้แต่จะมองมาทางฉันสีหน้าเขาดูเจ็บปวดมากเลย

    นายไม่แม้แต่จะสนใจความรู้สึกของฉันสักนิด ฉันไม่ได้รักนาย ไม่ได้รู้สึกอะไรกับนาย และจะไม่มีวันรักรุ่นน้องที่ฐานะทางสังคมต่างกันอย่างสิ้นเชิงแน่นอน ฉันเน้นประโยคสุดท้าย รู้สึกสะเทือนใจอย่างไรก็ไม่รู้ ฉันเพิ่งจะเคยพูดอะไรแรงๆและทำร้ายคนอื่นด้วยคำพูดร้ายๆแบบนี้เป็นครั้งแรกอีกทั้งคนที่ฉันทำร้ายกลับเป็นคนที่บอกว่ารักฉันอีกต่างหาก นี่ฉันทำถูกแล้วเหรอ? พอดีกับที่รถเข้าจอดในที่จอดรถของคณะพอดีฉันเลยรีบปลดเข็มขัดนิรภัย ขอบคุณและลาก่อนน้องแบงค์ ฉันพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนที่จะเปิดประตู เขาไม่ได้ฉุดรั้งฉันไว้เหมือนที่พระเอกเกาหลีชอบทำแต่เขาทำสิ่งที่มีอิทธิพลต่อจิตใจฉันอย่างเป็นที่สุด

    ฉันจะไม่ยอมแพ้ ฉันจะพิสูจน์ให้เธอเห็นจนกว่าฉันหรือเธอใครซักคนหนึ่งจะเหนื่อยและยอมแพ้ไปเอง แต่ฉันจะไม่ยอมง่ายๆ ฉันจะทำให้เธอเข้าใจว่าความรักในแบบของฉันเป็นอย่างไร และเธอจะต้องรักฉัน จำไว้ไข่มุกเธอต้องรักฉัน เธอจะต้องรักฉัน และอีกอย่างอย่าเรียกฉันว่าน้อง ฮึ ที่แท้เขาก็เห็นฉันเป็นแค่เพื่อนเล่นเกมส์ถ้าฉันแพ้เขาก็ชนะแต่ถ้าฉันชนะเขาก็แค่ยอมรับความจริงแล้วก็จากไป นายไม่แม้แต่จะทำความเข้าใจกับโลกแห่งความเป็นจริงสักนิด

    แล้วแต่นายละกัน ฉันรีบเดินไปให้ไกลจากผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนั้นโดยไม่ได้หันไปเห็นสักนิดว่าผู้ชายคนนั้นก็กำลังหัวเสียไม่แพ้กัน
    Link Hovers from: FreeGlitters.Com

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น