คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter2-75%
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปานฉัตรได้นำแผ่นโปรแกรมที่เตรียมไว้มอบให้พีระวัฒน์ ส่วนเขาก็ให้เงินค่าจ้างเป็นการตอบแทนตามที่ได้ตกลงกันไว้และซักถามเกี่ยวกับรายละเอียดของโปรแกรมอีกเล็กน้อยก็ได้ถึงเวลาเตรียมจะแยกย้ายจากกัน หญิงสาวก้มมองดูนาฬิกาข้อมือยังเหลือเวลาอีกประมาณสองชั่วโมง จากคำนวณแล้วเดินทางไปยังสนามบินไม่เกินสามสิบนาที อีกทั้งเธอยังได้ทำการเช็คอินออนไลน์เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ยังทันแน่นอน
“น้องฉัตรต้องไปทำธุระที่ไหนอีกหรือเปล่าครับ”
“ฉัตรจะต้องเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดค่ะพี่พี นี่ก็ซื้อขนมในงานไปฝากพ่อกับแม่เพียบเลย”
“ว่าแต่บ้านน้องฉัตรอยู่ที่ไหนเหรอครับ”
“อยู่ภาคใต้ค่ะพี่พี ถ้าอย่างนั้นฉัตรต้องขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวสาย”
“เดินทางดีๆนะครับ ดูแลตัวเองด้วย พี่เป็นห่วง เอ่อ พี่หมายถึงห่วงที่เราเป็นผู้หญิงต้องเดินทางคนเดียวนี่แหละ”
เขาแอบสงสัยอยู่ตั้งแต่ตอนนั่งทานอาหารอยู่แล้วเชียว ว่าเธอหอบของกินอะไรมาพะรุงพะรังวางไว้ตรงเก้าอี้ที่ว่างอยู่ข้างๆ จะถามก็ดูเหมือนเป็นการซอกแซกเรื่องส่วนตัวซึ่งไม่ใช่นิสัยของเขาเลย ในที่สุดก็ได้ข้อมูลของเธอมาเพิ่มขึ้น ด้วยใบหน้าที่สวยคมมาพร้อมกับผิวพรรณที่นวลเนียนไม่ขาวจนเกินไปแต่ก็ใช่จะดำคล้ำเสียทีเดียวเป็นเพราะหล่อนมีสายเลือดสาวใต้อยู่นี่เอง ระหว่างที่เขาเดินกลับมายังลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าก็ได้แต่ครุ่นคิดถึงปานฉัตร ปกติการทานข้าวหรือนั่งพูดคุยกับเพศตรงข้ามมันเป็นเรื่องปกติสำหรับชายหนุ่ม แต่วันนี้การนั่งทานข้าวกับสาวไอทีมันทำให้ความรู้สึกของเขาแตกต่างออกไป ด้วยท่าทางที่เป็นมิตรแต่ผสมไปด้วยการสงวนท่าทีอยู่ในคนเดียว เธอรู้จักชวนคุยบ้างแต่ก็ไม่ก้าวก่ายหรือแสดงอาการอยากรู้อยากเห็นเรื่องส่วนตัวของเขา แลดูเหมือนกับว่าเธอมีเส้นขีดคั่นความสัมพันธ์ไว้อย่างชัดเจน ชักสนใจแล้วสิ สงสัยต้องเดินหน้าขอลองสานสัมพันธ์กับสาวไอทีต่างมหาวิทยาลัยดูบ้างดีกว่านะเรา
บริเวณจุดนัดพบอาคารผู้โดยสายขาเข้าท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ภาพหญิงสาวที่กำลังเข็นรถวางกระเป๋าสัมภาระพร้อมส่งรอยยิ้มสดใสเมื่อได้เห็นหน้ามารดาและพี่ชายสุดที่รักของเธอกำลังยืนรอต้อนรับเธอกลับมา ทันทีที่เข็นรถมาหยุดตรงหน้าบุคคลทั้งสอง ปานฉัตรรีบเดินไปกระโดดกอดพวกเขาด้วยความดีใจพร้อมทั้งหอมแก้มซ้ายขวามารดาอย่างออดอ้อนจนทำให้พี่ชายของเธออดแซวไม่ได้
“อะไรขนาดนั้นยัยน้อง เรียนมหาลัยแล้วยังจะทำตัวออดอ้อนคุณแม่เหมือนเด็กสี่ขวบไปได้”
“ชิ เฮียไม่ต้องมาแซวเลยนะ อิจฉาล่ะสิที่เค้าได้กอดแม่ แบร่ๆๆ”
“แน่ะ ยังทะเล้นอีกนะเรา ขืนใครรู้เข้าว่าลูกสาวสุดที่รักคุณนายประไพยังเล่นเหมือนเด็กอย่างนี้ อายเขาตายเลย”
“คุณแม่ดูสิคะ เฮียแกล้งน้อง คุณแม่ต้องจัดการเลยนะคะ”
“เอ๊ะ! สองคนนี้โตๆกันแล้ว ยังเล่นกันเหมือนเด็ก ตาพัตรก็ยังแกล้งน้องอยู่นั่นแหละ แม่ว่าเรารีบเดินทางกลับบ้านกันดีกว่า คุณพ่อรอเจอลูกสาวสุดที่รักอยู่นะ”
“ค่ะแม่ ไปกันเถอะเฮีย น้องหิวแล้ว อยากกลับไปทานอาหารฝีมือคุณแม่เต็มที”
เสียงต่อล้อต่อเถียงของสองคนพี่น้องเป็นอันหยุดลง หลังจากมารดาได้ห้ามศึกไว้ก่อน ปานฉัตรเกิดมาท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่นมีบิดารับราชการตำแหน่งค่อนข้างใหญ่โตในหน่วยงานของกรมชลประทาน ส่วนมารดาคุณนายประไพก็มีธุรกิจส่วนตัวมาตั้งแต่รุ่นคุณตาคุณยายของเธอ จนตอนนี้แม้ท่านจะเริ่มวางมือไปบ้างเพราะได้ปริพัตร บุตรชายเพียงคนเดียวหรืออีกนัยหนึ่งคือพี่ชายของปานฉัตรมาช่วยเหลือดำเนินกิจการต่อบ้างแล้ว แต่ท่านก็ยังคอยให้เป็นที่ปรึกษาอยู่ใกล้ๆด้วยความเป็นห่วงอยู่เสมอ
วันนี้มาซะดึกเลย แต่งสดก็รีบเอามาอัพทันทีเพราะหนังตาไรต์
กำลังจะปิดในไม่ช้านี้ ภาษาอาจจะเอ๋อๆไว้ว่างเมื่อไหร่มาเกลาให้ดีกว่านี้เนอะ
เป็นไงกันบ้างคะตอนนี้เรายังอยู่ในภาคอดีตของพี่พีกับน้องฉัตรกันเลย
ตามไปใจเอาช่วยกันด้วยนร้าา ว่าพี่พีจะเริ่มจีบสาวน้อยของเรายังไงกัน
ความคิดเห็น