ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เพลิงสวาทนางบำเรอ (ภาคต่อรสสวาทเจ้าบ่าวนักรัก)

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 59


    วางจำหน่ายแล้วนะคะที่เซเว่น 
    หรือติดต่อได้ที่เวปสำนักพิมพ์ 
    https://www.facebook.com/smartbook.publishing?fref=ts 


    ตอนที่ 2

     

              สามสัปดาห์ผ่านไปกับการทำงานในตำแหน่งพนักงานทำความสะอาดประจำโรงแรมศิรัลโฮเทล ที่ก็ทำเอาเธอทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจเมื่อได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าให้เข้ามาทำงานทันทีที่พร้อม ทำเอาคนที่อยากได้งานใหม่มาทำงานในเช้าวันต่อมาทันที เพราะอาการบาดเจ็บดีขึ้นมากแล้ว ที่เธอก็ทำงานได้ดีมาตลอดสามสัปดาห์ เพราะมีพนักงานคนเก่าและเพื่อนร่วมงานอย่างนาถลดาคอยสอนงาน ทว่าวันนี้เธอรู้สึกตาข้างขวาของเธอมันกระตุกบ่อยเหลือเกิน

            จะกระตุกทำไมเนี่ย คนยิ่งกลัวๆ จะเกิดเรื่องไม่ดีอยู่ด้วย  รินนภัสบ่นในใจ พลางส่ายหน้าไปมาๆ ขณะกำลังช่วยกันทำความสะอาดห้องทำงาน

              “ริน เป็นอะไรหรือเปล่า นาถเห็นรินส่ายหน้าจนหัวจะหลุดออกจากคอแล้วนะ” นาถลดาเอ่ยถามติดตลกระคนเป็นห่วงเพื่อนร่วมงานคนใหม่

              “ก็ตาขวาของรินน่ะสิ มันกระตุกตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วนะนาถ แล้วนี่พอได้รู้ว่าต้องขึ้นมาทำความสะอาดห้องทำงานของท่านประธานก็ยิ่งกระตุกใหญ่เลยด้วย” คนกลัวจะเกิดเรื่องไม่ดีเอ่ยตอบด้วยสีหน้ากังวล เพราะเมื่อหลายเดือนก่อนตาขวาก็กระตุกแบบนี้แหละ แล้วจากนั้นอีกไม่กี่วันโรงงานที่เธอเข้าไปทำงานได้แค่ปีเศษก็ปิดตัวลง ทำให้เงินในบ้านเริ่มขัดสน

              “นาถว่ามันคงไม่มีอะไรหรอก แล้วที่มันกระตุกบ่อยนี่ก็เพราะว่ารินตื่นเต้น ที่ได้ขึ้นมาทำความสะอาดห้องทำงานของท่านประธาน” อีกครั้งที่นาถลาพูดติดตลก เพราะหน้าที่นี้ที่จริงแล้วเป็นของป้าอีกคน แต่แกลากลับบ้าน เธอและรินนภัสเลยต้องมาทำแทน

              “นาถนี่พูดบ้าๆ  รินจะไปตื่นเต้นทำไมล่ะ”

              “แหม...ท่านประธานออกจะหล่อเหลา ใครได้ขึ้นมาในห้องทำงานของท่านประธานก็ตื่นเต้นดีใจกันทุกคนนั่นแหละ หรือรินไม่รู้สึกตื่นเต้นเลย” นาถลดาหัวเราะคิกคักๆ เพราะเธอก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นเช่นกันที่ดีใจจนเนื้อเต้นเชียวละที่จะได้ขึ้นมาทำความสะอาดบนนี้ แต่พอทำๆ บ่อยเข้าความตื่นเต้นก็หายไปเอง เพราะมันเป็นแค่ฝันเท่านั้นแหละที่คนรวยๆ อย่างท่านประธานจะหันมามองหมาตัวน้อยๆ อย่างเธอ ซึ่งวาดหวังว่าสักวันถ้าหากเจ้านายที่ใครต่างก็รู้ดีว่าใช้ผู้หญิงเปลืองจะมาสนใจบ้าง แต่เธอทำงานที่นี่มาจะปีแล้ว แม้แต่หางตาเจ้านายยังไม่แล

              “ไม่เห็นต้องตื่นเต้นสักนิดเลยนี่”

              “ประหลาดคนจริงๆ เลยรินนี่ ว่าแต่รินลองอ่อยท่านประธานดูสิ เพราะถ้าท่านประธานเกิดชอบรินขึ้นมานะ รินจะสบายไปทั้งชาติเลยนะ” นาถลดาเดินเข้ากระซิบบอกเพื่อน เพราะตอนนี้เธอก็ได้ข่าวว่ามีประชาสัมพันธ์หน้าตาดี หุ่นก็ดี อยู่คนหนึ่งกำลังทำแบบนี้อยู่ แต่ผ่านมาเกือบเดือนแล้วท่านประธานก็ยังไม่สน

              “จะบ้าเหรอนาถ”  รินนภัสถลึงตาเขียวใส่เพื่อนที่แนะนำอะไรไม่เข้าท่า

              “ลองดูก็ไม่เสียหายนะริน ดูอย่างพี่คนที่ทำงานอยู่ตำแหน่งประชาสัมพันธ์สิ ยังอ่อยเลย นาถได้ข่าวมาว่าชอบหาโอกาสขึ้นมาพบท่านประธานอยู่บ่อยๆ”  

              “ใครจะทำ ก็ปล่อยเขาทำไปเถอะนาถ แต่สำหรับริน รินไม่มีวันไปอะไรน่าเกลียดแบบนั้นแน่นอน”  รินนภัสเอ่ยตอบด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะหันไปสนใจกับการเช็ดกระจกที่ต้องเร่งทำให้เรียบร้อยก่อนที่ท่านประธานจะเข้ามาทำงาน ที่เธอเองก็ไม่เคยเห็นหน้าเขาอีกเลยนับตั้งแต่วันที่เขายัดเงินใส่มือให้ในวันนั้น

              “ไม่มีวันจริงเหรอ” นาถลดายื่นหน้าเข้าไปใกล้พร้อมเสียงล้อเลียน อีกทั้งก็นึกเสียดายความสวยน่ารักของเพื่อนร่วมงานที่หากรู้จักใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์แล้วละก็ ชีวิตคงสบายดีกว่านี้เยอะ

              “นาถนี่!”  รินนภัสทำเสียงดุใส่เพื่อน ก่อนจะพยักพเยิดให้เพื่อนไปเร่งมือทำงานให้เสร็จก่อนที่ท่านประธานจะเข้ามาทำงาน

              “แต่ถ้าวันไหนรินได้เป็นเมียของท่านประธานก็อย่าลืมนาถนะ” นาถลดากล่าวทิ้งท้ายพร้อมเสียงหัวเราะคิกคักๆ จากนั้นทั้งสองสาวก็ช่วยกันทำความสะอาดห้องทำงานของท่านประธานจนเรียบร้อย นาถลดาก็ขอตัวลงไปจัดการงานห้องอื่นต่อ แต่ขณะที่ยกถังน้ำเพื่อย้ายไปทำความสะอาดห้องอื่นนั้นนาถลดาก็เผลอทำน้ำหก รินนภัสจึงอาสาช่วยจัดการให้จนเรียบร้อยเธอก็ตามไปช่วยงานเพื่อนต่อ แต่ระหว่างที่กำลังขนอุปกรณ์ทำความสะอาดเดินออกจากห้องท่านประธาน จู่ๆ ประตูห้องก็เปิดเข้ามาทำให้เธอเสียหลักล้ม ถังน้ำจึงหกกระเซ็นเข้าใส่ตัวจนเปียกไปครึ่ง

              “นี่หล่อนอีกแล้วเหรอ!” นีร่าตวาดลั่นระคนแปลกใจที่ได้เห็นหน้าอีกฝ่ายอีกครั้ง มิหนำซ้ำยังมาเห็นมันลอยหน้าลอยตาอยู่ในห้องทำงานของเจ้าของโรงแรมศิรัล

              “ฉันขอโทษค่ะ”  รินนภัสเอ่ยปากขอโทษเพื่อจะได้จบปัญหา

              “แกทำเสื้อผ้าราคาหลักหมื่นของฉันเกือบเลอะเพราะน้ำเน่าๆ นั่น แล้วมาพูดแค่ขอโทษ แกคิดว่าฉันจะยกโทษให้หรือไงฮะ!

              “ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ”  รินนภัสมองสำรวจเสื้อผ้าราคาแพงของสาวสวยก็นึกโล่งใจที่ไม่ได้มีรอยเลอะ เพราะถ้าหากมีจริง เธอคงไม่มีปัญญาหาเงินไปซื้อเสื้อผ้าราคาหลักหมื่นมาคืนแน่ๆ

              “แกตั้งใจต่างหากนังโง่!” นีร่าตวาดกร้าวอย่างโมโห แต่ที่เธอโมโหก็เป็นเพราะมาเห็นหน้าผู้หญิงที่เธอนึกชังตั้งแต่วันที่อินทัชให้เงิน แล้วยังมองมันด้วยสายตาเหมือนจะกลืนกินมันมาทำงานที่โรงแรมศิรัลซะมากกว่า
     

     

     


     

              “ฉันขอโทษอีกครั้งค่ะ แต่ฉันขอสาบานได้เลยว่าฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ค่ะ” เพราะมันเป็นเหตุสุดวิสัยมากๆ เลยก็ว่าได้ เพราะขณะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปเปิดประตู แต่จู่ๆ ก็ประตูก็ถูกผลักเข้ามาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยทำให้เธอหลบไม่ทัน จนเป็นเหตุให้ห้องทำงานของท่านประธานเลอะรวมไปถึงตัวเธอด้วยที่เปียกไปครึ่งตัว

              “นี่แกจะโทษว่าฉันเป็นคนผิดหรือไงฮะ!” นีร่าเดินเข้าไปหา เพราะเธออยากตบหน้าอีกฝ่ายเพื่อเป็นการสั่งสอนให้รู้ซะบ้างว่าอย่ามาต่อปากต่อคำกับเธอ

              “ฉันไม่ได้โทษคุณนะคะ”  รินนภัสลุกขึ้นยืนได้แล้วก็รีบขยับหนีสาวสวย ที่เดินเข้ามาประชิดเรื่อยๆ

              “แต่หน้าตาแกมันบ่งบอกว่าแกโทษฉัน” นีร่ายื่นมือออกไปคว้าแขนอีกฝ่ายไว้ได้ทันที่แม่บ้านสาวจะหนี และนั่นทำให้สองสาวยื้อยุดกันไปมา เมื่อรินนภัสก็ไม่คิดจะยอมให้ใครมารังแกได้ฝ่ายเดียว ทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิด

              “คุณปล่อยฉันนะคะ”  รินนภัสขอร้องให้อีกฝ่าย ก่อนที่เนื้อตัวที่เปียกน้ำจากการถูพื้นจะไปเปื้อนอีกฝ่าย

              “น้ำหน้าอย่างแกมีสิทธิ์อะไรมาสั่งให้ฉันปล่อย” นีร่ายกปากยิ้มหยัน สายตาก็มองอย่างหยามเหยียด

              “แต่ถ้าคุณไม่ปล่อยฉัน เสื้อผ้าของคุณก็อาจจะเลอะได้นะคะ”  รินนภัสพยายามเบี่ยงตัวออกห่างเท่าที่จะทำได้ ด้วยกลัวว่าถ้าเสื้อผ้าราคาแพงหูฉี่ของสาวสวยเปื้อนขึ้นมาจริง มีหวังสาวสวยคนนี้ต้องมาบังคับขู่เข็ญให้เธอชดใช้ให้แน่นอน

              “ถ้าเสื้อผ้าฉันเลอะ ฉันก็จะให้คุณอินมาเล่นงานแกไง” ขาดคำนีร่าก็ง้างมือขึ้นสูงหวังจะตบสั่งสอนแม่บ้านสาวที่กล้าต่อปากต่อคำกับเธอ

              “อย่านะคุณ!” สิ้นเสียงร้องห้ามรินนภัสก็ออกแรงสะบัดแขนจนหลุด ทำให้น้ำสกปรกกระเด็นเข้าไปติดเสื้อผ้าราคาแพงของสาวสวยเจ้าของร้านเพชรชื่อดัง

              “กรี๊ด!! นังบ้า นังขี้ข้า แกกล้าดียังไงถึงมาทำเสื้อผ้าฉันเลอะ” นีร่าโวยวายเสียงดังลั่น ถลาเข้าไปซัดฝ่ามือใส่หน้าของแม่บ้านสาว ที่รินนภัสก็ตั้งรับไม่ทันเลยหน้าหันไปตามแรงตบ จังหวะนั้นเองที่ประตูก็ถูกเปิดเข้ามาด้วยฝีมือของนาถลดาที่ได้นึกสงสัยว่าทำไมเพื่อนไม่ออกจากห้องทำงานของท่านประธานเสียที

              “ตายแล้ว!” นาถลดาอุทานเสียงดังลั่นเมื่อเข้ามาเห็นห้องทำงานของท่านประธานเลอะเทอะ ส่วนตัวเพื่อนร่วมงานก็เปียกไปครึ่งตัว แล้วเจ้าตัวก็ต้องเบิกโตจนแทบถลนออกมานอกเบ้า เมื่อเห็นหน้าชัดๆ ของสาวสวย “คุณนีร่า” นาถลดาขานเรียกสั่น พลางมองเพื่อนกับคู่ควงของท่านประธานสลับกันไปมาอย่างหนักใจ เพราะตอนนี้เห็นลางร้ายค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาแล้ว ที่งานนี้มีหวังรินนภัสโดนไล่ออกแน่

              “โผล่หัวมากันอีกคนแล้วเหรอ นี่พวกแกคิดจะรุมฉันใช่ไหมนังพวกขี้ข้า” สิ้นเสียงของนีร่า ทำเอาคนที่เพิ่งเข้ามาอ้าปากค้างไปหลายวินาที ก่อนจะเดินเข้าไปยืนเคียงข้างรินนภัสที่กระซิบบอกว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะทำน้ำหกเลอะห้องทำงานของท่านประธานเลย นาถลดาพยักหน้าเข้าใจและเชื่อว่าเพื่อนไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเรื่อง แต่ปัญหาใหญ่ก็คือผู้หญิงอย่างคุณนีร่า ที่มีนิสัยชอบดูถูกคนคนนี้ต่างหาก ที่ถ้าได้พบท่านประธานเมื่อไหร่ละก็คงรีบเข้าไปฟ้องและใส่ไฟรินนภัสแน่ๆ

              “พวกแกซุบซิบด่าฉันอยู่หรือไงฮะ!” นีร่าถามอย่างร้อนตัว พลางจ้องหน้าสองพนักงานสาวอย่างเอาเรื่อง ใจก็ไพล่คิดสงสัยว่าทำไมจนป่านนี้แล้วอินทัชยังไม่เข้ามาทำงานอีก เพราะวันนี้เธอกะจะมาเซอร์ไพร้ส์เขาเสียหน่อย หลังจากไม่ได้พบหน้ากันมาหลายสัปดาห์ เนื่องด้วยว่าเธอต้องไปทำงานแล้วก็อยู่เที่ยวกับเพื่อนๆ ที่ต่างประเทศ

              “พวกฉันเปล่านะคะคุณ” นาถลดาตอบกลับเสียงอ่อน ขณะที่รินนภัสก็ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรดีถึงจะทำให้สาวสวยคนนี้ออกไป เพราะเธอกับนาถลดาจะได้รีบทำความสะอาดห้องให้ทันก่อนที่ท่านประธานจะเข้ามาทำงาน

              “แกยังจะมีหน้ามาเปล่าอีกเหรอ ในเมื่อฉันเห็นอยู่ตำตาว่าแกสองคนซุบซิบกัน” นีร่าตะคอกกลับด้วยสีหน้าหงุดหงิด

              “คุณคะ เราสองคนไม่ได้ซุบซิบนินทาคุณจริงๆ นะคะ แล้วฉันก็ต้องขอโทษด้วยที่เป็นคนทำให้คุณคิดว่าพวกเราสองคนนินทาคุณ”  รินนภัสยกมือไหว้ขอโทษจากใจจริง เพื่อจะได้ยุติเรื่องนี้ลงเสียที เพราะป่วยการที่จะโต้เถียงกันมาจนหาที่จบไม่ได้

              “แกคิดว่ายกมือไหว้ขอโทษฉันแล้ว ฉันจะไม่เอาเรื่องแกอีกหรือไง นังโง่!” นีร่ายังคงยืนกรานจะเอาเรื่องถึงที่สุด เพราะเธอไม่เธอไม่ชอบหน้านังพนักงานทำความสะอาดคนใหม่คนนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วตั้งแต่ที่อินทัชมองมัน

              ขณะที่คนในห้องทำงานของท่านประธานหนุ่มกำลังถกเถียงกันอยู่นั้น บัวชมพู เลขาของท่านประธานก็มาถึงโต๊ะทำงานพอดีจึงได้เปิดประตูเข้าไปในห้องทำงาน ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นสภาพห้องทำงานของท่านประธาน

              “นาถ ริน นี่สองคนยังทำความสะอาดไม่เสร็จอีกหรือไง ท่านประธานจะมาแล้วนะ” บัวชมพูเอ่ยขึ้น ก่อนจะหันไปยิ้มให้กับคู่ควงของท่านประธานตามมารยาท เพราะเธอก็ไม่ได้ชื่นชอบคู่ควงคนล่าสุดของท่านประธานเท่าไหร่นัก เพราะไม่ชอบนิสัยส่วนตัวของเจ้าหล่อน ที่ชอบวางอำนาจ มองคนอื่นก็มองด้วยสายตาหยามเหยียด ซ้ำยังจิกเรียกใช้เธอราวกับเป็นเจ้านายซะเอง

              “รินขอโทษค่ะคุณบัว แต่เดี๋ยวรินจะรีบจัดการเดี๋ยวนี้เลยค่ะ” พูดจบ รินนภัสก็รีบลงมือทำความสะอาดห้องโดยมีนาถลดาช่วยอีกแรง ส่วนคนที่ยืนจังก้าจะเอาเรื่องนั้นก็ไม่ยอมหลบ ซ้ำยังรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นอีกเป็นร้อยเท่าที่สามคนนั้นทำกับว่าเธอไม่ได้ยืนอยู่ในห้องนี้ด้วย

              “นังขี้ข้า แกออกไปเช็ดถูไกลๆ ฉันเดี๋ยวนี้นะ!” นีร่าออกคำสั่งเสียงกร้าว ทั้งตัวเองยืนเกะกะสองพนักงานสาว

              “คุณนีร่าออกไปรอด้านนอกก่อนดีกว่าค่ะ สองคนนั่นจะได้รีบทำความสะอาดห้องได้ทันก่อนที่ท่านประธานจะมา” บัวชมพูพูดขึ้น ก่อนจะผายมือเชิญอีกฝ่ายให้ออกไป

              “ฉันจะรอคุณอินอยู่ในนี้ ส่วนหล่อน ออกไปซะ!” พูดจบเจ้าตัวก็เดินไปทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ทำงานของท่านประธานหนุ่ม ที่ก็นั่งได้ไม่นานเจ้าของห้องทำงานก็เปิดประตูเข้ามาในขณะที่สองสาวก็ทำความสะอาดห้องเรียบร้อยพอดี

              “คุณอินมาแล้วเหรอคะ นีร่าคิดถึงคุณจังเลย ว่าแต่ทำไมคุณไม่โทรไปหานีร่าบ้างเลยล่ะคะ” นีร่าโผเข้ากอดซบประธานหนุ่มพร้อมเสียงออดอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวาน

              “ปล่อยผม นีร่า” คนถูกกอดออกคำสั่งเสียงเรียบ พลางปลดมือของคู่ควงออกแล้วหันไปมองพนักงานทำความสะอาดทั้งสองคนที่กำลังพากันเดินออกจากห้อง สายตาที่ทอดมองนั่นยิ่งทำให้นีร่าไม่พอใจ เธอพลั้งเผลอกระชากแขนใหญ่เพื่อให้เขาเลิกมองนังคนนั้นที่เป็นแค่พนักงานทำความสะอาด หาอะไรมาเทียบชั้นกับเธอไม่ได้เลยสักนิด!

              “คุณอิน! คุณเลิกมองนังนั่นซะที” สาวสวยขานเรียกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

              “นีร่า คุณไม่มีสิทธิ์มาสั่งผม” ประธานหนุ่มตอบกลับเสียงห้าว พลางมองคู่ควงด้วยสายตาแข็งกร้าวอย่างคนไม่พอใจเช่นกัน ที่อีกฝ่ายทำตัวราวกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขา ทั้งๆ ที่เขากับเธอควงกันไปไหนมาไหนในฐานะเพื่อนเท่านั้น

              “ฉันรู้ว่าไม่มีสิทธิ์ แต่คุณจะไปมองมันทำไมคะ ในเมื่อนังนั่นไม่มีอะไรดีสักอย่าง ฉันต่างหากที่ดีพร้อมกว่ามัน แล้วก็เหมาะสมกับคุณ!”  

              “ผมยอมรับว่าคุณดีพร้อม แต่สำหรับเรื่องของเราที่คุณกับคุณย่าของผมอยากให้มันเป็น มันไม่มีทางเป็นไปได้นีร่า แล้วผมก็เคยบอกคุณไปแล้วว่าเราเป็นได้แค่เพื่อนที่สามารถมีเซ็กส์กันได้ก็เท่านั้น!” อินทัชย้ำชัดทุกคำเพื่อให้มันซึมลึกเข้าไปในสมองของหญิงสาว ที่คุณย่าของเขาแนะนำให้รู้จัก หลังจากเขาได้บอกท่านไปว่าผู้หญิงที่แอบชอบได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว ที่เขาก็ไม่มีโอกาสไปร่วมงานด้วย เนื่องจากต้องบินไปต่างประเทศพอดี ที่พอไปถึงเขาถึงได้รู้ว่าที่แท้คุณย่าวางแผนให้เขาไปพบกับนีร่าที่นั่น นับแต่วันนั้นเขาและนีร่าก็ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด จนนักข่าวคิดว่าและนีร่าจะลงเอยด้วยการแต่งงาน แต่เขาก็ยืนยันไปคำเดิมว่าเป็นแค่เพื่อนกัน

              “คุณอิน!” นีร่าขานเรียกอย่างคนเจ็บร้าวไปทั้งอก เพราะว่าเธอไม่ได้เห็นเขาเป็นแค่เพียงเพื่อนที่มีเซ็กส์กันได้ แต่เธอต้องการเป็นภรรยาของเขา

              “แล้วต่อไปอย่ามาออกคำสั่งกับผมอีก ผมไม่ชอบ” อินทัชบอกเสียงเย็น ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ทำงาน เป็นจังหวะเดียวกับที่บัวชมพูก็เอากาแฟมาให้พอดี หญิงสาวแอบเหลือบตามองคู่ควงคนสวยของท่านประธานเล็กน้อยก็นึกสมน้ำหน้าอยู่ในใจ เพราะอีกฝ่ายคงจะโดนท่านประธานต่อว่าเรื่องอะไรสักอย่างแน่ๆ ถึงได้ยืนทำหน้าไม่พอใจ

              “กาแฟหวานน้อยค่ะท่านประธาน” เลขาสาวยิ้มกว้างวางกาแฟให้แล้วถอยห่างออกมารอรับคำสั่งเหมือนเช่นทุกๆ เช้า

              “วันนี้ผมมีนัดไปพบใครหรือเปล่าคุณบัว”

              “ไม่มีค่ะท่านประธาน แต่ว่าตอนสี่โมงท่านประธานมีประชุมกับผู้ถือหุ้นค่ะ”

              “ขอบคุณครับ” ปากหยักคลี่ยิ้มนิดๆ แล้วเลื่อนแฟ้มงานส่งให้เลขาสาวและทันทีที่เลขาของท่านประธานหนุ่มเดินออกไปพร้อมแฟ้มงาน นีร่าที่ยืนเหมือนไร้ตัวตนก็เดินไปนั่งบนตักกว้างทันที ทั้งที่อินทัชห้ามแล้ว

              “นีร่า! ผมจะทำงาน” เขาบอกเสียงเข้ม ทว่าสาวสวยกลับไม่สนใจน้ำเสียงนั่นเลยสักนิด เธอยกสองมือขึ้นโอบรอบลำคอหนาแล้วรั้งเข้าหา

              “ถ้าคุณจะทำงานจริงๆ คุณก็ต้องปลอบใจฉันก่อน ไม่งั้นฉัน...” สาวสวยพูดไม่ทันประโยคเสียงห้าวห้วนก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน

              “อย่ามาต่อรองอะไรกับผมนีร่า แล้วก็ลุกออกไปซะ ผมจะทำงาน!” ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งมากขึ้นเมื่อสาวเจ้ายังไม่ยอมลุกออกไปจนต้องย้ำอีกครั้ง “เดี๋ยวนี้ นีร่า”

              “เพราะนังพนักงานคนนั้นใช่ไหม คุณถึงเปลี่ยนไป แล้วก็เพราะนังนั่นอีกใช่ไหมล่ะ ตลอดสามอาทิตย์ที่ผ่านมาคุณไม่โทรหาฉันเลย นี่อย่าบอกนะว่าคุณหลงมัน ทั้งๆ ที่เพิ่งเจอมันไม่นาน” นีร่าพูดขึ้นอย่างคนเก็บอาการหึงหวงเอาไว้ไม่อยู่ ใจก็ครุ่นคิดหาวิธีกำจัดพนักงานคนนั้นออกไปให้พ้นทางในเร็ววัน แล้วคนที่จะช่วยจัดการเรื่องนี้ได้ดีก็คือคุณย่าเรือนแก้ว ปากเรียวสวยยิ้มอย่างหมายมาด เพราะงานนี้เธอเป็นต่อนังคนนั่นหลายขุมนัก

              “ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้นนีร่า คุณอย่าลืมว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน แล้วผมก็ไม่จำเป็นต้องโทรไปหาเพื่อนทุกวันด้วย” บอกกล่าวจบแล้วก็ลุกขึ้นทำให้คนที่นั่งอยู่บนตักลุกแบบตั้งแทบไม่ทัน เธอโกรธเขามาก แต่ก็ต้องพยายามระงับความโกรธเอาไว้ในอก เพราะเวลานี้เธอจะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ารีบไปบอกเรื่องนี้ให้คุณย่าเรือนแก้วรับรู้ แล้วก็ช่วยกันคิดหาทางกำจัดนังคนนั้นไปให้พ้น

              “คุณก็อย่าลืมสิว่าคุณย่าต้องการให้เราสองคนแต่งงานกัน”  

              “คุณก็อย่าลืมเหมือนกันว่าผมได้พูดเรื่องนี้ชัดเจนแล้วว่าไม่มีวันเป็นไปได้ แล้วผมก็พูดต่อหน้าคุณย่าด้วย ลองนึกให้ดีๆ นีร่า แล้วอย่าเรื่องนี้อีก ไม่ว่าจะกับผมหรือนักข่าว ไม่งั้น แม้แต่คำว่าเพื่อนผมก็ไม่หลงเหลือให้คุณ”

              “ฉันจำได้ แต่ถ้าฉันอยากได้ ฉันก็ต้องได้” หญิงสาวประกาศกร้าวก่อนจะหันไปคว้ากระเป๋าแล้วเดินออกไปพร้อมๆ กับสีหน้าหงุดหงิดปนเอือมระอาของท่านประธานหนุ่ม ที่เขาก็รู้ดีว่าเธอกำลังจะไปที่ไหน แต่ถึงเธอจะให้คุณย่ามากดดันเขาเรื่องแต่งงานยังไงเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจ ทว่าก็ยังนึกเป็นห่วงรินนภัสอยู่เหมือนกัน เพราะถ้าคุณย่าทำอะไรเขาไม่ได้ ท่านก็จะหันไปเล่นงานรินนภัสแทนแน่ๆ

              ขณะที่อีกคนกำลังนึกเป็นห่วงจนนั่งถอนหายใจทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนอีกคนก็กำลังทำงานอย่างขะมักเขม้น หากแต่ใจก็รอลุ้นอยู่เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้างที่ไปต่อปากต่อคำกับคนสำคัญของท่านประธาน เพราะตอนที่เดินพ้นห้องทำงานของท่านประธานมานาถลดาก็พูดขึ้นมาว่างานนี้เราโดนไล่ออกกันแน่

              “ถ้าโดนไล่ออก แล้วจะไปหางานที่ไหนทำล่ะนี่ เฮ้อกลุ้มชะมัดเลย งานยิ่งหายากๆ อยู่ด้วย”  รินนภัสบ่นงึมงำโดยมีนาถลดายื่นหน้าเข้ามาฟังด้วย

              “ไม่ต้องบ่นไปหรอกน่า เชื่อสิว่างานนี้เราไม่โดนไล่ออกหรอก เพราะว่า...” นาถลดาหยุดพูดแล้วก็มองซ้ายมองขวาก่อนจะหันมาพูดต่อ “เพราะว่าตอนที่รินเดินออกจากห้องทำงาน ท่านประธานมองตามตาเป็นมันเลย นาถว่าท่านประธานต้องแอบชอบรินแน่ๆ” พูดจบก็หัวเราะคิกคักเห็นเป็นเรื่องสนุก

              “หยุดพูดหยุดคิดแบบนี้เลยนะนาถ” รินนภัสตีหน้ายักษ์ใส่เพื่อนที่ชอบคิดอะไรเพ้อเจ้อ แล้วมันจะต้องเป็นเรื่องแน่ๆ ถ้าหากมีใครผ่านมาได้ยินเรื่องนาถลดาพูด

              “หยุดพูดก็ได้จ้า” นาถลดารับปากจะว่าหยุดพูดแต่ใจกลับแอบคิดภาวนาขอให้ท่านประธานชอบเพื่อนของเธอ







     

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ขอบคุณที่ติดตาผลงานนะคะ
    รัก...มนสิวรรณ/หงสรถ/ธิชาร์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×