คำสาปรักสุริยัน-จันทรา - นิยาย คำสาปรักสุริยัน-จันทรา : Dek-D.com - Writer
×

    คำสาปรักสุริยัน-จันทรา

    ความรัก คำสาป ความตาย และการเกิดใหม่กับปรากฏการที่เหนือธรรมชาติ และสุริยัน-จันทรา ทุกคนต่างเข้าใจไปว่า คำสาปรักสุริยัน-จันทรานั้นคือคำสาปร้าย แต่แท้จริงเป็นเช่นไร ไม่มีใครรู้

    ผู้เข้าชมรวม

    159

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    159

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  11 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  7 ส.ค. 67 / 14:34 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     กรุณาอ่านคำเตือนก่อนเข้าไปอ่านนะจ้ะ

    นิยายเรื่องนี้เป็นแนวจีนโบราณ ซึ่งในเนื้อเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ใด ๆ ทั้งสิ้น ชื่อและสถานที่ต่าง ๆ อาจไม่มีอยู่จริง เกิดขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนล้วน ๆ ภาษาที่ใช้อาจขัดหูขัดตาไปบ้าง อาจจะไม่รื่นหูสักเท่าไหร่ สำหรับชื่อของตัวละครอาจมีความหมายบ้างไม่มีบ้าง มีคำพูดที่หยาบคาย กระทบกระเทือนจิตใจ อาจมีการผิดจารีตประเพณีอันดีงาม และอาจไม่สมเหตุสมผล อาจมีการกล่าวอ้างตำนานที่ไม่มีอยู่จริง เพราะนี่คือนิยายจ้า

    นิยายเรื่องนี้เป็นแนวชายรักชาย แนวผู้ชายท้องได้ เพศรองเป็นเกอ หรือก็คงคล้าย ๆ โอเมก้าประมาณนี้ หากมีข้อผิดพลาดประการใดไรท์ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

    โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน หากไม่ชอบ ไม่ถูกใจกดออกได้นะคะ ขอบคุณค่ะ

    (จะมีการติดเหรียญตั้งแต่ตอนที่ 6 เป็นต้นไปค่ะ จะติดเหรียญอยู่ที่ 3-6 เหรียญ)

    เตือนอีกครั้ง นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่ง แต่งขึ้นเพื่อความบรรเทิงเท่านั้น อย่าหาความสมเหตุสมผลและสาระใด ๆ จากนิยายเรื่องนีี้

    ...............................................................................................................

    "หยุดเดี๋ยวนี้ วางปืนลง" เสียงตะหวาดลั่นของเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งที่จ่อปืนไปยังบุคคลที่ใช้ปืนจ่อไปยังขมับขาวของนายแบบชื่อดังคนหนึ่ง ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง หน้าตาหล่อเหลาโดดเด่นเป็นที่ต้องตาต้องใจเหล่าหนุ่มน้อยสาวใหญ่สาวน้อยมากมาย ยืนตัวสั่นในอ้อมแขนแข็งแรงของคนที่เขาคิดว่า รักเขามากและไม่เคยคิดร้ายกับเขาเลย ไป๋เยว่ซิน รู้สึกเสียใจอย่างมากที่คนรักทำร้ายเขาถึงขนาดนี้ ดวงตาคู่สวยปิดลงอย่างอ่อนแรงหมดอาลัยตายยากในชีวิต 

    "อันผิง นายต้องการอะไร" เยว่ซินเอ่ยถามคนรักเสียงสั่นเครือ อันผิงก้มลงมองคนที่ตนเอามาเป็นตัวประกัน ก่อนจะแสยะยิ้มออกมาอย่างหน้ากลัว ก่อนจะหัวเราะ หึๆๆๆๆๆๆ ในลำคอ

    "ต้องการอะไรงั้นเหรอ ต้องการให้มึงตายไง" อันผิงบอกก่อนจะกดปลายกระบอกปืนที่ขมับขาวจนเกิดรอยแดง เยว่ซินตัวสั่นด้วยความกลัว ในขณะที่ทุกคนรวมถึงตำรวจที่ยืนรายล้อม นั้นต้องการที่จะช่วยตัวประกันให้ได้นั้น ก็เกิดปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติอย่างหนึ่งบนท้องฟ้า จู่ ๆ ท้องฟ้าที่สว่างสดใสก็มืดลงเกือบคล้ายกลางคืน ผู้คนแตกตื่นเพราะไม่ได้มีการแจ้งไว้ก่อนจากทางการแม้แต่น้อย แต่สำหรับอันผิงนั้น หาได้สนใจไม่ เขาต้องการแค่จำฆ่าคนคนนี้เท่านั้น

    "ทำไม ทำไมอันผิงนายจะฆ่าฉันทำไม เราไม่ได้รักกันเหรอ" เยว่ซินถามออกไปทั้งน้ำตา อันผิงหัวเราะคล้ายคนเสียสติ

    "แกมันตัวซวย ตัวหายนะ แกทำให้ฉันต้องเสียคนที่รักไป ฉันไม่เคยรักแกเลย ไม่เลย!!" อันผิงตวาดในประโยคหลัง เยว่ซินไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองนี่เหรอคนที่เคยบอกรักเขา ทุ่มเททุกอย่างให้เขาแต่ตอนนี้ต้องการให้เขาตาย

    "คุณอันผิง วางปืนลงเถอะ อย่าทำแบบนั้นเลยนะ ถ้าคุณทำร้ายเยว่ซินอนาคตคุณก็ไม่เหลือเลยนะ" ตำรวนที่ทำหน้าที่เจรจาต่อรองกับคนร้ายเอ่ยออกไป ด้วยน้ำเสียงที่น่าฟัง แต่คนอย่างอันผิงไม่ได้ฟังอะไรแล้วตอนนี้เขาไม่ได้หวังให้ตัวเองต้องอยู่รอดปลอดภัยขอแค่ได้แก้แค้นให้คนที่ตัวเองรักก็พอ

    "ไม่"  "ปัง" "ปังๆๆ ๆๆ" นั้นคือประโยคสุดท้ายที่ เยว่ซิน ได้ยินก่อนที่จะสติเขาจะดับไป พร้อมกับเสียงปืนที่ดังขึ้นหนึ่งนัด และอีกนัดถัดไป

    ในขณะเดียวกัน ในรัชศกไท่หยางปีที่ 12 ในสมัยของพระเจ้าไท่หยางเฟยหรง ฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ได้เกิดเรื่องที่หน้าเศร้าขึ้นกับคนในตระกูลหลิน อย่างท่านเสนาบดีหลินลู่เสียน กรมอาญา ต้องสูญเสียลูกชาย เกอน้อยผู้อ่อนต่อโลกจากน้ำมือของคนร้ายที่ลักพาตัวลูกน้อยไปเพื่อสังเวยความแค้นแทนบิดาเช่นเขา หลินเยว่ซิน เกอน้อยวัย 15 หนาวที่ยังไม่ถึงวัยปักปิ่น ต้องมาจากโลกอันโหดร้ายไป อย่างไม่มีวันกลับ ในตอนนี้ที่จวนตระกูลหลิน ได้ส่งทหารออกไปตามหา เยว่ซิน เกอน้อยที่หายตัวไปจากบ้านโดยการลักพาตัวไปของคนร้ายด้วยแค้นใจที่ ทางเสนาบดีหลินตัดสินโทษประหารแก่บิดาตน ตนเลยแก้แค้นมาลักพาตัวลูกชายอันเป็นที่รักของเสนาบดีหลินไปทารุณกรรมจนเกือบตาย แต่ไม่ได้ล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใด

    ตอนนี้ร่างไร้เรี่ยวแรง และหายใจรวยรินของเกอน้อยได้ถูกนำกลับมายังจวนตระกูลหลินแล้วเป็นที่เรียบร้อย นายท่านหลินได้รับโปรดเกล้าจากองค์ฮ่องเต้ให้หมอหลวงมาทำการรักษาลูกน้อยของเขา

    "เป็นอย่างไรบ้างท่านหมอ" หลินลู่เสียนเอ่ยถามอย่างร้อนใจ จ้องมองบุตรชายไม่วางตา ร่างกายบอบบาง บอบช้ำอย่างหนัก กระโหลกศีรษะยุบ ซี่โครงหักอวัยวะภายในบอบช้ำอย่างรุนแรง บาดแผลภายนอกแทบไม่มีให้เห็น หมอหลวงถอนหายใจอย่างปลดปลง

    "ข้า เฮ้อ! ข้าเสียใจด้วยท่านเสนาบดี ข้าหมดความสามารถแล้ว ด้วยเขาร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ข้าแค่ประคองอาการไว้เท่านั้น ข้าขอตัว" หมอหลวงเอ่ยบอกอาการคนที่นอนนิ่งไม่ไหวติง ลมหายใจรวยรินที่บ่งบอกว่า คนผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่ แต่จะอีกนานแค่ไหน นายท่านหลินทรุดกายลงนั่งที่เก้าอี้ไม้เนื้อดีลวดลายสวยงามอย่างอ่อนแรง เหม่อมองบุตรชายตัวน้อยที่เฝ้าทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ไม่หน้าต้องมาเป็นแบบนี้เพราะคนชั่วคนนั้นเลย ลูกชายเขาไม่รู้เรื่องด้วยสักหน่อยทำไมต้องมาทำร้ายเขาด้วย

    "ท่านพี่ ไม่ ไม่ ฮื้ออออ ท่านพี่ ลูกของเรา ฮื้อออ" ถังฮูหยินหรือฮูหยินใหญ่ มารดาของเยว่ซินที่เพิ่งวิ่งเข้ามาได้ยินหมอหลวงบอกก็ร้องไห้ฟูมฟาย ปานใจจะขาดไม่กล้าเข้าไปกอดลูกน้อยด้วยกลัวลูกจะเจ็บ

    หมอหลวงกลับไปแล้ว ทุกคนในจวนต่างโศกเศร้าอาดูร ด้วยคุณชายบาดเจ็บไม่รู้ว่าจะอยู่รอดปลอดภัยได้อีกนานเท่าใด

    สายลมพัดพาใบไม้โบกไสวไปตามลม กลิ่นดอกอิงหวาโซยมาแต่ไกล ผสมกับกลีบดอกที่ร่วงโรยตามสายลมที่พัดพาไป ใบใผ่ปลิวไปตามเคล้าไปกับดอกไม้นานาพันธ์ุที่ร่วงหล่นลงพื้นดิน

    สบายจัง เย็นสบาย อากาศสดชื่นมาก ที่ไหนกันนะ นี่เราอยู่ที่ไหน ทำไมถึงสวยแบบนี้ ดอกไม้พวกนี้สีสันสดใสมากเลย ไป๋เยว่ซินคิดยืนชื่นชมบรรยากาศรอบตัวอย่างเพลิดเพลิน ท่ามกลางทุ่งดอกไม้นานาพันธ์ุ โดยเฉพาะต้นอิงหวา และเหม่ยหวา ที่แข่งกันออกดอกสะพรั่งสีชมพูสดใส ส่งกลิ่นหอมสดชื่นแข่งกัน ไม่รู้ว่ามันขึ้นผิดฤดูกันหรือเปล่า ตอนนี้มันฤดูหนาวนี่หน่า เยว่ซินคิด เขาชอบบรรยากาศแบบนี้ที่สุด แต่กำลังจะเพลิน ๆ ก็ต้องสะดุด กับผู้ที่มาใหม่

    "สวัสดีหนุ่มน้อย" เสียงทักทายดังขึ้นจากด้านหลังพาให้ร่างโปร่งสะดุ้งสุดตัว รีบหันมาทางต้นเสียงเกือบจะทันที

    "คะ คุณเป็นใครครับ เป็นเจ้าของสวนดอกไม้นี่เหรอครับ" ไป๋เยว่ซิน ถามออกไปเสียงตะกุกตะกัก ด้วยกลัวจะโดนดุที่ล่วงล่ำเข้ามาในที่ของคนอื่น คนที่ทำให้เขาตกใจกลับยิ้มหวานส่งมาให้ หญิงสาวหน้าตาสะสวยรูปร่างโปร่งบาง น่าทะนุถนอม อายุหน้าจะไม่เกิด 20 ปี แต่กลับมีกลิ่นอายที่ทรงอำนาจหน้าเกรงขาม จนเยว่ซินต้องถอยห่างออกไป

    "ไม่ต้องกลัวเราหรอกพ่อหนุ่ม เรามาดี เรานำคนผู้หนึ่งมาพบเจ้า" เธอเอ่ยปลอบและให้เขาเจอใครอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอ เอะ ไปแอบอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ เยว่ซินมองอย่างสงสัย

    "นี่คือ ไป๋เยว่ซิน และนี่คือ หลินเยว่ซิน รู้จักกันไว้สิ" เมื่อเธอแนะนำจบทั้งสองก็มายืนตรงหน้ากัน ต่างคนต่างตะลึงกับคนที่เพิ่งเจอหน้ากัน

    "ทำไมถึงเหมือนผม/ทำไมถึงเหมือนข้า" ทั้งสองพูดขึ้นมาพร้อมกัน จนหญิงสาวยกมือขึ้นป้องปากหัวเราะอย่างขบขัน

    "เอาละ ๆ ไม่ต้องตกใจไป พวกเจ้าสองคน ก็คือคน ๆ เดียวกัน แค่แยกดวงจิตออกจากกันแค่นั้น เพราะคำสาปจากสุริยันต์จันทราเป็นเหตุ" ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะหันมามองหญิงสาวนางนั้นอย่างอยากรู้เต็มที่

    "ต่อไปพวกเจ้าจะได้อยู่ด้วยกันแล้ว ไปสิหลินเยว่ซิน" นางบอกแล้วหลินเยว่ซินก็เดินตรงไปยืนตรงหน้าไป๋เยว่ซินทันที เขายื้มให้ไป๋เยว่ซิน แล้วหันมาไปมองนาง หญิงสาวคนนั้นแต่ชุดจีนโบราณผ้าบางเบาสวมทับกันสามชั้นสีชมพูอ่อนสวยงามมาก นางโบกแขนเสื้อซ้ายทีขวาที ร่างของทั้งสองก็มารวมตัวกัน เป็นหนึ่งจิตวิญญาณเดียวกัน

    "ลืมตาสิไป๋เยว่ซิน" นางเอ่ยบอกกับคนที่ยืนหลับตาปี๋ด้วยความกลัว เอ๋! ไป๋เยว่ซินเหรอ ทำไมเหลือเขาละ

    "ทำไมเหลือเป็นผมละ" เยว่ซินแปลกใจเขาตายแล้วนี่หน่า นางหัวเราะเบา ๆ ก่อนตอบ

    "ก็คนที่ต้องอยู่คือเจ้า หาใช่อีกคนไม่ อะๆ เจ้าคงสงสัยว่าเพราะเหตุใดสินะ นั่นก็เพราะว่าเจ้าแข็งแรงกว่าหลินเยว่ซิน อย่างไรละ เอาละได้เวลาที่เจ้าจะต้องไปอยู่ที่ ๆ หลินเยว่ซินจากมาแล้ว ต่อไป เจ้าคือหลินเยว่ซินแล้วนะ ข้าจะให้พรแก่เจ้า" นางแก้ข้อสงสัยที่เขาสงสัยได้ดีทีเดียว เอ๋ พรเหรอหน้าสนใจดี เยว่ซินคิด

    "จะขออะไรก็ได้เหรอครับ" เยว่ซินถาม นางพยักหน้า

    "ผมยังนึกไม่ออก แล้วขอได้กี่ข้อครับ" เยว่ซินสงสัย นางยกนิ้วให้ 5 ข้อ 5 ข้อเลยเหรอเยอะจัง เขายิ้ม

    "เอาละว่ามาสิ เราจะให้พรเจ้าเพื่อเป็นการแก้ตัวเราเลยเพิ่มให้เป็น 5 ข้อ จากปกติ 3 ข้อ" นางเร่ง

    "แก้ตัว เรื่องอะไรครับ" เขาสงสัย

    "ก็......ที่ข้ากับคนรักทำให้พวกเจ้ายุ่งวุ่นวายไงละ เอาละอย่าถามมากบอกมาเลย" นางเร่งอีก

    "เอาละครับงั้นข้อ 1 ผมขอให้ตัวเองเก่งกาจในทุก ๆ ด้าน ฉลาดมีไหวพริบแข็งเกร่งขั้นเทพ

    ข้อ 2 ขอให้ผมสมหวังในความรัก

    ข้อ 3 อืมม นึกไม่ออก เอาไว้สามข้อที่เหลือผมค่อยบอกได้ไหม ตอนนี้นึกไม่ออกอะ" เยว่ซินทำท่าคิดก่อนจะตอบออกไป 

    "ได้สิแล้วข้าจะไปหาเจ้านะ นี่คือของขวัญที่ข้าและคนรักทำมันให้เจ้า" นางยื่นกำไลหยกสีเขียวมีเส้นสีทองด้านในเนื้อหยกสวยงาม มันดูใหญ่ไปสำหรับข้อมือเขา เยว่ซินยื่นไปรับมาสวมเข้าก้ับข้อมือบางข้างขวา พอสวมบั๊บจากที่ดูว่าใหญ่มันก็รัดลงมาจนพอดีกับข้อมือของเขา

    "มันสวยมากครับ ขอบคุณครับ" เยว่ซินเอ่ยอย่างตื้นตันใจ

    "มันคือกำลังมิติ ในนั้นมีทุกสิ่งอย่างที่เจ้าต้องการ แค่เจ้าอยากเข้าไปเจ้าก็สามารถเข้าไปได้เสมอเพราะมันคือของ ๆ เจ้าแล้ว และมันสามารถสื่อถึงข้าและคนรักข้าได้ด้วยนะ" นางอธิบายจนเยว่ซินตาโต

     "เราต้องไปกันแล้ว เอาละหลับตาลงแล้วยื่นมือมา" นางบอก ไป๋เยว่ซินทำตามอย่างว่าง่าย แวป!!!!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น