ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC EXO} DISABLE..พิการ [ChanBaek] Yaoi

    ลำดับตอนที่ #24 : - Disable - 21 FIN

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.24K
      76
      8 ก.ย. 57

     

     

     

     

     

     

    LAST

     

     

     

     

     

    เสียงแผดร้องดังลั่นห้อง ปลุกให้ชานยอลตื่นขึ้นมากลางดึก..ชายหนุ่มงัวเงียเล็กน้อยเพื่อดูเวลา นาฬิกาตีบอกเวลาตีสองกว่าเกือบตีสามแล้ว ชานยอลผุดลุกขึ้นมาขยี้หัวตัวเองแรงๆไปสองสามครั้ง หูแว่วได้ยินเสียงเด็กร้องและเสียงปลอบเบามาแต่ไกล

     

    “ไม่ร้องนะคะ..ลูกหมูน้อยหิวนมหรอคะ นี่ไงคะ..นมของหนู นมหอมๆของชอบหนูไม่ใช่หรอลูก โมะๆๆ ทานนะลูกนะ”แบคฮยอนบอกเบาๆหากเจ้าตัวเล็กยังคงแผดเสียงดังงอแงไม่เลิกจนคนเป็นแม่ต้องกระชับแขนให้เขามาใกล้มากขึ้น

    “ไม่เอาสิคะ กูซึล ไม่ร้องอย่างนี้สิคะ เดี๋ยวคุณพ่อตื่นนะลูกนะ คุณพ่อต้องไปทำงานแต่เช้านะลูก”แบคฮยอนบอกเล็กน้อยเอามือตบเบาๆที่หลังบางของลูกรัก

     

    ในขณะที่อีกมือพยายามไม่จ่อขวดนมที่ปากเล็กใกล้จนเกินไปในขณะที่ลูกยังร้องดังขนาดนี้ กลัวว่าเจ้าตัวเล็กจะสำลักนมเสียก่อนเลยไม่พยายามจะเคี่ยวเข็ญเท่าไหร่นัก

    เพียงไม่นานนักเมื่อเด็กตัวเล็กได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของคนเป็นแม่ กลิ่นและสัมผัสที่เจ้าตัวเล็กเคยชินทำให้กูซึลสะอื้นเบาขึ้น รอคอยนมของโปรดที่คุณเป็นแม่มาป้อนถึงปาก

     

    “ลูกตื่นหรอ แบคฮยอน”เสียงทุ้มเข้มที่ดังมาจากข้างหลังทำให้แบคฮยอนหันกลับมามอง สีหน้าอิดโรยของคนตัวเล็ก เป็นสิ่งแรกที่ชานยอลเห็นก่อนใบหน้าลูกเสียอีก

    “ครับ ช่วงนี้กูซึลชอบร้องตอนช่วงตีสาม ผมพยายามให้แกเงียบอยู่ ว่าจะไม่ให้กวนพี่แล้วนะครับ”แบคฮยอนบอกหน้าไม่ค่อยดีนัก

    “ไม่หรอก ยังไงกูซึลก็ลูกเรา มาฉันอุ้มลูกให้”ชานยอลว่าเล็กน้อย ก่อนรับตัวเด็กน้อยมาไว้ในอ้อมแขนแทนคนตัวเล็กที่พอส่งลูกสาวให้คุณพ่อตัวโตได้ก็บีบนวดแขนเรียวของตัวเองหลายต่อหลายที

     

    ตอนนี้กูซึลน้อยมีอายุได้สามเดือนกับอีกสามสัปดาห์เศษแล้ว จากเด็กเจ้าตัวเล็กตอนนี้ได้เป็นลูกหมูสมตามที่แบคฮยอนได้เรียกเอาไว้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ไม่มีผิด เมื่อเจ้าตัวเล็กทั้งกินเก่งนอนง่ายไม่ทำให้พ่อแม่มือใหม่ปวดหัวนัก

    เพียงแต่ช่วงนี้มักจะชอบตื่นกลางดึกบ่อยๆ แถมหลังจากกินนมเสร็จก็ไม่ค่อยยอมนอนกว่าจะหลับอีกรอบก็เกือบสว่าง เนื่องจากเด็กในวัยนี้เริ่มตื่นนานและนอนนานมากขึ้นในแต่ล่ะช่วงของวัน

    แต่ที่แย่หน่อยคือ กูซึลชอบนอนช่วงหกโมงเย็นแล้วก็ตื่นมาทานนมพร้อมหลับต่อก่อนจะตื่นมาอีกทีในช่วงกลางดึกแบบนี้ ทั้งที่ๆเขาพยายามสะกิดเจ้าตัวเล็กให้ตื่นแต่กูซึลก็หลับเสียสนิทตลอด สะกิดเท่าไหร่ก็ไม่หือไม่อือเลยนอนนิ่งเป็นลูกหมูพุงกลมเชียว

     

    “วันไหนลูกตื่น เธอปลุกฉันก็ได้”ชานยอลว่าพลางส่งขวดนมเปล่าคืนแบคฮยอน ก่อนจะเอาเด็กเล็กขึ้นพาดไหล่แกร่งตบหลังเบาๆเพื่อไล่ลมอย่างคนเริ่มเป็นงาน เพียงแต่มีนมไหลตามลมออกมาอีกด้วย

    “หวาย…แหวะๆเลยเนอะ เลอะเสื้อคุณพ่อเลยเจ้าลูกหมู”แบคฮยอนรีบเอาผ้าอ้อมเช็ดในส่วนที่เลอะเทอะออก

     

    อาการสำรอกนมเป็นเรื่องปกติของเด็กทารก เมื่อทานนมเข้าไปไม่หมดมักจะสำรอกออกมาไม่มากพร้อมกับการเรอ ไม่ใช่อาการอาเจียนหรือผิดปกติอะไร ซึ่งพ่อและแม่จำเป็นต้องไล่ลมลูกน้อยทุกครั้งหลังทานนมหมดแล้วเพราะไม่อย่างนั้นเด็กจะอึดอัดและปวดท้องอย่างมาก

    ในเวลานี้แบคฮยอนเริ่มสลับให้นมแม่ที่วานคุณจงแดช่วยหาให้สลับกับนมผงบ้างแล้ว เนื่องจากกูซึลเริ่มโตและแข็งแรงมากขึ้น แม้คอก็เริ่มตั้งได้บ้างแล้ว แต่ใจก็ยังไม่อยากให้ขาดนมแม่เสียทีเดียวเนื่องจากการที่ทารกดื่มนมแม่จนกระทั้งโตได้ นมแม่จะทำให้เด็กมีภูมิมากกว่านมวัวมาก

     

    “อย่าเลยครับ พี่ต้องทำงานแต่เช้า ช่วงนี้เพิ่งเปิดกาสิโนที่เชจูด้วย..แค่พี่ต้องนั่งเครื่องบินไปๆกลับๆแบบนี้ก็หนักแล้ว เรื่องลูกให้เป็นหน้าที่ผมเถอะนะครับ”แบคฮยอนบอกด้วยรอยยิ้มบางๆ

    “ความเกรงใจไม่ต้องมีใครครอบครัวก็ได้..ฉันไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องเหนื่อย วันๆทำงานเยอะไม่มีเวลาเล่นกับลูกเลย อย่างน้อยมีเวลาเล่นช่วงนี้ก็ยังดี”ชานยอลบอกทั้งยังเอาหน้าไปมุดพุงป่องของเจ้าตัวเล็กที่หัวเราเอิ้กอ้ากชอบใจใหญ่ แถมยังเอามือเล็กป้อมมาปัดป่ายไปตามใบหน้าหล่อของพ่อตัวเองอีกแน่ะ

    “นั่น..ดึกแล้วนะลูกหมูน้อย ไม่นอนจริงๆหรอคะเนี่ย”แบคฮยอนอดหมั่นเขี้ยวลูกไม่ได้ เลยได้กดจมูกลงที่แก้มแน่นของลูกสาวสุดที่รักแทน ไม่มีทางที่กูซึลจะสลดแน่นอน

     

    กูซึลกำลังอยู่ในช่วงมีพัฒนาการ ดวงตาสามารถมองเห็นชัดเจนดีแล้ว เริ่มที่จะตอบโต้อ้อแอ้ได้บ้างนั้นคือความสุขของพ่อแม่ที่รู้ว่าร่างกายของลูกน้อยสมบูรณ์ดีครบถ้วน

    ส่วนทางด้านของชานยอลเองแม่ช่วงนี้งานจะเยอะ อันที่จริงก็เยอะเป็นปกติอยู่แล้วล่ะ ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างค่อนข้างรัดตัวหนักเพราะกิจการที่เพิ่งเปิดใหม่ทั้งขยายสาขา แต่ด้วยความที่เขามีลูกเล็กจึงต้องซื้อความสบายใจของทั้งแม่และลูกด้วยการไม่นอนข้างนอกหากไม่มีความจำเป็นที่สมหนักแน่นพอ

    ไม่ใช่ว่าแบคฮยอนไม่ยอม คนตัวเล็กไม่เคยก้าวก่ายเรื่องการทำงาน ซ้ำยังไม่เคยออกความเห็นเรื่องใดๆเลยด้วยแต่เป็นชานยอลเองที่เลือกจะทำแบบนี้มากกว่า

     

    “ตาใสขนาดนี้ท่าทางจะอีกสักพัก ใช่ไหมคะ หนูอยากเล่นกับคุณพ่อใช่ไหมคะ”มือใหญ่จับไปตามเนื้อตัวของเด็กเล็กที่คว้าเอานิ้วมือของเขาเอาไว้แน่น ยิ้มหวานเสียจนตาปิดให้ใจคนเป็นพ่อพองโตเล่น ชานยอลยิ่งมองเท่าไหร่ก็ยิ่งคิดว่าลูกสาวเขาท่าทางจะได้แม่มาเสียเยอะเลย ทั้งตาทั้งปาก

    “เข้ากันดีเหลือเกินนะ ทั้งพ่อทั้งลูก..แม่ไปนอนแล้วดีกว่า..หนูให้พ่อส่งนอนไปเลยละกันนะคะ”แบคฮยอนที่ก้มลงฟัดแก้มใสของลูกก่อนพูดน้ำเสียงน้อยใจอย่างไม่จริงจัง เขากล่อมให้นอนเท่าไหร่ก็ไม่นอนดีนัก ดึกก็ดึกแล้วยังจะมาหาพวกเล่นด้วยกับพ่อเขาอีก

     

    เพียงแต่เหมือนกูซึลน้อยจะรู้ได้ว่าถึงน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป พอๆกับกลิ่นอ่อนของคนเป็นแม่เริ่มถอยห่างเลยทำท่าเอามือป้อมของตัวเองดันหน้าของพ่อตัวเองออกปัดป่ายมือไปคว้าเอาคอเสื้อของแม่ไว้ได้ทัน ถ้าพูดคงอยากถามว่า..แม่จ๋าจะไปไหนคะ อยู่กับกูซึลก่อนนะคะแม่จ๋า

     

    “ไม่ต้องมาจับเลยลูกหมูน้อยอยู่อ้อนพ่อเขาไปเลยค่ะ แม่จะไปล้างขวดนมหนูแล้วลูก”ว่าพลางแกะมือเล็กออกจากคอเสื้อของตัวเองแต่พอมันหลุดปุ๊บ เจ้าตัวก็ร้องไห้จ้าทันทีจนแบคฮยอนตกใจคว้าลูกมาอุ้มพาดไหล่อย่างรวดเร็ว

     

    กูซึลแผดเสียงร้องดังเสียจนผิวขาวแดงระเรื้อขึ้น ร้องเสียงดังอยู่ข้างหู หากแบคฮยอนก็ค่อยๆเอามือลูบหลังตบเบาๆปลอบเล็กน้อย

     

    “แม่ไม่ได้ว่าหนูนะคะลูกไม่ได้ว่าอะไรเจ้าตัวนิ่มของแม่เลยนะลูก หนูร้องไห้ทำไมคะ..แม่ไปล้างขวดนมแป่บเดียวเองนะคะ ลูกหมูน้อย”แบคฮยอนปลอบเสียงเบา เขาไม่นึกชอบเลยเวลาเห็นลูกร้องไห้ตัวขดตัวงอแบบนี้ ใจของคนเป็นแม่มันจะขาดตามไปด้วย

    “โอ๋ลูก..แม่หนูเขาล้อเล่นนิดเดียวเองน้อยใจแม่เขาหรอคะ”ชานยอลช่วยพูดปลอบอีกแรงเอามือเขี่ยแก้มกลมเล็กของลูกสาวทั้งยังพยายามจะเล่นด้วยเพื่อให้เจ้าตัวเล็กสงบลงซึ่งไม่นานก็สงบแถมหลับคาอกคุณแม่ตัวน้อยเลยทีเดียว

     

    แบคฮยอนใจชื้นขึ้นมาบ้าง วางเอาเด็กตัวเล็กลงเบาะนิ่มริมฝั่งเตียงที่เด็กหนุ่มเอาหมอนมาวางกั้นเอาไว้เพื่อเจ้าตัวเล็กนอนดิ้นจะได้ไม่ตกเตียง ซึ่งตัวเขาเองนอนตรงกลางและชานยอลก็นอนถัดไปอีก มือบางเช็กคราบน้ำตาออกจากใบหน้าน้อยๆ ดีหน่อยที่พอกูซึลได้หลับก็จะหลับยาวเลย

     

    “สงสัยเมื่อกี้จะงอแงง่วงนอน”ชานยอลคว้าคนที่นั่งมองลูกให้ลงมานอนพิงอกของตัวเองเอาไว้ในขณะที่คนตัวเล็กเองก็เอาแก้มของเขาเกยอกแข็งแรง นึกสบายเมื่อมือแกร่งของอีกคนกำลังลูบหลังเขาเบาๆ

    “ตัวแค่นี้ขี้โวยวายไม่มีใครเกินเลยครับ”เปรยถึงเจ้าตัวเล็กน้อยๆ นึกยิ้มเมื่อพูดถึงลูก

    “เหนื่อยหรือเปล่า ฉันเองก็ไม่ค่อยได้ช่วยเลี้ยงเลย”ชานยอลบอกตามความจริงที่เขาไม่ได้เวลาช่วยเลี้ยงมากนักอย่างว่างานช่วงนี้ชุมเหลือเกิน

    “ไม่เลยครับ ผมไม่ได้เหนื่อยอะไรเลย งานก็ไม่ได้ทำอะไรเยอะแยะเลี้ยงแต่ลูกอย่างเดียว ไหนจะมีแม่บ้านคอยผลัดกันดูแค่นี้ก็สบายมากแล้ว”คนตัวเล็กยิ้มจนตาปิดราวกับภาพทับซ้อนของลูกสาวเลยทีเดียว

    “งั้น..เอาอีกสักคนไหม กูซึลจะได้ทันมีน้องเล่นด้วย”ชายหนุ่มว่าด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์เล็กน้อย ก้มลงจูบปากเล็กของอีกคนเบาๆ แต่กลับได้สายตาค้อนของคุณแม่ลูกอ่อนกลับมาแทน

    “รอให้กูซึลโตกว่านี้อีกหน่อยก็ทันครับ ร่างกายผมไม่ค่อยดีมีลูกติดๆกันน่ากลัวจะตาย”แบคฮยอนไม่ได้บอกปัดเพราะกลัวเรื่องการทำรัก เพราะอันที่จริงหลังจากมีลูกได้พักหนึ่งพวกเขาก็หลับนอนกันเช่นเดิมแต่เพียงป้องกันเท่านั้นเอง

     

    แต่เพราะเป็นอย่างที่แบคฮยอนพูดการตั้งครรภ์ของกูซึลก็ถือว่าเป็นปาติหาริย์มากแล้วที่กูซึลสามารถรอดมาได้อย่างครบถ้วนกระบวนความ แต่มดลูกที่ไม่เหมาะสมอย่างแบคฮยอนหากมีลูกติดๆกันก็กลัวจะแท้งขึ้นมาคราวนี้แบคฮยอนคงทำใจไม่ได้เลยขอให้อะไรมันเข้าที่เข้าทางจนดีก่อนค่อยว่ากัน

     

    “เอางั้นก็ได้..จะมีหรือไม่มี ก็เอาที่ปลอดภัยก็ดี”ชานยอลรับปากแค่นั้น กดสูดกลิ่นหอมแป้งเด็กที่ข้างขมับเล็กนิดๆพอให้ชื้นใจ

    “เออ..ว่าแต่ ผมมีเรื่องจะขออนุญาตน่ะครับ คือ..พี่โซราบอกว่า ซองยอลจะเข้ามาหากูซึลมะรืนนี้ แต่..คุณมยองซูจะมาด้วย ผมยังไม่ได้รับปากเลย ว่าจะมาขออนุญาติพี่ชานยอลก่อน”แบคฮยอนกัดปากเล็กน้อย

     

    อันที่จริงเขาค่อนข้างชอบใจซองยอลอยู่มาก เพราะเด็กคนนั้นน่าสงสาร หลังจากส่งตัวกลับไปมยองซูก็มีติดต่อมาบ้าง แต่ก็ไม่บ่อยนัก

    แบคฮยอนเองก็ไม่เคยคุยกับมยองซูเป็นการส่วนตัว ทุกครั้งที่ได้พูดคุยก็จะคุยแต่กับซองยอลเท่านั้น แต่เห็นว่าครั้งนี้มยองซูจะพาซองยอลมาที่บ้าน ไม่รู้ดีหรือร้ายแต่เชื่อว่ามันจะเป็นไปในทางที่ดี ไม่อย่างนั้นมยองซูคงไม่กล้าเดินเข้าถ้ำเสือโดยการเอาของรักมาด้วยแน่ๆ

     

    “ก็ตามใจสิ..แต่เดี๋ยววันนั้นฉันจะลางานมาอยู่ด้วยก็แล้วกัน”คำตอบนี้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจของแบคฮยอนพอสมควรเลยล่ะนะ

     

     

     

     

    แบคฮยอนตื่นมาเตรียมตัวตั้งแต่เช้า โดยทิ้งเจ้าตัวเล็กเอาไว้กับชานยอลที่ยังไม่ตื่นเช่นกัน แต่ก็แอบกระซิบคนตื่นง่ายเอาไว้ก่อนแล้วว่าเขาไม่อยู่ จะได้ไม่กลิ้งไปทับลูกตัวเอง ซึ่งลงมาอีกทีเห็นอาบน้ำกันมาตัวหอมฟุ้งแล้วล่ะ น่ารักเชียว แต่ยังไงกูซึลก็ต้องโดนจับตรวจจากคุณแม่ตัวน้อยไปอีกรอบว่าสะอาดไหม ก็ครั้งที่แล้วเล่นล้างตัวลูกไม่เกลี้ยง

    ชานยอลเองก็ไม่ได้ไปทำงานอย่างที่ตัวเองบอกจริงๆ แถมไม่ได้ลางานอย่างปากว่าอีกต่างหาก ก็ตัวเขาเป็นประธานบริษัทจะโดดงานหรือไม่มาไม่ใช่เรื่องที่ต้องลางานใคร ให้ส่งใบลาตัวเองก็คงเป็นเรื่องตลกไปอีก

    แบคฮยอนอุ้มลูกน้อยวัยสามเดือนครึ่งได้อย่างถนัดมือมากขึ้น แขกที่มาบ้านวันนี้ไม่มีใครว่างมาเล่นกับลูกหมูน้อยสักคนเดียว ไม่รู้ว่าไม่ว่างหรือไม่อยากมาเจอหน้าของคนที่เคยได้ชื่อว่าจับเขาไปกันแน่ ที่แน่ๆลู่หานเป็นคนหนึ่งที่ปฏิเสธการพบเจออย่างรวดเร็ว

    ซึ่งการพบปะในครั้งนี้มีการคุ้มกันแน่นหนามาก ซูโฮและเทาช่วยกันกลับมาทำงานเหมือนเดิมเพราะชานยอลยังไม่ได้วางแผนจะให้เทาเข้าไปเป็นไส้ศึกที่ไหนอีกและคิดว่าคงจะให้เทาปั้นเด็กใหม่แทนได้แล้ว

    ในขณะที่จงอินกับเซฮุนก็มาทำงานเหมือนเดิม แต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะเริ่มเล่นโทรศัพท์บ่อยมากขึ้นเมื่อไม่มีงานอะไรที่เป็นงานใหญ่นัก

    แต่วันนี้ทุกคนดูระแวดระวังกันมากเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว แม้กระทั้งจุนซูที่ปกติแบคฮยอนเห็นว่าจะไม่ค่อยบู๊มากเท่าคนอื่นก็เข้มงวดไปกับเขาด้วยอีกคน จนเขาเริ่มคิดว่ามันดูมากเกินไปหน่อย

    แต่ที่กล่าวมาคงไม่มีใครเกินปาร์ค ชานยอลที่เห็นว่าเงียบๆแต่อาวุธเพียบเต็มตัวไปหมดเลย ทั้งยังเดินตามติดแบคฮยอนทุกฝีก้าวอีกต่างหากแน่ะ

     

    “ผมว่านี่เยอะเกินไปหรือเปล่าครับเนี่ย”แบคฮยอนบอกขณะนั่งป้อนนมให้ลูกสาวตัวน้อยที่ทำท่าทางตาปรือเหมือนจะหลับไม่หลับแหล่ตรงหน้า

    “ไม่นี่ ฉันว่าปกติดี”ชานยอลตอบได้อย่างหน้าตาเฉย แต่การ์ดที่เข้ามาคุมหน้าบ้านจากสองเป็นสี่คนนี่คือไม่ปกติชัดๆ

    “หรอครับ คนเดินสวนกันในบ้านเป็นสวนสนามแบบนี้ กูซึลตกใจจะแย่”แบคฮยอนเอ่ยหยอกแต่มีเหรอคนอย่างชานยอลจะรู้สึกรู้สาก็แค่ตีสีหน้าไม่รู้เรื่องไป

     

    ตามกำหนดการมยองซูจะมาถึงบ้านในอีกสามสิบนาที เผื่อเหลือเผื่อขาดก็สี่สิบห้านาที ของว่างอาหารหลายอย่างถูกเตรียมไว้ตามคำขอของแบคฮยอน แม้คนอื่นจะมองว่ามยองซูเป็นศัตรูแต่สำหรับแบคฮยอนกลับมองว่าอีกคนเป็นแขกที่จำเป็นต้องต้อนรับอย่างดี

    และดูเหมือนว่าเจ้าตัวเล็กจะรู้ตัว ทั้งๆที่ทำท่าจะหลับเมื่อกี้แต่เมื่ออีกไม่นานแขกจะมา กลับทำตาแป๋วใส่คนเป็นแม่เลยทีเดียวเชียว

     

    “รับแขกหรือคะลูกหมูน้อย ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีไหมเนี่ย ใส่ชุดสวยๆดีไหมคะ..ปะแป้งเป็นเจ้าตัวนวลไปเลย”แบคฮยอนปล้ำจูบที่แก้มขาวของลูกสาวที่เพิ่งอิ่มนมจนหัวเราะเอิ้กอ้ากชอบใจ จับเรอ จับเช็ดปาก ปะแป้งอีกรอบไม่ให้อับชื้นเฉพาะในที่ร่มแล้วจึงเปลี่ยนเป็นชุดสวยให้ลูกสาวเตรียมตัวรับแขกที่จะมาบ้าน

    “ไม่ต้องสวยมากหรอก เดี๋ยวโดนจีบ”ชานยอลเอ่ยเสียงเรียบไม่ได้มองหน้าแบคฮยอนแต่เลยไปอุ้มกูซึลขึ้นมาแทน

    “ลูกยังเล็กแค่นี้เอง พี่จะมาหวงอะไร แล้วใครจะมาจีบลูกเรากันครับ ลูกเราเพิ่งสามเดือนเอง”แบคฮยอนเอ่ยยิ้มๆ

     

    เด็กหนุ่มแก้เสื้อผ้าของกูซึลออกด้วยความรวดเร็วก่อนเปลี่ยนชุดให้เจ้าตัวเล็กเป็นชุดสีฟ้าที่ประดับไปด้วยดอกไม้ แถมยังมีผ้าคลุมผมเข้าชุดกันอีกแน่ะ

    ออกมาน่ารักน่าชังเป็นที่สุดจนคนเป็นพ่อต้องแย่งไปฟัดหอมฟัดพุงอยู่หลายต่อหลายครั้งแถมอุ้มแนบตัวอีกต่างหาก จนแบคฮยอนได้แต่ส่ายหน้าไปมาเบาๆประมาณว่า ไม่เคยมีสักครั้งเลยนะที่ปากตรงกับใจน่ะ

     

    “คุณมยองซูมาแล้วครับ”จุนซูเดินเข้ามาบอกเล็กน้อยก่อนขออนุญาตเดินออกไปชานยอลส่งกูซึลคืนให้แบคฮยอนทันทีพร้อมทั้งเดินนำหน้าออกไปก่อนตัวคนเดียว โดยที่จงอินและเซฮุนคอยดูแบคฮยอนขนาบข้างไม่ให้หายไปไหน ชานยอลเชื่อว่าเขาเอาตัวรอดได้แต่สำหรับแบคฮยอนเขาก็ต้องส่งมือดีที่สุดคอยขนาบด้วย

    “เธออย่าทำให้ฉันเป็นห่วงนะ”ชานยอลหันมาบอกคนตัวเล็กก่อนจะกดจูบที่หน้าผากมนของคนตัวเล็กและลูกน้อยในอ้อมแขนของเขา

    “ผมเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีครับ”แบคฮยอนยิ้มหวานตอบยืดตัวไปกดปลายจมูกที่แก้มสากของอีกคน

     

    ชานยอลดูมึนงงเล็กน้อย กระพริบตาสองสามครั้งแล้วจึงเดินตัวแข็งๆออกไป แน่นอนแบคฮยอนรู้ว่าชานยอลเป็นอะไร แต่ก็แค่ยิ้มหวานทำเฉยๆไว้ ส่วนคนที่ต้องกลั้นขำจริงๆน่ะคือเซฮุนกับจงอินต่างหากเล่า

    มยองซูเดินเข้ามาในบ้านด้วยเสื้อผ้าแบบสบาย ชายหนุ่มถูกตรวจตราจากหน่วยรักษาความปลอดภัยของทางบ้านชานยอลอย่างเข้มงวด ทั้งมยองซู ซองยอล รวมถึงการ์ดที่พามาก็จำต้องปลดอาวุธ ทางนั้นเองก็ยอมแต่โดยดีเพราะดูจากการมาของมยองซูที่ไม่ได้เอาคนติดตามมามากเท่าไหร่ก็พอจะบอกได้ว่ามาดี

     

    “ยินดีที่ได้เจอกันอีกนะ”มยองซูหันมายิ้มให้แบคฮยอนที่คอแข็งขึ้นเล็กน้อยเมื่อคนตัวสูงมายืนอยู่ต่อหน้าจริงๆ เขายังจำได้ดีว่ามยองซูเคยทำอะไรไว้บ้าง เพียงแต่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้มันติดใจเขาไปตลอดชีวิต

     

    ตอนนี้มีชานยอลอยู่ด้วยต่อให้เกิดอะไรขึ้นเขาก็เชื่อใจว่าชานยอลจะไม่ยอมให้มยองซูแตะต้องเขากับลูกแม้แต่ปลายก้อยเลย

     

    “ครับยินดีเช่นกัน กูซึลเองก็สวัสดีค่ะคุณมยองซูเหมือนกันใช่ไหมคะ”แบคฮยอนตอบรับพร้อมยิ้มให้อย่างเต็มใบหน้า พร้อมทั้งยื่นเด็กตัวเล็กไปตรงหน้ามยองซู ชานยอลที่คอยระวังระไวอยู่ก่อนแล้วยังคงจับตามองตลอด

    “เป็นเด็กที่น่ารักดีนะ..ฉันขอโทษเรื่องวันนั้นด้วยก็แล้วกัน”มยองซูเอ่ยขึ้นมาในสิ่งที่แบคฮยอนเองก็เข้าใจดี

     

    มยองซูไม่ได้ขอโทษเรื่องที่เขาตบหน้าแบคฮยอนหรอกแต่เขาขอโทษให้กับเรื่องที่เคยว่าเด็กคนนี้ตอนยังอยู่ในท้องของแบคฮยอนต่างหาก นี่คือสิ่งที่แบคฮยอนคาดไว้ว่าจะได้จากการต้อนรับมยองซูมายังบ้านของชานยอลครั้งนี้

     

    “ขอรับด้วยความยินดีครับ เชิญเข้าด้านในก่อนเถอะฮะ อ่อ..แล้วก็ สวัสดีนะครับ ซองยอลอา”แบคฮยอนไม่ลืมที่จะทักทายคนที่กอดตัวของมยองซูไว้ แค่ดูก็รู้แล้วว่าติดมยองซูแค่ไหน เจ้าตัวได้แต่ยิ้มเผล่จนตาปิดโผล่หน้าออกมาบอกเท่านั้นเอง

    “ของเล่น..มาแล้ว..ของเล่นน้องมาแล้ว”ซองยอลดูเป็นเด็กที่มั่นใจกว่าครั้งไหนเมื่อมีมยองซู

     

    ดูจากสิ่งที่เห็นเขาไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของสองพี่น้องนอกสายเลือดหรอก และไม่คิดจะคาดเดาอะไรทั้งนั้นแต่เขาเชื่อว่าระหว่างสองคนนี้มีความรักมากมายอยู่และต่างคนต่างเป็นหัวใจของกันและกันดังนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย

    แต่คู่ที่ความสัมพันธ์ยังกระอักกระอ่วนน่ะคงเป็นของชานยอลกับมยองซูที่ตั้งแต่มยองซูเข้ามาในบ้านก็ยังไม่ได้ทักทายเจ้าของบ้านอย่างชานยอลเลย ชานยอลเองก็ไม่ได้ทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีสักเท่าไหร่ โดยการไม่ยินดีเลยที่แขกจะมาเหยียบบ้านหลังนี้ หากคนตัวเล็กก็ไม่ได้เร่งรัดให้เป็นไปตามที่ควรเป็น

    เข้าใจล่ะนะ..อย่างไรเสียคนเกลียดกันคงไม่สามารถรักกันได้ในชั่วโมงเดียว

     

    “ตามสบายนะครับ..หากคุณสองคนมีเรื่องจะคุยกันก็ตามสะดวก แต่ผมขอตัวซองยอลไปก่อนดีไหม หรือถ้าพวกคุณไม่คุยกันจะตามมานั่งดูก็ได้ครับ”แบคฮยอนเอ่ยอย่างดี เข้าไปจับจูงมือซองยอลอย่างนุ่มนวลโดยใช้มือเดียวในการอุ้มกูซึล

    “ไม่เป็นไรเราจะตามเข้าไปนั่งดู ส่งกูซึลมาเถอะเดี๋ยวฉันอุ้มเอง”ชานยอลบอกเอามือช้อนเด็กเล็กขึ้นมาอุ้มแนบอกแกร่ง

     

    มยองซูไม่ได้พูดอะไร เขาทำเพียงมองนิ่งๆก่อนยักไหล่ นึกในใจว่าเด็กเล็กกับคนตัวใหญ่ๆหน้าตายๆอย่างผู้นำตระกูลปาร์คเป็นภาพที่หาได้ยากนะ ถ้าถ่ายภาพเอาไปขายคงได้กำไรมากเลยทีเดียว แถมยังทำลายชื่อเสียงได้อีกด้วย

    แต่มันก็เป็นแค่ความคิดเท่านั้นเอง

    ไม่นานนักคนทั้งหมดก็เข้ามาอยู่ในห้องนั่งเล่นของบ้านใหญ่ชานยอล คราวนี้คุณแม่ตัวเล็กรับลูกสาวคืนมาจากคุณพ่อก่อนวางลงบนเบาะประจำตัวจนเด็กตัวเล็กหงายหน้ามองคนนั้นทีคนนี้ที ยิ้มหวานรับแขกเชียว จนแบคฮยอนอดหรี่ตามองไม่ได้

     

    “แน่ะ..คนมาเยอะนี่ชอบเหลือกนะคะลูกหมู วันนี้พี่เขาเอาของเล่นมาให้นะลูกจ๋า หนูตื่นเต้นไหมคะ”แบคฮยอนเอามือจับมือเล็กของลูกสาวยื่นหน้าไปถาม

    “อ..อ..เอิ้ก..อ่า..”เจ้าตัวเล็กที่ไม่รู้ว่าเข้าใจหรือไม่ หัวเราะตอบกลับมาเพราะคิดว่าแม่ตัวเองเล่นด้วยเสียละมั้ง ทำให้ซองยอลน้อยที่นั่งอยู่ด้านข้างยิ้มไปด้วย

    “น..นี่..ยอลทำ..ทำให้น้อง…ของเล่น..”ซองยอลหันไปหามยองซูเหมือนขออนุญาตอะไรบางอย่างและชายหนุ่มก็ทำเพียงพยักหน้าตอบรับเท่านั้น  ตัวต่อรูปเด็กทารกขนาดเกือบเท่ากูซึลจึงถูกนำออกมา

     

    แบคฮยอนตาโตเล็กน้อย เขารู้ซองยอลต่อมันขึ้นมาด้วยตัวเอง แล้วก็ไม่มีใครคิดหรือออกแบบให้ เด็กคนนี้ต่อออกมาจากแบบที่คำนวณอย่างดีในสมองแล้วจึงลงมือต่อทุกอย่างด้วยตัวเองจากชิ้นเล็กชิ้นน้อยจนกลายเป็นทารกรูปกูซึล

    แบคฮยอนซาบซึ้งกับมันมากเลยทีเดียว

     

    “ซองยอลอา..ขอบคุณมากนะครับ น้องยังเล็กเกินไป..ยังเล่นไม่ได้แต่ไม่เป็นไรนะครับ พอน้องโตพี่แบคฮยอนจะเอาออกมาให้น้องเล่น”แบคฮยอนตอบอย่างใจดี คราแรกซองยอลมีสีหน้าเศร้าเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มได้ในประโยคหลัง

     

    ชานยอลนั่งมองคนที่ชื่อว่าเป็นภรรยาของตัวเองนั่งคุยเล่นด้วยท่าทางสงบ ถัดไปอีกโซฟาหนึ่งเป็นคนที่เขานึกไม่ชอบขี้หน้ามาตั้งแต่โดนไล่ยิงครั้งแรกและก็โดนลักพาตัวลูกเมียอีกในครั้งที่สอง ทั้งคู่ไม่ได้มีบทสนทนาอะไรเลยสักเรื่องเดียวแค่นั่งนิ่งมองไปจุดรวมสายตาเดียวกันเฉยๆ

    เหมือนแค่รอเวลาให้ผ่านไปเท่านั้น

    ถ้าถามชานยอลว่าเบื่อไหมที่ต้องมานั่งมองอะไรแบบนี้ ชานยอลจะตอบได้อย่างทันทีว่าไม่..ในทางกลับกันให้ถามมยองซูเช่นเดียวกับเจ้าของบ้าน มยองซูเองก็ตอบด้วยคำตอบเดียวกัน

     

    “โอ๊ะ..จะเที่ยงแล้ว เชิญทานอาหารด้วยกันเถอะนะครับ”แบคฮยอนเป็นคนชวนคนทั้งหมด การทานข้าวด้วยกันนั้นคือระยะเวลาที่ดีที่จะได้ใช้ร่วมกัน

     

    แต่ออกจะผิดรูปไปเล็กน้อยเมื่อคนที่คุยกันจริงๆจังๆคือ ซองยอลและแบคฮยอน มยองซูมีหน้าที่แค่ตอบคำถามที่แบคฮยอนถามมาบ้าง หรือไม่ก็ซองยอลถามในขณะที่ชานยอลได้แต่นั่งคุมเชิงไม่ได้ตอบอะไรใครหรือเอ่ยถามชวนคุยอะไรออกไป แต่ก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศนั้นอึดอัดอย่างใด

    มยองซูและซองยอลอยู่ต่ออีกไม่นาน น้องน้อยอย่างกูซึลก็ทำท่างอแงจะนอนกลางวันเสียแล้ว แขกที่มารบกวนจึงได้ขอตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัยไร้รอยกระสุน

    วันนี้ผ่านไปอีกวัน..แบคฮยอนมองว่ามันเป็นวันที่ดีอีกหนึ่งวันของเขาและอาจจะเป็นวันดีของทั้งชานยอลด้วย

     

    “เป็นไงบ้างครับวันนี้เห็นพี่คุยกับคุณมยองซูเสียเสียงดังจนผมกับซองยอลแทบคุยกันไม่รู้เรื่อง”แบคฮยอนที่เริ่มกล้าเล่นกับชานยอลเอ่ยบอกยิ้มๆ

     

    แน่ละ..มันไม่ใช่เรื่องจริงเลย ในเมื่อชายหนุ่มสองคนเงียบใส่กันเสียเป็นส่วนมาก

    แต่จากที่ดูสถานการณ์ทั้งหมดแบคฮยอนเชื่อว่าความสัมพันธ์ของสองคนคงจะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ อาจจะเพราะเขากับซองยอลเป็นตัวกลางที่จะเชื่อมระหว่างกัน ในอนาคตเขาคงได้เห็นมยองซูและชานยอลคุยกันอย่างออกรสออกชาติตามที่เขาได้เอ่ยแซงกับชานยอลไว้จริงๆก็ได้

     

    “อืม..คุยกันถูกคอดีเลย”ชานยอลตอบรับอย่างดี เออออไปกับแม่ลูกอ่อนที่เพิ่งกล่อมลูกจนหลับสนิทแล้ววางลงบนเบาะเรียบร้อยพร้อมห่มผ้าให้อย่างเรียบร้อย

    “ไม่ต้องมาแกล้งเออออตามเลยครับ”แบคฮยอนทิ้งตัวนอนลงด้านข้างเบาะเล็กมองดูใบหน้าหลับของเด็กน้อย เหล่ตามองชานยอลที่ค่อยๆปลดเสื้อผ้าที่ใส่เสียเนี้ยบเพื่อรับแขกออกให้เป็นชุดที่สบายมากขึ้น

    “ก็เธอบอกอย่างนั้น”ชานยอลที่เข้าไปล้างมือล้างไม้ในห้องน้ำแล้วจึงออกมานั่งอยู่ปลายฝูก

     

    ชานยอลในเวลานี้ดูไม่เหมือนมาเฟียใหญ่เอาเสียเลย เวลานี้เขาเหมือนคนธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นเพียงแค่ปาร์ค ชานยอล คุณพ่อตัวโตของลูกหมูกูซึล ไม่ใช่ปาร์ค ชานยอลผู้ยิ่งใหญ่ที่มีอิทธิพลที่ใครก็ต่างก้มหัวให้

    แม้ใบหน้าจะเรียบนิ่งเฉยแต่มือใหญ่ที่ลูบพุงกลมของลูกน้อยหรือแม้กระทั้งคอยตบอกเล็กๆของเด็กหญิงเบาๆเพื่อไม่ให้สะดุ้งผวานั้นก็ยิ่งเป็นสิ่งที่แบคฮยอนไม่เคยคิดถึงมาก่อนว่าจะได้เห็น

     

    “พี่ชานยอลเปลี่ยนไปเยอะเลย พี่รู้ไหมครับ”แบคฮยอนบอกออกมาทั้งที่ยังนอนมองหน้าคนตัวโตของเขาอยู่ก่อนแล้ว

    “ไม่รู้หรอก ก็เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เอง”ชานยอลบอกแค่นั้นแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าขาวที่ยิ้มให้เขา

     

    ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรเลยสักอย่างเดียว แต่เหมือนมีภาพความทรงจำมากมายทั้งดีและร้ายปะปนกันไป ตั้งแต่วันแรกที่ทั้งสองคนเจอหน้า ปาร์ค ชานยอลร้ายแค่ไหนกับ บยอน แบคฮยอน ตลอดจนวันที่ชานยอลร้องไห้ผ่านโทรศัพท์เพื่อคุยกับลูกในท้อง วันที่ปาร์ค ชานยอลเอาตัวบังกระสุนให้เขาก่อนอุ้มเขาวิ่งไปส่งโรงพยบาลไว้ได้ทันจวบจนกระทั้งเป็นวันนี้ที่ปาร์ค ชานยอลอาบน้ำให้กับลูกน้อย

    ทั้งหมดนั้นคือภาพที่แบคฮยอนจะจำไปไม่มีวันลืม 

     

    “ผมรักพี่ได้อย่างไรไม่รู้”แบคฮยอนบอกแค่นั้น แต่เขาก็รักชานยอลจริงๆในวันนี้

    “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากลายเป็นคนแบบนี้ไปตอนไหน”ชานยอลตอบกลับหากดูเหมือนว่าจะไม่ตรงคำถามนั้น

    “พี่รู้ไหม..มีสิ่งหนึ่งที่ผมเคยบอกกับคุณพ่อของพี่ด้วยนะครับ”แบคฮยอนยกยิ้มเหมือนคนมีชัยไปกว่าครึ่งเมื่อเขาเห็นสีหน้าสงสัยโดยการเลิกคิ้วนิ่งของชานยอล นั่นล่ะ..ที่สุดของการแสดงออกของคนแข็งๆคนนี้แล้ว

    “ว่า..”

    ความรักมันเป็นสิ่งสวยงาม มันอาจเกิดขึ้นผิดที่ ผิดเวลาหรือผิดรูปผิดร่างไปบ้าง แต่ในความบิดเบี้ยวของมัน ก็จะมีความสวยงามซ่อนอยู่ในนั้นเสมอครับ”แบคฮยอนซบลงที่แขนของตัวเองบอกด้วยน้ำเสียงเนิบนาบและน่าฟังหากชานยอลเองก็ยิ้มเมื่อได้ยินมัน

     

    คราวนี้มันเป็นยิ้มที่ชายหนุ่มยิ้มออกมาจากหัวใจเพื่อแบคฮยอนคนเดียว

     

    “งั้นเธอและลูกคงเป็นสิ่งสวยงามที่สุด ที่ซ่อนอยู่ภายในชีวิตที่บิดเบี้ยวของฉัน ฉันสัญญาว่าฉันจะดูแลด้วยชีวิตของฉันตลอดไป”ชายหนุ่มยื่นตัวไปกดจูบขมับบางของแบคฮยอนที่หลับตาซึมซับความรักของอีกคนที่มาจากหัวใจอันแข็งแกร่ง

     

    ความรู้สึกของแบคฮยอนนั้นเชื่อได้เสมอ แบคฮยอนไม่รู้ว่าจะขอบคุณอะไร ระหว่างพ่อแม่ กูซึล หรือชานยอล แต่ตอนนี้เขามีความสุขดีแล้ว

     

    เพราะสิ่งที่แบคฮยอนต้องการ เขาได้ครบสมบูรณ์ดีที่สุดสำหรับตัวเขาแล้วในตอนนี้

     

     

    *************************************************************************************

     

    END เฮ้ย…จบแล้วอะ…ตกใจเลย จบเบยยยย งื้อ จะเป็นไรไหม ถ้าอยากให้เม้นท์กันในตอนนี้ ขอบคุณนะคะที่ติดตาม จบสวยไหม..ไม่รู้แต่สวยเท่าที่จิบิจะจบได้

    ขอบคุณก้านกล้วย ผู้จัดการที่น่ารักและง้องแง๊งกันมาจนจะแก่ ทะเลาะบ้าง งอนบ้างแต่รักเสมอ ขอบคุณมากที่อยู่ข้างเราคอยช่วยเราทุกอย่าง ขอบคุณนะกล้วยที่คอยเติมเต็มสิ่งที่เราขาดและแกรู้ว่ามันคืออะไรขอบคุณมากๆจริงๆ (ช่วยปรบมือหน้าคอมให้นางด้วย)

    ขอบคุณแฟนคลับ ซาแซง หรืออะไรก็ตามที่คอยเชียร์ฟิคเฮ้ย พวกนายทำให้เราทราบซึ้ง บางคนก็ตามออกมานอกฟิคนี่บอกเลย เราคนของประชาชนไม่มีเวลาส่วนตัว เชิญรบกวนได้ตามสบาย

    ขอบคุณอีกครั้งที่อยู่ด้วยกันมาทั้งคนที่มาทีหลังและคนที่ติดตามมาตั้งแต่ตอนแรก ถ้าถ่ายวีดิโอได้จะก้มลงไปคำนับ ขอบคุณคนที่อ่านมาต้ังแต่ #อดนร #ฟิคโค้ก จนถึงเรื่องนี้ #แบคพิการ

    ขอบคุณนะค้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ รักนะคะ ซารางเฮ ไอชิเตรุ หว่ออ้ายหนี่ เชอแตม นะค้าบบบบบบบบบบบบบ ม้วฟฟฟฟฟฟฟฟฟ 



    --------------------------------------------------------------


    ลูกหมูกูซึลเหมือนหม่ามี๊แบคมั้ย

    ปล. ตัวตริงน้องชื่อ ซลลีหรือซลลี่ เป็นน้องสาวของกามุง ตามน้องได้ที่ไอจีหรือเว่ยป๋อค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×