ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC EXO} DISABLE..พิการ [ChanBaek] Yaoi

    ลำดับตอนที่ #25 : - Disable - Special

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.6K
      90
      15 ก.ย. 57

     

     

    SPECIAL

     

     

     

     

    เชื่อไหมว่าการเป็นแม่ไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับเด็กที่กำลังค่อยๆเติบโต และอย่างยิ่งเด็กในวัยหนึ่งขวบกับอีกแปดเดือนที่กำลังซน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเลี้ยงเขา

    เด็กในวัยนี้ต้องทำอะไรบ้าง??

    เป็นคำถามที่คนไม่เป็นแม่คงตอบไม่ได้ แต่แบคฮยอนคนที่เลี้ยงลูกด้วยตัวเองตอบได้เป็นอย่างดี เขาไม่ต้องพึ่งตำราใดๆในโลกเลยทีเดียว อย่างยิ่งเขาทำอาชีพแม่บ้านเต็มตัวแบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง คนตัวเล็กมีเวลาที่จะปล้ำกับลูกน้อยได้ทั้งวัน

    การดูแลเด็กเล็กยี่สิบสี่ชั่วโมงเป็นเรื่องที่เหนื่อยกาย แบคฮยอนสามารถพูดได้เต็มปาก แล้วเขาจะสาธยายให้ฟัง

     

    เริ่มจากนาฬิกาบอกเวลา หกโมงเช้า แบคฮยอนต้องลงมาเตรียมอาหารให้ลูกและสามี ไหนจะยังผ้าเหม็นที่ค้างในตระกร้าเมื่อคืน ของเด็กน่ะต้องซักวันต่อวันเท่านั้นไม่อย่างนั้นจะทำให้เกิดการระคายเคือง อยากรู้ว่าซักอย่างไรให้สะอาด ต้องลงมือซักเองถึงจะดี เพราะฉะนั้นมีเวลาเพียงแค่หนึ่งชั่วโมงในการทำอาหารของลูกและสามี และนำผ้าไปแช่น้ำเอาไว้

    จากนั้นเวลาเจ็ดโมงเช้า ชานยอลจะตื่นอาบน้ำ ในขณะที่แบคฮยอนเดินขึ้นมาเตรียมเสื้อผ้าให้ชานยอล และประมาณสักเจ็ดโมงครึ่ง ลูกหมูน้อยก็จะตื่นพอดี และถ้าวันไหนตื่นมาไม่เจอหน้าคุณแม่ก็จะร้องไห้แผดเสียงดังจนน่าตกใจ

    หลังจากตื่นแล้ว ดื่มน้ำก็ป้อนข้าว ยังดีที่กูซึลค่อนข้างเลี้ยงไม่ยากนัก ให้นั่งทานข้าวก็จับช้อนเข้าปากตัวเองพอได้บ้างแล้วแต่ก็เลอะเทอะน่าดู เลยต้องมีช้อนสองคัน ของกูซึลหนึ่งคันและแบคฮยอนอีกหนึ่งคันสำหรับป้อนบนเก้าอี้เด็กอีก แถมเจ้าตัวเล็กที่เริ่มพูดได้เป็นประโยคบ้างแล้วแม้จะยังไม่ชัดมากแต่ก็สามารถพูดประโยคง่ายๆยิ่งจ้อไปกินไป

    จบการทานอาหาร ชานยอลก็ไปทำงาน ส่วนเขาก็พาลูกมาอาบน้ำแล้วก็ปล่อยเวลาให้ลูกเล่น ซึ่งเขาก็ต้องเล่นด้วย เด็กวัยนี้ยังไม่มีสมาธิมากพอจะเล่นอะไรได้ยาวนาน จึงต้องคอยดูแล คอยระวังและเล่นด้วยตลอด พอเหนื่อยและง่วงก็กินนมนอนกลางวัน คนตัวเล็กก็จะอาศัยเวลานั้นในการเก็บห้อง ซักผ้าที่ค้าง และลงมือทานข้าวเช้ารวบพร้อมกับกลางวัน แต่พอกินไม่กี่คำกูซึลก็จะตื่นมาทานข้าวกลางวัน และเล่นต่อจนถึงทานข้าวเย็นแล้วจึงอาบน้ำ ดื่มนม..และนอน

    แบคฮยอนเอาเวลาที่ไหนเป็นของตัวเองบ้าง เพราะพอลูกหลับสามีกลับบ้านก็กวนตัวอีกคน ซึ่งสามีพยายามจะทำลูกอีกคนแต่ก็ยังไม่เป็นผลเลย

     

    นี่คือหนึ่งวันของเขา ย้ำอีกครั้งว่าเหนื่อยกายมากแต่ไม่เหนื่อยใจเลยจริงๆ แต่….

    วันนี้แบคฮยอนจะไม่ทำทุกสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดทั้งมวลไม่ว่าอะไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าเขาจะทิ้งลูกหนีออกจากบ้านแต่อย่างใด เพียงแต่วันนี้เขามีนัดตรวจสุขภาพชุดใหญ่และปรึกษาเรื่องว่าจะมีบุตรคนต่อไปอย่างไรดี ซึ่งเขาไม่อยากให้กูซึลตามไปโรงพยาบาลด้วย ที่นั่นมีคนป่วยมากมายเด็กเล็กอาจรับเชื้อได้ง่าย

    นั่นหมายความว่า…

    ปาร์ค ชานยอลจะเป็นคนทำหน้าที่นี้ทั้งหมด..ถามว่าทำไมไม่จ้างพี่เลี้ยง ทั้งชานยอลและแบคฮยอนจะตอบได้อย่างดีว่า ใครจะเลี้ยงลูกได้ดีเท่าเราไม่มีแล้ว อีกอย่างชานยอลทำงานหนักมากอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสดีๆ เขาควรใช้มันร่วมกับลูกสาวถึงจะถูก

    แบคฮยอนคงไม่ต้องเครียดหรอกมั้ง เพราะอย่างน้อย นอกจากชานยอลแล้ว ยังมีเซฮุน จงอินและป้าแม่บ้านคอยช่วยล่ะนะ 

     


     

     

    “อ๊า!!!!!!!!!!!!!! แม่ต๋า….แม่อ่าาาาาาาา”เสียงร้องลั่นของเด็กน้อยทำให้ชานยอลที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำสะดุ้งเล็กน้อย ชายหนุ่มรีบเข้าไปประคองลูกเล็กของเขาขึ้นมาทันทีที่นั่งลงข้างเปลเด็กที่อยู่ห่างจากเตียงนอนของเขาไม่มากนัก

    “โอ๋…โอ๋…กูซึลอา เด็กดีของพ่อไม่ร้องนะคะคนเก่ง”ชายหนุ่มอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยแนบอก พลางเดินออกมานอกห้อง กูซึลยังคงสะอื้นเรียกหาคนตัวเล็ก เพราะความเคยชินที่จะต้องได้กลิ่นหอมๆของแม่ ได้ยินเสียงหวานๆ พร้อมจูบที่หน้าผากแต่วันนี้ยังไม่มีเลย

    “แม่ต๋า..ฮึก..ฮ..ฮึก..”กูซึลที่มองหน้าคุณพ่อน้ำตาคลอเบ้าทำเอาชานยอลแทบไปไม่เป็นเมื่อลูกตัวเล็กของเขาหน้าเหมือนแบคฮยอนเสียยิ่งกว่าอะไรดี

    “กูซึลขา..วันนี้แม่จ๋าไม่อยู่ อยู่กับพ่อจ๋านะคะ”ชานยอลบอกลูกน้อยอย่างใจเย็น หากเด็กตัวเล็กกลับทำท่าเบะปากจะหาแม่ท่าเดียว

     

    กว่าจะทำให้เงียบสงบได้ก็เกือบเลยเวลาทานอาหารไปเป็นชั่วโมง

    ชายหนุ่มอุ้มกูซึลไปนั่งเก้าอี้สำหรับเด็กก่อนจะหยิบเอาแก้วน้ำสำหรับเด็กไปวางไว้ให้ แล้วจึงไปหาสิ่งที่ต้องการคืออาหารของเจ้าตัวเล็ก ซึ่งมันก็ไม่ได้หายากเลยเพราะบนโต๊ะนั้นมีวางอยู่แล้ว ‘พี่ชานยอล..ผมเตรียมอาหารลูกให้แล้วนะครับ’หน้าชามลายตุ๊กตาน่ารักที่ปิดฝาเอาไว้อย่างดี มีกระดาษแนบด้วยลายมือที่อ่านง่าย และคนที่หยิบมาให้ก็คือเซฮุนและจงอินที่รอเขาอยู่ในห้องทานอาหารแล้ว

    ชานยอลเปิดฝาวัดความร้อนและมันยังอุ่นอยู่เล็กน้อยเขาจึงเบาใจ จับอาหารสำหรับเด็กบดใส่ข้าวตามที่แบคฮยอนบอกไว้อย่างละเอียดเมื่อคืนนี้ แล้วจึงป้อนข้าวให้ลูก

     

    “ป้อต๋า…ช้อน..ช้อนซึลอา..ช้อน..ช้อน”เด็กตัวเล็กร้องเรียกหาอาวุธประจำตัว ชานยอลผงะไปเล็กน้อย หากเป็นจงอินที่เดินไปหยิบช้อนคันเล็กของเด็กหญิงมาให้อย่างเงียบๆ

    “นี่ค่ะของกูซึลน้อยของพ่อจ๋า”ชานยอลยื่นช้อนยางอย่างดีสำหรับเด็กเล็กให้ ตอนนี้กูซึลเริ่มมีฟันขึ้นบ้างแล้วจึงต้องระวังสิ่งของที่เอาเข้าปากมากขึ้น

    “อ้าม..”มันอาจดูตลกบ้างเล็กน้อยที่คนน่ากลัวอย่างชานยอลจะมาทำอะไรแบบนี้ แต่ชานยอลก็ไม่ได้สนมากนักเมื่อเซฮุนกำลังกดโทรศัพท์ของตัวเอง เช่นเดียวกับจงอินที่ก็กดโทรศัพท์พยายามไม่สนใจเพราะกลัวจะหลุดหัวเราะออกมา

    “อ้าม…หงับๆ ป้อต๋าหิวๆ..อ้ามมมมมม”

     

    แปะ!!!

    อาหารกว่าครึ่งช้อนที่หล่นลงอย่างสวยงามบนเสื้อโปโลราคาแพงของเขา เพราะถูกมือเล็กที่พยายามจะช่วยป้อนคืนให้พ่อของตัวเองอย่างหวังดี ทำให้ชานยอลตระหนักได้ว่า ทำไมแบคฮยอนถึงไม่อาบน้ำก่อนป้อนข้าวลูก

    เพราะหลังจากนั้น ด้วยความที่นานๆทีชานยอลจะได้มีโอกาสป้อนข้าวให้กูซึล เด็กหญิงจึงค่อนข้างตื่นเต้นมากและพยายามเล่นป้อนอาหารกับคุณพ่อตัวเองอย่างดิบดี

     

    “ป้อนพ่อจ๋าแล้วหนูต้องกินด้วยนะคะ”ชานยอลบอกอย่างใจเย็นประคองช้อนเข้าปากเล็กได้อย่างพอดี ผิดกับสาวน้อยที่ป้อนให้คุณพ่อแต่ละคำก็หกใส่ไปกว่าครึ่งทุกคำเลยซิน่า

     

    แล้วมันหกมาอยู่ตรงไหนน่ะเหรอ หกมาอยู่ตรงที่เสื้อกับกางเกงอย่างดีของคนเป็นพ่อนี่ล่ะ ชานยอลอยากจะกุมขมับเหลือเกิน เพราะนอกจากตัวเขาจะเลอะเทอะแล้ว กูซึลน้อยเองก็เปลอะเปื้อนไปทั้งตัวอีกด้วยไงคราวนี้

     

    “ทำไมปกติเห็นแบคฮยอนป้อนไม่เละเทะแบบนี้เลยนะ”ชานยอลพึมพำกับตัวเองก่อนยิ้มให้ลูกสาวตัวเล็กที่หัวเราะเอิ้กอ้ากที่ได้สร้างสรรค์ผลงานแอ๊บแสต๊ก

    “ป้อต๋าเยอะเยย”เจ้าตัวป่วนหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียวจนชานยอลอ่อนใจ

    “ไม่เกรงใจพ่อเลยนะคะคนสวย”ชานยอลเอานิ้วเขี่ยคางลูกสาวตัวเล็กเบาๆเหมือนแกล้งหากเจ้าตัวน้อยก็ยังไม่ยอมลงให้ง่ายๆ หัวเราะชอบใจไปตลอดอีกต่างหาก

     

    เขาไม่เคยโกรธกูซึลได้เลยแต่ดุบ้างน่ะมี เขาไม่อยากให้กูซึลโตมาเป็นเด็กที่โดนตามใจจนเอาแต่ใจตัวเองเหมือนกับเขาแน่ๆ ดังนั้นบางเรื่องก็ต้องดุไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นการปลูกฝังตั้งแต่เล็กๆ

    กว่าจะหมดต้องป้อนอยู่พักใหญ่เลยทีเดียว ต้องมาเติมใหม่เสียอีกรอบเพราะส่วนใหญ่ก็หกเลอะเทอะไปพอสมควรโชคยังดีที่คุณแม่คนเก่งทำเผื่อเอาไว้เยอะพอสมควรเหมือนรู้ล่วงหน้า คุณลูกเลยได้อิ่มพอดี

     

    หลังจากนั้นก็จัดการพาคุณลูกตัวเล็กไปอาบน้ำ ชานยอลที่พับแขนเสื้อและกางเกง แต่ที่เขาไม่รู้คือว่าแค่พับน่าจะไม่พอน่ะ..

     

    ซ่า!!!!!!!!!!!!

    คิดว่าเสื้อกันฝนน่าจะเอาอยู่มากกว่า ในเมื่อสาวเจ้าตัวน้อยเอาถังใส่น้ำสาดเข้าให้โครมใหญ่ ซึ่งนั่นเป็นอุปกรณ์ของเล่นที่แบคฮยอนเตรียมเอาไว้บริเวณอ่างอาบน้ำเพื่อใช้ในการหลอกล่อลูกสาวคนดีให้อยู่เฉยเมื่อยามต้องฟอกสบู่สระผม

     

    “ป้อ..ป้อต๋า อาบน้ำๆ..ฮิฮิฮิ” กูซึลตัวน้อยตบมือชอบใจทั้งยังเอาถังคอยเติมน้ำจากฝักบัวในมือคุณพ่อที่คอยเอาราดไหล่ลูกสาวไปด้วยราวกับผลัดกันทำ ชานยอลจึงปล่อยเลยตามเลย  ถือเสียว่าอาบน้ำอีกรอบหลังจากเลอะเทอะไปด้วยอาหารของลูก

     

    ชายหนุ่มพอจะอาบน้ำเด็กเป็นเพราะเคยอาบให้กูซึลเมื่อตอนที่เด็กหญิงยังเล็กอยู่แต่เมื่อเลยวัยประมาณขวบหนึ่งชานยอลก็ไม่ได้อาบน้ำให้กูซึลอีกเลย เนื่องจากงานที่รัดตัวมากจะหาเวลาเล่นกับลูกได้ยังแค่สุดสัปดาห์ หรือไม่ก็โชคดีที่เขายอมเบี้ยวงานเพื่อมาอยู่กับสองแม่ลูก

    ถึงจะอย่างนั้นเรื่องพวกนี้แบคฮยอนเป็นคนทำมาตลอด

    ดังนั้นตอนนี้กูซึลไม่ได้อยู่นิ่งเหมือนก่อนแล้ว เด็กน้อยสามารถสื่อสารได้บ้าง เดินยังไม่แข็งนัก แต่ก็นับว่าซนไม่ใช่น้อยตามวัยของเขา ดังนั้นชานยอลจึงลำบากมากกับการอาบน้ำโดยระวังไม่ให้สบู่และน้ำเข้าตาหรือจมูกลูกรัก

     

    “ลูกหมูคะ หลับตาปี๋เร็ว เดี๋ยวพ่อจ๋าจะเอาน้ำราดหัวหนูนะคะ”ชานยอลบอกเล็กน้อย เด็กหญิงเองก็ทำตามอย่างว่าง่าย ชายหนุ่มจึงอาศัยจังหวะนี้ในการล้างผมเปื้อนฟองของเจ้าตัวเล็กออกอย่างรวดเร็ว ดีที่สบู่เด็กนั้นล้างออกง่ายเป็นทุนอยู่แล้ว

    “ไป…เช็ดตัวววว”ชานยอลบอกแค่นั้นก่อนหยิบผ้าที่พาดราวเตรียมเอาไว้ก่อนจากฝีมือของคนเป็นแม่ที่ตระเตรียมทุกอย่างให้ไม่ขาดก่อนออกจากบ้าน นับรวมไปถึงเสื้อผ้า ถุงเท้าที่เตรียมสำหรับวันนี้ ครีมที่ต้องทาตัว ถูกวางไว้ในที่ที่ต้องหยิบใช้เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

    “ป้อต๋า..หนาว..ซึลหนาว”เด็กหญิงที่โดนห่อตัวไว้ส่ายไปมาเล็กน้อยเพราะหลังอาบน้ำจะรู้สึกเย็น

     

    ชานยอลเลยกอดลูกเอาไว้ทั้งตัวด้วยมือเดียวในขณะที่อีกมือก็รีบเอาครีมทาผิวเด็กละเลงลงบนเด็กตัวเล็ก แล้วจึงสวมเสื้อผ้าให้อย่างรวดเร็วตามด้วยพาไปเป่าผมจนแห้งสนิทดี

    โดยที่ตัวเขาเองก็ยังเปียกเพราะการอาบน้ำไปพร้อมกับกูซึล แต่อย่างว่าลูกต้องมาก่อนจะมารอให้เขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนมาใส่ให้ลูกก็ไม่ใช่เรื่องหรอกนะ

    แต่เมื่อลูกแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย รวมถึงตัวเขาเองที่ผลัดผ้าแล้วเช่นกัน ทั้งคู่จึงพากันลงมาห้องนั่งเล่นที่ตอนนี้เต็มไปด้วยของเล่นของลูกสาวคนเดียวของบ้าน และแน่นอนว่าเซฮุนและจงอินรอท่าอยู่เหมือนเคย

     

    “ป้อต๋า..”เด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเข้ามาดึงขาเกงเกงของเขาเบาๆ เพื่อบอกให้เขาไปนั่งเล่นด้วย

    “เด็กดีจะเล่นอะไรดีคะ”ชานยอลถาม ในขณะที่สาวน้อยไม่ตอบ มุดเข้าไปในกล่องเก็บของเล่นของตัวเอง พร้อมกับเดินมาหาคุณพ่อตัวโตพร้อมกับชุดเครื่องครัวมากมายแบบพกพาที่สามารถถอดมาประกอบเป็นเตาได้

     

    สองพ่อลูกช่วยกันต่ออยู่พักหนึ่ง แน่นอนของแบบนี้ง่ายแสนง่ายสำหรับชานยอลแต่เพราะมีเจ้าตัวแสบมาช่วยต่อมั่วด้วยความหวังดีนี่ซิกว่าจะเสร็จก็ปาไปนานโข

    หากพอตั้งเตาได้สวยงามแล้ว กูซึลน้อยจึงลงมือทำอาหารให้คุณพ่อกิน โดยการบอกให้ชายหนุ่มนั่งอยู่กับที่ที่เจ้าตัวกำหนดเอาไว้ และคุณพ่อลูกหนึ่งก็ทำตามคำลูกสาวเป็นมั่นเป็นเหมาะ

     

    “อันนี้พ่อจ๋ากินได้ไหม”ชานยอลแกล้งเอามือไปหยิบถ้วยบนเตามาหนึ่งอัน แต่เด็กหญิงกลับวิ่งมาคว้ามือเอาไว้ก่อน

    “มะได้ต่ะ ย้อนๆๆ”กูซึลบอกเร็วทำหน้าตาเป็นห่วงพ่อจ๋าของตัวสุดชีวิต ทั้งยังเอามือไปหยิบถ้วยมาวางไว้ที่เดิมอีกต่างหากจนคนเป็นพ่ออดหัวเราะเบาๆในความน่ารักไม่ได้

    “แล้วอันนี้พ่อจ๋ากินได้ล่ะคะ ลูกหมู”ชานยอลแกล้งถามทำท่าหิวข้าวอย่างออกนอกหน้า โดยไม่สนใจว่าในห้องจะมีลูกน้องนั่งมองอยู่

     

    เซฮุนกับจงอินขำไม่ได้หรอก เพราะสองคนนั้นก็โดนคุณหนูน้อยลากมานั่งนิ่งๆรออาหารที่เจ้าตัวทำเหมือนกัน

     

    “มะด้าย ย้อนไปหมด”เจ้าตัวเล็กทำไม้ทำมือบอกว่ามันร้อนจริงๆนะคะ จนผู้ใหญ่สามคนนึกขำและเอ็นดู ในใจก็นึกมีความสุขแบบที่หาใดมาเปรียบไม่ได้จริงๆ

     

    ชีวิตของพวกเขาเคร่งเครียด ไหนจะทำงานหนัก แบกภาระไว้มากมาย โดนคนปองร้าย สารพัดจะเจอคนที่ลอบแทงข้างหลังใส่หน้ากากเข้าหากัน แต่การได้อยู่บ้านเล่นกับลูกตัวเอง ลูกของเจ้านาย ทำให้จิตใจได้เสพกับสิ่งบริสุทธิ์ที่ไม่มีพิษใดเจือปนบ้าง เพื่อให้มันชะล้างสิ่งเหล่านั้นออกไป มันก็เป็นความรู้สึกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

     

     

     

     

    “ตามที่หมอตรวจเช็คทุกอย่างแล้ว สบายใจเรื่องการมีลูกคนต่อไปได้เลยครับ”เมื่อคุณหมอกล่าวออกมาก็ทำให้แบคฮยอนยิ้มขึ้นมาได้

    “ตอนนี้ก็อาศัยจังหวะนิดนึงเนื่องจากร่างกายของคุณแบคฮยอนไม่เหมือนผู้หญิง จึงอาจจะทำให้มีโอากาสติดลูกยากหน่อย”เฉินเขียนใบสั่งยาบำรุงและเริ่มให้แบคฮยอนไปตรวจร่างกายในส่วนต่อไป ซึ่งจะเป็นในด้านอื่นๆบ้าง เพราะเขามีเข้าเวรเช้าและต้องไปประชุมทางการแพทย์จึงได้ให้คำแนะนำก่อนให้แบคฮยอนไปตรวจในส่วนที่เหลือ

    “ไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษใช่ไหมฮะ”แบคฮยอนถามอีกครั้งเพื่อความมั่นใจจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องต่างๆอีก เพราะกลัวว่าร่างกายที่แตกต่างนี้อาจเกิดปัญหาได้ในภายหลัง

    “อืม…ถ้าจะทำ..หมอจะแนะนำให้ไอ้ชานยอลปั๊มลูกบ่อยๆครับ”คุณหมอขี้เล่นพูดติดตลกเสียอย่างนั้น หากคนไม่ค่อยชินมุกอะไรแบบนี้ได้แค่หน้าแดงกับคำพูดตรงของคุณหมอ

     

    อยากจะเถียงขาดใจว่า…ชานยอลทำไม่บ่อยตรงไหนกัน แทบจะทำทุกวันด้วยซ้ำ แถมทำครั้งละยาวๆด้วย แต่ถ้าพูดไปก็จะดูไม่งามอีก เลยได้แต่เงียบไว้ดีกว่าไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นเป้าโดนโจมตีได้

     

    “ครับ..”แบคฮยอนตอบแค่นั้น

    “ว่าแต่วันนี้ใครเลี้ยงเจ้าลูกหมูล่ะครับ”เฉินถามเมื่อแบคฮยอนกำลังเก็บเอกสารใบแนะนำต่างๆของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง ส่วนตัวเขาเองก็เก็บของเช่นกันเพราะแบคฮยอนเป็นคนไข้คนสุดท้ายพอดี

    “พี่ชานยอลแอบโดดประชุมมาน่ะครับ มาอยู่เลี้ยงลูกแทน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง”แบคฮยอนบอกด้วยสีหน้าค่อนข้างจะกังวลเล็กน้อย

     

    แต่สิ่งที่แบคฮยอนเห็นหลังจากนั้นคือหน้าตาเอ๋อสุดๆไปเลยของคุณหมอขี้เล่น แบคฮยอนจึงค่อนข้างแน่ใจว่าอาจคิดผิดที่ฝากกูซึลไว้กับชานยอล แต่ก็พยายามมองโลกในแง่ดีว่าคนอยู่เต็มบ้านต้องช่วยกันได้ซิน่า….

     

    “หมอว่าคุณแบคฮยอนรีบกลับบ้านไหม หรือไม่ก็ให้ชานยอลพาลูกมาไว้ที่นี่ด้วย”เฉินพยายามบอกด้วยความหวังดี คนไม่ละเอียดอย่างชานยอลดูไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลยที่ให้เลี้ยงเด็กเล็ก

    “ไม่หรอกครับ คุณหมอพูดซะผมใจไม่ดีเลย เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมรีบไปทำอะไรให้เสร็วแล้วกลับบ้านดีกว่าครับ”แบคฮยอนเลยต้องรีบขอตัวออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อไปทำทุกอย่างให้เสร็จ ทั้งที่ใจนี่อยากกลับบ้านไปก่อนแล้ว

     

    พยายามทำใจร่มๆบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร เชื่อว่าอย่างไรถ้าหากมีอะไรประหลาด ชานยอลคงโทรศัพท์มาหาแน่นอน

     

     

     

     

    “ป้อต๋า เน่นเน้นฉองอน”หลังจากที่เล่นขายของก็แล้ว ขับรถเพลินๆ เจ้าตัวเล็กก็ทำท่าหน้าตาประหลาดเดินเข้ามาหาชานยอลทันทีพร้อมบอกโค้ดลับที่เขาฟังไม่เข้าใจ

    “หนูจะเอาอะไรนะคะลูกหมู”ชานยอลที่กำลังช่วยลูกสาวเล่นขายของบ้างไม่เล่นบ้าง ถามอีกครั้งอย่างคนฟังไม่ถนัด

     

    นี่ยังไม่ทันเที่ยงเลย แต่ไม่รู้ทำไมว่า..ชานยอลถึงได้รู้สึกเหนื่อยได้มากขนาดนี้..ขนาดว่ามีเซฮุนกับจงอินเข้ามาผลัดมือช่วยดูแลเวลาเขาไปเข้าห้องน้ำ แต่การที่กูซึลเป็นเด็กจะมีพลังงานมากขนาดที่เขาไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่ามันเผาผลาญยังไง

     

    “ซึลเน่นเน้นฉองอน”กูซึลทำไม้ทำมือ หากชานยอลก็มีทีท่าว่าไม่เข้าใจอยู่ดี เขาหันไปถามความเห็นเซฮุนกับจงอินที่ตอนนี้มีสีหน้าเอ๋อแดกใส่ ทุกคนไม่รู้เลยจริงว่าเจ้าตัวเล็กต้องการอะไร

    “ขา..ลูก”

    “ฉองอน..ฮ..ฮึก..เน้นฉองอน..อ๊าาาาาาา”เมื่อไม่ได้อย่างที่ตัวเองต้องการแล้วไหนคนเป็นพ่อยังไม่เข้าใจอีก กูซึลที่ต้องการจริงๆจึงเริ่มใจเสียว่าอาจจะไม่ได้มันเลยร้องไห้ออกมาเสียงดัง

    “ลูกหมูขาไม่ร้องนะลูกไม่ร้อง หนูจะเอาอะไรคะลูกไม่ร้อง พ่อจ๋าขอโทษพ่อจ๋าไม่รู้จริงๆ”ชานยอลเริ่มลนลานเมื่อเขาเริ่มรู้สึกว่าเขาไม่สามารถเข้าใจลูกได้ในตอนนี้

     

    มันเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างแย่เมื่อคิดเอาเองว่า เขาเป็นพ่ออย่างไรกันที่ฟังลูกพูดไม่รู้เรื่อง

     

    “เน่นเน้น!!!!“กูซึลยังคงร้องเสียงดังกรอกที่ข้างหู คราวนี้ชานยอลเองก็จนปัญญา สุดท้ายเลยเลือกวิธีที่ง่ายที่สุด คือ..ต่อสายโทรศัพท์หาแบคฮยอน ไม่อย่างนั้นกูซึลมีหวังร้องไห้จนเสียงแหบแน่นอน

     

    ชายหนุ่มอุ้มลูกไว้ด้วยมือเดียว ในขณะที่กูซึลเองก็ร้องไห้เรียกหาเน่นเน้นอยู่ข้างหู โดยหูอีกข้างก็แนบโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งรับมาจากเซฮุนที่เอาไปต่อสายหาภรรยาเขาให้  พยายามทั้งปลอบลูกและโทรศัพท์ไปด้วยในคราวเดียว ช่างดูทุลักทุเลไม่น้อย

    หากรอไม่นานแบคฮยอนก็รับโทรศัพท์เหมือนคนรอท่าอยู่แล้ว

     

    [เป็นอย่างไรบ้างครับพี่ชานยอล]เสียงหวานๆนั้นเหมือนเสียงจากสวรรค์ของเขาก็ว่าได้

    “ลูกร้องดังมาก เขาจะเอาอะไรไม่รู้ ฉันฟังไม่ออก.. / ฮึก…แง้!!!”เสียงร้องของเด็กหญิงแทรกเข้ามาราวกับเป็นการยืนยันว่าคุณแม่ขา..กูซึลร้องไห้จริงๆนะ

    [โอ้..ตายล่ะ ลูกหมูลูกไห้งอแงจริงๆด้วย แล้วลูกบอกว่าไงครับพี่ชานยอล]แบคฮยอนใจไม่ดีเล็กๆแต่ก็ยังถือว่าดีมากที่ชานยอลยังอยู่กับลูกตลอดเขาก็เบาใจไปส่วนนึง

    “เขาจะเอาเน่นเน้นฉงงอน..อะไรสักอย่าง ฉันก็ไม่รู้ว่าคืออะไร”ชานยอลทำเสียงประหลาด

    [อ๋อ..ทราบแล้วครับ ผมลืมบอกพี่เอง ลูกเรียกนมเขาว่า เน่นเน้น..ลูกหิวนมครับ เน่นเน้นสองออนซ์ ผมเตรียมใส่ขวดแล้วก็ตวงนมผมไว้ให้แล้วนะครับ พี่จับใส่ขวดเขย่าให้เขากินได้เลย]แบคฮยอนหัวเราะคิกเบาๆที่รู้สาเหตุที่เจ้าตัวยุ่งแผดเสียงมาตามสาย

    “ได้ๆ แล้วนี่ใกล้จะเสร็จหรือยัง..โอ๋ๆๆ คนเก่งเดี๋ยวพ่อจ๋าชงเน่นเน้นให้ไม่ร้องนะคะ หิวเนอะๆ”ชานยอลถามเล็กน้อยก่อนหันไปปลอบกูซึลที่พอรู้ว่าจะได้กินนมหอมๆของชอบก็เริ่มสะอื้นน้อยลงไปเยอะเลย

    [อีกไม่กี่ชั่วโมงครับ น่าจะไม่เกินสามชั่วโมงก็เสร็จแล้วฮะ]แบคฮยอนตอบตามความจริง เขาน่ะไม่คิดจะเถลไถลไปไหนเลย เสร็จแล้วก็อยากจะรีบกลับบ้านทันที นี่ก็เกรงใจจะแย่เพราะคุณเทากับซูโฮก็มานั่งเสียเวลาเฝ้าเขาทั้งวันโดยไม่ได้ทำอะไร

    “รีบๆกลับมานะ แบคฮยอน”ชานยอลบอกเพียงเท่านั้นไม่ใช่คำหวานอะไรเลยด้วยซ้ำแต่ไม่รู้ทำไมแบคฮยอนที่อยู่กับเขาจนลูกเริ่มโตขนาดนี้ถึงได้ใจเต้นก็ไม่รู้

    [ค..ครับ แล้วจะรีบกลับไปนะครับ]แบคฮยอนบอกก่อนเป็นคนตัดสายเสียงเอง ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้ขอคุยกับลูกเพราะรู้ว่า กูซึลติดแบคฮยอนมากขนาดไหน หากคุยโทรศัพท์กันก็จะงอแงหาแม่จ๋าอีก

     

    ชานยอลส่งโทรศัพท์คืนให้คนสนิทแล้วเดินลิ่วๆไปชงนมให้ลูก ของทุกอย่างถูกวางไว้เป็นระเบียบ หยิบจับง่ายไม่ต้องเดาเลยเพราะทุกอย่างถูกเขียนแปะกำกับไว้หมดแล้ว ชานยอลจึงลงมือชงนมให้ลูกสาวตัวเล็กทันที

    ขณะที่ทำอยู่ชานยอลก็ได้แต่คิดว่า มันเป็นเรื่องที่น่าลำบากขนาดไหนที่แบคฮยอนต้องมาเรียนรู้เรื่องของการเป็นแม่แบบนี้

    แบคฮยอนเองก็เป็นผู้ชายแม้จะน่ารักอยู่มาก แต่มันจะลำบากแค่ไหนกันนะ..ที่ต้องมานั่งจดจำเรื่องที่การเป็นผู้หญิงจะมีการเรียนรู้ที่ไวกว่า ในขณะที่เขาทำงานหนัก เหนื่อย และเครียด แบคฮยอนที่นั่งเลี้ยงลูกสาวตัวเล็กของเขาเองก็คงจะลำบากไม่น้อยเลย

     

    “นี่ค่ะ..ตัวแสบของพ่อจ๋า..”ชานยอลส่งขวดนมเข้าปากเล็กที่หยุดสะอื้นชะงักเมื่อเจอของถูกใจของเจ้าตัว มือป้อมเล็กคว้าหมับเข้าไปที่ขวดนมของตัวเองอย่างรู้งาน กูซึลในวัยนี้สามารถถือขวดนมกินเองได้แล้วโดยแค่ให้ผู้ปกครองนั่งเฝ้านิดหน่อยเผื่อลูกจะสำลักนม

    “กว่าจะรู้เรื่องเล่นเอาพ่อจ๋าหัวหมุนเลยนะ”แซวลูกตัวเองไปอีกนิด ชายหนุ่มจึงหันไปบอกคนสนิทให้เรียกแม่บ้านเข้ามาเก็บกวาดของเล่นที่มันระเกะระกะตามพื้นออก เพราะตอนนี้ทั่วทั้งห้องนั่งเล่น ได้กลายเป็นเป็นอาณาเขตของคุณหนูกูซึลไปเสียหมดแล้ว

     

    ระหว่างนั้นชานยอลก็นั่งมองลูกหมูน้อยของเขาสวาปามนมอย่างเพลินตา กูซึลในตอนนี้ตัวตึงแน่นแตกต่างจากวันแรกที่เด็กสาวลืมตาบนโลกใบนี้ จะเรียกว่าตุ้ยนุ่ยเสียจนแก้มกลมน่าจับฟัดเป็นที่สุด แถมน้ำหนักก็ไม่ใช่น้อยเลย ชานยอลแข็งแรงอยู่แล้วจึงไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านนักกับการต้องอุ้มเด็กหญิง แต่ถ้านับแบคฮยอนละก็..นี่คงเป็นสาเหตุที่คนตัวเล็กบ่นปวดหลังอยู่บ่อยครั้ง

    คิดเอาเองว่าชานยอลก็ควรจะหาเวลามาช่วยเลี้ยงลูกบ้างได้แล้วหรือควรจะจ้างพี่เลี้ยงมาช่วยแบคฮยอนดี เขาคิดว่าค่อยคุยกันเมื่อเด็กหนุ่มกลับมาบ้านแล้ว

    เจ้าตัวน้อยที่ดูดนมจากขวดใบใหญ่ทำท่าจะสลึมสลือเมื่อนมใกล้จะหมดขวดเพราะหนังท้องกลมเริ่มจะตึง แม้มันจะเป็นสุขลักษณะที่ไม่ดีนักที่จะให้เด็กหญิงนอนหลับคาขวดนมเพราะคราบน้ำนมอาจทำให้ฟันซี่น้อยผุได้แต่ชานยอลเองก็ไม่อยากปลุกลูกเสียเท่าไหร่ อยากให้เด็กสาวหลับไปสักพักใหญ่ๆเลยด้วยซ้ำ

     

    เปรียบเทียบจริงๆแล้ว…ทำงานมาทั้งชีวิตนี่เทียบไม่ได้เลยกับการเลี้ยงลูกแค่ครึ่งวัน

     

     

     

    ชานยอลหลับไปพร้อมกับลูก..ไม่รู้หรอกว่านานเท่าไหร่ แต่ท่าทางก็น่าจะนานพอสมควรที่แบคฮยอนจะกลับมาเห็นชายหนุ่มตัวโตที่นอนพาดอยู่บนเบาะแคบโดยมีเด็กหญิงตัวอ้วนกลมลูกสาวของเขานอนทับอยู่บนอกแกร่ง

    ขวดนมเปล่านอนแอ้งแม้งอยู่ใกล้ๆทำให้รู้ว่าคุณสุภาพบุรุษของเขาให้ลูกทานนมและนอนหลับคาขวดมันน่าโดนตีจริงๆพ่อคนนี้ แต่แบคฮยอนจะไม่พูดเรื่องนี้กับชานยอลหรอกนะ เขาจะทำเหมือนว่ามันไม่ได้เกิดอะไรขึ้นก็แล้วกัน

    ก่อนยกโทรศัพท์เคลื่อนที่มาบันทึกภาพแล้วเปลี่ยนมันเป็นภาพพื้นหลังที่ดูน่ามอง

    คนตัวเล็กเดินเข้าไปใกล้ทั้งคู่ก่อนกดจูบที่ลูกสาวตัวน้อย แล้วลามมามอบจูบที่แก้มสากของคนเป็นพ่อต่อจากนั้นอีกที

     

    “กลับมาแล้วเหรอ”ชานยอลที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเพราะสัมผัสแผ่วเบาที่ข้างแก้มของเขา คว้าคนตัวเล็กที่เขาคุ้นชินกลิ่นและสัมผัสซึ่งเขาชอบจนจำได้ดี

     

    แขนแกร่งคว้าอีกคนเข้ามาใกล ให้นอนพิงเขาไว้ด้วยไหล่ข้างเดียว ส่วนเจ้าตัวเล็กก็นอนอยู่กับอก กลายเป็นว่าพวกเขาทั้งหมดต้องมานอนเบียดอยู่บนเบาะนอนเล็กของลูกในห้องนั่งเล่นแต่มันกลับอบอุ่นไม่ใช่น้อย

     

    “ทางโรงพยาบาลเขาช่วยลัดคิวให้นิดหน่อยแล้วผมก็ห่วงลูกหมูน่ะครับ ดูซิเล่นอะไรกันสลบเหมือบทั้งพ่อทั้งลูกแบบนี้ฮะเนี่ย”แบคฮยอนถามเสียงใส นอนคว่ำตัวลงเพราะอยากเห็นหน้าลูกน้อยที่ไม่ได้เจอกันตั้งหลายชั่วโมงอย่างคิดถึงเป็นที่สุด

     

    ยังไงเหนือกว่าชานยอล คนที่เขารักมีแค่ลูกตัวเองคนเดียวเท่านั้น ชานยอลรู้ดีและชานยอลเองก็รักกูซึลมากกว่าเขาเหมือนกัน นี่คือหัวใจรักของคนเป็นพ่อเป็นแม่

    แบคฮยอนเอามือลูบหัวกลมที่ผมเริ่มยาวขึ้นมากของกูซึลน้อยที่นอนคว่ำตัวอยู่ กูซึลขยับตัวเล็กน้อยก่อนพลิกหน้าลงนอนคว่ำกับอกพ่อเหมือนเดิม

     

    “เดี๋ยวผมพาลูกไปนอนดีๆก่อนดีกว่า”แบคฮยอนว่าพลางยันตัวขึ้นนั่ง เขาเห็นกูซึลนอนแบบนั้นเลยคิดว่าสักพักอาจจะกลิ้งตกเพราะนอนไม่สบายตัว

     

    เด็กหนุ่มช้อนลูกน้อยขึ้นมาจากอกของชานยอล กูซึลมีร้องครางทำท่าโวยวายจะงอแงที่โดนกวนการนอนกลางวันของเจ้าตัว แต่เมื่อแบคฮยอนจับเด็กตัวเล็กให้หันหน้าเข้าหา ดันหัวเล็กให้แนบไปกับซอกคอ  ด้วยกลิ่น สัมผัส ขนาดช่วงไหล่และไออุ่นที่เด็กหญิงตัวเล็กจำได้มาตลอดชีวิตตั้งแต่ลืมตาเกิดมาบนโลก

    สาวเจ้าจึงทำเพียงแค่สูดดมกลิ่นที่คุ้นเคย ถูใบหน้าไปกับไหล่เล็กของคนเป็นแม่ แล้วจึงหลับต่ออย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อยเหมือนเดิม

    แบคฮยอนไม่ได้ทำแบบนี้ครั้งแรก บางครั้งลูกเล็กของเขาก็นอนผิดที่ผิดทาง ตามประสาเด็กเล็กที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวนัก หิวก็ร้องกิน อิ่มก็ร้องนอน ควบคุมเรื่องสถานที่ไม่ได้เลย

    แบคฮยอนทำท่ากำลังจะเดินขึ้นไปด้านบน ในขณะที่ชานยอลก็กำลังจะเดินตามพอดี แต่กลับมีเสียงโทรศัพท์รั้งตัวชายหนุ่มเอาไว้ก่อน

     

    “เดี๋ยวฉันตามขึ้นไป เธอขึ้นไปก่อนเลย”ชานยอลบอก แบคฮยอนแค่เพียงพยักหน้ายิ้มๆเท่านั้น

     

    คนตัวเล็กอุ้มลูกน้อยขึ้นมาด้านบนห้องที่คนตัวเล็กคุ้นเคย เมื่อผ่านแม่บ้านที่ยืนต้อนรับก็อดจะทำความทักทายและฝากให้ช่วยเตรียมของสำหรับทำอาหารให้ แบคฮยอนจะทำตรงเวลาเกือบทุกวัน

    เขาอุ้มเจ้าตัวแสบมาถึงด้านบน จับวางบนที่นอนของเจ้าตัว กูซึลมีที่นอนเป็นของตัวเองแล้วไม่ได้นอนเตียงเดียวกับพ่อและแม่ ซึ่งเตียงของเจ้าตัวอยู่ห่างไปแค่ก้าวเดียวเท่านั้นเอง

     

    “ลูกหมูชักจะอ้วนขึ้นทุกวันแล้วนะลูก อีกหน่อยแม่จะอุ้มหนูไม่ไหวเอานะคะเนี่ย”แบคฮยอนเปรย ทั้งเขย่าข้อมือที่เมื่อยขบขึ้นมาเนื่องจากเขาอุ้มลูกเองทุกวันมันเลยเป็นอาการปวดข้อแขนสะสม

     

    แบคฮยอนเดินไปหยิบอุปการณ์เด็กออกมาจากห้องน้ำ โดยมีผ้าเปียกบิดหมาดหนึ่งผืน กับกรรไกรตัดเล็บเด็ก เมื่อกลับมา เขามองเห็นเลยว่าลูกสาวต้องเล่นกับคนเป็นพ่อจนเหนื่อยหมดแรงกันไปข้างหนึ่งแน่นอน ใบหน้าที่ยังเปื้อนคราบน้ำนมและน้ำลาย ดูมอมแมมจนต้องส่ายหน้าด้วยความเอ็นดู

    มือบางลงมือเช็ดใบหน้าและมือเล็กๆของลูกตัวน้อยจนสะอาดเอี่ยม

    เขามองมือเล็กๆที่เล็บเริ่มยาว เขามานั่งมองเล็บมือเล็บเท้าลูกทุกวันเมื่อลูกตัวเล็กหลับ เพราะเด็กเล็กไม่รู้จักระวังบางครั้งเล็บเล็กๆนั้นอาจขีดข่วนตัวเองให้เป็นแผลได้และวันนี้มันก็เริ่มยาวขึ้นมามาก

     

    “โตขึ้นทุกวันเลยนะลูกนะ..หนูจะต้องอ้วนปุ๊กไปเลยนะคะ!!”แบคฮยอนกล่อมลูกด้วยน้ำเสียงน่าฟัง ในขณะที่เด็กตัวน้อยหลับ

     

    เพราะเด็กเป็นอะไรที่ไม่อยู่นิ่งการตัดเล็บจึงต้องทำตอนเด็กนอนเท่านั้นจะได้ไม่ยุกยิกซุกซนจนเข้าเนื้อได้ เวลานอนกลางวันของลูกน่ะเป็นเวลาที่ดีที่สุดของแม่เลยทีเดียว

     

    “ทำอะไรอยู่หรือเปล่า..”เสียงเปิดประตูดังเบา ในขณะที่ชานยอลเดินเข้ามาพอดีกับที่แบคฮยอนตัดเล็บลูกสาวเสร็จแล้วแต่เจ้าตัวเล็กก็ดูยังไม่มีทีท่าว่าตื่น

    “เพิ่งตัดเล็บลูกเสร็จครับว่าแต่พี่ชานยอลไม่ออกไปธุระที่ไหนหรือครับวันนี้”แบคฮยอนถามขึ้น เพราะเวลาที่โทรศัพท์ส่วนตัวของชานยอลดังทีไร ชายหนุ่มต้องออกไปข้างนอกเกือบทุกครั้ง

     

    เพราะโดยปกติส่วนมากโทรศัพท์จะดังที่เครื่องของเซฮุนหากเป็นงานต่างๆ แต่หมายเลขของชานยอลจะเป็นหมายเลขเฉพาะเท่านั้น

     

    “ไม่หรอก วันนี้มีธุระที่บ้านอย่างเดียว”

    “จะมีแขกมาบ้านหรอครับ ผมจะได้ให้แม่บ้านเตรียมทำอาหาร”แบคฮยอนหันกลับไปตาโตใส่ ในขณะที่ชานยอลทำแค่เพียงยิ้ม

    “ไม่มีใครมาทั้งนั้นล่ะ ว่าแต่ไปที่โรงพยาบาลแล้ว เรื่องลูกคนที่สองไอ้หมอว่าไงบ้าง”ชานยอลถามเล็กน้อยแล้วจึงเดินไปนอนพาดตัวลงบนเตียง เปิดโทรทัศน์ดูเสียงเบาด้วยท่าทางผ่อนคลายในขณะที่แบคฮยอนเก็บของไปไว้ตามที่ทางของมันแล้วปีนขึ้นเตียงมานั่งพิงคุยกับคนตัวโต

    “ก็ไม่มีอะไรสำคัญนี่ครับ”แบคฮยอนพูดไม่จริงแต่ให้ตายก็ไม่พูดหรอกเรื่องคำแนะนำหมอน่ะ

    “เหรอ…แต่ที่ไอ้หมอมันโทร.มาบอกเมื่อกี้ไม่ใช่คำนี้นะ”ชานยอลใช้ความเร็วในการโถมตัวกดคนตัวเล็กไว้ใต้ร่าง ในขณะที่แบคฮยอนยังคงมึนงงกับสถาการณ์ตรงหน้าอยู่

     

    ใบหน้าเหวอๆปนตกใจนั้นทำให้ชานยอลชอบใจนักล่ะ เลยจูบปิดปากเล็กที่อ้าออกนั้นไปเสียหนึ่งทีพอเรียกสติให้กับคนใต้ร่างของเขา

     

    “ก..ก็รู้แล้วยังจะถามผมอีก”แบคฮยอนใบหน้ามีสีอมเรื่อขึ้นเล็กน้อย

    “ฉันคิดอยู่แล้วว่าเธอคงไม่ตอบ" ชานยอลเองก็รู้ทันไม่น้อย เลยได้ใบหน้าง้ำๆของแบคฮยอนเป็นของตอบแทนไปเสียเลย

     

    มือบางยันอกแกร่งที่คร่อมทับเขาเอาไว้หากคนตัวโตก็ไม่มีทีท่าว่จะหลบออกให้แต่อย่างไร แถมยังยกยิ้มหล่อให้เขาอีกต่างหาก แค่มองตาก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

     

    “ไม่เอานะครับ เดี๋ยวอีกสักพักต้องลงไปทำข้าวให้ลูก วันนี้เล่นกับลูกทั้งวันไม่เหนื่อยอีกเหรอครับ”แบคฮยอนยกข้ออ้างเล็กน้อย บอกพ่อตัวโตไป

    “เหนื่อยสิ แต่ตอนนี้ไม่เหนื่อยแล้ว แต่ฉันแค่จ้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเท่านั้นเองเพื่อเพิ่มโอกาสหาเพื่อนเล่นให้ลูก”ชานยอลยิ้มเท่ให้อีกครั้ง คราวนี้เขาไม่รอให้แบคฮยอนตอบโต้อีกต่อไป

     

    แล้วก็ต้องคอยลุ้นกันอีกทีล่ะนะว่าจะมีน้องมาให้กูซึลเล่นจริงๆไหม แต่ก่อนหน้านั้นหนูอย่าเพิ่งตื่นมากวนพ่อตอนกำลังทำน้องให้หนูนะคะคนดี

     

    ***************************************************************************************

     

    END  จบไปแล้วหนึ่งสเปเชี่ยลลลลลลลลลลล ปุ๊งๆๆๆๆๆ ก็เป็นเรื่องน่ารักๆเนอะของครอบครัว แล้วจะมีอีกสเปไหม..ใครจะไปรู้เหอะๆๆๆๆ เอาเถอะคร้าบเราขอบวกว่าจะเป็นไงไปลุ้นเอาเองเน้อออออออ อารมณ์คนเขียนนี่เดายากสุดพลังติ่ง ฝากเล่นแท๊กซ์ #แบคพิการ กันเยอะๆนะคะ 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×