คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [LF 2PM]“MY DARE DEVIL…ปีศาจที่รัก” PART 11
Part 11
ความทุกข์ใจ…ใช่มันคือความทุกข์ใจ…
จุนโฮเรียกมันว่าความเสียใจที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างเชื่องช้า ทว่าฆ่าเขาอย่างทรมาน คล้ายกำลังถูกทำให้ตายลงไปอย่างช้าๆ…ช้าๆ…จนหมดลมหายใจตาย
ความสุขเป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น
ในอ้อมกอดที่แข็งแรง และอุ่นร้อนนั้นก็เป็นแต่เรื่องหลอกลวง มโนภาพ ความคิดและสิ่งที่อยู่ในสมอง เป็นแค่สิ่งที่เขาสร้างขึ้นมาเองทั้งนั้น ทุกอย่างเขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเองกับมือ
รอยยิ้ม รอยจูบ กอด หรือแม้แต่การทำรัก…ไม่ซินะ เรียกว่าการทำรักคงไม่ได้ เรียกว่าเซ็กซ์คงจะถูกมากกว่า เป็นเพียงสิ่งที่ร่างกายมันถูกกระตุ้น และต้องได้รับการตอบสนองเท่านั้น
จุนโฮกำลังกำผ้าที่เช็ดหัวชื้นๆของตัวเองแน่น ตอนนี้ชานซองหลับแล้ว เขามีเวลาไม่มากนักในหนึ่งวันที่จะสามารถคิดเรื่องต่างๆได้โดยที่ชานซองไม่รู้ตัว
เมื่อคืน เขามีอะไรกับชานซองเป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับเมื่อเช้า ชานซองทำเรื่องให้เขาประหลาดใจสารพัด
แต่ในทั้งสองสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันไม่มีความรักอยู่เลย..เขาเชื่อ ไม่มีแม้แต่ความรู้สึกชอบหรือพิศวาสอยู่ในนั้น แต่เขาก็มีความสุขที่ได้อยู่อ้อมแขนท่แข็งแรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงขัดขืนอย่างสุดกำลัง ต่อให้ต้องถูกฆ่าให้ตายก็ตาม
คนอย่างอี จุนโฮ ไม่มีอะไรดีซักอย่าง แต่ศักดิ์ศรีของเขาเท่านั้นที่ฆ่าให้ตายไม่ได้
และเรื่องเมื่อคืน…เขาเต็มใจ เต็มใจให้อีกฝ่ายตักตวง เอาเปรียบ จนหนำใจแม้จะแทบขาดใจตายก็ตามแต่ หากก็ยังยอมนอนทอดร่าง กรีดร้อง ครวญครางออกมา สำหรับเขา…มันเป็นความรู้สึก แต่กับอีกคนอาจเป็นแค่สัญชาตญาณของการสืบพันธ์ุเท่านั้น หรือไม่ก็อาจเป็นไปเพราะความหิวโหย
ใครจะไปรู้ได้…
เพียงแต่…ชานซองไม่ได้มีไว้เพื่อเขา สายตาคู่นั้นไม่ได้มีไว้เพื่อมองเขา ร่างกายนั้นไม่ได้มีเพื่อโอบกอดเขา และเสียงทุ้มนุ่มนั้นก็ไม่ได้มีไว้เพื่อกระซิบคำบอกรักกับเขาเลย
เสียงสายน้ำถูกปิดลง มือบางวักน้ำอุ่นบางส่วนขึ้นมาเพื่อชะล้างใบหน้าของตัว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเงาของตัวเองในกระจก มองใบหน้าของตัวเอง มองสายตาที่เป็นของเขา
เขายังคงเป็นคนเดิม มีใบหน้าที่เหมือนเดิม แต่บางอย่างมันกลับไม่เหมือนเดิม เงาของจิตใจของเขากลับไม่เหมือนเดิม หัวใจที่บอบบางของเขาก็ไม่เหมือนเดิม
น้ำตาที่เอ่อคลอกำลังจะไหลออกมาในไม่ช้่า แต่เจ้าของมันกลับปาดมันออกก่อนที่มันจะได้อวดโฉมออกมา
ความรักช่างโหดร้ายนัก..ยิ่งเมื่อมันไม่ได้รับการตอบสนอง
เขากำลังเป็นคนโง่…คนโง่เขลาที่ยอมหลอกตัวเองว่าตัวเองมีความสำคัญในสายตาของเขาที่รักบ้างจนยอมให้ทุกสิ่งที่อย่างในที่สุดทั้งที่เคยเสียงแข็งว่าจะไม่มีวันยอม
แต่ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า..ชานซองจะไม่ไป ไม่วันไหนก็วันหนึ่ง
คนที่เคยทำให้ห้องนี่ไม่เงียบเหงาจะจากไป พร้อมกับเอาหัวใจของเขาไปด้วย และที่เหลืออยู่มันจะเป็นแค่ความทรงจำเท่านั้น ถ้าชานซองจะต้องจากไป เขาจะได้มีสิ่งให้คิดถึง อย่างน้อยเขายังสามารถหลอกตัวเองให้คิดถึงอ้อมกอด ใบหน้า เสียงที่ทุ้นนุ่มยามเรียกชื่อเขานั้นได้ ดีกว่าไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่อีกเลย
ตอนนี้……ก็แค่รอวันที่จะต้องจากลาเท่านั้นซินะ สำหรับคนที่ไม่เป็นที่ต้องการอย่าง อีจุนโฮ เพราะอย่างนั้นคงไม่ผิดใช่ไหมที่จุนโฮจะยอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อแลกกับความสุขที่รอวันเลือนหายไป
เพราะคิดเอาไว้ว่าเหลือเวลาอยู่อีกไม่นานแล้วซินะ..มันคงเหลืออีกไม่นาน
“..ฮ…ฮึก…ฮึ..”มือขาวยกขึ้นมากดปิดปากตัวเองเอาไว้กลั้นเสียงสะอื้น..กลัวอีกคนได้ยินแล้วจะตื่นขึ้นมาเสียก่อน จึงต้องรีบกลั้นมันเอาไว้ให้ลึกสุดใจ
สุดท้าย..คนโล่อย่างอี จุนโฮก็ยังเป็นคงโง่อยู่วันยันค่ำ และยังต้องมาร้องไห้ให้กับความสมเพชของตัวเอง มีแต่คนโง่เท่านั้นล่ะ ที่จะหลอกตัวเอง มีแต่คนโง่ๆเท่านั้น
เพราะความเป็นจริงแล้วต่อให้หลอกตัวเองมากเท่าไหร่ ในใจลึกๆก็รู้อยู่ดี…ว่าความจริง มันก็ทำไม่ได้เลย
……………………………
……………………
…………….
ต๊อก…ต๊อก….
เสียงกระทบของไม้กำลังปลุกให้ชานซองตื่นขึ้นมา…อาการงัวเงียเล็กๆเหมือนคนนอนไม่พอทำให้เขาอารมณ์เสีย เพราะมันรบกวนความสดชื่นเสียเต็มประดา ชายหนุ่มรู้ดีว่าเสียงนั่นคือ จุนโฮกำลังทำอาหารเช้าอยู่ แค่มันเช้าเกินไปเท่านั้นเอง อีกอย่างคือ ที่เขานอนไม่พอ คงเพราะเขาฝันแปลกๆ ซึ่งเขาไม่ได้ฝันมานานมาแล้ว
เขาฝัน..ฝันว่า เห็นเด็กคนนึงกำลังกอดตัวเองร้องไห้ เสียงร้องนั้นช่างเจ็บปวดจนกระเทือนมาถึงหัวใจของเขา..ใบหน้าเล็กๆนั้นช่างเจ็บปวดนัก แม้แต่เจ้าแห่งนรกอย่างเขายังต้องสั่นคลอน
เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้..เด็กคนนั้นกลับลอยห่างออกไป ยิ่งเดินเท่าไหร่กลับไม่ถึงเสียที จนสุดท้ายเด็กคนนั้นก็ไปไกลจนลับสายตา..
หดหู่…เป็นคำจำกัดความที่แสนเหมาะสมเหลือเกิน
เช้านี้จึงไม่ค่อยเป็นเช้าที่สดชื่นเท่าไหร่นัก สำหรับฮวาง ชานซอง ชายหนุ่มจึงเลือกเดินไปหาคำที่กำลังทำอาหารอยู่เสียแทน
กลิ่นนุ่มหอมๆ ลอยมาให้ได้กลิ่นอีกครั้งบอกได้เลยว่าจุนโฮยืนอยู่ตรงไหน ซึ่งชานซองจะพยายามทำตัวให้ชินกับมันเท่านั้นเองไม่พยายามจับจุนโฮเข้าปากเสีย
“จุนโฮ..”เสียงเรียกทุ้มๆนิ่งๆทำให้คนที่กำลังหั่นผักอยู่เงยหน้าขึ้นมอง จนคนเรียกเองก็สะดุดไปเสียเล็กน้อย
ในเมื่อเจ้าของชื่อเลือกที่ยิ้มออกมาทั้งหน้าจนมันดูสว่างไปเสียหมด ราวกลับพระอาทิตย์ในหน้าร้อน จนคนมองปฎิเสธไม่ได้เลยว่ามันน่ามองมากแค่ไหนกัน มันดีจนสามารถลบความหดหู่นั้นไปได้อย่างถนัดใจ
ลืมเรื่องความฝันเมื่อืนไปเสียสนิท
“ตื่นแล้วหรอครับชานซอง..ผมโทร.บอกแทคยอนให้แล้วนะครับ ว่าวันนี้..ตอนเย็นจะแวะเข้าไปหา”จุนโฮว่าก่อนจะก้มหน้าทำอาหารต่อไปอย่างเป็นปกติ อีกคนได้แต่เกาหัวเบาๆ
“อ่อ…แล้วนายน่ะ..หายดีแล้วหรอ”ชานซองเดินเข้ามาใกล้ๆเลียบเคียงถามเสียงเบาๆหากจุนโฮได้แต่หัวเราะเบาๆ ราวกับขบขันเล็กน้อย หันมามองหน้าคนถาม
“ผมก็เป็นผู้ชายนะครับ ไม่เหยาะแหยะขนาดนั้นหรอกครับ ไปอาบน้ำ แปรงฟันก่อนเถอะครับ แล้ว..ผมจะเตรียมอาหารไว้ให้นะครับ”จุนโฮยิ้มหวานอีกครั้ง นั้นทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นจริงๆ เมื่อชานซองเลือกจะพยักหน้ารับและเดินเข้าไปอาบน้ำตามที่จุนโฮบอกทุกประการ..
**************************************************************************************
เวลาในโลกของเรามันช่างผ่านไปเร็วนัก..
รอประเดี๋ยวก็เย็นลงแล้วซินะ..ตอนนี้เป็นเวลาที่จุนโฮและชานซองกำลังเดินทางไปพบแทคยอนที่บ้านของแจบอม เป็นเวลาที่เย็นๆที่ฝนกำลังตกพรำๆไม่แรงมาก
แต่เป็นเวลาที่แสนหดหู่ของจุนโฮที่พยายามทำให้สมองของตัวเองว่างเปล่า..ไม่คิด ไม่รู้สึก และไม่รับรู้
และต่อให้ชานซองซอนจะกอดจูบ พลอดรักกับอูยองเมื่อพบเจอกัน เขาก็จะไม่คิดเรื่องนั้นเลย จะไม่รู้สึก ไม่รับรู้ ไม่ใส่ใจ ต่อให้มันเห็นตำตาอย่างนั้นก็จะพยายามคิดถึงเรื่องอื่นไปเสีย
เขาคิดเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว คิดอย่างถี่ถ้วนรอบคอบดีมากแล้ว ว่าถ้าชานซองจะไป…เขาจะไม่ทำให้ชานซองต้องลำบากใจที่จะไปซักนิดเลย
“นายกำลังคิดอะไร..จุนโฮ”จู่ๆชานซองก็ถามขึ้นขณะที่ตอนนี้ลิฟฟ์โดยสารกำลังเดินทางขึ้นไปยังชั้นที่ 21 ของตัวตึกอพาตเม้นย่านใจกลางเมืองของโซลล์
ความเงียบ ที่มีแต่เสียงหายใจรบกวนชานซอง ตลอดหลายวันเขามันจะได้ยินสิ่งที่จุนโฮคิด แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย เรื่องเลือกผัก เสียงโทรทัศน์ เรื่องภาพต่างๆ
หากตั่งแต่ออกจากบ้านมามันกลับว่างเปล่า
“ผม..ไม่ได้คิดอะไรเลยครับ ไม่ได้คิดเลย”จุนโฮตอบตามความจริง สมองคนเรามันช่างซับซ้อนนัก ต่อให้ชานซองมองมันลึกมากค่ไหน แต่อย่างว่าถ้าเจ้าของจิตใจคิดจะปกปิดจริงๆ
มันก็จะเป็นความลับตลอดไปอยู่ดี
ชานซองมองใบหน้าเล็กของคนข้างกายที่ส่งยิ้มให้เขา ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่นอย่างใช้ความคิด ก่อนจะเลิกสนใจกับมันไปเพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องที่จะต้องใส่ใจมากอยู่แล้ว
เดินมาไม่ไกลจากลิฟฟ์มานกก็มาถึง ห้อง 2121 เป็นเลขห้องที่สวยเอาการน่าดูชมอยู่เลยทีเดียว ชานซองและจุนโฮไม่เคยมาที่นี้ แต่ที่มาถูกก็เพราะ..ได้รับการบอกทางอย่างแม่นยำจากเจ้าของเป็นอย่างดี
“เคาะซิ..”ขนาดจะเคาะยังขี้เกียจเลย แต่จุนโฮก็เลือกที่จะทำให้โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่นิด
คนที่มาเปิดรับเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก…อูยอง คนที่จุนโฮเตรียมใจไว้เพื่อที่จะรับมือ คนที่วิ่งโผเข้ากอดชานซองต่อหน้าเขา และเขาเองก็เลือกที่จะมองมันอย่างเฉยเมย
ต้องไม่คิด อย่าแม้แต่ที่จะคิด เขาห้ามตัวเองไว้แบบนั้น..
จุนโฮเลือกที่จะมองภาพประตูห้อง และทางเดินที่แสนว่างเปล่าไร้ผู้คน มองผืนผ้าพรมสีแดงทีทอดยาวอยู่ตรงหน้า ทางเดินที่มืดสนิมจะมองไม่เห็นปลายสุด มองมันเอาไว้..
“จุนโฮ..เอ่อ..เข้ามาก่อนซิ”แจบอมเรียกอีกคนที่ทำกังจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ไม่มีอะไรดูน่าสนใจ จนอีกคนตกใจสะดุ้ง หันมามองหน้าคนเรียกก่อนจะยิ้มให้อย่างน่ารัก
“โอ้..ขอบคุณมากนะครับ แจบอม”จุนโฮยิ้มให้ หากแจบอมกลับมาเขาด้วยสายตาที่แปลกกว่าเดิม
“จ….จุนโฮ..เข้ามาๆๆ ข้างนอกอากาศเย็นเดี๋ยวไม่สบาย”แจบอมเก้อไปเล็กน้อย ทำหน้าตาไม่ถูกเมื่อมองเห็นเจ้าของรอยยอ้มเต็มใบหน้า
บางอย่างของจุนโฮมีอะไรที่เปลี่ยนไป และต้องการการแก้ไขอย่างเร่งรีบ..
สายตาที่เคยหวาน สายตาที่น่ารักบอกทุกอย่างของจุนโฮ รอยยิ้มที่เป็นเหมือนดวงอาทิตย์ ที่เขาเคยนึกชอบ เอ็นดู และถูกใจรอยยิ้มของจุนโฮ มันมีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไปต่างจากที่เคยเป็น
มันช่างว่างเปล่าเหลือเกิน..ว่างเปล่าจนเกินไป
คนตัวเล็กเดินตามเจ้าของห้องเข้ามาที่ห้องของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเหยียบที่นี้ ห้องนี้กว้างมากพอจะอยู่ได้ ประมาณสี่ห้าคน บอกได้ว่าเจ้าของมีฐานะที่ค่อนข้างดี มีห้องใช้สอยเหลือเฟือ คือสามห้องนอน และหนึ่งห้องนั่งเล่นใหญ่ ห้องครัว และห้องเก็บของ ช่างน่าอยู่ต่างจากห้องของจุนโฮที่เท่าแมวดิ้นตายมากๆ
“ตามสบายเลยนะจุนโฮ”แจบอมบอกก่อนจะเดินเข้าครัวไปหยิบของมารับแขกในขณะที่ชานซองเดินปนั่งคุยกับอูยองที่ตรงโซฟา แบบออกรสออกชาติ และอีกฝั่งแทคยอนกำลังเดินออกมาจากห้องนอน
จุนโฮไม่รู้ว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี้..และเขามาเพื่ออะไร เพียงแต่ต้องมาก็มา..เท่านั้นเอง มามองในสิ่งที่ไม่อยากมอง มาได้ยินในสิ่งที่ไม่อยากได้ยิน มาเพื่อ…เจ็บหรือ..ทำให้มันชินชา
“ไอ้หยา…จุนโฮ!!”แทคยอนทักเสียงสูง เรียกสติให้คนที่กำลังยืนเหม่ออยู่กับที่ พยายามทำจิตใจให้ไร้เรื่องหันมามองกับท่าทางตกใจขนาดนั้น
“ค…ครับ อ่า สวัสดีครับแทคยอน”อีกครั้งที่เจอคนอึกอักใส่เขาจนเจ้าตัวต้องทำหน้าสงสัย
“น..นายเปลี่ยนน้ำหอมหรอเนี่ย”แทคยอนถามเสียงสูงก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ทำจมูกฟุดฟิดๆที่เจ้าตัวแบบพิสูจน์หลักฐานว่าเป็นจริงดังคาดหรือไม่อย่างไร โดยมีแจบอมเข้ามาร่วมวงอีกคน จนจุนโฮทำท่าสงสัยหนักกว่าเก่า
“เปล่านะครับ ผมไม่ได้ใช้น้ำหอม”จุนโฮส่ายหัวเบาๆเป็นคำตอบ ยกแขนตัวเองขึ้นมาดมบ้าง เขาก็อาบน้ำตามปกติ ปะแป้งเป็นพิธีแค่นั้นเอง
“หรอ..แปลกนะนาย…กลิ่นนายเหมือน นม…นมหวานๆ”แทคยอนเลิกคิ้วสูงก่อนจะมองอีกที
“ไหน..นม ไม่เห็นได้กลิ่นนมเลย…ไม่เห็นมีเลย”แจบอมลองบ้างหากตัวเขากลับไม่ได้กลิ่นเหมือนแทคยอน ก็ได้กลิ่นแป้งปกติ ของคนที่ปะมา
“กลิ่นแรงจะตายชัก นายไม่ได้กลิ่นได้ยังไง…กลิ่นแบบนี้นะ อย่าว่ากันเลยเหอะ ยั่วน้ำลายชะมัดเลยเจย์”แทคยอนว่าหันมามองหน้าแจบอมหากเจ้าคนตัวเล็กไม่ว่ากระไร
“กลิ่นอะไร..ไม่เห็นมี..นี่กะหื่นใส่น้องมันหรอ”
“เปล่านะเจย์ จริงๆ…แปลกว่ะ!!”แทคยอนบอกกลับหันมามองหน้าจุนโฮที่เอียงมองเขาทั้งคู่ตาแป๋ว ประมาณทางวสายตาที่มองกลับมาได้เลยว่า
พี่ครับ ตกลงมันมีกลิ่นหรือไม่มีกันแน่
“วันนี้ก็มาเรื่องนี้แหละ..”ชานซองว่าขึ้นมาเสียงนิ่งๆ มองคนที่แทคยอนจับหมุนไปหมุนมาน้อยๆ ในขณะที่อูยองก็ค่อยๆกระดืบเข้ามาใกล้จุนโฮด้วยอีกคน พร้อมกับทำท่าฟึดฟัดอย่างได้ที่
จุนโฮตัวแข็งเล็กน้อยเมื่ออูยองเข้ามาใกล้เขา..จุนโฮทำตัวไม่ถูกเล็กๆ จะว่าเขาไม่ชอบจาง อูยองคงไม่ใช่แน่ๆ เพราะว่าอูยองออกจากน่ารักน่าเอ็นดูและ จุนโฮไม่มีเหตุผลที่จะไม่ชอบ แต่แค่มันทำตัวลำบากจัง กับคนที่ชานซอง รักมากมาย
“นาย…จุนโฮ ใช่ไหม”อูยองถาม ในขณะที่จุนโฮพยักหน้ารับ
“เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ”อูยองพูดอีกครั้ง และยื่นมือไปให้ ในขณะที่จุนโฮมองมือเล็กที่ยื่นมาอย่างงงๆในที เพียงแต่เมื่อเห็นใบหน้ารบเร้าของอูยองก็ทำให้บอกปัดไม่ได้
อีกอย่าง..ถ้าเขาไม่ทำ ชานซองต้องฆ่าเขาเป็นแน่…นั่นน่ะ คนสำคัญของชานซองเลยนะ ทาสอย่างเขาจะไปกล้าเหิมเกริมได้อย่างไร ถึงจะไม่ได้ไม่ชอบอูยอง แต่ไม่ใช่ว่าเห็นหน้าแล้วไม่รู้สึก ได้แต่คอยเตือนตัวเองว่าอย่าคิด
นั่นล่ะ..อย่าคิด จุนโฮ อย่าคิดอีกเลย
“นาย…นายเป็นตัวอะไรอะ กลิ่นนายน่ากินมากเลย รู้ตัวปะ…ขอกินคำนึงได้ไหม”อูยองแลบลิ้นปากตัวเองเบาๆ แต่คนโดนขอนี่ล่ะตาโตเป็นไข่ห่านเลยซิ
เมื่อกี้บอกเป็นเพื่อน ตอนนี้บอกขอกินคำนึง มันชอบกลอยู่น่ะ
หากแต่ไม่ติดว่ามือชานซองดึงไอ้ตัวเล็กกลับมา ป่านนี้คงได้ถลาไปจูบปากสมใจอยากแล้วซิ พอๆกับจุนโฮที่หนีไปหลบหลังแทคยอนอย่างกลัวๆ ระคนตกใจ
“ไอ้แสบ อยู่ดีๆแกไปขอเขาอย่างนี้เป็นใครก็ตกใจทั้งนั้นล่ะน่า แกจะบ้าหรอ!!!”แทคยอนว่าส่ายหน้าดิ๊กกับน้องตัวเองที่มันสลัมได้ใจจริงๆ
“อะไรเล่า..ก็มันน่ากินจริงๆนี่…อดใจไม่ไหวแล้วเนี่ย…คำนึงไม่ได้หรอ”อูยองโวยลั่นๆ ติดที่ไม่ถูกชานซองลากไปไกลๆคงได้มีกินจริงๆเป็นแน่
ผลสุดท้าย ชานหนุ่มก็พาอูยองมากอดเอาไว้บนตักไม่ให้ดิ้นไปไหน หากจุนโฮก็ได้แต่มองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลายอย่างมากมายเหลือเกิน..รู้สึกไม่ชอบ รู้สึกเจ็บที่ใจ รู้สึกเป็นส่วนเกิน และรู้สึกไม่ดี
ห้ามไม่ให้คิด แต่จริงๆก็ไม่เคยทำได้เลย
โดยไม่ได้สังเกตสายตาของแจบอมที่ลอบมองอยู่ด้วยเลย แจบอมมองมันอยู่นานแล้ว และคิดแล้วว่า เรื่องราวมันคงไม่ต่างจากที่ตัวเองคิดมากนัก เขาเป็นคนฉลาด เรื่องของหัวใจมันไม่มีอะไรคาดเดาได้ยากหรอกนะ ยิ่งคนที่เคยเป็นมาก่อน มันไม่ต่างหรอก
และมันจะดีกว่านี้ ถ้าแจบอมไม่สะดุดกับอะไรเข้าเสียก่อน จนต้องยิ่นนิ้วไปจิ้มมันเพื่อพิสูจน์ ที่ตรงต้นคอ
“เอ่อ..จุนโฮตรงนี้เจ็บไหม”เจ้าของดวงหน้าเฉี่ยวถาม ในขณะที่จุนโฮกลับหันมามองหน้าอีกคน
“เจ็บหรอครับ..ไม่นี่”จุนโฮนี่ก็พาซื่อตอบ โดยที่ไม่รู้เลยว่า ที่แจบอมกดลงไปมันคือ….รอยจูบ
“หรอ…เอ่อ แทคนายจะคุยกับชานซองใช่ไหม งั้น…ชานซองครับ ผมยืมตัวจุนโฮแป่บนึงนะครับ มีเรื่องจะคุยด้วย”แจบอมว่าก่อนจะลากตัวของจุนโฮให้ตามไป ไม่รู้ว่าอนุญาตหรือไม่ แต่อยู่กันแค่ในห้องนี้..คงไม่ต้องรอหรอกมั้ง
เพียงแต่..ปลายสายตาสุดท้ายของจุนโฮที่เห็น คงเป็นภาพของชานซองที่มองอูยองด้วยสายตาที่เขาไม่เคยเห็น..ทั้งอบอุ่นและเอ็นดูเหลือเกินซินะตอนนี้จุนโฮจึงรู้ว่า ต่อให้เขาคิดเสียงดังมากแค่ไหน ชานซองคงไม่ได้ยิน
เพราะเวลานี้สมองของชานซองคงไม่ได้มีไว้เพื่อรับรู้เรื่องของจุนโฮ
…………………………..
…………………..
………….
แจบอมพาจุนโฮเข้ามาที่ห้องของตัวเอง ลงกลอนอย่างดีจนคิดว่าใครก็คงเข้ามาไม่ได้ ถ้าหากไม่เลือกจะพังประตูเข้ามาน่ะนะ
จุนโฮมองหน้าแจบอมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม หากการรับรู้ของเขาอยู่ใรจุดที่ไม่มั่นคง เขาไม่ได้มีอารมณ์อยากรู้อะไรมากขนาดนั้น..จิตใจมันแค่ไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัว
ในหัวมีแต่ภาพของจุนโฮและอูยอง
“นาย…จุนโฮ….นอนกันแล้วใช่ไหม”แจบอมถามออกมา หากคนโดนถามกลับหันขวับมามองโดยไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ใบหน้าของแจบอมดูจริงจังมากจนน่าตกใจที่คนอารมณ์ดีเสมอ ไม่คิดเลยว่าแจบอมทุกครั้งที่จุนโฮพบเจอจะทำหน้าเครียดได้มากขนาดนี้ แต่ที่น่าตกใจคือ..คำถามที่ออกมาจากปาก
“ถามตรงๆตอบมาตรงๆนะ นาย…นอนกับชานซองแล้วใช่ไหม”แจบอมทวนคำถามเผื่อเอาไว้ว่าจุนโฮอาจจะคิดว่าเขาหูฝาดหรือไม่ ตอกย้ำว่าคำถามนั้นเป็นเรื่องจริง
“เอ่อ…เอ่อ..แจบอม พ..พูดอะไรครับ”จุนโฮพยายามเลี่ยง แต่เขาไม่ใช่คนโกหกเก่งเป็นพื้นฐานอยู่แล้วเสียด้วยมันเลยถูกจับได้มาแต่แรก
“รอยจูบที่คอนาย..มันชัดมากเลยนะ”แจบอมเดินเข้ามานั่งลงบนเตียง และพูดด้วยเสียงที่อ่อนลง
จุนโฮรีบยกมือขึ้นมาตะปบเข้าที่คอของตนเอง ใบหน้าเลิ่อลั่กก็ซีดเผือกสลับกับแดงเรื่อไปมา เหมือนเก็นที่เขินอายพร้อมๆกับการกลัวที่โดนจับได้ว่าโกหก
“ถามอีกทีเถอะ…นอนกันแล้วใช่ไหม เพิ่งนอนกันมาไม่นานใช่ไหม”แจบอมจับมือที่สั่นเทาของจุนโฮมาจับเอาไว้หลวมๆ ราวกับต้องการปลอบเด็กขี้กลัวตรงหน้า
จุนโฮหมดหนทางที่จะโกหกอีกต่อไป เพียงแต่ปากของเขาไม่สามารถพูดมันออกมาได้ตรงๆเท่านั้นเอง มันกระดากอายเสียจนเกินไป มันน่าอายมากนัก จึงเลือกที่จะพยักหน้าอย่างเชื่องช้าแทนคำตอบ
“หรอ..เต็มใจซินะ”ราวกับตอกย้ำเรื่องราวต่างๆ ที่ทำให้จุนโฮทำอย่างเคย คราวนี้แจบอมจึงถอนหายใจหนักออกมาอีกครั้ง มองใบหน้าจุนโฮที่ก้มต่ำลงทุกทีก็เริ่มใจหาย
“ชอบเขามาเลยหรอ”แจบอมกำมือที่จับนั้นแน่นมากขึ้น และจุนโฮก็ทำแบบเดิมพยักหน้าตอบเขาไป เช่นกันที่แจบอมถอนหายใจออกมาเฮือกแรง
“เจ็บมาซินะที่ต้องมานั่งดูภาพอะไรแบบนี้..ไม่น่าเลยจริงๆนะ”แจบอมลูบมือข้างว่างลงบนกลุ่มผมนุ่มหยักศกน้อยๆของคนที่เขากำลังกุมมืออยู่นี้ด้วยความสงสาร
ที่เรียกมาถามไม่ใช่เพราะอยากรู้เรื่องของชาวบ้าน เพียงแต่แทคยอนเคยคุยกับเขาเรื่องจุนโฮบางส่วน และจุนโฮเป็นเด็กที่น่ารัก มีมารยาท มากมายหลายเหตุผลที่เขาจะเอ็นดูเด็กคนนี้เพียงแค่พบกันไม่กี่ครั้ง
แต่พอมาเจอกันวันนี้..น่าใจหายนะที่รอยยิ้มนั้นมันช่างดู..ว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่ความหมายอะไรเลยแบบนั้น
แจบอมหลงแต่คืดว่า เด็กสองคนนี้กำลังตกหลุมรักกันเอง อ่า..นั้นเป็นเรื่องที่ดี..แต่ลืมคิดไปสนิทว่า เรื่องนี้ยังมีอูยองอยู่อีกคนซินะ ยังมีตัวแปรที่ไม่สามารถตัดออกไปได้อีก
“ขอบคุณนะครับ..”แม้จะยังก้มหน้าอยู่ และเสัยงที่เปล่งออกมาจะสั่นระริกก็ตามที แต่นั้นกลับยิ่งทำให้แจบอมสงสารมากเหลือเกิน
เขา..ก็แค่ถาม ความห่วงใยน่ะ เทียบไม่ได้กับความเสียใจ และเขาก็ไม่ได้ทำอะไรให้ควรแก่การขอบคุณ
“เดี๋ยว…มัน…ก..ก็จะผ่านไป…ผ่านไป..เอง..ค..ครับ”จุนโฮกำมือของแจบอมแน่น พอๆกับที่แจบอมกำมือเขาเอาไว้ และคำพูดคำนั้นที่เขาพูดมันออกมา ไม่ได้เพียงบอกให้แจบอมสบายใจเพียงอย่างเดียว
แต่ความจริงแล้ว มันมีเอาไว้เพื่อตอกย้ำตัวเองให้จำเอาไว้ว่า…ซักวันมันก็จะผ่าน
****************************************************************************
TBC
ความคิดเห็น