แสงแดดส่องสว่างไล่ลามมาจนถึงเตียงนอนกว้าง แต่กลับไม่ทำให้ร่างบนเตียงขยับได้สักนิด ทั้งที่ตะวันโผล่พ้นขอบฟ้ามานานแสนนาน ส่องแสงจนแรงกล้าแต่ร่างบนกลับทำเหมือนกับว่าตะวันนั้นยังอยู่ที่ปลายฟากฟ้าเหมือนเดิม
คุณหนูค่ะ ตื่นเถอะค่ะ มันสายมากแล้วนะค่ะ
เสียงสาวใช้ดังขึ้น ก่อนที่สาวใช้จะเอื้อมมือออกไปเขย่าร่างนั้นเบาๆ ไปสองสามที
อืม......อย่ามากวนน้า..
แค่ปริปากพูดแค่แผ่วเบา สาวใช้ก็แทบจะหมดลมหายใจ ถ้าเป็นไปได้เธอไม่อยากจะรับหน้าที่มาปลุกร่างนี้บนเตียงด้วยซ้ำ ถ้าเพราะไม่ใช่คำสั่งของนายจ้าง เธอคงไม่ย่างเท้าเข้ามาในห้องนี้แน่ๆ
เออ......คุณหนูค่ะ ต้องไปมหาวิทยาลัยนะค่ะ
สาวใช้ตัดสินใจร้องบอกอีกครั้ง และมันก็ได้ผลร่างกายนั้น ขยับเขยื้อนอยู่ใต้ผ้าห่มหนา ก่อนที่ใบหน้าเรียวหล่อจะโผล่พ้นผ้าห่มออกมา สายตาคมอันเกรียวกราดจ้องหน้าสาวใช้เขม็ง ก่อนจะตะวาดกลับเสียงดังลั่น
บอกไม่รู้เรื่องหรือไงว่ะ!ว่าอย่ามายุ่ง ไสหัวออกไป คนจะนอน!!
สิ้นเสียงเกรียวกราดเมื่อครู่สาวใช้ก็รีบเร่งออกจากห้องไปอย่างลนลานและหวาดกลัวทันที แต่ไม่นานนักเธอก็ต้องกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง แต่ทว่าครั้งกลับ เข้าร้อมนายจ้างผู้หญิงผู้เป็นเจ้าบ้านอันป็นคฤหาสน์ใหญ่โตที่สุดของกรุงโซล
เฮ้อ.......ฉันจะทำอย่างไงกับลูกฉันดีเนี่ย
คุณนาย ชอง บ่นอย่างหัวเสียกับนิสัยลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ทั้งที่อยู่มหาวิทยาลัยแล้ว แต่กลับไม่ช่วยทำให้ลูกชายของเธอโตได้สักนิด เอาแต่เที่ยวเตร่เกเรไม่ยอมเรียนหนังสือ ต้องคอยเคี้ยวเข็นบังคับบ้างอ้อนวอนบ้างกันแบบนี้แทบทุกวัน กว่าจะพาร่างสูงๆ ไปเรียนหนังสือได้แต่ละวันเหนื่อยแสนเหนื่อย
ยุนโฮลูก......ตื่นได้แล้วนะลูก หนูต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอ
ผู้เป็นแม่เอ่ยเรียกลูกเสียงหวาน ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งข้าง ๆผ้าห่มผืนหนาที่คลุมตัวอีกฝ่ายไว้ มือขาวยกขึ้นลูบร่างลูกชายไปมาผ่านเนื้อผ้าหนา สัมผัสนุ่มนวลและอ่อนโยนช่วยปลุกร่างที่หลับใหลนั่นได้อย่างดี ใบหน้าเรียวหล่อโผล่พ้นออกมาจากผ้าห่มที่ใช้คลุมกาย ก่อนจะมองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ที่ตื่นขึ้นมาได้ใช่เพราะถูกแม่ปลุกเมื่อครู่ แต่เพราะชายหนุ่มเห็นใจผู้เป็นมารดามากกว่าถึงยอมตื่นมา รู้ว่าทำตัวไม่ดีเท่าไหร่ คงทำให้แม่หนักใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงเลิกไม่ได้สักทีไอ้นิสัยไม่ดีแบบนี้ เขาชอบแสงสีเสียงยามค่ำคืนที่คลาคลั่งไปด้วยผู้หญิงมากมายที่ต่างให้ความสนใจในตัวเขาที่สุด โดยที่เขาไม่ต้องเข้าไปหาก่อนสักคน มันดีกว่าการเรียนไปไหน ที่เขาต้องคอยทำโน้นทำนี่ตามคำสั่งของอาจารย์ ต้องทำการบ้าน ทำรายการ ทำโน้นทำนี่ที่น่าเบื่อ
แม่ครับ แต่ผมยังง่วงอยู่เลยนะ เมื่อคืนผมไม่เที่ยวมา กว่าจะกลับก็ตีสี่แล้ว ขอผมนอนก่อนแล้วกันนะเสียงทุ้มเอ่ยบอกผู้เป็นแม่ก่อนจะพลิกตัวหันหลังกลับไปนอนเหมือนเดิมอีกครั้ง
แต่หนูต้องไปเรียนไม่ใช่เหรอยุนโฮ วันนี้มีวิชาอาจารย์ คิมฮาน ลูกไม่ไปมหาลัยแบบนี้เดี๋ยวเขาก็โทรมาหาแม่อีก แม่ไม่รู้จะแก้ตัวว่าอะไรแล้วนะ
งั้นผมจะไปด็อป วิชาอาจารย์คนนี้แล้วกัน เรื่องมากนัก!!
เสียงทุ้มร้องบอกอย่างตัดรำคาญ โดยวิชาอาจารย์คนนี้ เป็นวิชาที่เขาเกลียดที่สุด เพราะมันเป็นอาจารย์คนที่ไม่ยอมรับเงินใ้โต๊ะจากที่บ้านเขา ทำให้เขาสอบตกกลางภาคที่ผ่านมา
วิชานั้นก็ด็อปวิชานี้ก็ด็อป แล้วหนูจะเรียนจบเมื่อไหร่ล่ะยุนโฮ อยู่แค่ปีหนึ่งแต่หนูด็อปมาหลายตัวแล้วนะ หญิงสาวบอกลูกเสียงเบาอย่างเหนื่อยใจกับการเอาแต่ใจของลูกชาย แต่ตัวเองก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นคนตามใจตั้งแต่ต้นเอง และที่สำคัญเธอก็รักลูกชายมาก ไม่อยากจะขัดใจให้ลูกชายคนเดียวต้องลำบากใจ ขนาดผู้เป็นพ่อยังพูดไม่ได้สักคำ แค่พูดนิดหน่อยเป็นอันต้องทะเลาะกันตลอด ภาระในการจัดการทั้งหมดเลยตกมาอยู่ที่ผู้เป็นแม่แต่เพียงผู้เดียว ที่ต้องหาวิธีแก้ไขนิสัยของลูกชายหัวแก้หัวแหวนให้ได้ ไม่งั้นลูกชายเขาคงต้องถูกส่งไปอยู่ต่างประเทศคนเดียว แบบนั้นเธอคงจะทนไม่ได้แน่นอน คงยอมให้ลูกชายคนเดียวต้องห่างอกไปไกลแบบนั้นไม่ได้หรอก
ก็ได้ครับ แต่......
ยุนโฮตอบตกลงอย่างว่าง่าย แต่แท้จริงคำตอบตกลงนั่นมักมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอ
แต่อะไรลูก ยุนโฮอยากได้อะไรบอกแม่มาเลยแม่จะหามาให้นะคนเป็นร้องถามเสียงตื่นเต้น ดีใจที่ลูกชายยอมไปเรียนแต่โดยดี โดยเฉพาะวิชานี้ที่อาจารย์ คิมฮานบอกว่าจะไม่ให้ลูกชายของเธอสอบ ถ้าลูกเธอขาดเรียนอีกเพียงครั้งเดียว
ผมอยากได้รถคันใหม่แม่ซื้อให้หน่อยซิครับ
แต่ยุนโฮเพิ่งซื้อไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองนะ
ผมเบื่อสีนั้นแล้ว แล้วก็เบื่อคันนั้นแล้วด้วย ผมอยากได้สีแดง บีเอ็มสปอร์ต ถ้าแม่ซื้อให้ผมจะไปเรียนเสียงทุ้มเอ่ยยื่นคำขาด ก่อนจะทำท่าจะล้มตัวลงนอนต่ออีกครั้ง หากแม่ไม่ยอมซื้อรถคันใหม่ จนผู้เป็นแม่ต้องรีบตอบตกลง อย่างเร็ว ถึงทำให้ยุนโฮลุกขี้นจากเตียงลุกไปอาบน้ำได้
.................. ♥
ฮัลโหล ยูชอนมึงอยู่ไหนว่ะ
ยุนโฮกรอกเสียงถามคนปลายสายที่เป็นเพื่อนสนิทและเพื่อนทุกข์เพื่อนยาก ในขณะที่ยุนโฮกำลังขับรถเพื่อไปมหาวิทลัย ((ขับรถอยู่ กำลังจะถึงมหาลัยแล้วแหละ แล้วมุงล่ะอยู่ไหนยุนโฮ))
เพิ่งออกจากบ้านว่ะ รอด้วยกูนะ ที่หน้าตึก บอกที่นัดหมายก่อนจะกดสายวางไป แล้วหันไปสนใจกับเส้นทางบนถนนอีกครั้ง เส้นทางสีเทาเข้มที่อยู่เบื้องหน้ามันกำลังมุ่งตรงสู่มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังที่สุดในประเทศเกาหลี รถบีเอ็มสปอร์ตสีดำวาวเคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูงตามแรงขับเคลื่อนของผู้เป็นเจ้าของที่ชอบความเร็ว
แมร่ง โคตรเซ็งเลยว่ะ เกลียดวิชาเนี่ยชิบเลย ยุนโฮบ่นอุบหลังจากรีบเร่งขับรถเพื่อมาให้ทันวิชานเรียนที่แสนจะน่าเบื่อของอาจารย์ คิมฮาน ในตอนบ่าย
เออ...กูก็เบื่อเหมือนมึงแหละ แต่ทำไงได้ว่ะ ถ้าขาดอีกครั้งเดียวแมร่งไม่ให้เราสอบแน่ ยูชอนว่าก่อนทำหน้าเซ็งๆไม่แพ้กับเพื่อนซี้
เหรอ....แล้วมึงรู้มาจากไหนว่ามันจะไม่ให้เราสอบว่ะ มันกล้าหรือไง
ก็แมร่งโทรไปฟ้องแม่กูอะดิ
......งั้นแม่กูก็คงโดนเหมือนกันใช่ไหม ถึงว่าแม่มาปลุกกูแต่เช้าแบบนี้นี่เอง
ยุนโฮว่าอย่างเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทั้งยูชอนและยุนโฮจะทำหน้าเซ็งกะตาย ทั้งที่เขาไปเที่ยวกับออกจะดึกเมื่อคื่น แต่กลับต้องรีบตื่นแต่ไก่โห่(เหรอ)เพื่อมาเรียนวิชาที่แสนจะหน้าเบื่อแบบนี้ทำไมก็ไม่รู้ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่เขาร้องแล้วแม่ยอมซื้อรถใหม่ให้นะ เขาไม่มีทางมาเรียนวิชาน่าเบื่อ ห่วยแตกแบบนี้แน่ๆ
แล้วทั้งคู่ก็ต้องเซ็งหนักกว่าเก่าเมื่อเจ้าของวิชาเดินเข้ามาในห้องเรียน แถมยังมองมาทางเขากับยูชอนอีก วันนี้เขาคงโดนเล่นงานแน่ๆ คงจะโดนแกล้งให้ตอบคำถามอะไรไร้สาระเหมือนทุกครั้ง หรือไม่ก็ให้ทำโน้นทำนี้เพื่อระบายอารมณ์โมโหที่ยุนโฮเองก็รู้ดีว่าอาจารย์คนนี้ไม่ชอบเขา พอๆกับที่เขาก็ก็ไม่ชอบอาจารย์เหมือนกัน
แมร่ง แกล้งเข้าไป อย่าให้กูเรียนจบมาได้นะ กูจะเอาคืน
ยูชอนบ่นอุบอิบหลังจากเดินออกมาจากห้องเรียน เมื่อเรียนจบวิชาอาจารย์คิมฮานแล้ว
แล้วเมื่อไหร่มึงจะเรียนจบล่ะ
ยุนโฮหันไปถามเพื่อนเสียงกวน เพิ่งจะอยู่ปีหนึ่ง คิดถึงเรียนจบแล้วหรือไงมึงยูชอน เอาให้ผ่านปีหนึ่งไปให้ได้ก่อนแล้วค่อยคิดไม่ดีกว่าเหรอ
สักวันแล้วกันน้า...มันต้องมีแหระ
ยูชอนตอบก่อนทำหน้าเสียอารมณ์ที่โดนเพื่อนซี้ขัดคอกันซะนี่ วันนี้ไปไหนดีว่ะ
ยุนโฮค่ะ เสียงหวานดังมาจากด้านหลัง ก่อนที่เจ้าของชื่อจะหันไปตามเสียงเรียก ริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นทันทีเมื่อเห็นเจ้าของเสียงที่เรียกตนเอง
ยูริเรียกชื่อร่างระหงที่กำลังเดินเข้าหา ร่างระหงโอบล้อมรอบเอวของยุนโฮอย่างคุ้นเคยก่อนเขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเอาใจ เรียกรอยยิ้มอย่างพอใจจากคนโดนหอมได้ทันที ก่อนที่ชายหนุ่มจะหอมแก้มนวลกลับเช่นกัน
จะกลับบ้านแล้วเหรอค่ะหญิงสาวถามกลับ เสียงหวาน ก่อนผละตัวออกจากอกกว้าง แต่ก็ไม่ได้พ้นออกจากไปจากแขนแกร่งที่โอบล้อมรอบเอวบางอยู่
ยังหรอกว่าจะโทรหายูริพอดี ไปกินอะไรกันไหม
ไปตอนนี้เลยเหรอค่ะ ยูริมีเรียนตอนบ่ายสามนะค่ะ
เหรอ งั้นโดดเรียนเพื่อแฟนคนนี้หน่อยได้ไหม
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อน เรียกให้ใบหน้าหวานระเรื่อขึ้นสีอย่างเขินอายในคำพูดขี้อ้อนของแฟนหนุ่ม
ได้ซิค่ะอื้ม..เพิ่งมีร้านมาเปิดใหม่ใกล้ๆ กับมหาลัยเรา เราไปกินร้านนั้นกันดีไหม เห็นเขาบอกว่าอร่อยมากด้วย หญิงสาวตอบ ก่อนเสนอความคิดร้านอาหารใกล้ๆ มหาลัยไปกับยุนโฮ และก็ได้รับการเห็นด้วยจากทั้งยุนโฮและยูชอน จริงๆ ทั้งคู่กินที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละขอแค่มีสาว ๆไปกินด้วยก็พอแล้ว
เฮ้ย เดี๋ยวไปโทรศัพท์ก่อนนะยุนโฮ เดี๋ยวมา ยูชอนร้องบอกเพื่อนซี้ จะปล่อยให้เพื่อนมีสาวไปกินข้าวอยู่ฝ่ายเดียวได้ไง อย่างน้อยเขาก็ต้องค้วงใครไปด้วยสักคนแหละ
เออ.....จะเอาคนไหนไปล่ะว่ะ ยุนโฮเอ่ยแซวตามหลังยูชอนไปติดๆก่อนจะหัวเราะชอบใจแล้ว หันมาสนใจกับหญิงสาวที่เป็นคู่ควงคนล่าสุดและนานที่สุดของยุนโฮ ที่คบได้นานสุดใช่เพราะอะไร เพราะยุนโฮได้เป็นผู้ชายคนแรกของยูริ เลยทำให้มีเรื่องที่ต้องสอนและให้ยูริได้เรียนรู้อีกหลายอย่างเลยทำให้ยุนโฮยังสนุกอยู่กับเรือนร่างอันบริสุทธิ์นี่ได้นานกว่าสาวๆ ที่คบมาหลายคน
ยุนโฮค่ะ .........
ครับ
เออ........ที่บ้านไม่มีใครอยู่ค่ะ...แล้ว.... ยูริไม่อยากอยู่คนเดียว.......วันนี้ไปค้างกับยูริไหมค่ะ..
หญิงสาวเอ่ยถามเสียงเบา ก่อนก้มหน้าเขินอายที่เอ่ยปากชวนชายหนุ่มไปบ้าน
ได้ซิ ยุนโฮเอ่ยตอบข้างใบหูพร้อมกับขบใบหูขาวของหญิงสาวเบาๆ ก่อนจะยิ้มอย่างพอใจกับคำชวนของหญิงสาวที่ยุนโฮพอใจอย่างยิ่งอย่างวันนี้เขาก็คงเรื่องสนุกให้ทำทั้งคืนจนถึงเช้าแน่ๆ
เฮ้ยๆ เกรงใจหน่อย ประชาชนเต็มไปหมดจะทำอะไรกันก็น้อยๆ หน่อยเหอะ เข้าใจครับว่ากำลังอินเลิฟ ยูชอนเอ่ยแซว หลังจากเดินกลับมาพอดีเลยเห็นฉากสวีทน่าหวาดเสียวกลางมหาลัย
ไม่ใช่อย่างงั้น....สัก...หน่อยนะค่ยูชอนยูริรีบแก้ตัวอย่างเหนียมอาย ก่อนที่แก้มขาวจะระเรื่อขึ้นสีเพราะอายที่ถูกเพื่อนสนิทของแฟนหนุ่มเห็นฉากสวีทเมื่อครู่ ((เหอ ๆหมั่นไส้ว่ะ ดักตบเลยดีไหมเนี่ย))
โอเคครับ งั้นเมื่อกี้ผมมองไม่เห็นแล้วกันนะยูชอนเอ่ยติดตลกเรียกให้ดวงหน้าหวานของหญิงสาวแดงระเรื่อขึ้นไปอีก
ว่าแต่ร้านที่ยูริบอกอยู่ที่ไหนเหรอครับ ผมจะได้ไปถูก เพราะผมจะไปรับมีอาก่อน แล้วจะตามไป
อยู่แถว ๆ เอสเคซี พลาซ่า นะค่ะ ร้านเป็นสีชมพู เด่นสะดุดตามากๆ ยูชอนน่าจะมองเห็นนะค่ะ อืมม.. ร้านของ อาจารย์ คิมนะค่ะ อาจารย์ที่สอนทำอาหารเก่งๆ ไงค่ะ ตอนนี้อาจารย์เขาร้านอาหารสาขาสองแล้วก็เปิดโรงเรียนสอนทำอาหารใกล้กับมหาลัยเรานะค่ะหญิงสาวว่า ก่อนทำให้ยูชอนนึกออก ร้านของอาจารย์คนนี้เอง ที่บ้านเขาชอบไปกินข้าวบ่อย ๆแถมยังชอบซื้อพวกขนมๆ กลับมาฝากเขาเป็นประจำ
อ่า.....ผมนึกออกแล้ว ร้าน Pinky ใช่ไหมยูชอนว่า ทำเอายุนโฮถึงกับงงว่าคนอย่างยูชอนสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ มันรู้จักแม้กระทั่งอาจารย์สอนทำอาหารเลยเหรอเนี่ย
มึงรู้จักด้วยเหรอว่ะยูชอนยุนโฮเอ่ยถามอย่างสงสัยหั
รู้จักซิ ดังจะตาย แถมน่ารักด้วยนะ
ยูชอนว่า ก่อนยิ้มหวานเมื่อนึกถึงหน้าเจ้าของร้านอาหารและเจ้าของโรงเรียนสอนทำอาหาร ขนาดเห็นแค่ในโทรทัศน์ยังน่ารักขนาดนั้น ถ้าได้เห็นตัวจริงๆ คงน่ามาก ๆแน่เลย
เป็นผู้หญิงเหรอ ทำไมกูไม่เห็นรู้จักว่ะ ยุนโฮถามยังสงสัยอีกครั้ง มีด้วยเหรอ ผู้น่ารัก ๆที่ยูชอนรู้จักแล้วเขาไม่รู้จักน่ะ
โทรทัศน์น่ะ เคยเปิดไหมที่บ้าน อ้อ..ลืมไปมึงซื้อไว้ประดับห้องเฉยๆ นี่หว่า ยูชอนหันไปกัดเพื่อน ก่อนจะรีบพูดต่อ เป็นผู้ชายว่ะ แต่น่ารักเป็นบ้าเลย ใช่ไหมยูริ ยูชอนเอ่ยบอกก่อนจะหันไปถามยูริเพื่อช่วยยืนยันในคำพูดของตัวเอง และดูเหมือนยูชอนจะได้ผู้สนับสนุนเพราะยูริก็พยักหน้าตอบเห็นด้วยในคำว่า น่ารัก
ค่ะ อาจารย์คิมน่ารักมากๆ แถมใจดีด้วยนะค่ะ ยูริเคยไปเรียนทำอาหารกับอาจารย์มาครั้งหนึ่งที่สาขา 1 อาจารย์ใจดีแล้วก็เก่งด้วยนะค่ะ ยูริรีบอวยสรรพคุณของอาจารย์คิมให้ยุนโฮฟังทันที ทำเอาคนไม่เคยได้เห็นได้รู้จักอย่างยุนโฮชักอยากจะเริ่มรู้จักขึ้นบ้างแล้วซิ แต่ผู้ชายเหรอ จะมาน่ารักสู้ผู้หญิงได้หรือ ไม่มีทางหรอก อีกอย่างเขาก็ไม่มีรสนิยมแบบนั้นด้วย ก็แค่อยากเห็นเฉยๆ ว่าน่ารักจริงหรือเปล่าก็แค่นั้นแหละ
เหรอ.....แต่ผมว่าก็คงจะน่ารักน้อยกว่ายูริแน่ๆ
ยุนโฮเอ่ยอย่างเอาใจหญิงสาวที่ควงอยู่ตอนนี้เรียกอาการเขินอายจากหญิงสาวได้เป็นอย่างดี ก่อนจะยกมือไปตีที่แขนแกร่งเบาๆ แก้เขินแล้วก็โดนยุนโฮจับฝ่ามือบางนั่นไว้ก่อนจะยกฝ่ามือบางนั่นขึ้นมาหอมอย่างจงใจ
เออ.....ใจเย็นๆ เพื่อนรัก งั้นเจอกันที่ร้านเลยแล้วกันนะ ขืนยืนอยู่นานกว่านี้มีหวังมดมาทำรังบนตัวใครสักคนแน่ ยูชอนเอ่ยแซวขึ้นก่อนเดินแยกตัวไปที่รถของตัวเอง เพื่อจะไปรับผู้หญิงคนล่าสุดที่คบด้วย
.................. ♥
........................... ♥
กระถางต้นไม้เล็กๆถูกวางเรียงไว้เรียบคู่ไปทางเดินยาวที่นำเข้าสู่ตัวร้าน ก่อนจะนำสายตาให้เจอกับตัวร้านที่เป็นชั้นเดียวสร้างขึ้นแผ่นไม้ทั้งหลัง แต่กลับดูโก้เก๋จนสะดุดตา พื้นไม้ฉาบด้วยสีชมพูทั้งหลัง ด้านหน้าตกแต่งด้วยสนามหญ้าเล็กๆ ที่มีพร้อมโต๊ะม้านั่งไม้ยาวสีชมพูสำหรับให้นั่งเล่นหรือนั่งสูบบุหรี่ การตกแต่งบ่งบอกไปถึงเจ้าของร้านได้เป็นอย่างดี ว่าคงจะเป็นคนสดใส อ่อนหวานตามสีที่เห็นของร้าน และก็คงจะน่ารักอย่างที่ยูชอนมันว่าแหละมั้ง แต่แปลกใจนิดหน่อยเป็นผู้ชายทำไมถึงชอบสีชมพู หรือมีความหมายอะไรหรือเปล่ากับสีชมพูนี้
สวัสดีค่ะ ร้าน Pinky ยินดีต้อนรับค่ะ กี่ท่านค่ะ
พนักงานสาวในชุดเสื้อสีชมพูกางเกงสีดำร้องถามลูกค้า
4 คนค่ะ ยูริตอบ เพราะเห็นชายหนุ่มที่มาด้วยดูจะสนใจภายในร้านมากกว่าสนใจพนักงานที่กำลังให้บริการอยู่เสียอีก
ยูริมาบ่อยเหรอยุนโฮหันไปถามในขณะที่นั่งลงที่โต๊ะที่พนักงานพามานั่งเรียบร้อยแล้ว
ถ้าสาขาแรกนะไปบ่อยค่ะ แต่สาขานี้เพิ่งมาครั้งแรกค่ะ
หึ มีหลายสาขาด้วยเหรอ
ค่ะอาจารย์เขาเก่งมากเลยนะ แถมอายุยังน้อยอีกนะค่ะ แค่ 23 เอง
เหรอ เออ..ทำไมร้านถึงเป็นสีชมพูล่ะ ยุนโฮเอ่ยถามข้อสงสัยของตัวเอง
คนที่อาจารย์รักนะค่ะ เขาชอบสีชมพูมาก อีกอย่างอาจารย์เคยบอกว่า อาจารย์อยากให้ความรักของอาจารย์สดใสเหมือนสีชมพูตลอดไปนะค่ะ ก็เลยตั้งชื่อร้านว่า Pinkyค่ะ
ยูริอธิบายให้ยุนโฮฟัง ในขณะที่ชายหนุ่มก็มองรอบๆ ร้านไปเรื่อยๆ หูก็ฟังที่ยูริเล่า แล้วสายตาของยุนโฮก็หยุดลงที่รูปใบหนึ่งที่ติดตกแต่งอยู่ในร้าน ดวงหน้าขาวสะอาด ดูหวานสวยราวกับผู้หญิง ผมสีดำวาวยาวละลงมาถึงต้นคอช่วยขลับให้รอยยิ้มหวานที่ปรากฏขึ้นบนรูปใบนั้นดูเด่นสะดุดตา
สวยมาก........ชายหนุ่มพึมพำอยู่ในใจขณะมองรูปภาพนั้นไม่วางตา ก่อนจะได้สติเมื่อเสียงยูริดังขึ้นข้างๆ ตัว
นั่นแหละค่ะ อาจารย์คิม
ยูริเอ่ยบอกก่อนจะชี้มือไปที่รูปที่ยุนโฮกำลังมองอยู่พอดี ช่วงจังหวะพอดีกับที่ยูชอนเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับแฟนสาวพอดี
ยูชอนค่ะทางนี้ค่ะ
ยูริโบกมือเรียก ก่อนที่คนโดนเรียกจะเดินมาหา หญิงสาวทั้งสองถูกแนะนำให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ ก่อนที่มือบ่ายกว่าๆ จะเริ่มขึ้น และจบลงด้วยของหวานที่ยุนโฮและยูชอนได้รับเสิร์ฟถึงเตียงนอน จนเกือบรุ่งเช้าในอีกวัน
**TBC ♥.. Pinky ~*2
ความคิดเห็น