มาดูเบื้องหลังซีรีส์เรื่องนี้กัน - มาดูเบื้องหลังซีรีส์เรื่องนี้กัน นิยาย มาดูเบื้องหลังซีรีส์เรื่องนี้กัน : Dek-D.com - Writer

    มาดูเบื้องหลังซีรีส์เรื่องนี้กัน

    ดูเบื้องหลังและความคิดเห็นจากตัวละคร

    ผู้เข้าชมรวม

    350

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    350

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  15 ต.ค. 49 / 15:05 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      งานเปิดตัว Princess Hours ของ MBC
      เรื่องโรแมนติกของราชวงศ์ที่อยู่เหนือจินตนาการ

       ช่อง MBC นำเอา Princess Hours การ์ตูนที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามมาดัดแปลงเป็นละคร นำขบวนด้วยนักแสดงหน้าใหม่อย่างยูนอึนฮเย, จูจีฮุน, คิมจองฮุน และซงจีฮโย ในงานแถลงข่าวเปิดตัว Princess Hours นักแสดงรวมทั้งทีมงานทุกคนหอบเอาความสดใสมาเปิดเผยตั้งแต่ตอนแรก ที่ได้ทำละครเรื่องนี้ไป จนกระทั่งถึงตอนจบแบบช็อตต่อช็อตเลยทีเดียว
      วันที่ 4 มกราคม ณ โรงแรม Imperial Palace กรุงโซล ในงานแถลงข่าวเปิดตัว Princess Hours ซงบยองจุนตัวแทนของ Eight Peaks กลุ่มโปรดิวเซอร์ของ Princess Hours ได้ออกมากล่าวว่า "การแย่งกันซื้อลิขสิทธิ์ต้นฉบับมาทำเป็นละครนั้นต่อสู้กันอย่างดุเดือดมาก ต้องขอบคุณคุณปักโซฮีผู้เขียนเรื่องนี้ที่มอบความไว้วางใจให้แก่พวกเราครับ" Princess Hours เป็นผลงานดั้งเดิมของปักโซฮี ซึ่งได้รับความนิยมขนาดที่ว่าได้รับรางวัลด้านการ์ตูนที่เป็นที่นิยมของเกาหลี 3 ปีซ้อนเลยทีเดียว
      การ์ตูนเรื่องนี้เป็นการจินตนาการในเรื่องที่ว่าประเทศเกาหลีเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบบกษัตริย์โดยอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ และยังได้รับการตีพิมพ์ในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี และอีกมากมายหลายประเทศ (สำหรับประเทศไทย อดใจรอกันนิดนึงนะคะ รับรองว่าได้อ่านการ์ตูนสนุกๆ เรื่องนี้แน่ ^-^) เพราะอย่างนั้นจึงมีบริษัทหลายบริษัทแข่งขันกันอย่างดุเดือดเพื่อให้ได้ผลงานชิ้นนี้มา แต่ในที่สุดบริษัท Eight Peaks ซึ่งเคยผลิตละครเรื่อง I'm sorry, I love you ก็ได้รับลิขสิทธิ์มาทำเป็นละคร Eight Peaks จึงได้มอบหมายหน้าที่ผู้กำกับให้ฮวังอินรเย และฝากหน้าที่ดัดแปลงจากการ์ตูนเป็นบทละครให้กับอินอึนนา ผู้เขียนบทละครจากเรื่อง Tell Me Something
      เป็นที่ทราบกันดีว่าการทำละครจากหนังสือต้นฉบับไม่ว่าจะเป็นนิยายหรือการ์ตูนนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะต้นฉบับที่ได้รับความนิยมสูง ความคาดหวังจากผู้ชมย่อมสูงตามไปด้วยเป็นธรรมดา เรามีโอกาสได้ถามอิมอึนนาเรื่องนี้ว่าเธอกดดันมากน้อยแค่ไหนเพราะแฟนๆ ของต้นฉบับเดิมนั้นมีเยอะมากจริงๆ
      "เราไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องนั้นตั้งแต่ต้นค่ะ เพราะต้นฉบับเองก็ดีอยู่แล้ว จำเป็นด้วยเหรอที่เราจะต้องไปเปลี่ยนแปลงมัน" เธอย้อนถามกลับมา และเธอยังบอกต่อไปอีกว่า "พื้นฐานของการทำงานนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทำไปตามอำเภอใจได้ ช่วงเวลา 1 ปี กับ 6 เดือนนั้น เราปรึกษากับกลุ่มผู้สร้างซ้ำแล้วซ้ำอีก คุยกันในสถานการณ์ที่หลากหลาย ไม่มีสถานการณ์ไหนที่เราไม่เคยลองพูดคุยดูเลย แต่ว่าเพราะฉบับการ์ตูนนั้นมันยังไม่จบ เราจึงไม่สามารถทำให้มันเหมือนกับของต้นฉบับได้" เธอกล่าวออกมาอย่างไม่รู้สึกกดดันนัก
      นอกจากเรื่องบทแล้ว ตัวละครก็เป็นอีกองค์ประกอบที่สำคัญมากๆ โดยเฉพาะกับตัวละครในการ์ตูนต้นฉบับซึ่งครองใจนักอ่านมากมาย งานนี้ผู้กำกับฮวังอินรเยใช้นักแสดงหน้าใหม่ทั้งหมด และได้รับฟีดแบ็คจากผู้คนบางกลุ่มว่าให้โอกาสนักแสดงหน้าใหม่มากเกินไป ตรงจุดนี้เขาอธิบายว่า "ถ้าจะพึ่งพาแต่ดาราเก่าๆ ก็จะทำให้กระตุ้นคาแรคเตอร์ของต้นฉบับได้ยาก ถึงแม้ว่าจะเสี่ยงอยู่บ้าง แต่ผมก็คิดว่านักแสดงหน้าใหม่เหล่านี้จะสามารถทำตามอิมเมจที่พวกเขาได้รับได้"

      credit : Seoul Street magazine

       

      สัมภาษณ์ 4 ดาวรุ่งมาแรง จากละครยอดฮิต "Palace"

      กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มแฟนละครวัยรุ่นเกาหลี สำหรับละครเรื่อง Palace ที่ทาง MBC ทุ่มงบในการถ่ายทำไปแบบไม่อั้น เพื่อให้ละครเรื่องนี้ที่แฟนการ์ตูนต่างรอคอยชมออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด ราวกับว่าคนดูกำลังได้อ่านหนังสือการ์ตูนอยู่เลยทีเดียว Palace เป็นละครเกี่ยวกับเด็กสาวนักเรียนมัธยมธรรมดาๆคนหนึ่งที่ตกถังข้าวสารโครมใหญ่ เพราะจู่ๆก็มีโอกาสได้แต่งงานกับเจ้าชายหนุ่มรูปหล่อแบบไม่ทันตั้งตัว แค่พล็อตเรื่องก็โดนใจวัยรุ่นซะขนาดนี้ มาดูกันดีกว่าว่านักแสดงทั้ง 4 มีความรู้สึกอย่างไรที่ได้รับบทนำในละครเรื่อง Palace กันบ้าง

      วันนี้เป็นการถ่ายภาพโปสเตอร์เพื่อนำมาโปรโมทละครเรื่อง Palace ที่จะเข้าฉายกลางมกราคมนี้ จูจีฮุน และ ยูนอึนฮเย ดารานักร้องรุ่นใหม่ มาในชุดสุดหรูหราเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตัวเองซะใหม่ ให้ออกมาเป็นภาพของเจ้าชายและเจ้าหญิงที่สง่างาม วันนี้เราบุกไปที่สตูดิโอแห่งหนึ่งของเมืองคังนัม ชุดโบราณราคาแพงถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบเพื่อให้นักแสดงนำทั้ง 4 ได้สวมใส่เพื่อถ่ายทำภาพโปสเตอร์กัน

      นักแสดงคนแรกที่ได้ถ่ายภาพในวันนี้คือยูนอึนฮเย เธอสวมวิคผมปลอมอันใหญ่ ปรากฎโฉมในชุดของเจ้าหญิงในยุคโบราณ ถึงแม้ว่าเธอจะใส่ชุดโบราณอยู่ แต่ว่าในมือของเธอก็ยังถือโทรศัพท์มือถือ เพื่อสื่อให้เห็นถึงคาแรคเตอร์ของเด็กนักเรียนสาวมัธยมอยู่ด้วย แถมเธอก็ยังโพสท่าได้อย่างน่ารักอีกต่างหาก ในเรื่องนี้ยูนอึนฮเย รับบทเป็นแชคยอง สาวมัธยมที่กลายมาเป็นเจ้าหญิง และเธอก็ยังมีคาแรคเตอร์ที่ต้องดูกระฉับกระเฉงกว่าคนอื่นๆในเรื่องอีกด้วย

      สัมภาษณ์ ยูนอึนฮเย

      คำถาม : รับบทเป็นใครในเรื่องนี้ ?
      ยูนอึนฮเย : ชื่อยูนอึนฮเยค่ะ แสดงเป็นแชคยอง เด็กสาวนักเรียนมัธยมที่มีบุคลิกสดใสและร่าเริง นอกจากนั้นยังน่ารักด้วยนะค่ะ แล้วฉันก็ตั้งใจกับการแสดงในเรื่องนี้มากๆเลย
      คำถาม : วันนี้ใส่ชุดโบราณซะด้วย
      ยูนอึนฮเย : ใช่ค่ะ วันนี้เป็นการถ่ายทำโปสเตอร์ ซึ่งการถ่ายทำก็สนุกมากๆ แล้วชุดที่ฉันได้ใส่ก็ดูหรูหราไม่ใช่น้อยเลย

      ต่อมาซงจีฮโย ออกมาในชุดวันพีชที่งดงาม ซงจีฮโยรับบทเป็นรักแรกของเจ้าชายซิน บทบาทของเธอนั้นค่อนข้างจะเป็นสาวเมืองและดูสง่างาม

      คำถาม : รับบทเป็นใครในเรื่องนี้ ?
      ซงจีฮโย : ซงจีฮโยค่ะ เล่นเป็นมินฮโยรี เป็นคนรักอีกคนของเจ้าชายซิน แต่ทันทีที่แชคยองปรากฏตัว เธอก็โดนแชคยองแย่งเจ้าชายซินจากเธอไป เลยทำให้เธอเสียใจมาก...
      คำถาม : การถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้าง ?
      ซงจีฮโย : นานแล้วที่ไม่ได้รวมตัวกันครบทั้งสี่คนแบบนี้ วันนี้ก็เลยสนุกมากๆเลยค่ะ

      หลังจากที่ซงจีฮโยถ่ายภาพเสร็จ ยูนอึนฮเยก็เดินออกมาในชุดวันพีชสีขาวซึ่งดูน่ารักและสง่างาม


      หลังจากที่ถ่ายภาพเจ้าหญิงไปแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เจ้าชายจะต้องออกโรงบ้างแล้วล่ะ คิมจองฮุนอดีตสมาชิกวง UN รับบทเป็นอูล ทายาทกษัตริย์ลำดับที่สอง


      คำถาม : รับบทเป็นใครในเรื่องนี้ ?
      คิมจองฮุน : ผมคิมจองฮุนครับ รับบทเป็นเจ้าชายยูล เล่นเป็นเจ้าชายซึ่งเป็นรัชทายาทอันดับสองของราชวงศ์ ซึ่งต่อมาก็ตกหลุมรักกับแชคยองครับ
      คำถาม : การถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้าง ?
      คิมจองฮุน : วันนี้มาถ่ายภาพโปสเตอร์ของละครเรื่อง Palace ครับ ถ่ายทำกันสี่คนก็สนุกมากๆเลยครับ อาจจะเคอะเขินกับเสื้อผ้าอยู่เล็กน้อย เพราะว่าใส่ชุดอย่างนี้เป็นครั้งแรก แต่มันก็ถือว่าเป็นความทรงจำที่ดีนะครับ



      ดูจากท่าทีของจูจีฮุนแล้วนั้น ตอนที่เขาโพสท่าถ่ายรูปอย่างมีชีวิตชีวาอยู่นั้น ช่างดูเหมือนเจ้าชายเสียจริง จูจีฮุนผู้มีความสามารถมากมายหลายอย่าง เหมือนกับนักแสดงที่เชี่ยวชาญในเรื่องเรื่องของวงการบันเทิงมานาน คราวนี้คงต้องตั้งตารอความสำเร็จครั้งใหม่ที่จะต้องเกิดขึ้นกับเขาอย่างแน่นอน


      คำถาม : รับบทเป็นใครในเรื่องนี้ ?
      จูจีฮุน : ผมจูจีฮุนครับ รับบทเป็นเจ้าชายซิน ผมมีคาแรคเตอร์ที่ได้รับความเจ็บปวดมาจากกรอบทางสังคม มีชีวิตที่ไม่ค่อยเป็นอิสระ แต่เมื่อผมได้มาพบกับแชคยองแล้ว ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปครับ
      คำถาม : รู้สึกอย่างไรกับบทในละครเรื่องนี้ ?
      จูจีฮุน : การที่ต้องทำตัวให้ดูเป็นเจ้าชายที่สง่างามนั้น ดูไม่ง่ายเลยครับ
      คำถาม : ละครเรื่อง Palace เป็นละครแบบไหน?
      จูจีฮุน : หลายคนคงรู้มาแล้วว่า Palace เป็นละครที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่ว่าที่จริงแล้วไม่ใช่ละครประวัติศาสตร์ซะทีเดียว เพราะละครก็มีด้านที่ยังคงดูทันสมัยปนอยู่ด้วยครับ

      การที่นักแสดงนำทั้งสี่คน ยูนอึนฮเย , จูจีฮุน , ซงจีฮโย และ คิมจองฮุน มารวมตัวกันในวันนี้นั้น ทำให้บรรยากาศในการถ่ายทำภาพโปสเตอร์วันนี้ดูสนุกยิ่งขึ้น ระหว่างถ่ายรูปนั้นยูนอึนฮเยได้โพสท่าโดยการชี้นิ้วไปที่จูจีฮุน แล้วเอาตัวไปซบกับคิมจองฮุน เพื่อเป็นการบอกความนัยว่า สิ่งที่ได้เห็นคือความรู้สึกรักสามเศร้าที่กำลังจะเกิดขึ้นในละครเรื่องนี้

      คำถาม : อยากให้ฝากอะไรทิ้งท้ายไว้สักนิด ?
      ซงจีฮโย : สวัสดีค่ะ ฉันซงจีฮโย อยากให้เพื่อนเอาใจช่วยละครเรื่อง Palace กันให้มากๆนะค่ะ ถ้าละครเรื่องนี้ได้รับความรักจากทุกๆคนก็คงดีไม่น้อยเลย
      คิมจองฮุน : หวังว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีนะครับ
      ยูนอึนฮเย : ละครของพวกเราเริ่มออกฉายกลางเดือนมกราคม ขอให้ทุกคนให้ความสนใจและดูละครของพวกเราให้สนุกสนานนะค่ะ
      จูจีฮุน : ขอให้ทุกคนมีความสุขครับ และก็ขอให้ดูละครของพวกเราที่กำลังออกฉายทางสถานีโทรทัศน์ MBC ด้วยนะครับ

      นักแสดงนำทั้งสี่ฝากทิ้งท้ายกันแบบนี้ ใครจะใจอ่อนไม่ยอมดูก็ใจร้ายไปหน่อยนะ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ไปกระแสความแรงของละครเรื่อง Palace จะไม่มีทางลดลงอย่างแน่นอน แล้วมาคอยดูกันว่าละครเรื่องนี้จะฮิตกว่าละครเรื่องก่อนๆที่เคยสร้างมาจากการ์ตูนอย่างเช่น Full House ได้หรือไม่?

      credit : Seoul Street magazine

       

      เบื้องหลังละครเรื่อง Palace จากการ์ตูนสุดฮิตในเกาหลี


      จากการ์ตูนชื่อดังของเกาหลีซึ่งได้รับการโหวตจากผู้อ่านการ์ตูนทั่วประเทศว่า เป็นการ์ตูนที่เหมาะจะนำมาทำเป็นละครมากที่สุดในเวลานี้ พร้อมทั้งได้ 4 นักแสดงวัยรุ่นที่กำลังได้รับความนิยมในเกาหลีอย่าง จูจีฮโย , ยูนอึนฮเย , ซงจีฮโย และ คิมจองฮุน มาร่วมกันถ่ายทอดเรื่องราวความรักระหว่างเจ้าชายและเจ้าหญิง (ยุคใหม่) ในละครเรื่อง Palace (คุง) ที่เริ่มออกฉายไปแล้วทางสถานีโทรทัศน์ MBC เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา เดี๋ยวตามเราไปดูเบื้องหลังกันว่า กว่าที่พวกเราจะได้เห็นออกมาเป็นละครอยู่ในเวลานี้ นักแสดงและผู้กำกับต้องผ่านอะไรมาบ้างตลอดเวลาระยะเวลาที่ถ่ายทำละครกัน

      เปิดกล้องครั้งแรกที่เมืองไทย

      ทีมงานละครเรื่อง Palace ยกทีมมาถ่ายทำฉากแรกกันที่ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน ถึง วันที่ 12 ตุลาคม 2548 โดยได้ถ่ายทำฉากที่ ฮโยริน (ซงจีฮโย) เดินทางมาที่เมืองไทยเพื่อมาพบกับเจ้าชายซิน (จูจีฮุน) ซึ่งกำลังทำภารกิจอยู่ภายนอกประเทศ สาเหตุที่ผู้กำกับ ฮวังอินรเย เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำก็เพราะว่า ละครเรื่อง Palace เป็นละครที่เกี่ยวข้องกับประเทศที่ปกครองตนเองแบบราชาธิปไตย และทางทีมงานเล็งเห็นว่าภาพลักษณ์ของประเทศไทย ดูเป็นเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตยอย่างเด่นชัดกว่าประเทศอื่นๆ ทีมงานจึงเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำ เพื่อให้ภาพวาดจากในการ์ตูนดูสมจริง ในฉากโรแมนติกของฮโยรินและเจ้าชายซินที่ต้องพบกันในต่างแดน

      สถานที่ถ่ายทำที่ทีมงานได้เลือกไว้ก็มีอยู่หลายที่ด้วยกันอาทิเช่น ถนนข้าวสารในตัวเมืองกรุงเทพฯ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก และหัวหิน ซึ่งทั้งสามที่ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของประเทศไทย นอกจากนั้นฉากเล่นน้ำสงกรานต์ซึ่งเป็นประเพณีของไทยแต่โบราณ ยังได้ถูกถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางละครโทรทัศน์ของเกาหลีเป็นครั้งแรก ผู้กำกับ ฮวังอินรเย เปิดเผยถึงการถ่ายทำว่า "มีคนเคยบอกผมไว้ว่าเรื่องราวเกี่ยวกับราชวงศ์ของไทยนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ได้รับความร่วมมือจากประเทศไทย และทำให้การถ่ายทำในไทยเป็นไปอย่างราบรื่นครับ"

      ฉากส่วนใหญ่จะถ่ายทำกันที่ถนนข้าวสาร ซึ่งเป็นเหมือนกับย่านอิแทวอนของประเทศเกาหลี ผู้กำกับ ฮวังอินรเย กล่าวต่อไปอีกว่า "ถึงแม้การถ่ายทำที่เมืองไทยจะเป็นระยะเวลาที่สั้น แต่ก็มีฉากแอ๊กชั่นซึ่งรวมอยู่ในการถ่ายทำนี้ด้วย โดยเป็นฉากที่ตัวละครต้องขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ล่ากันกลางถนน ฉากช้างที่ต้องนำเข้ามาอยู่ที่กลางเมือง รวมถึงฉากเทศกาลสำคัญของไทยด้วย ตอนที่ผมถ่ายทำฉากเหล่านี้ก็มีความกังวลอยู่มากเหมือนกัน แต่หลังจากได้ถ่ายทำเสร็จไปแล้วก็พอใจมากเลยทีเดียวครับ การถ่ายทำที่เมืองไทยทั้งทางด้านทีมงานและตัวนักแสดงนั้นผมจะค่อนข้างเข้มงวดมาก ดังนั้นจึงไม่มีฉากไหนในละครที่ถ่ายทำออกมาได้อย่างง่ายดาย ซึ่งผลงานที่ดีนั้นจะต้องเป็นภาพที่เราไม่เคยได้เห็นในละครเรื่องไหนๆมาก่อน ซึ่งพวกเราจะนำภาพเหล่านั้นมาให้ทุกท่านได้ชมกัน" ผู้กำกับ ฮวังอินรเย กล่าวด้วยความมั่นใจ

      จูจีฮุนนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ซึ่งรับบทเป็นเจ้าชายซิน ชี้ไปที่ซงจีฮโยนักแสดงสาววัยรุ่นที่รับบทเป็นฮโยรินพร้อมกับแซวว่า "เพราะว่านักแสดงรุ่นพี่ทั้งหลายคอยช่วยกันเทคแคร์ จึงทำให้สามารถแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ" ดูเหมือนว่าฉากขับมอเตอร์ไซค์ไล่ล่าบนถนน จะเป็นความทรงจำที่ดีในการถ่ายทำของจูจีฮุน เขาได้พูดถึงฉากนี้ไว้ว่า "ระหว่างถ่ายทำฉากนั้นผมรู้สึกได้ถึงความยากลำบากของเจ้าชายซิน ดังนั้นจึงทำให้ผมเข้าใจความรู้สึกของเจ้าชายซินมากยิ่งขึ้น" ซงจีฮโย กล่าวเสริมต่อในทันทีว่า "การมาถ่ายทำในเมืองไทยสิ่งที่ฉันยังจำได้แม่นที่สุดคือเรื่องของการกิน เพราะตลอดเวลาที่ถ่ายทำพวกเราจะได้ลองชิมอาหารอร่อยๆเยอะมากๆ จูจีฮุนนั้นได้ถ่ายทำฉากที่สนามบินและตลาดน้ำด้วย เป็นฉากที่ดูยิ่งใหญ่มากและเขาก็ดูเท่ห์มากๆ น่าอิจฉาเขาจริงๆเลยล่ะค่ะ ฉันยังอดสงสัยไม่ได้เลยว่าตอนที่ละครออกฉาย ฉากนั้นจะออกมายังไง?"

      4 นักแสดงพร้อมใจกันตะโกน "วิ่งไปเลย... เจ้าม้า"

      การขี่ม้าเป็นกีฬาสำหรับขุนนางสมัยก่อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนในราชวงศ์ และการขี่ม้าก็ได้ถูกนำมาเป็นฉากหนึ่งในละครเรื่อง Palace นี้ด้วย จูจีฮุน เจ้าชายยุคใหม่ , เจ้าหญิง ยูนอึนฮเย , รัชทายาทอันดับสอง คิมจองฮุน และ ซงจีฮโยในบทของบัลเล่ลีน่า ฮโยรี นั้น ทุกคนล้วนแต่ไม่เคยได้สัมผัสกับการขี่ม้ามาก่อนเลย แต่ว่าหลังจากถูกคัดเลือกให้เล่นละครเรื่องนี้แล้วนั้น วันไหนที่ว่างจากการถ่ายทำทุกคนจะต้องไปฝึกหัดขี่ม้า เพื่อที่จะได้ถ่ายทำละครได้อย่างปลอดภัย

      โดยเฉพาะจูจีฮุนและคิมจองฮุนนั้น จะต้องขี่ม้าไปด้วยพร้อมทั้งใช้ไม้ตีลูกบอลไปด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่นักแสดงนำทั้งสอง จะต้องมีความชำนาญในเรื่องของการขี่ม้ามาก่อนถ่ายทำ หลังจากที่จูจีฮุนและคิมจองฮุนได้ไปเข้าคอร์สเรียนขี่ม้าระยะสั้นแล้วนั้น การขี่ม้าของคนทั้งคู่ก็ดูเท่ห์และสง่างามขึ้นมามาก จนทุกคนในกองถ่ายต้องปรบมือให้ดังๆสำหรับความตั้งใจของทั้งคู่เลยทีเดียว

      ในส่วนของนักแสดงฝ่ายหญิงยูนอึนฮเยซึ่งรับบทเป็นเจ้าหญิง ก็มีความกล้าหาญและไม่มีความกลัวเหมือนกับบทแชคยองที่เธอได้รับในละคร แต่ก็มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นจนได้ ในฉากขี่ม้าที่เธอต้องขี่ไปพร้อมกับคิมจองฮุนและจูจีฮุน ยูนอึนฮเยเกิดตกจากหลังม้าได้รับบาดเจ็บ เพราะม้าที่วิ่งอยู่นั้นไม่ยอมเลี้ยวตามที่เธอบังคับ ทำให้หน้าผากของเธอไปชนเข้ากับกิ่งไม้ที่ห้อยลงมา ทุกคนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากที่นักแสดงนำหญิงได้รับบาดเจ็บ แต่ยูนอึนฮเยกลับลุกขึ้นพร้อมทั้งบอกกับทีมงานทุกคนว่า "ฉันไม่เป็นไรค่ะ" เธอลุกขึ้นปัดฝุ่นพร้อมทั้งบอกให้ทีมงานเริ่มถ่ายทำต่อได้เลย ทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับการถ่ายทำหายใจออกมาด้วยความโล่งอกไปตามๆกัน

      นอกจากนั้นซงจีฮโยที่ต้องถ่ายทำฉากขี่ม้าด้วยความสง่างาม ก็ได้รับคำชมจากทีมงานว่าเธอกล้าหาญมากกว่านักแสดงชายที่ร่วมถ่ายทำฉากขี่ม้าด้วยกันซะอีก เพราะว่าความพยายามของเธอที่หมั่นไปฝึกซ้อมขี่ม้ามากกว่านักแสดงคนอื่นๆในเรื่องนั้นเอง ที่ทำให้เธอได้รับคำชมจากทีมงานถึงความทุ่มเทการแสดงของเธอไปแบบเต็มๆ

      พาไปซอกแซกเบื้องหลังการถ่ายทำของละครเรื่อง Palace แบบเต็มอิ่มแล้ว ใครที่สนใจดูละครเรื่องนี้ สามารถติดตามชมได้จากทางสถานีโทรทัศน์ MBC ทุกวันพุธและพฤหัสบดี เวลา 21.55 น. เริ่มฉายตอนแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา

      credit : Seoul Street magazine

      สถานที่ถ่ายทำเรื่อง Princess Hours

       

      * สถานที่ถ่ายทำหลัก - โรงถ่าย Osan *


      ฉากในร่มหลักๆ หลายฉากได้ทำการถ่ายทำที่โรงถ่าย Osan โดยเฉพาะฉากจมพิตกันระหว่าง Lee Shin และ Chae-gyeong และฉากที่ทั้งคู่ต่างหันกลับมามองกันด้วยความเศร้าเพื่อที่จะพบว่าอีกฝ่ายกำลังจะเดินจากไป รวมทั้งฉากทะเลาะกันในห้องนอน โรงถ่ายมูลค่า 1.5 ล้านวอน นี้เป็นสถานที่จำลองพระราชวังสมัยใหม่ มีเฟอร์นิเจอร์ให้เช่า และอุปกรณ์ประกอบฉากต่างๆ ซึ่งมีมูลค่าถึง 5 พันล้านวอน ห้องของพระราชาตกแต่งด้วยอำพันและทาสีเขียวมะกอก ในขณะที่ห้องนอนราชินีตกแต่งด้วยสีดำและขาวและทองคำเพื่อเน้นความหรูหราและอำนาจ ห้องของเจ้าชายตั้งอยู่ทางปีกตะวันออกและตกแต่งด้วยสีน้ำเงิน ในขณะที่ห้องนอนของเจ้าหญิงตกแต่งด้วยสีชมพูโรแมนติค ส่วนบริเวณอื่นๆ เป็นห้องรับแขกใหญ่และสวนในร่ม ทั้งดูคลาสสิคและทนสมัยไปพร้อมกัน

       

      " สระ Anapji ใน Gyeongju และ ศาลเจ้า Gyeonggijeon ใน Jeonju *


      ฉากที่อยู่หน้าและหลังพระราชสำนักถ่ายทำที่สระ Anapji ใน Gyeongju จังหวัด Gyeongsangbuk-do และศาลเจ้า Gyeonggijeon ใน Jeonju จังหวัด Jeollabuk-do ฉากที่เป็นพระราชวังหลวง Geunjeongjeon ถ่ายทำที่พระราชวัง Gyeonghuigung ใน Jeong-dong กรุงโซล และฉากที่พระราชวงศ์เล่นกีฬาชนิดหนึ่งคล้ายกอล์ฟนั้นถ่ายทำที่ Gyeonghuigung ภาพของการสร้างพระราชวัง Gyeongbokgung ออกแบบโดยการใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิค การไปเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้ต้องระลึกไว้เสมอว่าบางฉากเป็นการสร้างๆตกแต่งขึ้นโดยคอมพิวเตอร์กราฟฟิค
      "

       


      * ภายนอกพระราชวัง - มหาวิทยาลัย Duksung, Unni-dong แคมปัส *


      ขณะที่ฉากภายในพระราชวังถ่ายทำในโรงถ่ายใน Osan ฉากภายนอกหลายฉากถ่ายทำที่อาคาร Yanggwan ของพระราชวัง Unhyeongung ใน Jongno กรุงโซล สถาปัตยกรรมดังกล่าวปัจจุบันเป็นหอพักให้แก่ Duksung University School of Continuing Education อาคารทรงเรอเนสซองพร้อมกำแพงโบราณสีขาวภายนอกผสมผสานกับสวนต่างๆ และสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว การเดินทางไปยังอาคารก็ง่ายมากโดยเท้าจาก Jongno

      * โรงเรียนมัธยมที่ดารานำเข้าเรียน - Kaywon High School of Arts *


      ตั้งอยู่ที่ Bundang โรงเรียน Kaywon นี้มีชื่อในเรื่องศิลปะดังเช่นที่กล่าวไว้ในละคร มีสิ่งแวดล้อมที่ออกแบบไว้อย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ มี 4 แผนกดัวยกัน (ศิลปะชั้นสูง, การแสดงและภาพยนตร์ ดนตรี และการเต้นรำ) และมีการแข่งขันสูง ซึ่งรับนักเรียนเพียง 320 คน ใน 8 ห้องเรียนต่อปีเท่านั้น ฉากโรงเรียนทั้งหมดถ่ายทำที่ Kaywon อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นสถานที่ศึกษา การเยี่ยมชมจึงเป็นเรื่องต้องห้าม


      เว็บไซต์: http://www.kaywon.hs.kr (ภาษาเกาหลี)


      ที่อยู่: Kaywon High School of Arts, Jeongja-dong, Bundang-gu, Seongnam-si, Gyeonggi-do Province
      การเดินทาง: Take the Bundang-seon subway line to Jeongja Station  Go out of Exit No. 1 or 2  Take the local shuttle bus No. 109

      * สถานที่ถ่ายทำฉากจุมพิตระหว่าง Lee Shin และ Chae-gyung - Myeongdong *


      Lee Shin และ Chae-gyeong ได้ซ่อนความรู้สึกต่อกันไว้ด้วยการทำตัวเย็นชากับอีกฝ่าย เกิดความเข้าใจผิดและทะเลาะเบาะแว้งขึ้นไม่เว้นวัน ทำให้คนรอบด้านเป็นห่วง แต่หลังจากที่ทั้งคู่เปิดเผยความรักต่อกันแล้ว พวกเขากล้าจุมพิตกันต่อหน้าฝูงชนบนท้องถนน ฉากนี้ถ่ายทำในใจกลาง Myeongdong แหล่งชอปปิ้งอันเบียดเสียดในเกาหลี หากคุณเประทับใจในฉากนี้ คุณควรไปเยือน Myeongdong ที่ซึ่งคุณจะประทับใจกับการเดินเที่ยวและชอปปิ้งเป็นแน่


      * ฉากคืนที่ 4 ฉาำกค้างคืนด้วยกันและฉากอาบน้ำ - House of the Mind *


      Lee Shin และ Chae-gyeong ใช้เวลาคืนที่ 4 ด้วยกันที่ House of the Mind ในวันเกิดของ Yul ทั้งคู่ไปเยือนโรงแรมนี้กับเพื่อนๆ ที่บังคับให้พวกเขาค้างคืนในห้องเดียวกัน ในฉากหนึ่ง ทั้งสองเล่นเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน แต่บรรยากาศกลับกลายเป็นโรแมนติคขึ้นเรื่อยๆ หากหัวใจคุณเต้นแรงเมื่อได้ดูฉากอาบน้ำของนายแบบผู้ผันตัวเองเป็นนักแสดง Joo Ji-hoon (แสดงเป็น Lee Shin ในละคร) คุณอาจจะอยากไปเยือนโรงแรมนี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่ Yangpyeong และ House of Mind มี 2 อาคาร (6 ห้อง) ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบเอกลักษณ์ และมักจะออกทีวีเสมอๆ ก่อนที่หนังเรื่องนี้จะไปถ่ายทำด้วยซ้ำ ทำให้สถานที่นี้ฮอทสุดๆ ต้องสำรองที่พักอย่างน้อย 1 เดือนล่วงหน้า


      ที่อยู่: Buan-ri 32-0 , Danwol-myeon, Yangpyeong-gun, จังหวัด Gyeonggi-do


      เวบไซต์: www.mindhome.co.kr(ภาษาเกาหลี)
      เรทห้องพัก: 140,000 วอน ~350,000 วอน
      (เรทขึ้นอยู่กับวันและประเภทของห้องพัก)
      การเดินทาง: นั่งรถจาก Danwol ที่ Dong Seoul Bus Terminal (06:50-21:30 / 41 daily departures / 5,500 won / 1 hr 30 mins)  รถรับส่งหน้าสถานีรถบัส (request pick- up service when making a reservation)

       

      * ฉากฮันนีมูน - Gangneung Seongyojang *


      Lee Shin และ Chae-gyeong ไปฮันนีมูนถ่ายทำที่ Gangneung ในจังหวัด Gangwon-do พวกเขาเดินทางโดยรถยนต์และมาถึงที่ทะเล ยังจำฉากที่ Lee Shin มอง Chae-gyeong ด้วยความรักขณะที่เธอหลับ? พวกเขามีความสุขด้วยกัน เดินชายหาด ชอปปิ้ง และทำอาหารเย็นด้วยกัน ตอนกลางคืน ก็จะนอนอยู่บนเตียงเดียวกันอีกครั้ง Seongyojang เป็นที่พักส่วนตัวขนาดใหญ่ ขนาด 4 อาคาร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของ Gangneung และยังได้รับการยกย่องให้เป็นโบราณสถานลำดับ 5 ในส่วนของที่พักยังไม่พร้อมให้บริการ แต่เปิดให้เข้าชม

      * เท็ดดี้แบร์ของ Chae-gyung - พิพิธภัณฑ์ Teddy Bear *


      ระหว่างทริปไปเกาะ Jeju Chae-gyeong และพระราชินีทรงเสด็จเยือนพิพิธภัณฑ์ Teddy Bear ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่อุทิศให้เท็ดดี้แบร์เพียงอย่างเดียว มีการจัดแสดงเท็ดดี้แบร์มากมายหลายคอลเลคชั่นด้วยกันจากทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นสถานที่เหมาะแก่การถ่ายภาพ ขณะที่ Chae- gyeong คิดถึง Lee Shin เมื่อตอนอยู่ที่กรุงโซล เธอถึงกับช็อคเมื่อเขาโผล่มาทันทีทันใด ความปรารถนาของเธอแจ่มชัดขึ้น และเธอดูเหมือนกับเป็นเท็ดดี้แบร์ หากคุณยังจำฉากนั้นได้ คุณอาจจะอยากไปเยือนพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ และ ณ ที่นี้ คุณจะได้พบกับเท็ดดี้แบร์ที่ Chae-gyeong สมมุติให้เป็น Lee Shin.

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×