มศว ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ มศว ครับผม ยินดีต้อนรับน่ะครับเพื่อนๆๆ
ผู้เข้าชมรวม
14,790
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
จะ กล่าวเรื่องเลือดสองนัยให้ขบคิด
เลือด ในจิตเรื่องในร่างอาจต่างสี
ใคร ว่าใครถูกตาถ้าเข้าที
ก็ ยินดีให้เลือดเปลี่ยนเลียนสีตาม
ช่าง ใจใครก็ใจมันฉันไม่รู้
เขา อาจดูเลือดสง่าน่าเกรงขาม
แต่ เลือดฉัน "มศว" ก็งดงาม
เลือด เทา-แดง คือความภาคภูมิใจ
เรา คือผู้ที่ฉลาดอย่างอาจอง
คือ ปราชญ์ทรงศีลธรรมไม่หวั่นไหว
เทา หมายถึงสติกล้าปัญญาไว
แดง คงไว้ความหาญแกร่งแรงพลัง
ประวัติภาควิชา
ภาควิชาประวัติศาสตร์ เดิมสังกัดอยู่กับคณะวิชามนุษยธรรมศึกษาและสังคมศาสตร์ วิทยาลัยวิชาการศึกษา
ประสานมิตร ครั้นเมื่อวิทยาลัยฯ ได้รับการยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยเมื่อ วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2517ได้มีการประกาศ ของทบวงมหาวิทยาลัยเรื่อง การแบ่งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ พ.ศ. 2518 และมีการจัดตั้งคณะสังคมศาสตร์ขึ้น ในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2518 แผนกวิชาประวัติศาสตร์ซึ่งมีสถานะใหม่เป็นภาควิชาประวัติศาสตร์ก็ได้เข้าสังกัดอยู่กับคณะสังคมศาสตร์นับแต่นั้นมา ปัจจุบันภาควิชาประวัติศาสตร์รับผิดชอบการเรียนการสอนหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต (ศศ.บ) ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ศศ.ม) และการศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม.) สาขาประวัติศาสตร์ และรับผิดชอบการสอนวิชาโทมัคคุเทศก์
และสุดท้ายนี้ก็ขอให้เพื่อนๆเลือกเข้าประวัติศาสตร์ มศว กันเยอะๆน่ะครับ
และหวังว่าคงจะมาเปนพี่เป็นน้องในรั่วเทาแดงกันน่ะครับ
ยินดีต้อนรับทุกคนครับ
เข้าไปดูเวบไซด์ของเสคได้น่ะครับแต่ขอบอกว่าเป็นของประวัติรุ่นที่30น่ะครับ
http://hisswu.tripod.com/
ชีวิตการเป็นนิสิตและความจริงที่องครักษ์
ในชั้นปี1 พวกเราต้องไปเรียนที่องครักษ์คลอง16 ตอนแรกรู้สึกว่าไม่ค่อยอยากไป แต่คิดอีกที นี่คือโอกาสที่พี่จะได้ใช้ชีวิตอิสระ บริหารจัดการดูแลตัวเอง ทำอะไรตามใจตัวเอง ในตอนแรกก็รู้สึกไม่ค่อยมีความสุขนักเพราะยังคิดถึงเพื่อนเก่า และด้วยความที่เป็นคนที่สนิทกับคนค่อนข้างยาก ทำให้พี่พูดน้อย เงียบๆขรึมๆ เพื่อนๆเองก็ยังหยั่งเชิงพี่ไม่ถูก พี่จึงไม่ค่อยมีเพื่อนนัก แต่การที่พวกเราที่มาจากต่างที่มา ต่างสถาบัน ต่างวิถีชีวิต ต้องมาอยู่รวมกัน ณ สถานที่ที่ไม่ใช่บ้านของตนเอง มาอยู่ในรั้วเดียวกันตลอด24ชั่วโมง มาเข้าประชุมเชียร์กันทุกวันพุธ ทำให้พวกเราสนิทกันเร็วขึ้น เรียนรู้ซึ่งกันและกันได้เร็วขึ้น พี่เริ่มสนุกกับชีวิตที่นี่มากขึ้น เริ่มเข้ากับเพื่อนๆได้มากขึ้น เริ่มมีเพื่อนสนิททั้งหญิงและชาย เริ่มกลายเป็นตัวโจ๊กของเพือ่นๆมากขึ้นด้วยบุคลิกบ้าๆบอๆบวกกับความเปิ่นที่ไม่มีใครกล้าเหมือนและก็อีกอย่างเพื่อนๆในเสคก้อบ้าบอพอๆกันเลยไปกันได้
พี่เริ่มมีความสุขกับการใช้ชีวิตที่นี่มากขึ้น ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ กับข้าวที่นี่อร่อยเหาะ ตอนเย็นก็ไปขี่จักรยานรอบมอ ไปหาไรกินกับเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นตลาดองครักษ์หรือหลังมอหรือศูนย์แพทย์ ฯลฯ ไปเล่นซ่อนแอบกับเพื่อน ตอนกลางคืนถ้านอนไม่หลับ ก็ไปเล่นไพ่ กินมาม่า ไปนั่งดูหนัง(ไม่ใช่หนังโป๊นะเฟ้ย!)ในห้องเพื่อน หรือไปนั่งวิจารณ์พวกพี่ๆที่มาว้าวเรา เป็นต้น
การเดินทางจากบ้านมาที่นี่ก็ไม่ยากหรอก นั่งรถมาลงฟิวเจอร์พาร์ครังสิต มันจะมีวินรถตู้มศว องครักษ์ สมาชิกสหกรณ์นั่งในราคา35บาท บุคคลทั่วไป40บาท แค่ชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว แต่ถ้านั่งรถตู้บ้านนา-องครักษ์ หรือรถประจำทาง(รถเขียวสะอื้น)ก็ลำบากหน่อย ร้อน อึดอัด ก็รถตู้ของมหาลัย(ขออุญาตเขียนผิดอักขระวิธีเพราะเมื่อยมือ)มีให้นั่งดีๆจะไปนั่งรถอื่นทำไมอ่ะ(ลืมบอกไปว่ารถตู้สหกรณ์จะไม่มีจอดระหว่างทาง)
เข้าเรือ่งของการเรียนบ้างดีกว่า ปี1ก็เหมือนที่อื่นๆเรียนวิชาบังคับของคณะอื่นๆด้วยเช่นมะนุดและการใช้เหตุผล(มน),วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม,สารสนเทศและการศึกษาค้นคว้า(ห้องหมุด),ภาษาไทย,ภาษาอังกฤษฯลฯ และวิชาของภาคก็เรียนประวัติศาสตร์ไทยตั้งแต่โครตพ่อโครตแม่ยังไม่เกิดคือ เรียนตั่งแต่คนไทยมาจากไหน อาณาจักรต่างๆๆๆ แล้วก้อมาสมัยกรุงสุโขทัย กรุงศรีฯ กรุงธน
แล้วก้อมาสอบปลายภาค เปนกานจบภาคเรียนแรก(พี่ได้AAAAA 55555 จะบอกว่าง่ายโครต อิอิ)พอมาเทอม2ก้อเรียนกรุงรัตนโกสินทร์ ร.1-ร.9นั่นแหละ แค่นี้
สำหรับกิจกรรมที่พี่พวกพี่ได้ผ่านมาในรั่งมหาลัยก้อเริ่มตั่งแต่ การแรกพบเอก แรกพบคณะ เฟรชชี่ไนท์ วันไหว้ครู กานออกฟิลด์เมืองกาญฯ ออกฟิลด์อยุธยา ลอยกระทง SWU FUN FRIEND งานพระราชทานปริญญา Social Game อกฟิลด์บางปะอิน งานบายเนียร์ เป็นต้น
แต่สุดท้ายพี่ก้อต้องแสดงความเสียใจแทนน้องๆที่อดไปอยู่หอที่องครักษ์แต่พี่ก้อหวังว่าน้องๆคงจะรักกันมากมาก แล้วก้ออย่าลืมเลือกประวัติหล่ะ หวังว่าน้องคงจะมาเปนHisSwu รุ่นที่31 และเป็นนิสิตของมศวรุ่นที่57 นะ
ผลงานอื่นๆ ของ HisSwu30 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ HisSwu30
ความคิดเห็น