ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC Reborn] ซื่อบื้อ (Hibari x oc)

    ลำดับตอนที่ #7 : ซื่อบื้อ|05

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.28K
      318
      12 เม.ย. 66


    ซื่อบื้อ
    "gugurin aja ya"  @radeelatte, 2019 #fiksipenggemar # Fiksi Penggemar # amreading # books # wattpad

    วันหยุดสุดสัปดาห์ได้วนมาอีกครั้ง ครานี้สึบากิค่อนข้างจะว่างมาก การบ้านวิชาต่างๆเธอก็ทำเสร็จหมดแล้ว ดังนั้นเธอจึงต้องมานั่งแปะอยู่ที่โซฟา "ยูกะจัง นั่งให้มันดีๆหน่อยสิลูก เดี๋ยวก็ปวดหลังหรอก" สึบากิ คิซาเอะ ผู้มีศักดิ์เป็นแม่ของเด็กสาว เธอมีใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงกับสึบากิ ยูกะเอามากๆ ต่างกันตรงที่นัยน์ตาสีดำราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืน เด็กสาวอาศัยอยู่กับแม่สองคน ในบ้านที่แม้จะไม่ได้หรูหรา แต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น

    สึบากิที่ได้ยินแบบนั้น ก็กรอกตาเล็กน้อยด้วยความรำคาญ แต่สุดท้ายเธอก็ขยับนั่งตรงๆอยู่ดี ดูเหมือนว่าสองแม่ลูกคู่นี้ จะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะดีนัก ด้วยเพราะความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันในหลายๆเรื่อง คิซาเอะอยากให้ลูกสาวของเธอมีเพื่อนเยอะๆ เข้าสังคมเก่ง แต่ตัวสึบากิ ยูกะ กลับชอบอยู่อย่างสันโดษ และไม่พูดคุยกับใคร

    แต่ถึงอย่างไร ทั้งสองก็อยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุขดี ไม่ได้ถึงขั้นเกลียดกัน หรือด่าทอ ทำร้ายร่างกายกันตลอดเวลา ผู้เป็นแม่ยังคงดูแลเอาใจใส่ลูกสาวด้วยความรัก แม้ว่าอีกฝ่ายจะชอบตอบกลับ โดยการทำท่าทางไม่พอใจก็ตาม สึบากิเองก็ไม่ได้รังเกียจแม่ตัวเองขนาดนั้น เธอก็แค่แอบรำคาญนิดหน่อย ที่แม่ชอบมาจู้จี้ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เช่น การเลือกชุดก่อนออกไปข้างนอกบ้าน ทรงผม อาหารการกิน แต่ถึงจะรำคาญขนาดไหน สุดท้ายเด็กหญิงก็ทำตามที่แม่บอกอยู่ดี

    "ถ้ายูกะจังไม่มีอะไรทำ....งั้นมาช่วยแม่ทำขนมหน่อยได้มั๊ยลูก" ผู้เป็นแม่เอ่ยชักชวน คิซาเอะมีฝีมือในด้านการทำอาหารทั้งคาวและหวานเป็นอย่างมาก และฝีมือเหล่านั้นก็ตกทอดมาถึงสึบากิด้วย เด็กสาวมีท่าทีอึกอักเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ลุกจากโซฟาและตรงไปที่ห้องครัว
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    [สักพักผ่านไป...]
    .
    .
    .
    น้ำตาลไอซิ่งถูกโรยลงบนชิ้นขนมหวาน ตัวแป้งกลมฟูกรอบนอกนุ่มใน สอดไส้ด้วยครีมสดสีขาวเนื้อเนียน รอบๆข้างประดับไปด้วยสตอเบอร์รี่ฝานเป็นชิ้นเล็กๆ สึบากิมองชูครีมตรงหน้าด้วยความภูมิใจ 

    Strawberry and cream puffs guaranteed to please.

    ก่อนจะชะงัก เมื่อได้ยินเสียงมาจากด้านหลัง "น่ากินมากเลย สึบากินี่เก่งจังนะ" เจ้าของชื่อหลบหน้าไปทางอื่น ดวงตาสีน้ำเงินกระพริบปริบๆ แต่ก็แฝงความเป็นประกายเอาไว้ "เพราะชูครีมมันทำง่ายต่างหากล่ะ... ถึงจะชมไปก็ไม่ดีใจหรอกนะคะ.." ท่าทางแบบนั้นทำให้ผู้เป็นแม่ขำเบาๆอย่างเอ็นดู  
    "เอ้า! เอาไปแบ่งให้คนอื่นๆกินนะจ๊ะ" ชูครีมสตอร์เบอรี่ที่ถูกแพคใส่กล่องเรียบร้อย ถูกยัดใส่มือเรียวบาง เด็กสาวขมวดคิ้ว จะให้เอาไปแบ่งใครล่ะ ไม่ได้ไปโรงเรียนสักหน่อย ถึงจะคิดแบบนั้น แต่รู้ตัวอีกที เธอก็ออกมาจากบ้านพร้อมกล่องขนมแล้ว

    ทีนี้...เธอจะไปไหนดีล่ะ? สึบากิเหม่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียก "อ๊ะ! นั่นสึบากิจังนี่นา" น้ำเสียงหวานๆของผู้หญิงดังขึ้นจากทางด้านหลัง เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ก็พบกับเด็กผู้หญิงสองคนที่เดินมาหาเธอ นั่นคือดาวโรงเรียนแห่งนามิโมริ ซาซางาวะ เคียวโกะ และจากสาวต่างโรงเรียนที่พึ่งรู้จักกันไม่นาน มิอุระ ฮารุ "สวัสดีค่ะสึบากิจัง/สวัสดีจ้ะ" ทั้งสองกล่าวทักทายด้วยความร่าเริง ก็ไม่รู้หรอกว่าไปสนิทกันตอนไหน ทั้งๆที่ไม่เคยเจอกันแท้ๆ สงสัยจะรู้จักกันตอนช่วงหลายวันก่อน "อรุณสวัสดิ์ทั้งสองคน จะไปไหนกันหรอ" เธอกล่าวทักทายพร้อมกับถาม "อ๋อ! พวกเราจะไปร้านเค้กกันน่ะจ้ะ" เคียวโกะตอบด้วยรอยยิ้ม "วันนี้เป็นวันที่เราให้ของขวัญกับตัวเอง โดยการกินของหวานอย่างเต็มที่เลยล่ะค่ะ สึบากิจังก็ไปด้วยกันสิคะ" ตามด้วยเสียงเอ่ยชวนของฮารุ

    สึบากิลังเลอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อนึกได้ว่าตัวเองมีขนมอยู่ ก็ยื่นมันไปให้สองสาว "คือว่า...นี่เป็นชูครีมสตอเบอรี่ที่ฉันทำเองน่ะ ถ้าพวกเธอไม่รังเกียจล่ะก็..." เธอพูดด้วยเสียงที่ค่อนข้างเบา เพราะกลัวว่าจะถูกปฏิเสธกลับมา แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น.. "ฮาฮิ! สึบากิจังเป็นคนทำหรอคะ สุดยอดเลยค่ะ ฮารุชอบชูครีมมากๆเลยล่ะค่ะ" ผู้พูดรับกล่องขนมจากมือของเธอไป จากนั้นเคียวโกะก็พูดขึ้นมา "คิดออกแล้วล่ะ เราไปซื้อเค้กแบบสั่งกลับบ้านมาเยอะๆ แล้วไปกินที่บ้านของฉันกันมั้ย จะได้กินชูครีมของสึบากิจังด้วย"
    "เอ่อ..ฉันว่าฉันไม่---" ยังไม่ทันที่จะพูดปฏิเสธ เจ้าของเรือนผมสีดาร์คช็อกโกแลตก็ถูกล็อกแขนทั้งสองข้าง แล้วลากไปทันที 


    [ร้านเค้ก]

    "ดูสิฮารุ! เค้กช็อกโกแลตลาวานี่พึ่งออกใหม่ล่ะ ที่มีรีวิวในเน็ตไง" นิ้วเรียวยาวชี้ไปที่เค้กช็อกโกแลตในตู้โชว์ ดวงตาสีคาราเมลเป็นประกายแวววาว "ใช่จริงๆด้วยค่ะ อ๊ะ! เค้กครีมสดนั่นก็น่ากินนะคะ" ทั้งสองนั่งกันอยู่หน้าตู้กระจก โดยมีสึบากิยืนด้านหลัง ด้วยความที่ไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้ จึงทำให้เธอค่อนข้างจะประมาทนิดหน่อย ไม่คิดมาก่อนเลยว่าผู้หญิงเขาจะกินของหวานกันเยอะขนาดนี้ 

    ตัวเด็กสาวเองก็ไม่ได้เกลียดของหวานหรอก เพียงแต่สึบากิไม่ได้กินมันบ่อยนัก และเธอก็ชอบแบบหวานน้อยมากกว่าด้วย ตามที่แม่ชอบพูดบ่อยๆว่าอย่ากินของหวานเยอะเกินไป มันจะไม่ดีต่อสุขภาพ "สึบากิจังเองก็มาเลือกเค้กด้วยสิจ้ะ" เสียงเรียกของเคียวโกะทำให้สึบากิหลุดออกจากภวังค์ "ไม่เป็นไรหรอก พวกเธอเลือกกันไปเถอะ" เด็กสาวปฏิเสธด้วยความเกรงใจ แต่ฮารุก็พูดขึ้นมา "No wayค่ะ! สึบากิจังก็ต้องมีเค้กกินด้วยนะคะ " เมื่อรู้ว่าพูดไปก็เปล่าประโยชน์ สึบากิจึงเลือกเป็นมิ้นท์ช็อกโกแลตบราวนี่มาหนึ่งกล่อง ถึงแม้ว่าสองสาวจะบ่นว่าเธอซื้อน้อยเกินไปก็เถอะ

    ตามที่ตกลงกันไว้ ทั้งสามคนจะไปกินเค้กที่บ้านของเคียวโกะ และแน่นอนว่าสึบากิก็โดนลากไปด้วย ใช้เวลาไม่นานก็ถึงที่หมาย บ้านขนาดกลางที่มีป้ายติดไว้ว่า 'ซาซางาวะ' 
    "เชิญเลยนะทั้งสองคน วันนี้พี่ไปฝึกวิ่งน่ะ เลยไม่มีใครอยู่บ้าน" คราวนี้ปฏิเสธไปก็คงไม่ทันแล้ว สึบากิจึงต้องเดินตามเข้าไปในบ้านของเคียวโกะ ด้วยความรู้สึกแปลกๆในใจ

    "โอ้โห...ห้องของเคียวโกะจังน่ารักมากเลยค่ะ" ฮารุพูดชมทันทีเมื่อเข้ามาถึงในห้อง "แปปนึงนะ ฉันขอเอาโต๊ะออกมาก่อน" เจ้าของห้องว่า ก่อนจะไปลากโต๊ะตัวเตี้ยขนาดนั่งพื้น ออกมาจากทางมุมห้อง พอเห็นแบบนั้น สึบากิจึงเข้าไปช่วยดึงด้วย ทำให้โต๊ะเลื่อนออกมาง่ายขึ้น "ขอบใจนะจ้ะ สึบากิจัง" อีกฝ่ายพูด แต่ตัวเด็กสาวก็ทำเพียงพยักหน้ารับ 
    ขนมทั้งหมดถูกวางลงบนโต๊ะ ถึงจะซื้อมาแค่คนละกล่อง สองกล่อง แต่พอเอามารวมกันแล้ว ก็ดูเยอะขึ้นทันตา "งั้น..เราลองกินชูครีมของสึบากิจังก่อนเลยดีมั้ย" สาวผมสั้นเสนอ แถมฮารุก็พยักหน้าเห็นด้วย ทำให้เจ้าของขนมชูครีมอย่างสึบากิต้องลอบมองเล็กน้อย

    ทันทีที่กินเข้าไป พวกเธอก็พูดชมทันที "อร่อยมากเลยค่ะ! แป้งกรอบนอกนุ่มใน แถมครีมก็ไม่หวานเกินไปด้วย" สาวผมหางม้าโพล่งออกมาเสียงดัง ดูจากสีหน้าแล้ว คงเป็นการพูดจากใจจริง ไม่ได้เสแสร้ง "นั่นสิ..อร่อยมากเลยล่ะ สึบากิจังนี่ทำขนมเก่งจังนะ" คนถูกชมทำเพียงก้มหน้างุดด้วยความเขิน เพราะเธอไม่เคยถูกใครชมเกินหนึ่งประโยคเลยนอกจากแม่ "คือว่า...ทำไมพวกเธอถึงมาคุยกับฉันล่ะ"

    สึบากิถามด้วยน้ำเสียงอันแสนเบา เคียวโกะกับฮารุมองหน้ากัน ก่อนที่สาวผมสั้นจะพูดขึ้นมาก่อน "จริงๆแล้ว ฉันเองก็สังเกตุสึบากิจังมาตั้งนานแล้วล่ะจ้ะ... สึบากิจังน่ะ มักจะไปไหนมาไหนคนเดียวตลอดเลย จนฉันเองก็เป็นห่วงว่าเธอมีปัญหาอะไรในใจหรือเปล่า" สึบากินั่งฟังเงียบๆอย่างตั้งใจ "ฉันพยายามจะเข้าไปชวนคุยตั้งนานแล้ว แต่ว่าพอหันไปอีกที เธอก็ไม่อยู่แล้วตลอดเลย" ประโยคนี้ทำเอาคนถูกพูดถึงสะดุ้ง เพราะมันเป็นเรื่องจริง ที่เธอชอบเดินหายไปกับฝูงชนทุกครั้ง
    "แต่สุดท้ายเราก็ได้มาคุยกันสักทีนะจ้ะ ฉันก็พึ่งรู้ว่าเธอรู้จักกับฮารุด้วย" ผู้พูดยิ้มอย่างจริงใจ คนที่อยู่ข้างไปก็พยักหน้าด้วย "เอ่ออ ขอโทษนะที่ไม่ค่อยคุยกับใครเลย.. คือฉันน่ะ..." สึบากิเว้นช่วงไว้อย่างชั่งใจ นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มลอบมองสองสาวเล็กน้อย ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆและตัดสินใจพูดออกไป

    "ที่ฉันไม่พูดกับใครน่ะ เพราะว่าฉันพูดไม่ค่อยเก่งมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ.." คราวนี้เป็นฝ่ายเคียวโกะกับฮารุบ้าง ที่ตั้งใจฟังสิ่งที่สึบากิจะพูด "เมื่อก่อนฉันเคยคุยเก่งกว่านี้ จนกระทั่งฉันไปได้ยินคนนินทาฉันลับหลัง" มือเรียวบีบกำแน่นเพื่อระบายความรู้สึก "พวกเขาบอกว่า.. ฉันเป็นแค่ยัยเฉิ่ม สมองไม่ค่อยดี แถมยังพูดแต่เรื่องเชยๆ แต่งตัวก็เชย หน้าตาก็จืด... เวลาถ่าย
    รูปด้วยกันก็เหมือนกับภาพถ่ายติดวิญญาณ" ฮารุยกมือขึ้นปิดปากด้วยความเห็นใจ ส่วนคนเล่านั้น ก็พยายามสูดหายใจ ก่อนจะเล่าต่อให้จบ "แล้วรู้อะไรมั้ย? ฉันกลับไปนั่งรอที่ห้องเรียนเพื่อดูปฏิกิริยา.. แต่พอพวกนั้นกลับมา ก็ทำเป็นมาคุยตามปกติ ทำเหมือนว่าเมื่อกี้ไม่ได้จับกลุ่มนินทาฉันเลยสักนิด..... แล้วฉันก็สังเกตเห็น ว่าพวกเขามองหน้าฉันและหันไปซุบซิบกัน ก่อนหัวเราะออกมาเหมือนคุยเรื่องตลก"

    "ตั้งแต่นั้นมา... ฉันก็เลิกคบกับคนพวกนั้น และไม่เคยไว้ใจใครอีกเลย..." บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบ สองสาวพึ่งได้รู้ความจริง สาเหตุที่สึบากิไม่พูดคุยกับใคร เป็นเพราะเธอไม่ไว้ใจใคร.. "พอฉันทำตัวแบบนี้มาเรื่อยๆ มันก็เริ่มชิน... จนกลายเป็นว่าฉันเป็นไม่ชอบพูด แถมยังเสียงเบาอีก ฉันถึงไม่อยากคุยกับใคร.. พวกเธอไม่กลัวถูกคนอื่นนินทาหรอ ถึงมาคุยกับฉันน่ะ" จบลงด้วยประโยคคำถาม พลางใช้ส้อมตัดเค้กบราวนี่ที่ตัวเองซื้อมาเข้าปาก สีหน้าของสึบากิดูดีขึ้นเล็กน้อย เมื่อพบว่าเค้กชิ้นนี้ทำจากดาร์กช็อกโกแลต  

    " เรื่องนั้นน่ะ ฉันไม่สนหรอกนะ สึบากิจังเป็นคนดี เรียนก็เก่ง... ฉันว่ามีอีกหลายคนเลยล่ะ ที่อยากจะคุยกับเธอ แค่สึบากิจังต้องลองเปิดใจดูเท่านั้นเอง" เคียวโกะพูดพร้อมกับกุมมือบางของสึบากิไว้ข้างหนึ่ง "ใช่แล้วล่ะค่ะ! ส่วนเรื่องที่มีคนบอกว่าสึบากิจังหน้าตาไม่ดีน่ะ มันไม่จริงเลยสักนิด ฮารุว่าสึบากิจังน่ารักมากๆเลยค่ะ" สาวหางม้าพูดต่อ พร้อมกับกุมมืออีกข้างหนึ่งไว้ สึบากิรู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ริมฝีปากบางเม้มแน่น ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา.. "ไม่เคยมีใครทำกับฉันแบบนี้เลย.. ขอบคุณนะ" ประโยคนี้ทำให้ผู้ที่จับมือของเธออยู่ทั้งสองคนพากันยิ้ม
    "เอ่อแล้วก็... จะว่าอะไรมั้ยถ้าฉันเรียกพวกเธอว่าเคียวโกะกับฮารุเฉยๆน่ะ" เด็กสาวถาม "ได้อยู่แล้วล่ะค่ะ ถ้างั้นพวกเราก็ขอเรียกเธอว่ายูกะจังได้มั้ยคะ" ดวงตาสีน้ำเงินเข้มฉายแววความเป็นประกายอยู่ลึกๆ เมื่อได้ยินคำตอบของฮารุ ก่อนที่สึบากิจะพยักหน้าเบาๆเพื่อเป็นการอนุญาต
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    [15:35น.]

    สามสาวที่ตอนนี้เป็นเพื่อนกันแล้ว ได้นั่งคุยกันจนเย็น เค้กที่ซื้อมาก็ถูกกินจนหมด คนที่กินส่วนใหญ่ก็คือเคียวโกะกับฮารุนั่นแหละ"ฉันว่าฉันกลับก่อนดีกว่า บายนะ" สึบากิบอกลาเพื่อนใหม่ ก่อนจะเดินออกไป "บีายบายค่ะยูกะจัง" เสียงของฮารุไล่หลังมา ก่อนจะตามด้วยเสียงของเคียวโกะ "แล้วเจอกันที่โรงเรียนนะจ้ะ"

    {ที่บ้าน} 

    "กลับมาแล้วค่ะ" เด็กหญิงพูดเมื่อเข้ามาในบ้าน เธอถอดรองเท้าออกแล้ววางไว้ที่ชั้น พอเงยหน้าขึ้นก็เจอคุณแม่ออกมาต้อนรับ "ขนมชูครีมยังเหลืออีกเยอะเลยนะจ้ะ--โอ๊ะ!" คิซาเอะมองหน้าลูกสาวด้วยความแปลกใจ "วันนี้ไปเจอเรื่องอะไรดีๆหรือเปล่าลูก" สึบากิที่ได้ยินคำถาม ก็เอียงคออย่าสงสัย "แม่พูดเรื่องอะไรน่ะ... ก็ไม่ได้มีอะไรสักหน่อยนี่คะ" คำตอบนั้นทำเอาผู้เป็นแม่หัวเราะคิกคัก "แล้วทำไมถึงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แบบนั้นล่ะ หืม? แม่เห็นนะ" คิซาเอะยิ้มกว้างพลางแซวลูกสาวตัวเอง ฝ่ายเด็กหญิงเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก็เบิกตากว้าง ก่อนจะก้มหน้างุด แล้ววิ่งเข้าบ้านทันที แต่ใบหูที่ขึ้นสีแดงระเรื่อนั้น ไม่สามารถรอดพ้นจากสายตาของมารดาไปได้หรอก

    สึบากิจัดการอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอกับมาที่ห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะล้มตัวลงไปจนที่นอนมันยุบลงเล็กน้อย มือบางเอื้อมไปคว้าโทรศัพท์มือถือบนหัวเตียงมาดู นิ้วเรียวเลื่อนหาอะไรดูไปเรื่อยๆ แล้วก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อจู่ๆโทรศัพท์ก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างดัง
    พอตั้งสติได้ ก็นึกออกว่ามันเป็นเสียงริงโทนโทรเข้าที่เธอเป็นคนตั้งไว้เอง ตกใจอะไรของเราเนี่ย สึบากิคิดพลางส่ายหน้าเบาๆ เด็กหญิงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์อีกครั้ง มีคนโทรมาจริงๆ เป็นเบอร์แปลกๆที่ไม่มีชื่อ ...ชั่งใจอยู่สักครู่ สึบากิก็กดรับสาย

    "ฮัลโหล..สวัสดีค่ะ นี่สึบากิ ยูกะพูดค่ะ" เธอกรอกคำพูดลงไปในโทรศัพท์ แต่เสียงที่ได้ยินกลับมา มันกลับเป็นเสียงที่เธอคุ้นเหลือเกิน "คุณรับโทรศัพท์ช้า.." มันไม่ใช่แค่คุ้นแล้วล่ะ นี่มันเสียงของฮิบาริ เคียวยะชัดๆ "ข..ขอโทษค่ะ ว่าแต่รุ่นพี่รู้เบอร์ฉันได้ไงคะ" เด็กหญิงถามกลับไป แต่ดูท่าทางอีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจคำถามของเธอ "ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วผมอยากกินผลไม้ ให้เวลาคุณ20นาที เอามาให้ผมซะ" สึบากิที่ยังประมวลผลไม่ทันรีบถามกลับไป "แล้วรุ่นพี่ไปอยู่โรงพยาบาลได้ยังไงคะ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่ารุ่นพี่อยู่ห้องไห--- ฮัลโหล? รุ่นพี่คะ" เธอเอาโทรศัพท์ออกจากหู ก็พบว่ามันถูกวางสายไปซะแล้ว

    ห๊ะ? นี่คือคำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเด็กสาว สึบากินั่งนิ่งๆบนเตียงเพื่อประมวลผล ก่อนจะสรุปออกมาได้ว่า 
    1.ตอนนี้ฮิบาริอยู่โรงพยาบาล ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นอะไร
    2.เขาอยากกินผลไม้
    3.เขาสั่งให้เธอเอาไปให้ โดยกำหนดเวลา20นาที...
    พอประมวลผลได้ สึบากิก็รีบลุกออกจากห้องทันที "แม่คะ! แอปเปิ้ลยังเหลืออยู่หรือเปล่า" เสียงใสตะโกนถามแม่ของตัวเอง คนถูกเรียกก็ตะโกนออกมาจากในครัว "ในตู้เย็นยังมีอีก3-4ลูกจ้ะ ยูกะจังอยากกินหรอ" เมื่อได้ยินคำตอบ สึบากิเดินไปเปิดตู้เย็นทันที ก่อนจะคว้าแอปเปิ้ลเขียวสี่ลูกไปล้างน้ำ แล้วใส่ถุง

    "เดี๋ยวหนูมานะ!" เธอบอกขณะที่กำลังจะออกจากบ้านไป แต่ก็หยุดชะงักก่อน ดวงตาสีน้ำเงินเข้มมองกล่องชูครีมที่เหลืออยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจคว้ามันไปด้วยแล้ววิ่งออกจากบ้านไปทันที โชคดีที่บ้านของเธอกับโรงพยาบาลไม่ได้ห่างกันมากนัก ใช้เวลาเดินไม่นานก็ถึง แต่จุดที่ทำให้เธอเสียเวลาก็คือ..

    "ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ" นางพยาบาลที่นั่งประจำอยู่ตรงเคาท์เตอร์ถามเสียงหวาน เมื่อเห็นสึบากิเดินเข้ามา "คือว่า คนไข้ที่ชื่อฮิบาริ เคียวยะ เขาอยู่ห้องไหนหรอคะ" พอเธอถามแบบนั้น พยาบาลก็หน้าซีดเผือด ก่อนจะพูดอย่างลนลาน " ม..ไม่ได้นะคะคุณ! ท่านฮิบาริน่ะ เขาต้องการความสงบนะคะ ห้ามไปรบกวนค่ะ!" สึบากิเองก็กำลังรีบอยู่ จึงพูดต่อทันที "ฉันมาเยี่ยมเขาค่ะ รุ่นพ-- ฮิบาริซังอยู่ห้องไหนคะ" แต่พยาบาลคนนั้นก็ยังคงส่ายหน้า "ยังไงก็ไม่ได้ค่ะ! ถ้าปล่อยให้คุณเข้าไปรบกวนท่านฮิบาริล่ะก็ ฉันต้องตายแน่ๆเลยค่ะ คุณกลับไปเถอะ" 

    คราวนี้..เจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา เธอยกนาฬีกาข้อมือมาดูเวลา แค่ยืนเถียงกับพยาบาลคนนี้ก็เสียเวลาไปตั้ง10กว่านาทีแล้ว ถ้าไปหารุ่นพี่ของเธอช้าล่ะก็ ต้องโดนโมโหใส่แน่ "ฉันไม่ได้มารบกวนค่ะ ฉัน--" ยังไม่ทันพูดจบประโยค ก็มีเสียงของชายไว้กลางคนดังขึ้นมาก่อน "คุณสึบากิสินะครับ เชิญทางนี้เลยครับ คุณฮิบาริกำลังรออยู่" เด็กสาวโค้งหัวให้อีกฝ่าย ก่อนจะเดินตามไป ทิ้งให้พยาบาลคนเมื่อกี้ได้แต่ยืนอ้าปากค้าง

    "ห้องนี้แหละครับ ถ้างั้นผมขอตัวก่อน" เมื่อคนที่ดูท่าจะเป็นหมอจากไป สึบากิก็หันกลับมาทางประตู มือเรียวยกขึ้นมาเคาะเบาๆ 

    ก็อกก็อก "ขออนุญาตค่ะ"

    เธอพูดบอกคนด้านใน ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป  แล้วก็ต้องขนลุกกับสายตาอันเย็นเฉียบที่จ้องมองมาจากทางเตียงคนไข้ "คุณมาช้า.." ฮิบาริ เคียวยะ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความหงุดหงิด "ขอโทษด้วยค่ะรุ่นพี่ พอดีว่าพยาบาลไม่ยอมให้ฉันเข้ามาน่ะค่ะ" สึบากิโค้งหัวลงเล็กน้อย ส่วนอีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไร "ว่าแต่..รุ่นพี่เป็นอะไรถึงมาอยู่ที่โรงพยาบาลหรอคะ" เด็กหญิงเดินมาที่โต๊ะข้างเตียงแล้วถาม

    "เป็นหวัดนิดหน่อยน่ะ แต่พรุ่งนี้ก็ไปโรงเรียนได้ตามปกติ" สึบากิพยักหน้าให้กับคำตอบ ถุงแอปเปิ้ลถูกวางลงบนโต๊ะ "ฉันเอาแอปเปิ้ลมาให้แล้วค่ะ ถ้างั้นขอตัวก่อนนะคะ" เธอบอกลาพร้อมกับโค้งหัวให้   ขณะที่ที่กำลังจะหันหลังกลับ เสียงของหัวหน้ากรรมการคุมกฎก็ดังขึ้น "เดี๋ยว!" เด็กหญิงหยุดชะงัก ก่อนจะหันกลับไปพร้อมกับสีหน้าตั้งคำถาม "นี่คุณจะให้ผมปอกกินเองหรือไง" ใบหน้าเรียบนิ่งของฮิบาริฉายแววไม่พอใจ สึบากิจึงต้องรีบเดินกลับไปหาเขาทันที

    "เอ่ออ ฉันลืมคิดไปเลย ขอโทษนะคะ" เธอเอื้อมมือไปหยิบมีดมา ก่อนจะเริ่มลงมือหั่นแอปเปิ้ลเป็นรูปกระต่าย..
    ถึงจะหั่นแอปเปิ้ลเสร็จ จัดใส่จานให้เรียบร้อย แต่ฮิบาริก็ยังคงไม่ปล่อยให้เด็กสาวได้กลับสักที เปล่า... เขาไม่ได้ขอให้เธอป้อนแอปเปิ้ลให้หรอก มือของเขาไม่ได้เจ็บสักหน่อย เพียงแต่...
    "ผมหิวน้ำ ไปเอามาซะ"
    "แสงแดดมันส่องตา ปิดผ้าม่านที"
    "ช่วยผมปรับเตียงหน่อย ผมเมื่อย"
    และอีกสารพัดคำสั่ง ที่ออกมาทุกครั้งเมื่อสึบากิ ยูกะทำท่าจะกลับ "มีอะไรอีกหรือเปล่าคะ รุ่นพี่" เด็กสาวถามอย่างเหนื่อยๆ ฮิบาริที่เหมือนจะสังเกตได้ จึงส่ายหน้า "นั่งพักซะสิ" เขาพยักเพยิดไปทางเก้าอี้สำหรับนั่งเฝ้าคนไข้ ที่วางอยู่ข้างๆ
    "ขอบคุณค่ะ.." สึบากิกล่าวก่อนจะนั่งลง สายตาของเธอเหลือบไปเห็นกล่องชูครีมที่ตัวเองเอามา  ในหัวคิดอะไรบางอย่าง แล้วจึงถามออกไป "รุ่นพี่...ชอบกินชูครีมมั้ยคะ" คนบนเตียงหันมามองเล็กน้อย "ผมไม่ชอบของหวาน" สึบากิที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าพลางร้องอ๋อเบาๆ 

    แอดด  

    ประตูห้องถูกเปิดออก เผยร่างของเด็กชายตัวเล็ก หัวฟูเหมือนสิงโต ได้เข้ามาในห้อง เขาคือจอมห่วย ซาวาดะ สึนะโยชิ ทำให้สึบากิประหลาดใจเล็กน้อย นึกว่ารุ่นพี่จะชอบอยู่คนเดียวซะอีกแฮะ เธอคิดในใจ "เป็นอะไรมาหรอ ซาวาดะ" เจ้าของชื่อที่ถูกถามสะดุ้งเฮือก "อ..เอ่อ อุบัติเหตุน่ะ" เขาตอบอย่างประหม่า ในใจอยากจะถามเหลือเกิน ว่าทำไมเธอถึงไปอยู่กับคนที่น่ากลัวที่สุดในเมืองได้ "เย็นมากแล้ว คุณกลับบ้านไปซะ" เสียงทรงอำนาจของฮิบาริแทรกขึ้นมา ดังนั้นเด็กสาวจึงหันกลับไปโค้งตัวให้ "งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะรุ่นพี่ เจอกันที่โรงเรียนนะคะ" จากนั้นจึงเดินไปที่ประตู และก็หยุดชะงัก ไม่ใช่ว่าเพราะถูกเรียกแต่อย่างใด

    "อ่ะนี่" กล่องกระดาษสีพาสเทลถูกยื่นไปให้หนุ่มทูน่า ฝ่ายชายดูลนลานยกใหญ่ "เอ๋!!? นี่อะไรอ่ะ" ท่าทางของเขาดูอย่างกับว่า ของในกล่องเป็นระเบิดยังไงยังงั้น สึบากิมองด้วยสีหน้าเอือมๆ แล้วพูดอธิบาย "นี่เป็นชูครีมที่ฉันทำเองน่ะ เอาไปกินซะสิ... เคียวโกะก็บอกว่าอร่อยนะ" พอพูดถึงสาวที่แอบชอบอย่างซาซางาวะ เคียวโกะ เขาก็หูผึ่งทันที "จริงหรอ! ขอบคุณนะสึบากิจัง" ฝ่ายหญิงพยักหน้ารับ แล้วจึงเดินออกไป
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เด็กสาวเพียงคนเดียวในห้องได้ออกไปสักพักแล้ว และตอนนี้เขากำลังประสบปัญหาอย่างหนักมาก! ชูครีมที่สึบากิให้มาน่ะ... บางทีมันอาจจะมีคำสาปก็ได้ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็พอเขาจะกินมัน พ่อคนโหดประจำเมืองก็ปล่อยรังสีเยือกเย็นออกมาจนขนลุกซู่ สึนะลอบมองผู้ร่วมห้องที่นั่งอยู่บนเตียง พบว่าอีกฝ่ายจ้องเขม็งราวกับจะฆ่ากัน แล้วแบบนี้จะกินยังไงล่ะเนี่ย เขาคิดอย่างวิตก แค่ทำท่ายกขนมจ่อปาก คนข้างหลังก็ดูจะโมโหขึ้นมาซะงั้น

    แต่เดี๋ยวสิ ขนมนี่น่ะ สึบากิเป็นคนให้เราเองนี่นา ยังไงเราก็มีสิทธิ์กินได้อยู่แล้ว แต่ต้องพยายามไม่สนใจคุณฮิบาริเท่านั้นเอง เมื่อคิดได้ดังนั้น ชูครีมสตรอเบอร์รี่ในมือก็ถูกส่งเข้าปากไป สึนะเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย การที่ต้องเจอเรื่องวุ่นมาทั้งวัน แล้วได้มาพักกินของหวานแบบนี้ก็ดีไม่น้อ---

    ซะเมื่อไหร่ล่ะ...


    "เหวอ!!! ค..คุณฮิบาริ จะทำอะไรครับเนี่ย!" สึนะร้องเสียงหลง เมื่อเห็นว่าคนที่ควรอยู่บนเตียงคนไข้อีกฝั่ง กลับเดินมาใกล้ๆ พร้อมด้วยสีหน้าเกรี้ยวโกรธ แถมทอนฟาที่คุ้นเคยในมือ ดวงตาสีนิลของฮิบาริถูกกดมองลงมา ถึงเด็กหนุ่มจะมีสีหน้าเรียบนิ่ง แต่ก็สามารถสัมผัสได้ว่าเขากำลังไม่พอใจแบบสุดๆ
    "อยู่ดีๆผมก็หงุดหงิดอยากขย้ำสัตว์กินพืชขึ้นมา" คำตอบของหัวหน้ากรรมการคุมกฎ ทำให้จอมห่วยผงะถอยหลัง แล้วนี่คุณพี่เขาโกรธอะไรล่ะเนี่ยย ดูเหมือนจะเป็นคราวซวยของซาวาดะ สึนะโยชิเสียแล้ว "อ้อใช่...ผมยังไม่ได้ขย้ำคุณข้อหาทำเสียงดังรบกวนเลยนี่" ฮิบาริยกยิ้มมุมปาก ส่วนอีกฝ่ายก็ได้แต่หน้าซีดเผือดรอรับชะตากรรม "ด..ด...เดี๋ยวก่อนนนน!!"



    ผั้วะ! ปึก!
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    เจ้าสัตว์กินพืชตัวนั้นถูกย้ายไปที่อื่นแล้ว หลังจากที่เขาตัดการขย้ำเรียบร้อยแล้ว ฮิบาริมองกล่องขนมหวานด้วยความรู้สึกหลากหลาย ในหัวนึกไปถึงคำพูดของเด็กสาว ที่ได้ถามเขาก่อนหน้านี้
    "รุ่นพี่...ชอบกินชูครีมมั้ยคะ"
    ดูเหมือนว่าเธอตั้งใจจะเอามาฝากเขา แต่เพราะฮิบาริบอกว่าไม่ชอบของหวาน เธอก็เลยเอาไปให้เจ้าสัตว์กินพืชนั่นแทน "..หึ.." ฮิบาริร้องออกมาเบาๆ อารมณ์โกรธพุ่งขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะคว้ากล่องชูครีมที่เหลือบนโต๊ะโยนลงถังขยะทันที ไม่มีทางหรอกที่เขาจะกินต่อ อย่างที่บอกไปว่าเขาไม่ชอบของหวานแต่...


    มันก็ไม่ควรมีสัตว์กินพืชตัวไหน มีสิทธิ์ได้กินทั้งนั้น...




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×