[Show by Rock!!] The Bottle of Milk - [Show by Rock!!] The Bottle of Milk นิยาย [Show by Rock!!] The Bottle of Milk : Dek-D.com - Writer

    [Show by Rock!!] The Bottle of Milk

    นมหนึ่งขวด...เปรียบเหมือนชีวิตของใครสักคนที่มีการเติบโต รอคอยใช้ชีวิตร่วมกับอีกคนหนึ่งอย่างมีความสุข แล้ว...โชคชะตาระหว่างชายสองคนที่กำลังคบหาสู่กันจะเป็นอย่างไรล่ะ...หากขวดใบนั้นถูกรักษาไว้ไม่ดี!!

    ผู้เข้าชมรวม

    285

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    285

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  25 ธ.ค. 63 / 15:52 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    นมหนึ่งขวด...เปรียบเหมือนชีวิตของใครสักคนที่มีการเติบโต

    รอคอยใช้ชีวิตร่วมกับอีกคนหนึ่งอย่างมีความสุข

    แล้ว...โชคชะตาระหว่างชายสองคนที่กำลังคบหาสู่กันจะเป็นอย่างไรล่ะ...

    หากขวดใบนั้นถูกรักษาไว้ไม่ดี!!

    ---------------------------------------------------------------------

    [Show by Rock!!]

    Title: The Bottle of Milk

    Rating: Mature (Not include about sexual contents)

    Genre: Angst

    Warning: Depression, Domestic Mental Violence, Suicide Attempt

    ---------------------------------------------------------------------


    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ณ สตูดิโอ

      เวลา 12.00 น.

      หลังจากเหล่าสี่หนุ่มวง ShinganCrimsonZ ซักซ้อมเล่นเพลงใหม่ พวกเขาต่างพากันหยุดพักเบรคโดยเดินมุ่งหน้าไปยังคาเฟ่ประจำค่าย Banded Rocking Records เพื่อสั่งอาหารเติมพลังกายให้มากยิ่งขึ้น เมนูครั้งนี้เรียกว่ามีหลากหลายให้เลือก โดยมีข้าวแกงกะหรี่ ราเมง ข้าวหน้าเนื้อเป็นตัวเลือกให้หนุ่มๆ สามเกลอทะเลาะกันทุกที

      เฮ้ยๆ เมนูที่ยอดเยี่ยมสำหรับโครวซามะผู้สูงส่งมันต้องเป็นข้าวหน้าเนื้ออยู่แล้วสิ!”

      โครว...นักร้องนำและมือกีต้าร์ประจำวง เผ่าพันธุ์เม่น เขาเป็นคนขี้โหวกเหวก ก้าวร้าวและมักหาเรื่องทะเลาะกับเพื่อนร่วมวง เปรียบเสมือนชนวนแห่งความยุ่งเหยิง มีปากเสียงอยู่บ่อยๆ ซึ่งตอนนี้ก็กำลังนั่งเริ่มต้นประเด็นจนเกิดความไม่เห็นด้วยขึ้นมาทันที

      ช่างโง่เขลานัก...เจ้าเม่นแคระ อาหารที่แสนสมบูรณ์แบบสำหรับพระเจ้าผู้นี้คือข้าวแกงกะหรี่ต่างหากล่ะ”

      ไออ้อน...มือกีต้าร์เผ่าพันธุ์สิงโต มักเรียกแทนตัวเองว่า เทพสุริยันทมิฬ หรือ แบล็คมอนสเตอร์ ชอบรักษาภาพลักษณ์ให้ดูสง่าด้วยการโพส มือข้างหนึ่งยกขึ้นปิดบนใบหน้าตลอดเวลา หากไม่ทำเช่นนั้นจะไม่พูดจาเลย อีกทั้งยังเป็นคนที่ไม่ค่อยถูกกับโครวเสียเท่าไหร่

      โครว...ไออ้อน หยุดเถียงกันเสียที ด้วยเหตุนี้...ข้าน้อยจักขอยกย่องราเมงให้เป็นรีเจ้นด์ ออฟ มื้อกลางวันตามวิถีแห่งริวโคมุโซ คามุยก็แล้วกัน”

      ไยบะ...มือเบสเผ่าพันธุ์จิ้งจอก ผู้นับถือจิตวิญญาณแห่งบูชิโด เจ้าตัวเปรียบเสมือนจิตวิญญาณอันควบคุมกฎของสิ่งดุร้ายบนโลกเนื่องจากถือครอง ริวเคนเด็น เครื่องดนตรีประจำตัว ถึงจะดูเป็นผู้ใหญ่กว่าสองหนุ่มเมื่อครู่แต่เขากลับจูนิเบียวอย่างเหลือเชื่อ

      ไหงนายถึงไม่เห็นด้วยกับฉันเล่า ไยบะ! เมนูนี้แหละคือแหล่งรวมพลังงานให้พุ่งพล่านในร่างกาย เปล่งปลั่งออร่าเทพตกสวรรค์ให้พวกวัวควายได้หลงหัวปักหัวปำยิ่งกว่าเดิม!!” เม่นสีแดงกำหมัดซ้ายแนบอกอย่างภาคภูมิพร้อมออร่าขนนกสีดำที่โปรยลงพื้น

      ถึงข้าน้อยจะเป็นคนรักของเจ้า ณ ตอนนี้...แต่ขอยกเว้นเรื่องเดียวคงเพียงพออยู่แล้วไม่ใช่รึ?” จิ้งจอกสีทองนั่งขยับแว่นขึ้นหนึ่งทีแล้วยกมือขวาเท้าคางมองอีกฝ่าย

      ใช่แล้ว...พวกเขากำลังคบหาสู่กันอยู่ในฐานะคนรักได้ประมาณหนึ่งเดือน เหนือขั้นยิ่งกว่าเพื่อนร่วมวง ตอนแรกทั้งสองไม่กล้าสารภาพให้กับไออ้อนหรือรอม แต่ด้วยความกล้าหาญ ไม่อยากเก็บไว้ฝ่ายเดียว จึงยอมบอกเล่าความจริงให้หมดเปลือกตั้งแต่แรกยันจบ

      คนเริ่มต้นขอคบคือโครวซึ่งเจ้าตัวไม่อาจทราบเหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดอยากอยู่ด้วยกันกับไยบะ ทั้งที่ปกติก็รวมตัวภายในวงและเจอหน้าบ่อยครั้งแท้ๆ

      นะ...หนวกหูน่า! เลือกเมนูเดียวกันให้มันจบๆ ไปเลยไม่ดีกว่ารึไง!?”

      กะอิแค่เรื่องอาหารถึงกับต้องทะเลาะกันเลยงั้นเหรอ...ไร้สมองสิ้นดี”

      “...นี่แกเข้าข้างไยบะสินะ...เจ้าสิงโตปวกเปียก” โครวแสดงสีหน้าหงุดหงิดหลังได้ยินคำด่าจากสิงโตขาวก่อนที่จะลุกขึ้นออกจับกีต้าร์ประจำกายด้วยมือสองข้าง “เฮอะ! งั้นมาตัดสินกันตรงนี้ดีกว่ามั้ง...เรด โทมาฮอว์ก ปรากฏมาซะ!”

      ช่างกล้านักที่มาต่อกรกับพระเจ้าผู้นี้...” ไออ้อนยกมือขวาปิดใบหน้าตามเคยพร้อมทั้งจับกีต้าร์ไว้ด้วยมือซ้ายอย่างสง่าผ่าเผย “จงรับบทลงทัณฑ์ไปเสียเถิด! โฮลี่ อาร์ค ถูกอัญเชิญ!”

      โห...หากเช่นนั้นคงยอมกันไม่ได้แล้วสินะ...” ไยบะมองท่าทีทั้งสองคนที่กำลังจะตบตีด้วยกันจนกระทั่งเข้าร่วมวงด้วยการหยิบเบสขึ้นดึงออกจากกระเป๋ายาวเปรียบเสมือนกำลังถือดาบซามูไร “ริวเคนเด็น พร้อมลุย!”

      ทว่า...

      ผลัวะ!! ผลัวะ!! ผลัวะ!!

      หนอย...เจ้าพวกบ้านี่!!!”

      เหตุทะเลาะวิวาทถูกยุติลงทันทีด้วยหมัดอันมีเปลวเพลิงลุกโชนของ รอม มือกลองผิวสีแทนเผ่าพันธุ์เสือดาว เจ้าตัวเป็นคนเลือดร้อน กำปั้นมักไปก่อนคำพูดเสมอ มีพละกำลังมหาศาลที่อาจดูเป็นเหมือนแค่พรรณนา แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดๆ ชัดเจน ซึ่งไยบะนิยามการโจมตีนี้ว่า รีเจ้นด์ ออฟ ความรุนแรง

      อะเฮื้ออ~ ระ...ริวเคนเด็นของข้า...”

      อั่ก...บทลงทัณฑ์ของพระเจ้าผู้นี้...”

      อ๊ากก~ ยะ...อย่าต่อยที่หน้าแบบนี้สิรอม~”

      ให้ตายเถอะ...ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าเลิกทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อยแค่นี้!” เสือดาวหนุ่มเริ่มดุเพื่อนร่วมวงอย่างกับคุณแม่แล้วค่อยพูดจาโน้มน้าวใจพวกเขา “พวกเราสี่คนร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว เป็นวงดนตรีที่กำลังจะร่วมมือกันจารึกตำนานไว้ในประวัติศาสตร์แห่งบทเพลง...ด้วยจิตวิญญาณย้อมสีชาดเข้ม...ไม่ใช่รึไง!!”

      “...!!!?” หนุ่มสามเกลอต่างเบิกตากว้างเชิงได้สติกลับมาก่อนที่จะพากันนั่งคุกเข่าตรงหน้าอีกฝ่ายและแสดงสีหน้าร่ำไห้ หยาดน้ำตาหลั่งไหลลงอาบแก้มพร้อมออร่าแห่งความซาบซึ้งเปล่งประกาย

      ฮึ่ก...รอม...นายนี่มันสุดยอดที่สุดเลย...”

      สมกับเป็นมนุษย์สังคมเสียจริง...ด้วยเหตุนี้...อึ่ก...คำพูดคำจานั่นช่างมีขุมพลังมากมายยิ่งนัก...”

      “...หัวใจอันเยือกเย็นของพระเจ้าผู้นี้...เหมือนกำลังถูกเปลวเพลิงหลอมละลายไปจนหมด...”

      เรื่องมื้อกลางวันพวกนั้น...เดี๋ยวฉันช่วยเลี้ยงให้ทุกอย่างเลยแหละน่า จะได้ไม่ต้องนั่งเถียงกันให้วุ่นวายอีก”

      ว่าจบรอมก็สั่งเมนูข้าวหน้าเนื้อ ข้าวแกงกะหรี่ และราเมงให้กับพวกเขาพร้อมควักเงินจากกระเป๋าออกจ่ายอย่างไม่มีรีรอ ทำเอาเปรียบดั่งซิงเกิลมัมคนหนึ่งที่ต้องดูแลลูกหลานแสนซนทั้งสามคนเลยทีเดียว

      ในระหว่างนั้นเอง...

      ตื๊ดด~ ตื๊ดด~ ตื๊ดด~

      เสียงโทรศัพท์สั่นดังขึ้นในกระเป๋ากางเกงของโครว เมื่อลองเปิดหน้าจอดูแล้วพบว่าเป็นข้อความจากเบอร์ของพ่อหรือผู้ดูแลฟาร์ม Cnow ประจำตระกูลนั่นเอง เขาขมวดคิ้วลงด้วยความรู้สึกสงสัยก่อนที่จะกดเข้าไปอ่านเนื้อหาใจความทั้งหมด

       

      ถึงโครวลูกรัก

      พรุ่งนี้เช้าพ่อกับแม่ขอพบชายที่ชื่อ ไยบะ หน่อยนะ...เพราะได้ข่าวว่าพวกลูกสองคนคบหากัน ก็เลยอยากเปิดใจพูดคุยด้วยสักหน่อย เอาเป็นว่านัดเจอกันที่ฟาร์มพวกเราละกันเนาะ

      ด้วยรักและห่วงใย     

      จากพ่อ     

       

      ห๊าาา!?”

      ยูเวนิ!?” ไยบะอุทานด้วยคำพูดติดปากหลังจากเห็นท่าทีตกใจเหวอของอีกคน เขารีบถ่อเข้ามาถามใกล้ๆ อย่างเป็นห่วง จนกระทั่งสายตาเหลือบมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์แล้วพบคำตอบไขข้อสงสัย “โห...พ่อแม่เจ้าอยากเจอหน้าข้าน้อยงั้นรึ? ช่างเป็นเรื่องที่รีเจ้นด์ ออฟ น่ายินดียิ่งนัก”

      ยินดีบ้าบออะไรฟะ...! ถะ...ถ้าพวกเขาไม่ยอมรับขึ้นมาจะทำยังไงเล่า” เม่นสีแดงพูดพลางทำแก้มป่องและแอบรู้สึกหวั่นกลัว ระแวงว่าพวกเขาสองคนจะต้องเลิกราหรือไม่

      อย่าได้กังวลไป...เดี๋ยวข้าน้อยจะช่วยพูดคุยให้เอง ด้วยเหตุนี้---”

      ตื๊ดด~ ตื๊ดด~ ตื๊ดด~

      ในจังหวะที่จิ้งจอกหนุ่มกำลังสนทนา เสียงโทรศัพท์สั่นดังขึ้นขัดจังหวะ เมื่อลองล้วงกระเป๋าเสื้อสีดำด้านในแล้วหยิบมันมาเปิดหน้าจอ พบว่าเป็นข้อความจากเบอร์เจ้าของร้านพาร์ทไทม์ขายอาหาร

      เนื้อหาใจความเหล่านั้นมีอยู่ว่า...

       

      ถึงไยบะคุง

      พรุ่งนี้เช้าฉันขอพบด้วยหน่อยได้รึเปล่า พอดีมีพนักงานพาร์ทไทม์คนใหม่บรรจุเข้ามาแล้วอยากได้คำแนะนำจากรุ่นพี่อย่างเธอ ฉันรู้ว่าเธอต้องใช้เวลามากมายเพื่อซักซ้อมดนตรี แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้แวะเวียนมาหาหน่อยนะ

      จากหัวหน้า     

       

      ยะ...” ไยบะกวาดสายตาอ่านครบทุกตัวอักษรแล้วถึงกับอ้าปากร้องอุทานเสียงแหลมกว่าปกติ “ยูเวนี๊!!? เหตุใดถึงมีนัดชนกันเช่นนี้ล่ะนิ!!?”

      ห๊าาาาาา!!?” โครวที่รับรู้เช่นนั้นเปล่งคำอุทานเสียงยาวและดังกว่าเดิมสองเท่าตามๆ กัน “สองคนนี้พยายามจะลองใจพวกเรารึไงฟะเนี่ยยย!!?”

      .

      .

      .

      .

      .

      เช้าวันรุ่งขึ้น

      เวลา 06.30 น.

      หลังจากผ่านเหตุการณ์ส่งข้อความชนกันโดยมิได้นัดหมาย ไยบะและโครวต่างออกความเห็นว่าจะลองพูดคุยกับพ่อแม่เรื่องความสัมพันธ์ในปัจจุบัน ณ ฟาร์ม Cnow ส่วนเรื่องงานพาร์ทไทม์จบลงที่คำอ้างว่ามีนัดสำคัญแล้ว

      “...”

      ตอนนี้ลูกชายเผ่าพันธุ์เม่นได้ตื่นขึ้นทำงานตามปกติ เขากำลังอยู่ในชุดทำฟาร์มวัวสีแดงทับเสื้อแขนสั้นด้านในสีดำ ถือพลั่วยาวตักกองฟางรวมกันให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แสงแดดยามอรุณสาดส่องลงจนเผยออร่าเทพตกสวรรค์ รวมทั้งหยาดเหงื่อแห่งความมุ่งมั่นตั้งใจที่ไหลลงบนต้นคอ

      ตึก...ตึก...ตึก

      ระหว่างนั้นเอง เสียงฝีเท้าดังกระทบพื้นเป็นจังหวะเดินพร้อมกับร่างของชายหนุ่มเผ่าพันธุ์จิ้งจอกสีทอง เขากำลังอยู่ในชุดลำลองธีมสีดำ-ทอง เสื้อแขนยาวพับแขนขึ้นประมาณสองทบ กางเกงขายาวที่เน้นใส่สบายๆ รองเท้าคัทชูสีดำ ส่วนเครื่องประดับมีเพียงแว่นตาคู่ใจและกำไลข้อมือสองข้าง

      ยูเวนิ...? เจ้าตื่นนอนไวกว่าที่ข้าน้อยคิดเลยแฮะ โครว”

      โย่ว...ไยบะ!” โครวรีบมุ่งหน้าเข้าหาคนรักมือเบสด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เอื้อมมือไปจูงแขนพลางพาเดินมานั่งพักบนกองฟางซึ่งถูกรวบรวมจนเป็นเก้าอี้ชั้นดี “นั่งรอตรงนี้แป๊บนะ เดี๋ยวฉันไปเอาขวดนมยามเช้าให้นายได้ลองชิม”

      ช้าก่อนสิ...” ไยบะลุกขึ้นรั้งข้อมืออีกฝ่ายไว้ก่อนที่จะดึงมาโอบกอดรอบตัวหลวมๆ มือขวาพยายามหยอกเล่นด้วยการจับหางเม่นสีดำยาวเล่นไปมา “ฮืม...รีเจ้นด์ ออฟ ความอบอุ่นนี้ช่วยทำให้ใจชื้นจริงๆ เพราะการได้รับอ้อมกอดจากเจ้าเป็นสิ่งที่ข้าน้อยโหยหาตลอดเวลา”

      “...!? จะ...เจ้าบ้ายูเวนิ! เจ้าบ้าริวเคนเด็น!”

      ฮึๆๆ งั้นข้าน้อยจะรอละกัน”

      สิ้นเสียงพูดเมื่อครู่ มือเบสหนุ่มค่อยๆ ผละตัวออกแล้วนั่งลงจุดเดิม เขามีสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มมุมปากแฝงความพึงพอใจ ทำเอานักร้องหนุ่มแสดงท่าทีเคอะเขินอย่างเห็นได้ชัดพร้อมรีบสอยเท้าวิ่งเข้าบ้านอย่างเร็วไว

      “...”

      จะว่าไป...บ้านของโครวก็น่าอยู่เหมือนกันแฮะ...

      ธรรมชาติที่ข้าน้อยสัมผัสได้จากสายลมพัดโบก ฝูงวัวทั้งหลายซึ่งให้ผลผลิตนมขวดโด่งดังนั่น...เป็นสิ่งมีชีวิตกลุ่มหนึ่งที่ช่วยประทังความเป็นอยู่ของพวกเขา

      โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชีวิตโครว...

      ไยบะนึกคิดเช่นนั้นในช่วงวินาทีที่ตนนั่งรออย่างเดียวดายพร้อมรู้สึกอยากลองดื่มนมจากตระกูลนี้สักครั้งหนึ่ง เพื่อประดับชีวิตอันแสนมีคุณค่าและเพิ่มพูนประสบการณ์มากยิ่งขึ้น

      “...”

      ต่อมา...

      ตึกๆๆๆๆ

      ลูกชายเจ้าของฟาร์ม Cnow รีบวิ่งกลับมาพร้อมกับขวดบรรจุนมปริมาณ 200 มิลลิลิตร ซึ่งเป็นเครื่องดื่มสีขาวบริสุทธิ์ ไม่มีสีอื่นปะปน มีสัญลักษณ์รูปหัวเม่นสีแดงแปะไว้แสดงถึงโลโก้ผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้บนฝาขวดยังห่อหุ้มด้วยผ้าบางสีทองที่มีตัวอักษรเขียนว่า For Yaiba

      อ่ะนี่...ขวดนี้เพิ่งพาสเจอไรซ์ใหม่ล่าสุดด้วยฝีมือของฉันเลยนาา~” โครวยื่นขวดนมให้แก่อีกฝ่ายพร้อมฉีกรอยยิ้มแจ่มใสภายใต้แสงแดดที่สาดส่องจนเกิดเป็นออร่าหนุ่มน้อยเปล่งประกาย

      โห...เจ้าทำเองเพื่อข้าน้อยงั้นหรือนี่? ด้วยเหตุนี้...ข้าน้อยจะขอรับมาลิ้มลองเลยละกัน”

      ว่าจบมือเบสเผ่าพันธุ์จิ้งจอกก็รับมันมาเปิดฝาอย่างระมัดระวัง เกรงว่าของเหลวสีขาวภายในนั้นจะกระเซ็นออกอย่างน่าเสียดาย เขานั่งมองอยู่สักพักพลางอมยิ้มบางๆ เพราะตนกำลังจะได้ดื่มนมจากฝีมือแฟนหนุ่มตัวน้อยแล้ว

      อึ่ก...อึ่ก...อึ่ก

      ไยบะค่อยๆ ยกขึ้นดื่มด้วยความชิลให้หมดขวด ปากและลิ้นเริ่มรับรู้ถึงรสชาติอันหอมหวาน ความเย็นจับใจของนมวัวช่วยดับร้อนได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว โดยในระหว่างนั้นนักร้องนำก็หย่อนตัวลงนั่งข้างๆ พลางกระดกเครื่องดื่มอันโปรดปรานที่ถือเพิ่มมาอีกขวด

      .

      .

      .

      .

      .

      ทว่า...

      อึ่ก...อึ่ก...อึ่ก

      ฮ้าา...ว่าแล้วนมวัวของฉันนี่มันสุดยอดที่สุดเลยล่ะ ใช่ม้าไยบะ!?”

      “...” จิ้งจอกหนุ่มไม่พูดตอบใดๆ แล้วแทนที่ด้วยสีหน้าซีดเผือดแฝงความสงสัย มือขวาข้างที่กำลังถือบรรจุภัณฑ์เริ่มสั่นเทา มือซ้ายยกขึ้นกุมหัว นัยน์ตาสีเหลืองไร้ซึ่งอารมณ์ด้านบวก

      ไยบะ...?”

      “...เหตุใด...ถึงมีกลิ่นอัลมอนด์ขมๆ เช่นนี้...”

      กลิ่นอัลมอนด์...?

      โครวเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งหลังได้ยินคำถามนั่นก่อนที่จะพยายามอธิบายความจริง

      บะ...บ้าน่า นมวัวประจำฟาร์ม Cnow ไม่เคยปรุงแต่งกลิ่นสักหน่อ---”

      ตุบ!

      "แค่กๆๆ”

      ยังไม่ทันที่โครวจะพูดจบ ไยบะเริ่มรู้สึกวิงเวียน ทรุดตัวคุกเข่าบนพื้นดินพลางกระแอมไอด้วยเสียงแหบแห้ง ระคายเคืองคันจมูก คอและปาก อาเจียนออกเป็นนมสีขาวขุ่นปนกับเศษขนมปังรองท้องเล็กน้อยจากบ้าน หยาดเหงื่อของความทุกข์ทรมานไหลลงอาบใบหน้า แสบร้อนทั่วทั้งลำคอและช่องปากเหมือนถูกเปลวเพลิงแผดเผา

      เพล้ง!!

      ไยบะ!!?”

      แฮ่ก...แฮ่ก...”

      ในวินาทีนั้น จิ้งจอกหนุ่มได้ปล่อยขวดนมจนแตกกระจายเพราะกล้ามเนื้ออ่อนล้า แขนขารู้สึกหนักเหมือนถูกแรงโน้มถ่วงดึงดูด หอบหายใจลำบาก ส่งผลให้เอ่ยปากคุยแทบไม่เป็นคำ นอกจากนั้น ทุกครั้งที่เปล่งเสียงพูดหรือหอบหายใจ ยังสัมผัสถึงกลิ่นอัลมอนด์จางๆ อีกด้วย

      คะ...โครว...เจ้าใส่อะไร...ลงไปในขวดนมน่ะ...? "

      "ปะ...เปล่านะ! ฉันยังไม่ได้---"

      "ข้าน้อย...รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะ...หมดลมหายใจแล้ว...ด้วยเหตุนี้... " เจ้าตัวเริ่มเกิดอาการแปลกๆ หนักกว่าเดิม หัวใจกลางอกเริ่มเต้นผิดจังหวะ หอบหายใจเข้าออกไม่สม่ำเสมอ

      บ้าเอ๊ย!! เกิดอะไรขึ้นกับตัวนายกันแน่!!” เม่นหนุ่มช็อกกับเหตุการณ์ตรงหน้าพร้อมโถมตัวเข้ามาใกล้เพื่อดูอาการ มือไม้สองข้างเขย่าร่างของแฟนหนุ่มหวังปลุกสติสัมปชัญญะ

      สารภาพมาสิ...เจ้าทำอะไร...ลงไป...บ้าง...” ไยบะพยายามลืมตามองแล้วเปิดปากทวงถามคำสารภาพด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ไม่ชัดถ้อยชัดคำ

      “...”

      นักร้องนำกลืนน้ำลายลงหนึ่งที สีหน้าซีดเผือด ไร้ซึ่งคำตอบให้แก่อีกฝ่ายเพราะไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้นนอกจากการพาสเจอไรซ์นมสดด้วยตัวเองเพื่อเป็นของขวัญ มือขวายกแตะบริเวณต้นคออย่างกล้าๆ กลัวๆ

      “...!!?”

      ไม่จริงน่า...ชีพจรเต้นอ่อนมาก

      ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปล่ะก็...

      พอนึกได้เช่นนั้น ร่างบางเริ่มใช้ทั้งหมดยกตัวไยบะขึ้นอย่างทุลักทุเล มือขวาโอบรอบเอวในขณะที่มือซ้ายจับแขนให้พาดบนไหล่ ต่อมาก็ค่อยๆ พาเดินออกจากบริเวณฟาร์มวัว Cnow แห่งนี้ให้ไวที่สุดแล้วมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลละแวกใกล้เคียง

      แฮ่ก...แฮ่ก...แฮ่ก...”

      ขอร้องล่ะ...ไยบะ…

      อยู่รอดเพื่อฉันที...

      ระหว่างที่พยุงตัวผ่านบริเวณสะพานอิฐ เขาทำได้เพียงสวดภาวนาด้วยความหวังอันริบหรี่ แสงแดดยามอรุณสาดส่องบนร่างกายทั้งสอง มันแผดเผาพวกเขาจนร้อนแทบหลอมละลาย แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ไม่มีมิวม่อนคนไหนเดินผ่านไปมาเลย

      ไยบะ...อย่าเพิ่งตายนะ...นายต้องอยู่รอดกับฉัน...”

      วินาทีนั้นเอง...

      ตึก...ตึก...ตึก

      โอ๊ะโอ...เธอคือนักร้องนำประจำวง ShinganCrimmonju ไม่ใช่เหรอ ท่าทางลำบากแย่จังนะ”

      เสียงของใครอีกคนดังจากเบื้องหน้าโครว เมื่อเงยหน้ามองแล้วจึงพบกับชายหนุ่มผิวสีเหลืองไฮไลท์เขียวในชุดไอดอลธีมสีน้ำเงิน-ชมพู เขาเดินมาพบปะโดยบังเอิญแล้วทักทายด้วยชื่อวงที่ผิดเหมือนเคย

      “...มันใช่เรื่องที่จะมาเล่นตลกมั้ย…ไอ้เวรชูโซ

      อุหวา~ คนอุตส่าห์มาดี โดนด่ากลับมาซะงั้น~” ชูโซเอามือทาบบนอก ทำท่าตกอกตกใจแล้วเปล่งออร่าสีเหลืองทองเป็นระยะๆ

      “...” เม่นหนุ่มส่งสายตามองเหยียดด้วยความเกลียดชัง แสดงสีหน้าหงุดหงิดและเศร้าใจในเวลาเดียวกัน “ถอยไป...ฉันมีเรื่องด่วนต้องรีบทำ”

      เรื่องด่วน…? หมายถึงเพื่อนมือเบสที่ 'สิ้นลม' แล้วน่ะเหรอ”

      “...!!!? จะบ้ารึไง!! ไยบะไม่มีทางตายเพราะอิแค่นมกลิ่นอัลมอนด์แปลกๆ นั่---”

      อัลมอนด์...” ไอดอลหนุ่มประจำวง Trichronika เอียงคอสงสัยทันทีที่ได้ยินคำเมื่อครู่ก่อนที่จะถือวิสาสะดึงร่างไยบะลงนอนหงายบนพื้น

      นี่แก…!!!”

      “...นิ้วมือและปากของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วง...ถ้างั้นก็ไม่ใช่เพราะแค่นมประจำตระกูลเธอหรอก แต่มันมีสารตัวหนึ่งที่สร้างปฏิกิริยาแบบนี้...”

      “...”

      เจ้าสารตัวนั้นคือ ไซยาไนด์ ไงล่ะ...”

      ซะ...ไซยา...ไนด์...” โครวซึ่งไม่เคยได้ยินชื่อสารชนิดนี้มาก่อนแอบรู้สึกเจ็บจี๊ดในใจ เพราะเขารู้ว่านั่นไม่ใช่เรื่องดีแล้ว “...มันอยู่ในนมวัวของฉันได้ยังไง…?”

      ฮืม...นั่นสินา~ บางทีอาจมีคนไม่หวังดีใส่มันลงไปหลังพาสเจอไรซ์เสร็จล่ะมั้ง?”

      แต่นั่นเป็นขวดที่ฉันพาสเจอไรซ์เองนะเฟ้ย!!! ไม่มีทางเติมแต่งกลิ่นหรือของแปลกปลอมอะไรทั้งนั้น!!!”

      ใครจะไปรู้ล่ะ...ถ้าลองนึกสงสัยคนใกล้ตัวหรือคนที่เกี่ยวข้องกับนมวัว Cnow มากที่สุดไว้ก่อน...เธออาจเจอคำตอบก็ได้นะ...”

      อึ่ก...”

      เมื่อฟังคำตอบและคำสันนิษฐานจบ ร่างกายเม่นหนุ่มก็ล้าเฉียบพลันพลางค่อยๆ ทรุดตัวลงข้างไยบะ มือไม้ที่สั่นระริกแตะลงบนต้นคอใหม่อีกรอบจนได้รู้ด้วยตัวเองว่า ชีพจรหยุดเต้นเสียแล้ว

      ยะ...ไยบะ…ไม่จริง...เมื่อไม่นานนี้นายยังยิ้มให้ฉัน...ยังกอดฉัน...ยังหยอกฉันเล่นอยู่เลยไม่ใช่รึไง...”

      “...” ชูโซทำอะไรได้ไม่มากนอกจากยืนไว้อาลัยให้กับคู่แข่งทางวงดนตรีอย่างเงียบๆ

      ฮึ่ก...ไยบะ...”

      หยาดน้ำตาแห่งความโศกเศร้าเริ่มเอ่อไหลลงอาบใบแก้ม ความรู้สึกวูบคล้ายจะหมดสติและเสียใจแล่นลงทั่วอก เนื่องด้วยการที่ไม่เคยประสบพบเจอเหตุการณ์โศกนาฏกรรมมาก่อน

      แม้แต่วัวในฟาร์มก็ยังไม่เคยตายต่อหน้าเขาสักตัว...

      นั่นทำให้เขารู้ซึ้งถึงความโหดร้ายของโลกใบนี้...

      ...โลกแห่ง MIDICITY...

      ...โลกแห่งบทเพลงที่ไม่ได้มีแค่เมโลดิเชี่ยนเปื้อนมลทินต่อไป

      “...ไยบะ!!!!!!!!!!”

      .

      .

      .

      .

      .

      ตั้งแต่วินาทีนั้น โครวได้ทำใจยอมขอให้ชูโซแบกไยบะกลับมายังฟาร์ม Cnow อีกครั้ง เขาผลักไสไล่ส่งไปให้พ้นจากสายตาพร้อมปิดประตูคอกไว้ เพราะไม่อยากให้ใครพบเห็นเหตุการณ์น่าสลด บวกกับสภาพจิตใจที่ใกล้แตกสลายเต็มทน

      อึ่ก...ไยบะ...ทำไมนายต้องมาตาย...ต่อหน้าฉันแบบนี้...ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่างแท้ๆ”

      เม่นหนุ่มทำได้แต่เพียงนั่งโอบกอดแน่น รำพึงรำพันกับคนรักที่นอนสิ้นลมหายใจ อีกฝ่ายในขณะนี้มีร่างกายบางส่วนเป็นสีม่วง เนื่องจากฤทธิ์การทำงานของสารไซยาไนด์ที่ลามสู่ภายใน

      “...?”

      วินาทีนั้นเอง โครวได้สังเกตเห็นกล่องบางอย่างวางอยู่ใกล้ประตูคอกวัว เขาค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีอยู่แล้วแบกกลับมานั่งดูจุดเดิม ซึ่งมันเป็นกล่องกระดาษสีน้ำตาลอ่อน แปะเทปสีเทาไว้ด้านบน เมื่อลองจับลอกออกทีละนิดพร้อมเปิดฝาออก

      สิ่งที่บรรจุอยู่ภายในนั้นคือ ขวดแก้วสีเหลืองอำพันขนาดเล็กและแผ่นกระดาษสีขาวรูปแบบจดหมายขนาด 2x4 นิ้ว เจ้าตัวเลือกที่จะเปิดจดหมายเพื่ออ่านเนื้อหาใจความทั้งหมด แม้สติแทบไม่อยู่กับเนื้อตัวแต่ก็แอบคาดหวังว่า คำตอบของเหตุการณ์ทั้งหมดต้องอยู่ในนั้น

       

      ถึงโครวลูกรัก

      ถ้าลูกได้เปิดอ่านจดหมายฉบับนี้ แปลว่าแม่จากโลกใบนี้แล้ว...

      เอาล่ะ...มาเข้าเรื่องสำคัญดีกว่า สิ่งที่แม่อยากจะสารภาพคือเรื่องขวดนมที่ตั้งใจให้เป็นของขวัญแก่ไยบะคุง เมื่อคืนตอนล้างหน้าเสร็จ แม่บังเอิญเจอพ่อถือขวดนมของลูกเข้าห้องแล็ปส่วนตัวแล้วแอบใส่อะไรบางอย่างลงไป

      พอลองเข้าไปดูใกล้ๆ ถึงได้รู้ความจริง...พ่อแอบวางยาไซยาไนด์ หวังสร้างภาพให้ลูกเป็นคนฆ่าไยบะคุงด้วยน้ำมือตัวเอง ตอนนั้นเขาจับได้ตอนแม่มองพอดีแล้วขู่ว่า ถ้าเอาเรื่องนี้บอกลูก เขาจะฆ่าแม่และดับชีวิตตัวเองซะ

      สุดท้ายนี้คือ...ขอโทษนะ...

      แม่รู้...ว่าลูกรักไยบะคุงแค่ไหน...

      แต่แม่กลับ...ทำความฝันให้เป็นจริงไม่ได้เลย...

      ถ้าเป็นไปได้...ก็ระวังตัวด้วย...

      อย่าทำให้มือเปื้อนมลทินจากพ่อเด็ดขาด...

      ด้วยรักและห่วงใยเสมอมา     

      จากแม่     

       

      “...”

      สายเกินไปแล้วล่ะแม่...

      ผมฆ่าไยบะด้วยมือของตัวเอง...

      มือผมเปื้อนมลทินโดยไม่ได้ตั้งใจ...

      เขา...ไม่ฟื้นกลับมาอีกแล้ว...

      โครวเม้มกัดริมฝีปากล่างแน่นจนเกือบเป็นแผล นัยน์ตาสีแดงทรงเสน่ห์ด้วยออร่าเทพตกสวรรค์เริ่มว่างเปล่า จิตใจพังทลายยิ่งกว่าเก่า ทั้งอารมณ์ความรู้สึกและจิตวิญญาณที่สั่งสมจากคำพูดปลุกกำลังใจล้วนดับสูญ มีเพียงแต่ความคิดว่าคงต้องยอมรับชะตากรรม

      ...และทำให้มันจบลงซะ

      “...”

      เขาหันมองขวดแก้วสีเหลืองอำพันที่วางไว้ในกล่องกระดาษอยู่สักพักก่อนที่จะยื่นมือหยิบขึ้นมา ลักษณะภายนอกเหมือนกับขวดยาขนาดเล็กทั่วไป เพียงแต่มีฉลากโทนสีไข่แปะบอกชื่อ CYANIDE เหนือสัญลักษณ์หัวกะโหลกและตัวหนังสือคำว่า POISON

      ใช่แล้ว...มันคือยาพิษที่มีฤทธิ์ร้ายแรงที่สุดในโลกนั่นเอง

      อึ่ก...ขอโทษนะ...รอม...ไออ้อน...ประธาน...แต่ฉัน...”

      น้ำเสียงสะอึกสะอื้นพร้อมกับหยาดของเหลวอุ่นใสไหลรินอีกครั้ง มือขวาอันสั่นเทาเปิดฝาขวดยาพิษออกอย่างช้าๆ กลิ่นอัลมอนด์ขมๆ ลอยขึ้นเตะจมูกอย่างรุนแรง ลูกชายผู้ดูแลฟาร์ม Cnow กลืนน้ำลายลงหนึ่งทีเชิงตัดสินใจทางเลือกของตัวเอง

      “...ทนใช้ชีวิตที่ไม่มีไยบะ...ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว...”

      โครวยกมันดื่มเข้าปากให้หมดภายในรวดเดียว เขารู้สึกเจ็บปวด ร้อนผ่าวทั่วช่องปากและคอ ราวกับว่ามีเปลวเพลิงที่ไม่มีทางดับกำลังแผดเผาให้สิ้น ร่างกายอันบอบบางเริ่มหมดเรี่ยวแรงก่อนที่จะเอนล้มนอนกุมอกบนพื้นข้างไยบะ

      น้ำตายังคงไหลอาบลงบนใบหน้าไม่ขาดสายด้วยความทุกข์ทรมาน แม้พยายามสูดเอาอากาศเข้าปอดมากแค่ไหนก็ไม่ได้ผลอีกต่อไป สติสัมปชัญญะค่อยๆ วูบลงทีละนิด ขวดยาไซยาไนด์ร่วงหล่นกระทบพื้นจนแตกกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อย

      เพล้ง!!

      “...”

      เสี้ยววินาทีก่อนหมดลมหายใจ...ภาพเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาแล่นเข้าหัวนักร้องนำประจำวง ShinganCrimsonZ เชิงตอกย้ำอย่างต่อเนื่อง

      ...การซักซ้อมดนตรีในสตูดิโอ

      ...การทะเลาะเบาะแว้งแล้วถูกห้ามปราม

      ...การนั่งกินข้าวร่วมกัน

      ...การทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านขายของเล่น

      ...การเดินเที่ยวยามว่างด้วยความสนุกสนาน

      ...การส่งรอยยิ้มให้กันและกัน

      ...และการนั่งดื่มนมเมื่อเช้านี้...ที่กลายเป็นความทรงจำสุดท้ายฝังลึกตลอดกาล

      “...ไย...บะ...”

      คำติดปากอย่าง รีเจ้นด์ ออฟ อะไรสักอย่าง...

      คำว่า ด้วยเหตุนี้ ที่มักใช้อย่างสิ้นเปลืองและไม่ตรงแกรมม่า...

      หรือคำอุทานอย่าง ยูเวนิ ของสุดยอดมือเบสประจำวง ShinganCrimsonZ

      กำลังจะสูญสลาย มลายตามสสารทั่วอากาศ

      “...”

      แม้โครวเคยแอบหงุดหงิดกับคำเหล่านี้บ่อยครั้ง

      แต่นั่นกลับทำให้รู้สึกเสียใจที่จะไม่ได้ยินมันจากปากไยบะอีกต่อไป

      เพราะเขา...

      ...รักคนๆ นี้ยิ่งกว่าใครบนโลกเสียแล้ว

      -------------------------------

      Ending: Broken Bottle (Death)

      -------------------------------

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×