คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Plan 4...[Re-Write]
แอ๊ดดดด~
“สวัสดีครับ”ร่างสูงเอ่ยทักทายอย่างสุภาพหลังจากเปิดประตูให้ทั้งสองคนเข้ามาในห้อง ฮยอกแจลากซันนี่ซึ่งกำลังยืนช็อคกับการปรากฏตัวของชีวอนในระยะประชิดให้ตามเข้าไปในห้อง
“นั่งก่อนสิครับ”เอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพอีกครั้ง จนฮยอกแจเริ่มรู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาตงิด นายนี่มันสร้างภาพจริงๆเลย ชเวชีวอน อยู่ต่อหน้าแฟนคลับทำเป็นตัวเป็นเทพบุตร แต่ตัวตนจริงกลับไม่ต่างจากพวกโรคจิต
“ขอบคุณ”กล่าวด้วยน้ำเสียงห้วนๆก่อนจะนั่งลงบนโซฟา
“นี่ยัยซันนี่ นั่งลงสิ”ฮยอกแจเรียกสติของน้องสาวให้กลับคืนร่างพลางฉุดข้อมือซันนี่ที่มัวแต่ยืนจ้องหน้าชายหนุ่มให้นั่งลงข้างๆ
"คิดไม่ถึงว่าคุณจะมาดูคอนเสิร์ตของผมนะครับคุณฮยอกแจ เอ๊ะ! หรือว่าคุณจะหลงเสน่ห์ผมแล้ว”ชีวอนเอ่ยด้วยความแปลกใจ พลางยิ้มเจ้าเล่ห์จ้องคู่สนทนา“หึ! หลงตัวเอง ถ้าพ่อกับยัยซันนี่ไม่บังคับฉัน ฉันไม่มีทางมาดูคอนเสิร์ตของม้าโรคจิตอย่างนายหรอก”ฮยอกแจว่ากลับอย่างไม่สบอารมณ์ ชีวอนไหวไหล่ไม่สะทกสะท้าน แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะปะทะคารมกันหญิงสาวหนึ่งเดียวก็ขัดขึ้นเสียก่อน
“เอ่อ...คุณชีวอน รู้จักกับพี่ฮยอกด้วยหรอคะ”เอ่ยถามด้วยความสงสัย พลางมองทั้งสองคนสลับกันไปมาอย่างงงๆ
“ผมเคยคุณงานกับคุณฮยอกแจนะครับ”ชีวอนตอบคำถามก่อนจะยิ้มกระชากใจมาให้ ทำเอาซันนี่สติหลุดออกจากร่างอีกรอบ
“ยัยซันนี่จะถ่ายรูป ขอลายเซ็น ก็รีบทำซะ จะได้รีบกลับ ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่นานๆ”ฮยอกแจพูดแล้วล้วงหยิบกล้องจากกระเป๋า ลุกขึ้นจากโซฟาให้ชีวอนไปนั่งข้างซันนี่แทน
“จะไม่ถ่ายด้วยกันหน่อยหรอ”ชีวอนเอ่ยถามกับช่างภาพชั่วคราว
“ฉันไม่อยากถ่ายรูปกับคนโรคจิต”ปฏิเสธร่างสูงเสียงเรียบ
“พี่จะอคติกับคุณชีวอนอะไรกันนักกันหนาเนี่ย ไปถ่ายรูปคู่กับคุณชีวอนเดี๊ยวนี้เลย โอกาสไม่ได้หาง่ายๆนะพี่ฮยอก” แต่ดูเหมือนซันนี่จะไม่เห็นด้วยกับคำพูดของพี่ชายตัวเองซักเท่าไหร่ จึงลุกขึ้นมาแย่งกล้องไปจากมือแล้วผลักฮยอกแจไปข้างหน้า ร่างบางที่ยังไม่ทันตั้งตัวทำให้ร่างทั้งร่างเสียหลักเซไปข้างหน้า
“อ๊ะ!!...”ฮยอกแจหลับตาปี๊เตรียมพร้อมรับความเจ็บเต็มที่ แต่ก็ต้องแปลกใจเพราะกลับไม่รู้สึกเจ็บเลยซักนิด
“อยากกอดผมทำไมไม่บอกล่ะครับ”น้ำเสียงกวนประสาทดังขึ้นเหนือหัว ฮยอกแจจึงลืมตาเงยหน้าขึ้นมอง
“อ๊าก!! ไอโรคจิต ฉันมาอยู่บนตัวนายได้ไงเนี่ย”ร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อพบว่าร่างของตนเองอยู่บนตัวร่างสูง ฮยอกแจรีบดันตัวออกจากชีวอนทันที ใบหน้าขาวขึ้นสีเล็กน้อย ก่อนจะหันไปส่งสายตาพิฆาตใส่ตัวต้นเหตุทันที
“ฉันขอโทษนะพี่ฮยอกจี้ อย่าโกรธกันเลยนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”ซันนี่พอได้รับสายตาอันน่ากลัวของพี่ชายปุ๊ปก็รีบขอโทษด้วยน้ำเสียงและท่าทางหงอยๆอย่างสำนึกผิดเต็มที่ทันที
“เออๆ ฉันไม่โกรธแกก็ได้ เห็นว่าไม่ได้ตั้งใจจริงๆหรอกนะ”ฮยอกแจพอเห็นท่าทางแบบนั้นของน้องสาวก็หายโกรธแต่ยังคงเคืองอยู่
“ยิ้มอะไรของนาย! แล้วทีหลังไม่ต้องมารับฉันหรอกนะ ปล่อยให้ฉันหน้าคว่ำกับพื้นไปเลย”บอกกับคนที่นั่งยิ้มกริ่มอยู่บนโซฟาอย่างอารมณ์เสีย
“ว๊า~เรานี่ทำบุญบูชาโทษแท้ๆเลย”แสร้งทำเป็นน้อยใจ แต่แววตาไม่ได้แสดงความน้อยใจไปด้วยเลยซักนิด
“เฮ้ย! นายจะเดินมาหาฉันทำไม ถอยออกไปเลยนะ”เสียงหวานออกทุ้มเล็กน้อยร้องออกมาอย่างตกใจอีกครั้งเมื่ออยู่ดีๆชีวอนก็เดินเข้ามาหาพร้อมกับแววตาเจ้าเล่ห์ ขาเรียวถอยกรูดไปข้างหลังอัตโนมัติจนแผ่นหลังชนกับผนังห้อง แต่ชีวอนก็ยังคงสาวเท้าเข้ามาหาร่างบาง ฮยอกแจยืนตัวแข็งทื่อเพราะตอนนี้ระยะห่างของเขาและชีวอนนั้นใกล้มากใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจของกันและกัน ซันนี่มองการกระทำของชีวอนอย่างแปลกใจ ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอย่างถูกใจ
‘สงสัยเราจะได้พี่เขยเป็นคนดังแล้วล่ะมั้งเนี่ย’ ซันนี่หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปทั้งคู่เก็บเอาไว้ พี่ชาของเค้าเขินหาดูได้ง่ายๆที่ไหนกัน และช็อตที่พี่ฮยอกอยู่บนตัวคุณชีวอนเค้าก็ได้ถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกเรียบร้อยแล้วด้วย
“นี่ไอโรคจิต ฉันบอกให้ถอยออกไปไง”ฮยอกแจโวยวายเสียงดัง พยายามผลักร่างสูงให้ออกห่างจากตัว แต่ตัวที่เล็กและแรงน้อยกว่าทำให้คนตรงหน้าไม่ขยับสักนิด
“ผมจะทำยังไงไม่ให้คุณเรียกผมว่าไอโรคจิตดีนะ”พูดกับร่างบางที่ตอนนี้ตกเป็นรองพลางทำท่าคิดอย่างจริงจัง ก่อนจะหัวเราะหึๆในลำคอชวนให้ร่างบางขนลุก
‘อ๊ากกกก ทำไมนายนี่หน้าถึงได้หื่นขนาดนี้วะ’
“ผมว่าวิธีนี้น่าจะใช้ดี”ชีวอนเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ใบหน้าหวานจนปลายจมูกของทั้งคู่แตะกัน
“ว...วิธีอะไร...ของนาย”ฮยอกแจถามตะกุกตะกัก หัวใจเต้นแรงแทบระเบิดพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มร้อนระอุ
“ก็...”
ปั้ง! ประตูถูกเปิดออกจนกระทบกับผนังห้อง ทำให้ทั้งสองรีบผละออกจากกันทันที
‘เฮ้อ!! เราเป็นบ้าหรือไงวะลีฮยอกแจทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงขนาดนี้ ’ฮยอกแจถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะสบถกับตัวเองอย่างหัวเสียกับอาการแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
“คุณชีวอนครับรีบออกจากที่เร็ว พาสองคนนั้นไปด้วย”ชายหนุ่มร่างท้วมที่เข้ามาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“มีอะไรหรอครับพี่ชินดงถึงได้พรวดพราดเข้ามา”ชีวอนถามการ์ดส่วนตัวด้วยน้ำเสียงติดไม่พอใจเล็กน้อย
“คือมีแฟนคลับจำนวนหนึ่งตามคุณสองคนนี้มา พยายามจะเข้ามาให้ได้ ตอนนี้เริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว”ชินดงตอบ
“แล้วเราจะออกไปยังไงล่ะ”ชีวอนมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาทันที
“เราเตรียมแผนไว้แล้วครับ ตามผมมาเลย”ชินดงพูดจบก็จับขอมือของคนที่อยู่ใกล้ตัวนั่นก็คือซันนี่แล้วดึงให้วิ่งตาม ชีวอนจึงหันไปจับข้อมือของฮยอกแจแล้วออกแรงดึงให้วิ่งตาม
“นี่ปล่อยฉันนะ”ฮยอกแจโวยวายพลางสลัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุม แต่มือของชีวอนกำแน่นราวกับติดกาวไว้
“มานี่เร็วๆ”ชีวอนพูดแล้วลากร่างบางให้มุดเขาไปใต้เวที ซึ่งมีชินดงและซันนี่เข้ามารออยู่ก่อน
“พร้อมหรือยัง”ชายวัยสามสิบอีกคนดังขึ้น
“พร้อมแล้ว”ชินดงตะโกนตอบรับ
“ทุกคนพร้อมนะ 1-2-3”พอนับถึงสามการ์ดที่ดันประตูอยู่รีบถอยห่างจากประตูให้มากที่สุดและพยามทำตัวให้ติดกำแพงเข้าไว้ เสียงฝีเท้านับร้อยคู่วิ่งผ่านหน้าตรงไปยังประตู พอเท้าคู่สุดท้ายวิ่งผ่านไปชินดงก็ส่งสัณญาณให้ออกไป
ทั้งสี่คนมุดออกจากใต้เวทีกันครบแล้ว แต่ปรากฏว่าด้านหน้ามีแฟนคลับสามคนคอยยืนดูเป็นต้นทาง
“พวกเราเค้าอยู่นี่!!!” ทั้งสามคนตะโกนดังลั่น เสียงฝีเท้าที่เพิ่งห่างไกลออกไปเมื่อสักครู่กลับเข้าใกล้มาอย่างรวดเร็ว พวกสตาฟฟ์และการ์ดคอยกันแฟนคลับพวกนั้นให้ทั้งสี่คนหนีออกจากตรงนั้นมาได้
ชินดงวิ่งนำโดยลากซันนี่ไปด้วย ส่วนชีวอนกับฮยอกแจวิ่งรั้งท้ายอยู่ ทั้งหมดวิ่งผ่านเก้าอี้ที่ใช้นั่งดูคอนเสิร์ต ฮยอกแจหันไปมองด้านหลังก็เห็นผู้หญิงร่างสูงใหญ่กำลังวิ่งตามมาติดๆ ฮยอกแจรีบเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น แต่...
พลั่ก! ตุ้บ
ผู้หญิงร่างยักษ์คนนั้น คว้าคอเสื้อฮยอกแจไว้ทำให้ร่างบางล้มกระแทกพื้นอย่างแรง ส่วนหญิงคนนั้นก็ล้มลงหัวทิ่มลงกับพื้นน็อกคาพื้น
“รีบลุกขึ้นเร็วๆเข้า”เสียงชีวอนดังขึ้นเร่งฮยอกแจ ฮยอกแจพยายามลุกขึ้น
“โอ๊ย!~”แต่ทันทีที่ทิ้งน้ำหนักตัวลงไปที่ขาร่างบางก็ลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง
“ขาฉัน”ฮยอกแจจับที่ข้อเท้าของตัวเอง ก่อนที่ชีวอนนั่งยองๆมองที่ข้อเท้าบาง
“ข้อเท้าแพลง ขึ้นมาบนหลังฉันสิ”ชีวอนพูดแล้วหันหลังให้ฮยอกแจ ลังเลอยู่สองวิ ก่อนจะตัดสินใจขึ้นขี่หลังของร่างสูง คิดว่าเขาจะยอมตายที่นี่งั้นหรอไม่มีทางหรอก
“ตัวคุณนี่เบาชะมัดแถมยังนิ่มอีกต่างหาก”พูดด้วยน้ำเสียงยียวนเล็กน้อย เรียกอารมณ์(โมโห)ของฮยอกแจได้เป็นอย่างดี
“หุบปากสุนัขของนายแล้วเก็บพลังงานไว้วิ่งดีกว่าถ้ายังไม่อยากตายจากพวกแฟนคลับของนาย”ถ้าไม่ติดที่ชีวอนแบกเขาอยู่ล่ะก็เขาคงจะมอบกำปั้นให้ใบหน้าหล่อๆนั่นซักทีสองทีไปแล้ว
ชีวอนอมยิ้มน้อยๆอย่างมีความสุขที่สามารถยั่วโมโหคนน่ารักได้ ก่อนจะรีบออกแรงวิ่ง จนมาถึงประตูหลังของฮอลล์ที่ตอนนี้มีรถตู้ติดเครื่องพร้อมกับเปิดประตูรออยู่ ชีวอนหันหลังให้ฮยอกแจเข้าไปในรถก่อน แลทันทีที่สองคนขึ้นมาอยู่บนรถ รถก็เคลื่อนตัวออกไปทันที เพราะพวกแฟนคลับพวกนั้นตามมาจนทันแล้ว
“โอ๊ย! ไอโรคจิตนายโดนขาฉัน”
“ขาพี่เป็นอะไรน่ะ”เสียงร้องของฮยอกแจทำให้ซันนี่หันมาถามอย่างรวดเร็ว
“แค่ข้อเท้าแพลงน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก”
“แล้วทำไมข้อเท้าถึงแพลงได้ล่ะพี่”ซันนี่ถามด้วยความเป็นห่วงปนสงสัย
“โดนยัยถึกคนหนึ่งกระชากคอเสื้อจนล้มลงน่ะ” ตอบคำถามของน้องสาวขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วออกจากโอลิมปิคปาร์ค ซึ่งมีรถของแฟนคลับเป็นสิบๆคันไล่ตามมาติดๆ
“ยัยซันนี่ตอบคำถามฉันมาซิว่าพวกนั้นถึงตามไล่ล่าเราอย่างกับหนังแอคชั่น”ฮยอกแจถามขึ้นอย่างหงุดหงิด ให้ตายสิเขาไม่น่ายอมมากับยัยซันนี่ตั้งแต่แรกเลย ถ้ามาแล้วจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเค้าไปทำงานยังจะมีประโยชน์มากกว่าอีก
“พวกนั้นก็มาจัดการเราสองคนเรื่องที่เราได้รางวัลพิเศษไงล่ะพี่ฮยอก”ซันนี่ตอบคำถามได้กระจ่างสุดๆ จนฮยอกแจต้องสบถอย่างหัวเสียอยู่ในใจ‘วันนี้มันเป็นวันซวยของ ลีฮยอกแจ หรือไงวะ’
ชินดงที่ทำหน้าขับรถเริ่มขับเร็วขึ้นและเลี้ยวเข้าออกซอยต่างๆเพื่อจะสลัดรถหลายคันที่ตามมาทำเอาฮยอกแจเกิดอาการเวียนหัวไปหมด แต่ในที่สุดก็สลัดรถของแฟนคลับที่ไล่ตามมาได้หมด
“แล้วนี่เราจะไปไหนกัน”ฮยอกแจถามเสียงเนือยๆ เพราะอาการเมารถ
“ไปห้องพักของฉันน่ะ แล้วเป็นอะไรหรือป่าวทำไมหน้าซีดๆ”ชีวอนตอบก่อนจะถามกลับด้วยสีหน้าเป็นห่วง เมื่อเห็นสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของร่างบาง
“แค่เมารถนิดหน่อยน่ะ อีกนานไหมกว่าจะถึง”
“อีกนิดเดียวก็ถึงแล้วล่ะ ทนอีกหน่อยแล้วกัน”ชีวอนบอกกับฮยอกแจ
อีกสามนาทีต่อมาทั้งหมดก็เดินทางมาถึงคอนโดของชีวอน ชินดงขับรถไปจอดไว้ด้านหลังคอนโด คอนโดนี่มีความเป็นส่วนตัวมากแถมยังมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด คนนอกไม่สามารถเข้ามาภายในได้ ซันนี่เดินเข้าไปในลิฟต์คนแรก ชีวอนพยุงฮยอกแจเดินตามเข้าไป ก่อนจะกดลิฟต์ชั้นสิบ
“ยังไหวอยู่ไหม”ชีวอนถามขณะที่มือหนาโอบเอวบางไว้
“อืม”ฮยอกแจได้แต่พยักหน้า ไม่โวยวายร่างสูงที่ฉวยโอกาสกับตัวเองเพราะตอนนี้ต้องปิดปากให้สนิทกันไม่ให้สิ่งที่กำลังจ่ออยู่แถวคอหอยพุ่งออกมา ไม่นานลิฟต์ก็เปิดออกเมื่อมาถึงชั้นที่หมาย ชีวอนพาทั้งสองคนเดินไปยังห้องพักของตนเองที่อยู่ริมสุดทางเดิน
1008
ป้ายเลขห้องแกะสลักด้วยไม้สักเนื้อดีโชว์เด่นหรา ชีวอนนำคีย์การ์ดทาบกับเครื่องแล้วหมุนลูกบิดผลักประตูเข้าไป
“ห้องน้ำอยู่ไหน”ฮยอกแจถามขึ้นทันที
“เดี๊ยวฉันพาไป”ชีวอนพยุงร่างบางไปห้องนอนของตัวเอง
“เดี๊ยวฉันไปรอข้างนอก ถ้าเดินไม่ไหวก็เรียกฉันแล้วกัน”ร่างสูงบอก เมื่อพาฮยอกแจเข้ามาในห้องน้ำแล้วก่อนจะเดินออกไป
หลังจากชีวอนออกไป ฮยอกแจก็ปล่อยออกมาจนหมดไส้หมดพุงก่อนจะจัดการบ้วนปาก แล้วพยายามพยุงตัวเองออกมาจากห้องน้ำ
“ค่อยยังชั่วหรือยัง”ชีวอนที่นั่งรออยู่บนเตียงถามขึ้น
“อืม ขอบคุณที่ช่วยฉันในวันนี้แล้วกัน”พยักหน้าเป็นคำตอบ ก่อนจะเอ่ยขอบคุณร่างสูง สร้างความประหลาดใจให้แก่ชีวอนเป็นอย่างมาก
“ผมหูฝาดไปหรือป่าวเนี่ย ถึงได้ยินคำนี้จากปากของคุณ”พูดด้วยน้ำเสียงยียวนพลางทำหน้าไม่อยากเชื่อจงใจกวนประสาทร่างบาง
“นี่นาย! ฉันก็ไม่ได้อยากจะขอบคุณนายหรอกนะ ไอโรคจิต ที่ฉันพูดเพราะมันเป็นมารยาทต่างหาก ไม่งั้นฉันไม่ขอบคุณนายให้เมื่อยปากเปลืองน้ำลายหรอก”ฮยอกแจว่าออกมาเป็นชุดด้วยความโมโหก่อนจะเดินกะเผลกไปที่ประตูเพื่ออกไปห้องนั่งเล่นโดยใช้ข้างฝาพยุงตัวไว้
“ให้ตายสิไม่น่าไปขอบคุณไอโรคจิตนั่นเลย เสียฟอร์มชะมัด”บ่นกับตัวเองเบาๆ เค้าลังเลอยู่ตั้งนานว่าจะพูดดีหรือป่าวจนในที่สุดเค้าก็ตัดสินใจพูดออกไปแต่หมอนั่นกลับทำท่าทางกวนประสาทกลับมาให้ซะอย่างนั้น มันน่าโมโหจริงๆเลย
“พี่ฮยอกเป็นไงบ้าง”ซันนี่ที่นั่งรออยู่ห้องนั่งเล่นพอเห็นพี่ชายกำลังเดินมาจึงรีบเข้ามาพยุงพี่ชายทันทีพร้อมกับถามด้วยความเป็นห่วง
“ดีขึ้นแล้วล่ะ กลับบ้านกันเถอะ”
“จะกลับบ้านกันเองหรือไงนี่มันจะห้าทุ่มแล้วนะ อีกอย่างถ้าคุณออกไปอาจจะเจอกับยัยพวกนั้นอีกก็ได้”ชีวอนที่เดินออกมาจากห้องนอนทีหลังพูดขึ้น
“นั่นน่ะสิทำไงดีอ่ะ”ซันนี่พูดอย่างเห็นด้วย ฮยอกแจเริ่มคล้อยตามทั้งสองคน ถ้าเราออกไปแล้วเจอพวกถึกนั่นอีกคงได้ตายอยู่หน้าคอนโดแน่ๆ แล้วจะมีวิธีไหนที่จะให้เขากลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยบ้างไหมเนี่ย
“งั้นคุณทั้งสองคนก็นอนที่นี่สิ พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ”แต่ก่อนที่ฮยอกแจจะหัวระเบิดกับการคิดหาวิธีกลับบ้านอย่างปลอดภัยชีวอนก็ได้เสนอทางออกของเรื่องนี้มาให้
“จะบ้าหรือไงใครอยากจะไปนอนกับนายกันห๊ะ”แล้วก็เป็นไปตามคาด ฮยอกแจแหวกับอย่างไม่เห็นด้วยทันที แต่ดูเหมือนอีกคนจะเห็นด้วยกับความคิดนี้
“อยู่ที่นี่เถอะนะพี่ฮยอก^0^”ซันนี่ยิ้มแฉ่งแก้มแทบปริพลางออดอ้อนแกมขอร้องพี่ชาย ฮยอกแจรู้สึกเอือมระอากับน้องสาวตัวดีคนนี้หรือเกิน มีความสุขบนความทุกข์ของเขาจริงๆเลย ร่างบางอยากจะแย้ง แต่ชีวอนก็พูดขึ้นมาก่อน
“มีห้องนอนอีกห้อง เดี๊ยวคุณซันนี่นอนห้องนั้นนะครับพักผ่อนตามสบาย ส่วนพี่ชายของคุณเดี๊ยวไปนอนห้องเดียวกับผม ขอตัวก่อนะครับ”ชีวอนจัดแจงรวดเดียวเสร็จสรรพแล้วช้อนตัวฮยอกแจขึ้นมาพาดไว้บนไหล่แกร่ง ก่อนจะก้มหัวเล็กน้อยให้หญิงสาวเป็นเชิงขออณุญาต
“ตามสบายเลยค่ะ ฉันไปนอนก่อนนะพี่ฮยอก”ซันนี่โบกมือให้พี่ชาย ก่อนจะวิ่งเข้าห้องที่อยู่ด้านซ้ายมือของห้องชีวอน ไม่ได้สนใจเสียงเรียกของพี่ชายเลยแม้แต่น้อย
“อ๊ากกกก~ยัยบ้ากลับมาเดี๊ยวนี้นะ” ฮยอกแจตะโกนเรียกน้องสาวที่วิ่งเข้าห้องไปเรียบร้อยแล้ว ยัยน้องบ้านี่ไม่ได้ห่วงสวัสดิภาพของเขาเลยสักนิดถึงได้ฝากไก่ไว้กับสิงโตแบบนี้(มันมีสำนวนนี้ด้วยหรอ)พอเห็นว่าตะโกนให้คอแตกน้องสาวสุดที่รักก็คงไม่ยอมออกมา ร่างบางจึงหันมาโวยวายชีวอนที่กำลังอุ้มร่างตนเองอยู่
“นี่นายปล่อยฉันลงสิโว้ย ฉันจะไปนอนกับน้องสาวฉัน ปล่อยเดี๊ยวนี้นะ บอกให้ปล่อยไงเล่า...” ฮยอกแจดิ้นเร้าๆ กำปั้นเล็กทุบรัวลงบนหลังของชีวอนเพื่อให้ร่างสูงวางตนเองลงพื้นแต่ชีวอนกลับรู้สึกเหมือนคนบนไหล่กำลังนวดให้ตัวเองเสียมากกว่า
“น้องคุณไปนอนแล้ว เราสองคนก็ไปนอนกันบ้างดีกว่า” พูดด้วยสีหน้าและน้ำเสียงหื่นๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนของตัวเอง ฮยอกแจดิ้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“คุณลีฮยอกแจครับหยุดดิ้นได้ไหมครับ เดี๊ยวตกลงไปผมไม่รับผิดชอบนะ”ชีวอนพูดขึ้นเมื่อเริ่มรู้สึกว่าจะเริ่มรับน้ำหนักคนตัวบางไม่ไหวแล้ว
“นายก็ปล่อยฉันลงสิโว้ย!”ฮยอกแจไม่ยอมหยุดแถมยังดิ้นแรงเพิ่มขึ้นไปอีก จนชีวอนต้องรีบเดินเข้าห้องก่อนที่คนบนไหล่จะตกลงมาซะก่อน
ตุ้บ!
“คุณนี่แรงเยอะชะมัดเลย”ชีวอนก็รีบวางฮยอกแจลงกับที่นอนทันทีที่เข้ามาในห้องก่อนจะบิดตัวไล่ความเมื่อย กว่าจะเดินมาถึงห้องทำเอาเขาเกือบแย่ เห็นตัวบางๆแบบนี้แต่แรงนี่ไม่ได้เท่ากับตัวเลย
“แล้วใครใช้ให้นายอุ้มฉันล่ะ”ฮยอกแจพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
“ถ้าผมบอกคุณดีๆ คุณคงจะไม่ยอมนอนห้องผมแน่ๆผมถึงได้มีบริการพิเศษส่งคุณถึงที่นอนของผมไงล่ะครับ”ชีวอนพูดกวนๆ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงข้างๆฮยอกแจ
“ใครเค้าอยากนอนกับนายกัน ไอโรคจิต” ร่างบางรีบกระเถิบหนีทันที รักษาระยะห่างจากร่างสูงให้มากที่สุดเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ตอนนี้เขาอยู่กับนายนี่สองต่อสองคงจะไม่ปลอดภัยแน่ๆ ดังนั้นเขาควรจะรีบออกไปจากห้องนี้เดี๊ยวนี้ แต่ยังไม่ทันทำตามความคิดของตัวเอง ร่างทั้งร่างถูกผลักให้นอนราบลงไปกับที่นอนโดยมีชีวอนคร่อมอยู่ด้านบน
“ท ทำอะไรของนาย!”ตารีเรียวเบิกกว้างอย่างตกใจกับการกระทำของร่างสูง
“ตอนอยู่หลังเวทีเรายังคุยกันยังไม่จบนี่น่าเพราะมีคนเข้ามาขัดซะก่อน”
“น...นาย หมายถึงเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องวิธีที่ทำให้คุณเรียกผมว่าไอโรคจิตไงล่ะ ผมยังไม่ได้บอกคุณเลยนี่”ชีวอนเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ดวงหน้าคนข้างล่างจนอยู่ห่างกันแค่คืบ
“ถ้าฉันเรียกนายว่า ‘ไอโรคจิต’ แล้วนายจะทำไม” ถึงปากจะทำอวดเก่งไปอย่างนั้น แต่ในใจกลับเริ่มกลัวท่าทางของชีวอนแต่ก็ไม่ยอมแสดงความกลัวออกมาให้เห็น
“ก็ทำแบบนี้ไงล่ะครับ”กระตุกยิ้มมุมปากให้กับคนอวดเก่ง ก่อนจะก้มลงประกบริมฝีปากแดงด้วยความรวดเร็ว ความรู้สึกแปลกๆโหวงๆในช่องท้องทำให้ฮยอกแจถึงกลับนิ่งอึ้งไปกับอาการประหลาดที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
“อื้อ~”ร่างบางครางประท้วงในลำคอมือทั้งสองข้างทุบรัวลงที่แผงอกกว้างของชีวอนเมื่ออากาศหายใจถูกช่วงชิงไปจนแทบไม่มีเหลือ ชีวอนจำใจถอนริมฝีปากอย่างเชื่องช้าด้วยความเสียดาย
“ไอ...”ฮยอกแจอ้าปากเตรียมด่าร่างสูงเต็มที่ ชีวอนจึงเอ่ยขัดร่างบางด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“ถ้าคุณเรียกผมว่าโรคจิตหนึ่งครั้งผมก็จูบคุณหนึ่งครั้ง เรียกสองครั้งก็จูบสองครั้ง แต่ถ้าเรียกมากกว่านี้คุณอาจจะไม่ได้นอนนะครับ”สิ้นเสียงร่างสูง กลีบปากแดงก็หุบสนิทเข้าหากันทันที ชีวอนหัวเราะในลำคออย่างพอใจก่อนจะดันตัวเองออกจากร่างบางมายืนอยู่ข้างเตียง
ฮยอกแจรีบลุกขึ้นนั่งทันทีก่อนจะส่งสายตาอาฆาตแค้นไปให้ก่อนพยายามข่มอารมณ์อยากฆ่าคนไว้เต็มที่แล้วทำใจให้เย็นเข้าไว้เพราะตัวเองตกเป็นรองชีวอนอยู่แถมยังอยู่ในห้องของนายนี่อีก ถ้านายนี่ทำอะไรที่คาดไม่ถึงขึ้นมาคงจะไม่มีใครช่วยเขาได้แน่ๆ ดังนั้นเขาควรทำใจยอมรับมันแค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น
“ฉันจะอาบน้ำ”บอกสิ่งที่ตัวเองต้องการอย่างใจเย็น
“มาบอกผมทำไมครับ อยากให้ผมเข้าไปอาบให้หรือไง”หากแต่ประโยคของชีวอน ทำให้ความคิดที่ใจเย็นของฮยอกแจลดลงไปมากกว่าครึ่ง
‘ใจเย็นไว้ลีฮยอกแจ ใจเย็น ใจเย็น’ สะกดจิตตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงบอกกับร่างสูงอีกทีแต่น้ำเสียงแตกต่างจากเดิม
“นี่นายแกล้งโง่หรือไง ฉันหมายความว่าฉันอยากอาบน้ำแต่ไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนต่างหาก ฉันอุตส่าห์พูดกับนายดีๆแล้วนะ”
“ปากเก่งจังเลยนะครับ ลืมไปแล้วหรอว่าเมื่อกี๊คุณเพิ่งโดนอะไรไป อยากทวนความจำอีกสักรอบไหมครับ”พูดพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ร่างบางจนรู้สึกถึงลมหายใจที่ผ่อนเข้าออกก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปากให้หนึ่งทีแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวกับกางเกงขาสั้นมาให้ฮยอกแจ ร่างบางยันตัวลุกขึ้นจากเตียงโดยลืมไปว่าข้อเท้ายังเจ็บอยู่
“โอ๊ย!”
“ว่าไงครับตกลงจะให้ช่วยอาบไหม”ชีวอนถามด้วยท่าทางยียวน
“ไม่ต้อง!”กระชากเสียงตอบร่างสูงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะคว้าเสื้อกับกางเกงเดินกะเผลกๆเข้าห้องน้ำไป
...
สิบนาทีผ่านไป ฮยอกแจออกจากห้องน้ำในสภาพแปลกตา เพราะร่างบางอยู่ในเสื้อผ้าตัวหลวมโคร่งปิดคลุมมาถึงสะโพกกลมมนเผยให้เห็นต้นขาเรียวขาว ชีวอนมองคนตรงหน้าด้วยสายตาวาววับ
“มองอะไรของนาย แล้วเอากางเกงของนายคืนไปด้วย ตัวใหญ่อย่างนี้ใครจะใส่ได้”ถามอย่างไม่พอใจกับสายตาของร่างสูงที่มองตนใบหน้าขาวขึ้นสีเล็กน้อย ก่อนจะโยนกางเกงคืนให้ชีวอน
“มานั่งนี่สิ”ชีวอนรับกางเกงที่โยนมา ก่อนจะสั่งแล้วเอามือตบลงบนเตียงโดยไม่ตอบคำถาม
“มีอะไร”ถามด้วยความหวาดระแวง
“จะเดินมาด้วยตัวเองหรือว่าจะให้ผมไปอุ้มครับ”รอยยิ้มมีเลศนัยปรากฏบนใบหน้าหล่อๆ ฮยอกแจรู้สึกว่ามันน่ากลัว+น่าถีบมาก -_-^^^
“ฉันเดินเองได้ แล้วอย่ายิ้มแบบนั้นอีก”ฮยอกแจพูดแล้วยอมเดินไปนั่งที่เตียงแต่โดยดี
“ก็แค่เนี้ย”ชีวอนเดินเอากางเกงไปเก็บใส่ตู้เสื้อผ้าเหมือนเดิม ก่อนจะค้นหาอะไรบางอย่างในตู้ แล้วเดินกลับมาที่เตียงพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาลขนาดเล็กในมือ ฮยอกแจมองชีวอนด้วยความแปลกใจ
“เอามาทำไมน่ะ”ถามขึ้นอยางอดไม่ได้ ลืมไปเลยว่าคนเจ็บคือตัวเอง พอชีวอนตอบกลับมาถึงรู้ว่าตัวเองถามคำถามได้งี่เง่ามาก
“คุณเจ็บข้อเท้าอยู่ไม่ใช่หรือไงครับ”ชีวอนพูดพลางหยิบยาออกมาจากกล่องก่อนจะนั่งลงบนพื้นตรงหน้าร่างบาง
“นายจะทำอะไรน่ะ!”ฮยอกแจร้องออกมาอย่างตกใจ
“ก็ทายาให้คุณไง หรือว่าคุณอยากทำอย่างอื่น”พูดยียวนเล็กน้อยก่อนจะบีบยาออกมาจากหลอด แล้วยื่นมาจับเท้าข้างที่แพลงอยู่ของฮยอกแจไปวางไว้บนหน้าขา ทันทีที่มือของชีวอนสัมผัสกับข้อเท้าบาง ฮยอกแจก็รู้สึกชาวาบเหมือนโดนไฟช็อตจนต้องรีบชักเท้ากลับทันที
“เอ่อ...ฉันทาเองดีกว่า นายไปอาบน้ำเถอะ”ฮยอกแจรีบปฏิเสธอย่างรวดเร็วเพราะความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
“อยู่นิ่งๆสิ ผมจะทาให้ ไม่งั้นก็เลือกเอาว่าจะอยู่นิ่งๆให้ผมทายาดีๆหรืออยากจะทำอย่างอื่นแทน”ขู่พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหวานแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ให้
“....”ฮยอกแจสะบัดหน้าหนีสายตาของชีวอนไปทางอื่นโดยไม่ตอบถามใดๆ ร่างสูงยกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะค่อยๆเอามือจับข้อเท้าบางขึ้นมาอีกครั้งแล้วบรรจงทายานวดลงบนข้อเท้าอย่างเบามือ
ฮยอกแจเผลอมองชีวอนด้วยสายตาที่แปลกไปจากเดิมความรู้สึกในใจเริ่มเปลี่ยนแปลงไปกับความอ่อนโยนของร่างสูง
‘นายนี่ก็มีส่วนดีเหมือนกันแฮะ’
“มองทำไมครับ หรือว่าหลงเสน่ห์ผมแล้ว”ชีวอนถามขึ้นเมื่อรู้สึกว่าร่างบางกำลังจ้องมองเค้าอยู่
“ใครเค้าหลงเสน่ห์นายกันห๊ะ!”คำถามของร่างสูงเล่นเอาความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้น(ชั่วคราว)หายวับไปกับตา
“....” ชีวอนอมยิ้มไม่พูดอะไรยังคงนวดที่ข้อเท้าต่อไปเรื่อยๆ
“ดีขึ้นไหม”ร่างสูงถามหลังจากนวดต่อได้สักพัก
“อืม”ฮยอกแจรับคำ ชีวอนจึงเอาผ้าก๊อซมาพันข้อเท้าไว้ให้ ก่อนจะเก็บอุปกรณ์ลงกล่องเหมือนเดิม
“งั้นผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ แล้วอย่าเพิ่งรีบนอนล่ะเดี๊ยวออกมาหาอะไรสนุกๆทำกัน”พูดจากำกวมให้ฮยอกแจคิดเล่นๆแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
“หาอะไรสนุกๆทำกัน” ฮยอกแจทวนประโยคกำกวมของชีวอน เค้าก็ไม่ได้อยากคิดมากนะ แต่ดึกขนาดนี้นายนั่นมันจะทำอะไรวะ
‘โอ๊ยยย~ ไม่คิดแล้ว เดี๊ยวเป็นบ้า นอนดีกว่า’ฮยอกแจตัดสินใจตัดความคิดฟุ้งซ่านของเองโดยการล้มตัวลงนอนลงบนเตียงดึงผ้าห่มขึ้นมาจนมิดคแล้วหันตัวเข้าหากำแพงห้องพลางคิดเรื่องที่เกิดขึ้นกับเขามากมายตลอดทั้งวัน ขณะที่เกือบจะเคลิ้มหลับก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงเปิดประตูห้องน้ำ ฮยอกแจแกล้งทำเป็นหลับเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนได้กลิ่นสบู่จางๆ
“อ้าว!หลับแล้วหรอเนี่ย...”ชีวอนพูดเบาๆ แล้วเดินไปปิดม่านแล้วปิดไฟจนเหลือแค่แสงสลัวจากโคมไฟหัวเตียง ก่อนจะล้มตัวนอนโดยแทรกตัวเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกันกับที่ร่างบางห่มอยู่
“เฮ้อ~ทำไมวันนี้เตียงมันแคบจังนะ”ชีวอนเปรยขึ้นลอยๆแล้วเขยิบตัวเข้ามาใกล้ฮยอกแจ ฮยอกแจเขยิบตัวออกห่างแต่ชีวอนก็ยังคงเขยิบตามมา แค่นี้เค้าก็พอรู้แล้วล่ะว่านายนี่คงกำลังแกล้งเค้าแน่ๆ
ฮยอกแจเขยิบหนีอีกครั้ง แต่ดูเหมือนชีวอนจะรู้ตัวถ้าร่างบางยังขืนเขยิบหนีอีกคงจะลงไปนอนเล่นบนพื้นแน่ๆ ร่างสูงจึงยกขาของตนเองมาก่ายขาเรียวไว้
ร่างบางตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะก่อนจะตวาดเสียงดังด้วยความโมโห
“นี่!ฉันไม่ใช่หมอนข้างของนายนะ เอาขาออกไปเดี๊ยวนี้”
“ผมคิดว่าคุณหลับไปแล้วซะอีก”พูดด้วยน้ำเสียงที่ปกปิดความสนุกไว้ไม่มิด
“สนุกมากใช่ไหม!“กระชากเสียงถาม แต่ชีวอนไม่พูดอะไรออกมาแต่กลับเอาแขนข้างหนึ่งมาพาดบนตัวของเค้าแทน
“นี่นายเอาชิ้นส่วนนายออกจากตัวฉันเดี๊ยวนี้นะ หนักจะตายอยู่แล้ว”
“นอนเฉยๆแล้วหยุดพูดได้แล้ว ไม่งั้นผมทำมากกว่านี้ไม่รู้ด้วยนะครับ”พูดขู่ทั้งๆที่ตายังปิดอยู่ แต่ก็ทำให้ฮยอกแจยอมอยู่เฉยๆโดยอัตโนมัติ ความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวันทำให้ทั้งสองคนผล็อยหลับไปในที่สุด
แสงแดดยามเช้าที่ลอดเข้ามาในห้อง ทำให้ร่างบางเริ่มรู้สึกตัวแต่ก็ยังไม่อยากลืมตาขึ้นมา ฮยอกแจขยับตัวเล็กน้อยเพื่อจะนอนต่อแต่รู้สึกได้ว่ามันหนุนอยู่บนอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่หมอนและเหมือนมีน้ำหนักมากดทับอยู่ที่แขน กลิ่นหอมบางๆอบอวลอยู่ที่จมูก เสียงบางอย่างเหมือนเสียงหัวใจของใครบางคนกำลังเต้นอยู่ข้างๆหู ฮยอกแจลืมตาโพลงขึ้นมาทันที
‘อ๊ากกก~นายนี่มานอนกอดฉันได้ไง’กรีดร้องในใจเมื่อพบว่าหัวของตัวเองอยู่บนแผงอกของชีวอนแถมนายนี่ยังมากอดเขาไว้อีก
ฮยอกแจจับแขนของชีวอนออกจากลำตัวอย่างช้าๆแล้วค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่งเพราะไม่อยากให้ชีวอนตื่นมาเห็นตนเองในสภาพนี้ก่อนจะมองไปที่นาฬิกาที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงซึ่งบอกเวลาว่าตอนนี้แปดโมงครึ่งแล้ว จังยันตัวลุกขึ้นจากเตียงเพื่อจะเดินไปอาบน้ำส่วนชีวอนยังคงหลับอยู่
ร่างบางเดินกะเผลกๆออกจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเดิมของตัวเองที่ใสเมื่อวาน พอเดินออกมาก็พบว่าร่างสูงนั้นตื่นแล้ว
“มานี่สิ แล้วนั่งลง”เสียงออกคำสั่งดังจากคนที่นั่งอยู่บนเตียง ฮยอกแจเดินกะเผลกๆเข้าไปหาร่างสูงอย่างไม่พอใจนิดๆที่มาออกคำสั่งกับตัวเอง
“มีอะไร”ถามเสียงเรียบตอนนี้เค้าไม่อยากจะต่อปากต่อคำกับนายนี่ซักเท่าไหร่เพราะเห็นว่าใกล้จะได้ออกจากไปที่นี่แล้ว
ชีวอนไม่ตอบคำถามแต่กลับลงไปนั่งข้างล่างแล้วแกะผ้าก๊อซที่เปียกน้ำออก เอายานวดที่ข้อเท้าให้อีกรอบ เป็นอีกครั้งที่ร่างบางเผลอมองชีวอนด้วยสายตาที่ไม่เหมือนเดิม หัวใจดวงน้อยเต้นรัวไปกับความอ่อนโยนที่ได้รับ
“ยังเจ็บอยู่ไหม”เงยหน้าขึ้นถามด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความห่วงใย
“เอ่อ...ไม่เท่าไหร่แล้วล่ะ”น้ำเสียงตอบกลับเริ่มอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว ชีวอนนวดต่อไปสักพักก่อนจะหยิบผ้าก๊อซอันใหม่มาพันข้อเท้าร่างบางแล้วเก็บยาใส่กล่อง
“ผมจะไปอาบน้ำ อย่าเพิ่งไปไหนล่ะ”พูดจบก็ผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำ ฮยอกแจจึงใช้เวลานี้ทบทวนความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
‘ทำไมต้องรู้สึกดีทำไมหัวใจถึงเต้นแรงไปกับความอ่อนโยนของนายนั่นด้วย หรือว่าเราจะชอบนายนี่เข้าแล้ว เฮอะ!ไม่มีทางหรอกเค้าจะไปชอบนายโรคจิตนี่ได้ยังไง ไออาการแปลกๆคงจะเป็นแค่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นชั่วคราว พอกลับบ้านความรู้สึกแบบนี้คงจะหายไป ใช่มั้ย?’
ความคิดเห็น