คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Plan 3 [Re-Write]
Plan 3
“พี่ฮยอกกกก~ อ้าวใครไปทำอะไรพี่มาอ่ะ กลับมาหน้าพี่ถึงได้เป็นแบบนี้” เสียงใสๆของซันนี่เรียกพี่ชายของตนเอง ก่อนจะวิ่งเข้ามาหาพี่ชายที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้านแต่ก็ต้องชะงักทันทีที่ เห็นใบหน้าบูดบึ้งของพี่ชาย
“โดน ม้าจูบปากมา” ฮยอกแจพูดแค่นั้น ก่อนจะเดินปึงปังขึ้นห้องนอนตัวเองไปตามด้วยเสียงปิดประตูดังลั่นบ่งบอกถึง อารมณ์ของเจ้าตัวเป็นอย่างดี
“ไปหงุดหงิดอะไรของเค้ามานะ แล้วไอถูกม้าจูบปากมามันคืออะไร” ซันนี่มองตามฮยอกแจที่เดินขึ้นไปแล้วปิดประตูเสียงดังลั่นด้วยความสงสัย
ฮยอกแจรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันทีที่เข้ามาในห้องนอนของตัวเอง ฮยอกแจใช้มือถูปากตัวอย่างแรงอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำจนริมฝีปากที่แดงอยู่ แล้วยิ่งแดงเข้าไปใหญ่
“ฮึ่ย ไอ้บ้า ไอ้ม้าโรคจิต ชาตินี้หรือชาติหน้าชั้นก็จะไม่ทางชอบนายแน่ๆ จำเอาไว้ ชเวชีวอน” ฮยอกแจสบถใส่กระจกด้วยความแค้น แล้วใช้มือถูริมฝีปากตัวเองอีกครั้ง เพื่อจะลบรอยจูบของชีวอนให้ได้
ก๊อกๆๆๆ
“พี่ฮยอก ขอเข้าไปหน่อยนะ” ซันนี่เคาะประตู ก่อนจะเปิดเข้ามาโดยไม่รอคำอนุญาตจากเจ้าของห้อง (แล้วจะขอทำไม -_-^^^)
“อ้าว พี่ฮยอกไปไหนของเขาล่ะเนี่ย พี่ฮยอก พี่ฮยอก อยู่ในห้องหรือป่าว” ซันนี่ตะโกนเรียกพี่ชายตนเองเมื่อไม่เห็นพี่ชายอยู่ในห้องนอน
“มีธุระอะไรยัยซันนี่” ฮยอกแจออกมาจากห้องน้ำหลังจากได้ยินน้องสาวตัวเองตะโกนเรียก
“ฉันจะมาบอกเรื่องคอนเสิร์ตพรุ่งนี้...” “ฉันไม่ไปแล้ว”
ยังไม่ทันที่ซันนี่จะพูดจบ ฮยอกแจก็เอ่ยขัดซันนี่ขึ้นซะก่อน
“หา! พี่ฮยอกว่าไงนะ พี่จะไม่ไปกับฉันงั้นหรอ ” ซันนี่ตะโกนออกมาทันทีที่ได้ยินสิ่งที่พี่ชายพูดขัดตัวเอง
“ใช่ ฉันไม่ไปคอนเสิร์ตของไอม้าโรคจิตนั่น” ฮยอกแจเอ่ยเน้นย้ำเสียงเรียบ
“พี่ สัญญากับฉันแล้วนะว่าจะไปด้วยกัน พี่จะผิดสัญญางั้นหรอ แล้วทำไมพี่ไปเรียกพี่ชีวอนว่าไอม้าโรคจิตล่ะ”ซันนี่พูดด้วยใบหน้างอง้ำใส่ พี่ชาย
“แกไม่ต้องรู้หรอก แต่ยังไงฉันก็ไม่ไป” ฮยอกแจเอ่ยตัดบท แต่นั่นยิ่งทำให้ซันนี่สงสัยบวกอยากรู้เพิ่มขึ้นไปอีก
“พี่ฮยอกบอกมาเดี๊ยวนี้นะว่าทำไมพี่ถึงไม่อยากไปคอนเสิร์ตของชีวอน”ซันนี่จับไหล่ทั้งสองข้างแล้วจ้องเข้าไปในดวงตารีเรียวของพี่ชาย
“เอ่อ...เอ่อ -///-” ฮยอกแจอ้ำอึ้ง พลางหน้าแดงหลบตาน้องสาวที่จ้องมา เมื่อนึกถึงเกตุการณ์ที่ชีวอนจูบตัวเองถึงจะเป็นแค่ริมฝีปากสัมผัสกันแต่ นั่นมันก็จูบแรกเชียวนะ
“ทำไมพี่ถึงหน้าแดงด้วยล่ะ ฉันแค่ถามถึงเหตุผลที่พี่ไม่ไปกับฉันเองนะ” ซันนี่เห็นพี่ชายหน้าแดงก็ยิ่งสงสัยเข้าไปอีก
“เอ่อ...โอ๊ย!ฉัน ไปกับแกด้วยก็ได้วะ”ฮยอกแจจำใจยอมรับคำไปคอนเสิร์ตด้วยในที่สุด เพราะไม่อยากตอบคำถามของน้องสาวตัวเอง ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไปเพื่อเป็นการไม่ให้ยัยน้องสาวจอมจุ้นถามซักไซ้ อะไรตัวเองต่อ
“พี่ ฮยอกจะไปไหนอ่ะพี่ยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะ ไม่เป็นไรยังไงพี่ฮยอกก็ยอมไปกับเรา ฮิๆ” ประโยคแรกซันนี่เอ่ยเรียกพี่ชายตนเองที่เดินออกไป แต่ประโยคหลังหันมาพูดกับตัวเองพลางหัวเราะอย่างมีความสุข แล้วเดินกลับห้องนอนของตัวเองเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานคอนเสิร์ตในวันพรุ่ง นี้
ชีวอนที่หลังจากกลับมาจากคุยงานและพาโบอาไปเที่ยวเรียบร้อยแล้ว ก็กลับเข้าบริษัทมานั่งเล่นที่ห้องซ้อมพลางนั่งยิ้มอยู่คนเดียวเมื่อนึกถึง ใบหน้าหวานๆกับริมฝีปากอิ่มแดงที่ตัวเองได้สัมผัสมาแล้ว
‘ทำไมฉันถึงได้รู้สึกติดใจนายขนาดนี้นะ ลีฮยอกแจ’
“เป็น บ้าหรือไงวะไอชีวอนเห็นนั่งยิ้มคนเดียวอยู่ได้” ร่างสูงที่เป็นนักร้องร่วมค่ายและเพื่อนสนิทของชีวอนเอ่ยกับเพื่อนรักที่ เห็นนั่งยิ้มคนเดียวอย่างกับคนบ้ามาตั้งแต่กลับมาจากคุยงานเรื่องที่พัก ระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต
“ฉันไม่ได้บ้าเว้ย แต่ชั้นกำลังมีความสุขอยู่ต่างหาก” ชีวอนหยุดยิ้มหันไปตอบเพื่อนสนิท แล้วกลับมายิ้มต่อ
“สงสัยถ้าจะบ้า จริงๆ” ฮันกยองใส่หน้าให้กับอาการของเพื่อน
05.00 น. วันงานคอนเสิร์ต
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงทุบประตู ทำให้ฮยอกแจงัวเงียตื่นขึ้นมาจากนิททาอันแสนสุขก่อนขยี้ตามองดูนาฬิกาบนหัวเตียง
“หา! ตีห้า ใครมันมาทุบประตูปลุกแต่เช้ามืดวะเนี่ย”ฮยอกแจสบถอย่างหัวเสียที่มีคนมารบกวนการนอนตั้งแต่เช้ามืด
“พี่ฮยอกๆ ตื่นหรือยัง”เสียงของซันนี่ดังลอดเข้ามาในห้อง
“แกมีอะไรแต่เช้ามืดห๊ะยัยซันนี่” ฮยอกแจเปิดประตูออกไปก็พบกับน้องสาวตัวดียืนยิ้มหน้าบานอยู่หน้าประตู
“พี่ รีบแต่งตัวเดี๊ยวนี้เลยนะ นี่ชุดชั้นเตรียมไว้ให้พี่จะได้เข้ากับชุดของชั้น แต่งตัวเสร็จแล้วลงมาหาชั้นที่ห้องนั่งเล่นนะ รีบๆล่ะพี่ฮยอก” ซันนี่พูดพร้อมกับยัดถุงกระดาษใส่ในมือพี่ชายแล้วดันพี่ชายเข้าไปในห้องนอน ก่อนจะปิดประตูห้องให้เสร็จสรรพ
“อะไร ของมันวะ” ฮยอกแจยังคงงงๆกับน้องสาวตัวเองอยู่ ก่อนจะเปิดถุงกระดาษที่ซันนี่ยัดใส่มือมาให้ ข้างในถุงมีเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินกับกางเกงยีนส์สี่ส่วนสีขาว
“เปลี่ยนก็เปลี่ยนวะ ไหนๆก็ตื่นแล้ว” ฮยอกแจพูดขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องเพื่อจัดการธุระส่วนตัวและเปลี่ยนชุดที่ซันนี่ให้มา
ฮยอกแจใช้เวลา 15 นาที ในการจัดการธุระส่วนตัวและเปลี่ยนชุดที่ซันนี่ให้ แล้วลงมาที่ห้องนั่งเล่นซึ่งซันนี่ได้นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“นี่ ยัยซันนี่มีอะไรเกิดขึ้นทำไมถึงมาปลุกชั้นตั้งแต่เช้ามืดแถมยังต้องใส่เสื้อ สีน้ำเงินเหมือนกับแกด้วย” ฮยอกถามซันนี่ด้วยความสงสัย พลางมองซันนี่ที่ใส่ชุดแซกสีน้ำเงินกับกางเกงขาสั้นสีขาวข้างใน
“หา!นี่ พี่จำไม่ได้งั้นหรอ ว่าพี่สัญญาอะไรไว้กับฉันน่ะ” ซันนี่โวยวายอย่างกับพี่ชายทำความผิดร้ายแรงเอาไว้ ทำให้ฮยอกแจงงเป็นไก่ตาแตกไปเลย
“อะไรของแก โวยวายอย่างกับชั้นไปฆ่าชีวอนสุดที่รักของแกอย่างนั้นแหล่ะ” ฮยอกแจประชดน้องสาวที่ทำท่าทางเกินจริง
“ก็วันนี้มันวันงานคอนเสิร์ตของชีวอนน่ะสิพี่ฮยอก”
“อะไรนะ! นี่แกกำลังจะบอกว่าที่ทุบประตูห้องปลุกฉันตั้งแต่ตีห้าเนี่ย เพื่อจะให้ฉันไปดูคอนเสิร์ตของไอม้าโรคจิตที่จะเริ่มตอนหกโมงเย็นเนี่ยนะ” ฮยอกแจโวยวายใส่น้องสาวกลับไปมั่ง
“ใช่ค่ะ” ซันนี่ยอมรับด้วยใบหน้าที่ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลยแถมยังยิ้มหน้าบานอีกต่างหาก
“งาน เริ่มตั้งหกโมงเย็นแต่นี่มันเพิ่งจะตีห้ากว่าๆงั้นฉันจะขึ้นไปนอนต่อดีกว่า”ฮยอกแจพูดกับน้องสาวก่อนจะเดินขึ้นบันไดเพื่อขึ้นห้องไปนอนต่อ
“เดี๊ยวพี่ ฮยอก พี่ขึ้นไปนอนต่อไม่ได้ พี่จะต้องไปกับฉันตอนนี้”ซันนี่ดึงแขนฮยอกแจที่กำลังจะเดินขึ้นบันได แล้วลากพี่ชายไปขึ้นรถที่จอดรออยู่หน้าบ้าน ก่อนรถจะเคลื่อนออกจากบริเวณบ้านมุ่งหน้าสู่โอลิมปิก ปาร์คสถานที่ที่จัดคอนเสิร์ตครั้งนี้
Lee Hyukjae Talk
“หา! นี่ยังมีคนมาเช้ากว่าเราอีกหรอเนี่ย”
พอมาถึงที่โอลิมปิก ปาร์ค ผม อึ้ง ทึ่งและตะลึงสุดๆกับภาพที่เห็นตรงหน้า เพราะหลังจากลงมาจากรถก็พบว่าบริเวณลานกว้างด้านหน้าของโอลิมปิก ปาร์ค คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายที่มารอตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง
“แน่นอนสิพี่ บางคนก็มานอนค้างที่นี่และยังมีพวกที่มาจากต่งประเทศอีกนะ”ซันนี่ตอบผมเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
“อะไรจะขนาดนั้น” ผมอึ้งกับข้อมูลที่ยัยซันนี่เพิ่งให้มา
“แล้วนี่พี่รู้ไหมบัตรเราอ่ะเป็นบัตรวีไอพีเชียวนะ”ซันนี่พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อพูดถึงบัตรคอนเสิร์ต
“แล้วแกไปได้บัตรวีไอพีมาจากไหน มันมีไม่กี่ใบเองไม่ใช่หรือไง” ผมถามเรื่องบัตรวีไอพีที่ยัยซันนี่พูดถึง
“พ่อเป็นคนให้มาเองเลยนะเนี่ย ไม่รู้พ่อไปเอามาจากไหน”ซันนี่ตอบผมก่อนจะลากผมไปที่บริเวณหน้างานที่จัดซุ้มขายของที่ระลึกไว้
แล้ววันนี้ทั้งวันยัยซันนี่ก็ลากผมเดินดูบริเวณหน้างานที่มีซุ้มต่างๆ ตั้งเรียงรายอยู่มากมาย ยัยซันนี่ซื้อของที่ระลึกที่ขายตามซุ้มต่างๆกระจุยกระจายไม่ได้กลัวเงินค่า ขนมของตัวเองหมดเลยแม้แต่น้อย ลากเข้าซุ้มนู้นทีซุ้มนี้ทีและแหกปากร้องตะโกนชื่อชีวอนทุกซุ้ม
“นี่ยัยยซันนี่หยุดกรี๊ดซักทีได้มั้ย ชั้นอายคนอื่นเค้า” ผมปรามยัยซันนี่ที่กำลังกรี๊ดอยู่หน้าซุ้มขายเสื้อยืดที่ระลึก
“จะอายทำไมคนพวกนี้เราก็ไม่รู้จัก ไม่ต้องไปสนใจหรอกเข้าไปดูเสื้อข้างในกันดีกว่า เดี๊ยวชั้นซื้อให้พี่ด้วย ^0^” ยัยซันนี่ไม่ได้รู้สึกอายขึ้นมาบ้างเลยแถมยังลากผมเข้าไปดูข้างในด้วยกันอีก
“พี่เอาตัวไหน เลือกมาเลย”ยัยซันนี่ถามผมระหว่างที่เลือกเสื้อไปด้วย
“ไม่”ผมปฏิเสธซันนี่
“พี่ เนี่ยนะมาคอนเสิร์ตทั้งทีไม่ยอมซื้ออะไรไปเป็นที่ระลึกซักอย่าง” ยัยซันนี่บ่นใส่ผม ก็ผมไม่ได้เป็นแฟนคลับนายชีวอนซะหน่อยแถมยังเกลียดขี้หน้าอีกต่างหาก จะให้ซื้อไปทำไมกัน ถ้าผมซื้อคงจะซื้อไปเผาสาบแช่งนายนั่นมากกว่า
“แล้วจะซื้อไปทำไมเยอะแยะ แค่นี้ยังไม่พออีกหรือไง” ผมถาม เพราะ ที่มือยัยซันนี่มีเสื้อยืดไม่ต่ำกว่า 5 ตัว ไม่รู้จะซื้อไปถมห้องหรือไง แค่ของที่ซื้อก่อนหน้านี้ก็เยอะจนถือกันไม่ไหวจนต้องให้คนขับรถมาเอาไปใส่รถ ไว้ก่อน
“ก็ มันชอบทุกลายเลยนี่น่า ก็เลยจะซื้อทุกลายไปสะสม อ่ะนี่ค่ะเงิน” ซันนี่หันมาตอบผมด้วยสีหน้าระรื่น ก่อนจะยื่นเงินค่าเสื้อให้เจ้าของซุ้ม ผมล่ะนับถือในความบ้าของยัยนี่เลยจริงๆ
ยัย ซันนี่ลากผมเดินทั่วบริเวณหน้างานจนกระทั่งห้าโมงเย็น เจ้าหน้าที่จึงเปิดประตูยิมนาสติกฮอลล์ซึ่งเป็นฮอลล์ขนาดใหญ่ที่ใช้จัด คอนเสิร์ตให้บรรดาแฟนคลับทั้งหลายที่มารออยู่รีบเบียดเสียดกันเข้าไปจนแทบ เหยียบกันตายก่อนจะได้ดูคอนเสิร์ต ยัยซันนี่ก็จะเป็นหนึ่งในนั้นถ้าผมไม่เอ่ยค้านไว้เสียก่อน
“นี่แกจะไปเข้าไปให้พวกนั้นเหยียบตายก่อนหรือไง เดี๊ยวรอให้คนน้อยก่อนแล้วค่อยเดินเข้าไปก็ได้”
“จริงด้วยสิ”ซันนี่หันมายิ้มแหยๆให้ผมแล้วถอยออกมาจากทางเข้ามายืนข้างผม
17.40น.
“ไป กันเถอะพี่ฮยอก ประตูใกล้จะปิดแล้ว”ยัยซันนี่พูดพลางพาผมเดินตรงดิ่งไปยังประตูทางเข้าที่ ตอนนี้ว่างเว้นจากผู้คนเพราะประตูใกล้เวลาจะปิดแล้ว ทำให้คนที่มาดูคอนเสิร์ตเกือบทั้งหมดเข้าไปอยู่ในฮอลล์กันเรียบร้อย
“ขอบัตรด้วยครับ”พนักงานเฝ้าประตูเอ่ยขึ้น ซันนี่คนกระเป๋าอยู่สักพัก
“นี่ค่ะ”ซันนี่ยื่นบัตรคอนเสิร์ตให้พนักงานเฝ้าประตู
“บัตรวีไอพีเชิญไปเก้าอี้ที่ว่างอยู่สองตัวตรงนั้นเลยครับ”พนักงานตรวจบัตร อยู่ซักครู่ ก่อนจะเอ่ยแล้วชี้ไปที่เก้าอี้หน้าสุดตรงกลางสองตัวที่ยังว่างอยู่
“ขอบคุณค่ะ” ซันนี่กล่าวขอบคุณก่อนจะเดินไปที่เก้าอี้ที่ว่างอยู่สองตัว
“นี่ ยัยซันนี่ ชั้นรู้สึกว่ามีแต่คนมองเราสองคนนะ” ผมพูดกับซันนี่ทันทีที่นั่งลง ผมรู้สึกได้เลยว่าสายตาแทบทุกคู่ในความมืดจ้องมองมาที่ผมกับน้องสาว
“สงสัยยัยพวกนั้นจะมองเราด้วยความอิจฉาล่ะมั้ง”ซันนี่กระซิบตอบ
ที่นั่งของผมกับซันนี่สมเป็นวีไอพีจริงๆ ถึงมันจะอยู่หน้าสุดแต่ก็ยกพื้นขึ้นมาจนอยู่ระดับเดียวกับพื้นเวที แล้วแถววีไอพีก็มีเก้าอี้เพียงสิบตัวเท่านั้นและมีทางเดินค่อนข้างกว้างกว่า แถวถัดไปซึ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนผมคิดว่าพวกที่นั่งแถวสูงๆคงเห็นแค่หัวนักร้อง
18.00 น.
แสงสปอร์ตไลท์ส่องตัดไปมาวูบวาบไปทั่วทั้งฮอลล์ แฟนๆเริ่มส่งเสียงกรีดร้อง แท่งไฟสี้น้ำเงินที่อยู่ในมือของแฟนคลับถูกกดเปิดขึ้นพร้อมกัน ทำเอาทั่วทั้งฮอลล์เรือนรองไปด้วยแสงไฟสีน้ำเงิน
บึ้ม!
เอ่อ...ทุกนอ ย่าเพิ่งตกใจเหมือนผมนะ ไอเสียงบึ้มนั่นมันก็คือเอฟเฟคที่เสียงและไฟระเบิดขึ้นมาพร้อมกันเวทีตรง หน้าทั้งเวทีสว่างสไวไปด้วยประกายไฟ
อลังการงานสร้างจริงๆ
“กรี๊ดดดดดดด!”เสียงกรี๊ดดังกระหึ่มทั่วฮอลล์
“Are U ready?...Are U ready?” เสียงตะโกนเสียงหนึ่งดังขึ้น สร้างเสียงกร๊ดดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง
“Let’s Go!”
ไฟทุกดวงดับพรึ่บลงพร้อมกันหมด มีเพียงสปอร์ตไลท์ดวงหนึ่งส่องไปบนเวที ฉากด้านหลังเวทีปรากฏภาพพรีวิวของชีวอนที่เป็นเทพบุตรที่อยู่บนสรวงสวรรค์ แล้วตกลงมายังบนโลกมนุษย์ แล้วด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างชีวอนก็หลุดออกมาจากพรีวิว มันก็ดูดีอยู่หรอกนะ
“กรี๊ดดด!” เสียงของยัยซันนี่กรีดร้องซะแก้วหูผมแทบแตก พลางโบกแท่งไฟในมืออย่างบ้าคลั่ง ถ้าคอนเสิร์ตจบผมจะกลายเป็นคนพิการหูหนวกมั้ยเนี่ย
“ดูชีวอนสิพี่ โครตหล่อเลยยย อ๊าย~ ทำยังไงดี เขามองมาที่ชั้นด้วย ดูสิๆๆ” ยัยซันนี่พูดพลางเขย่าตัวผมอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้น้องสาวผมบ้าเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
“นี่หยุดเขย่าชั้นซักทีสิ เขาก็มองทั่วนั่นแหล่ะ” ผมพูดห้ามซันนี่ที่เขย่าตัวผมอยู่ สงสารตัวเองจริงๆเลยที่มีน้องบ้าขนาดนี้
ไฟค่อยสว่างขึ้นเรื่อยๆเผยให้เห็นโฉมหน้าของชีวอน แล้วคอนเสิร์ตที่ทุกคนรอคอย(ยกเว้นผม) ชีวอนและเต้นเพลงที่แสนจะโด่งดัง ผมนั่งเซ็งอยู่ท่ามกลางแฟนคลับโดยไม่สนใจดูและฟังเลย เมื่อความเบื่อหน่ายเริ่มครอบคลุม สติของผมเริ่มหายไปทีละนิด ตอนนี้ผมกำลังจะหลับอยู่แล้ว
“เป็นไงบ้างพี่ฮยอก หล่อใช่มั้ยล่ะ” เสียงของซันนี่ทำให้ผมสะดุ้งก่อนที่ผมจะหันไปพูดกับซันนี่
“มันน่าเบื่อมากๆ”
“นี่พี่ฮยอกทำตามที่ชั้นบอกนะ พี่ลองหลับตาลงแล้วฟังเสียงของชีวอนอย่างเดียว ไม่ต้องไปฟังเสียงกรี๊ดของแฟนคลับ พี่ลองทำดู...”
“ไม่เอาน่าซันนี่”ผมปฏิเสธสิ่งที่ซันนี่ให้ผมทำ แต่ซันนี่ก็เอ่ยเสียงเข้มกลับมา
“พี่ ต้อง ทำ เดี๊ยวนี้!”
“นี่ แกกลายเป็นแม่ชั้นแล้วหรือไง” ผมหลับตาลงตามที่ซันนี่บอก พยายามสุดฤทธิ์ที่จะไม่หลับ พยายามฟังเสียงของนายนั่น เสียงที่ทุ้มนุ่มสื่อความหมายของเพลงช้าเพลงนี้ได้เป็นอย่างดี เสียงดนตรีดูเข้ากันได้ดีกับเสียงชีวอน แล้วสติผมก็วูบดับลง...ZZZZ
“นี่พี่ฮยอก!หลับทำไม ชั้นบอกให้พี่ฟังเพลงนะ ไม่ได้บอกให้หลับ”ซันนี่พูดพลางเขย่าตัวผมจนหัวสั่นหัวคลอน
“ก็ชั้นง่วงนี่ แกลากชั้นมาตั้งแต่ตีห้า ใครจะไปทนไหวล่ะ” ผมโยนความผิดให้ซันนี่ แต่นั่นมันก็คือความจริงนั่นแหล่ะ
“ชั้นยังไม่เห็นง่วงเลย”ซันนี่บอก
“ก็นั่นมันแก อ้าวนายนั่นหายไปไหนน่ะหรือว่าจบแล้ว” ผมถามซันนี่เพราะบนเวทีตอนนี้ไม่มีใครเลย
“จะบ้าหรอพี่เค้าเข้าไปเตรียมตัวพูดคุยกับแฟนคลับต่างหาก”ซํนนี่บอกผม ก่อนยัยซันนี่จะหันไปทางเวทีเพราะชีวอนเดินออกมาจากหลังเวทีแล้ว
“สวัสดีครับทุกคน วันนี้สนุกกันมั้ยครับ”ชีวอนกล่าวทักทายแล้วถามแฟนคลับทุกคน ซึ่งทุกคนยกเว้นผมพร้อมใจกันตอบว่าสุนก
“สนุกหรอฉันยังห่างกับคำนั้นหลายขุม”ผมบ่นพึมพำเบาๆไม่ให้ยัยซันนี่ได้ยิน แต่อยู่ดีๆผมก็รู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองผมอยู่ แต่พอผมมองไปรอบๆก็ไม่มีใครมองเพราะทุกคนมองไปที่ชีวอนกันหมด หรือว่าผมจะคิดไปเองนะ
“ผม หวังว่าทุกคนจะประทับใจในการแสดงของผมในวันนี้นะครับ” ชีวอนพูดขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้ผมหันซ้ายหันขวามองไปรอบเพราะรู้สึกว่ามีคนมองผมอีกแล้วแต่ก็ไม่แฟน คลับคนไหนมองผมอยู่ ผมจึงหันไปดูที่เวทีก็พบว่าชีวอนได้มองผมอยู่ จะว่นายนั่นมองไปทั่วก็ไม่ได้เพราะสายตาของนายนั่นจ้องมองอยู่จุดเดียวคือ ตรงที่ผมนั่ง
“ไอ ม้า โรค จิต” ผมจ้องหน้ากลับแล้วพูดทีละคำเหมือนจะให้เขารู้
ชีวอนส่งยิ้มท้าทายให้ผมหมือนจะรู้ที่ผมพูด แล้วไฟทุกดวงก็ดับลงเพื่อทำการแสดงชุดต่อไป
ผมในดูการแสดงของชีวอนไปเรื่อยๆโดยพยามไม่ให้หลับ แต่ดูเหมือนยัยซันนี่จะรู้ทันผมทุกครั้งที่จะหลับเพราะยัยซันนี่จะเขย่าตัว ผมอย่างรุนแรงทุกครั้ง เป็นเวลากว่าสองชั่วโมงกว่าคอนเสิร์ตอันแสนยาวนานสำหรับผมก็จบลง
“กลับบ้านกัน ฉันง่วงจะตายอยู่แล้ว” ผมพูดแล้วลุกจากเก้าอี้ ซันนี่ก็ลุกตามผม
“เดี๊ยวครับคุณสองคน” เสียงผู้ชายเอ่ยขัดผมสองคนที่กำลังจะลุกจากที่นั่ง
“เอ่อ...มีอะไรหรอคะ” ซันนี่ถามคนที่เอ่ยเรียกเรา ดูท่าทางน่าจะเป็นการ์ดของที่นี่ล่ะมั้ง
“คือ ที่นั่งของคุณทั้งสองคนได้รับรางวัลพิเศษให้ได้พบกับคุณชีวอนที่ห้องหลัง เวทีครับ” การ์ดคนนั้นตอบซันนี่ พอซันนี่ได้ฟังแบบนั้นแววตาก็ฉายความตื่นเต้นและดีใจอย่างเห็นได้ชัด
“จ..จริงหรอค่ะ”ซันนี่ถามด้วยความตื่นเต้น
“ครับงั้นเชิญตามมาได้เลยครับ” ชายคนนั้นพูดขึ้นแล้วเดินนำหน้าพวกเรา แล้วยัยซันนี่ก็ลากผมตามการ์ดคนนั้นไปที่ประตูทางเข้าหลังเวที
“ขอดูบัตรด้วยครับ”พนักงานเปิดประตูพูด การ์ดคนนั้นยื่นบัตรอะไรซักอย่างให้ดู พนักงานจึงเปิดประตูให้พวกเราเข้าไป
“นี่แกเข้าไปคนเดียวนะ ชั้นจะรอข้างนอก” ผมพูดขึ้นทันทีหลังจากมาถึงหน้าห้องหนึ่งที่หน้าจะเป็นห้องพักของชีวอน
“พี่เข้าไปกับชั้นเถอะน่า มันไม่มีอะไรหรอก” ซันนี่พูดกับชั้นแล้วเคาะประตูห้องนั้น
ก๊อกๆๆๆ
“โอ๊ย~ พี่ฉันสั่นไปหมดแล้วอ่ะ ทำไงดี” ซันนี่เขย่าแขนชั้นด้วยความตื่นเต้น
แอ๊ด...
ในที่สุดประตูก็เปิดออก
ทำไงดีผมไม่อยากเข้าไปเลยอ่ะ แต่ยัยซันนี่ก็ลากผมที่พยายามขัดขืนเข้าไปในห้องด้วยจนได้
:) Shalunla
ความคิดเห็น