เศรษฐีใจบุญ - เศรษฐีใจบุญ นิยาย เศรษฐีใจบุญ : Dek-D.com - Writer

    เศรษฐีใจบุญ

    หากมัวคิดแต่จะทำ จนลืมผลที่ตามมา ไหนเลยจะส่งผลดีเสมอ

    ผู้เข้าชมรวม

    181

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    181

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  จิตวิทยา
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 พ.ค. 57 / 18:23 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                

                เมืองเล็กนอกเมือง ห่างไกลจากความเจริญ แต่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามและสมบูรณ์ อีกทั้งผู้คนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน อยู่กันด้วยรอยยิ้ม มีประเพณีที่น่ารัก อาจไม่อึกกะทึกคึกโครมมากนัก แต่ก็ปะปนคลุกเค้าไปด้วยความสุขและเสียงหัวเราะของชาวเมืองทุกคน

                มีเศรษฐีคนหนึ่งฐานะมั่งคั่งย้ายมาจากเมืองหลวง เศรษฐีคนนี้เข้ามาอยู่ในเมืองนี้กว่า 4 เดือนแล้ว ผู้คนภายในเมืองกลับรู้จักเศรษฐีคนนี้ดี ดีพอๆกับนายก หรือหลวงพ่อในโบสถ์เสียอีก นั่นเป็นเพราะว่า เขาได้นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู้เมือง โดยปรับเปลี่ยนเมืองแห่งนี้ที่น้อยคนที่จะรู้จักมัน ปรับเปลี่ยนเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีชื่อเสียง เป็นแหล่งท่องเทียวเชิงธรรมชาติที่น่าดูชม เค้าพูดคำคำหนึ่งเมื่อเค้าคิดจะพัฒนาเมืองนี้ เค้าพูดว่า “ผมรักความสุขสงบ ผมรักเมืองนี้ ผมรักธรรมชาติ และผมอยากให้ทุกคนมีความสุข อยากให้ทุกคนสบาย และตอนนี้ ผมจึงนำความเจริญมาให้ ความเจริญที่มาพร้อมกับความสงบสุขที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง ผมจะทำให้เมืองนี้น่าอยู่ที่สุดในโลก”ดังนั้นภายในเวลาไม่กี่เดือน เขาสามารถทำให้ชาวเมืองที่มีเงินใช้แค่เพียงพอทำงานแค่พอกิน มีรายได้เพิ่มเติมจากการเปิดร้านอาหารเครื่องดื่ม บ้านพัก และรถนำเที่ยว อีกทั้งจัดตั้งสหกรณ์รวมทรัพย์ เพื่อขอทุนอุดหนุนโครงการแหล่งท่องเที่ยวชั้นเยี่ยมของประเทศ หลังจากนั้น ภายใน 1 ปี เมืองเล็กๆแห่งนี้ มีผู้คนพากันเข้ามาเที่ยวชมกันอย่างคับคลั่ง จนได้รางวัล เมืองท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติดีเด่น แต่เบื้องหลังความเจริญ ไม่ได้มีแต่พวกเขาที่ต้องการ และรับมัน กลับมีผู้คนมากหน้าหลายตาต่างพากันมาลงทุนกับเมืองเล็กๆแห่งนี้ เริ่มมีโครงการก่อสร้างบ้านจัดสรร โรงแรมหรูหรา รีสอร์ท และห้างสรรพสินค้า อีกทั้งการคมนาคมที่ส่งเสริมโครงการขยายถนนเข้าเมืองอีกด้วย ซึ่งนำมาซึ่งการพัฒนาที่ดีเยี่ยม นำความเจริญมาสู้เมืองเล็กๆแห่งนี้ แต่นั่นเอง คือเหตุผลที่เป็นการบ่อนทำลายธรรมชาติเมืองนี้ มีการตัดไม้เพื่อถมที่ดินทำบ้านจัดสรร โรงแรม รีสอร์ท ห้างสรรพสินค้า และถนน ทรัพยากรที่เคยคับคลั่งหนาตา เริ่มดูจางลง เหลือเพียงต้นไม้ไม่กี่ต้นภายในเมือง และป้าไม้ที่ดูเป็นระเบียบ ในพื้นที่ที่ตีกรอบให้ชัดเจน จากสถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดจากธรรมชาติ เปลี่ยนแปลงเป็นที่ท่องเที่ยวจากมือมนุษย์ นานปีเข้า บ้านเมืองเจริญมากขึ้น 3 ปีต่อมา มีตึกสูง โรงแรม มากขึ้น ถนนขยายกว้างขวาง รถยนต์วิ่งสวนไปมาอยากมากมาย 5 ปีต่อมา มีสวนสนุกใจกลางเมือง บ้านจัดสรรชานเมืองที่ใหญ่ขึ้น ผู้คนจากเมืองหลวงพากันแห่เข้ามาจับจองบ้าน เพื่อย้ายที่อยู่อาศัย 7 ปีต่อมา ที่แห่งนี้ไม่ใช่เมืองเล็กๆอีกต่อไป และตอนนี้มีการขยายรูปแบบการปกครองเมืองนี้เป็นแบบเมืองใหญ่ มีห้างสรรพสินค้ามากขึ้น อาณาเขตของเมืองกว้างขวางออกไปทับพื้นที่ป่า รวมถึง ภูเขา แม่น้ำ ไม่ได้อยู่ในป่าอีกต่อไป แต่กลับมาอยู่ปะปนภายในเมือง 10 ปีต่อมา มีโครงการสร้างรถไฟฟ้า และโครงการสร้างสนามบิน อดีตเมืองเล็กๆ ไม่ได้เล็กอีกต่อไป เพียงแต่ได้ถูกยกย่องให้เป็นเมืองที่พัฒนาแล้ว ติดอันดับเมืองที่น่าอยู่ของโลก ได้เงินรางวัลจากการประกวดเมืองสวยน่าอยู่มากมาย วันหนึ่ง มีชายชราคนหนึ่ง ไปยืนอยู่หน้าตึกสูงใจกลางเมือง ยืนเฝ้ามองประตูอัตโนมัติ ที่เปิดๆปิดๆตลอดเวลา เขายืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เช้าตรู่ จนมาถึงเวลา 8 โมงเช้า เศรษฐีคนเดิมที่พาความเจริญมาให้เมืองนี้ ก็ขับรถมาจอดที่หน้าตึกพร้อมกับลงมาที่จะเดินเข้าไปที่ตึก ชายชราเดินเข้าไปหาพร้อมกล่าวทักทาย เศรษฐีก็ยิ้มตอบพร้อมกล่าวทักทายด้วย ชายชราถามเศรษฐีว่า “ในความเจริญที่ท่านนำมา ไหนล่ะความสุขที่เคยมี ไหนละความสงบ แล้วไหนละ ธรรมชาติ” ชายชรากล่าวพร้อมกับแผ่มือไปรอบตัว ให้เศรษฐีมองไปรอบๆตัวของเขา เศรษฐีมองไปรอบตัวของเขาเอง ทั้งทำหน้ายุ่งคิ้วขมวด ไม่นานนัก เขาก็ทรุดลงกับพื้น มือสองข้างกุมขมับ ชายชราเดินผ่านเศรษฐีผู้นี้ไปพร้อมพูดต่ออีกว่า “หยุดเถิด มันไม่ได้น่าอยู่หรอก เพียงแต่น่าลงทุนเท่านั้น” เศรษฐีพลันคิด ภาพที่ตนมองเมื่อสักครู่ เค้าเห็น ผู้คนเดินเบียดเสียดไปมาบนถนน ต่างคนต่างเร่งรีบ ไร้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ไม่มีแม้คนสนใจซึ่งกันและกัน เมืองท่องเที่ยวจากนี้ไม่ใช่อีกแล้ว เพียงแต่เป็นเมืองแห่งเศรษฐกิจ เมืองแห่งนักลงทุน ผู้มีฐานะที่มีเงินพร้อมที่จะซื้อความสุขให้ตนเอง แล้วไหนละ ความสุขที่เคยมี เศรษฐีคนนี้ หัวใจวายตายจากไปหลังจากที่คิดได้ แล้วเมืองเมืองนี้ก็พัฒนาต่อไปเรื่อยๆ มีผู้คนย้ายเข้ามาอาศัยกันเพิ่มขึ้น ตึกสูงระฟ้ามีเพิ่มขึ้นมากมาย และในหลายปีต่อมาก็หมดแล้วซึ่งทรัพยาการจากธรรมชาติ เหลือเพียงแต่ สิ่งปลูกสร้างจากมือมนุษย์

       

      ลูกอมรสสาเก

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×