ไม่ต้องปิดเทอมใหญ่ หัวใจก็ว้าวุ่นได้เหมือนๆกัน - ไม่ต้องปิดเทอมใหญ่ หัวใจก็ว้าวุ่นได้เหมือนๆกัน นิยาย ไม่ต้องปิดเทอมใหญ่ หัวใจก็ว้าวุ่นได้เหมือนๆกัน : Dek-D.com - Writer

    ไม่ต้องปิดเทอมใหญ่ หัวใจก็ว้าวุ่นได้เหมือนๆกัน

    ไม่จำเป็นต้องให้รอจนถึงปิดเทอมใหญ่ เพราะมันคงสายเกินไปถ้านึกได้ตอนนั้น

    ผู้เข้าชมรวม

    39

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    39

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ต.ค. 56 / 13:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      UEE M?l?dy

      ปิดเทอม

      หลายคนคงจะมีความสุขสุดๆเมื่อนึกถึงคำๆนี้เมื่อสักเดือนก่อน เวลาแห่งการพักผ่อน หลังจากที่เราอยู่กับการเรียนมาตลอดหลายเดือน เจอกับอาจารย์สุดโหด วิชาแสนน่าเบื่อ รวมถึงข้อสอบมหาประลัยทั้งหลายแหล่

      แต่พอปิดเทอมมาได้สักพัก บางคนก็เริ่มมืออาการ “เบื่อ” ปิดเทอมกันขึ้นมาซะอย่างนั้น

      แต่ความเบื่อปิดเทอมนั้นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเสมอสำหรับฉัน แต่ปีนี้ มันมีอย่างอื่นที่เพิ่มขึ้นมา

      ความรู้สึกเหงาๆแปลกๆเมื่อนึกถึงว่า......

      อีกไม่กี่เดือนเราก็จะจบม.3แล้วนะ

      เพื่อนๆที่อยู่ในห้องเรียนเดียวกันมาตั้งแต่ม.1 เคยพูดคุยในห้องเรียนถึงอนาคต

      บางคนก็จะไปเรียนต่อสายอาชีพ มีน้อยคนนักที่จะตัดสินใจต่อม.4ที่น.พ.แห่งนี้

      ฉันเป็นคนหนึ่งที่ตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะเรียนต่อที่นี่

      นั่นก็หมายความว่า เวลาที่พวกเราจะได้อยู่ด้วยกัน ได้เล่นไร้สาระ ลอกการบ้านกัน ได้สนุกสนานด้วยกัน ได้ร่วมกันแก้ปัญหาต่างๆ ได้เติบโตไปด้วยกัน มันก็เหลือน้อยลงเรื่อยๆ

      จากเด็กๆตัวกะเปี๊ยก น้องสุดของน.พ. ตอนนี้ได้เติบโตขึ้นมาเป็นพี่ใหญ่ของม.ต้น และหลายคนๆโตพอที่จะก้าวออกจากรังดักแด้รั้วน.พ.ไปเผชิญกับโลกความเป็นจริงภายนอก ออกไปเผชิญชีวิต เรียนรู้สังคมใหม่ๆ ได้พบเพื่อนใหม่

      ทุกคนมีทางของตัวเองที่จะต้องเดินไป และรู้ดีว่าหยุดมันไม่ได้

      ใจหนึ่งฉันก็ชื่นชมเพื่อนๆที่ตัดสินใจออกไปเผชิญโลก พวกเขากล้าจะพบกับอุปสรรคและชีวิตจริง

      แต่ฉันเองก็เชื่อว่าฉันยังไม่พร้อมที่จะก้าวออกไปจากรั้วนี้

      พอมาคิดดูแล้ว ตลอดเกือบสามปีที่ได้อยู่ด้วยกัน พวกเราได้พบกับเรื่องราวมากมายทั้งดีและไม่ดี เป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่ฉันจะไม่มีวันลืม แต่น่าเสียดายอยู่อย่างหนึ่ง

      เพราะเมื่อผ่านพ้นเดือนมีนาคมปีหน้าไปแล้ว เราคงไม่มีวันเวลานั้นอีก

      ตอนนี้เราเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนเท่านั้นที่จะได้สนุกสนานกับชีวิตม.ต้น

      เมื่อวันแก้0 ร วันที่สอง ขณะที่เดินไปที่หน้าโรงเรียน ฉันก็นึกขึ้นมาได้

      ปีหน้า ยังจะมีทีมยูนิฟายอยู่ไหมนะ

      ปีหน้ายังมีคนชอบหัวเราะเสียงดังๆอยู่รึเปล่า

      ปีหน้ายังคงมีนักศิลป์นั่งวาดรูปในวิชาคณิตมั้ย

      แล้วปีหน้าน่ะ จะมีคนแอบเล่นโทรศัพท์ในห้องเรียนหรือป้ายฟ้าทะลายโจรใส่ปากเพื่อนอีกหรือไม่

      ชีวิตพวกเราอยู่ที่หัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ แต่ขณะเดียวกันมันก็เป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่จะได้อยู่ด้วยกัน

      ปีหน้า ฉันคงคิดถึงเสียงหัวเราะลั่นโรงเรียน

      คนที่ขี้เกียจมัดผมและมาให้เพื่อนช่วยมัดให้ทุกเช้า

      เสียงเรียกหาต้นฉบับการบ้าน

      เสียงโวยวายเวลาอ่านไม่ออก

      เสียงกีตาร์ยามเช้ากับเสียงร้องเพลงที่เหมือนเสียงสวดมนต์?มากกว่า

      ความประพฤติสุดบ๊องในวันฝนตกน้ำขังที่บริเวณ

      กระป๋องแป้งที่แชร์กันใช้และหมดภายในไม่กี่วัน

      เสียงด่ากันข้ามโต๊ะ

      และคนบ้ากล้องที่ชอบแอ๊บถ่ายรูปในเวลาว่าง

      ใครจะไปคิดล่ะเนอะ ว่าอะไรที่เรารำคาญ จะกลายเป็นอะไรที่เราคิดถึงเวลาคิดถึงเวลาเก่าๆ

      ปีหน้าก็คงจะเหลือแค่ความทรงจำเท่านั้น

      สำหรับฉัน ที่ไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวที่ไหน แถมไม่รู้จักถนนหนทาง ก็เหลืออยู่แค่นั้น

      หลายๆคนคงจะสงสัย ว่าฉันเขียนนิยายบ้าบอ ที่มีเพื่อนเป็นตัวละคร ตัวเอกทั้งหลายแหล่นั้นไปเพื่ออะไร

      ตอนนี้ฉันกล้าพูดได้เต็มปากว่า เพื่อนึกถึงเวลาที่พวกเรายังอยู่ด้วยกัน ได้ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานด้วยกันในรั้วฟ้าขาวนี้ เมื่อไหร่ที่จากกันไป ฉันก็จะมีอะไรไว้นึกถึง

      และฉันคิดว่า เรื่องราวพวกนี้คงไม่มีวันจบ เพราะเมื่อนึกถึงพวกเราขึ้นมา ฉันก็ยังเขียนมันต่อไปได้เรื่อยๆและฉันเชื่อว่าต่อให้ผ่านไปอีกสักสิบปี ตราบใดที่ชีวิตประจำวันฉันยังมีเวลาว่าง เรื่องราวของพวกเราก็จะดำเนินต่อไป ถึงแม้พวกเราอาจไปได้เจอกันอีกเลยก็ตาม

      By
      WAN

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×