ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Truth untold : แฟ้มลับคดีพิศวง

    ลำดับตอนที่ #3 : (III) A storm in a teacup

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 53
      0
      8 ต.ค. 64

    แรงระเบิดทำให้ประตูไม้บานใหญ่ลอยข้ามตัวพวกเขาไปอย่างง่ายดายเหมือนกับมันเป็นเพียงแค่เศษกระดาษบางๆชิ้นนึง ฝุ่นและควันกระจายฟุ้งเต็มไปในอากาศบดบังการมองเห็นของเนโรไปโดยปริยาย

                "เกิดบ้าอะไรขึ้นกันว่ะ"เนโรสบถขึ้นพร้อมพยายามตั้งสติให้กับสิ่งที่พึ่งเจอ  

     

    "อัยย์!!!"เขาหันไปดูอาการของอัยย์ โชคดีที่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บมากมีเพียงแค่รอยฟกช้ำตามลำตัวเท่านั้น 

     

    "ฉัน...ไม่เป็นอะไร แค่กๆๆ"อัยย์พยายามพูดบอกเนโรในขณะที่ตัวเองก็สำลักควันจากระเบิดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่  ทั้งสองพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยความทุลักทุเลพลางปัดเศษไม้และฝุ่นที่ติดตามเสื้อผ้า แต่ดูเหมือนว่าปัดยิ่งเท่าไหร่ก็ยิ่งจะได้มาเพิ่มมากเท่านั้น

     

    "ระเบิดเมื่อกี้มันอะไรกัน? ถ้ามีการบุกรุกจริงๆก็ต้องผ่านหัวหน้าที่อยู่ในร้านกาแฟด้านล่างก่อนสิ ตึกนี้มันไม่มีทางเข้าอื่นแล้วนะ แถมนี่ยังเป็นตึกสูงเพียวตึกเดียวในละแวกนี้ด้วย จะเข้าผ่านดาดฟ้าตึกข้างๆมาไม่ได้หรอก" เนโรบอกถึงความเป็นไปได้ของเหตุการณ์เมื่อครู่ อัยย์ตั้งใจฟังสิที่เขาพูดแล้วยิ้มกริ่ม

     

    "ก็ดีที่นายยังมีสมองเหลือกับเขาบ้าง แต่บางทีนายลองมองดูรอบๆก่อนแล้วค่อยพูดจะดีไหม?" อัยย์แซะเนโร พลางจับไหล่ของเขาแล้วชี้ไปภายในห้อง ควันที่เริ่มจางลงทำให้พอมองเห็นสภาพโดยรอบ แรงระเบิดเมื่อครู่ไม่ได้ทำลายเพียงประตูไม้บ้านใหญ่เมื่อกี้แต่ดูเหมือนว่าระเบิดลูกนั้นจะแจกจ่ายความห่วงใยให้แก่ห้องรอบๆ ด้วยความเสียหายเล็กน้อยถึงปานกลางตามระยะทางของแรงระเบิด


     

    "ฉันบอกกี่ครั้งแล้ว ห๊ะ?  แซ๊ค ว่าอย่ามายุ่งของในตู้เย็นชาวบ้านเขา" น้ำเสียงเกรี้ยวกราดดุจมังกรพิโรธดังขึ้นมาจากภายในห้อง เนโรและอัยย์เดินไปเกาะขอบประตูเพื่อชะโงกหน้าดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ 

    ที่มาของเสียงคือหญิงสาวผมสีส้มรวบหางม้า สวมเสื้อครอปท้อปสีขาว เข็มขัดใส่อุปกรณ์สำหรับการซ่อมเครื่องจักร เธอถือระเบิดเมเจียอยู่ในมือ เมื่อเห็นดังนั้นดูเหมือนว่าทั้งคู่ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะพอจะรู้แล้วว่าเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

    "แค่เค้กชิ้นเดียวเองน่า ทริช หยวนๆกันหน่อยเถอะน่าแหะๆ" แซ๊คขอโทษไปพร้อมหลบห่าระเบิดของทริชที่โยนเข้าใส่เขาอย่างไม่ขาดสาย

     

     " "แค่" เหรอ อีตาบ้า  ฉันไม่ได้ไปยืนต่อแถวมาทั้งวันเพื่อให้นายกินเข้าไปนะยะ" คำพูดของเขาดูเหมือนมันจะยิ่งบันดาลโทสะ ให้อารมณ์ของเธอใกล้ถึงคำว่า ฟิวส์ขาด เข้าทุกที  

    อัยย์เพ่งมองอีกฝากนึงของห้อง เอลฟ์สาวตนนึงนั่งจิบกาแฟพร้อมทั้งอ่านหนังสืออย่างสบายใจ ทั้งๆที่ระเบิดของ    ทริชนั้นพึ่งจะเฉียดหน้าเธอไปโดยไม่ถึงนิ้ว อัยย์เห็นแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงยังมีกะจิตกะใจอ่านหนังสืออยู่ทั้งๆที่ข้างหลังของเธอนั้นแทบจะกลายเป็นสนามรบอย่างสมบูรณ์แบบ ขาดแต่ก็เพียงแค่ศพของทหารราบแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่  เพราะเมื่อครู่เธอและเนโรก็เกือบจะกลายเป็นศพเพื่อสังเวยให้กับเค้กสุดพิเศษของทริชเสียแล้ว


           "กลับมาแล้ว เหรอ? เมี๊ยว" แมวเหมียวสีแสดลอยมาทักทายทัั้งสองด้วยรอยยิ้มพร้อมทั้งแมวจิ๋วที่นั่งบนตัวของมันด้วย "แอ๊ว~~~" เจ้าแมวจิ๋วที่เกาะอยู่บนหลังของลีโอ ร้องทักทายพวกเขาที่พึ่งได้เจอกันเป็นครั้งแรกในรอบวัน

    "เห็นมั้ยยล่ะใครๆก็ดีใจที่ได้เจอพวกเจ้า"เจ้าแมวบอกอัยย์ที่กำลังรู้สึกเบลอๆกับสิ่งที่เธอได้เห็นตรงหน้า "เอาจริงๆนะลีโอ ถึงฉันจะอยู่กับพวกนายที่นี่มาได้สองปีกว่าๆแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่ชินเรื่องแบบนี้สักที" เธอเดินเข้าห้องมาในขณะที่สายตาก็ยังจับจ้องไปที่ การต่อสู้เพื่อแก้แค้นให้เค้กแสนรัก ที่ดูเหมือนว่าไม่มีทีท่าจะจบลง

    "คิ้กๆ เอาน่าก็ฉันก็จะบอกเธอเหมือนอย่างที่ฉันบอกกับเธอวันแรกนั่นแหละ "เดี๋ยวเธอก็ชิน" เนอะ ฟูฟู"  

    "แอ๊ว~~~" เจ้าจิ๋วขานรับสิ่งที่ลีโอพูด รูปร่างของมันเป็นแมวเปอร์เซีย สีขาวล้วน เหมือนปกติแต่ดูเหมือนจะติดที่ว่าตัวมันมีขนาดเท่าแอปเปิ้ลสองลูกเรียงซ้อนกันเท่านั้น ซึ่งต่างจากลีโอที่ดูอวบอ้วน นุ่มนิ่ม (น่าจะอยู่ดีกินดีเกินไป)

    "เอ่ออ คุณเยนนิเฟอร์ คะ พอจะเห็น คุณซินดี้ไหม?" เอลฟ์สาวหันมามองคนถามด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หน้าสวยชวนมองของเธอนั้นสะกดทุกคนให้อยู่ในภวังค์ได้ทุกครั้งที่มีการสนทนากันเกิดขึ้น ผมดำยาวสลวยพริ้วไหว ไม่มีใครทราบอายุที่แท้จริงของเธอคนนี้รูปร่างหน้าตาอาจจะเหมือนคนอายุ25แต่ภายในเธออาจจะเป็นยัยแก่หงัมเงือกแล้วก็ได้  อัยย์นึกในใจว่าเธอสามารถมีอายุยืนได้ขนาดนั้นละก็จะขอใช้ชีวิต200ปีแรกไปกับการกินแล้วนอนละกัน

    "ถ้าเป็นซินดี้ละก็....." เยน ชี้นิ้วไปด้านหลังของพวกเธอ หญิงสาวผมสีควันบุหรี่ พร้อมแบกชุดบอกเอกสารสูงท่วมหัวที่ดูเหมือนจะหล่นล้มทับคนแบกให้กลายเป็นกล้วยทับปิ้งได้ทุกเมื่อ

    "เอ่ออ....ให้ฉันช่วยไหมคะ?"อัยย์ถามด้วยความเป็นห่วง

    "ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะแค่นี้เองสบายๆ" ซินดี้เดินโงนเงนพยายามยกเอกสารทั้งหมดไปวางไว้บนโต๊ะได้ทันก่อนที่จะเกิดโศกนาฐกรรมครั้งใหญ่ ใครก็คงไม่อยากให้มีหนังสือพิมพ์ พาดหัวข่าวว่า 

    "พบสาววัยรุ่นตายคากองเอกสารเหตุฝืนยกของหนักเกินไป"  เป็นแน่

    "พวกเธอมาก็ดีแล้วหัวหน้าน่ะมีงานให้พวกเธอทำพอดี" ซินดี้ค้นหา ซองเอกสารนับร้อยที่วางกระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะ "นี่ ไง อะนี่จ้ะะเอาไปเลย"

    เอกสารซองสีน้ำถูกยื่นมาให้อัยย์ เนโรเห็นแล้วจึงขยั้นขยอให้อัยย์เปิดเอกสาร "รู้แล้วละน่า"เธอรีบเปิดซองเอกสารเพื่อดูสิ่งที่อยู่ภายใน มันคือสัญญาว่าจ้างของสำนักงาน 

    "เมื่อไม่กี่วันก่อนมี ผช. คนนึงท่าทางดูรีบร้อน เขามาจ้างพวกเราตามหาลูกสาวของเขาน่ะนะ หัวหน้าเห็นว่าเป็นแค่เรื่องตามหาคนหาย พวกเธอน่าจะทำได้ ออกไปหาอะไรทำบ้างก็ดีเหมือนกันนะ ฉันว่าอย่างน้อยมันก็ดีกว่าจมอยู่ในห้องนี้แหละ" ซิ้นดี้จัดของที่กระจักระจายบนโต๊ะของเธอพร้อมกับอธิบาย 

    อัยย์อ่านเอกสารว่าจ้างอย่างใจจดใจจ่อ

            ‘ ลงนามผู้ว่าจ้าง “ คริสเตียน เซน ”  ’ ลายมือหวัดของเขาทำให้อัยย์คิดถึงลายมือของพ่อเวลาที่เขาสอนการบ้านเขามักจะรีบเขียนจนทำให้เธอไม่เข้าใจสิ่งที่เขาสอน จนสุดท้ายก็ต้องไปให้เพื่อนที่ รร. สอนอยู่ดี รายละเอียดของงานไม่ได้เขียนอะไรไว้เลยนอกจากที่อยู่และเบอร์โทรติดต่อของเจ้าตัว อัยย์พยายามลองกดติดต่อไปอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่มีคนรับสาย

    “คงต้องไปหาถึงที่แล้วละมั้ง” เนโรฉีกยิ้ม ท่าทีดี๊ด๊าของเขาทำให้อัยย์นึกถึงสุนัขที่เจ้าของกำลังจะพาไปเดินเล่นสวนสาธารณะ    “ อยากออกไปข้างนอกขนาดนั้นเลยเหรอ นายน่ะ? ” อัยย์ถอนหายใจลากยาวอากาศช่วงนี้ทำให้ผิวของเธอเหนอะหนะ แถมยังทำให้ผมเหนียวอีก

    “แน่นอน ใครบ้างละที่ไม่อยากออกไปข้างนอกบ้าง” เนโรตอบกลับอัยย์ที่สภาพห่อเหี่ยวเหมือนกับวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว 

    “ พวกนายอย่าบอกนะว่าลืมฉันแล้วนะ พึ่งเจอกันเองจะไปอีกแล้วเนี่ยนะ ” ลีโอลอยมานั่งบนไหล่ของเนโรพร้อมฟูฟูที่นั่งอยู่บนตัว เจ้าแมวตัดพ้อยกใหญ่ “พวกนายคงทำหมดถ้าฉันไม่ได้ไปด้วย ถือสะว่าฉันตามไปคุมงานพวกนายละกันนะ เหมียว” 

    “พักผ่อนเถอะ ไปพรุ่งนี้ก็ไม่สายหรอกน่า” อัยย์พูดพร้อมกับเดินไปที่ห้องนอน คำพูดของเธอทำให้เนโรและลีโอคอตก แต่ทั้งคู่ก็ทำตามที่หญิงสาวบอก

     

     

    พายุโหมกระหน่ำ สายลมอันเกรี้ยวกราดพร้อมกับเสียงฟ้าฝ่าทำให้บรรยากาศไม่ค่อยน่าอภิรมย์สักเท่าไหร่นัก ประกอบกับแสงจากไฟสะท้อนกิ่งไม้ ทำให้เกิดเงาเหมือนกับเงื้อมมือของมัจจุราชที่โผล่มาจากนรกกำลังไขว่คว้าวิญญาณ

    อัยย์อยู่ๆก็ร้องกรี๊ดออกมา จนเนโรที่นอนอยู่ที่พื้นสะดุ้งตื่น เขาขมวดคิ้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อัยย์กรี๊ดตอนนอนหลับ อัยย์ไม่ใช้คนที่กลัวฟ้าร้อง ฟ้าฝ่า ทำให้เขารู้ได้ทันทีเลยว่าเธอกำลังฝันร้าย  “เธอเนี่ยนะ ชอบแบกทุกอย่างไว้กับตัวเองอยู่เรื่อย” เขาบ่นพึมพำ ใบหน้าของหมาป่าหนุ่มที่แสดงออกมามีแต่ความกังวลและความเป็นห่วงติดอยู่ เนโรขึ้นมาบนเตียงพร้อมกับกอดอัยย์ไว้ในอ้อมแขนพลางลูบหัวปลอบเธอจนหลับไป

     




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×