คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Dugeun :: chapter 3 ♡
Chapter 3
ลมหนาวพัดผ่านร่างบางของคนตัวเล็กที่กำลังยืนงุ่นง่านอยู่กับการรดน้ำต้นไม้ในยามเช้า ทำให้ร่างนั้นสั่นเล็กน้อยแต่ก็ยังคงรดน้ำต่อไป
“โง่ !” ปากย่อมไปไวกว่าสิ่งอื่นใด
ผมตะโกนบอกร่างเล็กที่กำลังยืนอยู่ที่ข้างรั้วซึ่งใกล้กับตำแหน่งของผมที่นั่งอยู่ เจ้าม้านั่งหน้าบ้านจงอินช่วงเช้านี่แย่จริงๆ เต็มไปด้วยน้ำแฮะ คงเพราะอากาศหนาวล่ะมั้ง ไอน้ำในอากาศเลยควบแน่นกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ อา ช่างฉลาดจริงๆ นายปาร์ค ชานยอล
“นี่ ว่าใครน่ะ” แบคฮยอนหันมามองหน้าผม คิ้วเล็กเริ่มขมวดกันเป็นปม
“แมวมั้ง รู้ว่าออกมาข้างนอกบ้านแล้วทำไมไม่ใส่เสื้อหนาๆ ah stupid boy” ชานยอลพูดด้วยน้ำเสียงแอบกวนพร้อมลงท้ายด้วยประโยคภาษาอังกฤษเจ็บๆเล็กน้อย
อะ..อะไรนะ สำเนียงภาษาอังกฤษฝรั่งผมทองนั่นมันอะไร สะติวปิด คุ้นๆ สะ-ติว-ปิด อ้อๆ
Stupid = โง่ โอ๊ย ชานยอลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล
“ชานยอล นายว่าฉันอีกแล้วเหรอ !”
“โห นี่โง่สุดๆเพิ่งรู้เหรอ” ชานยอลคนที่มาซื้อซูชิที่ร้านของผม คนที่สงบเสงี่ยมเจียมตัว ชานยอลที่น่ารักในวัยเด็กหายไปไหนแล้วทำไมถึงทิ้งเจ้าเด็กปากจัดคนนี้ไว้ให้ล่ะ นี่ผมต้องทนอยู่ข้างบ้านเขาอีกนานแค่ไหนกัน
ผมยู่หน้าใส่คนตัวสูงที่นั่งจิบอะไรสักอย่างในแก้ว ผมควรจะหาเสื้อที่หนากว่านี้มาใส่จริงๆด้วยแฮะ ถึงแม้จะเป็นช่วงปลายเดือนมีนาคมแล้ว แต่ที่เกาหลียังคงหนาวเล็กน้อย ลมพัดผ่านนี่ทำเอาผมขนลุกซู่ มือแข็งด้วย แต่ผมต้องรดน้ำต้นไม้นี่นา ว่าพลางก็ไม่อยากจะหันไปเสวนากับคนตัวสูงเท่าไร ถึงแม้เมื่อคืนคนที่ว่าเขาว่าโง่นั่นจะเข้ามาช่วยทำแผลให้เขาก็เถอะ แบคฮยอนเดินไปปิดก๊อกน้ำ ตรวจเช็คสภาพนอกบ้านให้เรียบร้อย สองเท้าเล็กพาร่างบางเดินเข้าไปภายในบ้านที่เปิดฮีตเตอร์ไว้พร้อมต้อนรับด้วยความอุ่น แต่เพียงแค่ขาสองข้างยังไม่ถึงหน้าประตู เสียงทุ้มที่คุ้นเคยก็ตะโกนมาอีกครั้ง
“Bye stupid boy : )”
แบคฮยอนหันไปมองร่างสูงที่ยังคงใช้สำเนียงภาษาอังกฤษเริ่ดๆนั่นพูดกับเขาอยู่ก่อนจะเอ่ยปากพูดอะไรโต้กลับไปแต่เสียงโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่ภายในบ้านกลับส่งเสียงดังขึ้นก่อน คนตัวเล็กได้แต่พ่นลมในจมูกอย่างขัดใจก่อนจะเดินเข้าไปภายในบ้านโดยไม่วายปิดประตูเสียงดังใส่ด้วย สองเท้ารีบก้าวไปหาโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะเล็กข้างโซฟาก่อนที่จะรับสาย
“สวัสดีครับ พยอนแบคฮยอนพูดครับ”
(รับสายเสียงขุ่นเชียว ไม่ดีเลยน้า)
“หือ นายเป็นใคร”
(อ้าว จำเพื่อนตัวเองไม่ได้เหรอ คนที่หล่อลากในเกาหลีอ่ะ)
จงอินชัดเจน
“โทรมากวนหรืออะไรแล้วนั่นหายไปไหนทำไมถึงทิ้งเจ้านั่นไว้ แล้วทำไมไม่พาไปด้วยล่ะจงอิน งื้อ เจ้าหูกางนั่นกวนฉันจะแย่แล้ว วันแรกที่มาไม่เห็นจะกวนอะไรเลยอ่ะ งื้อๆๆๆๆ”
ผมชักดิ้นชักงอทำตัวเป็นเด็กๆอย่างกับจงอินจะเห็น ถีบเท้าเข้าที่พื้นเร่าๆเหมือนเด็กโดนผู้ใหญ่ขัดใจ ทำไมผมทำตัวแบบนี้ ไม่ดีเลย ผมไม่ใช่คนแบบนี้สักหน่อย ผมเปลี่ยนไปเพราะเจ้าเด็กนั่น ฮือ
(โห เจ้านั่นแสบขนาดนั้นเลยรึไง ฮ่ะๆ ชานยอลเป็นเด็กน่ารักนะ นายยังไม่เห็นโหมดซีเรียสของเจ้านั่นต่างหาก เป็นจริงเป็นจังต่างจากปกติมากเลยล่ะ เห้ยๆเซฮุนอย่าแตะไอ้นั่น มันร้อนนนนนน)
(โอ๊ยยยยยยยย แง้ จงอิน ไอ่ดำบ้าทำไมเพิ่งบอก ฮือ เจ็บบบบบบบบบบบบบบบบบบบ)
(แบคฮยอนแค่นี้ก่อนนะ เซฮุนทำเรื่องแล้ว บายๆไว้คุยกัน)
เสียงของจงอินที่ร้องห้ามเซฮุนไม่ให้แตะอะไรสักอย่างดังขึ้นแต่ก็ไม่ทัน เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อยและความเงียบไปประมาณเกือบสิบวินาทีก่อนที่จงอินจะกรอกคำพูดใส่โทรศัพท์เป็นเชิงขอวางสายไปจัดการกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อน ผมรับคำก่อนจะวางโทรศัพท์ลง ยังไม่ทันจะคุยกันรู้เรื่องเลย เฮ้อ แล้วอีกราวๆชั่วโมงนึงผมก็ต้องออกไปที่ร้านแล้ว พี่ลู่หานโทรมาบอกว่าเช้านี้พี่เขาจะเปิดร้านให้เอง เป็นความคิดที่ดีเหมือนกันเพราะผมจะได้ไม่ต้องไปเร็วกว่าปกติ เพราะผมต้องไปก่อนเวลาเปิดร้านซึ่งก็คือ8โมงเช้าก่อนล่วงหน้าประมาณ1ชั่วโมงครึ่งแต่ตอนนี้มีเวลาเหลือแค่ประมาณ1ชม.เท่านั้น เป็นเพราะเมื่อคืนแท้ๆที่ผมนอนไม่หลับ กว่าจะหลับได้ก็เกือบตี2เข้าไปแล้ว
ผมพาสองเท้าขึ้นไปบนห้องนอนก่อนจะเลือกเสื้อผ้าตั้งไว้ หยิบผ้าขนหนูก่อนจะเดินเข้าไปภายในห้องน้ำ ผมใช้เวลาแค่20นาทีในการอาบน้ำและแต่งตัว ผมเลือกเสื้อที่หนากว่าปกติเล็กน้อยกับกางแกงสีดำเข้าชุดกัน ตรวจดูสภาพความเรียบร้อยในห้องจนทั่ว จัดการปิดสวิตซ์ไฟและลงคัทเอาท์ กลัวไฟฟ้าลัดวงจรนี่นา เกิดกลับมาไฟไหม้บ้านทั้งหลังแล้วแย่แน่ๆ
ฮ้า ได้เวลาขายซูชิแล้ว
JJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJJ
“แบคฮยอนเดี๋ยวเอาจานนี้ไปเสิร์ฟโต๊ะสองหน่อยนะ ส่วนโต๊ะสามสั่งน้ำชาเขียวปั่น” พี่ลู่หานบอกผมอย่างรีบๆก่อนที่เจ้าตัวจะหันหน้าไปวุ่นวายกับซูชิละลานตาตรงหน้าต่อไป ผมรับจานมาก่อนจะเดินไปเสิร์ฟ ทำไมวันนี้คนเยอะจริงๆ ทำเอาผมขาแทบขวิดตั้งหลายครั้ง แบบนี้ควรหาพนักงานเพิ่มแล้วสินะ
“มาแล้วครับ ทานให้อร่อยนะครับ” ผมยิ้มให้กับลูกค้าโต๊ะสองก่อนจะเดินเข้าไปที่เคาเตอร์บาร์เล็กๆด้านในของร้านจัดการทำน้ำชาเขียวปั่นอย่างเชี่ยวชาญ ผมชอบทำพวกเครื่องดื่มแฮะ มีความสุขแปลกๆ และไม่นานนักแก้วใสที่บรรจุน้ำชาเขียวปั่นก็อยู่ตรงหน้า ผมเดินเข้าไปหมายจะตั้งให้ลูกค้าโต๊ะที่สามแต่มันกลับ..
เหวออออ ผมสะดุดขาตัวเอง เหมือนภาพตรงหน้าสโลโมชั่น หน้าของผมกำลังจะล้มลงไปฟาดพื้นแล้ว ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
“ซุ่มซ่าม” มือหนาเอื้อมมือมาคว้าเอวผมไว้ก่อนที่มืออีกข้างจะช่วยจับถาดและแก้วเสิร์ฟชาเขียวของผมไว้ทันท่วงที
“ขะ..ขอบคุณนะ” ผมขอบคุณอ้อมแอ้มก่อนจะแกะมือปลาหมึกนั่นออกเพรารู้สึกแปลกๆ อีกทั้งเขาเป็นใครก็ยังไม่รู้เลย เป็นผู้ชายแหงๆ
“stupid boy ซุ่มซ่ามจังเลย ไม่ดีนะ”
“ชานยอล !”
ผมรู้สึกอยากเอาหน้าฟาดพื้นมากเมื่อรู้ว่าคนที่ช่วยผมเมื่อกี้คือเจ้าเด็กข้างบ้านญาติของจงอิน วันนี้จะมาวุ่นวายอะไรอีกล่ะ
“อย่าเสียงดังสิ ไปเสิร์ฟได้แล้ว” มือหนาดันหลังผมให้ไปเสิร์ฟน้ำชาเขียวปั่นที่โต๊ะสามก่อนที่ตัวเองจะเดินไปนั่งเก้าอี้ว่างที่บาร์เครื่องดื่ม
“นี่ คนเยอะจัง ขยายร้านได้แล้วนะ”
“อื้ม รู้น่า”
ผมเดินวกกลับไปด้านหน้าของร้านเพื่อเก็บจานและแก้วเครื่องดื่มของโต๊ะ1 และเดินนำมันมาไว้ที่ซิงค์อ่างล้านจานที่อยู่ถัดจากบาร์เครื่องดื่มออกไปไม่ไกล คนตัวสูงที่นั่งอยู่หันหน้ามาหาผมก่อนจะเอ่ยบอก โอเคๆ เข้าใจๆ ผมก็อยากจะขยายร้านเหมือนกัน เดี๋ยวจะลองปรึกษาพ่อกับแม่ดู
“สมัครเป็นพนักงานได้ป่ะ”
“หือ ไม่ได้”
“อะไร ก็เห็นอยู่ว่าต้องการพนักงานเพิ่มชัดๆ”
“โอ๊ย ก็บอกว่าไม่ได้ไงชานยอล ต้องขอพี่ลู่หานก่อน”
“อ่อ คนที่อยู่หน้าร้านน่ะเหรอ โอเค”
ไม่ว่าเปล่าชานยอลลุกขึ้นเดินไปหาพี่ลู่หานและพูดอะไรกันสักพัก ไม่นานนักคนตัวสูงก็เดินกลับมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ผมรู้คำตอบแล้วล่ะ
“เป็นพนักงานแล้วอย่าขี้เกียจละกัน”
“ครับผม”
“ไปหยิบผ้ากันเปื้อนสีส้มที่ตั้งอยู่หลังร้านนะ ข้างตู้เย็นอ่ะ แล้วมาใส่ซะ รอฟังออเดอร์ของลูกค้า รับจานเสิร์ฟจากพี่ลู่หาน เข้าใจมั้ย”
ชานยอลพยักหน้าประมาณว่าเข้าใจแล้วก่อนจะเดินหายไปหลังร้านเพื่อไปเอาผ้ากันเปื้อน มันเป็นอิมเมจของร้านน่ะ ต้องใส่ผ้ากันเปื้อนสีส้ม ผมคิดเองล่ะ วันนี้คนเยอะจริงๆด้วยแฮะ ผมคิดว่าแค่ช่วงสายๆเท่านั้นที่คนเยอะแต่มันเยอะทั้งวัน ตอนนี้ก็เย็นแล้วด้วย นี่ผมคิดราคาผิดไปรึเปล่า หรือพวกลูกค้าเข้าใจว่ามันลดราคามีโปรโมชั่นเลยแห่กันมากิน ถ้าพวกเขามาเพราะซูชิอร่อยราคาเป็นกันเอง ร้านสวยผมจะรู้สึกขอบคุณมากๆ ปริ่มเว่อ
“เหม่อไรอยู่ หูหนวกอ่อ พี่ลู่หานเรียกไปรับจานนู่น” ชานยอลเดินมาเคาะหัวผมสองที ไม่เบาและไม่แรง ผมตกใจนิดหน่อย นี่คิดว่ามือตัวเองเล็กรึยังไงเคาะมาได้ ไม่เคาะให้กะโหลกยุบเลยล่ะ ยู่หน้าใส่เจ้านั่นเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะเดินไปรับจานจากพี่ลู่หานเพื่อนำไปเสิร์ฟ
“เหนื่อยล่ะสิแบคฮยอน ฮ่ะๆ ดีนะที่มีเจ้าเด็กนั่นช่วยน่ะ”
“เหอะ ช่วยให้ยุ่งนะสิไม่ว่า”
“ว่าผมเหรอ น้อยใจจัง (. .)”
มาได้ไง โอ้ พระเจ้า ผมจะบ้าตายกับปาร์ค ชานยอล โผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียง
“อะไร ใครว่า มายืนอู้งานรึไง ป่ะๆเอาไปเสิร์ฟโต๊ะ6 นู่นโต๊ะ2รอรับออเดอร์อยู่” ผมผลักคนตัวสูงไปก่อนจะสบถอะไรเบาๆเล็กน้อย
“ทะเลาะกันอย่างกับคู่ข้าวมันไก่ต้มหัวมัน น่ารักจังเลยน้า” พี่ลู่หานพูดว่าอะไรนะ
“เอ่อ เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะ”
“ก็คู่ข้าวมันไก่ต้มหัวมันไง”
“ข้ามใหม่ปลามันต่างหาก 555555555555555555555555555555555555555555”
ผมยืนหัวเราะเพราะพี่ลู่หานอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงหัวเราะของผมที่ดังขึ้นเรื่อยๆทำให้ชานยอลที่อยู่ไม่ไกลออกไปหันมามองด้วยท่าทางฉงน พี่ลู่หานตกวิชานี้สินะ สำนวนน่าเกลียดจริงจัง ข้าวมันไก่กับต้มหัวมัน โอ๊ย พี่ลู่หานโคตรจะตลกคาเฟ่
“หัวเราะปากกว้างน่าเกลียดอ่ะ” ชานยอลเดินมาใกล้กับผมก่อนจะป้องปากบอกและทำท่าทางรังเกียจอย่างสุดซึ้ง อ้าว น้องชานยอลวอนแล้วไงครับ
ผมหยุดหัวเราะกึกก่อนจะตวัดสายตามองไอ้คนตัวสูงตรงหน้า จะสูงเอาโล่รึไง จะคุยด้วยกันครั้งนึงผมต้องเงยหน้าตลอด เกิดมาสูงน้อยกว่านี่มันน่าน้อยใจยิ่งนัก
“ปากเสีย”
ผมยิ้มหวานให้ก่อนจะพูดคำที่ผมคิดไว้ออกมา
“อ้าว ไปทำงานต่อกันได้แล้ว มัวแต่ทะเลาะกันง้องแง้งอยู่ได้ โห่ย” พี่ลู่หานโบกมือไล่พวกเราไปทำงานต่อ ผมเลยตัดสินใจไปล้างจาน ส่วนชานยอลก็ไปรอรับออเดอร์จากลูกค้าเหมือนเดิม ร้านของผมถึงจะลูกค้าเยอะยังไงผมก็ไม่เคยรับพนักงานเพิ่มอาจจะเพราะไม่สนิทด้วยเหมือนพี่ลู่หานล่ะมั้ง ส่วนชานยอลนี่กรณีพิเศษไปขอพี่ลู่หานยังไงก็ไม่รู้ ได้เป็นพนักงานเลยไง
ผมจัดการแยกจานและแก้วออก ล้างด้วยน้ำเปล่าและตั้งไว้แยกจากกันเป็นส่วนๆ หยิบฟองน้ำ บีบน้ำยาล้างจานใส่ก่อนจะขยำให้เป็นฟอง หยิบจานขึ้นมาและจัดการถูให้ความสกปรกออก เพลงที่เปิดไว้ก็แรนดอมขึ้นมาเป็นเพลงทูกึน ทูกึน อ๋า ผมชอบเพลงนี้นะ มันหวานมาเลยล่ะ ผมล้างจานไปด้วยก็ร้องเพลงคลอไปด้วยเบาๆ
“นี่ร้องเพลงเป็นด้วยเหรอ”
“แน่นอน” ผมหันไปตอบและยิ้มเผล่ให้คนตัวสูงที่เอาจานมาตั้งไว้ที่ซิงค์ล้างจานก่อนจะเริ่มร้องเพลงต่อไป
“เสียงเพราะดีนะ น่ารักดี”
“อ่า ขอบคุณนะ”
ชานยอลนึกคึกอะไรมาชมผม ผมหันไปขอบคุณให้อีกครั้งด้วยความประหลาดใจ แต่คนตัวสูงหันหลังเดินกลับไปหน้าร้านก่อนแล้วน่ะสิ
แล้ว..ทำไมตอนนี้ผมต้องยิ้มด้วยล่ะเนี่ย ?
Talk
มาแล้ววว เอามาเสิร์ฟร้อนๆพร้อมซูชิอีกครั้ง
เอนจอยรีดดิ้งเน้อ อิ______อิ
เสียใจไม่ได้ไปซุปเปอร์จอยท์ ไม่ได้ไปมีตคิบอม #พราก
TT_________________TT
ความคิดเห็น