คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : { SF } M r. s i m p l e - ค น ธ ร ร ม ด า
Song - คนธรรมดา SUNSHINE
Mr. simple
ค น ธ ร ร ม ด า
เด็กหนุ่มตัวเล็กในชุดนักเรียนที่เคยเป็นสีขาวแต่ตอนนี้ค่อนจะเหลือง เดินทอดน่องจากบ้านหลังเล็กของตัวเองไปยังโรงเรียนแห่งใหม่ ครอบครัวที่มีแม่มีพี่ชายแต่ไม่มีเสาหลักของครอบครัว.... ทงเฮเข้าใจมันดี
ทงเฮเหมือนเป็นเด็กยากจนแต่จริงๆแล้วก็จนจริงๆนั่นแหละ ไปเรียนในแต่ละวันก็โดนเพื่อนแกล้งตลอด แต่ทงเฮไม่ใช่คนอ่อนแอ ทงเฮเป็นคนเข้มแข็ง เข้มแข็งมากๆด้วย
“แฮ่กๆนี่นายคนนั้นน่ะ จะไปโรงเรียนเหมือนกันใช่มั้ย ขอไปด้วยคนสิ”
เด็กผู้ชายผิวขาวเหมือนหยวก ปากแดง ตากลมโต โคตรโมเอ้เลย... ทำให้ทงเฮตกปากรับคำไปไม่ยากนัก
“ได้สิ เราทงเฮนะ”
“อื้ม เราฮยอกแจ ยินดีที่ได้รู้จักนะทงเฮ”
หลังจากวันนั้นมันทำให้เขารับรู้ถึงความรู้สึกแปลกใหม่ มันเป็นทั้งความสุขและความทุกข์ ลองมาเป็นทงเฮดิ โคตรจะเข้าใจในความรู้สึกนี้เลย
ผลั่ก
“เฮ้ย ไรวะ แค่นี้ให้ไม่ได้รึไง ไอ้หมาหวงก้าง”
คังอินเด็กหนุ่มวัยสิบสองขวบ ผลักอกทงเฮอย่างแรง ด้วยความที่ทงเฮตัวเล็กกว่า เลยล้มลงไปอย่างเสียไม่ได้
ไอ่เหี้ยยยยยยยย มากไปแล้ว เสื้อตัวใหม่ที่แม่ซื้อให้เปื้อนเศษดิน.....
ผัวะ
ทงเฮต่อยคังอินกลับ บอกแล้วไงทงเฮไม่ใช่คนอ่อนแอ
“ทงเฮ! อย่าทำเขา!”
และกี่ครั้งๆก็จะมีเพื่อนตัวเล็กอย่างฮยอกแจคนนี้ที่คอยห้ามปรามเขาตลอด เขารู้ดีกว่าฮยอกแจห่วงเขาในฐานะเพื่อน รู้มาตลอด...
“หึ เพราะฮยอกแจขอไว้หรอกนะ”
ทงเฮหันไปส่งสายตาเหี้ยมเกรียมให้เหล่าก๊วนเด็กซ่าอย่างคังอินก่อนจะปัดเศษดินบนเสื้อแล้วจูงมือฮยอกแจไปที่ซุ้มริมสนามฟุตบอล
“ทงเฮไปต่อยเขาทำไม”
“.........................”
“บอกมาดิ เป็นห่วงนะ”
“รู้น่า ก็แค่คังอินมันมาหาเรื่องก่อน”
“ยังไงๆ รีบเล่าดิ อยากรู้อ่ะ อยากรู้”
ทงเฮอยากจะบอกไปใจแทบขาด อยากบอกว่าคังอินมันจะจีบมึงนะฮยอกแจ จะให้ได้ไง กูหวงเข้าใจมั้ย กูหวง แต่ก็ทำไม่ได้ ทงเฮเข้าใจดี....
“ก็เล่นบอลอยู่ดีๆมันก็มาผลักอ่ะ ยอมได้ไง”
“อ๋ออ แต่ทงเฮอย่าไปต่อยเขาอย่างนั้นดิ เดี๋ยวก็โดนเข้าห้องปกครองหรอก”
ฮยอกแจจะรู้มั้ย ที่ฮยอกแจห่วงเขาแบบในฐานะเพื่อนมาตลอดมันทำให้เขาเจ็บ
“เฮ้ย หายไปไหนวะ เพิ่งซื้อมาใหม่เนี่ย ไอ่เชี่ยตัวไหนหยิบไปอีก”
ทงเฮรื้อหนังสือสมุดใต้โต๊ะเรียน รื้อกระเป๋าก็แล้วเดินหาใต้โต๊ะทุกคนทั่วห้องแล้วก็ยังไม่เจอ กระเป๋าดินสอและพวกดินสอปากกาใหม่ๆอยู่ในนั้นทั้งนั้น เพิ่งซื้อด้วย รู้มั้ยมันแพง ไอ้เหี้ยตัวไหนเอาไป อย่าให้กูรู้นะ กูเอาแย้ปล่อยใต้โต๊ะมึงแน่
“ทงเฮหาไรอ่ะ”
เสียงใสๆของเด็กชายที่นั่งโต๊ะข้างๆเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นทงเฮรื้อหาอะไรสักอย่างอยู่นานแล้ว สบถด่าด้วย น่ากลัวอ่ะ
“ไม่รู้ไอ้เหี้ยตัวไหนเอากระเป๋าดินสอไปแอบ เพิ่งซื้อมาใหม่ด้วย”
“เอาของเราไปใช้ก่อนก็ได้ มีเยอะเรารวย ฮ่ะๆ”
ทงเฮอมยิ้มเล็กๆก่อนจะรับปากกามาถือไว้ ทงเฮเข้าใจในประโยคของฮยอกแจ ที่บอกว่ารวยอ่ะ จะทำให้เขาไม่ต้องเป็นห่วงไง น้องฮยอกแจน่าวร็อกอีกแล้ว
ตั้งแต่วันที่เราพบเจอกันมา ฉันเตีอนตัวเองว่าฉันเป็นใครเสมอ สิ่งที่ฉันเรียนรู้ทุกทีที่ใกล้เธอ ฉันควรจะต้องรักษาระยะห่างไว้
ทงเฮนั่งเขียนสมุดบันทึกรายรับรายจ่ายในแต่ละวันตรงโต๊ะริมหน้าต่างห้องนอนในบ้านหลังเล็กๆไม่ใหญ่เท่าบ้านฮยอกแจ ฮยอกแจรวย ทงเฮจน ฮยอกแจมีคนชอบเยอะแยะ ทงเฮมีคนเกลียดเป็นล้าน
เขียนไปเรื่อยๆก็เริ่มง่วงก่อนสายตาจะเหลือบไปเห็นสมุดไดอารีเล่มเล็ก ทงเฮยิ้มกับตัวเองก่อนจะเปิดสมุดบันทึกเล่มนั้นเพื่อบันทึกอะไรบางอย่างลงไปเหมือนทุกๆวัน.....
แฮ่กๆ
ทงเฮวิ่งอย่างเหนื่อยหอบ ไม่ต้องถามว่าเพราะใคร จะใครอีกล่ะ ถ้าไม่ใช่น้องฮยอกแจของพี่ทงเฮ วันนี้ฮยอกแจเชิญธงชาติทั้งที พี่ทงเฮคนนี้อยากจะเคียงคู่น้องฮยอกแจนะ เพราะในห้องจะเลือกคนเชิญธงมาหนึ่งคนและให้คนๆนั้นเลือกคู่เอาเองว่าจะไปเชิญธงชาติกับใคร ทงเฮอยากเป็นคนๆนั้นของฮยอกแจมากแต่วันนี้ก็ตื่นสายซะได้
ทงเฮเบรกตัวเลี้ยวตัวแทบติดพื้นเหมือนงานมอเตอร์โชว์ เวลารถมอเตอร์ไซค์ขับเร็วๆแล้วเลี้ยวอ่ะ แบบนั้นเลย
‘ขอเชิญนักเรียนสายชั้นป.6เชิญธงชาติด้วยค่ะ’
ทงเฮแทบกระโดดเข้าไปในแถวไม่ทัน โคตรพอดีกับเวลา ใจงี้เต้นตึกๆ ทั้งเหนื่อยทั้งอาย เมื่อกี้เขาเห็นนะว่ามีสาวๆแอบมองเขาแล้วหัวเราะ ตลกมากรึไง
ทงเฮกวาดสายตาหาฮยอกแจก่อนจะเจอเมื่อเห็นว่าฮยอกแจก็หาทงเฮอยู่เหมือนกัน
“ทงเฮ เชิญธงชาติกับเรานะ”
โคตรฟินนนนนนนน
อยากตะโกนให้ทุกคนบนโลกรับรู้ว่าพี่ทงคนนี้โคตรมีความสุขเลย
พรุ่งนี้จะเป็นยังไง ไม่อยากให้ทำร้ายเธอ ฝันของเธออย่าเอามันมาฝากฉันเลย
“ฮยอกแจอยากเป็นไรอ่ะ”
ทงเฮสะกิดถามคนที่นั่งข้างๆ ด้วยความอยากรู้ เท่าที่รู้จักกันมา ทงเฮเห็นฮยอกแจสนใจแค่ไม่กี่อย่าง ไม่ไอติมก็ของหวาน
“เราเหรอ...”
“อื้ม บอกหน่อยดิ”
“อยากเป็นนักร้องน่ะ แต่พ่อคงไม่ให้เป็นหรอก พ่อบอกว่าไร้สาระ”
ทงเฮมองหน้าคนตรงหน้าอย่างรู้สึกสงสาร ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวฮยอกแจเบาๆ
“ไม่เอาน่า เราชื่อว่าสักวันฮยอกแจจะทำได้ ฮยอกแจก็เป็นนักร้องที่โคตรดังเลยดิพ่อจะได้ไม่ว่าไร”
“อื้ม ขอบคุณนะ ทงเฮล่ะอยากเป็นไร”
พอฝ่ายคนตัวเล็กกว่าถามกลับก็ทำเอาทงเฮหุบยิ้มดื้อๆ ทงเฮยังไม่รู้เลยว่าอนาคตจะเป็นยังไง ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร ถึงอยากเป็นไปก็มีแต่อุปสรรค... ความจนนี่ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ
“เป็นอะไรก็ได้ที่จะได้อยู่กับฮยอกแจตลอดไปอ่ะ”
บอกไปแบบนั้น ไม่ใช่สมองคิดนะ หัวใจมันสั่งให้บอก
ปัจฉิมนิเทศ
ป้ายประกาศใหญ่หราวางตั้งไว้หน้าโรงเรียน ทงเฮใจหายวาบที่จะต้องจากโรงเรียนที่มีความทรงจำมากมายของเขากับฮยอกแจไป
“ฮยอกแจ ทางนี้ๆ”
ทงเฮตะโกนเรียกฮยอกแจที่ยืนรอเขาอยู่หน้าป้ายรถโดยสาร ฮยอกแจดูซึมๆแฮะ สงสัยวันนี้มีซีนดราม่าให้เห็นแน่ๆ
หลังจากทำพิธีที่ลานอเนกประสงค์เสร็จ ครูก็ให้แยกย้ายเข้าห้องตัวเอง หลังจากนั้นจะทำอะไรก็แล้วแต่ ห้องเขากับฮยอกแจร้องเพลงปัจฉิมด้วยกัน ตุ๊กตากับขนมเต็มห้องไปหมด บางคนแบกตุ๊กตาตัวเท่าฝาผนังที่บ้านมา ทงเฮนึกเสียดายเงินที่พวกนั้นซื้อไป
ทงเฮนั่งคิดกับตัวเองก่อนจะเหลือบไปมองคนด้านข้าง
เห้ยยยย น้องฮยอกแจของพี่ทงเฮร้องไห้
“เห้ยยย ฮยอกแจเป็นไรอ่ะ อย่าร้องดิ อย่าร้อง”
รู้มั้ยพี่ทงเฮเจ็บปวด
“ฮึกกกก จบแล้วอ่ะจบแล้ว จะไปอยู่ที่อื่นแล้ว คิดถึงที่นี่ตายเลย ฮือออ”
“อย่าร้องน่า ทงเฮก็อยู่กับฮยอกแจตลอดนั่นแหละ มัธยมก็อยู่ด้วยกันอีก คิดไรมาก”
ใช่แล้ว พอรู้ว่าฮยอกแจจะสอบเข้าโรงเรียนไหน ทงเฮก็รีบขยันเรียนทันที ทงเฮไม่ได้โง่นะ แต่ได้ที่20 ในห้องมี 25คน... ส่วนฮยอกแจติดท็อปเท็นตลอด ไม่ที่4ก็ที่5ไม่เกินที่10อ่ะ และทงเฮสอบติดด้วยนะ โคตรซารังเฮหนังสือเรียนเลย
ก็ฉันมันคนธรรมดา ดอกฟ้าคงสูงเกินไป มันไม่มีอะไร ไม่มีอะไรจะเทียบกับเธอ ฉันมันคนธรรมดา ที่ฟ้าแกล้งให้มาเจอ และมันทำให้รู้ ว่าพอได้ยืนข้างๆเธอ ฉันก็ไม่คู่ควร
“ฮิ้วววววววววว น้องฮยอกแจมาแล้ว”
“เออว่ะ มากับไอ้เบื๊อกนั่นอีกแล้ว ตามติดเขาอยู่ได้ น่ารำคาญ”
“แหม เหมาะกันดีออกมึง ดอกฟ้ากับหมาวัดไง ฮ่าๆ”
ตั้งแต่ขึ้นมัธยมมา ทงเฮก็ตามติดคุมฮยอกแจอยู่ตลอด ชอบทำตัวเหมือนหมาหวงก้าง ฮยอกแจก็น่ารักขึ้นทุกที เครียดมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ ไอ่พวกเสียงนกเสียงกาพวกนั้น พูดแม่งไม่คิด ระวังตัวไว้แล้วกัน.....
จากน้องฮยอกแจนะไม่ใช่พี่ทง
“เมื่อกี้พูดว่าไงนะ”
นั่นไง พูดไม่ทันขาดคำ โหมดนี้มาแล้ว
“ฮ่ะๆ ก็ว่าดอกฟ้ากับหมาวัดไงคะน้องฮยอกแจ”
ซ่า
แก้วน้ำโค้กถูกสาดใส่คนที่นั่งหน้าเหียกอยู่ตรงม้านั่งกับก๊วนเพื่อนปากมอมทั้งหลายทันทีที่มันพูดจบ ไอ่พวกนี้ยังไม่รู้ฤทธิ์ของน้องฮยอกแจ คิดแล้วสะใจ
“ทีหลังอย่าเรียกแบบนั้นอีก อย่าว่าทงเฮ! มึงไม่มีสิทธิ์!”
“ฮึ่ย คิดแล้วอารมณ์เสีย มาว่าทงเฮอย่างนั้นได้ไง ขนาดเรายังไม่เคยว่าเลย”
ฮยอกแจทิ้งตัวลงหน้าที่เก้าอี้มาหินอ่อนใกล้ห้องสมุดอย่างอารมณ์เสียก่อนจะปรายตามองหน้าทงเฮ
“แล้วนี่ก็อีกคนยืนนิ่งให้คนอื่นว่านี่สนุกนักเหรอ บ้ารึเปล่า”
ยืนนิ่งตรงไหน เขาแทบจะปราดไปต่อยหน้าไอ่พวกนั้นเรียงตัวแล้ว แต่อยู่ต่อหน้าน้องฮยอกแจทำไม่ได้ แต่ฮยอกแจพลาดไปแล้ว ไม่รู้เหรอทงเฮมีเพื่อนก๊วนใหญ่เลยนะ คยูฮยอนคงช่วยได้อยู่แล้ว เมื่อกี้โทรไปบอกให้จัดการแล้วด้วย
“เอาน่าๆ หยวนๆ วันก่อนเราก็เคยไปแกล้งมันไว้นี่”
นึกถึงวันนั้นแล้วก็ขำ ความคิดฮยอกแจเลยนะนั่น เนื่องจากฮยอกแจบอกว่าไอ้พวกนี้น่ารำคาญ ไม่มาสักวันคงดีไปเยอะ เลยไปหยิบรังมดแดงบนต้นมะม่วงใกล้โรงเรียนมายัดใส่ในชุดพละของพวกนั้นที่ใส่ไว้ในตู้ล็อกเกอร์ใส่ชุดพละปุ๊บ หึยยย ไม่อยากจะคิด นึกแล้วยังฮาไม่หาย ฮยอกแจยิ่งโตยิ่งซ่าส์
“เออดิ สนุกดีออก ฮ่าๆ”
ทงเฮชอบมองตอนฮยอกแจยิ้ม ฮยอกแจโมเอ้มากเวลายิ้ม ฮยอกแจจะรู้มั้ยว่าทำใจพี่ทงสั่นเป็นจังหวะริงดิงดองเลยนะ
มัธยมศึกษาปีที่6 (เร็วมั้ยล่ะ)
เด็กมัธยมศึกษาปีสุดท้ายต่างเคร่งเครียดกับการเอนท์เข้ามหาวิทยาลัย ทงเฮและฮยอกแจก็เป็นหนึ่งในนั้น วันหนึ่งได้นอนไม่กี่ชั่วโมงกลัวเอนท์ไม่ติด จะใช้เวลาอยู่กับหนังสือมากกว่าอยู่กับก๊วนเพื่อนเหมือนเก่า ยิ่งโต ภาระยิ่งเยอะ เหนื่อย
“เฮ้ยยยย ทงเฮ วันนี้มหาลัยXประกาศผลนี่หว่า!”
ฮยอกแจโพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำเอาทงเฮที่นอนอ่านหนังสืออยู่ ตกใจหัวแทบหล่นจากตักฮยอกแจ
ทงเฮแอบใช้ข้ออ้างว่านั่งอ่านแล้วเมื่อย เลยขอนอนตักฮยอกแจแล้วให้ฮยอกแจพิงผนังไป โคตรเก๋อ่ะเรา
“เออจริงด้วย ไปเหอะ คอมห้องสมุด”
“เยสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส”
“โอ๊ยยยย ไอ่เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย ไอ่เหี้ยยมากๆ”
เสียงร้องจากทงเฮและฮยอกแจทำเอาป้าบรรณารักษ์หันมามองแบบส่งจิตสังหารไปด้วยชนิดที่มองแวบเดียว อาจจะไข้ขึ้นไปหลายวัน แต่มันใช้ไม่ได้กับทงเฮและฮยอกแจในตอนนี้
“ไอ่เหี้ยยยย ทงเฮๆ ฮือออ เอนท์ติดๆๆ ฮือออ ดีใจมาก โคตรพ่อโคตรแม่เลยอ่ะ ฮือออ”
ฮยอกแจเขย่าตัวทงเฮอย่างแรงจนทงเฮต้องพยายามแกะมือออก พี่ทงเฮจะอ้วกแล้วครับน้องฮยอกแจ
“ก็เนี่ยติดเหมือนกัน ฮยอกแจ โอ๊ยยยย ช่างแม่งไรละ วันนี้โดด โคตรดีใจ ไปเที่ยวกันแหอะ!”
“โอ๊ยยยย ฮืออ ไม่ไหวแล้ว โดดก็โดด”
ทงเฮพาฮยอกแจมานั่งกินขนมร้านใกล้ๆบ้าน จะบอกว่าร้านนี้อร่อยมากไม่แพงมากด้วย กินทำไมร้านแพงๆแต่ไม่อร่อย
ทงเฮจัดการสั่งเมนูที่ตัวเองชอบก่อนจะสั่งให้ฮยอกแจเหมือนกัน ถ้าฮยอกแจชอบก็แสดงว่าใจเราตรงกัน #ฮิ้ววว
“เฮ้ยยยย อร่อยอ่ะ ชอบๆ นี่เรียกว่าไรอ่ะ”
เหยดดดดดด ฮยอกแจชอบ
I love you
“ชื่อไอเลิฟยู? เจ๋งมาก วันหลังพามากินอีกนะ โคตรรักเลยอ่ะ เกล็ดน้ำแข็งมันนุ่มมากเลยอ่ะทงเฮ ช็อกโกแล็ตก็อร่อยแถมไม่แพงด้วย”
ใช่ที่ไหน ไอเลิฟยูอ่ะ ทงเฮบอกน้องฮยอกแจต่างหาก
อยากจะบอกว่าฮยอกแจเป็นเดือนคณะ ส่วนทงเฮเกือบจะได้เป็น ก็หน้าตาดีอ่ะนะช่วยไม่ได้
“อยู่คนละคณะกันนี่เบื่อจังอ่ะทงเฮ ไม่คอยได้อยู่ด้วยกันเหมือนเก่า”
ทงเฮเป็นเด็กวิศวะ ส่วนฮยอกแจเป็นเดือนนิเทศน์ โคตรจะแตกต่าง
“อืม งานหนักมากอ่ะ เหนื่อยโคตร”
“เหมือนกันแหละ ทงเฮรู้จักซีวอนป่ะ เห็นเขาว่าหล่อกัน”
ไม่รู้จักได้ไง เพื่อนเขาเอง คนเหี้ยไรไม่รู้ โคตรเพอร์เฟ็ค สูง หล่อ เท่ รวย สงสัยชาติก่อนทำบุญมาเยอะ
“รู้จักดิ ก็ดูดี”
“เหรอ อืมๆ พอดีมีคนแกล้งให้เราไปจีบซีวอน บอกว่าเหมาะกันดีน่ะ เหอะๆ คิดได้ไง”
เหมาะกันดี....
ทงเฮเจ็บในอกเหมือนโดนมีดปัก ไม่เคยบอกความรู้สึกนี้ให้ใครได้รู้ ไม่เคยบอกฮยอกแจ วันๆเอาแต่ตามคุมเขาต้อยๆ ไม่กล้าที่จะบอก ไม่อยากเสี่ยง กลัวตัวเองเสียใจ กลัวฮยอกแจจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม ไม่สนิทกันอย่างเก่า กลัวไปหมดอ่ะ และทงเฮคิดอยู่เสมอว่า เราไม่คู่ควรกับเขา...เหมือนอย่างที่กลุ่มไอ้ลิงลมนั่นบอก ดอกฟ้ากับหมาวัด
ไอ่เหี้ย ใครก็ได้บอกที ทงเฮต้องทำยังไง
“ทงเฮ ทงเฮ ทงเฮฮฮฮฮฮฮฮฮ! เหม่ออะไรเนี่ย เรียกตั้งนานแล้ว”
ฮยอกแจทำหน้ามุ่ยหลังจากเรียกทงเฮแต่ทงเฮยังไม่ยอมหันไปสักที คิดไรอยู่เนี่ย
“ฮยอกแจคือ.....”
“คือไร”
“ไม่หรอก ไม่มีไรหรอก เราบ้าเอง”
ไอ่เหี้ย ไม่กล้าบอก ไอ้ขี้ขลาดทงเฮ
“เออ ทงเฮ เรามีอะไรจะบอก”
“อะไรอ่ะ”
ทำไมหน้าฮยอกแจซึมๆ ที่จะบอกนี่ข่าวดีหรือข่าวร้ายวะ เริ่มไม่อยากฟัง
“พ่อเราจะให้เราไปเรียนเมืองนอก”
หลังจากวันนั้นวันที่ฮยอกแจบอกเขา เชื่อมั้ย ความรู้สึกตอนนั้นมันหลากหลายมาก ทั้งด่าตัวเอง เสียใจ เจ็บใจ มึงมันโง่ไงทงเฮ อยู่กับเขามาตั้งนาน แต่ไม่บอกกับเขาไปว่ามึงคิดยังไง ไอ้โง่ทงเฮ ไอ่เหี้ย เขาจะไปแล้วมึงยังไม่บอก มึงมันเหี้ย ไอ้ป๊อด ขี้ขลาดอ่ะมึง
ติ๊ดๆ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไม่อยากรับอะไรอ่ะ ยิ่งใกล้วันที่ฮยอกแจไปยิ่งไม่อยากรับ กูแม่งอยากลืมทุกอย่าง ไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว ......
ติ๊ดๆ
ทงเฮทนเสียงน่าคาญนั่นไม่ไหวก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่ตั้งไว้ตรงหัวเตียงมากดรับโดยไม่ดูว่าใครโทรเข้ามา
“ฮัลโหล”
‘…………………….’
“ฮัลโหล โทรมาทำเหี้ยไรวะ รู้มั้ยกูเสียใจอยู่ ไม่คุยกูวาง”
‘…ดะเดี๋ยววว ทงเฮ นี่ฮยอกแจนะ’
“...............................”
‘ทงเฮ ขอโทษ อย่างเงียบดิ ขอโทษไง ฮึกก...’
ทงเฮอยากวางสายไปดื้อๆไม่อยากรับรู้อะไรที่เกี่ยวกับฮยอกแจ เสียใจรู้มั้ย ทำไมเพิ่งมาบอกก่อนจะไปสัปดาห์นึง บอกไม่ทันตั้งตัว.....
“อย่าร้อง”
‘ฮึกก ฮือออ ขอโทษไง ฮยอกแจขอโทษนะทงเฮ อย่าโกรธดิ ขอโทษที่เพิ่งบอก ฮือออ ให้ทำยังไงก็ได้อ่ะ ต้องทำยังไงทงเฮถึงจะหายโกรธ ฮึก บอกเราหน่อยนะ อย่าทิ้งเราไปแบบนี้ดิ ฮึก’
“ออกมาเจอกันหน่อยสวนสาธารณะP”
‘ได้ๆ ฮึก เราจะรีบไป’
ทงเฮตัดสินใจแล้ว ตัดสินใจแล้วจริงๆ ในเมื่อเขาจะไป ยังไงก็ให้เขารับรู้ก่อนว่าพี่ทงเฮคนนี้ซารังเฮน้องฮยอกแจมาก มานานแล้วด้วย....
ลมพัดแรง เหมือนฝนตั้งเค้าแล้วด้วย อีกหน่อยฝนคงตก หนาวนะเนี่ย...
ลมพัดแรงขึ้นเรื่อยๆทำให้ทงเฮต้องยกมือเสยผมที่ปรกหน้าตัวเองไว้ไม่ให้มันเกะกะ ทำใจแล้วไงถึงนัดเขาออกมาแบนี้ รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่เหมาะสม ไม่คู่ควร ไม่มีดีอะไรสักอย่าง
“ทงเฮ.....”
ฮยอกแจเอ่ยเรียกทงเฮเสียงแผ่ว
“เราขอโทษนะทงเฮ ขอโทษที่เพิ่งจะบอก ขอโทษ ฮึก จริงๆ”
“ไม่ต้องร้องน่า เข้าใจ”
ยิ่งทงเฮพูดเหมือนปลอบ ฮยอกแจก็ยิ่งสะอื้นหนักเข้าไปอีก
“เรียกมาทำไมล่ะ จะบอกอะไรเรารึเปล่า”
“…………………………………….”
ทงเฮกัดริมฝีปากแห้งผากของตัวเองเบาๆก่อนจะตัดสินใจเอ่ยพูดประโยคที่เรียบเรียงไว้เมื่อครู่ออกมา
“ฮยอกแจเคยรักใครมั้ย”
“……….เคยสิ”
“แล้วถ้ารู้ว่าเราไม่เหมาะสม ไม่คู่ควรกับเราเลย ยังจะรักอยู่มั้ย”
“........ห้ามใจไม่ได้หรอก รักสิ”
“ใช่ รัก ถึงไม่คู่ควรยังไงก็ยังดื้อ ดึงดันที่จะรัก ...ก็มันรักแล้วนี่นะ”
“เจ็บที่เขาทำเหมือนไม่รู้อะไรเลย ใช่ความรู้สึกนี้รึเปล่า...ฮึก”
“อืม ใช่ ไม่มีอะไรเทียบคนอื่นเขาได้สักอย่าง คนธรรมดาคนนึง เหมือนดอกฟ้ากับหมาวัด เหอะ...”
“ฮึกกกก.....ฮืออออ”
“รัก รักมานานทำตัวหวงก้างไปวันๆ รักแต่บอกไม่ได้ เจ็บ เจ็บมาก มันเจ็บจนพูดไม่ออก ไม่รู้บอกรักไปต่อไปจะเป็นยังไง”
“ฮืออออออออ....”
“โคตรมากกว่ารัก ดอกฟ้าคงสูงเกินไปจริงๆ สูงเกินจะเอื้อม หวังมากไปก็ตกลงมาเจ็บเปล่าๆ ไม่เหมาะสมกัน มันผิดตั้งแต่คิดแล้ว....ไม่มีหวังเลยจริงๆ”
“…ฮึกก ที่พูดที่คิดแบบนี้ ถามเจ้าตัวเขารึยัง ฮืออออ”
“………………………………”
คำพูดของฮยอกแจทำเอาเขาสะอึก....
“ถามเขารึยัง คิดเอาเองคนเดียวทำไม ฮึกก คนธรรมดาแล้วไง ทำไมถึงต้องคอยมองว่าคนอื่นเขาเป็นดอกฟ้าแล้วทำไมต้องว่าตัวเอง ทำไมถึงไม่ถาม ทำไมถึงไม่บอก ฮืออออ”
“………………………………”
“เคยคิดบ้างมั้ย ว่าคนอื่นเขาจะคิดยังไง จะรู้สึกยังไง ฮึกก...”
“เราขอโทษ...”
“รักไม่ได้ที่ไหนเล่า!”
หมับ
ทงเฮพุ่งตัวเข้ากอดฮยอกแจแน่น มันเหมือนกับเขาได้อะไรสักอย่างที่หายไปแล้วกลับคืนมา รู้สึกดีมาก รู้สึกผิดที่คิดไปเอง ขอโทษจริงๆ ขอโทษที่ไม่เคยรู้มาก่อน....
“รักมานานแล้วสิ”
เสียงของทงเฮใกล้ๆหูฮยอกแจทำเอาจั๊กจี๊แต่เวลานี้มันไม่ใช่ มันให้ความรู้สึกอบอุ่น
“นานมาก ฮึก”
“รักเหมือนกันแหละ นานมากแล้วด้วยเหมือนกัน”
อ้อมกอดของทงเฮอบอุ่น มันเหมือนเป็นแรงอย่างหนึ่งที่ผลักดันให้ความกล้าของตัวเองที่มีมาจากไม่รู้ พูดความรู้สึกกับทงเฮไป
“ฮยอกแจรักทงเฮมากจริงๆนะ”
เสียงอู้อี้ของฮยอกแจที่ซุกหน้าบนบ่าเขาทำเอาทงเฮยิ้มออกมา น่ารักจัง
“อืมม ทงเฮก็รักฮยอกแจคนนี้มานานมากแล้วจริง รักมากด้วย”
“ฮยอกแจเป็นแฟนกับเรานะ”
“.................ได้อยู่แล้ว”
สมุดบันทึกของทงเฮที่บันทึกเรื่องราวของเขากับฮยอกแจไว้มากมายนับตั้งแต่นี้ไปมันจะมีเจ้าของสองคนแล้วนะ : )
“ทงเฮมารับแล้วนู่น อิจฉาจริง ไอ้พวกมีแฟนเนี่ย”
อีทึกดีเจหนุ่ม(ตรงไหน)บอกฮยอกแจที่นั่งอ่านข้อความของแฟนๆอยู่ ฮยอกแจเป็นดีเจSUKIRA ดูโอ้กับอีทึก รุ่นพี่วัยโจ๋
“ก็รีบหาซะสิ”
ฮยอกแจพูดยิ้มๆเขินนะเวลามีคนแซว
“เหอะ อายุปูนนี้แล้วใครเขาจะเอา”
“เหรอออออออออออออ แล้วคนนั้นล่ะใคร มายีนรอรับข้างทงเฮอ่ะใคร ฮ่ะๆ”
“บ้า เขามารับใครก็ไม่รู้ รีบจัดต่อให้เสร็จเลย เหลืออีก15นาทีเอง พูดมากอยู่ได้”
หลังจากอีทึกโดนฮยอกแจแซวแล้วก็เอาหัวมุดลงใต้โต๊ะทำเป็นหาอะไรสักอย่าง ภาพที่เห็นตรงหน้าทำเอาฮยอกแจหัวเราะออกมาเบาๆ เขินก็บอกมาเหอะป้า
ฮยอกแจไม่ต้องไปเรียนต่อเมืองนอกแล้ว ขอพ่อแล้วพ่อไม่ว่าอะไร อยากกราบงามๆสักครั้งสองครั้งจริงๆเรียนจบก็หางานทำจนได้มาเป็นดีเจคลื่นวิทยุดังนี่แหละ นักร้องที่เคยวาดฝันไว้ ยังอีกไกล
“ทงเฮเสร็จแล้ว ไปเหอะ”
“รอตั้งนาน ง่วงนะเนี่ย ห้าวว”
อ้อนเสร็จก็แกล้งทำเป็นหาว ฮยอกส่ายหน้าเบาๆให้ทงเฮ หน่ายละกับมุกนี้
“ไม่ต้องเลย ยังไม่ดึกมาก หาไรกินเหอะ”
“เดี๋ยวๆดูคู่นู้นก่อน”
ทงเฮกระซิบเบาๆกับฮยอกแจให้หันไปดูอีทึกกับซีวอนเพื่อนเขาเอง อีทึกยืนเขินบิดงี้ตัวแทบเป็นเกลียว ส่วนซีวอนอีกคนทำตัวเหมือนนายแบบอยู่ได้
“ไปเหอะ หาไรกิน”
“ก็ได้ วันนี้รีบจริง มีไรเนี่ย”
“อ้าว ร้านยังไม่ปิดหรอกเหรอ”
ทงเฮเมื่อเห็นร้านขนมที่เคยพาฮยอกแจมายังไม่ปิดก็นึกสงสัย
“เข้าไปข้างในเหอะๆ”
ฮยอกแจลากตัวทงเฮมานั่งในร้านก่อนจะสั่งเมนูวันนั้น
“ช็อกโก้ครีมมี่สองที่ครับ”
“................รู้แล้วเหรอ”
ทงเฮเกาหัวแก้เก้อ เขินนะเนี่ย รู้ได้ไงวะ
ฝ่ายฮยอกแจเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทงเฮก็แอบยิ้มเบาๆ นี่คงจะไม่บอกจนกว่าเขาจะรู้เองสินะ ถ้าเขาไม่มานั่งกินเมื่อวันก่อนกับพี่อีทึกคงไม่รู้หรอก
“ขอI love you สองที่ครับ”
“อะไรนะคะ?”
“ก็ไอเลิฟยูไงครับ ที่เป็นเกล็ดน้ำแข็งน่ะครับ”
“ทางร้านเราไม่มีเมนูนั้นนะคะ ลองดูภาพก่อนก็ได้ค่ะ”
ไม่มีจริงๆด้วย งั้นแสดงว่า I love you นี่คงบอกเขาสินะ....
ฮยอกแจยิ้มกับตัวเองเบาๆก่อนจะสั่งเมนูที่มีชื่อตามที่ร้านบอกไว้ไป ช็อกโก้ครีมมี่
“รู้แล้ว นี่กะจะไม่บอกกันเลยใช่มั้ยเนี่ย”
“ก็จะบอกอยู่นี่ไง”
“โหยยยยยย ไม่ต้องเลย”
“ก็ I love you ไง”
“เหมือนกัน”
อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองไม่เหมาะสม อย่าคิดว่าตัวเองไม่คู่ควร อย่าเพิ่งคิดอะไรเองทั้งนั้นถ้าเรายังไม่ถามเขาในสิ่งที่เราต้องการรู้...
น้องฮยอกแจ : นู่นๆ มองกล้องเร็ว *ชี้*
พี่ทงเฮ : *โบกมือ* ผมแฟนฮยอกแจครับ
Talk - พล็อตเรืองนี้มันพุ่งขี้นมาในหัวเอง 55555555555
ความคิดเห็น