ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Filth in the Beauty [The Gazette](Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter2:Ruki

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 54


    Chapter2:Ruki

                   

                    “รูกิ ระวังนะลูก” เสียงเตือนอย่างอ่อนโยนของหญิงวัยกลางคนที่กำลังนั่งจัดดอกลิลลี่ในแจกัน เธอมีผิวขาดจัดรับกับใบหน้าอ่อนหวาน 

                    “ไม่เป็นไรหรอกฮะแม่” เด็กน้อยหันมายิ้มหวานให้มารดา  ร่างเล็กของเด็กชายวัย3ขวบกำลังพยายามปืนเก้าอี้เพื่อจะขึ้นไปยืนจัดดอกไม้ที่อยู่บนโต๊ะ เนื่องจากยังเด็กและตัวเล็กมากทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นแจกันได้เลยถ้าหากไม่ปืนขึ้นบนเก้าอี้อย่างนี้  เธอยิ้มอย่างเอ็นดูให้กับความน่ารักของลูกชาย

    ตื๊ดดดด  ติ๊ดดดด

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้มือเรียววางดอกไม้ในมือลงแล้วเดินไปกดรับ

                    “โมชิ โมชิ”

                    “ฮานะ...”

                    “คุณคะ เป็นอะไรรึเปล่า” เธอถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเสียงที่ตอบกลับมานั้นคือเสียงที่ดูไม่สู้ดีนักของสามีเธอเอง

                    “ฮานะ พาลูกหนีไป ฮานะ...”

                    “อะ...อะไรนะคะ คุณ คุณเป็นอะไรคะ”

                    “หนีไป พารูกิหนีไป ปกป้องลูก.....”

    ตรู๊ดดด

    ปลายสายถูกตัดไปหญิงสาวตัวสั่น น้ำตาไหลพราก เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สามีเธอเขาเป็นอะไร แล้วลูก...

                    “แม่ฮะ แม่เป็นอะไรไปฮะ” เสียงเจื้อยแจ้วถามอย่างสงสัยเมื่อเห็นท่าทีแปลกไปของผู้เป็นมารดา  เสียงนั้นทำให้หญิงสาวรู้สึกตัว เธอหันมามองหน้าลูกชาย

                    “แม่ แม่ร้องไห้ทำไมฮะ ใครทำอะไรแม่” เด็กน้อยวิ่งเข้าไปกอดแม่ของตัวเอง

                    “พวกมันอยู่แถวนี้แหละ หาให้เจอ!!” เสียงตวาดอย่างกราดเกรี้ยวเบื้องนอก ทำให้หญิงสาวอุ้มลูกชายของเธอแล้ววิ่งหนีไปทางด้านหลังบ้าน

                    “พาลูกหนีไป...” เสียงอันสั่นเครือของสามีเธอดังแว่วอยู่ในหู เธอวิ่ง แล้วก็วิ่ง ด้านหลังได้ยินเสียงผีเท้าและเสียงตะโกนตามมา

                    “พวกมันอยู่นั่น จับไว้ให้ได้!!

    เด็กน้อยในอ้อมแขนตกใจ คนพวกนั้นเป็นใครทำไมต้องวิ่งตามแม่ แล้วแม่วิ่งหนีทำไม แล้วทำไมแม่ถึงร้องไห้

                    “อย่าให้หนีไปได้!!” เสียงสั่งของชายฉกรรจ์ในชุดสีดำที่วิ่งตามหลังมา ตามด้วยเสียงปืน

    หญิงสาววิ่งเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นบ้านร้างไร้คนอยู่อาศัยเพื่อให้พ้นจากสายตาของกลุ่มคนที่ตามมา ในใจรู้ดีว่ายังไงพวกมันก็ต้องหาเจอ แต่เธอไม่มีทางเลือก ต้องปกป้องรูกิ ปกป้องลูก...  เธอวางเด็กชายลงในหีบใบใหญ่ มองใบหน้าน่าเอ็นดู ก่อนเอ่ยสั่ง

                    “จำไว้นะลูก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นลูกต้องมีชีวิตรอด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าออกมาจากในนี้เด็ดขาด”

                    “แม่รักลูกนะ” เธอเอ่ยทั้งน้ำตา โอบกอดลูกชาย จูบเขาเป็นครั้งสุดท้าย            

    “มันต้องอยู่ในนี้แน่” เสียงจากชายกลุ่มนั้น ทำให้เธอต้องผลักลูกชายให้นอนลง ปิดหีบไว้แล้วเอาผ้ามาคลุมให้พ้นจากสายตา

    “เจอตัวแล้ว!!” ชายฉกรรจ์4-5คนพังประตูเข้ามา หญิงสาวยืนนิ่งยอมรับชะตากรรม

    “ฆ่ามัน!!” สิ้นเสียงสั่ง บังเกิดเสียงปืนดังราวสายฟ้าฟาด ร่างของหญิงสาวร่วงหล่นลงไปกองกับพื้น

    เหตุการณ์ทุกอย่างตกอยู่ภายให้สายตาของเด็กชาย  ดวงตากลมโตเบิกโพลงเมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของหญิงที่เรียกว่าแม่ เขาอยากจะวิ่งออกไปหาแม่ แต่ด้วยคำสั่งของเธอ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห้ามออกไปเด็ดขาด”ทำให้เด็กน้อยได้เพียงนั่งมองดูเหตุการณ์อยู่ภายใต้ฝาหีบและผ้าคลุมเท่านั้น

                    “อึก” รูกิเอามืออุดปากตัวเองกลั้นเสียงสะอื้นที่อาจทำให้พวกที่อยู่ข้างนอกได้ยิน น้ำตาของเด็กชายไหลพราก คนพวกนั้นฆ่าแม่ของเขา เพื่ออะไร

                    “มันเอาเด็กไปซ่อนไว้” ชายคนหนึ่งพูด

                    “มันต้องอยู่ในนี้แหละ หาให้ทั่ว”

                    “เสียเวลาเปล่า” เสียงหนึ่งค้านขึ้น

                    “เอ๋ คุณหนู มาทำอะไรที่นี่ครับ” ชายฉกรรจ์เหล่านั้นก้มหัวให้คนที่ถูกเรียกว่า”คุณหนู”  สิ่งที่รูกิเห็นคือ”คุณหนู”นั้นตัวเล็กกว่าคนอื่นๆในกลุ่ม ดูท่าทางว่าจะยังเป็นเด็ก

                    เด็กผู้หญิง??’ นั่นคือความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวทันทีที่ได้เห็นใบหน้าของคนๆนั้นแม้ว่ามันจะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นัก

    ใบหน้าสวยเชิดหยิ่ง ดวงตาคมตวัดมองกลุ่มชายเหล่านั้น

                    “เอ่อ แล้วคุณหนูจะให้พวกเราทำอย่างไรครับ” ชายคนหนึ่งถามขึ้น

                    “เผาทิ้งซะ!!” เอ่ยสั่งอย่างเรียบเฉยเย็นชา

                    “อะ เอาจริงหรอครับ” ชายคนเดิมถามอย่างลังเลใจ

                    “อย่าโง่ไปหน่อยเลย เด็กตัวแค่นั้นจะมีปัญญาหนีไปไหนได้ ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งรึไง!!” เสียงตวาดอย่างกราดเกรี้ยวจากร่างบาง ใบหน้าสวยแสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจน

                    “อะ เอ่อ ครับ” ชายเหล่านั้นก้มหัวรับคำสั่ง  ใบหน้าสวยกระตุกยิ้มอย่างพอใจ แล้วเดินจากไปทิ้งให้เบื้องหลังถูกย้อมไปด้วยสีเพลิงที่กำลังลุกโชนเฉกเช่นเดียวกับสีท้องฟ้าอันเจิดจ้ายามทิวากาล

     

                    เฮือก!!

    ร่างบอบบางสะดุ้งตื่นในความมืด ดวงหน้างามราวอิสตรีซีดเผือดเม็ดเหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้า

                    “ฝันอีกแล้วหรอเรา” พึมพำพลางเอามือปาดเหงื่อโดยที่ยังไม่หยุดหอบหายใจ

                    “ทำไมมีความฝันแบบนี้บ่อยจัง” ร่างเล็กนั่งอยู่บนเตียงกว้าง ใบหน้างามดูเศร้าหมอง ดวงตาเหม่อลอยท่ามกลางความมืดราวกับกำลังครุ่นคิดถึงบางอย่าง...

                    ก๊อกๆๆ

    เสียงเค้าประตูทำให้ร่างบางหลุดจากภวังค์

                    “ใคร” ถามเสียงห้วน มือเรียวเอื้อมไปใต้หมอน หยิบปืนพกที่ซุกซ่อนไว้

                    “บอสให้มาตาม” ทางนั้นก็ตอบมาห้วนๆเช่นกัน  เมื่อรับรู้ว่าเจ้านายให้คนมาตามร่างบางก็ถอนหายใจเฮือก แต่ทำไมบอสถึงให้คนมาตามดึกๆดื่นๆอย่างนี้นะ ต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเป็นแน่ เขาได้แต่ครุ่นคิดในใจ

    ร่างบางยืนอยู่หน้าประตูไม้สักบานใหญ่ที่สลักลวดลายอย่างประณีตบรรจงสวยงามซึ่งดูเหมือนว่ามันจะถูกนำเข้ามาจากประเทศหนึ่งในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เบื้องหลังความโอ่อ่านี้คือห้องทำงานของบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็น”บอส”ของพวกเขา

    ก๊อกๆ

    “รูกิครับ” เขาเอ่ยรายงานตัว

    “เข้ามา” ร่างบางจึงค่อยๆผลักประตูบานใหญ่เข้าไป  ภายในห้องมืดสลัว มีเพียงแสงจากเทียนไขไม่กี่เล่มและแสงจากดวงจันทร์เบื้องนอกที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดแง้มผ้าม่านอยู่เพียงเล็กน้อย แม้จะมืดแต่รูกิก็รู้ดีว่าภายในห้องนี้หรูหราเพียงใดเนื่องจากเขาก็เป็นคนที่บอสเรียกหาตัวอยู่บ่อยๆเช่นกัน ร่างบางสาวเท้าเดินไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงาน ฝั่งตรงข้ามคือ”บอส”ของเขาที่แม้มองไม่ชัดเจนในความมืดเช่นนี้แต่บอสของเขาก็กำลังนั่งอยู่ตรงนั้น ด้านข้างคือชายคนที่เปรียบเสมือนมือขวาของเขา

    “จัดการซะ” เสียงทุ้มเอ่ยนิ่งเรียบ พลางโยนบางอย่างมาให้  มันเป็นซองเอกสารซึ่งในที่แสงไม่เพียงพอเช่นนี้รูกิแทบมองไม่ออกเลยว่ามันคืออะไร

    “แล้วผมต้องทำยังไง”

    “นั่นมันเรื่องของแก ทำยังไงก็ได้ แค่จัดการมันซะ”

    ร่างบางมองซองเอกสารในมืออีกครั้ง

                    “ทำได้ใช่มั้ย” เอ่ยถามเสียงนุ่ม

                    “ครับ”

                    “ดี หวังว่านายคงไม่ทำให้ฉันผิดหวัง รูกิ”

    บทสนทนาระหว่างเขาและบอสจบลงเพียงเท่านั้น ขณะที่ร่างบางกำลังจะก้าวออกไปจากห้องพลันสายตาก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างท่ามกลางความมืดนั้น ราวกับมีดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องเขาอยู่ ไม่ใช่จ้องจะทำร้าย แต่เป็นการเรียกร้องขอความช่วยเหลือซึ่งเขาเองก็ทำได้แค่มองตอบกลับไปด้วยความสงสาร ก่อนก้าวออกไปจากห้อง  หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามออกมา ในเวลานี้แม้แต่คนสนิทของบอสก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×