คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่สาม : การรวมตัว
บทที่สาม
การรวมตัว
ในยามเช้าอันแสนสดใสของแดนมนุษย์
ตามปรกติแล้วในดินแดนมนุษย์จะแบ่งออกเป็นหลายเขต หลายเมือง
หลายอาณาจักรตามปรกติเหมือนดินแดนอื่นๆ โดยดินแดนศูนย์กลางซึ่งมีกองกำลังอัศวินหลวงหลักและพระราชวังอันเป็นที่ประทับขององค์ราชาก็คือเมืองหลวง
ใจกลางดินแดนมนุษย์อย่าง “เอรันทา”
ว่ากันว่าชื่อเมืองก็คือชื่อของราชินีผู้สามารถจบสงครามอันยาวนานระหว่างอาณาจักรดีอาร์และมาเรย์หรืออาณาจักรสุนัขและแมวได้นั่นเอง
สงครามดำเนินมายาวนานหลายสิบปี...และก็มีหลากหลายคำถามว่าทำไมราชินีแห่งแดนมนุษย์
“เอรันทา” ถึงไม่ยอมหยุดมันเสียตั้งแต่แรก
มีข่าวลือหนาหู..ว่านางโดนมนต์ดำของปีศาจร้ายจนทำให้หลับใหลไปนานนับสิบปี..พอตื่นขึ้นมาเมื่อนางรู้ว่าเกิดสงครามขึ้นหยุดยั้งมัน..บ้างก็ว่านางมีคนรักอื่นนอกจากราชาของทั้งสองอาณาจักร
บ้างก็ว่านางคิดทรยศไม่คิดจะยุ่งเกี่ยวกับสงครามของพวกเขา..แต่ก็ไม่มีใครล่วงรู้ความจริงเลยแม้แต่น้อย
จนเวลาผ่านเลยมาหลายร้อยหลายพันปี หลังจากสงครามจบ
ทุกอย่างก็กับเข้าสู่ความสงบสุขแม้ความขัดแย้งและความคิดเกลียดชังระหว่างประชากรของทั้งสองอาณาจักรจะยังไม่หายไปก็ตาม
แต่ถึงกระนั้น
ทั้งสองอาณาจักรก็ผลัดกันช่วยเหลือดินแดนมนุษย์ตามเจตนาขององค์ราชาแห่งสามอาณาจักร
ทำให้ดินแดนมนุษย์รุ่งเรืองมาได้อย่างทุกวันนี้ ด้วยวิทนาการทางเวทย์มนต์
ความเจริญในด้านต่างๆส่งเสริมให้แดนมนุษย์ได้รับอิทธิพลความก้าวหน้ามาจากทั้งสองอาณาจักรด้วย
ยกตัวอย่างเช่นเรือลอยฟ้าอันเกิดจากการประสานเวทย์ลมควบคู่กับน้ำและแสงจนมันสามารถข้ามมิติเพื่อไปยังสถานที่ต่างๆได้
โดยความลึกล้ำของเวทย์มนต์ก็ยังมีมากกว่านี้อีกมากมาย...
มากมายจนอ่านไม่หมดเลยเว้ย
ลูคัสคิดในใจก่อนขว้างหนังสือชีวประวัติยาวยืดจนขี้เกียจอ่านทิ้งไป
โชคดีที่ในห้องนี้ไม่มีใครอื่นเนื่องจากเป็นห้องส่วนของเขาในโรงพักแรม หนังสือนั่นจึงทำได้แค่ไปกระแทกผนังและตกลงมาบนพื้นตามยัตถากรรมของมัน
เพราะถ้าหากไปโดนหัวใครเข้าคงได้มีเรื่องยามเช้าฉลองกันบ้างละ
“เฮ้อ...น่าเบื่อชะมัด”
เจ้าสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสสี้
นอนยืดเส้นยืดสายบนเตียงของตนเองขณะเสกน้ำแข็งขึ้นมาเกาะรอบห้อง บวกกับที่ห้องนี้เป็นห้องความเย็นพิเศษเพื่อต้อนรับประชากรสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน
ฮัสกี้โดยเฉพาะด้วยแล้วทำให้มันค่อนข้างจะเย็นมากทีเดียว
ลูคัสนอนไปมาบนเตียงอย่างเคลิ้มๆ
สัมผัสอากาศเย็นๆกระทบผิวกายแล้วรู้สึกไม่อยากจะลุกไปไหน
“เย็น...” ลูคัสพึมพำ
ใบหน้าแดงๆเคลิ้มๆ แต่สัมผัสกับความรู้สึกดีๆได้ไม่นานน้ำแข็งทั้งห้องก็พลันละลายลงไป
อากาศเริ่มเปลี่ยนเป็นร้อนจนเจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ผุดลุกจากเตียงด้วยความตกใจ
สายตาองไปทางผู้กระทำ
ประตูถูกเปิดออกพร้อมร่างของชายผมสีฟ้าอันแสนคุ้นเคยในชุดอัศวิน..
“ผมบอกแล้วนี่ครับ..ว่าให้คุณไปรายงานตัวข้างล่างของโรงแรม..ทำไมถึงไม่ยอมไปกันครับ
เราจะเดินทางไปที่วังหลวงกันแล้วนะครับ..”
ลูคัสแยกเคี้ยวใส่คนที่มาใหม่
“เจ้าบังอาจมาก! ข้ากำลังนอนอยู่นะเฟ้ย!
ขอเวลาอีกสักชั่วโมงไม่ได้หรือไง!”
ลูคัสขู่คนที่มาขัดเวลาสุขสบายของเขา
องค์รักษ์ประจำราชอาณาจักรดีอาร์ยิ้มกว้างขึ้นอีก..ฉีกจนจะถึงใบหู..
ลูคัสสะดุ้ง
รู้สึกขนลุกตั้งแต่สันหลังยันหน้าผาก
“จะตามมาดีๆ..หรืออยากให้ผมพาคุณไปครับ
เด็กดื้อ?” เขาถามอีกครั้ง และจงใจเน้นคำว่าเด็กชัดๆ
ลูคัสสั่นสู้ กระชากเสียงตอบ “ไม่ไปเว้ย!!”
“วินดี้...ช่วยไปจับเขามาทีสิครับ...”
ดิแอนด์เรียกภูตสายลมออกมาจากนั้นมันก็เข้ารวบตัวของลูคัสแล้วพัดพาให้ร่างเพรียวลอยลงไปข้างล่างโดยไม่ถามความเห็นเจ้าของร่างเลยสักคำ
ลูคัสถลึงตาพยายามดิ้นให้หลุดแต่ก็ไม่สามารถขยับได้ราวกับถูกอากาศรัดเอาไว้
“ปล่อยนะเฟ้ย! ปล่อยฉันเจ้าหมาบ้าดิแอนด์!!”
ดิแอนด์ทำหูทวนลมคล้ายไม่ได้ยินเสียงโวยวาย
เขาเก็บหนังสือเวทย์เล็กๆลงกระเป๋า..ตามปรกติแล้วถ้าเป็นเวทย์ที่ตนเองถนัดเขาคงจะสามารถใช้ได้โดยเรียกเพียงแค่เอ่ยชื่อของเวทย์
แต่ถ้าเป็นเวทย์ระดับสูงอย่างการเรียกภูตอย่างเมื่อครู่ก็ต้องใช้หนังสือเวทย์เช่นกัน..แต่อย่างน้อยเขาก็พัฒนาได้จนท่องเวทย์ได้ในใจ..
การท่องเวทย์ในใจเพื่อให้บังเกิดผลค่อนข้างจะทำได้ยาก
เนื่องจากต้องแยกแยะสมาธิหลายอย่างจนอาจผิดพลาดได้ บางคนอาจท่องแล้วไม่เกิดอะไรขึ้นเลย
หรือบางคนท่องแล้วอาจจะกลายเป็นเวทย์ผิดเพี้ยนไปจากที่ต้องการ
ดังนั้นมันจึงต้องการการควบคุมและสมาธิอย่างสูงทีเดียว
ดิแอนด์ค่อยๆเดินลงไปตาม
ปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นใบหน้าอ่อนโยน ก่อนยิ้มให้ทุกคนข้างล่าง
พร้อมแอบเหล่มองลูคัสซึ่งนอนหมอบอยู่บนพื้นเพราะโดนลมกดเอาไว้ จะแก้ก็ไม่ได้
ดิแอนด์จึงปลดเวทย์ให้เขา เมื่อเวทย์ลมนั้นหายไปเจ้าตัวก็ลุกขึ้นทำท่าจะโวย
“ถ้าจะโวยวายละก็
คืนนี้ผมไม่ปล่อยคุณแน่ครับ”
ลูคัสหน้าซีด..”ก..แก..อย่าบอกนะ..ว่าจะใช้วิธีป่าเถื่อนนั่นอีก!”
ดิแอนด์ยิ้มน่าขนลุก
“นั่นสินะครับ..บางทีถ้าคุณต้องการมาก..ผมก็อาจจะใช้มันก็ได้นะ?”
ลูคัสตัวลีบ
รีบหยุดปากทันใด
ไม่วายยังแอบไปหลบหลังเนริมจนคนโดนใช้เป็นที่กำบังได้แต่มองหน้านิ่งๆ
“เป็นอะไรหรือครับ?” ลูคัสส่ายหน้า”
เงียบน่า”
“หรือว่าพวกคุณจะมีอะไรบางอย่างกัน
น่าสงสัยจัง บอกผมบ้างสิ” เนริมถามด้วยสายตาเป็นประกาย ลูคัสเริ่มรำคาญ
เสียงเริ่มกระชากโฮกฮาก “ฉันบอกว่ารำคาญ เงียบซะ!”
“แต่ว่าคุณไม่ยอมบอกผมนี่..บอกมาสิครับ
หรือว่าพวกคุณจะแอบไปทำอะไรกันจริงๆ?”
เนริมยังคงถามอย่างไม่ลดละด้วยใบหน้านิ่งเฉย
แต่คำถามมันคนละเรื่องกับหน้าเลย..ลูคัสกัดฟัน “เงียบ!!”
“คุณก็บอกผมมาก่อนสิ
นี่ๆ มันเป็นเรื่องยังไงครับ
หรือว่าพวกคุณจะขึ้นไปกินซาลาเปาหมูสับกันคืนนี้โดยไม่ชวนผม?”
“ฉันบอกให้แกเงียบเฟ้ยไอ้ร็อตไวเลอร์เฮงซวย!!”
“ลูคัส!
วันนี้คุณจะเจอบทลงโทษข้อหาตะโกนใส่คุณเนริมอย่างไม่สุภาพครับ
เมื่อกลับมาถึงโรงพักแรมกรุณามาพบผมที่ห้องด้วยครับ”
ลูคัสหน้าซีด...อยากจะประท้วงแต่คุณองค์รักษ์ดันไม่สนใจเขาแล้วหันไปอธิบายเกี่ยวกับกำหนดการวันนี้กับคนอื่นๆเสียแล้ว
ไซบีเรียนฮัสกี้ผมสีน้ำเงินได้แต่คอตก หูที่ดันโผล่มาโดยไม่รู้ตัวก็ตกไปตามๆกัน
ฮันนี่ไม่ได้สนใจสภาพของคนคอตกเลยแม้แต่น้อยพร้อมกัดก้อนเนื้อคำโต
ส่วนโยชิมองภาพนั้นด้วยสายตาเวทนา...
ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้!
อีธานหรือเอียนกำลังแต่งตัวตามปรกติและจัดของต่างๆอยู่ในห้องของตนเอง
เมื่อวานมีกำหนดการส่งมาทางจดหมายเวทย์จากองค์รักษ์อาณาจักรมาเรย์ของพวกเขาว่ากำลังจะมาถึงในวันนี้และจะพาพวกเขาไปยังพระราชวังดินแดนมนุษย์ด้วย
เอียนอ้าปากหาวหวอด ยามเช้าแบบนี้แสงมาส่องหน้าเขายิ่งรู้สึกรำคาญแปลกๆ
หวังเพียงแค่ว่าวันนี้มันจะมีเรื่องอะไรน่าสนุกมากกว่าเอาแสงมาส่องหน้าเขา
เอียนเดินไปเปิดผ้าม่าน
ภาพเบื้องล่างคือตลาดอันแสนคึกคักและมีมนุษย์มากมายเดินจับจ่ายซื้อของกัน
เขายิ้มบางๆ..
ในทุกๆวันเขามักจะเจอผู้คนมากมาย
หลังจากที่ตนเองถูกเลือกขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว และถูกคนจากพระราชวังมารับตัวเพื่อให้มาแย่งชิงมงกุฎหรือตำแหน่งราชาอะไรนั่น..เขาคิดว่าการที่จะต้องไปนั่งอยู่บนบังลังก์คอยสั่งการมันน่าเบื่อ...ถ้าหากจะต้องไปคอยนั่งอยู่เพียงคนเดียว
เขาคงจะเบื่อยิ่งกว่าเดิม
เขาเชื่อว่าในคนจำนวนมากนี่..จะต้องมีคนที่สามารถทำให้สนุกได้..
ใบหูสีดำกระดิกไปมา
ผมสีน้ำงินและใบหน้ายิ้มแย้มเจ้าเหล์ดูเป็นเอกลักษณ์ ร่างกายปราดเปรี่ยวดูคล่องตัวกับเสื้อยืดหลวมๆทางแนวนอนลายม่วงสลับดำมันเป็นสัญลักษณ์ของเอียนไปเสียแล้ว..
เจ้าตัวยิ้มบางๆ
ถ้าหากจะได้แกล้งใครสักคนหรือจับตาดูคนที่น่าสนุกมันก็คงจะดีไม่น้อย
เมื่อใกล้ถึงเวลานัดเอียนก็เดินลงไปข้างล่าง
แต่กลับไม่มีใครอยู่มีเพียงชายผมสีเทาแซมดำด้วยทรงผมดูฟูๆยาวๆ เอียนกระพริบตาปริบๆมองอีกฝ่ายด้วยความฉงน
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าชายร่างบอบบางคนนั้นก็ค่อยๆหันมาทางเขา ใบหน้าติดสวยแถมยังเจาะหู
เจาะปาก ดวงตาสีเทาเฉยชาจ้องมองไปยังเอียน การแต่งกายของเขาดูเซอร์ๆ
แถมยังมีบรรยากาศนิ่งขรึมจนเอียนรู้สึกอึดอัด
เอียนหรี่ตาจ้องมองอีกฝ่าย
“เจ้าคือ
อีธาน ฟีโอเร่..หนึ่งในผู้ถูกเลือกสินะ” ชายตรงหน้าเอ่ย
เอียนชะงัก..อีกฝ่ายรู้ว่าเขาเป็นใคร..ถ้างั้นก็หมายความว่า..?
“คุณคือองค์รักษ์ของพวกเรา..?”
ชายผมสีเทาพยักหน้า
ในที่สุดองค์รักษ์ที่รอคอยมานอนก็มาถึง
แต่เขากลับไม่ชอบใจเท่าไร ไม่ค่อยตกใจเท่าไรด้วย ออกจะผิดหวังด้วยซ้ำ เอียนรู้สึกไม่ถูกกับบรรยากาศเครียดๆเอาเสียเลย..ชักอยากจะหนีไปที่ไหนสักแห่งหรือหาผู้ร่วมชะตากรรมด้วย
ในตอนแรกเขาอุตส่าคิดภาพว่าอยากจะแกล้งองค์รักษ์ของอาณาจักรตนเองแล้วเชียว..
แต่แบบนี้..ท่าจะเล่นด้วยยาก..
“นี่ๆคุณองค์รักษ์
คุณมาช้าจังเลยนะ หรือว่าแอบใช้เวลาพวกนั้นไปแต่งตัวให้ได้ขนาดนี้กัน?”
แมวอาชีร่าขี้แกล้งถามออกไปด้วยรอยยิ้ม หากแต่..
เขากลับได้รับสายตาคมๆดุๆ
พร้อมใบหน้านิ่งเฉยและบรรยากาศมาคุอีกเท่าตัวกลับมาแทน
“ที่ข้ามาช้าเพราะติดธุระ
ไม่มีเวลาไปทำเรื่องไร้สาระเหมือนคนอย่างเจ้าหรอก”
ถูกต่อว่าไปจนเอียนตัวแข็งทื่อ..เหมือนถูกจี้ใจดำ
ถูกด่ากลับมาเต็มๆ คนๆนี้ไม่คิดจะรับมุขหรือความสนุกรอบตัวบ้างเลยหรืออย่างไรกัน...สาบานว่าถ้ามีถังกะละมังอยู่แถวๆนี้เอียนก็พร้อมจะมุดตัวเข้าไปทันทีแม้ว่าตัวเขาจะใหญ่กว่ากะละมังกี่ร้อยกี่พันเท่าก็ตาม
จากนั้นเขาก็พยายามจะสื่อสารกับองค์รักษ์ของตนเองอย่างสุดความสามารถเพื่อเพิ่มมิตรสัมพันธ์อันดีงามในเผ่าพันธุ์ของตนเอง
แต่คำตอบที่ได้รับกลับเป็น
“อย่ามายุ่งไม่เข้าเรื่อง”
“นั่นมันเรื่องส่วนตัวของข้า”
“..........”
อันสุดท้ายนั่นคือเงียบ..เมิน
ไม่สนใจจะตอบอะไรเขาเลย..
เอียนกุมขมับ
การชวนคุยเรื่องสนุกๆไม่ได้ผลเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ตลอดระยะเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่ชวนคุยมา
ไม่ได้ทำให้สีหน้านิ่งเรียบของเจ้าตัวหายไปเลยแม้แต่น้อย กลับกัน
มันทวีคูณความน่ากลัวขึ้นกว่าเดิมหลายร้อยเท่าจนหางสีดำๆของเอียนเลียบกลับหายไปหมดแล้ว!
เจ้าแมวอาชีร่าได้แต่ปลงตก
ไม่คิดจะทักอะไรอีกเป็นครั้งที่สอง
เคมีเข้ากันไม่ได้สุดๆคงจะไม่มีโอกาสชวนคุยอย่างอื่นหรอก..
แต่ก่อนจะได้หมดอาลัยตายอยาก
เสียงเรียบๆของอีกฝ่ายก็ถามขึ้นมา
“เมื่อไรสองคนนั้นจะลงมาข้างล่าง..เราไม่มีเวลาแล้วนะ”
องค์รักษ์หนุ่มถาม พวกเขามายืนรอหน้าเคาท์เตอร์เกือบครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววของผู้ถูกเลือกเสียที
“สองคนนั้นคงจะทำธุระส่วนตัวอยู่ละมั้งครับ”
เขาตอบไปซื่อๆยิ้มๆตามแบบปรกติ...
พริบตาเดียวเอียนก็ขนลุกเมื่อเจอสายตาคมๆตวัดมาอีกครั้ง
“ข้าไม่มีเวลามากขนาดนั้น..ถ้าจะเรื่องมากเรื่องการแต่งตัวนักก็ไม่มีสิทธิ์มาเป็นผู้ถูกเลือก...ข้าจะไปหาพวกมัน..นำทางไป!”
เอียนรู้สึกเหมือนโลกจะถล่ม
ดินจะสลาย ทำไมต้องเป็นเขาด้วย!
อยากจะหนี...หนีไปจากบรรยากาศมาคุนี่! เพราะยัยสองคนนั้นนั่นแหละที่ไม่ยอมลงมาตั้งแต่แรก!
แม้จะขัดใจแค่ไหนสุดท้ายก็ต้องยอมพาไป
เอียนพาองค์รักษ์หนุ่มเดินมาถึงห้องของสองสาว
ได้ยินเสียงโวยวายดังออกมาจากห้องนิดหน่อย ก่อนเอียนจะได้เคาะประตูตามมารยาท
องค์รักษ์ผมสีเทากลับใช้เท้าถีบประตูพังลงไปโดยไม่สนใจมารยาทหรือการเคาะประตูก่อนเลยแม้แต่น้อย
ให้ตายเถอะพระเจ้าแมวเหมียว!
“นี่เจ้าทำบ้าอะไร! บังอาจบุกรุกเข้ามาในห้องของผู้หญิงมันเสียมารยาทนะรู้ไหม!!”
เสียงแหลมๆตวาดใส่ทันทีเมื่อเห็นว่าคนไร้มารยาทดันถีบประตูเข้ามา
อนาสตาเซียกำลังหวีผมอยู่ มือของเธอชะงักค้างทันทีเมื่อรู้สึกตัวว่าประตูพัง
ผมสีบลอนด์ของเจ้าหล่อนดูยุ่งเหยิง นัยย์ตาสองสีก็ดูโกธรเกรี้ยว ไม่มีเวลามาให้อึ้งเนื่องจากความขุ่นเคืองมันมีมากกว่าหากแต่ตัวการของปัญหากลับไม่ได้สนใจเรื่องนี้
“ข้า
อาร์คิลัส เทมพ์ จากนี้ข้าจะมาเป็นองค์รักษ์เพื่อช่วยเหลือพวกเจ้าในการแข่งขัน”
พูดสั้นๆก่อนเดินไปทางห้องนอนราวกับรู้ว่าเจ้าแมวอีกตัวอยู่ที่ไหน
อนาสตาเซียอ้าปากค้าง
นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!..
“เดี๋ยวสิเอียน! นี่มันหมายความว่ายังไง!”
เมื่อหันไปโวยกับองค์รักษ์หน้าตายไม่ได้
เธอจึงโวยวายกับคนหน้าซีดๆอย่างเอียนแทน
ถามผม..แล้วผมจะรู้ไหมเล่า!
“ผมไม่รู้หรอก...ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นองค์รักษ์ของพวกเราน่ะ..”
รู้แค่นั้นแหละ..ในเมื่อถึงจะพยายามล้วงข้อมูลหรือถามความเป็นมาเจ้าตัวก็ไม่คิดจะบอกเลยนี่
จะถามเอาอะไรจากเขา
ในเมื่อเขาเองก็พึ่งจะโดนสายตาเย็นๆนั่นมาเหมือนกันจนสภาพจิตใจเสียหายไปหายลูกแล้วนะ!
ปึง! โครม!
“ลุกได้แล้ว นอนขี้เซาอยู่ได้
ถ้าหากพวกเราสายด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้
ข้าจะตัดหัวเจ้าแล้วเอาไปโยนลงปล่องภูเขาไฟในเขตหวงห้ามซะ!”
เสียงขู่กรรโชกพร้อมเสียงข้าวของตกแตก
ของหล่นกระจายราวกับเกิดสงครามขึ้นในห้องนอนของพวกเธอ
เสียงงัวเงียของคุรันดังขึ้นราวกับว่ารำคาญการกระทำรุนแรงนั้น
จนสุดท้ายเสียงก็ดังมาอีกสักพักและเงียบไป...ก่อนร่างของแม่สาวแมวทะเลทรายจะถูกโยนออกมาข้างนอกพร้อมหมอนข้าง
เจ้าตัวยังอุตส่าถไหลตัวลงไปนอนบนพื้นอีกรอบกับหมอนข้างสุดที่รักอีกด้วย
เอียนมองภาพนั้นด้วยแววตาละเหี่ยใจสุดขีดกับเหตุการ์ณที่ยากจะรับมือ
องค์รักษ์ผมสีเทาเดินออกมาจากห้องพร้อมกอดอก
แววตาดุๆนั่นมองคุรันเล็กน้อยก่อนจะเหล่มามองมาทางเขาและมองไปทางอนาสตาเซีย “ชักช้า..แบบนี้จะไปชนะพวกสุนัขน่ารงเกียจพวกนั้นได้ยังไง”
“นี่อย่ามาพูดดูถูกกันนะยะ!
หัดมีมารยาทการเข้าสังคมซะบ้างสิ!
อีกอย่างเจ้าจะมายุ่งอะไรด้วยกัน!”
อนาสตาเซียตวาดกลับบ้าง ดูท่าเจ้าหล่อนจะหวีผมเสร็จเรียบร้อยถึงลุกขึ้นมายืนมองอีกฝ่ายด้วยสายตาแข็งกร้าว
พอกันที..เธอละไม่ชอบคนแบบนี้เอาเสียเลย
“คร่อก..ฟี้..”
“แล้วยัยคุรัน! ยัยแมวบ้า! รีบลุกขึ้นมาได้แล้ว
เจ้าอยากจะสายจริงๆหรือยังไง!”
ให้ตายเถอะ ไม่ว่าอะไรก็ดูขัดใจไปหมดเลย
อนาสตาเซียกัดฟัน คิดว่าวันนี้อุตส่าจะตื่นเช้าๆสบายๆเพื่อขึ้นมาหวีผมแต่งตัว
แต่ดันเจอองค์รักษ์ป่าเถื่อนเล่นให้โมโหเอาอีกต่างหากทำให้อารมณ์ของเธอพุ่งสูง
ค่าความโกธรเต็มร้อยในยามเช้าอีกต่างหาก เอียนกระเถิบถอยห่าง
ขอเชิญทะเลาะกันให้สบายเถอะ..เขามันพวกรักสันติ!
อย่างน้อยที่สุดก็ขอนั่งดูสงครามจากตรงนี้แล้วกัน
อาร์คิลัสส่ายหัวน้อยๆ “น่าเบื่อ..เอาเป็นว่ารีบแต่งตัวได้แล้ว
ข้าจะลงไปรอที่เคาน์เตอร์ด้านล่าง..และถ้าในอีกครึ่งชั่วโมงยังไม่มีใครลงไปถึง...”
“ข้าจะเด็ดหัวพวกเจ้าทีละคนแน่”
“คิดว่าข้าจะกลัวเหรอ!
แน่จริงก็กลับมาสิยะ! กลับมาสู้กันสิ! เอียน
ปล่อยข้า!” อนาสตาเซียโวยวายทันทีพยายามจะไล่ตามร่างของอาร์คิลัส
แต่เอียนก็ดึงตัวเอาไว้ก่อน เขาก็ไม่ได้ห่วงยัยแมวจอมโวยวายนี่เท่าไรหรอก
แต่ถ้ามันเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ เขานี่แหละที่จะหนีตายไม่ทันเพราะโรงแรมบ้านี่มันคงจะถล่มลงมาเพราะฝีมือเจ้าสองคนนี้แน่!
“ง่วงจังเลย..ขออีกห้านาที..”
เอียนมองเพื่อสาวที่นอนอยู่บนพื้น...
แล้วถอนหายใจ
“ทำไมข้าจะต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย..”
เกวนรู้สึกว่าวันนี้ช่างเป็นวันที่น่ากลัวที่สุดตั้งแต่ที่เขาเข้ามาทำงาน
และรับหน้าที่ในฐานะ ‘หัวหน้าพ่อบ้าน’
ไม่เพียงแต่ด้านซ้ายเท่านั้นที่น่ากลัว
ด้านขวาก็ยิ่งทำให้รู้สึกสยองไปได้หลายเท่าตัว
“เกวน..เราขอชาเพิ่มอีก..เร็วๆด้วย..”
องค์หญิงแห่งแดนมนุษย์เอ่ยด้วยสายตาคมกริบระวห่างนั่งอยู่บนเก้าอี้หรูหรากลางห้องโถงใหญ่ซึ่งมีโต๊ะตัวยาวอยู่เพื่อสำหรับการประชุมโดยเฉพาะ..เพียงแต่ในยามนี้ก็มีเพียงพวกเขาสามคนเท่านั้นในห้อง
ใช่..สามคน..
“ฮะๆๆ
น่าสนุกจังเลยน้า..โอ๊ะ..น่ารักจังเลยนะ..แต่แบบนี้มันจะทำให้ดูอ่อนด้อยเกินนะครับ..หึหึหึ”
นี่แหละ..สาเหตุที่ทำให้ขนของคุณหัวหน้าพ่อบ้านลุกเกรียวมากที่สุด
“เอ่อ..ท่านครูส..”
“อ๊ะ
เรื่องชาไม่ต้องหรอก ขอบคุณนะ” เจ้าของชื่อยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ขัดกับการกระทำลิบลับ
บนมือของครูสกำลังถือเข็มฉีดยาพร้อมมีด กรรไกร และอื่นๆอีกมากบนโต๊ะ
เขากำลังกรีดผิวเนื้อของเจ้าดอกไม้ขยับได้จนมันหวีดร้องพยายามดิ้นให้หลุด
แต่ด้วยเข็มเวทย์มนต์ที่ปักตามกิ่ง หรือใบไม้ของมันทำให้มันไม่สามารถขยับไปไหนได้
เสียงหัวเราะน่าขนลุกทำให้เอียนเหงื่อตก มือแอบสั่นไปหมด..
ทำไมข้าต้องมาอยู่ท่ามกลางคนพวกนี้ด้วย
พระบิดา!
แม้ตอนแรกเขาตั้งใจจะลาป่วยก็ตาม
แต่ด้วยความเป็นคนมีระเบียบทำให้เขาไม่สามารถำอย่างนั้นได้
แม้ใจจะไม่อยากแต่ร่างกายก็ดันขยับไปแล้ว
เขาไม่ใช่คนดีที่จะต้องมานั่งรับภาระอยู่ท่ามกลางบุคคลอันตราย
และพยายามทำตัวให้นิ่งๆไว้มากที่สุด แต่เสียงหัวเราะจากคนผมสีเทาก็ยังตามมาหลอกหลอน
นิ่งไว้..เกวน..นิ่งไว้
ยิ่งมองไปทางองค์หญิงปีศาจแห่งแดนมนุษย์แล้วก็ยิ่งหวาดผวา..
สองคนนี้มันก็ตัวอันตรายไม่ต่างกัน..
ครูส
บาสเตียน หมอหนุ่มอัจฉริยะที่ได้รับการกล่าวขานว่าเขาคือสุดยอดอัจฉริยะในรอบหลายร้อยปี
แม้จะยังหนุ่มแน่นแต่ก็มีผลงานการรักษาทางการแพทย์ หรือแม้แต่ยาสมุนไพรหายากชนิดต่างๆที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ต่างก็มาจากฝีมือของเขาทั้งสิ้น
ถ้าหากได้ฟังเพียงแค่นั้นเกวนจะรู้สึกภูมิใจและนับถือในตัวชายผู้นี้มาก
ถ้าเขาไม่บังเอิญไม่เจอเรื่องหนึ่งเข้าเสียก่อน..
เรื่องนั้น..ก็คือเรื่องเมื่อหลายเดือนก่อน
เขาไปเจออีกฝ่าย..กำลังนั่งชำแหละสัตว์ประหลาดหลายร้อยตัวจนเลือดสาดกระเซ็นเต็มห้อง!
เกวนสาบานว่าไม่ได้ตาฝาก ไม่ได้ตาเบลอ
ตัวเขาไม่ได้ผิดปรกติอะไร แต่หมอหนุ่มหล่อโรคจิตข้างๆกายนี่สิผิด ผิดมากด้วย! แค่เห็นใบหน้ายิ้มๆกำลังหัวเราะและควงเข็มฉีดยาไปมา
เกวนก็ขนลุก พยายามหลีกหนีให้ได้มากที่สุดแต่ก็ไม่ทันการทุกครั้ง
บางครั้งถ้าหนีไม่พ้นหมอโรคจิตคนนี้มักจะนำของประหลาดๆมาให้เขาเสมอ
อย่างเช่นสัตว์ประหลาดรูปร่างเหมือนตุ๊กแกผสมกับกระต่าย
และสามารถเต้นบัลเลต์ได้...
ไม่จะอย่างไรก็ตาม..เกวนก็ยังรู้สึกขนลุกกับคนๆนี้ไม่หายอยู่ดี..
ส่วนผู้หญิงอีกคนข้างๆเขา..องค์หญิงปีศาจ
เวริซิก้า รอวซ์เซินต์..
แม้นามสกุลจะสกุลเดียวกับองค์ชายเวนเซนต์ผู้แสนอ่อนโยนแถมยังทำอะไรไม่ค่อยจะเป็นคนนั้นก็ตาม
แต่นิสัยกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เจ้าหล่อนมีความน่ากลัวแถมยังเจ้าเหล์จนแม้แต่เขายังแอบขนลุก
ไม่ว่าเกวนจะทำอะไรหรือคิดอะไรเธอก็เหมือนจะรู้ไปหมดทุกอย่าง มีเหตุการ์ณครั้งนึงที่หัวหน้าอัศวินลาป่วยทำให้กองอัศวินพากันไม่ฝึกซ้อม..
นางจึงไปช่วยแก้ไข...โดยการโยนสัตว์ประหลาดมากมายไปให้พวกอัศวินสู้ในลานประลอง..จนสุดท้ายก็บาดเจ็บกันไประนาว
โดยนางให้เหตุผลว่า “เพื่อการฝึกที่ยากขึ้นสมกับเป็นอัศวินแห่งราชอาณาจักรเอรันทา
เกวนอยากจะถามคนอื่นๆว่า จะมีใครอยากจะมาแลกเปลี่ยนตำแหน่งกับเขาบ้าง..แต่พอลองคิดดูดิๆใครจะอยากได้ตำแหน่งสุดน่ากลัวแบบนี้กันละ
พ่อบ้านหนุ่มถอนหายใจ
“เจ้าดูแปลกๆนะเกวน
หัดทำหน้าให้มันดีขึ้นหน่อย” เวริซิก้าเอ่ยเตือน “ขอประทานโทษครับ”
เกวนเอ่ยเสียงเรียบๆอย่างปรกติ
ตอนนี้พวกเขากำลังรอคนจากทั้งสองอาณาจักรอยู่
แม้จะเป็นการคัดเลือกยิ่งใหญ่แต่เพราะองค์หญิงเวริซิก้าอ้างว่านี่เป็นแค่การรวมตัวไม่ใช่งานพิธีแต่งตั้งดังนั้นให้มีคนรองรับเพียงเท่านี้ก็พอ
แถมเธอยังไม่ชอบความวุ่นวายด้วย สาเหตุนั้นทำให้เหล่าอัศวินและขุนนางคนอื่นๆต่างถูกไล่ไปทำงานหมดจนเหลือเพียงแค่พวกเขาสามคนตามความต้องการของเธอ
เกวนไม่อยากจะมายืนอยู่ตรงนี้เลย...ไม่อยากจริงๆนะ..
“นี่ๆองค์หญิงครับ
ผมคิดอะไรขึ้นมาได้น่ะ” เสียงร่าเริงของครูสดังขึ้นบอกองค์หญิงน้อยซึ่งกำลังจิบชาอยู่
เธอวางถ้วยชาลง “มีอะไร”
“คุณบอกว่าผมจะสามารถเลือกใครก็ได้ใช่ไหมครับ..เห็นว่าทางนั้นจะมีองค์รักษ์มาด้วย
จะผิดไหมถ้าผมอาจจะเลือกองค์รักษ์ของพวกเขามาด้วย?”
ครูสเอ่ยถามแกมขออนุญาติ เวริซิก้ายิ้มมุมปาก “ไม่ผิดนี่ เราอนุญาติ
ขอแค่เจ้าตัดกำลังพวกมันไปได้ เราก็ไม่คิดจะห้าม”
เมื่อได้ยินทำให้ครูสยิ้มก่อนจะหันมาทางเกวน..เจ้าตัวสะดุ้ง
“แล้วเจ้าละเกวน..สนใจไหม..มาเป็นหนูท..”
ไม่..อย่าพูด! ไม่อ๊าว!
“องค์หญิงเวริซิก้าขอรับ
คณะเดินทางจากทั้งสองอาณาจักรมาถึงแล้วขอรับ!”
อัศวินนายหนึ่งวิ่งเข้ามาหน้าประตูห้องโถงก่อนโค้งคำนับและรายงานทำให้ครูสหยุดการทาบทามเกวน
เวริซิก้าหัวเราะเบาๆ “ให้พวกเขาเข้ามา”
ทหารนายนั้นรับคำสั่ง
ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้านับหลายคู่กำลังดังมาตามทางเดิน
บ่งบอกว่าเหล่าคนที่รอคอยกำลังมาถึงแล้ว ครูสรีบนั่งตัวตรงเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดของตนเองและวางท่าทางนิ่งขรึม
ส่วนเกวนก็เก็บถ้วยชาลงไปบนรถเข็น เวริซก้าก็นั่งดื่มชาตามปรกติและวางแก้วชาลงบนโต๊ะรอดูหน้าตาของสิ่งที่เธอรอชมมานาน
เสียงทะเลาะโวยวายดังขึ้นมาพร้อมคนเก้าคนจากทั้งสองอาณาจักรกำลังย่างก้าวเข้ามาในห้องโถง
หูและหางนั้นบ่งบอกสัญลักษณ์ของความเป็นเผ่าพันธุ์ของตน
เวริซิก้าลอบยิ้มส่วนใบหน้าของเกวนก็ยังคงตีสีหน้านิ่งเรียบ ครูสมองน้องหมาและน้องแมวแต่ละตัวก่อนจะยิ้มบางๆ
ถ้าหากยิ้มได้มากกว่านี้เขาคงจะยิ้มไปแล้ว แต่ก็ต้องเก็บอาการและรักษามาดสุขุมของตนเองเอาไว้
ฉากประทับใจเกิดขึ้นได้ไม่นาน
เสียงแหลมๆของอนาสตาเซียก็เอ่ยขึ้น “เหม็นสาปกลิ่นหมาสกปรกแถวนี้จริง”
น้องหมาทั้งห้าตัวหันขวับไปในทันที
ลูคัสกัดฟันกรอดตั้งใจจะตวาดตอกกลับไปแต่โยชิกลับมาห้ามเอาไว้ กอดอกยืนมองแมวสาวพันธุ์เทอร์คิชแองโกล่าด้วยแววตาราวกับมองคนที่ต่ำต้อยกว่า
“ก็ยังดีกว่าแมวตาสองสีไม่สมประกอบบางตัวก็แล้วกัน แมวพวกนี้นอกจากจะนิสัยแย่แล้ว
ก็ยังอุตส่าพูดจาไร้มารยาทในสถานที่แบบนี้อีก ช่างไม่รู้กาลเทศะเอาซะเลย”
อนาสตาเซียกัดฟันกรอด
แต่ก่อนจะได้เอ่ยปากเสียงเย็นๆกลับขัดขึ้นมา “พวกสุนัขตัวเหม็นที่ไม่รู้จักแม้แต่การระงับอารมณ์น่ะ
ไม่มีสิทธิ์พูดหรอกนะ” ก่อนจะปรายตามองไปทางลูคัสซึ่งถูกดิแอนด์จับตัวเอาไว้
อาร์ลิคัสนั่นเอง..อนาสตาเซียแอบอึ้งเล็กน้อย
แต่ดูท่าแล้วอีกฝ่ายจะเกลียดชังสุนัขเหล่านี้เช่นกันก็ถือว่าเธอมีเพื่อนร่วมอดมการ์ณ
ฮันนี่เขี้ยวเนื้อในปากอย่างไม่คิดจะสนใจบรรยากาศอึดอัด
แต่พอเห็นสายตาเหยียดหยามของอนาสเตาเซียแล้วเธอก็ยิ้ม “มีแมวแก่อยู่แถวนี้ด้วย
ขมวดคิ้วเป็นปมเลย”
“นี่หล่อนว่าใครยะ!”
เมื่อได้ยินคำว่า “ยัยแก่”ทำให้แมวสาวผมสีบลอนด์โวยใส่ทันที
คุรันเข้าไปดึงตัวแม่แมวสาวเอาไว้โดยพูดเสียงงัวเงีย “น่าเบื่อจังเลย...อีกอย่างถ้าทำอะไรตอนนี้..เราจะโดนไล่ออกไปนะ”
เมื่อถูกพูดเช่นนั้นทำให้อนาสตาเซียยอมหยุดแต่ก็ยังอารมณ์เสียอยู่ดี
เนริมมองแม่แมวสาวนิ่งๆ..ก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองทางเอียน
แล้วทำหน้านิ่งแต่คิ้วขมวดราวกับจับเจอจุดผิดในตัวของอีกฝ่าย “ไม่ทราบว่า...คุณเป็นพนักงานร้านอาหารที่ผมเคยกินแล้วเบี้ยวไว้คราวนั้นหรือเปล่าครับ?”
เอียนทำหน้างงๆ
ชี้มาทางตนเองก่อจะยิ้มใสซื่อ “พูดอะไรน่ะครับ ผมเป็นคู่แข่งของคุณนะ”
“อะไรนะ? คุณเป็นคู่แข็ง? คุณแข็งตัวเหรอครับ..พวกแมวสามารถทำให้ตัวเองเป็นก้อนน้ำแข็งได้ด้วยเหรอ..”เนริมพึมพำทำท่าราวกับตกใจและไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
เอียนได้แต่สับสนมากขึ้นไปอีก
“ไม่ใช่..ผมพูดว่าคู่แข่ง”
“อะไรนะ!? เป็นคู่เข่ง!? เข่งปลา!? อ๋อ..รู้แล้ว แมวชอบกินปลา!”
“ไม่ใช่คู่เข่ง
ผมบอกว่าคู่แข่ง! เป็นศัตรู!”
“หา..! ที่แท้พวกแมวก็ชอบกินสตูเนื้อ!?”
“ไม่ใช่! มันไม่เกี่ยวกับสตู! หมายความว่าเราเป็นคนไม่ถูกกัน!”
“ไม่ถูกกีดกัน..? ก็ดีแล้วนี่ครับ
ทำไมคุณอยากให้คนอื่นมากีดกันตัวเองออกจากสังคมละครับ มันเหงานะ?”
“โอ๊ย พอกันที!!”
ฉากการทะเลาะแบบแปลกๆทำให้สายตาหลายคู่ยิ่งมองก็ยิ่งละเหี่ยใจ
ส่วนทางด้านอีกคู่ที่ดูจะมาคุก็คือแม่สาวไซบีเรียนฮัสกี้อย่างฮันนี่
และแมวสาวทะเลทรายอย่างคุรันซึ่งกำลังจ้องกันตาเป็นมัน ฮันนี่ยิ้มบางๆ
ส่วนคุรันก็หาวหวอดแต่สายตาก็คมกริบไม่แพ้กัน..
สงครามทางสายตา..
โยชิเชิดหน้ามองอนาสตาเซีย
ส่วนเจ้าหล่อนกำลังมองมาเช่นกัน อีกหน้านาทีคงไม่พ้นได้มีการปะทะกันเป็นแน่..
ส่วนทางด้านองค์รักษ์..ดิแอนด์กำลังมองอาร์ลิคัสซึ่งเป็นองค์รักษ์จากอาณาจักรแมวอยู่..ทั้งสองสายตาสบกัน
ก่อนเอ่ยคำพูดขึ้นเรียบๆ
“ไม่ทราบว่ามีอะไรหรือเปล่าครับ?” ดิแอนด์ถามด้วยแววตาดูใสซื่อ
“ไม่มีอะไร..ก็แค่เห็นหน้าสุนัขสกปรกแล้วอยากจะอ้วก”
อาร์ลิคัสว่าพลางมองอย่างเหยียดหยาม
“แหมๆ...แล้วที่ผมมองดูคุณอยู่แบบนี้..ผมก็ไม่ต่างจากคุณหรอกครับ...แมวที่มองคนอื่นต่ำต้อยโดยไม่รู้เลย..ว่าตนเองนั้นต่ำต้อยกว่าแค่ไหน..”
ตูม!!
ไม่ทันขาดคำสงครามก็เริ่มขึ้นจนได้
ฮันนี่ถือค้อนยักษ์ของตนเองไว้ในมือก่อนทุบลงบนพื้นอย่างแรงสร้างรอยร้าวเอาไว้
คุรันกระโดดหลบไปได้ด้วยแววตานิ่งเรียบ ฮันนี่พองแก้ม “แมวน่ารังเกียจอย่างเธอน่ะ..ฮันนี่เกลียดที่สุดเลยละ!”
เด็กสาวผมสีเงินเอ่ย คุรันเอียงคอ “ฉันก็เกลียดเธอไม่ต่างกัน”
คุรันหยิบมีดออกมาจากระเป๋าเตรียมต่อสู้กับแม่สาวถือค้อนยักษ์ตรงหน้า
ส่วนคู่อื่นๆก็ไม่ต่างกัน
เพียงแต่คนประสาทไม่กลับอย่างเนริมกลับคุยกับเอียนได้อย่างถูกคอ(?)กว่าคู่อื่นๆนัก..ลูคัสจ้องมองคนอื่นๆ..ทุกคนต่างมีคู่ให้ทะเลาะด้วย
เขามองซ้ายมองขวาไม่รู้ว่าควจจะไปช่วยใครดี..จนเหมือนได้รับสายตาชวนน่าขนลุก..เขาค่อยๆหันไปสบกับนัยย์ตาสีเขียวของชายคนนึงซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้คาดว่าน่าจะเป็นคนของเมืองมนุษย์..
ไม่รู้ว่าทำไม..สัญชาตญาณในตัวของเขาถึงบอกว่า..คนๆนี้อันตราย..
ขาของเขาค่อยๆก้าวถอยหลังหนีไปทีละนิด
“เดี๋ยวสิครับ คุณชื่ออะไรหรือครับ?”
ไม่ทันขาดคำ ครูสก็ผุดลุกจากเก้าอี้และก้าวเข้ามาหา
องค์หญิงเวริซิก้าเหล่มองลูคัสแล้วยิ้ม ส่วนเกวนก็ถอนหายใจ..
นี่..นี่มันเรื่องอะไรน่ะ..
เจ้าหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ได้แต่มองรอบๆอย่างหวาดระแวง
และที่กลัวมากที่สุดก็คือไอใบหน้ายิ้มๆจากคนเบื้องหน้าเขานี่แหละ..ทำไมต้องมองแบบนั้นกัน!?
สัญชาตญาณในตัวบอกให้หนี
แต่ก็หนีไม่ทันเมื่อชายหนุ่มผมสีเทาเดินเข้ามาหาและรวบมือของเขาเอาไว้และกุมแน่น “คุณเนี่ยสมบูรณ์แบบครับ..!”
“ห..หา?”
“หนาต้าน่ารัก แถมยังดูไม่มีใครสนใจ
โดดเดี่ยว ต่อให้หายตัวไปก็คงไม่มีคนห่วง ดูแล้วน่าแกล้งสนุก
แถมยังท่าทางการตอบสนองก็ดีเยี่ยม น่าชื่นชมมากครับ!”
“ด..เดี๋ยวสิฟะ
อะไรของแก!”
“องค์หญิงเวริซิก้า
ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะเอาคนนี้ครับ!”
ครูสหันบอกองค์หญิงแห่งแดนมนุษย์ด้วยแววตาดีใจเต็มเปี่ยม ลูคัสสับสน
เขาทำอะไรไม่ถูก องค์หญิงน้อยยิ้มบางๆ “ถือว่านำไปคนนึงให้มันเท่าเทียมสินะ..ไม่สนใจคนอื่นอีกหรือ?”
ดูเหมือนว่าคนอื่นๆจะไม่ได้สนใจบทสทธนาเพราะกำลังมีสงครามหย่อมๆเกิดขึ้นในห้อง
แต่ที่มันไม่กระทบมาโดนพวกเธอก็เพราะมีเวทย์ป้องกันบางๆขององค์หญิงคุ้มกันเอาไว้อยู่
แต่สภาพห้องที่ไม่ถูกคุ้มกันน่ะ เละไปแล้วเกือบครึ่ง
จนน่ากังวลว่าอาจจะได้มีการบูรณะปราสาทใหม่ในเร็ววัน
“ไม่หรอกครับ..ถ้าผมอยากได้อีกจะมาเอานะครับ
เท่านี้ละครับ” พูดยิ้มๆไม่สนใจลูคัสเลยแม้แต่น้อย เจ้าน้องหมาผมสีน้ำเงินหม่นกำลังสับสน
ดวงตาฉายแววสงสัยสุดขีด “นี่ๆ แกพูดบ้าอะไรวะ?”
ครูสตบบ่าลูคัส
“ก็..เรื่องที่คุณจะมาเป็นเหยื่อของผมครับ”
“หา!? นี่แกหมายความว่าอะไร!?”
“ก็หมายความว่าผมจะเสียบคุณด้วยเข็มฉีดยาของผม
ทำให้คุณเป็นเหยื่อของผม ทำให้คุณกรีดร้องออกมา จริงสิ
ผมอยากจะทดสอบคุณด้วยละครับว่าสุนัขจะน่ารักขนาดไหนกันเชียว...ถ้าหากทดสอบการต่อสู้ของคุณก็คงจะน่าสนุกไม่น้อย
จะว่าคนแบบคุณน่าจะเหมาะกับบททดสอดนัมเบอร์ D นะครับ
มันคงจะสนุกมากแน่ๆ ฮะๆๆ แค่คิดผมก็อดใจไม่ไหวแล้ว ถ้าหากผมใส่เจ้านั่นไปบนแขนขาตามร่างกายของคุณมันคงจะมีอะไรบางอย่างออกมาแน่ๆ
ผมอยากเล่นจะแย่อยู่แล้ว น่าสนใจจริงๆ!”
โอ้...มายเดียร์
ลูคัสอยากจะร้อง
ความรู้สึกขนลุกซู่ออกมากลืนกินไปทั่วทั้งตัว
“ก..แก..ขยะแขยงโว้ย!!”
ทำไมวันนี้เขาถึงซวยแบบนี้กัน!?
องค์หญิงเวริซิก้ามองภาพฉากการปะทะด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
เธอมองสุนัขไซบีเรียนฮัสกี้ผู้ตกเป็นเหยื่อและพยายามตีแขนตีขาเอาตัวรอดจากการเกาะกุมของคนตัวสูงอย่างครูส
แต่สุดท้ายก็ไปไหนไม่รอดอยู่ดีจนเรี่ยวแรงหมดไปแล้ว
ลืมไปว่าเธอได้ให้มนต์ผนึกพลังสุนัขกับครูสเอาไว้ เนื่องจากมนต์นี้ได้มาจากองค์ราชาแห่งสามอาณาจักร
ใช่..องค์ราชาแห่งสามอาณาจักรที่บัดนี้ยังไม่เคยปรากฎตัวออกมาจากนอกปราสาทลอยฟ้าลอยแม้แต่น้อย
ราชาแห่งสามอาณาจักรจะมีการคัดเลือกทุกๆห้าร้อยปี
โดยห้าร้อยปีที่แล้วว่ากันว่าตัวราชานั้นเป็นคนรักสันโดษและเลือกที่จะอยู่บนปราสาทลอยฟ้าแต่เพียงผู้เดียว
เธอไม่เคยขึ้นไปเลย ได้แต่เห็นมันลอยอยู่บนฟ้าเท่านั้น
ไม่มีใครกล้าเข้าไปจะมีก็แค่สารจากองค์ราชาแห่งสามอาณาจักรส่งมาเพื่อปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น
มันไม่มีปัญหาอะไรถ้าตัวองค์ราชาผู้ลึกลับยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่จึงไม่มีใครคิดจะขึ้นไปหา
เวริซิก้าไม่คิดจะสนใจเท่าไรนัก
เมื่อเห็นว่าเรื่องทุกอย่างพอจะเข้าที่ดีแล้ว ครูสก็เลือกคนมาแล้วเธอก็เอ่ยเสียงเบากับพ่อบ้านข้างกาย
”หยุดพวกเขาเสีย..แค่หยุดก็พอ” เกวนรับคำ
เขารับคำสั่งก่อนเดินไปยังเบื้องหน้าของพวกแมวและสุนัขที่กำลังทะเลาะกันอยู่นอกเขตเกราะคุ้มกัน
วุ่นวายกันเสียจริง
ขวานด้ามยาวถูกเรียกออกมา
ก่อนจะฟาดฟันลงไปบนพื้นจนเกราะเวทย์มนต์แตกสลาย
รอยแตกร้าวผ่าพื้นห้องกลายเป็นสองซีกในพริบตาสร้างแรงสะเทือนให้คนที่กำลังทะเลาะกันทรงตัวไม่อยู่
องค์หญิงเวริซิก้ามองการกระทำของพ่อบ้านหนุ่มพลางแกว่งเท้าไปมาราวกับรอดูเรื่องสนุกๆ
“กรุณาหยุดความวุ่นวายไว้เท่านี้ครับ
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาทต่อองค์หญิงเวริซิก้าไปมากกว่านี้”
เกวนเอ่ยเสียงเรียบ คนจากทั้งสองอาณาจักรมองเขาเป็นตาเดียวก่อนอนาสตาเซียจะหรี่ตาลง
“แต่พวกข้า..”
“ไม่มีแต่ครับ สิ่งที่พวกคุณทำถือเป็นการเสียมารยาท
ถ้าหากคิดจะไม่ฟังคำตักเตือน ทางเราจะตัดสิทธิ์ในการเป็นผู้ถูกเลือกอย่างไม่มีข้อโต้แย้งครับ”
คำตัดสินเด็ดขาดทำให้ทุกคนหยุดการต่อสู้ลง ดิแอนด์ยิ้มบางๆส่วนอาร์ลิคัสก็สบัดหน้าหนีไปทางอื่น
ฮันนี่พองแก้มและเก็บอาวุธของตนเองลงเช่นเดียวกับคุรันที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก โยชิผู้เถียงฝีปากกับอนาตาเซียก่อนหน้านี้ก็แอบมองแมวสาวแกมหัวเราะแกมสมน้ำหน้าไปในตัว
แม้แต่เนริมและเอียนก็หยุดพูดและมามองทางพ่อบ้านหนุ่มซึ่งกำลังเก็บอาวุธ ครูสเองก็ฉุดตัวขอลูคัสให้มานั่งบนตักโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของเจ้าตัว
เมื่อเห็นว่าเหตุการ์ณสงบลงเกวนโค้งคำนับให้กับทุกคนและผายมือไปทางโต๊ะ
“ถ้าหากอยู่ในความสงบแล้ว...ก็เชิญทุกท่านครับ”
ท่าทาง..มันคงจะวุ่นวายขึ้นแล้วสิ..
----------------------------------------------
มาช้าไปหน่อยต้องขอโทษนะคะ ทั้งๆที่คิดว่าจะไม่ให้เกินสองวันแท้ๆ..
เนื่องจากอาทิตย์หน้าไรท์จะเรียนเป็นอาทิตย์สุดท้ายและปิดเทอมแล้ว..อาจาร์ยทั้งหลายเลยจัดการสอบสุดน่ารักไว้ค่ะ(?)
#ทรมาน ฮรืออออ
ในตอนนี้ผู้โชคร้ายที่สุดคงไม่พ้นเอียนกับลูคัส...ไรท์ไม่ได้ตั้งใจจะจริงๆนะคะ ก็แค่อยากแกล้งเฉยๆ(?)
เจอกันตอนหน้าค่า!
O W E N TM.
ความคิดเห็น