ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CAT VS DOG มหาสงคราม..แมวปะทะหมา!

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่สี่ : คนดื้อดึง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 58
      0
      15 ก.ย. 58








    บทที่สี่

    คนดื้อดึง




      

     

                “ปล่อยข้า”

               

    “ไม่ปล่อย”

     

                “ปล่อย”

     

                “จะปล่อยก็ต่อเมื่อเจ้ายอมพาข้าไปด้วย”

     

                ใช่..ข้าจะไม่มีวันยอมปล่อยคนตรงหน้าไปจนกว่าเขาจะยอมพาข้าไปด้วย ต่อให้ต้องติดหนึบหรือแปลงร่างเป็นกาวตาช้างหรือเห็บเพื่อเกาะข้าก็ยินดี คิดจะเอาข้ามาและปล่อยข้าทิ้งไว้มันไม่ต่างจากฟันแล้วทิ้ง(?)เลยสัดนิด! เจ้าใจดีกับข้าแล้ว แถมยังคอยช่วยเหลือข้า คิดหรือไงว่าข้าจะปล่อยเหยื่อดีๆขนาดนี้ไปง่ายๆ ไม่มีทาง!

     

                ข้าสาบานเลย..ต่อให้เจ้าเอามังกรดำมาช่วยแงะมือข้าออก ข้าก็ไม่ปล่อย!

     

                สภาพของข้ากับซิลเวอร์กำลังอยู่ในสภาพเหมือนคนรักกำลังกอดกันด้วยความรัก เพียงแต่นั่นแค่ภาพลวงตา เพราะข้าเป็นฝ่ายกอดเอวมันไว้ แม้มันจะพยายามสะบัดข้าจนร่างกายของข้าร่วงไปบนพื้นเลื้อยเป็นงู แขนของข้าก็ยังคงทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม ไม่เลื่อนออกไปจากเอวของซิลเวอร์แม้แต่มิลเดียว

     

                หึหึ ซิลเวอร์เอ๋ย จะสลัดคนอย่างข้าหลุด มันยังเร็วไปหลายพันปี!

     

                “เฮ้อ..ข้าจะทำอย่างไรกับเจ้าดี..”

     

                ซิลเวอร์ดูเหนื่อยใจ แต่ข้าไม่สน ในเมื่อคนเหนื่อยใจมันไม่ใช่ข้า ต่อให้ต้องทำให้คนอื่นลำบากใจก็ช่าง แต่ในเมื่อชีวิตข้า ข้าต้องเลือก ข้าก็ขอเลือกเกาะเขาไม่ปล่อย

     

                โชคดีนักที่ซิลเวอร์ไม่ได้เป็นพวกหัวรุนแรงและป่าเถื่อนแบบคนในปราสาท..ถ้าขืนซิลเวอร์มีนิสัยเช่นนั้นข้าคงจะร้องไห้จนเลี้ยงปลาได้สองบ่อใหญ่

     

                หึหึ หลังจากเมื่อวานหลังจากที่ซิลเวอร์อาบน้ำเสร็จ ข้าไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นนางเอกโดยการต้องมานั่งเถียงกับเขาต่อ ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ ข้าจึงใช้พลังเวทย์ทั้งหมดที่ตนเองมีร่ายเกราะคุ้มกันรอบเตียงและนอนซะ ต่อให้เจ้าหมอนี่จะพังเข้ามายังไงก็ไม่มีทางทำได้..

     

                ยกเว้นแต่ว่ามันจะมีพลังเยอะกว่าข้า

     

                แต่นับเป็นโชคดีในเมื่อซิลเวอร์ตัดสินใจไม่ทำลายเกราะของข้าลง แถมมันยังนอนบนเตียงหรูกว่าอีก ข้าเหล่มองเตียงๆข้างๆเตียงของโรงแรม มันเป็นเตียงน้ำแข็งชนิดผสมไปด้วยหิมะพันปีแบบที่ว่าถ้าหากข้านอนไปความเย็นคงเข้าสิงร่างจนขยับตัวไม่ได้

     

                แล้วหมอนี่นอนได้ยังไง?

     

                “ซิลเวอร์ เจ้านอนบนเตียงนี่ได้ยังไง ไม่หนาวเหรอ?” ข้าไม่คิดจะสนใจสีหน้าหนักใจของเจ้าตัว ถามคำถามไม่ดูสถานการ์ณ ซิลเวอร์ดูเหนื่อยใจกว่าเดิม

     

                “ไม่”

     

                ชิชะ อย่ามาสตอ มนุษย์หน้าไหนจะมานอนบนก้อนน้ำแข็งได้โดยไม่หนาวบ้าง แถมไม่มีผ้าห่มอีกต่างหาก หรือว่ามันจะไม่ใช่มนุษย์? ข้าเลิกคิ้วแปลกใจ

     

                ในดินแดนแห่งนี้การจะมีเผ่าพันธุ์อื่นนอกจากมนุษย์ และน้องหมาน้องสาวแสนน่ากลัวเหล่านั้นเป็นโอกาสที่น้อยพอสมควร เนื่องจากเผ่าอื่นๆจะมีอาณาจักรของตนเองอยู่ไม่มาข้องแวะ จะมีบางส่วนที่ออกมาโลกภายนอกถึงกระนั้นก็ยังน้อยนิด

     

                ถ้าหากมันไม่ใช่มนุษย์ มันก็ต้องไม่ใช่ทั้งหมาและแมว เพราะข้าแพ้ขนสัตว์แถมถ้าอยู่ใกล้มากๆอาการหลายๆอย่างจะกำเริบ..อย่าให้ข้าพูดเลย มันน่าขนลุกเฟ้ย

     

                หรือว่ามันจะเป็นจำพวกภูตน้ำแข็ง จะว่าไปข้าเคยได้ยินมาว่าภูตน้ำแข็งหรือภูตประเภทต่างๆจะหน้าตาดี โดยเฉพาะภูตน้ำแข็งจะมีลักษณะหน้าตานำโด่งร่างกาย หน้านิ่งเสียจนไม่รู้ว่าโดนน้ำแข็งเกาะหน้าจนขยับไม่ได้หรือโดนปูนฉาบหน้าในภูเขาน้ำแข็งไปแล้วก็ไม่ทราบ

     

                เอาเป็นว่ามันหน้าตายแล้วกัน

     

                “เจ้า..ปล่อยข้า..ข้าจะไปจากเมืองนี้” ซิลเวอร์พยายามแกะมือของข้าออก แน่นอนว่าข้าไม่มีทางปล่อยแถมยังกอดเอวเขาแน่นกว่าเดิม

     

                “แต่ข้าไม่ให้ไป”

     

                ขืนข้าให้เจ้าไปก็โง่สิฟะ นอกจากความปลอดภัยจะหายไปแล้วยังต้องมาหาที่ไปอีก ไม่มีทาง!

     

                “ข้าเจ้าไม่ปล่อย..ข้าจะโกธร” ซิลเวอร์เอ่ยเสียงเย็นเหยียบ แต่ข้าไม่สนใจเรื่องอะไรจะต้องสนใจ จะโกธรก็เรื่องของเจ้า เพราะถ้าเจ้าฆ่าข้า เจ้าจะโดนหมายจับจากดินแดนมนุษย์เลยเชียว!

     

                โอ๊ะ ข้าขอบอกไว้ก่อนว่าในดินแดนมนุษย์นี้ถ้าหากใครคิดจะฆ่าข้าหรือฆ่าข้าตายแล้วหมกศพเอาไว้ ศพของเชื้อพระวงศ์อย่างข้าผู้หล่อเหลาจะตอบสนองต่อระฆังจันทราภายในหอคอยของเมือง ข้าเห็นระฆังนั้นอยู่มาหลายร้อยปียังไม่เคยสั่นเลยสักครั้ง มีครั้งนึงที่ข้าถามท่านพ่อบอกว่า

     

                นั่นเป็นระฆังศักษ์ศิทธิ์...มันจะส่งเสียงแหละร่ำไห้เมื่อยามคนในราชวงศ์สิ้นใจ...และจะนำพาร่างของพวกเขากลับคืนสู่ระฆังสีทองเพื่อให้ดวงวิญญาณอันสูงส่งได้ขึ้นไปบนสวรรค์..แต่ถ้าหากดวงจิตวิญญาณของใครคนใดคนนึงตกต่ำ...มันจะนำพาดวงวิญญาณนั้นไปสู่นรก..

     

                เห็นไหมละ เจ้าระฆังอเนกประสงค์ มันสามารถรับรู้การตายของข้าได้ด้วย เป็นเครื่องติดตามที่ทรงพลังอย่างมากถึงมากที่สุด ถ้าหากซิลเวอร์ฆ่าข้าละก็เจ้าจะโดนโทษหลายชั่วโคตรเลยเชียว จากนั้นเจ้าก็จะไม่มีโอกาสทำมาหากินได้อีกเลยตลอดชีวิต อยากมีคู่ก็ไม่มี ไม่มีใครจะเอา  สุดท้ายชีวิตก็ตกต่ำ เงินก็ไม่มี ร่อนเร่อยู่ข้างถนนและตายอย่างสงบ

     

                เอาสิ! ข้าจะไม่ได้เป็นเจ้าชายตกอับมีชีวิตอนาถคนเดียว

     

                ซิลเวอร์มองข้านิ่ง..สายตาเหนื่อยใจของเขาหายไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เพียงแต่สายของเขาในตอนนี้มันเต็มไปด้วยความเยือกเย็นแปลกๆ...นี่ข้าทำอะไรผิดไปมากหรือไง?

     

                “เจ้าแน่ใจแล้วหรือ...เวนเซนต์..ถ้าหากเจ้าต้องการจะไปกับข้า..เจ้าอาจจะกลับไปใช้ชีวิตองค์ชายแสนสุขสบายไม่ได้อีกต่อไป”

     

                ข้านิ่งอึ้งกับคำถามแปลกประหลาด..ท่าทางของซิลเวอร์ตอนถามดูเปลี่ยนไปรวดเร็วมากจนข้าตามไม่ทัน...

     

                “ถามอะไรลิเกชะมัด ถ้าข้าอยากใช้ชีวิตสุขสบายข้าคงไม่หนีมาหรอก ใช้อะไรคิด หัดคิดสิซิลเวอร์ คิดสิคิด” ข้าตอบหน้าตายพลางแคะหู

     

                โป๊ก!

     

                ดูเหมือนพระเจ้าจะไม่เห็นใจข้า! โดยเฉพาะพระเจ้าชื่อซิลเวอร์ที่พอได้ฟังคำตอบมันก็ตบหน้าผากข้าไปทีนึง ไม่ใช่เบาๆด้วย เจ็บชิบ!

     

                “ไอคนโหดร้าย! ข้าจำไม่ได้เลยว่าไปเคาะหัวบุพการีเจ้าตอนไหน!

     

                “ตอนสงครามโลกครั้งที่สามสิบเจ็ด”

     

                พระมารดาเจ้าสิ! ถ้ามันมีสงครามบ้าๆนั่นจริงป่านนี้โลกมันคงย่อยยับ แถมเจ้ารู้ได้ยังไง! ข้าคิดว่าตอนนั้นเจ้ายังเป็นเซลล์อะมีบาในกะเพาะอาหารของแม่เจ้าอยู่เลย!

     

                ซิลเวอร์หัวเราะในลำคอเบาๆเมื่อได้แกล้งข้า หึ..คอยดูเถอะ ถ้าเจ้าเผลอเมื่อไรข้าจะแกล้งเจ้าคืน ขอให้ข้ารู้จุดอ่อนของเจ้าก่อนเถอะ ข้าเกาะซิลเวอร์และล้มไปบนเตียงดึงตัวเขาให้มานอนบนเตียงด้วยกันพร้อมนอนทับเสร็จสรรพไม่ให้หนีได้ร้อยเปอร์เซ็น ถ้าเจ้าคิดจะลุกข้าจะกระโดดทับแล้วเอาก้นนวดหน้าเจ้าเลยเชียว จากนั้นหน้าของเจ้าก็จะผ่องใส อวบอิ่มสุขภาพดีเหมือนคนอนามัยกินผักทุกวัน

     

                “ซิลเวอร์..ได้โปรดเถอะ..ข้าไม่อยากจะอยู่ที่นี่..ข้าไม่อยากกลับไปที่วังด้วย..” ข้าทำสายตาออดอ้อนแม้ผู้ชายอย่างข้าทำแบบนี้ใส่มันอาจจะดูน่าเกลียดแต่ข้าก็ขอให้มันมองข้าแบบน่ารักบ้างก็ยังดีในเวลานี้

     

                ใช่...ข้าเป็นเจ้าชายแสนน่ารักเชียว

     

                ซิลเวอร์รู้สึกเหนื่อยใจ..เขาเห็นสายตาอ้อนๆของเวนเซนต์แล้วนิ่งไป...เขากำลังสับสน ความรู้สึกในใจคิดบอกว่าอยากจะพาคนตรหน้าไปด้วยโดยไม่รู้สาเหตุ หากแต่สัญชาตญาณของเขากลับบอกว่าให้ปล่อยทิ้งไว้เพื่อไม่ให้เป็นภาระของตนเอง...

     

                ซิลเวอร์พึงไว้เสมอว่าไม่ควรไว้ใจใคร..เพราะถ้าปักใจเชื่อ..สิ่งนั้นจะวนกลับมาทำร้ายตัวเองได้..

     

                ในฐานะคนที่ต้องการเดินทางไปดูสิ่งต่างๆอย่างเขาไม่คิดจะรับภาระเพื่อให้การเดินทางของตนเองลำบากขึ้น..แถมสถานที่ต่อไปซึ่งเขาต้องการจะไปมันก็อันตราย ถ้าหากขนเจ้าชายประสาทกลับบนตัวเขาไปด้วยมีหวังได้ล่มกลางทาง

     

     

                “ซิลเวอร์...” เสียงของเจ้าชายตัวปัญหาเอ่ยอ้อนๆ..

     

                ขนลุก..

     

                ซิลเวอร์หน้าเคร่งเครียด..ไม่รู้ว่าควรจะตัดสินใจอย่างไรดี..

     

                ในเวลานั้นเองเสียงฝีเท้าหลายคู่ก็ดังขึ้นมา ก่อนประตูจะถูกถีบพังลงกระเด็นไปสุดผนังด้านใน ทั้งคู่รีบหันไปมองทางประตู ชายหลายคนมีรอยสักเต็มตัว ตัวใหญ่แทบจะเท่าบานประตู และมีรอยแผลเป็นเต็มหน้ากำลังยืนออกันอยู่หน้าประตู เสียงหัวเราะเมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองคนกำลังนอนอยู่บนเตียงพร้อมเสียงซุบซิบนินทา

     

                พวกมันมีประมาณสิบถึงยี่สิบคน ข้าหรี่ตามองก่อนลุกจากตัวซิลเวอร์มานั่งแทน ซิลเวอร์ก็ลุกขึ้นมาเช่นกัน ข้าแปลกใจที่หมอนี่ไม่โวยวายอะไร เอาเถอะ..ไอน้ำแข็งตายด้านนี่ต่อให้มีระเบิดถล่มเมืองมนุษย์สีหน้าก็คงไม่กระดิกแม้แต่คิ้วหรอก

     

                ถามว่าตอนนี้ข้าตกใจไหม?

     

                ตกใจ..แต่เรื่องอะไรจะทำหน้าให้เหมือนตกใจละฟระ พระเอกตามปรกติพอเห็นศัตรูบุกเข้ามาก็ต้องทำหน้านิ่งๆ ท่าทางขรึมๆเพื่อคงความหล่อ จากนั้นพอพวกผู้ร้ายบุกเข้ามาจะสู้เราก็ต้องหลบและโจมตีกลับอย่างสง่างามสิ! ข้ายิ้มกระหยิ่งในใจก่อนหาวหวอดราวกับว่าไม่ได้สนใจคดีทำลายประตูโรงแรมของนักเลงหน้าตัวร้ายทั้งหลาย

     

     

     

                ซิลเวอร์เหล่มองข้า พวกโจรก็มามองข้า มองก่อนพวกมันจะยิ้มอย่างถูกใจ “เจ้าหนูนี่กล้าดีนะ..ไม่สิ..เจ้าช่างกล้าหาญโดยแท้...เจ้าคนเร่ร่อน!

     

                “หา...?

     

                คนเร่ร่อน...? ข้าอ้าปากค้างกับคำที่ถูกเรียก อะไรนะ..? หรือข้าหูฝาด ฮ่าๆๆ...หน้าอย่างข้าจะไปเป็นคนเร่ร่อนได้ยังไง ข้าเป็นถึงเจ้าชายแห่งแดนมนุษย์ เวนเซนต์ รอว์เซินต์ ผู้หล่อเหลา มีข้ารับใช้นับพัน มีองค์รักษ์ปีศาจสองตัวอยู่ข้างกายพร้อมน้องสาวใจยักษ์ และคนวิปริตในวัง...

     

                ทำไมข้ารู้สึกว่าชีวิตเจ้าชายของตัวเองมันอนาถชอบกล...

     

                เจ้าตัวใหญ่ที่สุดและมีรอยแผลเป็นบนหน้า แถมยังหัวโล้นมีกล้ามเป็นมัดๆ ข้าเชื่อว่าชาติที่แล้วมันคงทำบุญมาน้อย ต่างจากข้าที่ทั้งหล่อเหลาทำบุญมาเยอะ มันแสยะยิ้มทีทำเอาข้าขนลุกไปทั่วร่างขยับไปกระตุกชายเสื้อของซิลเวอร์ ถ้าหากมันจะเข้ามาทำร้ายข้าเชื่อว่าสหายที่คบกันมานานนับสิบชั่วโมงคนนี้จะสามารถปกป้องข้าได้

     

                แต่ถ้าเจ้าบาดเจ็บ..ข้าจะทิ้งเจ้าไว้!

     

                ไม่ต้องมองข้าเลวเฟ้ย หมายถึงทิ้งแล้วไปตามคนมาช่วย ระหว่างนั้นเจ้าก็นอนรอให้พวกมันรุมอัดเท้าไปก่อนแล้วกันนะซิลเวอร์ ข้าเชื่อมั่นในฝีเท้าตัวเอง ไม่ถึงสิบนาทีจะมีคนมาช่วยเจ้าแน่นอน

     

                เจ้าหน้ายักษ์ซึ่งดูตัวใหญ่เดินเข้าไปท่ามกลางเสียงเชียร์

                “ไปเลยเฮีย!

     

                “เฮียสู้ๆ!

     

                “เฮียอย่าทำร้ายเจ้าคนเร่ร่อนนั่นนะ ข้าสงสาร!

     

                ประโยคสุดท้ายนั่น..ใคร! คนเร่ร่อนนั่นหมายถึงใคร ซิลเวอร์ใช่ไหม ข้าหน้าตาดีกว่ามันไม่ใช่เหรอ! เมื่อรอบที่แล้วมันก็บอกว่าข้าเป็นคนเร่ร่อน เจ้าจะบ้าหรือไง...ข้านี่แหละเจ้าชายตัวจริงเสียงจริง ว่าแล้วก็ลองมองหน้ามันอีกรอบ...

     

                หล่อ..หล่อเว้ย! จะหล่ออะไรกันนักหนา! ถ้าข้าเป็นผู้หญิงข้าสาบานเลยว่าจะกระโดดเข้าไปซบอกเจ้า..ฮือ..

     

                ทำไมนักเดินทางอย่างมันถึงดูมีออร่ามากกว่าเจ้าชายอย่างข้าอีก!?

     

                พระเจ้าไม่ยุติธรรม หรือว่าจะมีคนดักทำร้ายข้าตอนกำลังจะไปเกิด เอาหน้าหล่อๆของข้าไปแล้วเอาหน้านี้มาใส่แทนให้ข้า?

     

                ระหว่างที่ข้ากำลังเพ้อฝันอย่างเจ็บช้ำ เจ้ายักษ์ร่างใหญ่คนนั้นก็เดินไปหาซิลเวอร์ก่อนพิจรณาดู...ก่อนบอกลูกน้องตนเอง “พวกเจ้ามีใครจำหน้าตาเจ้าชายจากใบประกาศได้บ้าง...? ข้ายังไม่แน่ใจว่าเจ้าหมอนี่คือเจ้าชายหรือเปล่า” ก่อนจะเหล่มองทางข้า..และกลับไปมองซิลเวอร์

     

                หมายความว่ายังไงหา! มองข้าแล้วเมิน ข้าคือเจ้าชายตัวจริงเสียงจริง เจ้าพวกไร้สมอง!

     

                “พวกข้าจำไม่ได้ครับลูกพี่..แต่ข้าคิดว่าเจ้าชายคือคนตัวสูงๆนะครับ เขาดูดีสมกับตำแหน่งเจ้าชาย ท่าทางเจ้าเตี้ยบนเตียงน่าจะเป็นแค่เด็กรับใช้หรือคนเร่ร่อน” ความเห็นจากลูกน้องปากดีคนนึงเสนอ

     

                ว่าใครเตี้ย! ข้าไม่ได้เตี้ย แค่ส่วนสูงกระทัดรัด! ข้าออกจะหล่อขนาดนี้ทำไมถึงเทียบเจ้าซิลเวอร์ไม่ได้..เจ้าซิลเวอร์มองข้าตาปริบๆ ส่วนข้าก็ส่งสายตาอาฆาตใส่มัน ข้าอยากจะลุกไปเอาดาบฟาดปากคนที่หาว่าข้าเตี้ย เจ้าคนที่บังอาจสูงกว่าข้า ฮือ...

     

                น่าน้อยใจ..กำลังใจในชีวิตของข้ามันหดหายไปหมดแล้ว!

     

                ข้านั่งซึมกับเตียง ท่ามกลางสายตาเยาะเย้ยของพวกคนร่างใหญ่และสายตาอนาถของซิลเวอร์

     

                “ฮ่าๆๆ เจ้าก็พูดเกินไป เจ้าเด็กรับใช้คนนี้ช่างน่าสงสาร อยู่ข้างเจ้าชายคงจะต้องทนมากละสิ ในเมื่อเจ้าชายออกจะหล่อขนาดนี้”

     

                “นั่นสินะ...ถึงแม้หน้าตาจะไม่ค่อยดี แต่อย่างน้อยก็พอดูได้นะเจ้าหนู เป็นถึงข้ารับใช้เชียว ฮ่าๆๆ”

     

                ซิลเวอร์ถอนหายใจเมื่อเห็นสภาพของเจ้าชายแห่งแดนมนุษย์กำลังโดนพวกโจรกระจอกดูถูกอย่างน่าอนาถ แถมเจ้าตัวก็ดูจะหมดกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไปแล้ว ซิลเวอร์ตั้งใจจะเข้าไปช่วยแต่ดาบยาวเล่มคมก็เข้ามาดักคอเขาเอาไว้จนทำให้ซิลเวอร์ชะงัก มองเจ้าของดาบซึ่งกำลังถือมันจ่อคอเขา..

     

                หัวหน้าโจรทำสีหน้ายิ้มเยาะ “หึ..ขอโทษทีนะเจ้าชาย..แต่ว่าพวกข้าต้องการพาตัวท่านกลับไปส่ง เงินรางวัลตัวท่านเยอะจนพวกข้ารู้สึกโลภเลยละ ฮ่าๆๆ..ดังนั้น..คงต้องขอให้ท่านไปกับพวกข้าแล้วละ”

     

                ซิลเวอร์หรี่ตามอง พวกลูกน้องกระจอกกำลังยิ้มเยาะไม่ต่างจากหัวหน้า เขากำหมัดแน่นแต่.”โอ๊ะโอ..ข้าคิดว่าเจ้าอย่าคิดจะขัดขืนดีกว่านะเจ้าชาย..เพราถ้าหากเจ้าขัดขืดคิดจะใช้เวทย์...”

     

                หัวหน้าโจรดีดนิ้ว พวกลูกน้องหลายคนรับเข้าไปคว้าตัวเวนเซนต์ซึ่งกำลังจิตตกกับชีวิต

     

                แล้วข้าเกี่ยวอะไรด้วย..!

     

                ทำไมในสถานการ์ณหน้าสิ่วหน้าขวานถึงชอบโยนบทมาให้ข้ากันนัก ให้ข้าเป็นคนบรรยายอยากจะได้ยินเสียงข้ากู่ร้องนักหรือไงเจ้าพวกโรคจิต! ข้าอยากอยู่กับตัวเอง อยากจะนั่งทำใจกับคำด่าทออันโหดร้ายจากไอพวกหน้าตาไม่หล่อแถมจิตใจหยาบช้ายิ่งกว่าแผ่นปูนซีเมนต์หยาบ!

     

                ชิ้ง

     

                “เฮือก..” ข้ากลืนน้ำลายเมื่อเจ้าพวกลูกน้องกระจอกเอามีดมาจ่อคอข้างเอาไว้แถมจับตัวข้า รวบแขน ขา กะจะไม่ให้ข้าขยับ ถ้าข้าขอไปเข้าห้องน้ำได้ไหม หรือไม่ก็ขอเวลานอกไปบอกลาพ่อแม่ปู่ย่าตายก่อนจะโดนมีดปาดคอตาย

     

                เดี๋ยวสิ..นี่หมายความว่าข้ากำลังตกอยู่ในอันตราย? ข้ากำลังโดนมีดจ่อคอ ข้ากำลังโดนขู่ฆ่า ข้ากำลัง...จะโดนฆ่าตายถ้าหากเจ้าซิลเวอร์ขยับ..

     

                โอ้มายก๊อต พระเจ้าซิลเวอร์ช่วย..

     

     

                “ซ..ซิลเวอร์!” ข้าเรียกชื่อของคนหน้าตาย เขากำลังมองข้าด้วยความสับสนเช่นกัน ข้าพยายามจะดิ้นแต่พอดิ้นแล้วมีดดันกดลงกับคอมากกว่าเดิมจนข้าขนลุกไปถึงเส้นใยใหมใต้ผิวหนัง จับแขนข้าแน่นกว่าเดิมจนข้าเผลออุทานด้วยความเจ็บปวด..

     

                ทำไมข้ารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวเอกน่าสงสาร ข้าเป็นพระเอกนะ..ทำไมถึงเอาบทเหมือนนางเอกกำลังโดนผู้ร้ายจับมาให้ข้า!

     

                “ว่าไงละเจ้าชาย..จะยอมไปกับพวกเราไหม..หรืออยากจะเห็นคนรับใช้ของท่านตาย..ข้าคิดว่าเจ้านี่คงจะมีความสำคัญต่อท่านมากน่าดู..” เจ้าโจรหน้าตัวร้ายเอ่ยพลางเหล่มามองข้า

     

                ผิดแล้วเฟ้ยยย มันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับข้าเลยนอกจากความแค้นส่วนตัวที่ข้าไปแย่งเตียงมันมาเมื่อวาน หรือความรำคาญที่ข้าไปเกาะแกะ โดยรวมแล้วถ้ามันจะทิ้งข้าไว้ตอนนี้ก็ไม่แปลกหรอก!

     

                เสียงหัวเราะของพวกโจรดังขึ้นอีกครั้ง ซิลเวอร์มองข้านิ่งจนข้าไม่รู้ความรู้สึกของมัน...มันกำลังจ้องข้าซึ่งข้าก็สบตามันกลับ..   

     

                แล้วถ้าท้องใครจะรับผิดชอบ..

     

                ข้าคนนึงละขอบาย!

     

                “เวนเซนต์..” ซิลเวอร์เรียกชื่อของข้าเบาๆ ข้าอยากจะถามมากว่าเจ้าจะเรียกชื่อข้าทำไม เรียกชื่อข้าก็ไม่ได้ทำให้ตัวข้ากลายเป็นมังกร หรือมีแรงความรักความโรแมนติกขึ้นมาหรอก! เรียกข้าเพื่ออะไรไม่ทราบหรือกำลังสับว่าควรจะช่วยข้าดีไหม?

     

                หมั่นไส้เว้ย อย่าทำตัวเป็นพระเอกสิฟะ!

     

                ข้าถอนหายใจแรงๆ...รู้สึกรำคาญที่สุด ในสถานการ์ณตึงเครียด พวกโจรกำลังเตรียมจะปาดคอข้าตลอดเวลา เจ้าซิลเวอร์ก็มีดาบจ่อคอ..เจ้าหัวหน้าโจรเมื่อเห็นว่าซิลเวอร์ยังเงียบก็เลยเร่งเร้า “เร็วๆสิ..ก่อนที่ข้าจะใจร้อนและฆ่ามันเสียก่อน..”

     

                หัวหน้าโจรสั่งให้ลูกน้องใช้มีดกดเข้าลำคอของข้าจนมีเลือดออกมาเล็กน้อย ซิลเวอร์กัดฟันกรอด ส่วนข้า..เจ็บเว้ย!

     

                “เจ็บเฟ้ย หัดกดลงมาเบาๆบ้างสิ” ข้าพึมพำ ถ้าจะกดช่วยกดอย่างนุ่มนวล เอาลำลี ผ้าพันคอ หรือยาชามาให้ข้าจะดีมาก แถมด้วยกระดาษทิชชู่ด้วย ข้าไม่อยากจะเจ็บอะไรทั้งนั้น โดยเฉพาะเจ็บจากคนที่ข้าเกลียดแล้วข้าไม่ต้องการเว้ย!

     

                “ไอเด็กเวรนี่ดิ้นอยู่ได้!” เจ้าหน้าบึกหมายเลขหนึ่งสบถเมื่อข้าดิ้นด้วยความเจ็บ มันทุ่มข้าลงไปบนพื้นจนข้าจุกแล้วกดให้ตัวข้านอนคว่ำไปกับพื้น รวบมือและกดหัวข้าเอาไว้ไม่ให้ข้าขยับ

     

                ถ้าหน้าข้าหักแตกความหล่อไม่เหลือใครจะส่งข้าไปยันฮี...

     

                หันเบามือหน่อยไม่ได้หรือไง หรือมือพวกเจ้ามันฉาบไปด้วยปูนถึงได้ไม่รู้จักอ่อนโยน ถ้าตายไปแล้วท่านยมบาลมาเห็นข้าในสภาพยับยู่ยี่น่าอนาถ ข้าคงจะอายไปจนวันตาย.เอ่อ..ถึงตอนนั้นข้าคงจะตายแล้ว เอาเป็นว่าข้าคงจะอายไปยันชาติหน้าแน่นอน

     

                “เวนเซนต์..เจ้า..”

     

                พอเลยซิลเวอร์ ไม่ต้องมาทำสายตาพระเอกใส่ข้า เห็นแล้วขนลุกแถมยังน่าโมโหจนอยากจะเอาขาเตียงฟาดให้ฟันหัก

     

                ฮือ...ถ้าเจ้าไม่ช่วยก็ปล่อยข้าไว้เถอะ ข้าอาจจะได้ตายอย่างสงบ ถึงตอนนั้นช่วยไปบอกพ่อข้าด้วยว่าข้าพยายามอย่างเต็มความสามารถ ขอโทษที่ทำแจกันท่านแตก ขอโทษที่แอบเอากางเกงในของท่านไปโยนเล่นให้สุนัขคาบ ขอโทษที่ข้าแอบย่องเบาเข้าห้องท่านเพื่อไปถ่ายรูปท่านไว้ประจานข่มขู่...

     

                “เจ้าชาย ดูท่าว่า..เราจะเจรจากันไม่รู้เรื่องแล้วนะ..หึ” เจ้าโจรใจโหดเอ่ย ซิลเวอร์ตวัดสายตาน่ากลัวไปมอง แต่เจ้าโจรนั่นกลับไม่สนใจ “เสียใจด้วย..แต่ข้าให้เวลาท่านมามากพอแล้ว..จากนี้ถือว่าข้าคงจะต้องใช้กำลังพาท่านกลับ..”

     

                “หยุด! ข้าไม่ใช่เจ้าชาย!” ซิลเวอร์กล่าว แต่โจรนั่นกลับหัวเราะ “ฮ่าๆๆ อย่ามาหลอกข้าเสียให้ยาก หรือท่านจะบอกว่าคนรับใช้ท่าทางยาจกนั่นคือเจ้าชาย? ฮ่าๆๆ..นี่เป็นเรื่องขำที่สุดในรอบหลายปีที่ข้าได้ยินเชียว ฮ่าๆๆ!

     

                เจ้าโจรตัวบึกหัวหน้าร่ายยาว ข้ากัดฟันอย่างโกธรเคือง ข้าเคืองจริงๆ เมื่อโดนดูถูกตรงๆ แต่ยังไม่ทันได้ส่งสายตาอาฆาตแช่งให้ฟันน้ำนมมันหัก ใบหน้าน่าเกลียดของมันก็ถูกซิลเวอร์กระแทกเข้าด้วยหลังมือจนร่างของมันกระเด็นไปกระแทกผนัง เลือดสีแดงไหลกบปาก มันตัวสั่นก่อนมองเลือดของตนเองที่ไหลลงมาจากปากพร้อมฟันบางซี่ ข้าเบิกตากว้าง ไม่ต่างจากลูกน้องกระจอกหน้าถึกคนอื่นๆ

     

                แต่เหมือนข้าจะตั้งสติได้ก่อน ข้าจึงรีบไปมองซิลเวอร์ทำให้ข้าผงะไปด้วยความตกใจยิ่งกว่าเดิม..ใบหน้าของซิลเวอร์ในตอนนี้มันน่ากลัว สายตาของเขาดูแตกต่างจากปรกติ เขามักจะมีสีหน้าเย็นชาเสมอ...มันแตกต่างไปทุกครั้ง แม้สีหน้าเขาจะเย็นชา แต่บรรยากาศเย็นยะเยือกที่ไม่เคยได้สัมผัสมันแผ่ออกมาจากตัวเขา..

     

                อะไรกัน..?

     

                หรือว่าเจ้าจะเข้าโหมดแปลงร่าง?

     

                ข้ากลืนน้ำลาย ซิลเวอร์มองร่างของเจ้าหัวหน้าโจรแสนอวดดี ก่อนมันจะเดินมาทางข้า เมื่อพวกลูกน้องเห็นว่าซิลเวอร์กำลังเดินมาใกล้ๆ พวกมันก็หน้าซีด มองซ้ายขวาก่อนลูกน้องคนหนึ่งจะเข้ามาขวางซิลเวอร์เอาไว้ ทั้งๆที่ตัวของลูกน้องกระจอกใหญ่กว่าซิลเวอร์ แต่มันกลับดูน่าขันเมื่อมันตัวสั่น

     

                แต่ซิลเวอร์ไม่คิดจะสนใจ..ยังคงเดินเข้ามาอยู่ดี

     

                “จ..เจ้า..ดูถูกข้าเกินไปแล้ว..ย้าก!!” ลูกน้องใจกล้าคนนั้นยกมีดขึ้นเตรียมแทงไปทีซิลเวอร์

     

                ในตอนนั้นเอง..

     

                “เหวอ! นี่มันอะไรกัน!?

     

                ก่อนเจ้าโจรนั่นจะได้ใช้มีดแทงไปยังร่างของซิลเวอร์ มือของเขาก็ถูกหยุดไว้ด้วยน้ำแข็ง เมื่อเห็นน้ำแข็งบนข้อมือเขาก็เริ่มสังเกตตัวเอง บนพื้นห้องนี้เต็มไปด้วยน้ำแข็งรวมถึงสิ่งของทุกอย่างก็ถูกแช่เอาไว้ มันเกิดขึ้นในพริบตาจนข้ายังอดตกตะลึงไม่ได้ น้ำแข็งเย็นเหยียบรั้งร่างของโจรทุกคนเอาไว้ และกำลังลามจากเท้าไปจนจะถึงศีรษะ รวมถึงตัวการอย่างหัวหน้าใหญ่ของพวกมันและลูกน้องที่กำลังถือมีดสั่นๆ มือของเขากำลังถูกน้ำแข็งกัดกิน ทั้งตัวของเขาถูกหุ้มไปด้วยน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว มือใหญ่ปล่อยมีดลงกับพื้นพยายามขยับดิ้นแต่มือของเขาไม่สามารถขยับได้เมื่อน้ำแข็งนั่นห่มหุ้มต้นแขนและข้อศอกไปหมดแล้ว

     

                “ช..ช่วยด้วย! น้ำแข็ง! นี่มันอะไรกัน!? ปล่อยข้า!!” ลูกน้องโจรคนนั้นตะโกนด้วยความหวาดกลัว เช่นเดียวกับคนอื่นๆ กว่าครึ่งในห้องถูกแช่ไปด้วยน้ำแข็งจนร่างกลายเป็นมนุษย์แช่แข็งไปแล้ว..

     

                ข้ามองเหตุการ์ณเบื้องหน้า..ยังตกตะลึงไม่หาย..พอมองตนเอง..

     

                ไม่มี..

     

                ข้าไม่ถูกน้ำแข็งพวกนั้นเกาะเลยแม้แต่น้อย แต่คนที่จับข้าเอาไว้มันกำลังดื้นร้องทรมาน ใบหน้าของเขาเป็นพื้นที่สุดท้ายซึ่งยังไม่โดนน้ำแข็งห่อหุ้ม สายตานั้นหวาดกลัวพยายามจะขอความช่วยเหลือจากข้า “ช..ช่วยด้วย..ช่วยข้าด้วย! ข้าจะไม่ทำอีกแล้วได้โป...

     

                ยังไม่ทันจบประโยค..เขาก็กลายเป็นก้อนน้ำแข็งรูปมนุษย์โดยสมบูรณ์...

     

                เสียงฝีเท้าเรียกความสนใจของข้าให้ละไปจากตุ๊กตาน้ำแข็งรูปมนุษย์ ซิลเวอร์เดินมาหาข้า ก่อนดีดนิ้วทำให้กอ้นน้ำแข็งซึ่งของชายที่จับตัวข้าเอาไว้แตกสลายไป..ดวงตาของข้ามองเศษน้ำแข็งของตุ๊กตามนุษย์ซึ่งถูกทำลายลงไปในชั่วพริบตา ซิลเวอร์ช่วยพยุงข้าขึ้นมานั่งบนเตียง

     

                “ไหวหรือเปล่า?” เขาถามเสียงเรียบๆ ดวงตานิ่งเย็นชาจนข้าเกร็ง

     

                “ข..ข้าสบายดีอยู่แล้วน่า” แกล้งทำอวดเก่งไปงั้นแหละ..ที่จริงข้ากลัวแทบตาย...ซิลเวอร์พยักหน้ารับ..เขามองไปรอบๆราวกับสำรวจบางอย่าง เมื่อเห็นว่าในห้องถูกจับไปด้วยน้ำแข็งทั้งหมดไม่มีอะไรผิดปรกติแล้วเขาก็กลับมาหาข้าอีกครั้ง

     

                “เจ้า..จะไปกับข้าใช่ไหม” เขาถามเสียงเรียบ ข้าชะงัก..ความน่ากลัวของซิลเวอร์เมื่อครู่ทำให้ข้านิ่งคิดไปชั่วครู่...ก่อนจะพยักหน้ารับ ซิลเวอร์ลุกขึ้น

     

                “ถ้างั้น..ก็ไปกันเถอะ..” เขาพูดเสียงนิ่งเรียบ..          

     

                ข้าคิดไปเองหรือเปล่า..ซิลเวอร์ดูแปลกๆ..หรือว่ามันจะนิ่งกว่าปรกติ..แต่สักพักคงจะกลับเป็นเหมือนเดิมมัง เขาว่ากันว่าพอพระเอกใช้พลังจะมีสีหน้าขรึมเพื่อรักษาความเท่ของตัวเอง

     

                แม้ข้าจะตกใจกับสิ่งที่ซิลเวอร์ทำ..ตอนแรกก็รู้สึกลัวแต่พอลองคิดดูอีกทีมันกลับทำให้ข้ามั่นใจและอุ่นใจได้ว่า..เจ้าหมอนี่แข็งแกร่ง..

     

                สมควรน่าพึ่งพาที่สุด เวลามีเรื่องอะไรข้าจะได้ไปหลบหลังเขาได้ ข้ายิ้มบางๆ ซิลเวอร์อุ้มร่างของข้าขึ้นในท่าเจ้าหญิงโดยไม่สนใจความเห็นหรือความสมัครใจของข้าสักคำ “นี่เจ้า..! ข้า...!

     

                “หืม..?” ซิลเวอร์ตวัดสายคมมามองทำให้ข้าขนลุก หน้าซีดก่อนส่ายหน้าเป็นเชิงว่าไม่มีอะไรทั้งๆที่ตัวก็สั่นแถมยังเหงื่อไหลเป็นทาง

     

                น่ากลัว..ฮือ..ข้าไม่กล้าจะทักท้วงอะไรทั้งนั้น ซิลเวอร์เดินไปทางหน้าต่างบานใหญ่ กระโดดขึ้นไปนั่งยองๆบนขอบหน้าต่าง สายตามองรอบๆ สายตาข้าเหลือบลงไปมองความสูง...พลางกลืนน้ำลาย..

     

                ฮือ..ถ้าข้าตกไปจะมีเละไปกี่ส่วน..บางทีอาจจะโดนซิลเวอร์ฝังกลบแถวนี้จนกลายเป็นวิญญาณเฝ้าโรงพักแรมก็เป็นได้..แบบนั้นข้าจะขอจับเสื้อของเจ้าไว้แน่นๆก็แล้วกัน ถ้าตกขึ้นมาข้าคงหาทางกลับไปเกิดใหม่ไม่ถูกแน่!

     

                ซิลเวอร์ดูจะไม่สนใจเมื่อข้าจับเสื้อของเขา และตอนที่เขากำลังจะกระโดดลงไปบนหลังคาใกล้ๆ ข้าก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อน

     

                “เดี๋ยว!

     

                “มีอะไร?” ซิลเวอร์เลิกคิ้ว

     

                “เจ้าไม่คิดบ้างเรอะ ว่าถ้าไปทั้งแบบนี้พวกเราจะแยกออกไปกี่ส่วน? นั่นมันสูงนะ!” ขืนตกลงไปข้ามีหวังถูกชำแหละแน่นอน ซิลเวอร์อาจรอด แต่ข้ามั่นใจพร้อมยืดอกเลยว่าข้าไม่มีทางรอดแน่นอน!

     

                “แต่ข้าอุ้มเจ้าไว้อยู่”

     

                “ข้าจะแหลกคาแขนเจ้า”

     

                “......ไร้สาระ” ซิลเวอร์ทำสีหน้าละเหี่ยใจ ก่อนเขาจะกระโดดลงไปบนหลังคาใกล้ๆทั้งอย่างนั้น แต่ด้วยความซุ่มซ่ามหรืออะไรไม่ทราบ ทำให้พอไปถึงหลังคาเจ้าบ้าซิลเวอร์ดันสะดุด จนเผลอปล่อยร่างของข้าให้หลุดลอยปลิวไปไกลละลิ้วไปกระแทกหลังคาบ้านหลังอื่นพร้อมตกลงไปในช่องว่างระหว่างบ้านเรือนแถวนั้น....

     

                ข้าไม่น่าเชื่อเจ้าเลย..เจ้าตัวอะไรไม่รู้เสกน้ำแข็งได้ไม่มีจรรยาบรรณ!!

     

                “แว๊กกกกกก!!!

     

               

     

                “ทำยังไงดี...”

     

                “เพราคุณนั่นแหละครับ..เฮ้อ..”

     

                ภายในเส้นทางแห่งทะเลทรายซึ่งเป็นสถานที่อันตรายในดินแดนมนุษย์ว่าถ้าหากใครเหยียบย่างเข้าไปจะไม่มีวันได้กลับมาอีกเลย บัดนี้กลับมีสองหนุ่มกำลังเดินอยู่ในเส้นทางนั้น สภาพของทั้งคู่ตอนนี้ทั้งผมยุ่งการแต่งตัวไม่เรียบร้อย ซ้ำยังมีสภาพโทรมราวกับอดนอนมาหลายวัน

     

                “เพราะเจ้าคนเดียว..อีธาน..” น็อกซ์ พีโอนี่โทษเพื่อนองค์รักษ์ข้างกายด้วยใบหน้าเหนื่อยอ่อน อีธานกุมขมับ “ก็เพราะคุณด้วยไม่ใช่หรือยังไงกันครับ..คุณเองก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้ไม่ต่างจากผมหรอก”

     

                “แต่ถ้าอีธานไม่ลงไปดูเส้นทางก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก!

     

                “แต่คุณปกป้องของของพวกเราไม่ได้เองนี่ครับ!

     

                เสียงทะเลาะของสององค์รักษ์หน้าตาดีแห่งพระราชวังแห่งแดนมนุษย์ จนตอนนี้แทบไม่เห็นสภาพความดีของทั้งคู่เลยแม้แต่น้อย น็อกซ์หอบหายใจแรงเนื่องจากเหนื่อยจากการเดินทางและมาเถียงกับองค์รักษ์เจ้าระเบียบ อีธานก็ไม่ต่างกันเพียงแต่ท่าทางของเขายังดีกว่าคนตรงหน้านัก

     

                พวกเขากำลังเดินทางเข้าสู่เส้นทางแห่งทะเลทรายเพื่อตามหาเจ้าชายเวนเซนต์..เนื่องจากเห็นเจ้ามังกรนั่นบินมาทางทิศทางนี้ ตอนแรกพวกเขาก็ยังลังเลอยู่เพียงแต่อาจมีความเป็นไปได้ที่เจ้าชายเวนเซนต์อาจจะถูกมังกรนั่นทิ้ง เนื่องจากพลังของอุปกรณ์เวทย์มนต์ที่ใช้ควบคุมสัตว์อยู่ได้ไม่นานนัก พวกเขาจึงตัดสินใจเข้ามาตามหาและตั้งใจจะเดินผ่านเส้นทางทะเลทราย เพราะถ้าหากยังอยู่ในเขตเดียวกันก็ยังพอจะใช้เวทย์ตามหาได้อยู่บ้าง..

     

                เพียงแต่พวกเขาไม่มีแรงพอจะใช้แล้ว...

     

                สาเหตุก็เพราะ..

     

                “เพราะเจ้าคนเดียว..สุดท้ายเจ้าพวกแฮมเตอร์ทะเลทรายก็เอาไปจนได้..ข้าหิวน้ำ!!” น็อกซ์โวยวายไม่หยุดแต่เท้าของเขาก็ยังเดินต่อไป อีธานถอนหายใจ เขาไม่มีแรงจะเถียงต่อแล้ว

     

                “แต่ก็เพราะคุณด้วยเหมือนกัน หัดยอมรับบ้างเถอะครับ น็อกซ์”

     

                ถูกอย่างที่น็อกซ์ว่า...พวกเขาถูกปีศาจอย่างหนูแฮมเตอร์ทะเลทรายขโมยกระเป๋าเสบียงรวมถึงเงิน น้ำ และของต่างๆไปจนหมด

     

                หนูแฮมเตอร์ทะเลทรายคือปีศาจชั้นต่ำ ในโลกนี้อย่างที่พูดกันว่ามีหลายดินแดนแยกกัน ทั้งดินแดนดีอาร์ของสุนัขและมาเรย์ของแมว อาณาจักรมนุษย์ และอีกอาณาจักรหนึ่งที่ปิดตายไม่ยุ่งกับใครคือดินแดนปีศาจซึ่งไม่มีสัมพันธ์ติดต่อกับใครมานับหลายพันปี แต่เนื่องจากสงครามระหว่างสุนัขกับแมวเมื่อหลายพันปีก่อนทำให้มันกระทบถึงดินแดนปีศาจทำให้มีปีศาจหลุดรอดออกมา กว่าพวกหมาและแมวจะช่วยกันปิดผนึกได้ก็นานพอสมควร แต่ก็น่าสงสัยที่พวกปีศาจดันไม่มาสนใจเลยแม้แต่น้อย

     

     

                จนในที่สุดก็มีปีศาจพวกนี้ออกมาเพ่นพ่าน...ถึงแม้ทั้งสามอาณาจักรจะพยายามติดต่อกับแดนปีศาจแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ และยังไม่สามารถเข้าไปในแดนนั้นได้ด้วย..จนทุกอาณาจักรตัดความสัมพันธ์กับดินแดนปีศาจอย่างสมบูรณ์

     

                พวกเขาทั้งสองเดินมาร่วมหลายกิโลแล้ว..ตอนนี้ยังไม่เห็นอะไรนอกจากเม็ดทราย สภาพของพวกเขาไม่มีคราบขององค์รักษ์แห่งพระราชวังแห่งแดนมนุษย์อันยิ่งใหญ่เหลืออยู่เลยแม้แต่น้อย พวกเขาเผลอกัน..ไม่ทันคิด..ในตอนที่อีธานลงไปดูพื้นที่เพื่อดูว่าควรจะไปทางไหนและใช้พลังลองตามหาเจ้าชาย

     

                ในตอนนั้นน็อกซ์เองก็กำลังสนใจกับสภาพแวดล้อมรอบตัว..ไม่ทันได้สังเกตจนดูอีกที..ข้าวของทุกอย่างที่วางไว้ทั้งกระเป๋าทั้งอะไรต่างๆก็หายไปแล้ว...

     

                มันคือโจรสุดชั่วร้ายและทำให้น็อกซ์สาบานในใจ..

     

                เขาจะต้องฆ่ามันให้ได..ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จนไม่ให้เหลือแม้แต่เศษขนของหนูแฮมเตอร์!

     

                อีธานใบหน้าตึงด้วยความเคร่งเครียด..”ผมคิดว่าเราควรจะมาคิดกันก่อนนะครับ”

     

                “คิดอะไร?” น็อกซ์หยุดฝีเท้า มองด้วยสายตาเหนื่อยๆ อีธานนิ่งไปสักครู่...”ไม่รู้ครับ”

     

                “แล้วเจ้าจะพูดทำไม! เรากำลังจะตายกันแล้วนะเฟ้ย เวทย์ละ! เวทย์ข้ามมิติของเจ้าละ!

     

                “ของแบบนั้นผมไม่มีแรงพอจะใช้! ถ้าใช้ตอนนี้เกิดผิดพลาดเราทั้งคู่ได้ตกลงไปกลางทะเลแน่ครับ! มันเสี่ยงเกินไป!

     

                “ก็ลองดูเถอะน่า!

     

                “ไม่มีทางครับ!

     

                เสียงทะเลาะขององค์รักษ์แห่งเอรันทายังคงดังต่อไปไม่หยุดหย่อน โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังมีใครบางคนมองเขาจากที่ไกลๆ ดวงตาเฉียบคมมองพวกเขาทั้งคู่ก่อนจะยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปพูดกับชายร่างเล็กข้างกาย

     

                “ท่าทาง..เราจะเจออะไรน่าสนุกแล้วละ..”








    ----------------------------------------------------------------------------

    มาแล้วค่ะ ฮรือออ #คลานเข้ามา

    ในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมากเนอะ(?) มีแค่คนทะเลาะกันเท่านั้นเองค่ะ..ทำไมรู้ว่าตอนนี้ซิลเวอร์เท่จริงๆ#นั่นละพระเอก

    ส่วนน็อกซ์กับอีธาน...ทะเลาะกันต่อไปค่ะ!

    ในตอนนี้ไม่มีอะไรจะพูดมาก..ขอแค่ให้เจ้าชายไปสู่สุขคติ

    เจอกันตอนหน้านะคะ ขอบคุณค่ะ!







     

     

     

     

     

               

               

               

     

               

     

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×