ลูกเจ็บแม่ก็เจ็บ - ลูกเจ็บแม่ก็เจ็บ นิยาย ลูกเจ็บแม่ก็เจ็บ : Dek-D.com - Writer

    ลูกเจ็บแม่ก็เจ็บ

    เป็นความรักที่แม่มีให้แก่ลูกเสมอ

    ผู้เข้าชมรวม

    279

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    279

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 พ.ย. 51 / 12:22 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                 น้องหญิงอายุสิบเจ็ดปี เธอศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในตัวเมืองชลบุรี เธอมีหน้าตาที่สวยงาม รูปร่างเพรียวเหมือกับดารานางแบบอย่างไงอย่างนั้น เธอมีอารมณ์ขันเป็นคนร่าเริงสนุกสนาน และเธอยังยิ้มเก่งเสียด้วย จึงทำให้เธอมีเพื่อนมากมายทั้งเพื่อนชายและเพื่อนหญิง

                เธอชอบเล่นกีฬาบาสเกตบอลเป็นอย่างมาก  แต่ที่หน้าแปลกก็คือภายในห้องนอนของเธอเต็มไปด้วยรูปโปสเตอร์นักเตะหนุ่มทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเต็มผนังห้องทั้งสี่ด้านไม่เว้นแม้กระทั่งประตู

                     เธอเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย เธอต้องซ้อมหนักเพราะใกล้ถึงวันแข่งขันอีกไม่กี่วัน  ต้องซ้อมตั้งแต่เช้าจนค่ำมืด กีฬาประเภทนี้ต้องส่งเสียง ต้องเต้นสุดฤทธิ์สุดเดช ต้องโยกย้ายส่ายสะโพก ต้องกระโดดตีหลังกา และที่สำคัญต้องพร้อมเพรียง สวยงาม ประกอบไปด้วยเสียงดนตรีที่คึกคัก ปลุกเล้าอารมณ์ให้เธอและเพื่อนร่วมทีมต้องเต้นให้เข้าจังหวะอย่างพร้อมเพรียงกัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากีฬานี้มีชื่อว่า อเมริกันเชียร์ลีดเดอร์

                      เมื่อกลางดึกวันที่สิบแปดเดือนมิถุนายนเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับเธอ ในขณะที่เธอกำลังซ้อมเชียร์ลีดเดอร์อยู่นั้น เธอกระโดดลอยตัวขึ้นสูงจากพื้นด้วยแรงส่งของเพื่อนที่โยนเธอขึ้นบนท้องฟ้าเหมือนกับนกที่กำลังโบยบินอย่างมีอิสระ ประกอบกับเสียงดนตรีเข้าจังหวะ เธอลอยอยู่บนท้องฟ้าด้วยท่วงท่าที่สวยงาม แต่ปรากฏว่าช่วงที่เธอตกใส่เพื่อนนั้นศรีษะของเธอฟาดเข้ากับหน้าอกของเพื่อนชายที่รอรับเธออยู่อย่างรุนแรง เธอหมดสติในทันที เพื่อนตกใจกันอย่างมากจึงนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน

                      ขณะพ่อแม่ของน้องหญิงนั้นกำลังนอนหลับอย่างสนิทก็ต้องตกใจตื่นกลางดึก

                       กริ๊งๆๆๆ  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลางดึกของวันนั้น สวัสดีครับ ที่นั้นบ้านหญิงหรือเปล่าครับ   เสียงเพื่อนโทรมาแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น พูดไม่รู้เรื่องราว

                      ใช่ค่ะ บ้านหญิง  แม่รับสายอยู่ค่ะ   แม่ตอบพร้อมแสดงตน

                      แม่หรือครับ หญิงประสบอุบัติเหตุจากการซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ ตอนนี้หญิงอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วครับ

                      แล้วตอนนี้หญิงเป็นอย่างไงบ้าง   แม่หญิงถามอย่างตกใจและเป็นห่วงลูกอย่างมาก

                      ทันใดนั้นทั้งพ่อและแม่ของน้องหญิงก็มาถึงโรงพยาบาลด้วยความตระโหนกตกใจ ทั้งคู่ต่างมุ่งหน้าไปที่ห้องของน้องหญิง เมื่อไปถึงหน้าห้องของน้องหญิง  ต่างเต็มไปด้วยเพื่อนๆ  ในกลุ่มเชียร์ลีดเดอร์ คณะอาจารย์ และนักข่าวสถานีต่างๆ  ทุกคนใบหน้าเต็มไปด้วยความโศกเศร้า  เสียใจ  น้ำตา  ทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจกันพับนกกระดาษหลากหลายสีสันใส่ในกรงตาข่าย โดยข้อความที่ตัวนกเขียนว่า รักและหว่งใย  เป็นกำลังใจให้น้องหญิง

                     แม่ได้เล่าให้กับนักข่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้นอนฝันร้าย  ฝันเห็นมีรถลากโลงศพสีขาวมาจอดที่หน้าบ้าน โดยคนขับรถได้ตระโกนบอกว่า เร็วๆหน่อยจะรีบไปที่วัดแล้ว ทางแม่ก็ตอบกลับไปว่า เดี๋ยวๆ  มีลูกค้าอยู่ เดี๋ยวเอางานให้ลูกค้าก่อน แม่น้องหญิงเอามือเช็ดน้ำตาบนใบหน้าแล้วเล่าต่อว่า แต่ชายคนขับรถก็ได้แต่บอกว่า เร็วๆๆๆๆๆๆ ก่อนที่รถจะลากโลงศพไป 

                     เช้าวันรุ่งขึ้นแม่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คงเป็นฝันร้ายธรรมดาแต่ที่ผิดปรกติก็คือทุกวันแม่ต้องไปรับและส่งน้องหญิงอยู่เป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าจะดึกดื่นขนาดไหนแม่ก็ต้องไปแต่วันนี้น้องหญิงกับบอกแม่ว่าไม่ต้องไปส่งก็ได้ค่ะแม่ เดี๋ยวหญิงกลับบ้านเอง  ไม่ต้องเป็นห่วงนะค่ะ

                     แต่แล้ว.....หญิงลูกรักของแม่ แม่รักลูกนะ รักลูกสุดชีวิต

                     ตลอดระยะเวลาที่น้องหญิงต้องรักษาตัว คุณหมอได้แจ้งให้แม่น้องหญิงทราบว่า      สภาพของเธอนั้นได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง อาการของเธอไม่ดีขึ้นเลยและหนักมากเหมือนกับเจ้าหญิงนิทรา เพราะสมองของเธอไม่สั่งการแล้ว ทุกวันหมอต้องเจาะสันหลังเข้าเส้นเลือดใหญ่และระบายลมออกทางปอด รวมทั้งการให้ยาเพื่อระงับการบวมของสมอง หมอจะขอดูอาการสักสองสามวันหากอาการยังไม่ดีขึ้น สมองยังไม่ตอบรับ หมอคงต้องขออนุญาตถอดเครื่องช่วยหายใจออก

                     แม่น้องหญิงได้ฟังคุณหมอบอกอาการของลูกสาวตนเอง หากตีความหมายนั้นหมายถึง ความตาย  เพราะเฉพาะนั้นในช่วงสองสามวันที่เหลือคุณแม่ต้องอยู่ใกล้ชิดลูกให้มากที่สุด

                     ทุกครั้งที่แม่น้องหญิงมาเยี่ยมต้องเจ็บปวดทุกข์ทรมาน เมื่อเห็นลูกนอนแน่นิ่งไม่ได้สติ ใบหน้าลูกเต็มไปด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยชีวิตระโยงระยาง  แต่ใบหน้าแม่เต็มไปด้วยน้ำตา และใจของแม่นั้นจะขาดล่อนๆ

                      สามวันผ่านไป

                      แล้ววันสุดท้ายก็มาถึง ที่คุณหมอจะต้องถอดเครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากสมองของน้องหญิงไม่มีปฎิกิริยาตอบสนองใดๆ

                      แม่น้องหญิงกับยืนยันว่าจะไม่ถอดเครื่องช่วยหายใจออก แม้หัวใจของผู้เป็นแม่จะสงสารลูกสาวเหลือเกินเพราะรู้ว่าลูกต้องเจ็บปวดทรมาน แต่หัวอกของผู้เป็นแม่อยากจะให้ลูกอยู่กับแม่นานๆ  ทุกครั้งที่แม่เห็นสภาพลูกสาวนอนไม่ได้สติบนเตียง ทำให้หัวใจแม่ต้องทรมานและยิ่งตอนหมอเจาะสันหลังเข้าเส้นเลือดใหญ่เพื่อรักษาน้องหญิง ทำให้หัวใจแม่แทบขาดสลาย แม่รู้สึกเจ็บและทรมาน ถ้าเป็นไปได้อยากให้เป็นแม่เอง ความหวังนี้คงเป็นความหวังเดียวที่จะช่วยยืดเวลาให้แม่ได้อยู่กับลูกตราบนานเท่านาน

                      แม่น้องหญิงได้เดินเข้าไปข้างๆ  เตียงของลูกสาวที่นอนไม่ได้สติ แม่ค่อยๆ  เอามือลูบที่ศรีษะของน้องหญิง ด้วยน้ำตานองหน้าในใจที่แสนจะทุกข์ทรมาน แม่ค่อยๆ  โอบกอดลูกด้วยความรักความห่วงใยตลอดเวลาที่แม่ได้โอบกอดน้องหญิง เธอพยายามกระซิบข้างหูลูกสาวว่า ลูกจ๊ะ... แม่รักลูกนะ... ลูกรักแม่ไหม... แม่นะรักลูกสุดชีวิตของแม่

                     

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×