[Red Velvet] 11월 - Seulgi x Wendy - [Red Velvet] 11월 - Seulgi x Wendy นิยาย [Red Velvet] 11월 - Seulgi x Wendy : Dek-D.com - Writer

    [Red Velvet] 11월 - Seulgi x Wendy

    เดือนพฤศจิกายนและความทรงจำ - คังซึลกิ,ซนซึงวาน

    ผู้เข้าชมรวม

    1,229

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    1.22K

    ความคิดเห็น


    9

    คนติดตาม


    30
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 ก.พ. 58 / 13:31 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    11

    seulgi  x wendy


     



    ฉันคงจะได้พบเธอ ณ ที่แห่งนั้นที่สายลมพัดพาไปสินะ

    ฉันคงจะได้ยินเสียงเธอ ณ ที่แห่งนั้นที่สายลมพัดพาไปสินะ

    ได้โปรดอย่าจากฉันไปเลย..

     

    อย่าไปจากตรงนั้นที่เธอกับฉันเคยอยู่ด้วยกัน


     

     


    Thx theme BERLIN

    ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ

     

     




    B E R L I N ❀
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      11

       슬기 x 웬디


       

      วานอา.. เธอผิดนัดฉันอีกแล้วนะปากกาเมจิคสีแดงถูกขีดกากบาททับลงบนปฏิทินสีขาวสะอาดเป็นครั้งที่ 13 ก็แค่พักหลังมานี้คนรักของเธอไม่เคยมาหากันอย่างที่ว่าเลยซักครั้งแค่นั้นเอง.. คังซึลกิยิ้มให้กับตัวเอง ซึงวานอาจไม่ว่าง ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ ดวงตาเรียวเล็กก้มมองรูปภาพที่กระจายบนพื้นพรมผืนนุ่ม มือเล็กเอื้อมหยิบแผ่นภาพหนึ่งที่ถูกคว่ำไว้ขึ้นมาสำรวจ ภาพของผู้หญิงสองคนที่ดูมีความสุขกำลังกุมมือกันท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ นัยน์ตาของซึลกิในวันนั้นช่างดูสดใสราวกับเด็กตัวน้อยๆ ผิดจากปัจจุบัน หยดน้ำตาร้อนหยดลงบนรูปภาพแสนรัก เจ้าของห้องร่างบางทำได้เพียงเช็ดภาพในมือให้แห้งสนิทและลุกออกไปจากที่แห่งนี้เท่านั้น

       

      อ้าว หายไปนานเลยนะเสียงทักทายจากพี่สาวเจ้าของร้านดอกไม้เรียกให้ซึลกิหันไปยิ้มตามมารยาท สองเท้าเล็กภายใต้คอนเวิร์สสีดำสนิทพาร่างของเธอมายังเจ้าดอกไม้ช่อหนึ่ง มันถูกจัดวางอย่างสวยงามเรียกร้องให้เหล่าคู่รักต่างๆพากันจับจ่ายเงินในกระเป๋าอย่างง่ายดาย และเธอคือหนึ่งในนั้น

      ซื้อเจ้านี่อีกแล้วหรอ มั่นคงจังเลยนะพี่ไอรีนเหลือบมองใบหน้าของฉันก่อนหันไปสนใจการตกแต่งดอกไม้ช่อนั้นให้สมบูรณ์

      ฉันแค่ชอบความหมายของมันเท่านั้นฉันตอบกลับไป พลางกวาดสายตาไปทั่วร้านดอกไม้ที่แสนน่ารักแห่งนี้

      พี่มีโบว์สีน้ำเงินมั้ยฉันถามพี่ไอรีนที่ยังคงวุ่นวายกับดอกไม้ไม่เลิก ทั้งที่ฉันคิดว่ามันก็ไม่มีอะไรต้องให้ตกแต่งเพิ่มแล้ว

      มีสิ พักหลังมานี้พี่ซื้อแยกไว้ให้เธอโดยเฉพาะเลยนะพี่สาวคนสวยที่แสนใจดีละมือออกและเดินไปหยิบเส้นโบว์สีน้ำเงินให้ตามคำขอ

       เกินไปฉันยิ้มให้พี่ไอรีนอีกครั้ง แม้อดตำหนิถ้อยคำของสาวร้านดอกไม้ในใจไม่ได้ว่าเกินไปรึเปล่า ถึงจะรู้ว่าสิ่งที่พี่เขาพูดมาเป็นความจริงก็ตาม

      ช่อดอกสแตติสที่สวยที่สุดในโลกเสร็จแล้วค่ะพี่ไอรีนยื่นช่อดอกไม้สีม่วงในมือมาให้ฉัน ฉันรับมันมาไว้แนบอกก่อนเอ่ยคำขอบคุณเบาๆเช่นทุก ครั้ง ฉันหันหลังให้พี่ไอรีนและกำลังจะเดินออกจากร้านแห่งนี้ไปยังสถานที่ที่แสนคุ้นเคย ทว่าวินาทีที่ฉันผลักประตูออกไปนั้นน้ำเสียงเศร้าสร้อยของคนด้านหลังก็ทำให้เท้าคู่เล็กของฉันหยุดชะงัก

      เมื่อไหร่จะกลับมาเหมือนเดิมซักทีฉันหยุดคิดคำตอบนั้นอยู่ไม่นาน อีกทั้งพลั้งปากพูดสิ่งที่ทำร้ายจิตใจคนฟังไป

      ขอโทษนะ แต่ฉันไม่สามารถตอบพี่ได้จริงๆและฉันก็เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง

       

       

      สถานีรถไฟฟ้าช่วงบ่ายไม่อึดอัดอย่างที่เคยคิดไว้ เมื่อก่อนฉันคิดว่าที่แบบนี้ควรเป็นสถานที่ที่ควรหลีกเลี่ยงอันดับต้นๆเสียด้วยซ้ำ ฉันกระชับสายกระเป๋าสะพายให้มั่นคงดังเดิมขณะยืนรอรถไฟกลรอบถัดไป ฝนกำลังจะตก กลิ่นความชื้นของธรรมชาติตีรวนเข้ากับกลิ่นกายคนรอบข้าง สร้างความปั่นป่วนให้กับคนสุขภาพไม่ดีเช่นเธออย่างดีเยี่ยม ฉันกำลังจะอ้วก ให้ตายเถอะ ฉันรีบเดินไปยังที่นั่งว่างสองสามตัวข้างหน้าอย่างโงนเงน นัยน์ตาปิดสนิททันทียามจับจองเก้าอี้สีเหลืองตรงหน้าได้ อาการบ้าบอกลับมากำเริบอีกครั้ง บางทีฉันอาจต้องไปพบหมอประจำตัวอย่างซูฮยอนหลังจากที่พยายามเลี่ยงนัดมาหลายสัปดาห์ เสียงคุยจอแจจากเด็กผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่พึ่งขึ้นมาทำให้ฉันหันไปมอง ชั่วขณะ ฉันนึกถึงเธอ สายตาของฉันคงจดจ้องเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่มีรอยยิ้มสดใสนั่นนานมากไป เธอรู้ตัว และหันมายิ้มให้กับฉัน

      เสียงประกาศอัตโนมัติทำงานอย่างไม่บกพร่องเมื่อเจ้าเครื่องรถไฟกลเคลื่อนถึงจุดหมายแห่งใหม่ ฉันก้มมองนาฬิกาสีน้ำตาลบนข้อมือ หน้าปัดของมันร้าวจนน่าตกใจ หากแต่ระบบภายในยังคงสภาพดีดังเดิม ฉันหวังมองไปยังกลุ่มเด็กผู้หญิงกลุ่มใหญ่นั้นเป็นครั้งสุดท้าย แต่น่าเสียดาย พวกเธอได้จากไปแล้ว

      ฉันลุกขึ้นเมื่อถึงสถานีที่ต้องการและก้าวออกด้วยความรีบเร่ง ฉันกำลังจะผิดนัด จราจรบนถนนด้านล่างติดขัดไปหมด ดูเหมือนว่าฉันต้องหันไปพึ่งการวิ่งแทนขึ้นรถโดยสารประจำทางดังที่คาดหวัง ไว้ สองเท้าเล็กก้าวยาวเพื่อช่วยให้ฉันถึงจุดหมายเร็วขึ้น ช่อดอกไม้ในมือสั่นไหวจนต้องคอยระวังว่ามันจะร่วงหล่นไปกลางทาง ฉันเปิดกระเป๋าสะพายตรวจดูสิ่งของสำคัญต่างๆในนั้นว่าอยู่ครบดีหรือเปล่า ไดอารี่เล่มสีฟ้า ดินสอ รูปภาพ และเครื่องอัดเสียงสภาพเก่า พวกมันยังอยู่ครบดี ฉันเริ่มวิ่งอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง

       

      พ่อนึกว่าลูกจะไม่มาแล้วซะอีกรอยยิ้มของฉันปรากฏขึ้นเมื่อได้ยินเสียงทักทายที่คุ้นเคยจากผู้ชายร่างสูงใหญ่ ใบหน้าของเขาเหี่ยวย่นตามกาลเวลา แต่มีน้ำเสียงทุ้มนุ่มแฝงด้วยความใจดีที่ฉันชอบฟัง

      หนูมัวแต่เลือกดอกไม้อยู่น่ะค่ะฉันตอบ เขาเพียงแค่ส่งยิ้มตอบกลับมาและพาฉันเดินไปสถานที่ที่แสนว่างเปล่า

      พ่อเจอสร้อยเส้นนี้ มันคงสำคัญกับลูกมากใช่มั้ยสร้อยเงินที่มีจี้รูปโน้ตเพลงในมือคุณพ่อกำลังทำให้ฉันกลายเป็นคังซึลกิผู้แสนอ่อนไหวอีกครั้ง

      “…..” ไร้คำเอื้อนเอ่ยใดใดจากปากของฉัน มีเพียงความเงียบและเสียงร่ำไห้ภายในสวนแห่งนี้ กับสร้อยที่แปรเปลี่ยนเจ้าของมาเป็นของฉันอีกหนึ่งเส้น

       

      นี่คังซึลกิ เย็นขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่กลับบ้านอีกผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งกำลังมองหน้าของฉันแถมยังใช้น้ำเสียงชวนหาเรื่อง แต่ฉันดูออก ความจริงเธอก็แค่เป็นห่วงการเดินทางของฉันก็เท่านั้น

      นี่ซนซึงวาน เย็นขนาดนี้แล้วยังมานั่งรอฉันอีกฉันลอกประโยคเมื่อกี้ของเธอก่อนหัวเราะออกมาเมื่อโดนคนตัวเล็กกว่าหยิกเข้าให้เต็มแรง แต่ก็แอบบ่นคนตรงหน้าเบาๆไม่ได้

      ดุชะมัด..”

      กล้าบ่นฉันหรือไงซนซึงวานหูดีกว่าใครทั้งนั้นที่ฉันเคยรู้จัก

      ฉันเปล่านะฉันแก้ตัว หน้าตาหงอยๆที่ฉันแกล้งทำสร้างความหมั่นเขี้ยวให้เธอจนเอื้อมมาหยิกแก้มอ้วนๆของฉันจนแทบช้ำไปหมด

      เฮ้อ ฝนกำลังจะตก เธอควรกลับไปได้แล้วนะซึงวานทอดสายตามองไปข้างหน้า เธอไม่มองฉันอีกแล้ว เฮ้ เธอควรจะรู้มารยาทเบื้องต้นเวลาที่กำลังคุยกับใครซักคนนะสาวน้อย

      ไม่เป็นไร ฉันมีร่ม แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลสำคัญอีกนั่นแหละ ฉันอยากคุยกับเธอคิดดูสิ เธอสำคัญขนาดไหน จนทำให้คนอ่อนแออย่างฉันอยากคุยกับเธอจนยอมตากฝน

      ซึลกิ พักนี้เธอดื้อขึ้นรึเปล่าซึงวานหันมองฉันเพียงครู่เดียว เรียวคิ้วของเธอเริ่มขมวดหน่อยๆ ดื้องั้นหรอ? ดูเธอใช้คำเข้าสิ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ

      ฉันไม่ได้ดื้อ ไม่เคยดื้อ เธอนั่นแหละที่ดื้อฉันลอบมองใบหน้าคนข้างตัว เธอก้มหน้ามองใบไม้บนพื้นพักหนึ่งราวกับใช้ความคิด แต่ตอนนี้เธอเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฉันแล้วล่ะ

      ฉันดื้อยังไงเธอถาม นัยน์ตาของเธอใสแป๋วเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ มันช่างดูเป็นท่าทางที่ไร้เดียงสาสำหรับฉัน

      เธอไม่ยอมกลับไปกับฉันซักทีฉันตอบเธอ

      ฉันจะไปกับเธอได้ยังไง บ้ารึเปล่าดูสิ คิ้วของเธอผูกกันเป็นโบว์อีกแล้วล่ะ แถมเธอยังใจดีฟาดมือมาที่แขนเล็กๆของฉันเต็มรัก

      เธอก็แค่ตามฉันไปที่ห้องของเราเหมือนเมื่อก่อนฉันดึงแก้มของเธอเบาๆ เธอช่างเป็นผู้หญิงที่น่าทะนุถนอม

      แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนเธอตอบทันควัน

      ยังไงฉันตั้งคำถาม

      ห้องของเธอมันเล็กเกินไปเธอถอนหายใจและมองไปยังใบไม้สีน้ำตาลที่กำลังร่วงหล่น

      ทีเมื่อก่อนยังอยู่ได้ หรือเธอจะบอกว่าตัวเธอใหญ่ขึ้นฉันหัวเราะเมื่อได้รับสายตาไม่พอใจของเธอตอบกลับมา ฉันรู้นะว่าเธอแกล้งเล่น ซึงวานของฉันไม่เคยโกรธใครได้นานหรอก

      ฉันก็มีที่นอนของฉัน ตัวเธออย่างกับกุ้งแห้ง เธอแบกมันไม่ไหวหรอกซึลกิยาเธอยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ฉันและดึงฉันให้ลงนอนบนตักแสนนุ่มของเธอ ฉันมองใบหน้าของเธอ ยามแสงสีส้มจากท้องฟ้ากระทบลงบนใบหน้าและนัยน์ตาของเธอ ซนซึงวานช่างสวยงามเหลือเกิน ฉันกุมมือเธอไว้ เธอก้มลงมอง ส่งยิ้มใจดีให้ฉันอีกครั้ง

      ฉันเอาไดอารี่เล่มนั้นมาด้วยนะเธอเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ฉันจึงลุกขึ้นนั่งข้างๆและเปิดกระเป๋าหยิบเจ้าไดอารี่เล่มสีฟ้าชูขึ้นให้เธอเห็น ฉันดึงเธอให้ขยับเข้ามานั่งชิดกันมากกว่าเดิม พลางเปิดกระดาษหน้าที่ถูกเขียนทิ้งไว้จากครั้งที่แล้ว

      สวยจังซึงวานพูดระหว่างขอไดอารี่จากมือฉันไปสำรวจ ฉันยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ ภาพวาดและถ้อยคำต่างๆในสมุดเล่มนั้นเกี่ยวกับเธอ ฉันวาดภาพเธอ ยามที่ฉันมาหาเธอ ฉันจดถ้อยคำของเธอ ทุกครั้งที่เราได้คุยกัน

      ฉันเก่งใช่มั้ยล่ะ ความจริงฉันตั้งใจวาดอีกอย่างให้เธอด้วย แต่มันเสร็จไม่ทัน ขอโทษนะฉันเอ่ยคำขอโทษจากใจจริง นั่นทำให้เธอส่ายหัวสองสามครั้งเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร เธอดึงฉันให้ฉันไปซบลงบนบ่าเล็กๆของเธออย่างที่ทำเป็นประจำ

      ทำไมคังซึลกิถึงชอบพูดคำว่าขอโทษกับฉันทั้งที่ฉันควรเป็นฝ่ายพูดคำนั้นกันนะเธอโอบไหล่ฉันเอาไว้

      ขอโทษนะที่ฉันไม่สามารถเป็นฝ่ายไปหาเธอได้เลยเธอพูด เสียงเธอกำลังสั่น

      วานอา..” ฉันไม่ชอบเห็นเธอร้องไห้ เธอไม่ชอบเห็นฉันร้องไห้ แต่เราทั้งคู่กำลังร้องไห้โดยมีสาเหตุเป็นกันและกัน

      พี่ไอรีนเป็นคนดีจู่ๆเธอก็พูดถึงเจ้าของร้านดอกไม้เมื่อเช้า นั่นทำให้ฉันบีบมือเธอแน่นยิ่งขึ้น

      พี่ไอรีนเกี่ยวอะไรเธอยิ้ม ซึงวานเอาแต่ยิ้มทั้งที่น้ำตาบนใบหน้าเธอยังไม่เหือดหายไปไหน

      ฉันไว้ใจพี่ไอรีนนะซึงวานพูดถึงพี่ไอรีนอีกแล้ว ฉันรู้ความหมายของคำพูดเธอดีแค่ไม่อยากเข้าใจมันเท่านั้น

      แต่ฉันรักซึงวานฉันตอบกลับไป เธอนิ่งเงียบ หยดน้ำกำลังไหลรินจากนัยน์ตาที่มักฉายแววสดใสจนฉันกลัวว่าดวงตาของเธอจะบอบช้ำ ฉันไม่ต้องการเห็นเธอบุบสลายไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือจิตใจก็ตาม

      ทั้งที่ฉันอยู่กับเธอไม่ได้และเป็นสาเหตุให้ซึลกิต้องร้องไห้ทุกวันอย่างนั้นน่ะหรอเธอละมือออกจากไหล่ของฉัน เธอชันเข่าขึ้นและซบหน้าร้องไห้กับมัน  -ฉัน คังซึลกิ โอบกอดเธอไว้

      ไม่เป็นไรเลยวานอา.. ไม่เป็นไรเลย..” แค่ได้พบเจอกับเธอในทุกๆวันแบบนี้ ต่อให้ไม่ได้อยู่เคียงข้างกันดั่งเมื่อก่อน มันก็เพียงพอแล้ว

       

       

       

      บันทึกหน้าที่ 62 / ไดอารี่สีฟ้า / ซนซึงวาน

       เมื่อวานซึงวานบอกกับฉันว่าอยากไปเที่ยวที่อื่นบ้างล่ะ แต่ฉันจะพาเธอไปที่ไหนกันดีนะ? หรือฉันควรจะพาเธอไปยังสถานที่ที่เธอจากมันมานานแล้วอย่างเช่นห้องของเรา ไม่สิ ตอนนี้มันกลายเป็นห้องของฉันเพียงคนเดียวไปแล้วตั้งแต่เมื่อสี่เดือนก่อน ช่อดอกสแตติสสีม่วงใหม่เอี่ยมถูกวางไว้ข้างตัว ฉันรู้สึกขอบคุณพี่ไอรีนอย่างมากหลังจากที่เธอบอกว่าช่วงนี้ดอกสแตติสกำลังขาดตลาด มันหาซื้อยากขึ้น เธอไปตามหามันด้วยตัวเอง เพราะรู้ว่าฉันต้องมาซื้อมันในทุกๆวัน เธอช่างเป็นผู้หญิงที่แสนดี เอาล่ะ กลับมาเรื่องของเรา หมายถึงฉันกับซึงวานน่ะนะ ระหว่างที่กำลังคิดสถานที่สุดพิเศษของเรา หิมะแรกแห่งเดือนพฤศจิกายนก็ร่วงหล่นหลงมาจากท้องฟ้าสีเข้ม แสงไฟระยิบระยับช่วยขับกล่อมให้ความรู้สึกรอบข้างโรแมนติกขึ้นกว่าเดิมหลาย เท่า อ่า.. ใช่แล้ว นาทีที่ฉันควรจะไปหาซึงวานแล้วบอกเธอว่า ตัวเล็ก หิมะแรกสวยมากเลยนะ และเธอก็คงจะตั้งคำถามทำนองว่าระหว่างเธอกับหิมะอย่างไหนสวยกว่ากัน แน่นอนสิ ที่ฉันจะตอบว่าเธอ ไม่มีอะไรสวยเกินกว่าผู้หญิงที่เป็นผู้สร้างรอยยิ้มให้กับโลกของฉันอีกแล้ว

      ฉันเหม่อมองท้องฟ้าขณะเดินไปตามถนนสายเก่า สร้อยสีเงินรูปตัวโน๊ตของซึงวานบนคอของฉันเย็นเฉียบจากอุณภูมิที่ลดต่ำ ฉันยิ้ม คิดถึงเธออีกแล้ว ฉันเคยเขียนถ้อยคำแสนซึ้งให้ซึงวานเมื่อวันครบรอบของเรา เธอบอกว่ามันช่างน้ำเน่า ทว่ามันคือความจริงที่เธอและฉันต่างรับรู้ดี

       

      หัวใจของฉันที่เคยเป็นน้ำแข็งด้วยสายลมอันหนาวเหน็บของฤดูหนาวที่มาถึง มันเปลี่ยนไปหลังจากที่ฉันได้พบกับเธอ

      14.5.21

      คัง ซึลกิ

       

      ฉันอยากหยุดช่วงเวลาเมื่อสี่เดือนก่อนไว้ แต่แค่คิดจะย้อนเวลายังทำไม่ได้ นับประสาอะไรกับการหยุดเวลาไว้ตลอดกาล จริงมั้ย? ช่วงเวลาที่มีความสุขช่างหอมหวานและผ่านไปอย่างรวดเร็ว เร็ว จนไม่คาดคิดว่าซักวันเราอาจไม่ได้พบมันอีก

      ซนซึงวานจากฉันไปที่ไหนซักที่ เธอไม่ได้บอกฉันเอาไว้ในครั้งสุดท้ายที่เราเจอกัน แต่ฉันขอเดาว่ามันคงเป็นที่ที่มีความสุขมากจนเธอไม่ยอมกลับมาอยู่ที่ห้องเราอีก ฉันร้องไห้ แต่ฉันก็ยิ้ม ฉันดูเหมือนคนบ้าชะมัด ซึ่งซึงวานก็เคยบอกเอาไว้เหมือนกัน ซนซึงวานผู้แสนอบอุ่น ใจดี และก็เป็นซึงวานผู้ที่พักหลังมานี้ชอบผิดนัดฉันตลอดเหมือนกัน ฉันเคยตัดพ้อเธอในใจหลายครั้ง แต่สุดท้าย ฉันก็ยอมเป็นฝ่ายไปหาเธอ ณ ที่แห่งเดิมในเวลาของเราเป็นประจำ

       

       

      ฉันกลับมายังสวนที่แสนสงบแห่งเดิมอีกครั้ง ฉันพบว่าซึงวานกำลังรอฉันอยู่ที่เดิม จนตอนนี้ ฉันก็ยังไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดซึงวานถึงชอบที่นี่นัก ฉันเดินเข้าไปหาเธอและลูบใบหน้าอย่างแผ่วเบา ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน แก้มของเธอเย็นเฉียบจนฉันอดเป็นห่วงไม่ได้ เธอยิ้มพลางกุมมือของฉันไว้

      ระหว่างหิมะกับสายลมเธอคิดว่าจะเจออะไรบ่อยกว่ากันซึงวานถามฉัน นัยน์ตาสีน้ำตาลของเธอสบกับฉัน ความอ่อนโยนที่ฉันหลงใหลไม่เคยจางหายไปไหน

      ก็ต้องสายลมสิ ทำไมหรอฉันตอบเธอและถามกลับ

      เธอจะสามารถรู้สึกถึงสายลมที่พัดผ่านตลอดเวลาใช่มั้ยเธอไม่ตอบคำถามฉัน

      ใช่ แม้จะอยู่เฉยๆแต่ฉันก็เชื่อว่าสายลมจะอยู่รอบตัวเราตลอดเวลา เธอจะตอบคำถามฉันได้รึยังฉันมองใบหน้าที่แสนรัก ฉันลูบผมเธอด้วยความรักใคร่ ก่อนประทับจูบลงบนหน้าผากของเธออย่างทะนุถนอม

      ฉันจะเป็นสายลมสำหรับเธอนะเธอกอดและซบหน้าลงกับบ่าเล็กๆของฉัน

      หมายความว่ายังไงฉันกอดตอบเธอแนบแน่นราวกับเธอกำลังจะสลายหายไป

      เมื่อไหร่ที่ซึลกิคิดถึงฉัน ให้นึกถึงสายลมที่คอยพัดผ่าน สายลมที่อยู่เคียงข้างซึลกิเสมอ ถึงมองไม่เห็นแต่ซึลกิก็รับรู้ถึงมันใช่มั้ยเธอหลับตา ฉันรู้สึกเหมือนเธอกำลังจะจากฉันไป

      เธอจะทิ้งฉันไปไหนไร้ซึ่งเสียงสะอื้นใดๆ บางทีหัวใจของฉันอาจเจ็บปวดจนไม่สามรถรู้สึกอะไรได้อีก

      ฉันต้องไปแล้วเธอตอบกลับก่อนกระชับกอดให้แน่นขึ้น

      ไม่ไปได้รึเปล่าฉันอ้อนวอน สิ่งที่ฉันกลัวกำลังคืบคลานเข้ามาอีกครั้งราวกับเทปถูกกรอกลับไปยังเหตุการณ์เมื่อสี่เดือนก่อน

      ไม่ได้ ขอโทษนะถ้อยคำที่เธอพูดช่างแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน

      รักเธอพูดอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้เสียงกลับอู้อี้เพราะการที่เธอซบหน้ากับไหล่ฉัน

      รัก ฉันพูดคำคำเดียวกับเธอตอบกลับไป และแตะจูบที่ขมับของเธอสองสามครั้งทั้งที่น้ำตายังไหลริน

      ช่วยจดจำฉันไว้ในเสี้ยวหนึ่งของความทรงจำด้วยนะนั่นคือประโยคสุดท้ายของเธอที่ฉันได้ยิน

       

       

       

       

       

       

      -เธอจางหาย

       

       

       

       

       

       

      ช่อดอกสแตติสถูกวางไว้บนหลุมศพหินอ่อนที่สลักชื่อเจ้าของร่างที่กำลังหลับใหลภายใต้พื้นดินนี้  รูปสีเทาปรากฏใบหน้าหญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง เธอกำลังยิ้มอย่างสดใส เส้นผมสีน้ำตาลเข้มถูกปล่อยสยายไปด้านหลัง ผู้หญิงผู้แสนใจดี อ่อนหวาน หากแต่เข้มแข็ง เธอเป็นที่รักของทุกคน รวมทั้งฉันเองด้วย

      ซึงวานอา ฉันซื้อโกโก้ร้อนมาฝาก แก้มเธอเย็นเฉียบอย่างกับน้ำแข็งไปหมดแล้วนะฉันนั่งลงข้างหลุมศพของซนซึงวานและลูบแก้มของเธอจากรูปภาพที่ปรากฎอยู่ ฉันมักจะมาหาเธอและพูดคุยกับเธอแบบนี้ทุกๆวัน ใครต่างบอกว่าฉันนั้นเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที แต่ใครจะสนกันล่ะ

      พวกเขาคงไม่เข้าใจความรู้สึกของฉันผู้สูญเสียคนรักไปอย่างกะทันหัน ซนซึงวาน ผู้เข้ามาเปลี่ยนโลกทั้งใบของฉันให้ดีขึ้น และจากไป อย่างไม่มีวันหวนกลับมา

      หรือว่าเธอเบื่อโกโก้ร้อนแล้ว? งั้นพรุ่งนี้ฉันจะซื้ออย่างอื่นมาฝากแทนแล้วกันนะตัวเล็กซึงวานยิ้มให้ฉันเช่นทุกๆวัน ฉันหยิบสมุดไดอารี่สีฟ้าขึ้นมาและเปิดไปยังหน้าที่ 74

      รูปนี้ฉันวาดสวยใช่มั้ยล่ะ ขอโทษนะที่เอามาให้ดูช้าไป มันโอเครึเปล่า? เราสองคนนั่งดูหิมะแรกด้วยกันอย่างที่เธอเคยบอกไว้ไงฉันยื่นไดอารี่ในมือให้เธอดู เธอนิ่งงัน ไร้ซึ่งเสียงใดๆตอบกลับมา

       

       

       

      ฉันร้องไห้อีกครั้ง

       

       

       

      แรงโอบกอดจากด้านหลังทำให้ฉันอ่อนแอมากกว่าเดิม ฉันจมอยู่ในอ้อมแขนของคนตัวเล็กกว่า พี่ไอรีน เธอลูบผมฉันและปลอบประโลมด้วยความเงียบ ใช่ เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอแค่กอดฉันไว้ ฉันไม่มีเวลาคิดว่าพี่ไอรีนตามฉันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือพี่เขามาที่นี่ได้ยังไง ฉันแค่รู้สึกขอบคุณ ที่ในเวลานี้มีอ้อมกอดมาฉุดดึงห้วงอารมณ์ที่กำลังดำดิ่งอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของฉันขึ้นมา 

      ซึลกิยา.. พี่อยู่ตรงนี้นะคะฉันสะอื้นและไม่ได้ตอบกลับไป ฉันทำเพียงกอดพี่เขาไว้ ร่างกายของฉันสั่นราวกับลูกนก

      ฉันปล่อยให้ไดอารี่สีฟ้าร่วงหล่น รูปภาพในกระเป๋ากระจายลงสู่พื้น ดินสอจำนวนหนึ่งหักจนใช้ไม่ได้ และหัวใจของฉันที่หายไป

       

      พี่ไอรีนยังคงกอดฉันไว้อย่างนั้นจนฉันดีขึ้น ฉันหลับตาลงหวังให้ภาพทั้งหมดกลายเป็นเพียงฝันร้าย ทว่าเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาทุกอย่างยังคงเป็นเช่นเดิม นี่คือเรื่องจริง ซึงวานจากฉันไป ฉันนั่งคุยกับหลุมศพของเธอเหมือนคนบ้า ฉันไม่เปิดใจให้ใครแม้กระทั่งผู้หญิงที่แสนดีอย่างพี่ไอรีนก็ตาม ฉันไม่ได้รักเธอแบบคนรัก นั่นคือเรื่องจริงอีกข้อหนึ่ง

      สายลมแผ่วเบาพัดผ่านมากระทบตัวฉัน นั่นทำให้ฉันนึกถึงคำพูดของเธอ ซนซึงวานผู้เป็นที่รักของฉันเสมอมา เธอยังคงอยู่รอบตัวฉัน รักฉัน และเป็นห่วงฉัน เช่นกัน ฉันก็รักเธอ

       

       

       

       

      เพียงคนเดียว.

       

       

       

       

      ฉันปล่อยเธอไปแล้ว ปล่อยเธอไปกับสายลม

      คงไม่อาจพูดคำอื่นใดได้นอกจากคำว่ารัก

      เดือนพฤศจิกายนและความทรงจำ

       

       

       


       

       

      FIN.

      - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
      Happy Birthday
      SEUNGWANNN<3

      -ความหมายของดอกสแตติส ความรู้สึกดีๆที่คงอยู่ตลอดไป

      -ที่นอนใหญ่ที่ซึงวานหมายถึงคือหลุมศพค่ะ

       เอ็นจอยกับการอ่านนะคะ กุกกักๆ บอกเลยว่าแต่งฟิคซึลรีนยังไม่ขยันขนาดนี้ ถถถถถถถถถถถถถถถถถ

      ฟิคป่วงยังไงเชิญได้ที่แท็ก #11fiction นะคะ มาคุยกันๆ ถถถถถถถถถถถถถ บายค่ะ อิอิ

      ขอบคุณทุกคอมเมนต์เลยนะคะ :D

       

      B E R L I N ❀

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×