ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตรักราชามังกร

    ลำดับตอนที่ #28 : คำมั่นสัญญา

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.ค. 65



    [คำมั่นสัญญา]

    หนึ่งปีผ่านไป

    เย่วซินและหลิงซานใช้ชีวิตคู่กับสวามี ที่รักและเอาใจใส่พวกเขาอย่างดีมาตลอดหนึ่งปี หลังจากผ่านวันอภิเษกมาเพราะถูกบังคับแต่มาบัดนี้ เขาทั้งคู่คิดว่าตนโชคดีเหลือเกินที่มาเจอคนที่รักและห่วงใยเขาเช่นนี้ ชีวิตคู่อยู่กันอย่างสงบสุขหลิงซานก็เลิกกลัวอี้เฟยไปนานแล้ว หลังจากคืนนั้นที่เขายอมใจอ่อนให้อี้เฟยก็ตักตวงเอากับเขาทุกค่ำคืน จนกลายเป็นความเคยชินที่เขาเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ตนเองก็มีความสุขและโหยหาอีกฝ่ายไม่แพ้กัน เช่นคืนนี้ก็หนีไม่พ้น

    ร่างสูงกำลังครอบครองร่างงามของเมียรักอย่างอ่อนโยน เขารู้ว่าร่างเล็กไม่ชอบให้เขารุนแรงใส่ แต่ก็มีบางครั้งที่พลั้งเผลอเลยทำให้ร่างเล็กบาดเจ็บ จนคาดโทษเขาเอาไว้ว่าหากครั้งหน้ายังไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ เขาจะต้องระเห็จไปนอนที่ตำหนักรับรองแทนซึ่งเขายอมไม่ได้

    "เสี่ยวไป๋ ข้ารักเจ้า "

    ร่างสองร่างกำลังกอดก่ายบนเตียงนอนหลังใหญ่ มอบความสุขให้กันและกันอารมณ์ของทั้งคู่กำลังร้อนได้ที่ ร่างบางเม้มริมฝีปากสีสดสะกดกลั้นความเสียวซ่าน ที่สวามีมอบให้อย่างต่อเนื่องมาตลอดหนึ่งชั่วยาม และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ

    หลิงซานหมดแรงลงทุกทีขณะที่สวามีแรงไม่ตกเลย ร่างเล็กคิดไม่ถึงว่าคนตัวโตจะหื่นได้ขนาดนี้ ทุกค่ำคืนร่างสูงไม่เคยว่างเว้นจากเรื่องบนเตียงแม้ว่าเขาจะประท้วง แต่ก็ต้องใจอ่อนกับลูกอ้อนของสวามีจอมหื่นทุกครั้งไป จนชินชาเสียแล้ว พอพายุความหื่นสงบลงร่างบางก็สลบเหมือดเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา เป็นหน้าที่ของร่างสูงที่ต้องเช็ดเนื้อตัวให้คนหมดแรง หาเสื้อผ้ามาสวมให้และโอบกอดหลับตามร่างเล็กไปเหมือนทุกๆ ครั้ง

    ไม่ใช่เพียงแต่อี้เฟยที่ตักตวงความสุขจากเมียรัก เฟยหลงก็ไม่น้อยหน้าร่างสูงทำหน้าที่สวามีไม่ขาดตกบกพร่อง ทุกค่ำคืนจะมอบความสุขให้เมียรักเสียจนเต็มอิ่ม ในตอนนี้พายุอารมณ์กำลังโหมกระหน่ำอย่างฉุดไม่อยู่ เหล่านางกำนัลหรือใครก็ตามจะรับรู้ว่า ถ้าหากถึงเวลานอนของนายเหนือหัวแล้ว ต่างก็พากันระเห็จไปไห้เร็วที่สุดเป็นเช่นนี้มาตลอด หลังจากงานอภิเษกกว่าเฟยหลงจะยอมหยุดเย่วซินก็หมดแรง

    "ท่านพี่ ทำไมท่านถึง เอ่อ... "

    "ข้ารักเจ้า"

    "ละ-แล้วมันเกี่ยวอะไรกับที่ท่าน"

    "ที่ข้า รักเจ้าทุกค่ำคืนเช่นนี้ ก็เพราะข้าอยากมีลูก ข้าจึงต้องขยันเผื่อเขาจะได้เกิดมาในเร็ววัน"

    "ข้ามีได้หรือ"

    "หืม... มีได้สิ ก็ยาที่พวกเจ้าดื่มเข้าไปมันจะทำให้เจ้าตั้งครรภ์ได้"

    "ยา... ยาขมบาดคอที่ข้ากับหลิงเอ๋อร์ถูกบังคับให้ดื่มเข้าไปทุกวันน่ะหรือ"

    "ใช่แล้ว ชาวเผ่ามังกรของข้ามียาดีหลายชนิด และหนึ่งในนั้นคือยาที่พวกเจ้าสองคนพี่น้องดื่มเข้าไป"

    "จริงหรือ แล้วยานั้นมันช่วยได้อย่างไร"

    "มันเข้าไปปรับเปลี่ยนร่างกายเจ้า ให้สามารถรองรับทารกที่จะเจริญเติบโตให้เกิดมาอย่างปลอดภัย"

    "เย่วเอ๋อร์ เจ้าไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้าตลอดไป มีลูกให้ข้าเถิดนะ ข้าจะรักและดูแลเจ้ากับลูก ยิ่งกว่าชีวิต"

    "สัญญากับข้า ว่าท่านจะทำตามที่พูดไว้ เราสองจะรักและเชื่อใจกันตลอดไป"

    "ข้าสัญญากับเจ้า ข้าให้เจ้าได้ทุกอย่าง แม้แต่ชีวิต"

    "ถ้าข้าสามารถมีลูกให้ท่านได้จริงๆ ข้าก็ยินดี ท่านคือทุกสิ่งทุกอย่างของข้า ข้ารักท่าน"

    "เจ้าก็เช่นกัน หัวใจของข้าอยู่ที่เจ้า ข้ามอบมันให้เจ้าไปหมดตั้งแต่นิมิตเห็นเจ้าครั้งแรก"

    ต่างก็เปิดใจรับอีกฝ่ายเข้ามาเต็มหัวใจต่างดูแลมอบความรักให้กันและกันจนเปี่ยมล้น

    แม้เวลาผ่านมาหนึ่งปีเต็ม แต่องค์ชายใหญ่แห่งเผ่ามารไม่เคยละความพยายามที่จะครอบครองร่างบางของราชินีเผ่ามังกรลงเลย วางแผนช่วงชิงร่างบางจากอกสวามีอยู่ตลอดเวลา หากมีโอกาส วันนี้ก็เช่นกัน เขาแอบเข้ามาดูการเคลื่อนไหวและหาโอกาสลักพาตัวใครบางคนที่ตนปรารถนา

    ร่างกายกำยำสวมเสื้อผ้าสีดำพรางกาย ผ้าผืนใหญ่ปิดตั้งแต่เส้นผมและใบหน้าเร้นกายเข้ามาอย่างคล่องแคล่ว ยามค่ำคืนเช่นนี้เหมาะกับการเร้นกายเข้ามาอย่างยิ่ง ถึงแม้จะมีเวรยามคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยก็เถิด แต่มันไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเขาเลย

    ร่างสูงของอี้เทียนหลงใช้ปราณแค่นิดเดียวกระโดดขึ้นมาตรงระเบียงตำหนักที่ร่างบางพักผ่อน ตาคมสอดส่ายสายตาหาเป้าหมาย ก็เจอร่างบางนั่งหวีผมยาวสลวยอยู่ที่หน้ากระจก

    ร่างสูงเหมือนต้องมนต์สะกดจากร่างงามที่แอบมอง สายตาคมไม่อาจจะละจากภาพความงดงามตรงหน้าได้เลย ขาแกร่งย่างก้าวเข้าไปหาร่างบางอย่างใจต้องการ แต่ก่อนที่อะไรจะเกิดขึ้นร่างสูงของเฟยหลงปรากฏตัวเสียก่อนร่างสูงตรงเข้าไปกอดราชินีรักจากด้านหลัง ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากมลอย่างรักใคร่ ใช้จมูกซุกไซ้ซอกคอขาว ของร่างงามอย่างหลงใหล

    คนที่แอบมองมือแกร่งกำเข้าหากันแน่นอย่างริษยาคนผู้นั้นนัก คิดในใจทำไมไม่เป็นเขา ทำไมเขาเจอร่างบางช้ากว่าเฟยหลง ถ้าเขาเจอก่อนจะไม่ยอมยกร่างบางให้ใครเด็ดขาด ถึงจะเจอช้าว่าแล้วอย่างไรล่ะ ใ นเมื่ออยากได้ก็จะแย่งเอามาเป็นของตนให้ได้ เขาคิดอย่างคนเห็นแก่ตัว

    ความอดทนหมดลงตอนที่เห็นร่างบางถูกเฟยหลงช้อนตัวขึ้น และพาไปวางบนเตียงอย่างอ่อนโยน แค่นี้ก็รู้แล้วว่าต่อจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น เขาไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจเลยรีบไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

    ณ.อาณาจักรมาร

    เพล้ง!!

    เสียงจอกสุรากระเบื้องเคลือบอย่างดีแตกกระจาย เพราะมือหนาของอี้เทียนหลงองค์ชายใหญ่เผ่ามาร ขว้างลงพื้นด้วยโทสะที่กำลังปะทุอย่างบ้าคลั่ง หลังจากที่ร่างสูงกลับมาจากอาณาจักรมังกรก็อารมณ์เสียจนไม่มีใครเข้าหน้าติด

    "พระทัยเย็นๆ ก่อนพ่ะย่ะค่ะองค์ชาย" องครักษ์คู่กายเอ่ย

    "จะให้ข้าใจเย็นไปถึงเมื่อไรกัน ผ่านมาก็ปีหนึ่งแล้ว ข้ายังไม่สามารถพาเขามาอยู่ใกล้ตัวได้"

    "ใจร้อนวู่วามไปมันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา งานใหญ่เช่นนี้พระองค์ต้องรอบคอบ ไม่เช่นนั้นจะเดือดร้อนเอาได้ หากองค์ราชารู้คงไม่ทรงยอมให้พระองค์ทำเช่นนั้นแน่พ่ะย่ะค่ะ"

    "ก็อย่าให้เสด็จพ่อรู้สิ หลังจากที่ได้ตัวเขามาแล้วข้าจะทูลขอรับผิดเอง แต่ข้าไม่ยอมส่งเขากลับแน่"

    "เช่นนั้นพระองค์คิดออกหรือยัง..ว่าจะทำเช่นไรไห้ได้ตัวองค์ราชินีมาที่นี่"

    "ข้ากำลังหาวิธี..เจ้าหมาบ้านั่นก็ไม่ปล่อยไห้ราชินีตนห่างสายตาเลย..มันยากนักที่ข้าจะเข้าถึง"

    ร่างบางขององค์ชายน้อยเซียวหลานกำลังย่างก้าวเข้าไปยังตำหนักพี่ชายตน เพราะได้ยินมาว่าช่วงนี้พี่ใหญ่มักจะอารมณ์เสียจนใครก็พากันหวาดกลัว ไม่รู้เพราะเหตุใดพี่ชายที่แสนใจดีของเขาถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนั้น วันนี้เลยตั้งใจเอาถุงหอมที่ตนเองตั้งใจทำมาให้ร่างสูงของพี่ชาย ข้างในมันเป็นเครื่องหอมที่ช่วยให้สดชื่นผ่อนคลายและช่วยให้หลับสบาย ตั้งใจจะเอามาวางไว้บนตั่งเตียงของพี่ชาย ความหอมจะช่วยให้พี่ชายเขาอารมณ์ดีขึ้น

    สายตาหวานกวาดมองไปรอบห้องหาร่างสูงของคนที่อยากพบ แต่ก็ไร้วี่แววมองหาสักพักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าตรงมาทางนี้ร่างเล็กกำลังจะก้าวไปหาแต่ก็ต้องชะงักลง ก่อนจะรีบหาที่หลบและมุมห้องมุมหนึ่ง ซึ่งมีผ้าม่านบังเอาไว้มันเป็นที่หลบซ่อนตัวอย่างดีของร่างเล็ก

    ร่างสูงของเทียนหลงเดินเข้ามาพร้อมกับสตรีนางหนึ่ง ที่ร่างเล็กคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง

    เพราะความหงุดหงิดที่อะไรก็ไม่ได้ดั่งใจวันนี้อี้เทียนหลงเลยเรียกนางสนมคนโปรดเข้ามาถวายงาน เพียงแค่บานประตูปิดลงเท่านั้นร่างงามของสนมคนงามก็ถูกองค์ชายใหญ่จับลอกคราบทันที ตอนนี้เหลือแต่ตัวเปล่าที่อวดความงดงามแก่สายตาร่างสูง รูปร่างงดงามอวบอัดปลุกอารมณ์ดิบในกายของร่างสูงได้อย่างดี

    "เดี๋ยวก่อนเพคะ พระองค์จะรีบร้อนไปทำไม หม่อมฉันไม่หนีไปไหนหรอก คืนนี้หม่อมฉันจะมอบความสุขให้พระองค์จนถึงรุ่งเช้า ดีหรือไม่เพคะ

    "ดี ถ้าเจ้าทำให้ข้าพอใจ พรุ่งนี้ข้าจะตกรางวัลให้อย่างงาม"

    พูดจบบทรักอันดุดันเร่าร้อนก็เริ่มขึ้น โดยไม่รู้ว่าร่างเล็กที่แอบอยู่หลังม่านกำลังตกใจจนจะเป็นลมอยู่รอมร่อ กับเสียงครวญครางสลับกับเสียงร่วมรักอย่างถึงอกถึงใจของคนทั้งคู่ใบหน้างามแดงก่ำเหงื่อไหลพลั่กอย่างกับเขื่อนแตก

    ร่างบางคิดหาหนทางออกไปจากที่นี่ แต่ก็ไร้วี่แววเพราะประตูกับที่ที่ตนซ่อนอยู่มันไกลเกินไป ถ้าหากออกไปพี่ชายคงได้เห็นเข้าเป็นแน่ เลยได้แต่นั่งชันเข่าปิดตาอุดหูเอาไว้ แต่ก็ยังคงมีเสียงเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินอยู่ดี

    ผ่านไปหลายชั่วยามแล้วแต่กิจกรรมเข้าจังหวะของทั้งคู่ก็ไม่มีทีท่าว่าจบจบลงง่ายๆ ร่างบางเริ่มจะโงนเงนเพราะง่วงสมองเบลอไปหมดแล้ว และทุกอย่างก็ดับวูบไปคงเป็นเพราะถุงหอมที่มีสรรพคุณช่วยให้หลับสบายที่ร่างเล็กถืออยู่ เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ไม่อาจฝืนได้

    หลังจากเสร็จสมจากการปลดปล่อยไปไม่รู้กี่รอบ ร่างสูงก็ให้สนมคนงามกลับวังหลังทันทีไม่ว่าใครก็ไม่เคยได้รับอนุญาตให้ค้างคืนกับเขาแม้แต่คนเดียว ร่างสูงเอนกายบนเตียงอย่างสบายตัวพร้อมจะจมดิ่งสู่ห้วงนิทรา จมูกก็สูดเอากลิ่นหอมสดชื่นที่กระจายอยู่ภายในห้องเข้าปอด พลางขมวดคิ้วด้วยความสงสัยกับกลิ่นที่สัมผัสเขาไม่เคยได้กลิ่นนี้มาก่อน

    "กลิ่นอะไรช่างหอมชื่นใจดีแท้ นางกำนัลคงเปลี่ยนกำยานใหม่กระมัง"

    คิดได้เช่นนั้นก็หลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทรา โดยที่อีกมุมหนึ่งมีร่างบางของน้องเล็กกำลังหลับอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวเช่นกัน

    ก๊อก ๆ ๆ ๆ

    "ท่านพี่ เปิดประตูให้ข้าหน่อย"

    ร่างเล็กของจินฟู่น้องชายคนรองเคาะประตูเรียกผู้เป็นพี่ชายตั้งแต่เช้าตรู่ ร่างสูงลุกไปเปิดประตูอย่างหัวเสียเพราะเพิ่งจะได้นอนไปไม่กี่ชั่วยาม

    "มีอะไรแต่เช้าจินฟู่"

    "ท่านพี่เห็นเซียวเอ๋อร์บ้างหรือไม่" ร่างเล็กถามพี่ชายออกไปอย่างลุกลน

    "ไม่เห็นนี่เกิดอะไรขึ้น"

    "เซียวเอ๋อร์หายไปตั้งแต่เมื่อคืน..ข้าตามหามาพักใหญ่ๆ ก็ไม่เจอ..ถามใครก็ไม่มีใครเห็นท่านพี่ข้าเป็นห่วงน้อง"

    "เจ้าใจเย็น บางทีเขาอาจไปเที่ยวเล่นซุกซนแถวนี้หากันดีแล้วรึ"

    "ถ้าเช่นนั้น ข้าจะลองไปหาทางอุทยานหลวงดูอีกครั้ง"

    "อืม... ถ้ายังไม่เจอ ข้าจะช่วยตามหาอีกแรงเจ้าไปก่อนเดี๋ยวข้าตามไป"

    ร่างสูงเดินกลับเข้ามานั่งที่เตียงอย่างหัวเสีย คราวนี้คงต้องกำหราบกันให้จริงจังสักทีปล่อยตามใจจนเกินไปแล้ว ร่างสูงกำลังจะก้าวไปอาบน้ำแต่จมูกก็ยังคงได้กลิ่นหอมสดชื่นเช่นเดียวกับเมื่อคืนไม่จางหาย คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอีกครั้ง เตากำยานก็ดับไปนานแล้ว แล้วกลิ่นหอมนี้มันมาจากไหนกัน จมูกโด่งสูดดมที่มาของกลิ่นจึงรับรู้ว่ามันมาจากมุมห้องด้านหนึ่ง ขายาวก้าวเดินไปที่ต้นตอของกลิ่นหอมเย็นสบาย มาหยุดอยู่ที่ผ้าม่านซึ่งมันนูนขึ้นผิดปกติ มือหนาเอื้อมไปดึงให้เปิดออกก็เห็นต้นตอของกลิ่น และคนที่ทุกคนตามหากันให้วุ่นตั้งแต่เช้า นอนหลับอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว ร่างสูงมองจากตรงนี้ไปยังเตียงนอนหลังใหญ่ของตน จากตรงนี้สามารถมองเห็นเตียงนอนอย่างชัดเจน เช่นนั้นก็แสดงว่าเมื่อคืนคงเห็นหมดเลยละซิถึงได้ไม่กล้าออกไป

    มือหนาช้อนร่างเล็กที่ยังคงหลับขึ้นแนบอกตรงไปยังเตียงนอนของตน ค่อยๆ วางร่างบางอย่างนุ่มนวลเพราะเกรงว่าร่างเล็กจะตื่น อยากรู้เหมือนกันหากตื่นขึ้นมาเจอหน้าเขา ร่างเล็กจะทำหน้าเช่นไร ในเมื่อร่างเล็กเห็นอะไรดีๆ ที่เขาทำไปเมื่อคืน จะคิดเช่นไรเมื่อตื่นมาเจอหน้าเขาเป็นคนแรก

    "พวกเจ้าไปบอกจินฟู่ว่าข้าพบเซียวเอ๋อร์แล้ว กำลังหลับอยู่ในตำหนักข้า บอกว่าไม่ต้องห่วงข้าจะดูน้องเอง"

    ร่างสูงเดินออกไปด้านนอกห้องสั่งให้คนไปบอกว่าพบตัวเด็กดื้อแล้ว และกำลังนอนอยู่ในตำหนักเขาแก่องค์ชายรองให้หายวิตก ก่อนจะกลับมานอนต่อแต่คงจะหลับไม่ลงแล้วล่ะ

    ร่างบางบิดตัวไปมาอย่างเกียจคร้านหลังจากหลับไปนาน แต่ตาสวยยังไม่ยอมเปิดขึ้นมือบางคว้าผ้าห่มมาคลุมโปงเพราะรำคาญกับแสงสว่างที่รบกวนการนอนของตน มือบางอีกข้างก็ควานหาหมอนข้างเข้ามากอดไว้อย่างเคยชิน แต่เอ๊ะทำไมวันนี้หมอนข้างถึงได้แข็งนักนะ มือบางแตะๆ คลำๆ อยู่สักพักก็มั่นใจว่าสิ่งที่ตนกอดมันไม่ใช่หมอนข้างใบเดิม สติที่เริ่มกลับเข้าที่เข้าทาง รับรู้ได้ถึงความผิดปกติดวงตากลมโตที่หลับอยู่ใต้ผ้าห่มลืมขึ้นและเบิกกว้าง ความทรงจำก่อนที่ตนเองจะหลับไปไหลเข้ามาในหัวอย่างช้าๆ สมองค่อยๆ ลำดับเหตุการณ์ไปจนถึงนาทีสุดท้าย แล้วตนนอนอยู่ที่ไหนคงจะไม่ใช่ ไม่นะ



    มือบางค่อยๆ ดึงผ้าห่มลงช้าๆ อย่างกล้าๆ กลัวๆ ทันทีที่ผ้าห่มผืนใหญ่หลุดพ้นจากใบหน้างามเท่านั้น ภาพแรกที่เห็นคือใบหน้าหล่อเหลาของพี่ชายตนที่มองเขาอยู่ก่อนแล้วร่างสูงกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งมาให้คนตรงหน้า ร่างเล็กเบิกตากว้างอ้าปากเหวอผวาลุกขึ้นจากที่นอนทันที เตรียมตัวกระโจนหนีพี่ชายที่ยังจ้องหน้าเขาไม่วางตา แต่คนตัวโตเร็วกว่าจับตัวน้องเล็กกดลงบนที่นอนอีกครั้ง ตาคมจ้องใบหน้างามที่บัดนี้ซีดเผือดเพราะกลัวคนตรงหน้า เหตุการณ์น่ากลัวเมื่อคืนยังฝังอยู่ในหัวเขาไม่ลืม

    พี่ชายเขาใจร้ายนัก ทำร้ายสตรีนางนั้นร้องไห้ตลอดทั้งคืน คงจะเจ็บปวดทรมานมากเขาอยากเข้าไปช่วย แต่ก็กลัวถูกทำโทษอีก จึงทนหลับหูหลับตาจนใจที่จะช่วยจริงๆ ร่างเล็กคิดอย่างไร้เดียงสา

    "เมื่อคืน เจ้าเห็นอะไรบ้าง"

    สายตาดุดันจ้องมองอย่างคาดโทษ ปากก็เอ่ยถามอยากรู้ว่าน้องเล็กจะตอบเขาเช่นไร

    "ทะ-ท่านพี่ นะ-น้องไม่เห็นอะไรทั้งนั้น"ร่างเล็กตอบอย่างลนลานออกไป

    "หึ หึ จริงรึที่ เจ้าไม่เห็นอะไรเลย"

    แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าร่างเล็กพูดโกหก เพราะสรรพนามที่ใช้เรียกตัวเองเปลี่ยนไป ร่างเล็กชอบอ้อนเขาเวลาทำผิด

    "จะ-จริงๆ น้องไม่เห็นอะไรเลย ท่านพี่ปล่อยน้องเถิดน้องอยากกลับตำหนักแล้ว"

    "พี่ปล่อยเจ้าก็ได้ ตั้งแต่วันนี้เจ้าแทนตัวเองว่าน้องเช่นนี้น่าฟังกว่าเยอะ พี่ชอบ"

    "ท่านพี่ น้องไปได้แล้วใช่หรือไม่" ร่างเล็กถามเสียงสั่นๆ พี่ชายเขาชักจะน่ากลัวขึ้นทุกวัน

    "อืม... ไปสิ"

    พูดพลางปล่อยน้องเล็กให้เป็นอิสระร่างเล็กลุกขึ้นกระโดดลงจากเตียงนอนของพี่ชายเผ่นอ้าวทันที ร่างสูงยกยิ้มขบขันสายตาคมจ้องมองถุงหอมที่เจ้าตัวเล็กทิ้งเอาไว้ มือหนาหยิบขึ้นมาสูดกลิ่นหอมเย็นชื่นใจเข้าเต็มปอด ร่างสูงยิ้มอย่างอารมณ์ดี นี่คงเป็นสาเหตุที่ร่างเล็กเข้ามาในตำหนักเขากระมัง

    ร่างเล็กคงจะเอาเจ้าถุงใบนี้มาให้เขา แต่บังเอิญเหตุการณ์มันบังคับ ทำให้ไม่สามารถกลับตำหนักตนได้ เลยซ่อนกายหลังผ้าม่านแทนมือหนาวางถุงหอมใบเล็กไว้ข้างหมอนกลิ่นหอมกระจายไปทั่วห้อง ทำให้ร่างสูงอารมณ์ดีตลอดเวลาลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจไปจนหมดสิ้น

    สามเดือนผ่านไป

    อ๊วก... เเหวะ

    ร่างเล็กของหลิงซานโก่งคออาเจียนเอาของในกระเพาะออกมาจนหมด ก่อนจะรับน้ำจากนางกำนัลมาล้างปาก ร่างเล็กนั่งลงอย่างหมดแรงเขามีอาการเช่นนี้มาหลายวันแล้ว จนสวามีนั่งไม่ติดเรียกหมอหลวง แต่ร่างบางก็ห้ามไว้ทุกครั้งไปบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวก็หายแล้วแต่มาวันนี้ยิ่งทรุดหนักกว่าเดิมสวามีเลยไม่ยอมอีกต่อไป

    "พวกเจ้าไปเรียกหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้"พูดจบก็เข้ามาโอบประคองเมียรักไว้แนบอก แต่ร่างเล็กกลับผลักอีกฝ่ายไม่ยอมให้สวามีเข้าใกล้

    "อื้อ... ออกไปนะข้าเหม็น ออกไป... "

    ร่างสูงถอยออกไปทันที งงงวยกับอาการเมียรักเป็นที่สุดนอนกอดทุกค่ำคืนไม่เห็นจะบ่น แต่ช่วงหลังมานี้ชอบว่าเขาตัวเหม็น เขาอาบน้ำขัดตัวจนผิวหนังจะหลุดอยู่แล้วก็ยังบอกว่าเหม็นอีก ไม่เข้าใจอาการคนตัวเล็กเลยจริงๆ

    "เสี่ยวไป๋เจ้าเป็นอะไร ข้าอาบน้ำแล้วนะ"พูดพลางพุ่งตัวเข้าหาร่างเล็กอีกครั้ง

    "ออกไป ข้าจะ...จะอ้วก"

    ร่างเล็กอาเจียนออกมาใส่เขาทันทีอี้เฟยชะงักนิ่งตาค้าง มองเมียรักอย่างคาดไม่ถึง

    "ก็ข้าบอกแล้วว่าอย่าเข้ามา ท่านพี่ไม่เชื่อข้าเอง ท่าพี่ท่านไปอาบน้ำเถิด"

    "แต่หมอกำลังจะมา ข้าอยากอยู่อยากรู้ว่าเจ้าเป็นอะไรกันแน่"

    "รีบไปเถิดข้าเหม็น กว่าท่านหมอจะมาถึงท่านพี่น่าจะอาบน้ำเสร็จแล้ว"

    "ได้ๆ ข้าจะรีบอาบน้ำแล้วจะรีบมาหาเจ้า"

    "อืม... "ร่างเล็กพยักหน้ารับอี้เฟยทำเหมือนกับว่าตนต้องไปไกล ห้องอาบน้ำก็อยู่ในตำหนักเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว

    "หมอหลวงมาแล้วเพคะองค์ราชินีน้อย จะให้เข้ามาเลยไหมเพคะ"

    "อืม... ให้เข้ามาเลยก็ได้"

    หมอหลวงเข้ามาพร้อมกล่องยา มือบางยื่นออกไปให้ผู้เป็นหมอตรวจชีพจร ร่างบางมองหน้าหมอที่ทำสีหน้าไม่แน่ใจจับชีพจรอยู่หลายครั้ง เขาตรวจพบชีพจรมงคลของร่างเล็กเพราะมันเป็นเรื่องใหญ่ หมออย่างเขาจะพลาดไม่ได้จึงต้องตรวจซ้ำให้แน่ใจ จนคนไข้อดใจหายไม่ได้กลัวว่าตนจะเป็นโรคร้ายที่รักษายาก

    "ข้าเป็นโรคอะไรรึท่านหมอ ร้ายแรงหรือไม่"หลิงซานเอ่ยถามออกไปอย่างกลุ้มอกกลุ้มใจ

    "ไม่ใช่โรคร้ายพ่ะย่ะค่ะ มันเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ กระหม่อมตรวจพบชีพจรมงคล สายเลือดมังกรกำลังถือกำเนิด ช่างน่ายินดียิ่งนัก"

    หมอหลวงพูดออกมาเช่นนี้แต่ร่างเล็กก็ไม่เข้าใจ

    "ท่านพูดให้ข้ากระจ่างใจเถิดท่านหมอ เรื่องดีแล้วทำไมข้าถึงมีอาการเช่นนี้"

    "ฮ่า ๆ ๆ เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับอาณาจักรมังกรดียิ่งนัก องค์ราชินีทรงพระครรภ์พระองค์ทรงตั้งครรภ์ได้เกือบจะครบเดือนแล้ว กระหม่อมยินดีด้วยพ่ะย่ะค่ะ"

    เหมือนทุกอย่างรอบตัวเขาหยุดหมุนไปชั่วขณะ ร่างบางของหลิงซานอึ้งตกตะลึงกับคำตอบที่ได้รับจากหมอหลวง มารู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่ร่างทั้งร่างของตน ถูกผู้เป็นสวามีโอบกอดเอาไว้อย่างทะนุถนอมเขาเองสติยังกลับมาไม่สมบูรณ์

    "ทะ-ท้อง... ข้าท้อง ละ-ลูก"

    "ใช่ ลูกของเราอย่างไรล่ะเสี่ยวไป๋ เจ้ากำลังมอบของขวัญล้ำค่าที่สุดให้ข้า ขอบใจเจ้ามาก ข้าดีใจเหลือเกิน"

    ร่างสูงออกมาทันได้ยินที่หมอหลวงบอกข่าวดีแก่ร่างบาง เขาดีใจที่สุดเข้าไปกอดร่างบางของเมียรักไว้แนบอก ในที่สุดร่างเล็กตรงหน้าก็มอบของขวัญล้ำค่า ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนอีกแล้วนอกจากคนตรงหน้า

    "ขะ-ข้าท้องจริงๆ หรือ ข้าจะมีลูกจริงๆ ใช่ไหมท่านพี่"

    ร่างเล็กยังอยากฟังคำยืนยันจากสวามีให้แน่ใจอีกครั้ง ว่าตนเองไม่ได้หูฝาดเขาเป็นผู้ชายท้องได้อย่างไรมันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

    "เจ้ากำลังจะมีเจ้าตัวน้อยจริงๆ "

    ว่าพลางมือหนาก็รวบเอามือบางลงมาวางไว้บนหน้าท้องแบนราบ ที่มีอีกหนึ่งชีวิตกำลังก่อกำเนิดและเจริญเติบโตขึ้นมาอย่างช้าๆ ดวงตาหวานเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใส ความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้ว่าเขาดีใจแค่ไหน หากมันเป็นเรื่องจริง พระเจ้าก็ไม่ได้ใจดำกับเขาจนเกินไป อย่างน้อยก็ยังเมตตาส่งเจ้ามังกรน้อยมาให้เขา นี่สินะครอบที่เขาต้องการ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถกลับไปเจอครอบครัวที่มีเพียงพ่อและเพื่อนรักได้อีก แต่เขากำลังจะมีครอบครัวใหม่ที่สมบูรณ์ขึ้นอีกครั้ง

    ถึงตอนนี้แล้วหลิงซานยังไม่อยากเชื่อว่าตัวเองท้องได้จริง แม้ว่าอี้เฟยอธิบายถึงยาตัวหนึ่งที่ทำให้เขาท้องขึ้นมาได้ แต่มันเหลือเชื่อเกินไปเขาจะเป็นแม่คนแล้วจริงๆ นะหรือหลังจากหมอหลวงกลับไปไม่นานทั่วทั้งอาณาจักรมังกรก็ได้รับข่าวดีทุกคนต่างยินดีปรีดากันทั่วหน้า

    "ท่านพี่ ถ้าหากว่าเสี่ยวไป๋สามารถให้กำเนิดโอรสแก่ข้า ข้าควรทำเช่นไร"

    "เจ้าไม่ต้องกลุ้มใจไปหรอก หากหลิงซานให้กำเนิดโอรสคนแรกของอาณาจักรมังกร ข้าจะแต่งตั้งลูกของเจ้าเป็นรัชทายาทของอาณาจักรมังกรทันที"

    "แต่ข้าว่ามัน"

    "เอาเถิด ทำตามนี้ก็แล้วกันเสด็จพ่อเคยรับสั่งแล้วนี่ ว่าใครให้กำเนิดโอรสองค์แรกเด็กคนนั้นคือคนที่จะได้นั่งบนบัลลังก์มังกรคนต่อไป เจ้าอย่าคิดมากไปเลยอี้เฟย เจ้าดูแลลูกและเมียของเจ้าให้ดี หลานข้าจะได้เกิดมาสมบูรณ์แข็งแรง ไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าเจ้าจะได้เป็นพ่อก่อนข้าเสียอีก"

    "ก็น้ำยาข้าดีนี่ ว่าแต่ท่านพี่อย่ามัวชักช้าล่ะเดี๋ยวไม่ทันข้า"

    "ข้าไม่ได้ไร้น้ำยาขนาดนั้น เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลากระมังอย่ามัวแต่ดีใจจนลืมใส่ใจลูกเมียเจ้าล่ะ ไม่เช่นนั้นเย่วเอ๋อร์คงได้ถลกหนังหัวเจ้าก็คราวนี้"

    "ข้ารู้หรอกน่า ข้าต้องทำเช่นนั้นอยู่แล้วลูกเมียข้าทั้งคู่นี่ ท่านเองก็รีบตามข้าให้ทันล่ะ ลูกข้าจะได้มีเพื่อนเล่น"

    "ข้าก็พยายามอยู่นี่ไง ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะแซงหน้าข้าไปได้ สงสัยข้าต้องขยันกว่านี้อีกสักกี่เท่านะ ถึงจะมีเจ้าตัวน้อยให้ข้าได้ชื่นชมกับเขาบ้าง"

    เฟยหลงเอ่ยอย่างคิดหนักเขาก็อยากจะมีลูกน้อยไว้เชยชมเหมือนน้องชายบ้าง แต่ดูแล้วเมียรักยังไร้วี่แววว่าจะมีเจ้าตัวน้อยเลย

    "ท่านพี่ เสด็จแม่บอกข้าว่าอีกสามเดือนข้างหน้าจะจัดพิธีรับขวัญหลานคนแรกตามธรรมเนียม เสี่ยวไป๋ต้องเข้าพิธีศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้"

    พิธีศักดิ์สิทธิ์ที่ว่ามันตกทอดมานานราชินีของอาณาจักรแห่งนี้ หากตั้งครรภ์กำลังจะให้กำเนิดสายเลือดมังกรจะต้องเข้าพิธีรับขวัญเพื่อเป็นสิริมงคลต่อแม่และเด็ก และจะทำพิธีศักดิ์สิทธิ์เมื่ออายุครรภ์ครบสามเดือนก็ทำการอาบน้ำชะล้างสิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป และรับขวัญทารกน้อยที่กำลังจะเกิดมา

    "เจ้าจะส่งเทียบเชิญไปที่อาณาจักรไหนบ้างอี้เฟย"

    "ก็คงเหมือนเดิมตอนที่จัดงานมงคลครั้งที่แล้ว"

    "ข้าล่ะไม่ชอบสายตาที่เจ้าเทียนหลงมองเย่วเอ๋อร์เลย เห็นแล้วอยากซัดหน้ามันนัก"

    "ท่านก็บอกให้พี่สะใภ้พยายามหลีกเลี่ยงก็สิ้นเรื่อง จะได้ไม่ต้องผิดใจกัน"

    "ข้าก็คิดเช่นนั้น"

    หลังจากที่เย่วซินรู้ว่าหลิงซานกำลังจะให้กำเนิดสายเลือดมังกรก็ดีใจมาก เขาจึงมักจะไปขลุกอยู่ในตำหนักของน้องชายตื่นเต้นยิ่งกว่าคนที่ตั้งท้องเองเสียอีก ตอนนี้อี้เฟยตกกระป๋องเพราะร่างเล็กไม่ยอมให้สวามีเข้าใกล้บอกว่าเหม็น หมอหลวงอธิบายว่าเป็นอาการอย่างหนึ่งของคนตั้งท้อง ก็คือแพ้ท้องเหม็นผู้เป็นสวามีอี้เฟยเลยต้องระเห็จมานอนตำหนักรับรองแทน ร่างเล็กสงสารสวามีแต่ก็ทำอะไรไม่ได้พอได้กลิ่นของอี้เฟยพะอืดพะอมจะอ้วกทุกครั้ง ร่างสูงจึงยอมแพ้แยกออกมานอนตำหนักรับรองแทนอย่างจำยอม

    เวลาช่างเดินรวดเร็วนักเหลือเวลาไม่กี่วัน อายุครรภ์ของหลิงซานก็จะครบสามเดือนแล้ว ทุกคนที่นี่กำลังตระเตรียมงานใหญ่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เทียบเชิญถูกส่งไปทั่วทุกอาณาจักรรวมถึงอาณาจักรมาร

    "ข้าว่าเป็นโอกาสดีของข้าแล้ว ข้าจะอาศัยช่วงที่ทุกคนกำลังยุ่ง ลักพาตัวราชินีของเจ้าเฟยหลง กลับอาณาจักรมารเสียเลย"

    "เป็นโอกาสที่ดีจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมว่าครั้งนี้คงสำเร็จเป็นแน่"องครักษ์คู่กายพูดสนับสนุน

    "หึ ทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้ หากต้องเสียเมียรักไปคงตรอมใจไม่น้อย หึ หึ ข้าล่ะอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ เสียแล้วสิ ข้าจะเชยชมร่างงามของเย่วซิน ให้สมใจเชียว ฮ่า ๆ ๆ ๆ "

    เสียงหัวเราะดังไปทั่วตำหนักเมื่อหาโอกาสคิดทำเรื่องชั่วๆ ได้สมใจ แต่หารู้ไม่ว่าตนเองเผลอพูดแผนการออกมา ทำให้อีกคนที่หลบอยู่อีกมุมหนึ่ง ได้รับรู้ถึงแผนการในครั้งนี้ด้วย

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×