ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตรักราชามังกร

    ลำดับตอนที่ #18 : ใจร้าว

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ย. 63




    อาณาจักรมังกร


    "รู้สึกว่าช่วงนี้วังมังกรจะคึกคักเป็นพิเศษ"องค์ราชาพูดขึ้น


    "ข้าใด้ยินข่าวลือเกี่ยวกับสะใภ้ทั้งคู่ของเรา โดยเฉพาะหลิงซานว่าล้มอี้เฟยลงได้ท่านมีความคิดเห็นเช่นไรบ้างท่านพี่"


    "ข้าว่ามันดีมิน้อย คนไม่ค่อยเอาไหนอย่างอี้เฟยต้องเจอกับคนเเบบหลิงซานถึงจะสมน้ำสมเนื้อ ส่วนเย่วซินก็ไม่เบาหรอกนะเจ้าก็คอยดูไป" องค์ราชาพูดอย่างมั่นใจ


    "ข้าก็คิดเช่นนั้น"



    ช่วงนี้เป็นช่วงที่วุ่นวายที่สุดของวังมังกร เพราะอีกเจ็ดวันเท่านั้นก็จะถึงวันอภิเษกของโอรสทั้งสองของเผ่ามังกร ซึ่งจะเป็นวันเดียวที่องค์ราชาจะสละบัลลังเเละเเต่งตั้งโอรสทั้งสองเป็นราชามังกรรุ่นต่อไปให้ครองบัลลังมังกรเคียงคู่กัน ช่วงนี้เลยเป็นช่วงที่เย่วซินเเละหลิงซานเหนื่อยหน่อย ที่ต้องฝึกมารยาทขนบธรรมเนียมเเละอะไรหลายๆอย่างที่พวกเขาไม่คุ้นเคยทำไห้ทั้งคู่เบื่อหน่ายยิ่งนัก


    "โอ้ยยยย ท่านพี่ข้าเหนื่อยเหลือเกินหิวด้วย จะฝึกอะไรนักหนาเมื่อยจะเเย่อยู่เเล้วเนี่ย"


    "เดี๋ยวข้าเรียกนางกำนันตั้งสำรับเลยดีไหม"


    "ดีๆๆ ข้าหิวมาก"


    ตอนนี้สำรับอาหารก็ตั้งพร้อมอยู่ตรงหน้าเเต่สิ่งที่ร่างบางทั้งสองเบื่อที่สุดคือ


    "ท่านพี่ ข้าไม่อยากดื่มยานี่เลยมันขมจนข้ากลืนไม่ลง"


    ร่างเล็กบ่นออกมา เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมต้องให้เขาสองคนพี่น้องต้องดื่มยาต้มน้ำสีดำเเถมยังขมปี๋อีกต่างหากพอถามก็บอกว่าเป็นยาบำรุงร่างกาย พวกเขาก็เเข็งเเรงดีทำไมต้องดื่มด้วย เเต่พอดื้อรั้นไม่ยอมดื่ม นางกำนัลบอกว่าเป็นรับสั่งจากองค์ราชินีขัดมิได้ก็เลยมานั่งถอนใจเเบบนี้


    "กินไปเถิดคงไม่ใช่ยาพิษหรอก หากเป็นยาพิษเจ้ากับข้าคงตายไปนานเเล้ว"


    หลิงซานไม่พูดอะไรอีกยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดถ้วย ก่อนจะทำหน้าเหยเกเพราะรสชาติที่ไม่เอาไหนของมัน เเถมยังรู้สึกร้อนวูบวาบตั้งเเต่ลำคอจนถึงกะเพาะอาหารลามมายังช่องท้องทุกครั้งที่ดื่มเข้าไปอีก เขาจึงคิดว่าสงสัยยาคงเเรงไป อี้เฟยเเละเฟยหลงยืนมองร่างบางทั้งคู่พร้องสังเกตุเห็นความเปลี่ยนเเปลงของทั้งสองว่าช่วงนี้ ร่างกายเริ่มจะเปลี่ยนเเปลงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นผิวที่เเปล่งปลั่งขาวใสมีน้ำมีนวลยิ่งขึ้น หน้าตาสดใสอิ่มเอิบกว่าเมื่อก่อนมาก


    "ยาที่พวกเขาสองคนดื่มเข้าไปไกล้จะได้ผลเต็มทีเเล้วล่ะอี้เฟย เหลือเวลาอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันอภิเษกเเล้ว เจ้าเตรียมตัวเตรียมร่างกายให้พร้อม คืนส่งตัวหากไม่สำเหร็จคงได้ขายหน้าไปทั่วทั้งอาณาจักรเป็นเเน่"


    "ข้าก็กังวลเรื่องนี้อยู่เช่นกัน ท่านพี่เขาดื้อเกินไปจริงๆ หากถึงเวลานั้นแล้วละก็ต่อให้ต้องใช้กำลังบังคับข้าก็จะทำ"




    ด้านของอาณาจักรมาร

    หลังจาก อี้เทียนหลง รัชทายาทของเผ่ามารใด้ไปพบเห็นเย่วซินเข้า ก็เกิดต้องตาต้องใจในความงดงามของร่างบางเข้า เลยอยากไปพบเจออีกครั้ง เขากำลังคิดหาวิธีที่จะได้พูดคุยกับร่างบาง เป็นเวลาเดียวที่ร่างของ น้องชายคนเล็กเข้ามาหาเขาตอนนี้ร่างเล็กตรงหน้าอายุเพิ่งจะสิบหกมาไม่นาน ความน่ารักสดใสไร้เดียงสา ทำไห้ทุกคนที่อาณาจักรมารเเห่งนี้ต่างก็รักและเอ็นดูร่างเล็กยิ่งนัก

    "ท่านพี่ ท่านทำอะไรอยู่รึ"

    "ข้าก็คิดอะไรไปเรื่อยเปี่อย เจ้ามีอะไรกับข้ารึเปล่าล่ะเด็กน้อย"

    ว่าพลางจับเเก้มยุ้ยๆของคนตรงหน้าส่ายไปมา เล่นเอาคนที่ถูกเรียกว่าเด็กน้อยหน้างอง้ำไม่พอใจ

    "ข้าโตเเล้ว" พูดพลางทำปากยื่นแก้มป่องส่งมาให้ พี่ชายเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู

    "อ๊ะใช่จริงๆด้วย โตแล้วสินะเจ้ามีธุระอะไรกับข้ารึเปล่า"

    เขาถามน้องชายออกไป

    "คือข้า อยากขอตามท่านพี่ไปงานอภิเษกของอาณาจักรมังกร
    ด้วยจะได้หรือไม่"

    ร่างเล็กร้องบอกความต้องการออกมาให้พี่ชายได้รับรู้ คนเป็นพี่ปรายสายตามองมาเล็กน้อยก่อนจะถาม

    "เจ้าอยากไปรึ"

    "ใช่ข้าอยากไป ท่านพีให้ข้าตามท่านไปด้วยนะ ข้าสัญาว่าจะไม่ดื้อไม่ซนเลยจริงสาบานเลย ท่านพี่พาข้าไปด้วยนะ"

    ร่างเล็กอ้อนขอพี่ชาย คนตัวโตมองหน้าร่างเล็กก่อนจะพยักหน้ารับคำ เพราะเเค่เห็นท่าทางที่มองมาทางเขาอย่างมีความหวัง ทำให้ผู้เป็นพี่ใจอ่อนยวบลงทันที หลังจากรอคอยคำตอบเสียนานสุดท้ายก็สมใจตน ร่างเล็กกระโดดโลดเต้นยิ้มหวานออกมาอย่างดีอกดีใจ

    "เย้ท่านพี่ใจดีที่สุดเลย ข้ารักท่านพี่ที่สุด"

    "เเล้วพ่อกับพี่รองล่ะเจ้ามิได้รักใคร่เเม้เพียงน้อยนิดเชียวหรือ แบบนี้มันน่าน้อยใจนัก"

    ร่างเล็กหันไปมองตามเสียง ก็เห็นบุคคลสำคัญอีกสองคนกำลังตรงมาทางเขากับพี่ใหญ่

    "ท่านพ่ออย่าน้อยใจไปเลย ข้ารักพวกท่านเท่ากันหมด รักที่สุดในชิวิตเลย"

    ตอบพลางวางใบหน้างามน่ารักลงบนไหล่หนาของผู้เป็นบิดา พร้อมถูไปมาอย่างออดอ้อน ก็เพราะขี้อ้อนแบบนี้เลยกลายเป็นที่รักเเละเอ็นดูของทุกคนในอาณาจักมารเเห่งนี้ โดยเฉพาะบุรุษทั้งสามคนที่อยู่ไกล้ร่างเล็กในตอนนี้ ราชามารมองบุตรชายจอมขี้อ้อนด้วยสายตารักใคร่ พลางคิดย้อนไปเมื่อ16ปีที่แล้ว ตอนนั้นเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะกลลวงของพวกกบฎ ที่หลอกล่อให้เขาออกจากอาณาจักรไปโดยไม่คิดว่ามันจะเป็นกับดักเขาถูกลอบทำร้ายเเละตามฆ่า จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน เเละได้รับความช่วยหลือจากสามีเเละภรรยาคู่หนึ่งช่วยเหลือเอาไว้จนเขาดีขึ้นมาก เตรียมตัวกลับอาณาจักรตนเองเเต่มันกลับเกิดเห็ตการที่ทำไห้เขารู้สึกผิดจนถึงทุกวันนี้ พวกมันเเกะรอยตามหาเขาจนเจอ สองสามีภรรยาจึงช่วยเขาไว้อีกครั้ง

    "ท่านหนีไปซะ ข้ากับเมียจะล่อมันไปทางนั้นส่วนท่านไปทางนี้ ไปรีบหนีไป"

    "ไม่ได้มันจะต้องฆ่าพวกเจ้าเเน่ อย่าได้มาเสี่ยงชีวิตเพราะข้าเลย คิดถึงลูกชายเจ้าสิเขายังเล็กนัก"

    เขาพูดออกมาพลางมองไปยังเด็กน้อยที่ยังเเบเบาะอยู่อย่างสับสน

    "ข้าขอร้องท่าน หนีไปซะเพราะหากขาดท่านไปซักคน บ้านเมืองคงใด้พินาศเพระน้ำมือคนชั่วช้าเป็นเเน่"

    "นี่พวกเจ้ารู้ว่าข้าเป็นใคร"เขาถามอย่างสงสัย

    "ข้าต้องขออภัยด้วยที่บังเอิญเห็นป้ายทองคำที่ติดตัวท่านมา"


    เขาเข้าใจในทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ ป้ายทองคำสลักลวดลายสวยงาม บ่งบอกถึงฐานะของผู้เป็นเจ้าของมันได้เป็นอย่างดี

    "ชีวิตของพระองค์มีค่ามากกว่าพวกข้านัก ข้าขอร้องหนีไปซะ แต่ข้ามีเรื่องอยากรบกวนอยู่เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น"

    "พวกเจ้ามีอะไรก็พูดมาเถิด"

    เขามองหน้าทั้งคู่ก่อนจะเอ่ยถาม

    "ขอให้พระองค์พาบุตรชายของข้าหนีไปด้วย ข้าฝากเขาด้วย"

    สิ้นเสียงของสองสามีภรรยาก็มีเสียงเอะอะไกล้เข้ามาทางที่พวกเขาหลบอยู่ไกล้เข้ามาเรื่อยๆมันบีบบังคับไห้เขาต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

    "ข้ารับปากพวกเจ้า ข้าจะรักเเละเอ็นดูเขา เพราะตั้งเเต่ตอนนี้เป็นต้นไป เขาคือบุตรชายคนเล็กของข้าอีกคน จะรักเเละดูเเลเขาอย่างดีที่สุด"

    "ขอบพระทัยที่พระองค์เมตตาบุตรชายข้าเยี่ยงนี้ แค่นี้พวกข้าก็หมดห่วงเเล้วหนีไปเสียเถิดเร็วเข้า"

    สิ้นเสียงของสองคนนั้นเขาก็รีบคว้าตัวเด็กจากผู้เป็นแม่เอามาอุ้มไว้เเนบอก"

    "ไปอยู่กับพ่อนะ เซียวเอ๋อร์"

    ตั้งเเต่นั้นมาเด็กคนนั้นก็ได้เข้ามาเป็นสมาชิกอีกคนของวังเเห่งนี้ ในฐานะเจ้าชายน้อยเซียวหลาน เเละเป็นที่รักของทุกคนที่นี่






    วังมังกร


    เย่วซินนั่งไม่ติดที่เอาเสียเลย ตอนนี้ได้เเต่เดินวกไปวนมาในตำหนักอยู่นาน มากเเล้วเพราะคงเหลือเวาลาอีกสองวันเท่านั้นตัวเขาก็จะต้องเข้าพิธีสมรสกับเฟยหลงเเต่เขายังยอมรับไม่ได้ ยังไม่พร้องที่จะเป็นชายาของใครทั้งนั้น เขายังรักหนิงอันอยู่มาก ไม่สามารถลืมนางได้เลยเเละยังคงหวังเอาไว้ว่าตนจะต้องคิดหาหนทางหนีไปจากที่นี่ เเล้วรับคนรักหนีไปด้วยกันถึงตอนนั้นเจ้ามังกรบ้าตนนี้คงเลิกคิดที่จะบังคับเขาเเละหาคู่เอาเสียใหม่ เเค่นี้เขาเเละคนรักก็จะไม่ต้องพรากจากกันแล้วเขาวางแผนที่จะหนีไปจากที่นี่พร้อมน้องชาย อย่างไรเสียเขาจะไม่ปล่อยไห้หลิงซานต้องอยู่ที่นี่คนเดียวอย่างแน่นอน จึงเรียกหลิงซานมาวางแผนที่จะหนีไปในคืนนี้

    "ท่านพี่ จะเอาอย่างนี้จริงๆหรือ"

    "หรือเจ้าจะอยู่ที่นี่ เจ้าจะยอมเป็นชายาของเจ้าคนปากเสียนั่น เช่นนี้ข้าก็จะไปคนเดียว"

    "ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ข้าจะไปกับท่านด้วย ข้าก็ไม่อยากแต่งกับเจ้างูบ้าตัณหานั่นหรอก พิลึกจรึงๆเชียวเเต่งกับผู้ชายด้วยกันมันจะมีลูกไว้สืบสะกุลได้งัยวะ"

    หลิงซานบ่นออกมาอย่างไม่เข้าใจคนที่นี่เลย

    (ไห้ตายสิไอ้งูลามก กับผู้ชายด้วยกันก็ไม่เว้น เเล้วถ้าต้องเเต่งจริงๆละ จะเข้าหอยังงัยเเล้วต้องทำยังงัยวะ ยี้คิดแล้วขนลุกเว้ยเลิกฟุ้งซ่านได้แล้วไอ้ซานวุ้ย)

    ร่างเล็กยืนคิดเรื่องนี้อย่างสยองพองขน ก่อนจะบอกตัวเองว่าเลิกคิดฟุ้งซ่านเสียที เเล้วแผนการทุกอย่างก็เข้ามาฝังอยู่ในหัวของร่างเล็ก เพียงแต่รอเวลาเท่านั้นรอให้มืดค่ำเสียก่อนพวกเขาจะค่อยๆหลบไปอย่างเงียบๆ








    ในขณะนี้ก็ดึกมากพอที่จะให้สองพี่น้องแอบย่องออกจากตำหนักอย่างเงียบเชียบด้วยร่างกายที่เล็ก เเละความว่องไวเฉพาะตัว ทำไห้พวกเขาสามารถย่องออกไปได้อย่างง่ายดาย ทั้งคู่หลบหลีกพวกทหารยามออกมาได้สำเหร็จ ตอนนี้ได้ออกมายืนอยู่นอกวังมังกรเเล้ว แต่ก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี เพราะเขาสองคนยังอยู่ในอณาจักรมังกรคงต้องรีบเร่งออกไปให้พ้นอาณาจักรแห่งนี้เสีย ก่อนที่ทุกคนจะไหวตัวทันจึงตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าสู่ป่าลึกมากกว่าจะเสี่ยงไปทางที่มีบ้านคนเรียงรายอยู่ หากเฟยหลงเเละอี้เฟยรู้เข้าคงออกตามหาเขาบริเวรนอกรั้ววังก่อนกว่าจะหาร่องรอยเจอพวกเขาคงไปได้ไกลเเล้ว

    "เราจะไปทางไหนต่อท่านพี"

    หลิงซานปาดเหงื่อที่ไหลบนใบหน้าออกพลางหอบเเฮกๆ เย่วซินก็เช่นกันพวกเขามีเหงื่อท่วมตัว เพราะรีบหนีออกมาไห้ไกลที่สุด จนตอนนี้ทั้งคู่ก็พ้นจากอาณาจักมังกรเเล้ว หากเย่วซินตังคนเดียวคงไม่เหนื่อยขนาดนี้ เขาคงใช้พลังในกายช่วยให้ตนไปถึงที่หมายเร็วขึ้น หากเเต่มีหลิงซานอยู่ด้วยเลยต้องล้มเลิกความคิดไป

    "ขอข้าคิดดูก่อน"

    ร่างบางตอบออกมาพลางหันไปมองรอบๆอย่างสับสน เขาก็ตอบไม่ได้เช่นกันตั้งเเต่เกิดมาเคยออกจากเผ่าหงส์ไฟเสียที่ไหน อยู่เเต่ในเขตค่ายกลเวทย์ก็เท่านั้นเขาจึงจับต้นชนปลายไม่ถูก จับทางกลับบ้านไม่ได้ สุดท้ายเลยเลือกเดินไปทางทิศเหนือเพราะเคยได้ยินท่านพ่อเอ่ยมาครั้งหนึ่ง ว่าระหว่างเผ่าหงส์ไฟและเผ่ามังกรอยู่ตรงข้ามเผ่ามังกรอยู่ทิศใต้เผ่าหงส์ไฟอยู่ทิศเหนือทำนองนี้

    "เอาล่ะลองเสี่ยงดูเพราะไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้อีกแล้ว"เย่วซินพูดออกมา

    "ท่านพี่เราจะหาทางกลับบ้านได้หรือไม่แล้วถ้ากลับไปแล้วพวกเขาจะไม่ตามมาหรือ"

    "ตามมาซิ เพราะฉะนั้นเราต้องรีบกลับไปรับหนิงอันเเล้วพานางหนีไปด้วยกัน"

    ร่างบางทั้งคู่ตัดสินใจเร่งเดินทางเพื่อจะไปรับตัวคนรักหนีไปด้วยกัน ในขนะทีเฟยหลงเเละอี้เฟยยังไม่รู้ตัว การเดินทางเเบบสุ่มๆมุ่งตรงไปทางทิศเหนือเท่านั้น จนในที่สุดก็สามาถมาถึงเขตค่ายกลเวทย์ที่มีเผ่าหงส์ไฟอยู่ข้างในค่ายกลเเห่งนั้น ร่างบางก้าวย่างข้ามเขตุไปยังอีกฝั่ง พร้อมน้องชายอย่างยินดีที่ตนกลับมาถึงบ้านจนได้ ที่นี่ยังคงเงียบสงบเหมือนเดิม เขารีบลากน้องชายตรงไปยังบ้านของคนรักทันที

    "ในที่สุดพวกเราก็กลับมาถึงบ้านซักที"

    เย่วซินพูดอย่างยินดีพลางหันไปมองหน้าน้องชาย เเต่รอยยิ้มยินดีก็ต้องหยุดชะงักทันทีที่มองเห็นสีหน้าเศร้าหมองของน้องชาย

    "หลิงซานเจ้าเป็นอะไรไป"

    "ข้าอยากกลับบ้าน"

    "ก็นี่ไงบ้านเจ้า"

    "ไม่ใช่ข้าหมายถึงบ้านที่ข้าจากมา ข้าอยากกลับไป"

    เย่วซินหมดคำพูดเพียงเเค่ใช้มือตบลงบนบ่าเล็กเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบใจแทน

    "เรารีบหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดจะดีกว่า ไปหาหนิงอันกัน"

    ทั้งสองได้มายืนอยู่หน้าบ้านของหนิงอันอย่างที่ต้องการ เย่วซินค่อยๆย่องไปทางหน้าต่างห้องหญิงสาวทันที ก่อนที่จะใช่มือทุบหน้าต่างเบาๆ กลัวว่าบิดาของนางจะตื่นขึ้นมาเจอเข้า รออยู่เพียงไม่นานหน้าต่างบานนั้นก็เปิดออก ปรากฎร่างงามระหงส์ของหญิงคนรัก ทั้งคู่ต่างสบตากัน เเต่ต่างความรู้สึก คนหนึ่งส่งความคิดถึงท่วมท้นออกมาทางสายตา อีกคนหนึ่งมองเห็นเพียงความตกใจเท่านั้น เย่วซินส่งยิ้มไปให้หญิงคนรักอย่างยินดีที่ได้พบเจออีกครั้ง เเต่เขารู้สึกว่ามันมีอะไรเปลี่ยนไป

    "เย่วซิน เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร"

    ร่างบางถามด้วยความตกใจที่เห็นเย่วซินกลับมาที่นี่พร้อมหลิงซาน เย่วซินไม่พูดอะไรต่อ เอื้อมมือไปคว้าข้อมือของคนรัก
    "เจ้าไม่ต้องถามอะไรข้าในตอนนี้ ไปกับข้าเถิดหนีไปอยู่ด้วยกัน"

    "เดี๋ยวเย่วซินเจ้าจะทำอะไร ปล่อยข้าก่อน"

    นางขืนตัวเอาไว้จากเเรงดึงรั้งของคนตรงหน้า

    "ทำไม มีอะไรหรือเปล่าหนิงอันเจ้าดูเเปลกไปมาก"

    "คือข้าไปกับเจ้าไม่ได้หรอกเย่วซิน ไปไม่ได้"

    หญิงสาวมีสีหน้าสลดลงไปมาก ใบหน้างามก้มลงชิดอกตน เพียงไม่นานน้ำตาก็ไหลอาบใบหน้าสวย นางพูดกับเย่วซินพร้อมเสี่ยงสะอื้น มือบางทุบตีอีกฝ่ายอย่างอัดอั้นในใจ

    "ฮึก ฮือๆๆ เจ้าไปอยู่เสียที่ไหน ทำไมเพิ่งมาเอาตอนนี้ เจ้าทิ้งข้าไว้ข้างหลังรู้หรือไม่ว่าข้าเจ็บปวดเเค่ไหน มันทรมารเจียนขาดใจ ฮือๆๆ คนใจร้ายทำไมเพิ่งมาเอาตอนนี้ ฮือๆๆ ทำไมทำไม!!

    "ข้าขอโทษเจ้าด้วย ไม่คิดที่จะทอดทิ้งเจ้าเลยเเม้เเต่น้อย ข้าคิดถึงเจ้าทุกลมหายใจไปกับข้าเถิดหนิงอัน ข้าจะใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อชดเชยให้เจ้า"

    "มันสายไปเเล้วเย่วซิน มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกเเล้ว เจ้ากลับไปเสียเถิด ถึงเราจะหนีไปด้วยกันก็ไม่มีวันหนีคู่ของเจ้าพ้นหรอก"

    นางพูดออกมาเพราะรู้ถึงความดื้อดึงของอีกคนเป็นอย่างดีว่าคงหนีมาเป็นแน่เเต่เย่วซินไม่ยอมรับฟัง คาดคั้นถามอีกฝ่ายไห้ได้คำตอบ

    "มันยังไม่สายเราหนีไปจากที่นี่ ไปอยู่ที่อื่นกันเถิดข้ารักเจ้าหนิงอัน"

    "หยุดเพ้อเจ้อได้เเล้วเย่วซิน เเล้วกลับไปซะ!!!

    เย่วซินมองหน้าหญิงคนรักอย่างผิดหวังใบหน้างามซีดเผือด ไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

    "ทำไม หนิงอันทำไม"

    "ข้าออกเรือนเเล้ว เจ้าได้ยินรึไม่เย่วซิน!!

    "จะ เจ้าว่าอย่างไรนะหนิงอัน"

    ร่างบางถามออกไปด้วยใบหน้าซีดเผือด สีหน้าผิดหวังเสียใจ เผยออกมาให้เห็นจนหมดสิ้น


    "เจ้าล้อข้าเล่นใช่ไหม เจ้าไม่ได้หมดรักข้าใช่หรือไม่หนิงอัน เจ้าตอบมาสิตอบข้ามา!!!

    ร่างบางจับร่างหญิงคนรักเขย่าอย่างลืมตัว เขาเผลอใช้ความรุนเเรงจนร่างบางตรงหน้าหน้านิ่วเพราะเจ็บปวด

    "ปล่อยข้านะเย่วซิน ข้าเจ็บปล่อย!!

    "ปล่อยนางเถิดเย่วซิน หากจะหาคนผิดข้ายอมรับมันทั้งหมด"

    "เจ้า หยางหลิวนี่มันอะไรกัน"

    ร่างบางมองหน้าสหายตนอย่างรู้สึกผิดหวัง สายตาอันเเสนเจ็บปวดมองหยางหลิว เขาพอจะเดาอะไรได้บ้างเเล้ว เพราะตอนนี้หยางหลิวอยู่กับหลิงอัน หากไม่ใช่สามีภรรยาจะอยู่บ้านเดียวกัน ห้องเดียวกันตอนดึกดื่นอย่างนี้ได้อย่างไร

    "พวกเจ้าสองคน หักหลังข้าพวกเจ้าทำกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน หยางหลิวเจ้าไม่ใช่สหายข้าหรืออย่างไร"

    เย่วซินบรรยายความรู้สึกตนเองไม่ได้ว่าเสียใจผิดหวังขนาดไหน ใบหน้างามเปื้อนไปด้วยน้ำตา สายตาหวานจ้องมองคนรักกับสหายอย่างผิดหวัง เขาหมดหวังเเล้วจริงๆ วิมานที่เคยวาดฝันเอาไว้พังทะลายลงมาอย่างไม่หลือชิ้นดี

    "ขอโทษ"

    หยางหลิวพูดได้แค่นี้จริงๆเขาก้มหัวให้เย่วซินจนศรีษะจรดพื้น ขอโทษอีกฝ่ายอย่างสำนึกผิดที่ตนฉวยโอกาสตอนที่หนิงอันอ่อนแอที่สุด ปลอบจนอีกฝ่ายใจอ่อนยอมออกเรือนด้วย เขาคิดว่าเย่วซินคงไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว เเละไม่อาจทนเห็นหลิงอันจมอยู่กับความเศร้าโศกได้อีกต่อไป

    "ฮึก ฮือๆๆ ไอ้เพื่อนทรยศเสียเเรงที่ข้าไว้ใจเจ้า!!!

    หลิงซานยืนมองเหตุการอยู่นานเเล้วเขาไม่คิดเลยว่าเพื่อนรักจะมาเเตกเเยกเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง ร่างเล็กตรงเข้าไปจับตัวพี่ชายเอาไว้ ก่อนที่พี่ชายตนจะขาดสติถลาเข้าไปทำร้ายหยางหลิว เเต่ร่างบางดิ้นรนให้น้องชายปล่อยตน

    "ปล่อยข้านะ ข้าจะไปเอาเลือดหัวมันออกไอ้เพื่อนเลว"

    "ท่านพี่ใจเย็นๆ ค่อยๆพูดกันจะไม่ฟังเหตุผลของพี่หยางหลิวก่อนหรืองัย"

    "ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น!!

    "เจ้าจะอาลัยอาวรอะไรหนักหนา ต่อให้เจ้าดิ้นตายอยู่ตรงนี้ นางก็ไม่มีวันกลับมาหาเจ้าได้อีกเเล้ว กลับบ้านเราเถิดนะเย่วเอ๋อร์"

    เสียงทรงอำนาจดังขึ้นทำให้ทุกคนหันไปมองต้นเสียงก็เจอเข้ากับบุรุษรูปงามท่าทางน่าเกรงขามสองคน ที่หน้าตาเหมือนกันอย่างกับเเกะ ทุกคนเคยพบเจอมาครั้งหนึ่งตอนที่มีพิธีผูกชะตา

    "ราชามังกร" อยางหลิวเเละหนิงอันก้มหัวให้อีกฝ่ายเป็นการเคารพเเละให้เกียต อี้เฟยเเละเฟยหลงพยักหน้าให้เล็กน้อย ก่อนจะตรงไปยังเป้าหมายของทั้งคู่ อี้เฟยตรงเข้าไปล๊อคตัวหลิงซานเอาไว้ เกรงร่างเล็กจะหนีไปอีดครั้ง

    "จับตัวได้เสียที หมดเวลาเที่ยวเล่นซุกซนแล้วล่ะเสี่ยวไป๋ ได้เวลากลับบ้านเเล้ว"

    "ไม่ข้าไม่กลับไปกับท่านเด็ดขาด"ร่างเล็กพูดด้วยความกลัว หากเขากลับไปต้องโดนเจ้างูลามกนี่หาเรื่องลงโทษเขาเป็นเเน่

    "แต่เจ้าต้องกลับกลับไปเข้าพิธิอภิเษกกับข้า"เสียงที่ร่างสูงพูดออกมามันทั้งเเหบพร่าชอบกลพาให้รู้สึกเสียวสันหลังเเปลกๆ


    "เย่วเอ๋อร์

    เสียงที่คุ้นหูเอ่ยออกมาเย่วซินรู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องหันไปมอง เสียงทรงอำนาจเอ่ยกับร่างบางอย่างอ่อนโยน เขาเเทบคลั่งที่รับรู้ว่าร่างบางแอบหนีออกจากอาณาจักรของตน เขาจึงใช้ดวงจิตรมังกรเพ่งมองหาร่างบางว่าอยู่ที่ใหน อยากจะโกรธอยากจะลงโทษให้หลาบจำ เเต่เมื่อเห็นน้ำตาบนใบหน้างามก็พาให้ใจอ่อนตัดใจซ้ำเติมอีกฝ่ายไม่ได้

    "ท่านมาทำไม"ร่างบางเอ่ยทั้งน้ำตานองหน้า

    "ข้ามารับเจ้ากลับบ้าน"

    ร่างสูงเอ่ยออกมาอย่างอ่อนโยนที่สุดหวังเพียงให้อีกฝ่ายยอมกลับไปกับเขาเเต่โดยดี เขาไม่อยากรุนเเรงกับคนตรงหน้าเลยเเม้เพียงน้อยนิด เพราะตอนนี้คนตรงหน้าเปราะบางเหลือเกินเเต่เขาคิดผิด

    "ที่นี้คือบ้านของข้า ท่านกลับไปซะ!!

    ร่างบางตรงหน้าตวาดออกไปอย่างเกรี้ยวกราด เฟยหลงพยายามข่มอารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่นเอาไว้อย่างสุดความสามารถพยายามตะล่อมให้ร่างบางยอมกลับไปโดยที่เขาไม่ต้องใช้กำลังหักหาญน้ำใจของอีกฝ่าย

    "เจ้าเป็นคู่ของข้าต่อไปนี้บ้านเจ้าคือวังมังกร อีกสองวันก็จะถึงพิธีอภิเษกเเล้วอย่าบังคับให้ข้าต้องใช้กำลังกับเจ้าเลยนะเย่วเอ๋อร์ กลับไปกับข้า"

    "ไม่ ข้าไม่กลับ คนชั่วไปตายซะ เพราะท่านทำไห้เรื่องมันลงเอยเช่นนี้ ข้าเกลียดท่านไสหัวไป!!!

    ร่างบางตะโกนใส่หน้าร่างสูงอย่างไม่ไว้หน้า ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ต่างตกตะลึงกับการกระทำที่ไม่เกรงกลัวต่อราชามังกรเลยสักน้อยนิด เฟยหลงบดกรามตัวเองจนขึ้นเป็นสันนูนออกมาเขากำลังควบคุมตนเองอย่างมากที่จะไม่เผลอตัวใช้ความรุนเเรง เเต่ดูอีกฝ่ายจะไม่ยอมลงให้เขาเลย

    "เย่วซินเจ้ากลับไปเสียเถิด อย่างไรเเล้วเรื่องของเราก็เป็นไปไม่ได้ ตัดใจจากข้าซะ"

    หนิงอันเกลี้ยกล่อมไห้อดีตคนรักกลับไปกับมังกรตนนั้น ก่อนที่นี่จะพังพินาศด้วยเเรงโทษะของมังกรตนนี้เข้า

    "เจ้าไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ในเมื่อหมดรักข้าเเล้วเราก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก"

    ร่างบางที่ตอนนี้น้ำตาได้เเห้งหายไปเเล้ว เเต่มันหวนกลับมาไหลบนเเก้มขาวอีกจนได้ หนิงอันก็เช่นกันลึกๆเเล้วนางยังรักเย่วซินอยู่มาก ไม่อาจตัดใจใด้ในเร็ววันหรอก

    "เย่วซิน ข้าขอโทษ ฮึกๆ ฮือๆๆ"

    ต่างคนต่างร้องให้ ความอาวรอาลัยกันเเละกันไม่เคยจางหายไป ร่างบางเดินออกมาอย่างสิ้นหวัง ดวงตาหวานเเดงก่ำเนื่องจากร้องให้อย่างหนักมองไปข้างหน้าอย่างเลื่อนลอย ไร้จุดหมายเฟยหลงรีบตามไปทันทีเพราะความเป็นห่วงก่อนจะเข้าไปขวางหน้าร่างบางเอาไว้ ดวงตาสวยเหลือบขึ้นมามองเขาอย่างยากจะเดาความรู้สึก

    "กลับไปกับข้าเถิด เย่วเอ๋อร์"

    "ข้าไม่กลับ ท่านกลับไปซะ"

    เฟยหลงสุดจะทนเเล้วจริงๆมือหนาคว้าตัวร่างบางเอาไว้ เเต่ร่างบางขัดขืนไม่ยอมกลับท่าเดียว

    "เจ้าจะอาวรต่อนางไปถึงเมื่อไร นางมีครอบครัวมีสามีเเล้วเจ้าควรเลิกรักนางได้เเล้ว!!

    "มันเป็นเพราะใคร หากไม่ใช่ท่านท่านทำลายชีวิตข้า ข้าเกลียดท่าน!!

    ร่างบางผลักร่างสูงออกก่อนที่จะวิ่งตรงไปข้างหน้า เพราะเขาคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่าดี ถึงเส้นทางจะมืดจนมองไม่ค่อยเห็นเเต่เขาก็รู้ว่า หนทางข้างหน้ามันสิ้นสุดลงที่ใด

    ในขณะนี้ร่างบางใด้มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผาสูงชัน มองลงไปเบื้องล่างเป็นเเม่น้ำไหลเชี่ยวกราดร่างบางมองลงไปด้วยสายตาเลื่อนลอยสับสน เฟยหลงที่ตามร่างบางมาถึงกับหยุดชงัก หัวใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายมันเต้นอย่างบ้าคลั้ง บีบรัดจนเจ็บปวดร้าวไปทั้งอก ใบหน้าคมซีดเผือดอย่างหวาดกลัวกับสิ่งที่ตนคิด คิดว่าร่างบางจะทิ้งตัวลงจากหน้าผาเเห่งนี้ เเละความเป็นไปได้ก็สูงเสียจนน่าใจหาย

    "เย่วเอ๋อร์เจ้ามาหาข้า ได้โปรดกลับมาหาข้า ขอร้อง"

    ร่างสูงอ้าเเขนรอเพียงหวังให้ร่างบางก้าวเดินจากตรงนั้น เเค่เดินมาหาอ้อมเเขนเขา เขาก็พร้อมที่จะเเลกทุกอย่างหากเเต่มันไม่เป็นอย่างที่หวังเอาไว้ ร่างบางไม่เเม้เเต่จะหันมามองเขา เอาเเต่จ้องมองลงไปเบื้องล่างเพียงอย่างเดียว ความตึงเครียด ความกดดันตกอยู่ที่ร่างใหญ่เเต่เพียงผู้เดียว โดยที่ร่างเล็กไม่ได้รับรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายเลย ดวงตาหวานหันมาจ้องดวงตาคม ร่างสูงหมดหวังเมื่อเห็นเเววตาท้อแท้ สิ้นหวังของคนตรงหน้า

    "เย่วเอ๋อร์ กลับมาหาข้า ข้ายอมแล้วยอมเจ้าทุกอย่าง"


    วงเเขนแข็งเเรงยังคงกางออกเพื่อรอรับร่างบางอย่างมีความหวังเเม้มันจะน้อยนิดก็ตามร่างบางหลับตาลงช้าๆก่อนจะลืมขึ้นมาอีกครั้งอย่างตัดสินใจ
    "มันสายไปเเล้ว  ที่ท่านจะให้อิสระเเก่ข้า"
    ในตอนนี้ร่างสูงมองเห็นเเววตาเด็ดเดี่ยวจากคนตรงหน้าจึงตัดสินใจกระโจนเข้าไปหาเพราะหนทางที่ร่างบางเลือกมันจะทำให้ร่างบางหายไปจากชีวิตเขาตลอดไปซึ่งเขาจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเป็นอันขาด
    "มะ ไม่นะเย่วเอ๋อร์  ไม่  ไม่  อย่าาา!!


    ✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂✂


    ตัดให้ขาดเลยชับ ชับ ชับ ฮ่าๆๆ อย่าโกรธไรท์น้าาา  มาคอยลุ้นตอนต่อไป
    พร้อมๆกันนะคะ ใครมีอะไรสงสัยถามได้นะ ฝากนิยายเรื่องนี้
    ไว้กับทุกคนด้วยนะคะ  กดใจกดเม้นมาเยอะๆนะเเล้วจะรีบมาต่อโดยเร็ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×